More Related Content
Similar to เกษตรทฤษฏีใหม่
Similar to เกษตรทฤษฏีใหม่ (20)
เกษตรทฤษฏีใหม่
- 3. บทนำำ
ปัญหำหลักของเกษตรกรในอดีตจนถึงปัจจุบันที่สำำคัญ
ประกำรหนึ่ง คือ กำรขำดแคลนนำ้ำเพื่อเกษตรกรรม โดย
เฉพำะอย่ำงยิงในเขตพื้นที่เกษตรที่อำศัยนำ้ำฝน ซึ่งเป็น
่
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศที่อยูในเขตที่มีฝนค่อนข้ำงน้อย
่
และส่วนมำกเป็นนำข้ำวและพืชไร่ เกษตรกรยังคงทำำกำร
เพำะปลูกได้ปีละครั้งในช่วงฤดูฝนเท่ำนั้น และมีควำมเสี่ยง
กับควำมเสียหำยอันเนื่องมำจำกควำมแปรปรวนของดิน ฟ้ำ
อำกำศ และฝนทิ้งช่วง แม้ว่ำจะมีกำรขุดบ่อหรือสระเก็บนำ้ำ
ไว้ใช้บ้ำงแต่ก็ไม่มีขนำดแน่นอน หรือมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็น
ปัญหำให้มีนำ้ำใช้ไม่เพียงพอ รวมทั้งระบบกำรปลูกพืชไม่มี
หลักเกณฑ์ใด ๆ และส่วนใหญ่ปลูกพืชชนิดเดียว
ด้วยเหตุนี้พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวจึงได้พระรำชทำน
พระรำชดำำริเพื่อเป็นกำรช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบควำม
ยำกลำำบำกดังกล่ำว ให้สำมำรถผ่ำนพ้นช่วงเวลำวิกฤติ
โดยเฉพำะกำรขำดแคลนนำ้ำได้โดยไม่เดือดร้อนและยำก
- 5. ทฤษฎีใหม่ขั้นต้น
การจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยและที่ทำากิน
ให้แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ ส่วน ตามอัตราส่วน
๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ซึ่งหมายถึง
พืนที่ส่วนหนึ่ง ประมาณ ๓๐% ให้ขุดสระเก็บกักนำ้าเพื่อใช้
้
เก็บกักนำ้าฝนในฤดูฝนและใช้เสริมการปลูกพืชในฤดูแล้ง
ตลอดจนการเลี้ยงสัตว์นำ้าและพืชนำ้าต่าง ๆ
พืนที่ส่วนที่สอง ประมาณ ๓๐% ให้ปลูกข้าวในฤดูฝนเพือ
้ ่
ใช้เป็นอาหารประจำาวันสำาหรับครอบครัวให้เพียงพอตลอด
ปี เพื่อตัดค่าใช้จ่ายและสามารถพึ่งตนเองได้
พืนที่ส่วนที่สาม ประมาณ ๓๐% ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น
้
พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพื่อใช้เป็นอาหารประจำา
วัน หากเหลือบริโภคก็นำาไปจำาหน่าย
พืนที่ส่วนที่สี่ ประมาณ ๑๐% เป็นทีอยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ ถนน
้ ่
- 6. หลักการและแนวทางสำาคัญ
๑. เป็นระบบการผลิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่เกษตรกร
สามารถเลี้ยงตัวเองได้ในระดับที่ประหยัดก่อน ทั้งนี้ชุมชน
ต้องมีความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจในการช่วยเหลือซึ่งกัน
และกัน ทำานองเดียวกับการ "ลงแขก" แบบดั้งเดิมเพือลด ่
ค่าใช้จ่าย
๒. เนื่องจากข้าวเป็นปัจจัยหลักที่ทุกครัวเรือนจะต้อง
บริโภค ดังนั้น จึงประมาณว่าครอบครัวหนึ่งทำานาประมาณ
๕ ไร่ จะทำาให้มีข้าวพอกินตลอดปี โดยไม่ต้องซื้อหาใน
ราคาแพงเพื่อยึดหลักพึ่งตนเองได้อย่างมีอสรภาพ๓. ต้องมี
ิ
นำ้าเพื่อการเพาะปลูกสำารองไว้ใช้ในฤดูแล้ง หรือระยะฝน
ทิงช่วงได้อย่างพอเพียง ดังนั้นจึงจำาเป็นต้องกันที่ดินส่วน
้
หนึ่งไว้ขุดสระนำ้า โดยมีหลักว่าต้องมีนำ้าเพียงพอที่จะ
ทำาการเพาะปลูกได้ตลอดปี ทั้งนี้ได้พระราชทานพระ
ราชดำาริเป็นแนวทางว่า ต้องมีนำ้า ๑,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อ
- 7. ๓. ต้องมีนำ้าเพือการเพาะปลูกสำารองไว้ใช้ในฤดู
่
แล้ง หรือระยะฝนทิ้งช่วงได้อย่างพอเพียง ดังนัน ้
จึงจำาเป็นต้องกันที่ดนส่วนหนึงไว้ขุดสระนำ้า โดยมี
ิ ่
หลักว่าต้องมีนำ้าเพียงพอทีจะทำาการเพาะปลูกได้
่
ตลอดปี ทังนีได้พระราชทานพระราชดำาริเป็น
้ ้
แนวทางว่า ต้องมีนำ้า ๑,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อการ
เพาะปลูก ๑ ไร่ โดยประมาณ ฉะนัน เมือทำานา ๕
้ ่
ไร่ ทำาพืชไร่หรือไม้ผลอีก ๕ ไร่ (รวมเป็น ๑๐ ไร่)
จะต้องมีนำ้า ๑๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อปี๔. การจัด
แบ่งแปลงทีดินเพือให้เกิดประโยชน์สูงสุดนี้
่ ่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวทรงคำานวณ และ
ั
คำานึงจากอัตราการถือครองทีดินถัวเฉลี่ยครัวเรือน
่
- 8. ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า
หลักการดังกล่าวมาแล้วเป็นทฤษฎีใหม่ขั้นที่หนึ่ง เมื่อ
เกษตรกรเข้าใจในหลักการและได้ลงมือปฏิบัติตามขั้นที่
หนึ่งในที่ดินของตนจนได้ผลแล้ว เกษตรกรก็จะสามารถ
พัฒนาตนเองไปสู่ขั้นพออยู่พอกินและตัดค่าใช้จ่ายลง
เกือบหมด มีอสระจากสภาพปัจจัยภายนอกและเพื่อให้มีผล
ิ
สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงควรที่จะต้องดำาเนินการตามขั้นที่สองและ
ขันที่สาม ต่อไปตามลำาดับ ดังนี้
้
- 9. ทฤษฎีใหม่ขั้นที่สอง
๑. การผลิต (พันธุพืช เตรียมดิน ชลประทาน ฯลฯ)
์
๒. การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เครื่องสีข้าว การจำาหน่าย
ผลผลิต)
๓. การเป็นอยู่ (กะปิ นำ้าปลา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ)
๔. สวัสดิการ (สาธารณสุข เงินกู้)
๕. การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศึกษา)
๖. สังคมและศาสนา
- 10. ทฤษฎีใหม่ขั้นที่สาม
เมื่อดำาเนินการผ่านพ้นขันที่สองแล้ว เกษตรกรหรือกลุ่ม
้
เกษตรกรก็ควรพัฒนาก้าวหน้าไปสู่ขั้นที่สามต่อไป คือ
ติดต่อประสานงาน เพื่อจัดหาทุน หรือแหล่งเงิน เช่น
ธนาคาร หรือบริษัท ห้างร้านเอกชน มาช่วยในการลงทุน
และพัฒนาคุณภาพชีวต ิ
- 11. ประโยชน์ของทฤษฎีใหม่
๑. ให้ประชาชนพออยู่พอกิจสมควรแก่อตภาพ ในระดับที่
ั
ประหยัด ไม่อดอยาก และเลียงตนเองได้ตามหลักปรัชญา
้
ของ "เศรษฐกิจพอเพียง"
๒. ในหน้าแล้งมีนำ้าน้อย ก็สามารถเอานำ้าที่เก็บไว้ในสระมา
ปลูกพืชผักต่าง ๆ ที่ใช้นำ้าน้อยได้ โดยไม่ต้องเบียดเบียน
ชลประทาน
๓. ในปีทฝนตกตามฤดูกาลโดยมีนำ้าดีตลอดปี ทฤษฎีใหม่นี้
ี่
ก็สามารถสร้างรายได้ให้รำ่ารวนขึ้นได้
๔. ในกรณีที่เกิดอุทกภัยก็สามารถที่จะฟื้นตัวและช่วยตัว
เองได้ในระดับหนึ่ง โดยทางราชการไม่ต้องช่วยเหลือมาก
เกินไป อันเป็นการประหยัดงบประมาณด้วย
- 12. ทฤษฎีใหม่ที่สมบูรณ์
ทฤษฎีที่ดำาเนินการตามธรรมชาติอาศัยแหล่งนำ้าจากนำ้าฝนประสิทธิภาพยังอยู่
ในลักษณะ "หมิ่นเหม่" เพราะหากปีไหนฝนน้อยอาจไม่เพียงพอ ฉะนั้นการที่
จะทำาให้ทฤษฎีใหม่สมบูรณ์ได้นั้นคือ สระเก็บกักนำ้าจะต้องทำาหน้าที่ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และเต็มความสามารถ โดยต้องมีแหล่งนำ้าขนาดใหญ่ ที่สามารถ
เพิมเติมนำ้าในสระเก็บกักนำ้าให้เต็มอยู่เสมอ ดังเช่นในกรณีของการทดลองทีวัด
่ ่
มงคลชัยพัฒนา จังหวัดสระบุรี ซึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวทรงเสนอวิธี
่ ั
การดังนี้
ระบบทฤษฎีใหม่ทสมบูรณ์ อ่างใหญ่ เติมอ่างเล็ก อ่างเล็ก เติมสระนำ้า
ี่
จากภาพวงกลมเล็กคือสระนำ้าที่เกษตรกรขุดขึนตามทฤษฎีใหม่ เมื่อเกิดช่วง
้
ขาดแคลนนำ้าในฤดูแล้ง เกษตรกรสามารถสูบนำ้ามาใช้ประโยชน์ได้ และหาก
นำ้าในสระนำ้าไม่เพียงพอก็ขอรับนำ้าจากอ่างห้วยหินขาว (อ่างเล็ก) ซึ่งได้ทำา
ระบบส่งนำ้าเชื่อมต่อทางท่อลงมายัง สระนำ้าทีได้ขุดไว้ในแต่ละแปลง ซึงจะช่วย
่ ่
ให้สามารถมีนำ้าใช้ตลอดปี
กรณีทเกษตรกรใช้นำ้ากันมาก อ่างห้วยหินขาว (อ่างเล็ก) ก็อาจมีปริมาณนำ้าไม่
ี่
พอเพียง หากโครงการพัฒนาลุ่มนำ้าป่าสักหรือมีโครงการใหญ่ทสมบูรณ์แล้ว ก็
ี่
ใช้วิธีการผันนำ้าจากป่าสัก คืออ่างใหญ่ ต่อลงมายังอ่างเก็บนำ้าห้วยหินขาว
(อ่างเล็ก) ก็จะช่วยให้มปริมาณนำ้ามาเติมในสระของเกษตรกรพอตลอดทั้งปี
ี
- 13. แหล่งทีมา
่
http://web.ku.ac.th/king7
2/2539/news.htm
- 14. นางสาว จิรวดี ขันธประโยชน์ ม.4/6
เลขที่ 1