SlideShare a Scribd company logo
1 of 80
Download to read offline
ยุทธภพคู่บุพเพ
BEFORE READING
จงวงกลมใต้สำนักที่คิดว่ำเป็นฝ่ำยธรรมะ และ กำกบำทใต้สำนักที่คิด
ว่ำเป็นฝ่ำยอธรรม
เส้ำหลิน เนียนหลัวป้ำ
บู๊ตึ้ง หมู่ตึกบัณฑิต
พรรคกระยำจก สกุลถัง
ตอนที่ 1 เมื่อวิหคออกโบยบิน
ณ เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนในเวลานี้ต่างมี
สานักฝึกวรยุทธ์มากมายเกิดขึ้น ร่วมทั้งสานักที่มีชื่อเสียงด้านการใช้อาวุธลับ
และยาพิษอย่างสกุลถัง สานักนี่เป็นสานักลึกลับยากที่จะเข้าถึงและหาตัวลูกศิษย์
สานักนี้ได้ยากยิ่ง บริเวณโดยรอบสานักล้อมรอบได้ด้วยค่ายกลอาวุธลับมากมาย
วรยุทธ์ของผู้คนในสานักสกุลถังก็ต่างเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วยุทธภพ
“ศิษย์น้อง ศิษย์น้องลี่ถังเจ้าออกมาจากห้องของเจ้าได้แล้วนะ นี่ลี่ถังข้าไม่ได้มี
เวลามาเรียกชื่อเจ้าทั้งวันหรอกนะ”มี่ฮวาศิษย์พี่หญิงแห่งสานักสกุลถังเธอเป็น
ผู้หญิงที่มีกริยางดงามและน่าเกรงขาม เธอมีดวงตาที่มุ่งมั่นอยู่เสมอบวกกับปาก
ที่สวยเข้ารูปและผิวขาวของเธอทาให้สิ่งเหล่านั้นไปเสริมให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ดู
น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เช่นเดียวกับที่ท่านยายแห่งสานักสกุลถังไว้ใจเธอ ซึ่ง
ในตอนนี้เธอก็ได้รับหน้าที่จากท่านยายให้มาตามศิษย์น้องสุดที่รักไปเข้าพบ ถ้า
ไม่ใช่คาสั่งของท่านยายเธอคงไม่ต้องมารอเด็กหัวดื้ออย่างลี่ถังอยู่แบบนี้
“ศิษย์พี่ไม่ต้องมาตามข้าไปฝึกวิชาหรอก ข้าเบื่อเต็มทนแล้วที่จะฝึกวิชาข้าอยาก
ทาอย่างอื่นบ้าง”เสียงใสๆของหญิงสาววัยแรกรุ่นที่แฝงได้ด้วยความเอาแต่ใจดัง
ออกมาจากด้านหลังประตูที่ปิดอยู่และลงกลอนอย่างแน่นหนา
“ศิษย์น้องข้าไม่ได้มาตามเจ้าไปฝึก การฝึกวรยุทธ์มันก็เป็นเรื่องของเจ้าถ้าเจ้าไม่
กลัวว่าท่านยายจะอับอายขายขี้หน้าชาวยุทธทั่วทั้งแผ่นดินเจ้าก็ไม่ต้องฝึกวรยุทธ์
ให้เสียเวลาหรอกนะ ลี่ถัง”มี่ฮวาพูดประชดกลับใส่ศิษย์น้อง เธอรู้ว่ายังไงถ้าพูด
ถึงท่านยายลี่ถังจะต้องออกมาแน่นอน เพราะลี่ถังเธอรักท่านยายมาก มากเหมือน
แม่ของเธอเลยทีเดียว
“แอ๊ด...” เสียงเลื่อนเปิดประตูไม้ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่สวยได้รูปของหญิง
สาว ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ประตูเปิดออก เธอทาสีหน้าไม่พอใจที่ศิษย์พี่ของ
เธอพูดกับเธอแบบนั้น เพราะเธอก็ไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหนซักหน่อยวรยุทธ์ก็อยู่
ในระดับที่ท่านยายยังชื่นชมทาไมศิษย์พี่ถึงพูดแบบนี้
“ศิษย์พี่มี่ฮวา ท่านมีเรื่องอะไรท่านก็พูดมาเถอะ ไม่เห็นจะต้องพูดว่าข้าเป็นคน
ไม่เอาไหนจนจะทาให้ท่านยายต้องขายหน้าทั่วทั้งแผ่นดินเลย” ลี่ถังบ่นอุบ
“ท่านยายให้ข้ามาตามเจ้าไปพบกับท่านยาย และตอนนี้ท่านยายรอเจ้านานแล้ว”
มี่ฮวาพูดเสร็จแล้วเธอก็หันหลังเดินนาหน้าศิษย์น้องแสนดื้อของเธอทันที
“แล้วทาไมศิษย์พี่ไม่บอกข้าแต่แรกเล่า ถ้าบอกว่าเป็นท่านยายข้าก็คงไม่ปล่อยให้
ท่านรอนานหรอก”ลี่ถังได้แต่เดินบ่นตามหลังศิษย์พี่ของเธอ จนมาถึงตาหนักเจ้า
สกุลถังซึ่งเป็นสถานที่ที่พานักของเจ้าสานักทุกๆรุ่นของสกุลถัง ตาหนักเจ้าสกุล
ถังนี้รายล้อมไปดอกไม้สวยงามนานาชนิด หากแต่ดอกไม้เหล่านั้นกลับไม่ใช่
ดอกไม้ธรรมดาแต่เป็นดอกไม้ที่เอาไว้เลี้ยงเหล่าผึ่งและแมลงพิษต่างๆ ตัว
ตาหนักถึงแม้จะออกแบบดูเรียบง่ายธรรมดาแต่ภายในตัวตาหนักมีกลไกลอาวุธ
ลับมากมายที่อยู่ทุกซอกทุกมุมและพร้อมที่จะฆ่าเหล่าอริที่คิดร้ายกับเหล่าเจ้า
สานักอย่าเลือดเย็น...
“ท่านยาย ข้าน้อยลี่ถังมาตามคาสั่งท่านยายแล้วเจ้าค่ะ”ลี่ถังรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับ
ทาการคาราวะท่านยาย เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสเสมอๆเหมือน
ทุกๆครั้งที่เธอมาหาท่านยาย
“ศิษย์น้องในเขตตาหนักของท่านยาย เจ้าอย่าวิ่งสิ”มี่ฮวาวิ่งตามหลังศิษย์น้องมา
ติดๆ จนมาถึงหน้าห้องท่านยาย
“พวกเจ้าทั้งสองคนมาหาข้าเงียบๆไม่ได้รึอย่างไรวิ่งมาซะเสียงดังเชียว”เสียง
หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้น เจ้าของเสียงนั้นคือท่านยายแห่งสานักสกุลถังและยัง
เป็นเจ้าสานักคนปัจจุบันของสานักสกุลถังอีกด้วย เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มี
หน้าตาสะสวยเหมือนนางพญา ในแววตาของเธอมีทั้งความอ่อนโยนและ
เด็ดขาดทาให้ตัวของเธอเป็นสตรีที่ได้รับการยกย่องว่ามีทั้งความงดงาม อานาจ
และวรยุทธ์ที่สูงส่งในยุทธจักรด้วยภาพลักษณ์นี้ทาให้เมื่อเธอไปปรากฏตัวที่
ไหนทุกๆคนต้องยาเกรงเธอผู้นี้
“คาราวะท่านยาย ข้าพาศิษย์น้องมาเข้าพบท่านแล้ว ศิษย์ขอตัวก่อน”มี่ฮวาเดินเข้า
มาคานับท่านยายก่อนที่จะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนมี่ฮวา เจ้าอย่าพึ่งไปข้ามีงานให้เจ้าไปทา”ท่านยายพูดขึ้นก่อนที่มี่ฮวา
จะเดินออกจากห้องไป เธอรู้ว่ามี่ฮวารีบร้อนเพราะมีหลายๆอย่างให้ศิษย์พี่ใหญ่
อย่างเธอต้องจัดการแม้ว่าเธอจะสงสารลูกศิษย์แค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถเข้าไป
ช่วยได้เนื่องจากเธอก็ต้องดูแลกิจการอย่างอื่นของสานักเช่นกันเพราะสกุลถัง
ไม่ใช่แค่สานักฝึกวรยุทธทั่วไปอย่างเสาหลิน หรือ ง้อไบ๊ แต่สานักสกุลถังยังทา
ธุรกิจค้าขายอาวุธลับและยาพิษอีกด้วยทาให้เธอต้องมอบงานดูแลสิ่งต่างๆที่ต้อง
ดูแลในสานักให้มี่ฮวาซึ่งเป็นศิษย์พี่ใหญ่ทาแทน
“ศิษย์น้อมรับคาสั่งท่านยาย”มี่ฮวาเดินกลับเข้ามาหน้าท่านยายแล้วทาการคาราวะ
อีกครั้ง
“งานที่ข้าให้เจ้าทาครั้งนี้ไม่ยากและไม่ง่ายเกินไปเจ้าอยากทาหรือไม่แต่เจ้าไม่
ต้องทาก็ได้เช่นกันเพราะข้าเห็นว่าเจ้าก็ทางานในสานักมากแล้ว”ท่านยายถาม
ความสมัครใจของมี่ฮวาก่อนเพราะเธอก็ไม่อยากรบกวนศิษย์คนนี้ซักเท่าไหร่
เนื่องจากมี่ฮวามีงานมากแล้วแต่งานที่จะให้ทาก็มีแต่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างมี่ฮวา
เท่านั้นที่ท่านยายจะไว้วางใจ
“ไม่ว่างานจะยากพียงใดเพียงแต่เป็นสิ่งที่ท่านยายต้องการข้าก็จะทาให้แน่นอน”
มี่ฮวาตอบกลับเธอเป็นคนที่ท่านยายไว้ใจที่สุดสานักถ้าท่านยายเอยปากเช่นนี้มี
หรือเธอจะกล้าปฏิเสธ
“เจ้าจะทางานนี้จริงๆใช่มั้ย มี่ฮวา”ท่านยายถามมี่ฮวากลับอีกครั้งเธออยากได้
คาตอบที่แน่นอนจากลูกศิษย์ของเธอ
“ข้าจะทาแน่นอน”มี่ฮวาตอบหนักแน่น
“ท่านยาย ท่านยายจะให้ศิษย์พี่มี่ฮวาไปทาอะไรเหรอเจ้าคะดูท่านยายเป็นห่วง
แปลกๆ”ลี่ถังที่อยู่ในเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดระหว่างท่านยายกับมี่ฮวาพูดขึ้นด้วย
ความสงสัย งานอะไรกันที่ท่านยายจะให้ศิษย์พี่ทา ท่านยายบอกบอกแท้ๆว่าไม่
ยากไม่ง่ายแต่ทาไมท่านยายต้องถามย้าๆกับศิษย์พี่หลายรอบละ
“ดีๆ ในเมื่อมี่ฮวาเจ้ารับปากข้าแล้วข้าก็จะบอกงานให้เจ้าฟังข้าดีๆละงานที่ข้าจะ
ให้เจ้าไปทาคือไปส่งของให้สานักเสิ่นที่เฉิงตู”ท่านยายพูดสั่งงานที่จะให้ลูกศิษย์
ด้วยเสียงที่มีความสุขอย่างน่าประหลาด
“ถ้าเพียงภารกิจแค่นี้ข้าว่าให้คนในสานักคนอื่นไปแทนข้าก็ได้เจ้าค่ะท่านยาย”
มี่ฮวาพูดขึ้นหลังจากที่ท่านยายบอกงานที่จะให้เธอไปทางานส่งของเป็นงานที่ไม่
ง่ายไม่ยากก็จริงตามที่ท่านยายว่า แต่การส่งของก็มีความเสี่ยงตามของที่ส่งอยู่ดี
แต่งานพวกนี้ก็ไม่จาเป็นต้องถึงมือลูกศิษย์เอกอย่างเธอแค่งานในสานักเธอก็ไม่มี
เวลาทาอย่างอื่นแท้ๆ
“เดี๋ยวสิมี่ฮวาเจ้าฟังข้าให้จบก่อนใจเข้าหน่ะอย่าร้อนกว่าไฟสิการเป็นคนใจร้อน
จะทาให้เจ้าพลาดอะไรได้นะมี่ฮวา”ท่านยายพูดขึ้นเนื่องจากเธอเห็นมามากแล้ว
คนใจร้อนในยุทธภพมีมากมายและพวกเขามักมีจุดจบที่ไม่สวยซึ่งเธอก็ไม่อยาก
ให้ลูกศิษย์เธอเป็นเช่นนั้น
“ข้าขออภัยด้วยเจ้าค่ะ”มี่ฮวาพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรๆข้าไม่ถือสาหรอกแต่ก็ขอให้เจ้าจาคาพูดข้าไว้แล้วงานอีกอย่างที่ข้า
จะให้เจ้าทาคือการพาศิษย์น้องไปท่องยุทธจักรงานของข้ามีเท่านี้แหละอีกอย่าง
พวกเจ้าออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้เลยนะข้าส่งข่าวไปบอกทางสานักเสิ่นแล้ว”
ท่านยายสั่งงานอย่างสุดท้ายก่อนที่จะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ท่านยายจะให้ข้าลงเขาไปท่องยุทธภพข้าดีใจมาก หากแต่ว่าทาไมข้าต้องไปกับ
ศิษย์พี่มี่ฮวาด้วยนางจู้จี้ขี้บ่นข้าไม่ชอบเลย”ลี่ถังพูดขึ้นเธอดีใจอย่างมากที่เธอได้
ลงเขาไปเที่ยวในยุทธภพแต่มันจะไม่สนุกตรงที่มีศิษย์พี่มี่ฮวามาด้วยนี่สินางเป็น
ตัวน่าราคาญที่สุดในสานักด้วยซ้า
“ท่านยายข้าว่าศิษย์น้องยังไม่พร้อมที่จะลงไปท่องเที่ยวในยุทธจักรหรอกนางยัง
โตไม่พอและโลกภายนอกสานักมันอันตรายมากนะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านยาย
พิจารณาอีกครั้ง”มี่ฮวาแย้งขึ้นทันทีมีเหรอที่เธออยากจะไปท่องยุทธภพกับศิษย์
น้องเอาแต่ใจอย่างลี่ถังอีกอย่างโลกแห่งยุทธภพมันอันตรายและโหดร้ายเกินไป
และมียอดฝีมือมากมายที่อาจเข้ามาหาเรื่องด้วย
“พวกเจ้าจงฟังข้า ทั้งหมดที่ข้าพูดไปข้าได้พิจารณามาถี่ถ้วนแล้ว มี่ฮวาศิษย์น้อง
ของเจ้าเติบโตมาในสานักเพียงอย่างเดียวก็จริงนางอาจยังไม่มีประสบการณ์เรื่อง
นี้ข้าไม่เถียงเจ้าหรอกนะ แต่เรื่องวรยุทธ์ข้าว่านางฝึกมาได้ดีและเพียงพอแล้ว อีก
อย่างข้าก็แก่มากแล้วและข้าก็อยากให้ลูกศิษย์ที่ข้ารักได้พัฒนาตนเองอีกด้วย มี่ฮ
วาเจ้าจงใช้โอกาสนี้เพื่อทาให้ตัวเองเติบโตขึ้นเถอะลี่ถังเจ้าก็ด้วยนะ”ท่านยาย
อธิบายสิ่งที่เธอต้องการให้เหล่าศิษย์รักของเธอ การท่องเที่ยวยุทภพเป็นสิ่งที่
เสี่ยงมากก็จริงแต่มันก็เป็นการพัฒนาตนเองและฝึกวรยุทธ์ไปในตัว การใช้ชีวิต
อยู่ในสานักก็เหมือนกบในกะลาเท่าานั้นแล้วตาแหน่งเจ้าสานักเธอจะกล้าให้ใคร
ดูแลต่อได้ถ้าหากศิษย์ในสานักยังไร้ฝีมือ
“แต่ว่าท่านยายข้าไม่อยากไปกับศิษย์พี่มี่ฮวานี่...”ลี่ถังแย้งขึ้นเธอไม่ยอมหรอกที่
ต้องไปกับมี่ฮวา
“ไม่แต่แล้วลี่ถังข้าคิดดีแล้วเจ้าหน่ะมันดื้อให้มี่ฮวาดูแลเจ้าถูกต้องที่สุดแล้ว มี่ฮวา
เจ้ารับปากข้าแล้วนะเจ้าคงไม่ถอนคาพูดตัวเองใช่มั้ย”ท่านยายหันไปถามมี่ฮวา
อีกครั้ง
“ถ้าจะทาแน่นอนท่านยายโปรดว่างใจ”มี่ฮวาตอบอย่างฝืนใจตัวเอง เธอไม่อยาก
ดูแลเด็กเอาแต่ใจอย่างลี่ถังหรอกแต่เมื่อท่านยายพูดขนาดนี้และด้วยหน้าที่ของ
เธอแล้วเธอก็ต้องทาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ดีๆ วันนี้ข้ามีความสุขจริงๆเลยพรุ่งนี้ก่อนพวกเจ้าเดินทางก็เข้ามาหาข้าก่อนล่ะ
วันนี้ข้ามีเรื่องคุยกับเจ้าเพียงเท่านี้แหละพวกเข้าออกไปได้ข้าจะจัดการงานของ
สานักต่อแล้ว”ท่านยายพูดเสร็จเธอก็เดินกลับเข้าไปในห้องทางานทันทีโดยไม่
สนใจศิษย์ทั้งสองของเธอที่ดูจะไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่ได้รับเท่าไหร่
“ท่านยายฟังข้าก่อน”ลี่ถังพูดขึ้นและกาลังจะเดินถามท่านยายเข้าไปในห้อง
ทางาน
“ลี่ถัง เจ้าเลิกเอาแต่ใจได้แล้วคาสั่งท่านยายถือเป็นเด็ดขาดเจ้ากลับห้องของเจ้าไป
เก็บของที่จาเป็นได้แล้ว พรุ่งนี้เราต้องรีบเดินทาง”มี่ฮวาคว้าแขนของลี่ถังและพา
เดินออกมานอกตาหนักของท่านยาย การที่ลี่ถังจะเข้าไปในห้องทางานท่านยาย
มันจะเป็นการรบกวนเปล่าๆและการให้เธอโวยวายในตาหนักก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีซัก
ไหร่
“ก็ข้าไม่อยากไปกับเจ้านี เจ้ามันน่าเบื่อ จู้จี้”ลี่ถังเริ่มโวยวายเธอไม่สนใจอะไร
แล้วการเที่ยวในยุทธจักรหลายคนบอกว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกและน่าตื่นเต้นแต่ถ้า
มีมี่ฮวาไปทุกอย่างต้องดูน่าเบื่อแน่ๆ
“มันเป็นคาสั่งท่านยายถ้าเจ้าอยากทาให้ท่านยายผิดหวังก็ตามใจอีกอย่างเจ้าจะ
โวยวายอยู่ตรงนี้ก็เรื่องของเจ้าถ้าเจ้าไม่อายศิษย์คนอื่นนะ ข้าต้องรีบไปจัดการ
งานในสานักแล้วขอตัว”มี่ฮวาพูดจบเธอก็เดินไปทางตาหนักฝั่งตะวันออกทันที
โดยทิ้งลี่ถังให้หงุดหงิดอยู่คนเดียว
“พวกเจ้ามองอะไรกันไม่มีงานทากันรึไง”ลี่ถังหันไปว่าศิษย์ที่ยืนมองเธอโวยวาย
ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปที่ห้องของเธอ
เช้าวันถัดมา......
ณ ตาหนักเจ้าสกุลถัง
“มากันแล้วสินะพวกเจ้ามาๆเข้ามานั่งก่อนข้ามีของอะไรจะให้”ท่านยายได้ตื่นมา
รอเหล่าศิษย์รักของเธอแต่เช้าเพื่อเตรียมของต่างๆให้กับลูกศิษย์ของเธอที่จะต้อง
ออกไปท่องเที่ยวยุทธจักรในครั้งนี้
“ศิษย์มี่ฮวาคาราวะท่านยาย”มี่ฮวาคาราวท่านยายก่อนที่เธอจะไปนั่งเก้าอี้ที่เรียง
ไว้ตรงข้างๆที่นั้นท่านยาย
“ศิษย์ลี่ถังคาราวะท่านยาย”ลี่ถังคาราวท่านยายและเธอไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามมี่ฮวา
“มี่ฮวาข้าให้นี่กับพวกเจ้านะนี้คือตราหยกของสานักมันเป็นสิ่งแทนตัวของเจ้า
สานักเมื่อพวกเจ้าลาบากหรือเจ้าต้องการติดต่อสานักต่างๆเจ้าจงใช้มันและใน
กล่องนี้คือกล่องหญ้าสมุนไพรพิเศษที่ข้าจะให้เจ้าเอาไปมอบให้สานักเสิ่นถือว่า
เจ้านาของไปกระชับไมตรีกับสานักเสิ่นแล้วกัน”ท่านยายพูดพลางนาสิ่งต่างๆมา
วางไว้ตรงหน้าของมี่ฮวา
“แล้วท่านยายไม่มีของมอบให้ข้าบางเหรอ”ลี่ถังพูดขึ้น เธอก็อยากได้ของจาก
ท่านยายบ้างไหนๆเธอก็จะออกไปท่องยุทธภพแล้ว
“ข้ามีให้เจ้าแน่นอน เอานี้ไปนะลี่ถังในถุงนี้มียาลับพิสดารสกุลถังมันเป็นยาที่จะ
สามารถรักษาและถอดพิษต่างๆได้เจ้าจงนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์เถอะ และนี้
ลูกดอกหิมะโปรย ข้าเห็นว่าเจ้าชานาญการใช้ลูกดอกมากข้าจึงมอบมันให้เจ้า
ลูกดอกหิมะโปรยนี้เมื่อเจ้าซัดมันใครศัตรูจะทาให้ศัตรูไม่สามารถเดินลมปราณ
หรือวรยุทธ์ได้และทาให้อัมพาตทันนี้ การจะถอนพิษได้มีแต่ลูกศิษย์สกุลถังและ
เสิ่นที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้นจึงจะสามารถถอนพิษนี้ได้”ท่านยายนาของต่างๆ
มาให้แก่ลี่ถัง
“ข้าจะใช้มันอย่างดีแน่นอนเจ้าคะท่านยาย”ลี่ถังเก็บของที่ท่านยายมอบให้อย่างมี
ความสุข
“ข้ามีของมอบให้พวกเจ้าเพียงเท่านี้พวกเจ้าเดินทางได้ ขอให้พวกเจ้าโชคดีและ
เดินทางปลอดภัยนะมาข้าและศิษย์คนอื่นๆจะไปส่งเจ้าหน้าสานัก”ท่านยายพูด
ขึ้นและลุกเดินนาหน้าศิษย์ทั้งสองออกจากตาหนักไปเพื่อไปส่งพวกเธอทั้งสองที่
หน้าสานักการไปส่งศิษย์ทั้งสองครั้งนี้ของเธอมันเหมือนการปล่อยสิ่งที่ตนเอง
รักและห่วงออกไปจากอกแต่มันก็คุ้มค่ากับการที่ได้เห็นคนที่เธอรักได้เติบโตอีก
หนึ่งขั้น
เมื่อมาถึงหน้าสานักทุกคนก็ทาการล่าลากันและการเดินทางของศิษย์หญิงแห่ง
สานักสกุลถังกาลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้สิ่งต่างๆมากมายได้รอคอยพวกเธออยู่บน
เส้นทางข้างหน้าเส้นทางที่เรียกว่าทางของเหล่าจอมยุทธพวกเธอจะผ่านบท
ทดสอบนี้ไปด้วยกันได้หรือไม่กาลเวลาและประสบการณ์ในยุทธจักรจะเป็นคน
บอกตัวพวกเธอเอง
READING CHECK
1.จงเรียงลำดับเหตุกำรณ์ให้ถูกต้อง
......ลี่ถังและมี่ฮวำลงเขำเพื่อท่องยุทธภพ
......เดินท่ำนไปที่ตำหนักท่ำนยำยกับมี่ฮวำ
......ลี่ถังโดนมี่ฮวำมำเรียกตั้งแต่เช้ำ
......ลี่ถังออกมำทะเลำะกับมี่ฮวำหน้ำตำหนักท่ำนยำย
......ท่ำนยำยมอบของสำคัญให้แก่ลุกศิษย์ทั้งสอง
......มำหำท่ำนยำยอีกครั้งเพื่อออกเดินทำง
ตอนที่ 2 พันธมิตรร่วมทำง
ในที่สุดฉัน ลี่ถังก็ได้ออกจากสานักแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้ออกมาท่องเที่ยวยุทธภพ
ที่แสนสนุกและน่าตื่นเต้นเหมือนที่คนอื่นได้พูดไว้ซักทีและตอนนี้ฉันกาลังนั่ง
รถมาจากสานักมาที่เฉิงตูอยู่ นั้นไงตัวเมืองเฉิงตูในที่สุดขาก็ได้เห็นซักทีสิ่ง
ใหม่ๆที่ไม่มีในสานักน่าสนุกจริงๆเลย
“นี่คนรถม้า ท่านให้ม้าวิ่งเร็วกว่านี้หน่อยสิข้าอยากเข้าเมืองแล้ว”ลี่ถังตะโกน
บอกตาลุงที่ขับรถม้าอยู่ข้างหน้า
“นี่ลี่ถังถ้าเห็นเข้าอยู่ไม่สุขเลยเจ้านั่งอยู่นิ่งๆบ้างไม่ได้รึไงเดี๋ยวก็ย้ายไปนั่งตรงนั้น
ตรงนี้อยู่ไม่นิ่งเป็นลูกลิงเลย”มี่ฮวาพูดขึ้นเธอมองศิษย์น้องของเธออยู่ตลอด
ตั้งแต่ออกสานักมาลี่ถังไม่ได้นั่งนิ่งๆเลยเอาไปย้ายที่นั่งไปมองข้างทางฝั่งนั้นฝั่ง
นี้ไม่หยุดดีนะที่ในรถมามีเพียงสองคน
“ก็ข้าไม่เคยเห็นเมืองเฉิงตูนิตั้งแต่เด็กข้าก็อยู่แต่ในสานักท่านเคยมาแล้วนิท่าน
เลยไม่ตื่นเต้น”ลี่ถังพูดขึ้นเธอไม่สนใจคาพูดของมี่ฮวาหรอก อีกนิดก็ถึงเฉิงตูแล้ว
ถ้าเข้าเมืองเมื่อไหร่ฉันจะเที่ยวให้สุดๆเลย
“ตามใจเจ้าแล้วกันแต่ลงรถม้าเสร็จเราต้องไปโรงเตี๊ยมเพื่อหาที่พักก่อนเจ้าอย่า
คิดว่าจะหนีเที่ยวเด็ดขาด”มี่ฮวาสั่งศิษย์น้องทันที่เธอรู้ว่าลี่ถังคิดอะไรอยู่และ
ต้องห้ามไว้ก่อนเพราะเมื่อถึงในเมืองก็เท่ากับที่เขตอันตรายเพราะในเฉิงตูมีทั้ง
คนและจอมยุทธมากมายที่อยู่ในเมื่อมีแต่พวกรู้หน้าไม่รู้ใจ
“ถึงเฉิงตูแล้วขอรับคุณหนูทั้งสอง”เสียงของลุงขับรถม้าดังขึ้นหลังจากที่ล้อรถม้า
หยุดลง
“ค่ารถม้าเท่าไหร่เหรอท่านลุง”มี่ฮวาถามท่านลุงหลังจากที่เธอกับลี่ถังลงมาจาก
รถม้าแล้ว
“15ตาลึงจ๊ะคุณหนู”ลุงคนขับรถม้าพูดด้วยความสุภาพ
“นี้ค่ะท่านลุง”มี่ฮวาหยิบเงินให้คุณลุงแล้วมองไปหาลี่ถัง แต่ตอนนี้ลี่ถังไม่อยู่ตรง
รถมาแล้วเดินกาลังเดินห่างจากมี่ฮวาเข้าไปในตลาด
“ลี่ถังเจ้าจะไปไหนข้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องไปโรงเตี๊ยมก่อน”มี่ฮวารีบวิ่งไป
หาลี่ถังทันทีเธอจะให้ศิษย์น้องของเธอห่างจากสายตาไม่ได้
“ศิษย์พี่ท่านนี้น่าราคาญจริงๆข้าแค่มาเดินตลาดไม่ได้รึไงกัน”ลี่ถังพูดขึ้นด้วย
ความหงุดหงิด เธอต้องการที่จะเปิดหูเปิดตาและเดินเล่นในเมืองมากกว่าต้องไป
ตามที่มี่ฮวาบอก
“ตามข้ามาเถอะ เจ้าไม่ต้องมาหงุดหงิด ท่านยายสั่งให้ข้าดูแลเจ้า”มี่ฮวาลากลี่ถัง
ให้เดินตามมาทางที่ไปโรงตี๊ยมเธอไม่ค่อยอยากอยู่แล้วตลาดซักเท่าไหร่เพราะ
มันเป็นสถานที่กว้างเสี่ยงต่อการโดนโจมตีและไม่รู้ว่าสิ่งของที่ท่านยายให้มาจะ
มีใครต้องการชิงมันหรือไม่ด้วยจึงต้องรีบไปที่โรงเตี๊ยมอย่างน้อยที่นั้นก็เป็น
สถานที่น่าจะปลอดภัยมากกว่าในตลาด
ในระหว่างทางที่มี่ฮวาและลี่ถังกาลังเดินทางไปที่โรงเตี๊ยมของเมืองเฉิงตูข้างทาง
ก็เต็มไปด้วยแผงขายของข้างทางมากมายแต่ละแผงแต่ละร้านก็ขายของแตกต่าง
กันไปขายอาหารบ้าง ขายเครื่องประดับ เสื้อผ้าต่างๆมากมายไปหมด มันเป็นสิ่ง
ที่ปกติของสายตามี่ฮวาที่ได้เข้าเมืองมาทางานตามที่ท่านยายสั่งบ่อยๆแต่มันเป็น
ที่แปลกและน่าตื่นตาตื่นใจสาหรับลี่ถังมากๆเธอไม่เคยเห็นร้านค้าและความ
มากมายของผู้คนขนาดนี้ ลี่ถังหยุดแวะมองการแสดงของนักแสดงกายกรรมตรง
ตลาดบ้าง ดูคนเล่นงิ้วบ้างแต่ก็ดูได้ไม่นานเพราะเธอมันจะถูกมี่ฮวาลากออกมา
เสมอๆ จนมาถึงอาคารไม้ขนาดกลางที่ดูไม่เล็กจนน่าอึดอัดและไม่ใหญ่
จนเกินไปที่เป็นเป็นอาคารไม้สองชั้นชั้นล่างเต็มไปด้วยโต๊ะมากมายพอๆกับ
จานวนคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นๆบางคนก็นั่งกินอาหารบางคนก็นั่งจิบน้าชาและ
พูดคุยกัน คนในนี้มีมากมายหลากหลายประเภทมีทั้งคนธรรมมาและเหล่าชาว
ยุทธที่พกอาวุธเช่นกระบี่หรือดาบไว้กับตัว ไม่ก็พวกนักปราชญ์หรือเหล่าบัณฑิต
ที่วัดความรู้กันอยู่ ทางขึ้นชั้นสองเป็นบันไดไม้อยู่ตรงกลางร้านค่อนไปทาง
ด้านหลังร้านถ้าเดินขึ้นไปซักพักจะเจอที่พักตรงบันไดและมีบันไดแยกไป
ทางซ้ายและขวาอีกทีพอขึ้นมาตรงทางชั้นสองจะพบกับห้องมากมายที่อยู่เรียง
กันซึ่งห้องเหล่านั้นคือห้องพักสาหรับเหล่านักเดินทางที่ต้องการหาที่พักผ่อน ซึ่ง
ที่นี้คือโรงเตี๊ยมประจาเมืองเฉิงตูนั้นเอง
“ศิษย์พี่ที่นี่เหรอที่เค้าเรียกว่าโรงเตี๊ยมช่างกว้างใหญ่เสียจริงๆ”ลี่ถังพูดขึ้นด้วย
ความตื่นเต้น
“ใช่ที่นี้แหละโรงเตี๊ยมเจ้าอย่าทาตัวเป็นจุดสนใจละ มันอาจจะเป็นผลเสียต่อเรา
ได้”มี่ฮวาหันไปบอกศิษย์น้องให้หยุดอาการตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเพราะใน
โรมเตี้ยมถึงจะดูปลอดภัยแต่ก็ไม่น่าไว้ใจเลยทีเดียว
“ทาไมละที่นี้มันต้องระวังตัวด้วยเหรอข้าก็เห็นทุกคนดูปกติไม่เห็นมีพิษมีภัย
อะไร”ลี่ถังถามกลับด้วยความไร้เดียงสาของเธอ
“รู้หน้าไม่รู้ใจเจ้าตามข้ามาก็พอ”มี่ฮวาพูดตัดบทก่อนเดินนาลี่ถังเข้าไปนั่งภายใน
โรงเตี๊ยม แต่ยังไม่ได้ทันนั่งได้ดีๆก็มีชายแกสูงอายุเดินเข้ามาหาทั้งสอง
“คุณหนูทั้งสองคือคนจากสกุลถังใช่หรือไม่”ชายแก่พูดขึ้นหลังจากเดินมาหยุด
ตรงโต๊ะของทั้งสอง ชายแก่ผู้นี้การแต่งตัวดูน่าเชื่อถือแต่รู้หน้าไม่รู้ใจอยู่ดี
“ท่านลุงเป็นใครทาไมถึงพักพวกข้าเช่นนี้”มี่ฮวาพูดขึ้นเธอต้องทาเป็นไม่รู้อะไร
ไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นมิตรหรือศัตรู
“ข้าคือพ่อบ้านประจาตระกูลเสิ่นได้รับคาสั่งมาจากท่านประมุขเสิ่นจิ้นให้มารับ
คนจากสุกลถังขอรับ”ชายแก่อธิบายเขาก็รู้เช่นกันว่าอีกฝั่งก็ระวังตัวไม่ใช่น้อย
เพราะสกุลถังป็นสานักที่ยิ่งใหญ่และการที่ยิ่งใหญ่ก็ทาให้มีศัตรูมากเช่นกันการที่
ระวังตัวแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ตนก็เป็นพ่อบ้านประจาตระกูลเสิ่นก็
พอจะรู้ทาเนียมของชาวยุทธอยู่บ้าง
“งั้นข้าขอดูสัญลักษณ์ของคนตระกูลเสิ่นหน่อย”มี่ฮวาพูดขึ้นเธอมองไปที่ลี่ถัง
ตอนนี้ลี่ถังกาลังนั่งมองเธอและชายแก่สลับไปมาอย่างงงๆ
“นี้คือป้ายหยกปรพจาตระกูลเสิ่นที่มีแต่คนที่ประมุขไว้ใจเท่านั้นถึงจะมีได้และนี้
เป็นจดหมายเชิญจากท่านประมุขเสิ่นจิ้นเชิญคุณหนูตรวจสอบ”ชายแก่ยื้นป้าย
หยกและจดหมายให้มี่ฮวาตรวจสอบ
มี่ฮวารับป้ายหยกและจดหมายจากชายแก่เธอไม่จาเป็นต้องตรวจสอบป้ายหยก
แน่นอนเพราะป้ายนี้เป็นของจริงแต่เธออยากรู้ข้อความในจดหมายว่าเขียน
อะไรบ้าง มี่ฮวาใช้เวลาไล่อ่านข้อความในจดหมายซักพักก่อนที่จะเก็บจดหมาย
ไว้และมอบป้ายหยกคืนให้ชายแก่
“ขอบคุณท่านมาที่มารับพวกข้า ข้าชื่อมี่ฮวาและนี่ศิษย์น้องของข้าชื่อลี่ถัง ขอ
โทษที่เสียมารยาทกับท่านลุง
ตอนแรกด้วย”มี่ฮวาพูดด้วยความเคารพพร้อมกับแนะนาตัวเองกับพ่อบ้าน
ประจาตระกูลเสิ่น
“ศิษย์พี่ท่านนี้คือ....”ลี่ถังที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น
“ท่านลุงผู้นี้คือพ่อบ้านประจาตระกูลเสิ่น ซึ่งแป็นคนไว้ใจได้ม่ได้เป็นอริ
แน่นอน”มี่ฮวาตอบ
“ข้าว่าเรารีบเดินทางไปที่สานักเสิ่นเถอะ ท่านประมุขได้รออยู่แล้ว”ชายแก่พูดขึ้น
พลางผายมือเชิญทั้งสองให้ลุกขึ้นแล้วก็เดินนาหน้าทั้งคู่ไปที่ตระกูลเสิ่นทันที
สานักเสิ่น
สานักเสิ่นเป็นสานักแพทย์แห่งยุทธจักรตั้งอยู่ที่ชานเมืองตะวันออกในเมืองเฉิงตู
ที่นี้เป็นสานักเล็กๆแต่เต็มไปด้วยสิ่งลึบลับมากมายทางการแพทย์ถึงแม้สานักนี้
จะมีสมยานามว่า หมอแห่งยุทจักรแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นหมอที่อ่อนแอเพราะสานัก
ตระกูลเสิ่นมีการฝึกฝนทั้งความรู้ความชานาญทางการแพทย์และการฝึกฝนวร
ยุทธ์อีกด้วยซึ่งวรยุทธ์ของตระกูลเสิ่นจะเป็นการปาเข็มเข้าไปสกัดจุดชีพจรต่างๆ
ของศัตรูให้ส่งผลแตกต่างกันออกไป ความวิจิตรพิสดารของสานักนี้นี้คือการ
ผสมผสานความรู้ทางด้านการแพทย์และวรยุทธ์การใช้วิชาเข็ม ทาให้เกิดวิชาเข็ม
ต่างๆแตกต่างตามความถนัดของลูกศิษย์ในสานักอีกด้วยแต่วิชาพื้นฐานของ
สานักนี้คือ วิชาเข็มทองตระกูลเสิ่นที่มีความทัดเทียมกับวิชาของสกุลถัง ทาให้
ตระกูลเสิ่นเป็นสานักเล็กๆแต่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์การรักษาดังไกลทั่วยุทภพ
ตัวสานักประกอบไปด้วยเรือนต่างๆมากมายแต่จะมีเรือนใหญ่อยู่ตรงกลางสานัก
นั้นก็คือเรือนของเจ้าสานักนั้นเอง รอบๆสานักรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ใบหญ้าดู
สบายตาและมีการจัดสวนอยู่บ้างในบางจุด ทาให้สานักตระกูลเสิ่นเป็นสานักที่ดู
ร่มรื่นน่าอยู่สมกับการเป็นสถานที่รักษาผู้คนในยุทธจักรและเป็นที่ฝึกฝนของ
เหล่าแพทย์ตระกูลเสิ่นอีกด้วย
“ยินดีต้อนรับท่านพ่อบ้านและคุณหนูแห่งสกุลถังทั้งสองเจ้าค่ะ ท่านประมุขรอ
พวกท่านในห้องแล้วเชิญเข้าไปได้เลยเจ้าค่ะ”สาวใช้ที่มารับหน้าประตูพูดขึ้น
หลังจากที่ทั้งสามคนมาถึงตระกูลเสิ่น
“ท่านประมุขเสิ่นจิ้น ข้าพาคนของสกุลถังมาแล้วขอรับ”พ่อบ้านตระกุลเสิ่นนา
ทางลี่ถังและมี่ฮวามาจนถึงหน้าประตูเรือนไม้ขนาดใหญ่ตรงกลางสานักรอบๆ
เรือนตกแต่งด้วยสวยดอกไม้เล็กๆรอบๆเรือน
“เข้ามาได้”เสียงทุ้มของผู้ชายดังขึ้นเป็นการอนุญาตก่อนที่ทั้งสามจะเดินเข้าไป
ข้างในตัวอาคาร
“คารวะท่านประชุม”พ่อบ้านเดินนาเข้ามาในห้องของประมุขเสิ่นจิ้นก่อนทาการ
คารวะประมุขแล้วเดินไปอยู่ข้างๆ
“คารวะท่านประมุขเสิ้นจิ้นข้าน้อยมี่ฮวาและนี้ศิษย์น้องนามว่าลี่ถัง”มี่ฮวาและลี่
ถังทาการคารวธประมุขเสิ้นจิ้น
“พวกเจ้าคงเดินทางมาเหนื่อยงั้นเชิญนั่งจิบชาให้หายเหนื่อยก่อนเถอะค่อยพูด
เรื่องธุระที่พวกเจ้าเดินทางมา
ก็แล้วกัน”เสิ่นจิ้นพูดขึ้นเข้าเป็นชายแก่ที่ดูเป็นผู้ทรงภูมิหน้าตาดุน่ายาเกรงแต่
จริงๆเป็นคนจิตใจดีอ่อนโยนรักธรรมชาติ รักพี่น้องและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
“ท่านประมุขเสิ่นจิ้นท่านยายสกุลถังได้ให้ข้านาสิ่งนี้มามอบให้ท่าน”หลังจากที่
มี่ฮวาได้นั่งพักเธอก็ได้นากล่องไม้ที่ท่านยายให้มามอบให้กับประมุขเสิ่นจิ้น
“ของในกล่องคืออะไรรึ”เสิ่นจิ้นพูดขึ้นพร้อมรับกล่องจากมือของมี่ฮวา
“ท่านยายบอกข้าแค่ว่ามันเป็นสมุนไทรเท่านั้น”มี่ฮวาตอบเธอก็อยากรู้มากๆว่า
ของในกล่องนั้นเป็นอะไรแต่ด้วยว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอไม่ได้ถูกอนุญาตให้เปิดเธอ
จึงไม่ได้แตะต้องมัน
“ดีๆ ท่านยายของพวกเจ้านี้รู้ใจข้าจริงๆสมแล้วที่เคยเป็นเพื่อนร่วมท่องยุทธภพ
ด้วยกันมา”เสิ่นจิ้นพูดขึ้นด้วยความดีใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้เห็นในกล่อง
“ประมุขข้าขอเสียมารยาทสิ่งที่อยู่ในกล่องมันคือสมุนไพรอะไรทาไมท่านถึงดู
พึงพอใจเป็นพิเศษ”พ่อบ้านประจาตระกูลพูดขึ้นหลังจากที่เห็นอาการของ
ประมุขที่ดูมีความสุขมาๆ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อย
“ข้าจะบอกให้นะสมุนไพรในกล่องนี้คือต้นชื่อเสา เป็นสมุนไพรที่หายากเอาการ
ทาให้ราคาสูงมากในตลาด
ต้นชื่อเสาเป็นตัวยาสาคัญของการทายาชั้นดีๆมากมาย ข้าไม่ได้เห็นมันมาซักพัก
แล้ว”เสิ่นจิ้นพูดพลางนาสมุนไพรเก็บใส่กล่องไม้เหมือนเดิมแล้วนากล่องไม้
มอบให้พ่อบ้านประจาตระกูลเพื่อให้ชายชรานาไปเก็บ
“ท่านประมุขเสิ่นจิ้น เมื่อซักครู่ท่านได้พูดว่าท่านเคยท่องยุทภพกันท่านยายของ
พวกข้าท่านช่วยเล่าให้ฟังได้หรือไม่ พวกข้าอยู่กับท่านยายที่สานักท่านไม่เคยเล่า
อะไรให้พวกข้าฟังเลย”ลี่ถังพูดขึ้น
“ยายเฒ่านั้นไม่เคยเล่าให้พวกเจ้าฟังเลยรึ...ข้าจะเล่าให้พวกเจ้าฟังก็ได้”เสิ่นจิ้น
พูดพลางลูบเคราอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าของเขาเริ่มยิ้มแย้มอีกครั้งเมื่อนึกถึงชีวิต
สมัยที่เค้ายังหนุ่มและยังโลดแล่นอยู่ในยุทธภพกับเหล่ามิตรสหายของเขา
“ท่านพ่อข้าสกัดตัวยาจากหญ้าผลึกเย็นสาเร็จแล้วท่านพ่อจะให้ข้าทาอย่าไรต่อดี
เจ้าคะ”เสียงของหญิงสาวผมดายาว มีปิ่นปักผมม้วนเป็นทรงอย่างเรียบร้อยรับ
กับใบหน้าที่อ่อนเยาว์ดูน่ารักสดใสของหญิงสาวได้ดังขึ้นขันบทสนทนาทั้งหมด
การแต่งตัวของเธอดูสวยงามเรียบร้อยตามแบบวิธีลูกคุณหนูในมือของเธอมีถ้วย
ใบเล็กขาวสะอาดทาให้สายตาของคนทั้งหมดหันมาสนใจเพียงเธอผู้เดียว
“ข้าอภัยที่เสียมารยาทพอดีข้าไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านพ่อกาลังมีแขกอยู่ ข้าขอตัว
ก่อน”หญิงสาวพูดขึ้นก่อนที่จะก้นหัวเป็นการขอโทษอีกครั้งและกาลังจะเดิน
ออกไป
“เสิ่นอวี๋เจ้ามาก็ดีแล้ว เข้ามานั่งกับพ่อก่อนมา”เสิ่นจิ้นพูดขึ้น
“เจ้าค่ะท่านพ่อ”หญิงสาวรับคาโดยว่าง่ายและเข้ามานั่งที่นั่งข้างๆเสิ่นจิ้นอย่าง
เรียบร้อยพลางนาถ้วยใบเล็กสีขาวของเธอยื้นให้ประมุขเสิ่นจิ้นรับถ้วยไป
“นี้ลูกสาวแสนรักของข้านางชื่อเสิ่นอวี๋และนี้ลูกศิษย์หญิงทั้งสองแห่งสานักสกุล
ถังเจ้าทาความรู้จักกันไว้สิ”เสิ่นจิ้นรับถ้วยจากเสิ่นอวี๋เสร็จแล้วก็นามาวางไว้แล้ว
ทาการแนะนาลูกสาวกับจอมยุทธหญิงทั้งสอง
“คารวะคุณหนูเสิ่นอวี๋ข้ามีนามว่ามี่ฮวา และนี้ศิษย์น้องของข้านามว่าลี่ถัง”
“คารวะท่านจอมยุทธทั้งสองยินดีที่ได้พบท่าน”
หญิงสาวทั้งสามทาการคารวะกันเป็นการทักทายผูกไมตรีซึ่งกันและกันเพื่อสร้าง
สัมพันธ์ไมตรีต่อกัน
“รู้จักกันไว้ก็ดีกาลต่อไปความสัมพันธุ์ระหว่างถังและตระกูลเสิ่นจะได้คงอยู่
สืบไป”ประมุขเสิ่นพูดอย่างอารมณ์ดีที่อนาคตของทั้งสองสานักได้มาเจอกัน
“นี่เสิ่นอวี๋เจ้าเคยอยากฟังเรื่องตอนข้าท่องยุทธภพใช่ไหม ข้ากาลังจะเล่าให้จอม
ยุทธทั้งสองฟังพอดีเจ้าอยากอยู่ฟังด้วยหรือไม่”ประมุขเสิ่นจิ้นกล่าวพลางมองไป
ที่ลูกสาวของตน
“ข้าอยากฟังสิท่านพ่อ”เสิ่นอวี๋กล่าวด้วยความดีใจลอยยิ้มที่ดูสดใสเปรียมไปด้วย
ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆพุดออกมาทันที
“ข้าหน่ะเมื่อตอนยังหนุ่มข้าไปออกเดินทางท่องเที่ยวยุทธภพด้วยความคึกคนอง
ตามภาษาวัยรุ่น ข้าไปเจอกับท่านยายของพวกเจ้าที่ศาลาวัฒนะเมืองจินหลิงตอน
นั้นทั้งข้าและยายเฒ่ากาลังไปตามหาปลาแดงเพื่อนาเกร็ดมาสกัดเป็นยาเอาไว้ใช้
ในการเดินทางท่องเที่ยวในยุทธภพเพียงลาพัง”เสิ่นจิ้นพูดสิ่งต่างๆเมื่ออดีต
สายตาก็จับจ้องไปยังถ้วยชาที่เขาถืออยู่
“พวกท่านได้ประมือกันหรือไม่”ลี่ถังพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“หึๆแน่นอนในเมื่อสิ่งที่พวกข้าต้องการเป็นสิ่งเดียวกันและปลาแดงก็เป็นปลาที่
หายากทาให้พวกข้าต้องเปิดศึกแย่งชิงปลากัน พูดแล้วข้าก็รู้สึกอับอายถ้าใครรู้
เค้าคงหัวเราะเยอะพวกข้าว่าเมื่ออดีตเจ้าสานักที่มีชื่อเสียงไปต่อสู้เพื่อแย่งชิงปลา
เพียงตัวเดียว ฮาๆ”ประมขเสิ่นหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ คงเป็นเวลาแสน
นานแล้วที่ชายชราไม่ได้ทาสิ่งสนุกสนานเช่นนี้เหมือนเมื่อครั้งในอดีต
“แล้วผลเป็นยังไงเหรอท่านประมุขจิ้น”มี่ฮวากล่่าวขึ้นเธอก็อยากจะรู้เช่นกัน
เพราะการต่อสู้ของเหล่าจอมยุทธที่มีพลังลมปราณสูงส่งจะประมือกันนั้นหาดูหา
ชมได้ยากยิ่ง
“แน่นอน....ไม่มีใครแพ้ไม่มีใครชนะทั้งวิชาอาวุธลับและพลังปราณพวกข้าสูสี
กันมากพูดง่ายๆก็คือข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านยายเจ้าและท่านยายเจ้าก็รู้เช่นกันเรา
จึงหยุดการประลองแล้วมานั่งดื่มชาถามไถ่ที่มาซึ่งกันและกันสุดท้ายจึงได้ออก
เดินทางพร้อมกันโดยระหว่างทางก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องหญ้าพิษและหญ้า
สมุนไรพซึ่งกันและกันพอพวกข้าท่องยุทธภพจนสมใจแล้วก็เดินทางกลับมายัง
สานักและเจริญสัมพันธ์ไมตรีต่อกัน ทาหน้าที่เกื้อกูลกันดังที่พวกเจ้าได้เห็นพวก
ข้าสองคนได้พูดกันไว้ว่าเมื่อเราเป็นพันธมิตรกันว่า ถังล่วงรู้เสิ่น เสิ่นล่วงรู้ถัง
สองสิ่งรู้ล่วงกัน สัมพันธ์ไม่ผันแปร หึๆ”เสิ่นจิ้นพูดจบก็ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบแก้
กระหาย
“ความสัมพันธ์นี้แน่แฟ้นยิ่งนับข้าน้อยนับถือๆขอแสดงการคารวะสัมพันธ์นี้ด้วย
น้าชาถ้วยนี้เถิด”มี่ฮวาพูดพลางรินน้าชาลงในถ้วยของนาง ยกถ้วยชามาทาการ
คานับเสิ้นจิ้นแล้วยกชาดื่มจนหมด
“ถ้าลี่ถังเช่นกันขอแสดงการคารวะด้วยชาถ้วยนี้ด้วย”ลี่ถังรินชาใส่ถ้วยตนเอง
และทาการยกถ้วยชาคารวะประมุขเสิ่นจิ้นเช่นกันกับที่มี่ฮวาทา
“ข้าเสิ่นอวี๋ในนามของคนตระกูลเสิ่นขอดื่มชาถ้วยนี้เพื่อแสดงการคารวะ
ความสัมพันธ์ของสองสานักเราเช่นกัน”เสิ่นอวี๋ว่าเสร็จนางรินน้าชาลงในถ้วยชา
ของนางทาการยกถ้วยชาคารวะศิษย์สกุลถังทั้งสองและดื่มชาจนหมดแก้ว
“ดีๆข้าเห็นแล้วก็ชอบใจนักสิ่งที่พวกเจ้าทาเหมือนตอนที่พวกข้าสาบานต่อบรรพ
ชนของสานักเลยว่าจะเป็นมิตรต่อกันเมื่อครั้งวันวานเลย พวกเจ้าทั้งสองพักที่นี้
จนกว่าจะพอใจแล้วค่อยเดินทางต่อเถอะ เสิ่นอวี๋ต่อจากนี้เจ้าก็เรียกจอมยุทธทั้ง
สองว่าพี่เถอะวันนี้ข้ามีความสุขมากจริงๆข้าขอไปค้นสูตรทายาจากซื่อเสาก่อน
เจ้าเสิ่นอวี๋พาพี่ทั้งสองของเจ้าไปพักเถอะและนี้ถ้วยที่เจ้าสกัดจากหญ้าผลึกเย็นมา
ให้เจ้านามันไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บวัสถุดิบเถอะเจ้าสกัดได้ดีสมเป็นลูกสาวข้าจริงๆ
ข้าไปละ เชิญท่านทั้งสองตามสบาย”เสิ่นจิ้นพูดสั่งลูกสาวองตนเสร็จก็เดินออก
จากห้องไปทางอื่นโดยมีพ่อบ้านเดินตามหลังไปด้วย
“พวกท่านคงจะรู้จักข้าแล้วดังนั้นข้าขอเรียกท่านว่าพี่มี่ฮวากับพี่ลี่ถังได้หรือไม่”
เสิ่นอวี๋พูดขอด้วยคาพูดอ่อนน้อมถ่อมตนและแสดงอาการเขินอายออกมาจน
บริเวณแก้ขาวของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ข้ายินดีน้องอวี๋ เจ้าอยากเรียกข้าอย่างไรก็เชิญเถิด”มี่ฮวาพูดขึ้นด้วยความดีใจ
ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความสุขนี้สิศิษย์น้องที่ข้าอยากได้สุภาพ เรียบร้อย ถ่อม
ต้น ดูว่านอนสอนง่ายไม่เหมือนศิษย์น้องแบบลี่ถังแม้แต่น้อย
“ข้าก็ยินดีเช่นกันน้องอวี๋”ลี่ถังพูดขึ้นมาด้วยความดีใจเช่นกันในใจเธอก็คิด
เช่นเดียวกับมี่ฮวา ว่าทาไมในสานักเธอไม่มีศิษย์พี่ที่ดีนิสัยสุภาพอ่อนโยนแบบนี้
บ้าง
“งั้นท่านพี่ทั้งสองตามข้ามาเถอะข้าจะพาท่านเดินชมที่นี่และพาไปห้องพัก”
เสิ่นอวี๋พูดและเดินนาทางทั้งสองออกมาจากเรือนของเสิ่นจิ้น
“ดีเลยน้องอวี๋ข้าพึ่งจะได้ลงจากสานักมาข้าอยากเปิดหูเปิดตาบ้าง”ลี่ถังพูดด้วย
ความตื่นเต้น
“ว่าแต่ทาไมพวกท่านถึงมาที่นี้ได้ละ”เสิ่นอวี๋ถามด้วยความสงสัยเพราะเวลาคน
จากสกุลถังมาก็มาเพียงส่งข่าวและสิ่งของไม่นานก็กลับแต่นี้อยู่พูดคุยกันซะนาน
จนเหมือนดูเป็นเรื่องใหญ่
“ท่านยายอยากให้พวกข้าออกมาท่องยุทธภพเพื่อเก็บประสบการณ์และเรียนรู้
โลกภายนอก”ลี่ถังกล่าว
“แล้วพวกท่านไม่กลัวรึพ่อข้าบอกว่าภายนอกสานักอัตราย ข้าไม่ควรออกไป
ไหนไกล”เสิ่นอวี๋ถามกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเธอเพราะเธอก็ถูกเลี้ยง
ดูมาแค่ภายในเขตสานักและเมืองเฉิงตูเท่านั้น
“ตอนแรกข้าก็กลัวและกังวลเช่นเจ้าแต่เมื่อได้ฟังเรื่องเมื่อครู่ข้าก็ไม่ลังเลที่จะ
เดินทางต่อเพราะท่านยายของข้าเมื่อท่านยังสาวยังออกเดินทางเองเราก็เป็นคน
หนุ่มสาวในสานักก็ควรเจริญลอยตาม”มี่ฮวาตอบออกมาอย่า
ไม่ลังเลกับสิ่งที่เสิ่นอวี๋ได้ถามเธอและนั้นทาให้คุณหนูแห่งตระกูลเสิ่นรู้สึกถูก
แทงใจดาขึ้นมาทันที
บทสนทนาของทั้งสามคนดาเนินต่อไปเรื่อยๆเพียงแต่ภายในจิตใจของเสิ่นอวี๋
กาลังคิดเรื่องบางเรื่องอยู่อย่างไม่ลดละแต่อย่างได้
“ท่านพี่ทั้งสองเชิญท่านพักที่ห้องนี้ได้ตามสบายข้าขอตัวไปทางานก่อนถ้า
ต้องการอะไรเพิ่มท่านบอกพวกสาวใช้ได้เลยข้าไปละ”เสิ่นอวี๋พาทั้งสองมาส่งถึง
ห้องแล้วนางก็กลับไปทางานของเธอทันทีระหว่างการทางานของเธอก็ได้คิดแต่
เรื่องที่ได้ฟังเธอเองก็อยากรู้โลกภายนอกเช่นกันเธอจะออกไปท่องเที่ยวยุทธภพ
ดีหรือไม่นะนี้คือคาถามที่กวนใจเธออยู่
เช้าวันถัดมา....
ลี่ถังและมี่ฮวาได้ทาการลาประมุขเสิ่นจิ้นเพื่อเดินทางต่อ เสิ่นจิ้นได้พยายามยื้อ
อยากให้ทั้งสองอย่าพึ่งรีบเดินทางแต่ลี่ถังและมี่ฮวาต้องการหาประสบการณ์ทา
ให้พวกเธอตัดสินใจพักในตระกูลเสิ่นเพียงแค่คืนเดียวเสิ่นจิ้นจึงมอบม้าให้แก้
ศิษย์สกุลถังทั้งสองเพื่อใช้ในการเดินทางไปจินหลิงต่อ ทั้งสองเดินทางออกมา
ได้ซักระยะก็พบกับสิ่งที่น่าประหลาดใจ
“พี่ลี่ถัง พี่มี่ฮวาท่านทั้งสองโปรดรอข้าก่อน”เสียงองเสิ่นอวี๋ดังไรไล่ทั้งสองมา
อย่างรวดเร็วนางควบมามาหยุดเทียบข้างของหญิงสาวทั้งสองที่เธอไล่ตามมา
“น้องอวี๋มีอะไรรึหรือว่าข้าลืมอะไรไว้ที่ตระกูลเสิ่นข้าต้องขอโทษด้วยที่ต้องให้
เจ้านามันมาให้”ลี่ถังกล่าวขึ้นด้วยความรวดเร็วเพราะเธอไม่อยากรบกวนเสิ่นอวี๋
ซักเท่าไหร่
”เปล่าเลยท่านพี่ลี่ข้าเเค่จะตามไปท่องยุทธจักรกับพวกท่านก็เท่านั้นเอง”เสิ่นอวี๋
พูดโดยน้าเสียงที่เหนื่อยหลังจากรีบออกมาจากสานัก
“แล้วเจ้าออกมาประมุขเสิ่นจิ้นทราบเรื่องรึยัง”มี่ฮวาถามด้วยความเป็นห่วงเธอ
เกรงว่าการรีบร้อนของเสิ่นอวี๋จะเป็นการหนีออกมาจากสานักโดยที่เธอไม่ได้
บอกพ่อและคนในสานักเสียก่อน
“ข้าได้คุยกับท่านพ่อเมื่อตอนกลางคืนที่ผ่านมาแล้วและท่านก็อนุญาตให้ข้าไป
เพราะข้าบอกว่าจะเดินทางไปกับพวกท่านทั้งสอง”เสิ่นอวี๋ยิ้มร่า
“ดีเลยเดินทางกันสามคนดีจริงๆ”ลี่ถังพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ
“งั้นข้าว่าเรารีบเดินทากันต่อเถอะจุดหมายต่อไปของเราคือจินหลิงเราจะไปตั้ง
ต้นที่นั้นแล้วค่อยคิดว่าเราจะไปทางไหนต่อ”มี่ฮวาพูดขึ้นและเธอก็ควยม้านาศิษย์
น้องและน้องหญิงของเธอไปที่จินหลิงอย่ารวดเร็วตามแบบฉบับของเธอ
การเดินทางไปจินหลิงของสตรีทั้งสามจะเป็นเช่นไรในระหว่างทางพวกเธอจะ
เจออะไรหรือไม่แล้วเมื่อถึงจินหลิงทิศทางการท่องยุทธภพของทั้งสามจะไป
ทิศทางไหน การมีเสิ่นอวี๋เข้ามาร่วมในการเดินทางจะเป็นผลดีหรือเป็นภาระให้
มี่ฮวาต้องเหนื่อยมากขึ้น ชีวิตจอมยุทธกับเมืองหลวงจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม
READING CHECK
จงลำกเส้นจำกจุดสกุลถังจนไปถึงสำนักเสิ่น(สำนักคุ้มภัยรำชสีห์
ทอง)เพื่อนำทำงให้ ลี่ถังและมี่ฮวำไปหำเสิ่นจิ้นและเสิ่นอวี๋
ตอนที่ 3 บุพเพสร้ำงสรรค์
เมื่อทั้งสามเดินทางมาถึงเมื่อหลวงก็เป็นเวลาใกล้ค่าแล้วทั้งสามจึงเดินทางเข้าไป
พักที่โรงเตี๊ยมประจาเมืองจินหลิงซึ่งโรงเตี๊ยมที่นี่ก็มีขนาดใหญ่โตสมกับที่อยู่ใน
เมืองหลวงระหว่างทางตั้งแต่เข้ามาทั้งสามได้เห็นความแตกต่างของบ้านเมือง
ตั้งแต่กาแพงเมืองที่สูงใหญ่ของจิงหลิงที่สูงและกว้างขวางกว่าของเฉิงตู
หลายเท่าตัวอาณาบริเวณเขตกาแพงกว้างใหญ่ไพศาลถ้าเดินคงเหนื่อยเอาการ ตึก
รามบ้านช่องที่มีมากกว่าเฉิงตูหลายเท่า การได้มาจินหลิงครั้งนี้ถือเป็นการเปิดหู
เปิดตาทั้งสามอย่างมากมันทาให้ความคิดของจอมยุทธหญิงทั้งสามที่เริ่มท่อง
ยุทธเปลี่ยนไปจากที่คิดว่าเฉิงตูเป็นเมืองที่ใหญ่ มีผู้คนมากมายจินหลิงกลับมี
มากกว่าหลายเท่าตัว เขตเมืองถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือทิศตะวันตก
เฉียงใต้ที่เป็นที่ตั้งของโรงเตี๊ยม และกรมกระทรวงต่างๆ ส่วนที่สองคือส่วนทิศ
ตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ตั้งของ บ่อนพนัน โรงละคร อีกทั้งยังมีสานักคุ้มภัย
ตั้งอยู่ด้วย ส่วนที่สามคือส่วนทิศตะวันออกคือส่วนพระราชวังทั้งหมด ทุก
สถานที่ภายในจินหลิงมีแม่น้าเข้าถึงทั้งหมดทาให้เกิดการค้าขายจากทั้งทางเรือ
และทางบก
“สุดยอดไปเลยน้องอวี๋จินหลิงช่างเป็นเมืองที่กว้างใหญ่จริงๆเจ้าคิดเหมือนข้า
หรือไม่”ลี่ถังพูดกับเสิ่นอวี๋ในระหว่างที่พวกเธอกาลังนั่งเล่นอยู่ในห้องพักของ
โรงเตี๊ยม
“ข้าก็คิดเช่นท่านเหมือนกันพี่ลี่เมืองนี้ช่างยิ่งใหญ่นักถ้าวันนี้ข้าไม่ตัดสินใจมากับ
พวกท่านก็คงจะเป็นกบในกะลาไปอีกนมนานเลยแหละ”เสิ่นอวี๋พูดจบนางก็อม
ยิ้มเล็กๆเป็นสิ่งที่แสดงถึงว่าเธอสุขใจที่เธอติดสินใจไม่ผิดในการออกท่องยุทธ
ภพ
“น้องอวี๋ข้าว่าเราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะในเมืองหลวงตอนกลางคืน
น่าจะสวยงามน่าดู”ลี่ถังพูดเสร็จก็ลุกขึ้นไปจับมือเสิ่นอวี๋เพื่อจะพานางออกไป
เที่ยวเล่นเป็นเพื่อนทันทีโดยทีอีกฝั่งยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“ลี่ถังเจ้าจะพาเสิ่นอวี๋ไปไหนนี้มันก็มืดค่าแล้วนะ”มี่ฮวาเดินเข้ามาขวางทันทีการ
ที่จะให้เด็กน้อยอ่อนต่อโลกสองคนไปข้างนอกตอนกลางคืนไม่ใช่เรื่องที่ดีแม้จะ
เป็นวรยุทธ์แต่ก็ควรจะระวังตัวไว้ก่อน
“ข้าจะไปเดินเล่นข้างนอกกับน้องอวี๋ท่านอย่ามาขวางทางจะได้หรือไม่”ลี่ถังเถียง
กลับขึ้นมาทันทีคาพูดและสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและทุกๆคนก็ดูออกว่าเธอ
กาลังโมโหที่มี่ฮวามาขัดจังหวะ
“ลี่ถังข้าไม่ให้เจ้าออกไปก็คือไม่สิเจ้าเป็นเพียงแค่ผู้หญิงออกไปเวลานี้มันไม่
สมควรหรอกนะ”มี่ฮวาด้วยความที่เธอมีความอาวุโสกว่าเธอจึงสงบอารมณ์และ
พยายามจะอธิบายให้ศิษย์น้องขี้เอาแต่ใจของเธออย่างใจเย็น
“ข้าว่าพี่ทั้งสองใจเย็นๆก่อนเถอะ พี่ลี่ข้าว่าเวลานี้เราพักผ่อนกันก่อนเถอะอย่าพึ่ง
ออกไปไหนเลย พึ่งจะเดินทางมาเหนื่อยๆด้วย”เสิ่นอวี๋เห็นถึงสถานการณ์ที่ดูอึด
อัดและถ้าปล่อยไว้แบบนี้น่าจะเป็นการไม่ดีเธอจึงต้องตัดบทการสนทนาของ
ศิษย์สกุลถังทั้งสอง
“น้องอวี๋เจ้าก็เข้าข้างศิษย์พี่มี่ฮวาเหรอข้าไม่คุยกับเจ้าแล้ว”ลี่ถังเธอพูดขึ้นด้วย
ความน้อยใจที่เธอโดนขัดใจถึงสองครั้งหลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าห้องนอนและ
ไม่สนใจมี่ฮวาและเสิ่นอวี๋อีกเลย
“พี่มี่ฮวาเราจะทาอย่างไรต่อไปดี พี่ลี่ถังงอลเข้าห้องไปแล้ว”เสิ่นอวี๋พูดด้วยความ
กังวล
“ปล่อยไปเถอะเดี๋ยวก็ดีเองเจ้าก็ไปพักเถอะจะได้มีแรงเดินทางต่อ”มี่ฮวาพูดเสร็จ
เธอและเสิ่นอวี๋ก็เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อพักผ่อนเช่นกัน
หลายชั่วโมงต่อมา....
“จินหลิงช่างใหญ่โตและงดงามจริงๆ คุ้มค่าแล้วที่รอให้ศิษย์พี่และเสิ่นอวี๋หลับ
เสียก่อนแล้วค่อยแอบออกมา”ลี่ถังว่าพลางเดินเล่นในเมือง สองข้ามทางเต็มไป
ด้วยโคมไฟที่ประดับตกแต่งรอบๆเมือง ช่วงเวลานี้ก็ค่อนข้างจะมืดแล้วจึงทาให้
ดูเงียบสงัดกว่าช่วงเวลาหัวค่า จึงทาให้มีเพียงเธอคนเดียวที่กาลังเดินอยู่กลาง
ถนนในเวลานี้
“น้องสาว ดึกๆทาไมถึงมาเดินคนเดียวจ๊ะ”ชายแก่ขี้เมาเดินมาขวางทางที่ลี่ถัง
กาลังเดินอยู่อย่างสบายอารมณ์
“อี๋ ออกไปให้พ้นตัวข้าเลยนะตัวเจ้ามีแต่กลิ่นเหล้า อย่ามาใกล้ตัวข้า”กลิ่นเหล้า
จากชายแก่โชยเข้าจมูกลี่ถังอย่างรุนแรง เธอไม่ชอบกลิ่นเหล้าที่สุดทาให้เธอต้อง
เดินถอยตาแก่ขี้เหล้าออกมา
“จะเดินหนีไปไหนคนสวยมาให้ข้าเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า มาๆ” ชายแก่เดิน
ตามลี่ถังมาติดๆจนเอามือสากๆมาจับแขนลี่ถังอย่างถือวิสาสะ นั้นทาให้ความอ
แทนขอวลี่ถังหมดลงทันที กว่าเธอจะได้มีเวลานี้มันแสนจะหายากมากแค่ไหน
และบรรยากาศเงียบสงบใจจินหลิงที่โหยหาถูกพังลงด้วยตาแก่ขี้เหล้าคนเดียว
ตัวของเธอสั่นไปด้วยความโกรธ มืออีกข้างของเธอเตรียมที่จะสกัดจุดชีพจรทั่ว
ทั้งร่างของตาแก่หมายจะให้เขาตายในทันที
“นี่ท่านลุง ผู้หญิงเค้าไม่อยากไปด้วยก็ปล่อยนางไปเถอะดูนางสิ กลัวจนตัวสั่น
ไปหมดแล้ว”เสียงทุ้มต่าของชายปริศนาดังขึ้นจากข้างหลังของลี่ถังทาให้ปลาย
นิ้วของเธอหยุดชะงักทันที
ลี่ถังและชายแก่หลังไปมองที่มาของต้นเสียงซึ่งตอนนี้ได้มีบุรุษและสตรีที่ดู
เหมือนพวกขุนนางยืนอยู่ตรงหน้าห่างทั้งสองไปไม่ไกลนัก
“สวรรค์คงยังไม่อยากให้เจ้าตาย ตาแก่ขี้เหล้าเอ้ย”ลี่ถังคิดในใจ
“เจ้าเป็นใครมายุ่งเรื่องของข้าทาไม ข้าแค่มาเดินเล่นกับสาวงามก็เท่านั้นเองข้า
ไม่ได้ทาอะไรล่วงเกินนางซักหน่อย”ตาเฒ่าว่าพลางใช้สายตาโลมเลียลี่ถังตั้งแต่
หัวจรดเท้า สายตาที่เกิดจากฤทธิ์สุราบวกกับความลามกที่ออกมาจากตาเฒ่านี้
แทบจะทาให้ลี่ถังสงบจิตใจไม่ให้ลงมือกับตาเฒ่าตัณหากลับนี้ได้เลย
“พวกท่านทั้งสองช่วยข้าด้วยข้ากาลังขะโดนตาเฒ่านี้ขืนใจข้า ช่วยด้วย ช่วยข้า
ด้วย”ด้วยความที่ลี่ถังยังไม่อยากมีปัญหาเพราะว่าเผลอฆ่าคนในเขตเมืองหลวง
เธอจึดตัดสินใจตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ ใส่สีตีไข่ทาให้นางดูเป็นผู้หญิงอ่อนแอ
และน่าสงสาร นางจะได้พ้นจากเหตุการณ์นี่โดยไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง
“หน้าหนาซะจริงตาเฒ่า ดูจากสภาพแล้วยังไงเจ้าก็ขืนใจนางมารีบปล่อยนางซะ
ก่อนที่้ข้าจะลงมือ”เสียงของสตรีที่ปรากฎตัวพร้อมกับบุรุษผู้นั้นพูดขึ้นมาบ้าง
เธอมีน้าเสียงที่ดุดันและเเข็งกร้าวแต่ก็ยังมีความเป็นหญิงอยู่สายตาของเธอดูเอา
จริงเอาจัง อ่านใจยาก
“แม่นางเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้ารึไง ดูดีๆเข้าก็สวยไม่เบานะแต่ก็ยังสวยน้อยกว่า
แม่นางคนนี้อยู่ดี หึหึหึ”ตาเฒ่าตัณหากลับก็ยังไม่หยุดพูดจาเเทะโลมลี่ถังหน่าซ้า
ยังลามไปจนถึง หญิงสาวตาดุคนนั้นด้วย
“ท่านลุงท่านเคยเห็นตรานี้หรือไม่ถ้าท่านยังรักตัวเองก็ปล่อยแม่นางไปซะเถอะ”
บุรุษเสียงทุ้มต่าพูดขึ้นพร้อมกับชูตราที่ถูกสลักบนไม้ให้ตาเฒ่าดู
“พะ พะ พวกสุ สุนัขวังหลวง ไม่ข้ายังไม่อยากตายไว้ชีวิตถ้าเถอะ”หลังตาที่ตา
เฒ่านี้เห็นตราในมือของชายผู้นั้นก็เกิดอาการหน้าซีด พูดจาติดขัดและดู
หวาดกลัวอย่างมากจึงรีบวิ่งหนีและปล่อยมือลี่ถังทันที
“ปากเสีย ใครเป็นสุนัขวังหลวงกันตายซะเถอะตาแก่หมดบุญเอ้ย”แม่นางสายตา
ดุพูดขึ้นพร้อมกับกาลังจะพุ่งเข้าไปทาร้ายตาแก่ขี้เมาที่เกิดอาการหวาดกลัวจน
กาลังวิ่งหนีไปไกลออกไป
“หยุดนะหลี่อิน อย่าไปทาร้ายเค้า”เสียงของชายที่มาพร้อมกับเธอพูดห้ามไว้
ก่อนที่นางจะเข้าถึงตัวตาแก่ขี้เหล้าเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“แม่นางไม่เป็นไรใช่มั้ย พวกข้าทาให้ท่านตกใจรึเปล่า”ชายที่เข้ามาช่วยเดินตรง
เข้ามาหาลี่ถัง จนสามารถสังเกตุลักษณะของชายผู้นั้นได้ชัดเจน เขาเป็นผู้ชายที่มี
ดวงตาสีน้าตาลอ่อนสายตาหนักแน่น สุขุม จมูกโด่ง
คิ้วโค้งสวย ปากเป็นกระจับรับกับรูปหน้าได้เข้ากันอย่างมาก ชายผู้นี้เป็นหนุ่ม
หล่อคนหนึ่งเลยนี่นา แต่ทาไมตาเฒ่าจึงหวาดกลัวคนพวกนี้นัก
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ
ยุทธภพคู่บุพเพ

More Related Content

What's hot

ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูPadvee Academy
 
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริง
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริงแนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริง
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริงMuttakeen Che-leah
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาPadvee Academy
 
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณบทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณPadvee Academy
 
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไร
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไรIsหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไร
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไรศศิพร แซ่เฮ้ง
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูJani Kp
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์Padvee Academy
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงSirintip Denduang
 
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕Namon Bob
 
ถลกหนังไซออนนีส
ถลกหนังไซออนนีสถลกหนังไซออนนีส
ถลกหนังไซออนนีสMuttakeen Che-leah
 
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)พัน พัน
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูJani Kp
 
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธniralai
 

What's hot (20)

ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
 
test
testtest
test
 
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริง
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริงแนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริง
แนวทางศึกษาอิสลามให้ได้ซึ่งคำสอนที่แท้จริง
 
พระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนา
 
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณบทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
 
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไร
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไรIsหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไร
Isหรือisisคืออะไรจะแก้ไขอย่างไร
 
อนุตตรีย์ วัชรภา
อนุตตรีย์  วัชรภาอนุตตรีย์  วัชรภา
อนุตตรีย์ วัชรภา
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
 
โจ๊ก.
โจ๊ก.โจ๊ก.
โจ๊ก.
 
ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์ศาสนาซิกข์
ศาสนาซิกข์
 
ไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วงไตรภูมิพระร่วง
ไตรภูมิพระร่วง
 
จิรทีปต์
จิรทีปต์จิรทีปต์
จิรทีปต์
 
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕
ศาสนาพราหมณ์ บจ.๕
 
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลามศาสนาอิสลาม
ศาสนาอิสลาม
 
ถลกหนังไซออนนีส
ถลกหนังไซออนนีสถลกหนังไซออนนีส
ถลกหนังไซออนนีส
 
ศาสนาอิสลาม 402
ศาสนาอิสลาม 402ศาสนาอิสลาม 402
ศาสนาอิสลาม 402
 
360
360360
360
 
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ(อินเดีย)
 
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดูศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
 
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ
ศึกษาวิถีธรรมวิถีพุทธ
 

More from PT Protae

วิฬาร์สยาม
วิฬาร์สยามวิฬาร์สยาม
วิฬาร์สยามPT Protae
 
2560 project -1
2560 project -12560 project -1
2560 project -1PT Protae
 
ละครค่าย
ละครค่ายละครค่าย
ละครค่ายPT Protae
 
บทละครวันภาษาไทย
บทละครวันภาษาไทยบทละครวันภาษาไทย
บทละครวันภาษาไทยPT Protae
 
บทละครวันแม่
บทละครวันแม่บทละครวันแม่
บทละครวันแม่PT Protae
 
เมสLovestory
เมสLovestoryเมสLovestory
เมสLovestoryPT Protae
 
การแต่งกาย
การแต่งกายการแต่งกาย
การแต่งกายPT Protae
 
05siriyakorn project (1)
05siriyakorn project  (1)05siriyakorn project  (1)
05siriyakorn project (1)PT Protae
 
05siriyakorn project
05siriyakorn project 05siriyakorn project
05siriyakorn project PT Protae
 
ใบงานที่1
ใบงานที่1ใบงานที่1
ใบงานที่1PT Protae
 
พรบคอมพิวเตอร์
พรบคอมพิวเตอร์พรบคอมพิวเตอร์
พรบคอมพิวเตอร์PT Protae
 
แบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองแบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองPT Protae
 
Work1 604 20
Work1 604 20Work1 604 20
Work1 604 20PT Protae
 
แบบสำรวจตนเองคอมพ์
แบบสำรวจตนเองคอมพ์แบบสำรวจตนเองคอมพ์
แบบสำรวจตนเองคอมพ์PT Protae
 

More from PT Protae (16)

งาน
งานงาน
งาน
 
วิฬาร์สยาม
วิฬาร์สยามวิฬาร์สยาม
วิฬาร์สยาม
 
2560 project -1
2560 project -12560 project -1
2560 project -1
 
ละครค่าย
ละครค่ายละครค่าย
ละครค่าย
 
บทละครวันภาษาไทย
บทละครวันภาษาไทยบทละครวันภาษาไทย
บทละครวันภาษาไทย
 
บทละครวันแม่
บทละครวันแม่บทละครวันแม่
บทละครวันแม่
 
เมสLovestory
เมสLovestoryเมสLovestory
เมสLovestory
 
การแต่งกาย
การแต่งกายการแต่งกาย
การแต่งกาย
 
Cat of Siam
Cat of SiamCat of Siam
Cat of Siam
 
05siriyakorn project (1)
05siriyakorn project  (1)05siriyakorn project  (1)
05siriyakorn project (1)
 
05siriyakorn project
05siriyakorn project 05siriyakorn project
05siriyakorn project
 
ใบงานที่1
ใบงานที่1ใบงานที่1
ใบงานที่1
 
พรบคอมพิวเตอร์
พรบคอมพิวเตอร์พรบคอมพิวเตอร์
พรบคอมพิวเตอร์
 
แบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเองแบบสำรวจตนเอง
แบบสำรวจตนเอง
 
Work1 604 20
Work1 604 20Work1 604 20
Work1 604 20
 
แบบสำรวจตนเองคอมพ์
แบบสำรวจตนเองคอมพ์แบบสำรวจตนเองคอมพ์
แบบสำรวจตนเองคอมพ์
 

ยุทธภพคู่บุพเพ