ยุทธภพคู่บุพเพ
- 4. ณ เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนในเวลานี้ต่างมี
สานักฝึกวรยุทธ์มากมายเกิดขึ้น ร่วมทั้งสานักที่มีชื่อเสียงด้านการใช้อาวุธลับ
และยาพิษอย่างสกุลถัง สานักนี่เป็นสานักลึกลับยากที่จะเข้าถึงและหาตัวลูกศิษย์
สานักนี้ได้ยากยิ่ง บริเวณโดยรอบสานักล้อมรอบได้ด้วยค่ายกลอาวุธลับมากมาย
วรยุทธ์ของผู้คนในสานักสกุลถังก็ต่างเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วยุทธภพ
“ศิษย์น้อง ศิษย์น้องลี่ถังเจ้าออกมาจากห้องของเจ้าได้แล้วนะ นี่ลี่ถังข้าไม่ได้มี
เวลามาเรียกชื่อเจ้าทั้งวันหรอกนะ”มี่ฮวาศิษย์พี่หญิงแห่งสานักสกุลถังเธอเป็น
ผู้หญิงที่มีกริยางดงามและน่าเกรงขาม เธอมีดวงตาที่มุ่งมั่นอยู่เสมอบวกกับปาก
ที่สวยเข้ารูปและผิวขาวของเธอทาให้สิ่งเหล่านั้นไปเสริมให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ดู
น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เช่นเดียวกับที่ท่านยายแห่งสานักสกุลถังไว้ใจเธอ ซึ่ง
ในตอนนี้เธอก็ได้รับหน้าที่จากท่านยายให้มาตามศิษย์น้องสุดที่รักไปเข้าพบ ถ้า
ไม่ใช่คาสั่งของท่านยายเธอคงไม่ต้องมารอเด็กหัวดื้ออย่างลี่ถังอยู่แบบนี้
“ศิษย์พี่ไม่ต้องมาตามข้าไปฝึกวิชาหรอก ข้าเบื่อเต็มทนแล้วที่จะฝึกวิชาข้าอยาก
ทาอย่างอื่นบ้าง”เสียงใสๆของหญิงสาววัยแรกรุ่นที่แฝงได้ด้วยความเอาแต่ใจดัง
ออกมาจากด้านหลังประตูที่ปิดอยู่และลงกลอนอย่างแน่นหนา
“ศิษย์น้องข้าไม่ได้มาตามเจ้าไปฝึก การฝึกวรยุทธ์มันก็เป็นเรื่องของเจ้าถ้าเจ้าไม่
กลัวว่าท่านยายจะอับอายขายขี้หน้าชาวยุทธทั่วทั้งแผ่นดินเจ้าก็ไม่ต้องฝึกวรยุทธ์
ให้เสียเวลาหรอกนะ ลี่ถัง”มี่ฮวาพูดประชดกลับใส่ศิษย์น้อง เธอรู้ว่ายังไงถ้าพูด
ถึงท่านยายลี่ถังจะต้องออกมาแน่นอน เพราะลี่ถังเธอรักท่านยายมาก มากเหมือน
แม่ของเธอเลยทีเดียว
- 5. “แอ๊ด...” เสียงเลื่อนเปิดประตูไม้ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่สวยได้รูปของหญิง
สาว ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ประตูเปิดออก เธอทาสีหน้าไม่พอใจที่ศิษย์พี่ของ
เธอพูดกับเธอแบบนั้น เพราะเธอก็ไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหนซักหน่อยวรยุทธ์ก็อยู่
ในระดับที่ท่านยายยังชื่นชมทาไมศิษย์พี่ถึงพูดแบบนี้
“ศิษย์พี่มี่ฮวา ท่านมีเรื่องอะไรท่านก็พูดมาเถอะ ไม่เห็นจะต้องพูดว่าข้าเป็นคน
ไม่เอาไหนจนจะทาให้ท่านยายต้องขายหน้าทั่วทั้งแผ่นดินเลย” ลี่ถังบ่นอุบ
“ท่านยายให้ข้ามาตามเจ้าไปพบกับท่านยาย และตอนนี้ท่านยายรอเจ้านานแล้ว”
มี่ฮวาพูดเสร็จแล้วเธอก็หันหลังเดินนาหน้าศิษย์น้องแสนดื้อของเธอทันที
“แล้วทาไมศิษย์พี่ไม่บอกข้าแต่แรกเล่า ถ้าบอกว่าเป็นท่านยายข้าก็คงไม่ปล่อยให้
ท่านรอนานหรอก”ลี่ถังได้แต่เดินบ่นตามหลังศิษย์พี่ของเธอ จนมาถึงตาหนักเจ้า
สกุลถังซึ่งเป็นสถานที่ที่พานักของเจ้าสานักทุกๆรุ่นของสกุลถัง ตาหนักเจ้าสกุล
ถังนี้รายล้อมไปดอกไม้สวยงามนานาชนิด หากแต่ดอกไม้เหล่านั้นกลับไม่ใช่
ดอกไม้ธรรมดาแต่เป็นดอกไม้ที่เอาไว้เลี้ยงเหล่าผึ่งและแมลงพิษต่างๆ ตัว
ตาหนักถึงแม้จะออกแบบดูเรียบง่ายธรรมดาแต่ภายในตัวตาหนักมีกลไกลอาวุธ
ลับมากมายที่อยู่ทุกซอกทุกมุมและพร้อมที่จะฆ่าเหล่าอริที่คิดร้ายกับเหล่าเจ้า
สานักอย่าเลือดเย็น...
“ท่านยาย ข้าน้อยลี่ถังมาตามคาสั่งท่านยายแล้วเจ้าค่ะ”ลี่ถังรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับ
ทาการคาราวะท่านยาย เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสเสมอๆเหมือน
ทุกๆครั้งที่เธอมาหาท่านยาย
- 6. “ศิษย์น้องในเขตตาหนักของท่านยาย เจ้าอย่าวิ่งสิ”มี่ฮวาวิ่งตามหลังศิษย์น้องมา
ติดๆ จนมาถึงหน้าห้องท่านยาย
“พวกเจ้าทั้งสองคนมาหาข้าเงียบๆไม่ได้รึอย่างไรวิ่งมาซะเสียงดังเชียว”เสียง
หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้น เจ้าของเสียงนั้นคือท่านยายแห่งสานักสกุลถังและยัง
เป็นเจ้าสานักคนปัจจุบันของสานักสกุลถังอีกด้วย เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มี
หน้าตาสะสวยเหมือนนางพญา ในแววตาของเธอมีทั้งความอ่อนโยนและ
เด็ดขาดทาให้ตัวของเธอเป็นสตรีที่ได้รับการยกย่องว่ามีทั้งความงดงาม อานาจ
และวรยุทธ์ที่สูงส่งในยุทธจักรด้วยภาพลักษณ์นี้ทาให้เมื่อเธอไปปรากฏตัวที่
ไหนทุกๆคนต้องยาเกรงเธอผู้นี้
“คาราวะท่านยาย ข้าพาศิษย์น้องมาเข้าพบท่านแล้ว ศิษย์ขอตัวก่อน”มี่ฮวาเดินเข้า
มาคานับท่านยายก่อนที่จะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนมี่ฮวา เจ้าอย่าพึ่งไปข้ามีงานให้เจ้าไปทา”ท่านยายพูดขึ้นก่อนที่มี่ฮวา
จะเดินออกจากห้องไป เธอรู้ว่ามี่ฮวารีบร้อนเพราะมีหลายๆอย่างให้ศิษย์พี่ใหญ่
อย่างเธอต้องจัดการแม้ว่าเธอจะสงสารลูกศิษย์แค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถเข้าไป
ช่วยได้เนื่องจากเธอก็ต้องดูแลกิจการอย่างอื่นของสานักเช่นกันเพราะสกุลถัง
ไม่ใช่แค่สานักฝึกวรยุทธทั่วไปอย่างเสาหลิน หรือ ง้อไบ๊ แต่สานักสกุลถังยังทา
ธุรกิจค้าขายอาวุธลับและยาพิษอีกด้วยทาให้เธอต้องมอบงานดูแลสิ่งต่างๆที่ต้อง
ดูแลในสานักให้มี่ฮวาซึ่งเป็นศิษย์พี่ใหญ่ทาแทน
“ศิษย์น้อมรับคาสั่งท่านยาย”มี่ฮวาเดินกลับเข้ามาหน้าท่านยายแล้วทาการคาราวะ
อีกครั้ง
- 16. ในที่สุดฉัน ลี่ถังก็ได้ออกจากสานักแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้ออกมาท่องเที่ยวยุทธภพ
ที่แสนสนุกและน่าตื่นเต้นเหมือนที่คนอื่นได้พูดไว้ซักทีและตอนนี้ฉันกาลังนั่ง
รถมาจากสานักมาที่เฉิงตูอยู่ นั้นไงตัวเมืองเฉิงตูในที่สุดขาก็ได้เห็นซักทีสิ่ง
ใหม่ๆที่ไม่มีในสานักน่าสนุกจริงๆเลย
“นี่คนรถม้า ท่านให้ม้าวิ่งเร็วกว่านี้หน่อยสิข้าอยากเข้าเมืองแล้ว”ลี่ถังตะโกน
บอกตาลุงที่ขับรถม้าอยู่ข้างหน้า
“นี่ลี่ถังถ้าเห็นเข้าอยู่ไม่สุขเลยเจ้านั่งอยู่นิ่งๆบ้างไม่ได้รึไงเดี๋ยวก็ย้ายไปนั่งตรงนั้น
ตรงนี้อยู่ไม่นิ่งเป็นลูกลิงเลย”มี่ฮวาพูดขึ้นเธอมองศิษย์น้องของเธออยู่ตลอด
ตั้งแต่ออกสานักมาลี่ถังไม่ได้นั่งนิ่งๆเลยเอาไปย้ายที่นั่งไปมองข้างทางฝั่งนั้นฝั่ง
นี้ไม่หยุดดีนะที่ในรถมามีเพียงสองคน
“ก็ข้าไม่เคยเห็นเมืองเฉิงตูนิตั้งแต่เด็กข้าก็อยู่แต่ในสานักท่านเคยมาแล้วนิท่าน
เลยไม่ตื่นเต้น”ลี่ถังพูดขึ้นเธอไม่สนใจคาพูดของมี่ฮวาหรอก อีกนิดก็ถึงเฉิงตูแล้ว
ถ้าเข้าเมืองเมื่อไหร่ฉันจะเที่ยวให้สุดๆเลย
“ตามใจเจ้าแล้วกันแต่ลงรถม้าเสร็จเราต้องไปโรงเตี๊ยมเพื่อหาที่พักก่อนเจ้าอย่า
คิดว่าจะหนีเที่ยวเด็ดขาด”มี่ฮวาสั่งศิษย์น้องทันที่เธอรู้ว่าลี่ถังคิดอะไรอยู่และ
ต้องห้ามไว้ก่อนเพราะเมื่อถึงในเมืองก็เท่ากับที่เขตอันตรายเพราะในเฉิงตูมีทั้ง
คนและจอมยุทธมากมายที่อยู่ในเมื่อมีแต่พวกรู้หน้าไม่รู้ใจ
“ถึงเฉิงตูแล้วขอรับคุณหนูทั้งสอง”เสียงของลุงขับรถม้าดังขึ้นหลังจากที่ล้อรถม้า
หยุดลง
- 38. “แม่นางเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้ารึไง ดูดีๆเข้าก็สวยไม่เบานะแต่ก็ยังสวยน้อยกว่า
แม่นางคนนี้อยู่ดี หึหึหึ”ตาเฒ่าตัณหากลับก็ยังไม่หยุดพูดจาเเทะโลมลี่ถังหน่าซ้า
ยังลามไปจนถึง หญิงสาวตาดุคนนั้นด้วย
“ท่านลุงท่านเคยเห็นตรานี้หรือไม่ถ้าท่านยังรักตัวเองก็ปล่อยแม่นางไปซะเถอะ”
บุรุษเสียงทุ้มต่าพูดขึ้นพร้อมกับชูตราที่ถูกสลักบนไม้ให้ตาเฒ่าดู
“พะ พะ พวกสุ สุนัขวังหลวง ไม่ข้ายังไม่อยากตายไว้ชีวิตถ้าเถอะ”หลังตาที่ตา
เฒ่านี้เห็นตราในมือของชายผู้นั้นก็เกิดอาการหน้าซีด พูดจาติดขัดและดู
หวาดกลัวอย่างมากจึงรีบวิ่งหนีและปล่อยมือลี่ถังทันที
“ปากเสีย ใครเป็นสุนัขวังหลวงกันตายซะเถอะตาแก่หมดบุญเอ้ย”แม่นางสายตา
ดุพูดขึ้นพร้อมกับกาลังจะพุ่งเข้าไปทาร้ายตาแก่ขี้เมาที่เกิดอาการหวาดกลัวจน
กาลังวิ่งหนีไปไกลออกไป
“หยุดนะหลี่อิน อย่าไปทาร้ายเค้า”เสียงของชายที่มาพร้อมกับเธอพูดห้ามไว้
ก่อนที่นางจะเข้าถึงตัวตาแก่ขี้เหล้าเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“แม่นางไม่เป็นไรใช่มั้ย พวกข้าทาให้ท่านตกใจรึเปล่า”ชายที่เข้ามาช่วยเดินตรง
เข้ามาหาลี่ถัง จนสามารถสังเกตุลักษณะของชายผู้นั้นได้ชัดเจน เขาเป็นผู้ชายที่มี
ดวงตาสีน้าตาลอ่อนสายตาหนักแน่น สุขุม จมูกโด่ง
คิ้วโค้งสวย ปากเป็นกระจับรับกับรูปหน้าได้เข้ากันอย่างมาก ชายผู้นี้เป็นหนุ่ม
หล่อคนหนึ่งเลยนี่นา แต่ทาไมตาเฒ่าจึงหวาดกลัวคนพวกนี้นัก