งานคอมพิวเตอร์

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ทาไมท้องฟ้าจึงมีสีฟ้า
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.น.ส.สิริยากร นิระโส เลขที่ 5ชั้น ม.6 ห้อง4
2.น.ส.สุกัลยากร ประพฤติธรรม เลขที่ 40ชั้น ม.6ห้อง4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน

2. 2
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
น.ส.สิริยากร นิระโส เลขที่ 5 ชั้นม.6 ห้อง 4
น.ส.สุกัลยากร ประพฤติธรรม เลขที่ 40 ชั้น ม.6 ห้อง 4
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ทาไมท้องฟ้าจึงมีสีฟ้า
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Why the sky is blue?
ประเภทโครงงาน
โครงานประเภทการทดลอง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.น.ส.สิริยากร นิระโส เลขที่ 5ชั้น ม.6 ห้อง4
2.น.ส.สุกัลยากร ประพฤติธรรม เลขที่ 40ชั้น ม.6ห้อง4
ชื่อที่ปรึกษา
ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
1-2 เดือน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)

3. 3
ความจริงแล้วท้องฟ้าก็ไม่ได้มีแค่สีฟ้าแค่สีเดียว มันจะเปลี่ยนสีตามช่วงเวลา แล้วทุกคนสงสัยไหมว่าสี
ท้องฟ้าที่เราเห็นจริงๆมันคืออะไร
สีของท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ตอนกลางวันท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ส่วนตอนเช้าและตอนเย็นท้องฟ้า
เป็นสีส้มแดง ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะอะไรกัน มันต้องมีสักครั้งที่คนเราจะคิดส่งสัยในสิ่งรอบตัวจน
อยากจะเกิดการหาคาตอบมันขึ้นมา ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่าเรื่องนี้ที่พวกเราสงสัยแล้วยังไม่ได้คนคว้า
หาข้อมูลเหมาะจะนามาทาเป็นโครงงานมากที่สุด มันเป็นเรื่องดีที่โครงงานของพวกเราจะตอบ
คาถามให้กับคนที่ไม่เคยรู้และคนที่อยากรู้ นอกจากจะได้ประโยชน์จากการค้นคว้าหาข้อมูลแล้ว ยัง
สามารถแบ่งปันข้อมูลนี้ให้กับคนอ่นได้อีกด้วย
ดังนั้นกลุ่มพวกเราจึงเลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับว่าทาไมท้องฟ้าจึงต้องมีสีฟ้าหรือว่าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
เท่านั้น
วัตถุประสงค์
1.รู้ว่าทาไมท้องฟ้าจึงมีสีฟ้า
2.รู้ว่าทฤษฎีใดนามาอธิบายเรื่องนี้
3.สามารถใช้เทคโนโลยีในการสืบคนได้ถูกต้อง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
เพื่อศึกษาให้รู้ เพื่อเพิ่มทักษะโดยประหยัดงบประมานให้ได้มากที่สุด
หลักการและทฤษฎี
สีของท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ตอนกลางวันท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ส่วนตอนเช้าและตอนเย็นท้องฟ้า
เป็นสีส้มแดง ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะ “การกระเจิงของแสง” (Scattering of
light) คลื่นแสงแต่ละสีมีขนาดความยาวคลื่นไม่เท่ากัน เมื่อตกกระทบโมเลกุลของอากาศ ก็จะเกิด
การกระเจิงของแสงที่แตกต่างกันออกไป คล้ายกับการที่คลื่นของน้าเมื่อกระแทกกับเขื่อน ถ้าขนาด
ของคลื่นเล็กกว่าเขื่อน (<d) คลื่นก็จะกระเจิงหรือสะท้อนกลับ แต่ถ้าขนาดของคลื่นใหญ่กว่าเขื่อน
(>d) คลื่นก็จะเคลื่อนที่ข้ามเขื่อนไปได้
ปัจจัยของการกระเจิงของแสง
ขนาดความยาวคลื่น: แสงสีน้าเงินมีคลื่นสั้น แสงสีแดงมีคลื่นยาว แสงคลื่นสั้นเกิดการกระเจิงได้
ดีกว่าแสงคลื่นยาว

4. 4
ขนาดของอุปสรรค: โมเลกุลของก๊าซในบรรยากาศมีขนาดเล็ก ส่วนโมเลกุลของไอน้า และฝุ่นที่
แขวนลอยในบรรยากาศมีขนาดใหญ่
มุมที่แสงตกกระทบกับบรรยากาศ: แสงอาทิตย์เวลาเที่ยงทามุมชันกับพื้นโลก แสงเดินทางผ่าน
มวลอากาศเป็นระยะทางสั้น ทาให้แสงเดินทางผ่านอุปสรรคไม่มากนัก ส่วนในตอนเช้าและตอนเย็น
แสงอาทิตย์ทามุมลาดกับพื้นโลก แสงเดินทางผ่านมวลอากาศเป็นระยะทางยาว ทาให้อุปสรรคตาม
ทางเดินของแสงมีมาก
ปริมาณสารแขวนลอยในอากาศ: ในช่วงเวลาบ่ายและเย็น อากาศและพื้นผิวโลกมีอุณหภูมิสูง มี
ฝุ่นละอองลอยอยู่ในอากาศมาก เป็นอุปสรรคขวางกั้นทางเดินของแสง
แม้ว่ารังสีจากดวงอาทิตย์มีความยาวคลื่นที่ให้พลังงานสูงสุด (lmax) อยู่ในย่านสีเหลือง แต่เราจะ
มองเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีขาวในเวลากลางวัน เนื่องจากความเข้มของแสงอาทิตย์มีมาก
ท้องฟ้าเวลาเช้า และเวลาเย็น
แสงอาทิตย์ทามุมลาดกับพื้นโลก แสงเดินทางผ่านมวลอากาศเป็นระยะทางยาว อุปสรรคที่
ขวางกั้นมีมาก แสงสีม่วง คราม และน้าเงิน ไม่สามารถเดินทางผ่านอุปสรรคไปได้จึงกระเจิงอยู่รอบ
นอก ส่วนแสงสีเหลือง ส้ม และแดง กระเจิงในแนวราบตามแนวลาแสง ทาให้เรามองเห็นดวงอาทิตย์
และท้องฟ้าในบริเวณใกล้เคียงเป็นสีแดง
หมายเหตุ: ท้องฟ้าเวลาเย็นมีสีแดงมากกว่าตอนรุ่งเช้า เนื่องจากอุณหภูมิสูงในตอนบ่าย ทาให้
มีฝุ่นละอองในอากาศมากกว่าตอนเช้า ประกอบกับฝุ่นละอองในอากาศถูกชะล้างด้วยน้าค้างในตอน
เช้ามืด ดังนั้นตอนเย็นจึงมีการกระเจิงของแสงสีแดงมากกว่าตอนเช้า
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1.แบ่งการทางานว่าใครจะหาอะไร
2.นาความรู้ที่ค้นหามาประมวลผลด้วยกัน
3.อภิปรายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.อินเตอร์เน็ต
2.เครื่องปริ้น
3.ปากกาดินสอ

5. 5
งบประมาณ
ไม่เกิน 100 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ได้รับความรู้ตามที่ตั้งไว้ในวัตถุประสงค์
2.ฝึกการทางานเป็นทีม การแลกเปลี่ยนความรู้
3.ฝึกการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง
สถานที่ดาเนินการ
บ้าน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
วิทยาศาสตร์ : ฟิสิกส์

6. 6
คอมพิวเตอร์:การใช้เทคโนโลยี
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://portal.edu.chula.ac.th/lesa_cd/assets/document/lesa212/6/scattering/scattering.html
https://www.youtube.com/watch?v=eZwEY9G-x30