More Related Content
Similar to Final project (20)
Final project
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น (The problem of corruption)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นาย กรวิทย์ ขันตี ม.6/3 เลขที่ 1
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1.นาย กรวิทย์ ขันตี ม6/3 เลขที่ 1
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
The problem of corruption
ประเภทโครงงาน โครงงานประเภททฤษฎี
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย กรวิทย์ ขันตี
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นเป็นปัญหาสาคัญลาดับต้น ที่ส่งผลกระทบต่อการ
พัฒนาประเทศเป็นอย่างมากทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนคุณภาพ ชีวิตของประชาชนโดยตรง ปัญหา
คอรัปชั่นเกิดขึ้นในสังคมไทยมาช้านานและมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และพบปัญหาดังกล่าวเกือบ
ทุกภาคส่วน ถึงแม้รัฐบาลมีความพยายามป้องกันและแก้ไขมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าในความเป็นจริงแล้ว ปัญหา
การคอรัปชั่นก็ไม่ได้ถูกแก้ไขได้เท่าใดนัก เนื่องจากการรายงานผลการจัดอันดับค่าดรรชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่น
ประจาปี 2012 โดยองค์กรความโปร่งใสนานาชาติ พบว่าประเทศไทยได้37 คะแนน จากคะแนนเต็ม100 คะแนน ดี
ขึ้นกว่าปี2011 ซึ่งได้34 คะแนน แต่ยังคงต่ากว่าคะแนนเฉลี่ยของโลก(43 คะแนน) และ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบค่า
ดรรชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นของประเทศไทยในอดีตตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ( ค.ศ 1998) จนถึงปี พ.ศ. 2554 พบว่า ค่า
ดรรชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นยังอยู่ในระดับต่านั่นคืออยู่ที่ ระดับ32 จากคะแนนเต็ม100 คะแนน มาโดยตลอดตั้งแต่ปี
พ.ศ.2541 จนกระทั่งปี พ.ศ.2545 การคอรัปชั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดที่สามารถสะท้อนให้เห็นว่า
ประเทศไทยเป็น ประเทศที่มีปัญหาคอรัปชั่นในระดับที่สูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และทาให้
เห็นถึงการดาเนินงานในการต่อต้านการคอรัปชั่นของประเทศไทยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้น ยังไม่ประสบความสาเร็จ
เท่าที่ควร ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้มีความพยายามในการกาหนด และใช้มาตรการ ในการป้องกันและปราบปราม
การคอรัปชั่นอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ดังนั้น รัฐบาลควรจัดให้ ปัญหาการคอรัปชั่นนั้นเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติที่
ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันแก้ไข ปัญหาด้านการคอรัปชั่นเป็นปัญหาที่พบเกือบทุกประเทศทั่วโลก
- 4. 4
รูปแบบของการทุจริตคอร์รัปชั่น
การทุจริตสีดา หมายถึง การทุจริตที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องการว่ามีความผิดและสมควรถูกตาหนิ
การทุจริตสีเทา หมายถึง เป็นการกระทาที่คนส่วนหนึ่งเห็นว่าควรถูกลงโทษ แต่อีกส่วนหนึ่งเห็นต่างออกไป
และคนส่วนใหญ่มีความคิดคลุมเครือ
การทุจริตสีขาว หมายถึง เป็นการกระทาที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะชนชั้นนาในสังคมเห็นว่ายอมรับได้ เช่น
การแซงแถว การใช้อานาจในทางที่ผิด (เป็นการทุจริตที่น่ากลัวที่สุด)
ผลประโยชน์ทับซ้อนในปัจจุบัน มีอย่างน้อยที่สุด 15 แบบ คือ
1. การแสวงหค่าเช่าทางเศรษฐกิจ เช่น การผูกขาด การให้สัมปทาน และการเรียกเก็บส่วนแบ่งอย่างผิด
กฎหมาย โดยการสร้างการขาดแคลนเทียม เช่น ปัญหาการขาดแคลนน้าตาล
2. เครพโตเครซี (Kleptocracy ) เป็นการฉกฉวยทรัพยากรของรัฐมาเป็นของครอบครัวและอาจกระทาโดยการ
แปรรูปรัฐวิสาหกิจ
3. การมีผลประโยชน์ทับซ้อน สถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีผลได้ผลเสียส่วนตัว และผลดังกล่าวมีอิทธิพลต่อ
การตัดสินใจ หรือการกระทาหน้าที่โดยขาดความเที่ยงธรรม
4. การใช้อิทธิพลทางการเมืองหาผลประโยชน์จากตลาดหลักทรัพย์ (ปั่นราคาหุ้นตัวเอง)
5. ปกปิดการบริหารงานที่ไม่ถูกต้อง การปิดบังข้อมูลและให้การเท็จ เช่น การทุจริตกรณีลาไยและกล้ายาง
6. การใช้นโยบาย กฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับต่างๆอย่างมีอคติและลาเอียง (เช่น กรณี CTX และการ
ตรวจสอบคุณภาพข้าว)
7. การใช้อิทธิพลทางการค้า แสดงบทบาทเป็นนายหน้าหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน จากกาค้าต่างตอบแทน การ
แลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับประเทศคู่ค้า เช่น การแลกไก่กับเครื่องบินรบของรัสเซีย
8. การใช้ทรัพยากรของรัฐไปในทางมิชอบ การปลอมแปลงเอกสาร การฉ้อฉล การใช้กองทุนของรัฐ ไปเพื่อ
ผลประโยชน์ทางการเมือง เช่น การใช้ธนาคารของรัฐในโครงการประชานิยม
9. ไม่กระทาการตามหน้าที่แบบตรงไปตรงมา แต่ใช้ลัทธิพรรคพวกแทน เช่น การจัดฮั้วประมูล
10. การให้และการรับสินบน การขู่เข็ญบังคับและการให่สิ่งล่อใจ
11. การยอมรับของขวัญที่ไม่ถูกต้อง เช่น เช็คของขวัญมูลค่าสูง และสินบนมูลค่าสูง
12. ผู้บริหารประเทศทาตัวเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของประเทศ ดดยการใช้นโยบายประชานิยม (นักการเมืองให้
เงินทอง หรือสิ่งของของรัฐ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับการสนับสนุนจากประชาชน)
13. ใช้อานาจของตารวจ ทหาร และข้าราชการในทางที่ผิด (ข่มขู่ คุกคามและทาร้ายให้เกิดความเกรงกลัวในการ
ชุมนุมประท้วงนโยบายรัฐบาลและในการเลือกตั้ง)
14. ทุจริตการเลือกตั้ง ทั้งการซื้อเสียงและการทุจริตด้วยวิธีการต่างๆ
15. การบริจาคเพื่อช่วยเหลือการรณรงค์ที่ผิดกฎหมาย (การบริจาคให้แก่นักการเมืองและพรรคการเมืองรัฐบาล
เพื่อที่จะมีอิทธิพลต่อการกาหนดนโยบายและการออกกฎหมายของรัฐบาล