เล่มเล็ก
- 1. ประวัติโรงเรียน
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าพระราชทานพระราชทานทรัพย์
ส่วนพระองค์เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญ พระชนมายุครบ 50
พรรษา จานวน 30,000 บาท เพื่อสร้างโรงเรียนสตรีประจามณฑลอยุธยา
ขึ้นพระราชทานนามว่า "โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์" การก่อสร้างได้เริ่ม
ตั้งแต่ พ.ศ. 2460 ณ บริเวณวัดร้าง ชื่อวัดขวาง บนเนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน
38 ตารางวา เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน แล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2461 ถือ
เป็นอาคารเรียนหลังแรก ซึ่งต่อมาเรียกว่าอาคารพระราชทาน ปัจจุบันคือ
อาคาร 1
- 2. สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์แรก
พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี เมื่อทรงเจริญ
พระชันษาขึ้น พระองค์ก็มีพระสิริโฉมงดงาม เป็นที่พอพระทัยของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเข้ารับราชการเป็น
พระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5 ขณะที่มีพระชนม์15 พรรษา โดยมีพระองค์
เจ้าหญิง พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ 4 ที่รับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าใน
ช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับพระองค์ได้แก่ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี และพระองค์เจ้าสว่างวัฒนา โดยครั้งแรกที่
พระองค์ได้รับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5 นั้น พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาพระองค์ให้เป็น พระนางเธอ
พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี และในปีถัดมาก็ได้รับการสถาปนาเป็น พระนาง
เจ้าเสาวภาผ่องศรี พระราชเทวี
- 3. สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ
พระภรรยาเจ้าทั้ง 4 พระองค์มีพระเกียรติยศเสมอกันทุกพระองค์
พระเกียรติยศที่จะเพิ่มพูนนั้นขึ้นอยู่กับการมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเป็นสาคัญ
จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2423 เกิดเหตุการณ์สิ้นพระชนม์ของพระองค์เจ้า
สุนันทากุมารีรัตน์โดยเรือพระประเทียบล่มระหว่างโดยเสด็จแปร
พระราชฐานไปยังพระาชวังบางปะอิน จึงทาให้เกิดปัญหาในการจะออก
พระนามในประกาศทางราชการ ซึ่งนามาสู่การจัดระเบียบภายใน
พระราชสานักว่าด้วยตาแหน่งพระภรรยาเจ้าให้เป็นที่เรียบร้อย โดย
พระบาทสมเด็จพรจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
สถาปนาพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา
กุมารีรัตน์ พระราชเทวี" ซึ่งถือเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์แรก และ
พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา ขึ้นเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีพระองค์ต่อไป เฉลิม
พระนามาภิไธยว่า "สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระราชเทวี" โดยในวัน
งานพระเมรุมาศสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ ก็ได้มีประกาศยืนยัน
ฐานะสมเด็จพระอัครมเหสีให้ปรากฏเด่นชัดยิ่งขึ้นโดยเพิ่มคาว่า “บรม” เข้า
ไปในคุณศัพท์ของคาว่าราชเทวีอีกหนึ่งคา ดังนั้น พระนางเจ้าสว่างวัฒนาจึง
- 4. ได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระ
บรมราชเทวี" ซึ่งเป็นตาแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีเนื่องจากพระองค์เป็น
พระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
สมเด็จพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในรัชกาลที่ 5 ส่วนพระองค์เจ้าเสาวภา
ผ่องศรีนั้นได้รับการสถาปนาเป็นพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี
เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระอัครมเหสีลาดับที่สาม ภายหลังการสวรรคต
ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
พระบาทสมเด็จพรจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยา
เธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชโอรสในพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวร
ราชเทวี ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารพระองค์
ต่อไปพร้อมทั้งสถาปนาพระอิสริยยศของพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวร
ราชเทวี ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอัครราชเทวี ในฐานะ
เป็นพระชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นพระยศ
พระอัครมเหสีเช่นเดียวกับสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปในปี พ.ศ.
2440 เพื่อตรวจดูแบบแผนราชการแล้วนามาเปรียบเทียบปรบปรุงการ
ปกครองของราชอาณาจักรสยาม พร้อมกันนั้นก็เพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรี
กับอารยประเทศในยุโรป พระองค์จึงทรงมอบหมายให้สมเด็จพระนางเจ้า
เสาวภาผ่องศรีพระอัครราชเทวี ทรงดารงตาแหน่งผู้สาเร็จราชการแทน
พระองค์ซึ่งทรงปฏิบัติราชการแผ่นดินได้เรียบร้อยเป็นที่พอพระราชหฤทัย
ยิ่งนัก ด้วยพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถจรรยนุวัติปฏิบัติ ประกอบด้วย
พระราชอัธยาศัยสภาพสมด้วยพระองค์เป็นขัติยนารีนาถ และกอปรด้วยพระ
กรุณภาพยังสรรพกิจทั้งหลายที่ได้พระราชทานปฏิบัติมาล้วนแต่เป็นเกียรติ
- 5. คุณแก่ประเทศสยามทั่วไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระ
นามาภิไธย จาก สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอัครราชเทวี เป็น
"สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ" เป็นสมเด็จ
พระบรมราชินีนาถพระองค์แรกในประเทศไทย
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าเสาว
ภาผ่องศรี เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่ง
ประสูติแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เมื่อ
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2407 เป็นพระเจ้าลูกเธอชั้นเล็ก โดยรับราชการ
สนองพระเดชพระคุณเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระเชษภคินีอีก 2 พระองค์ได้แก่ พระองค์เจ้าสุนันทา
กุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ) และ
- 6. พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัส
สาอัยยิกาเจ้า)เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาส
ยุโรปนั้น พระองค์ทรงดารงตาแหน่งผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์และ
ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมราชินีนาถทาให้พระองค์ทรงเป็น
ปฐมบรมราชินีนาถของประเทศไทย มีตาแหน่งเป็นสมเด็จพระอัครมเหสี
ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ ยังทรงดารง
ตาแหน่งเป็นองค์สภานายิกา สภากาชาดไทยพระองค์แรกอีกด้วย
สวรรคต
พระเมรุมาศสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถสมเด็จพระศรี
พัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ทรงพระประชวรเรื้อรัง มี
อาการไข้รวมทั้งมีอาการพิษขึ้นในพระอันตะและการที่พระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตนั้น ได้นาความวิปโยคแสนสาหัส ที่
กระทบกระเทือนพระราชหฤทัยและการที่พระองค์ประทับอยู่แต่ประแท่น
- 7. บรรทม ทรงไม่ออกกาลังกาย ทามีให้น้าหนักพระองค์มาก จึงทาให้กระดูก
เปราะ จะเสด็จไปที่ใดก็ลาบากและพระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนือง ๆ มี
พระโรคาพาธมาประจาพระองค์คือพระวักกะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งแพทย์หลวง
ได้ถวายการรักษาอย่างดีตลอดมา แต่พระอาการไม่ดีขึ้นได้นายแพทย์สมิธ
นายแพทย์ประจาพระองค์เล่าว่า "คืนหนึ่งพระนางป่วยหนัก มีอาการ
อาเจียรทั้งคืน พอตีสองพระนางสิ้นสติปลุกไม่ตื่น มีอาการไข้ขึ้นสูงไม่ได้
สติ แต่พระวรกายยังอาเจียร เปรียบเสมือนคนหลับแต่ยังอาเจียนตลอด"
นายแพทย์สมิธระบุว่าเป็นเพราะพระยกนะ (ไต) วายหรือพระยกนะเสีย ทุก
ฝ่ายทั้งแพทย์และข้าราชบริพารช่วยกันเต็มที่ ที่จะรักษาพระองค์แต่ในเวลา
แปดนาฬิกาตอนเช้าวันต่อมาก็เสด็จสวรรคต มีบันทึกว่า สมเด็จพระอนุชาธิ
ราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถได้ทรงอยู่ดูแล
พระมารดาทั้งคืนจนรุ่งเช้า เมื่อข่าวการประชวรหนักของพระองค์พระโอรส
พระประยูรญาติและข้าราชบริพารต่างก็มาเฝ้าดูแลพระอาการด้วยความ
ห่วงใยโอรสพระองค์เดียวที่ไม่ได้เสด็จมาเลยก็คือ พระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราช
ชนนีทรงประชวรไข้พระวรกาย ทนพิษไม่ได้จึงเสด็จสวรรคตวันจันทร์ที่
20 ตุลาคม พ.ศ. 2462 พระชนมายุ 55 พรรษา ณ พระตาหนักพระราชวัง
พญาไทพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดาเนินพร้อม
ด้วย
พระบรมวงศานุวงศ์สรงน้าพระบรมศพ และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระ
โกศพระบรมศพประกอบพระลองทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานไว้ณ พระที่นั่ง
ดุสิตมหาปราสาท มุขตะวันตก ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบาเพ็ญ
พระราชกุศลอุทิศถวายสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนนีและ
- 11. ดอกไม้ประจาโรงเรียน
ต้นสารภีดอกใหญ่ จัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาด
กลาง มีความสูงของต้นประมาณ 8-15 เมตร หรืออาจสูงได้ประมาณ 10-25
เมตร เปลือกลาต้นเป็นสีน้าตาล เปลือกแตกเป็นสะเก็ดตลอดลาต้นตามกิ่ง
อ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง ชอบ
ดินร่วนซุยเจริญเติบโตได้ดีในที่ค่อนข้างชื้นและชอบแสงแดดจัดมีเขตการ
กระจายพันธุ์ในป่าดิบเขาป่าดิบแล้งและทุ่งหญ้าทางภาคตะวันออกและภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ระดับความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลางจนถึง
1,500 เมตร ในต่างประเทศจะพบต้นสารภีดอกใหญ่ได้ที่ประเทศลาว
กัมพูชา และเวียดนามดอกสารภีดอกใหญ่ ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ โดยจะ
ออกเป็นกระจุกตามลาต้น ตามกิ่งก้าน และตามง่ามใบ กลีบดอกเป็นสีขาว
ถึงสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอมแรง ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
- 19. วันกตัญญู
วันกตัญญู คือ วันที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถได้
เสด็จสวรรคต ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2462 โดยในวันที่20 ตุลาคมของ
ทุกๆปี ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์จะมาแสดง
ความเคารพต่อสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถเพราะท่านได้
สนับสนุนในการสร้างโรงเรียนเพื่อให้หญิงได้ได้รับความรู้เทียมเท่ากับ
ผู้ชาย “ข้าพระพุทธเจ้า นักเรียนโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ขอน้อมราลึก
ถึงพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระศรีพัชริทราบรมราชินีนาถ องค์
พระผู้ก่อตั้งโรงเรียนให้เป็นสถานศึกษาแก่เยาวชน” และยังมีการมอบ
ทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในทุกๆระดับชั้น การมอบเข็มรางวัลประพฤติดี
ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- 22. Bye Bye My Sister
Bye Bye My Sister งาน
อาลารุ่นพี่ม.6ของแต่ละปีการศึกษา รุ่นน้อง
จะนาดอกกุหลาบไปให้พี่รหัสและ...รุ่นพี่ที่
ปลาบปลื้มอยู่เป็นงานที่อบอุ่นมากกกกก
- 42. บรรณาธิการแถลง
หนังสือเล่มเล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ง 30205 โดยมีจุดประสงค์
เพื่อเป็นการศึกษาเกี่ยวกับโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ไม่ว่าจะเป็นประวัติ
ความเป็นมาของโรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ผู้ก่อตั้ง สถานที่ต่างๆใน
โรงเรียน ความเป็นอยู่ของผู้คนในโรงเรียนและอื่นๆอีกมากมายผู้จัดทาได้
เลือกหัวข้อเรื่องนี้ในการทาหนังสือเล่มเล็ก เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ
คณะผู้จัดทา