More Related Content
More from chaiwat vichianchai
More from chaiwat vichianchai (20)
บทที่ 4
- 1. บทที่ 4
ผลการวิจัย
ในการวิจัย การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social
Media) เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
เขต 26 ที่ http://chaiwat31.wordpress.com ใช้การสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 ซึง ่
เป็นรายวิชาคอมพิวเตอร์ที่สอน รวมทั้งกิจกรรมชุมนุมคอมพิวเตอร์ และกิจกรรมแนะแนว
1. ผลการทดสอบประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อ
สังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัด
มหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊ก
ด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
1.1 ผลการทดสอบประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online)
โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนดงบังพิสัยนว
การนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็ก
นักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com แบบภาคสนาม
ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของคะแนนจากการตอบคาถามท้ายหน่วย และคะแนนจาก
การทดสอบหลังเรียน แบบภาคสนาม (n=76)
คะแนนจากการตอบคาถาม คะแนนจากการทดสอบ E1/E2
ท้ายหน่วย หลังเรียน
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
84.17 66.45 84.17/66.45
จากตารางที่ 1 พบว่า การทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
(Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน
ดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
มีประสิทธิภาพ 84.17/66.45
1.2 ผลการทดสอบประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online)
โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน
ดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
แบบภาคสนาม ดังตารางที่ 2
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของคะแนนจากการตอบคาถามท้ายหน่วย และคะแนนจาก
การทดสอบหลังเรียน แบบภาคสนาม (n=92)
คะแนนจากการตอบคาถาม คะแนนจากการทดสอบ E1/E2
- 2. 19
ท้ายหน่วย หลังเรียน
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
75.25 77.66 75.25/77.66
จากตารางที่ 2 พบว่า การทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
(Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน
ดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
มีประสิทธิภาพ 75.25/77.66
1.3 ผลการทดสอบประสิทธิภาพของสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online)
โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนดงบังพิสัยนว
การนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
แบบภาคสนาม ดังตารางที่ 3
จากตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของคะแนนจากการตอบคาถามท้ายหน่วย และคะแนน
จากการทดสอบหลังเรียน แบบภาคสนาม (n=76)
คะแนนจากการตอบคาถาม คะแนนจากการทดสอบ E1/E2
ท้ายหน่วย หลังเรียน
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
84.25 71.84 84.25/71.84
จากตารางที่ 3 พบว่า การทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนามสื่อการเรียนรู้ออนไลน์
(Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน
ดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
ที่ http://chaiwat31.wordpress.com เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยสอนผ่านบล็อก
มีประสิทธิภาพ 84.25/71.84
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อ
สังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัด
มหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊ก
ด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยสื่อการ
เรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบังพิสัยนวการ
นุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็ก
นักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังตารางที่ 4
- 3. 20
ตารางที่ 4 แสดงคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบความแตกต่างของ
คะแนน เฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างในการทดสอบประสิทธิภาพ แบบภาคสนาม (n=76)
คะแนนการประเมินก่อน คะแนนการประเมินหลัง t-test
เผชิญประสบการณ์ เผชิญประสบการณ์
X SD. X SD.
9.32 0.59 10.05 0.87 5.24*
*P< .05 t (.05, df 19) =1.7291
จากตารางที่ 4 คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทีเรียน่
ด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบัง
พิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่อง
แก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
จากการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนาม ต่างกันอย่างมีค่านัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดย
นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยสื่อการ
เรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบังพิสัยนวการ
นุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็ก
นักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังตารางที่ 5
ตารางที่ 5 แสดงคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบความแตกต่างของ
คะแนน เฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างในการทดสอบประสิทธิภาพ แบบภาคสนาม (n=92)
คะแนนการประเมินก่อน คะแนนการประเมินหลัง t-test
เผชิญประสบการณ์ เผชิญประสบการณ์
X SD. X SD.
13.68 2.18 16.56 3.44 5.02*
*P< .05 t (.05, df 19) =1.7291
จากตารางที่ 5 คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทีเรียน
่
ด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบัง
พิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่อง
แก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
จากการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนาม ต่างกันอย่างมีค่านัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดย
นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
- 4. 21
2.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยสื่อการ
เรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบังพิสัยนวการ
นุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่องแก้ปัญหาเด็ก
นักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังตารางที่ 6
ตารางที่ 6 แสดงคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบความแตกต่างของ
คะแนน เฉลี่ยจากกลุ่มตัวอย่างในการทดสอบประสิทธิภาพ แบบภาคสนาม (n=76)
คะแนนการประเมินก่อน คะแนนการประเมินหลัง t-test
เผชิญประสบการณ์ เผชิญประสบการณ์
X SD. X SD.
12.34 2.78 14.36 2.99 5.21*
*P< .05 t (.05, df 19) =1.7291
จากตารางที่ 6 คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทีเรียน
่
ด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) โรงเรียนดงบัง
พิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 เรื่อง
แก้ปัญหาเด็กนักเรียนติดเฟซบุ๊กด้วยการสอนผ่านเว็บบล็อก ที่ http://chaiwat31.wordpress.com
จากการทดสอบประสิทธิภาพแบบภาคสนาม ต่างกันอย่างมีค่านัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดย
นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
2. ในการวิจัย ผลการตรวจสอบนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้
เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์
จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ใช้ Social Media “Facebook”
เพื่อการเรียนรู้และใช้ในการแลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนได้
ซึ่งเป็นรายวิชาคอมพิวเตอร์ที่สอน รวมทั้งกิจกรรมชุมนุมคอมพิวเตอร์ กิจกรรมแนะแนว และเก็บ
ข้อมูลจานวนนักเรียนที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) “Facebook” โดยใช้แบบบันทึกการ
สังเกต การส่งงานใน “Facebook group” Comdongbug ม.3, Comdongbug ม.5,
comdongbug ม.6 ดังตารางที่ 7
ตารางที่ 7 แสดงผลรวมทั้งหมด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแปลความหมาย
ของนักเรียนที่เรียนด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media)
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขต
พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ใช้ Social Media “Facebook”เพื่อการเรียนรู้และใช้ในการ
แลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนได้ แบบสังเกตพฤติกรรม (n=จานวน มัธยมศึกษาปีที่
3 (70คน),5 (92คน) ,6 (76คน) รวมจานวนนักเรียนทั้งหมด 238 คน)
แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ
ข้อ รายการพฤติกรรม ปฏิบัติ ไม่ปฏิบติ
ั
- 5. 22
1 การส่งงานใน เฟซบุ๊ค กลุ่ม Comdongbug ม.3 64 6
2 การส่งงานใน เฟซบุ๊ค กลุ่ม Comdongbug ม.5 85 7
3 การส่งงานใน เฟซบุ๊ค กลุ่ม Comdongbug ม.6 70 6
X 4.60 0.39
sd. 13.89 1.2
แปลความหมาย ( X =4.60) คือ นักเรียนทุกคนมี“Facebook” ที่ใช้ในการส่งงานได้
จากตารางที่ 7 พบว่า โดยเฉลี่ยจานวนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 ทีเรียน
่
ด้วยสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) เพื่อการเรียนรู้และ
ใช้ในการแลกเปลี่ยนความรู้ในการจัดกระบวนการเรียนการสอนได้ ในภาพรวมแล้วอยู่ในระดับ
นักเรียนทุกคนมี“Facebook” ที่ใช้ในการส่งงานได้( X =4.60)
3. ในการวิจัย ผลความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ (Online) โดย
ใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 โรงเรียนดงบังพิสัยนวการ
นุสรณ์ จังหวัดมหาสารคาม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ที่
http://chaiwat31.wordpress.com ใช้การสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3,5,6 ซึ่งเป็นรายวิชา
คอมพิวเตอร์ที่สอน รวมทั้งกิจกรรมชุมนุมคอมพิวเตอร์ และกิจกรรมแนะแนว
ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็น ดังตารางที่ 8
ตารางที่ 8 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแปลความหมายของนักเรียน
ที่เรียนจากสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ Online) โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media)
(n=(100) “จานวนมัธยมศึกษาปีที่ 3=29 คน,5=36 คน,6=35 คน)”
ความคิดเห็น จานวนทั้งหมด X SD. แปลความหมาย
1. นักเรียนชอบเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ 4.80 4.97 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
2. นักเรียนได้เสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 4.08 4.23 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
3. นักเรียนมีความสุขในการเรียน 3.96 4.10 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
4. นักเรียนมีโอกาสได้ตดสินใจด้วยตนเอง
ั 5.16 5.35 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
5. นักเรียนมีอสระในการเรียนมากขึน
ิ ้ 5.04 5.22 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
6. นักเรียนได้รับความรูเ้ หมือนเรียนกับครูตัวจริง 3.96 4.10 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เฉลี่ยรวม 4.50 4.66 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
จากตารางที่ 8 พบว่า โดยเฉลี่ยความคิดเห็นในภาพรวมของนักเรียนมีความคิดเห็นในระดับ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ( X =4.50) นักเรียนมีความคิดเห็นในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งเรียงตามลาดับ คือ
นักเรียนชอบเรียนด้วยบทเรียนออนไลน์ ( X =4.80) นักเรียนได้เสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
( X =4.08) นักเรียนมีความสุขในการเรียน ( X =3.96) นักเรียนมีโอกาสได้ตัดสินใจด้วยตนเอง
( X =5.16) นักเรียนมีอิสระในการเรียนมากขึ้น ( X =5.04) และนักเรียนได้รับความรู้เหมือนเรียนกับ
ครูตัวจริง( X =3.96)