More Related Content
Similar to Com project (20)
Com project
- 4. โรงเรียนเกือบแทบทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ไล่ไปจนถึงใหญ่มักจะประสบกับปัญหา
ของเศษอาหารภายในโรงเรียนที่เกิดจากการทานอาหารกลางวันเหลือหรือการไม่ทานบางอย่างบนจาน
อาหารของเด็กนักเรียน รวมไปถึงของครูเอง ทาให้ปริมาณเศษอาหารจากเด็กนักเรียนคนละเล็กละน้อย
สะสมเพิ่มขึ้นมากเกินจนไม่สามารถกาจัดได้หมด และเศษอาหารยังเป็นแหล่งรวมเชื่อโรคต่าง ๆ มากมาย
ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีเพื่อที่จะกาจัดเศษอาหาร เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมากับเศษอาหารเหลือ
พวกนี้ ดังนั้นผู้จัดทาจึงได้ไปศึกษาหาวิธีการต่าง ๆ ในการกาจัดเศษอาหาร ภายในโรงเรียน จนกระทั่งได้
เจอกับการทาน้าหมักชีวภาพ หรือ EM ที่ย่อมาจาก Effective Microorganisms เป็นการนาซากพืชซาก
สัตว์ หรือสารอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ มาหมักด้วยจุลินทรีจาเพาะ ทิ้งไว้สักระยะเวลาหนึ่งจะทาให้เราได้ปุ๋ย
ชีวะภาพที่เราสามารถนาไปใช้กับพืชผลทางการเกษตรของเรา เป็นการลดการใช้สารเคมีไปในตัว การทา
น้าหมักชีวะภาพนี้ยังเป็นการใช้หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 ในเรื่อง
ของการใช้อธรรมปราบอธรรม นอกจากจะลดปัญหาเศษอาหารแล้วยังได้พืชผลทางการเกษตรที่เจริญ
งอกงามไร้สารเคมีทาให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอีกด้วย
- 9. Effective Microorganism
นํ้าหมักชีวภาพ คือ นํ้าหมักที่ได้จากการหมักเศษซากพืช
ซากสัตว์หรือสารอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่นด้วยจุลินทรีย์
จําเพาะ ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากนํ้าตาลหรือนํ้าตาลทรายแดง
กระบวนการหมักของนํ้าหมักชีวภาพจะเกิดจากการย่อย
สลายสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์โดยใช้กากนํ้าตาล และนํ้าตาลจากสาร
อินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งเป็น 2 แบบ
- 11. 1. น้ำหมักชีวภำพจำกพืช
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
– ชนิดที่ใช้ผักและเศษพืช เป็นน้าหมักที่ได้จาก
เศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรหลังการเก็บและ
คัดแยกผลผลิต น้าหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้าข้น
สีน้าตาล มีกลิ่นหอม ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต
โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค และฮอร์โมน
เอนไซม์
– ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้าหมักที่ได้จากขยะใน
ครัวเรือน เช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้าหมัก
ที่ได้มีลักษณะข้นสีน้าตาลจางกว่าชนิดแรก และมี
กลิ่นหอมน้อยกว่า บางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นบ้าง
เล็กน้อย ต้องใช้กากน้าตาลเป็นส่วนผสม
Effective
Microorganism
- 13. วิธีท้ำ
ใช้พืชที่มีลักษณะสดใหม่ สมบูรณ์ อวบน้า โตเร็ว ไม่มีโรค(เน่า) ทุกส่วน ๆ ละไม่มากนักจากพืช
หลาย ๆ ชนิด ทั้งพืชที่กินได้และวัชพืช นามาสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือบดละเอียดให้ได้ปริมาณ 3 กก.
แล้วบรรจุเศษพืชที่ได้ลงในภาชนะ และเติมกากน้าตาลลงไป 1 ลิตร คนหรือเขย่าให้เข้ากัน ให้เศษพืช
จมอยู่ในกากน้าตาลตลอดเวลา ปิดฝาภาชนะ เก็บไว้ในที่มืดภายใต้ อุณหภูมิห้องนาน 7 วัน สามารถ
นาไปใช้ได้
กำรปฏิบัติระหว่ำงกำรหมัก
เขย่าภาชนะที่หมักพร้อมกับเปิดฝา วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เมื่อครบ 7 วัน ให้ดมกลิ่น ถ้าหอม
หวานแสดงว่า "ดี“ สามารถนาไปใช้ได้ ถ้าบูดเปรี้ยวแสดงว่า "ไม่ดี" ให้แก้ไขด้วยการเติมกากน้าตาล
หรือของที่ใส่ครั้งแรกแล้วหมักต่ออีก 3 วัน ถ้ามีกลิ่นหอมหวานก็แสดงว่า "ดี" ถ้ามีกลิ่นบูดเปรี้ยวอีก
ให้เติมน้าตาลอีกแล้วหมักต่อไปจนกว่าจะมีกลิ่นหอมหวาน เมื่อได้น้าหมักที่ดีแล้วให้เก็บไว้ในที่มืดภายใต้
อุณหภูมิห้อง เก็บได้นาน 6 เดือน - 1 ปี ระหว่างเก็บหากมีกลิ่นบูดเปรี้ยวให้เติมกากน้าตาลลงไป
สูตรที่ 1
ส้ำหรับ
พืชกินใบ
- 14. สูตรที่ 2
ส้ำหรับพืชผัก
กินดอกผล
วัสดุ
1) ผลไม้สุก (ฟักทองแก่, มะละกอทั้งเนื้อและเมล็ด กล้วยน้าว้า บวบเหลี่ยม มะเขือเทศ)
2) พืชสด (ช่วงใบแก่อ้วนเอาทั้งปลายยอดและปลายราก)
3) กากน้าตาล อัตราส่วน 2 : 1 : 1
วิธีท้ำ
ใช้พืชที่มีลักษณะสดใหม่ สมบูรณ์ อวบน้า โตเร็ว ไม่มีโรค(เน่า) ทุกส่วน ๆ ละไม่มากนัก จากพืชหลาย ๆ
ชนิด ทั้งพืชที่กินได้และวัชพืช นามาสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือบดละเอียดให้ได้ปริมาณ 3 กก. แล้วบรรจุเศษพืชที่
ได้ลงในภาชนะ และเติมกากน้าตาลลงไป 1 ลิตร คนหรือเขย่าให้เข้ากันให้เศษพืชจมอยู่ในกากน้าตาลตลอดเวลา
ปิดฝาภาชนะ เก็บไว้ในที่มืดภายใต้อุณหภูมิห้องนาน 7 วัน สามารถนาไปใช้ได้
กำรปฏิบัติระหว่ำงกำรหมัก
เขย่าภาชนะที่หมักพร้อมกับเปิดฝา วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เมื่อครบ 7 วัน ให้ดมกลิ่น ถ้าหอมหวาน
แสดงว่า "ดี“ สามารถนาไปใช้ได้ ถ้าบูดเปรี้ยวแสดงว่า "ไม่ดี" ให้แก้ไขด้วยการเติมกากน้าตาล หรือของที่ใส่ครั้ง
แรกแล้วหมักต่ออีก 3 วัน ถ้ามีกลิ่นหอมหวานก็แสดงว่า "ดี" ถ้ามีกลิ่นบูดเปรี้ยวอีกให้เติมน้าตาลอีกแล้วหมักต่อไป
จนกว่าจะมีกลิ่นหอมหวาน เมื่อได้น้าหมักที่ดีแล้วให้เก็บไว้ในที่มืดภายใต้อุณหภูมิห้อง เก็บได้นาน 6 เดือน - 1 ปี
ระหว่างเก็บหากมีกลิ่นบูดเปรี้ยวให้เติมกากน้าตาลลงไป
- 15. สูตรที่ 3
ส้ำหรับพืชผัก
ผลไม้ พืชไร่
นำข้ำว
วัสดุ
1) พืชสด (สูตร 1)
2) พืชสดและผลไม้สุก (สูตร 2)
3) ปลาเป็น ๆ หอยเชอรี่ ไข่หอยเชอรี่ กระดูกป่น
4) ตัวเสริม (ขี้เด็กทารก ขี้ไก่ค้างคอน ขี้นกปากห่าง ขี้เป็ดกินหอย ยาคูลท์ โยเกิร์ต กระทิงแดง ระลาเอียด)
5) กากน้าตาล ผสมในอัตราส่วน 1 : 1 : 1 : เล็กน้อย : พอท่วม
วิธีท้ำ
เตรียมวัสดุในการทานาหมักสูตร 1 และ สูตร 2 ตามอัตราส่วนที่กาหนด นาปลาสด (ทั้งตัว) หอยเชอรี่
ไข่หอยเชอรี่ มาบด โขลก สับให้ละเอียด เพื่อง่ายในการย่อยสลาย บรรจุเศษพืช เศษปลา เศษหอยที่บด โขลก
สับละเอียดแล้วลงภาชนะ (ควรเป็นโอ่งหรือภาชนะพลาสติกไม่แนะนาให้ใช้โลหะ) แล้วเติมกากน้าตาลลงไป
คลุกเคล้าพอคลุกคลิก เติมน้ามะพร้าวอ่อน คลุกเคล้าลงไปอีกเพื่อให้มีน้ามากขึ้นพอท่วมเศษวัสดุ คนหรือเขย่า
ให้เข้ากัน ให้เศษพืชจมอยู่ในกากน้าตาลตลอดเวลา ปิดฝาภาชนะเก็บไว้ที่มืดอุณหภูมิห้องนาน 7 วัน ก็สามารถ
นาไปใช้ได้
กำรปฏิบัติต่อปุ๋ยน้ำชีวภำพระหว่ำงกำรหมัก ปฏิบัติตำมสูตร 2 จนถึงขันตอนสุดท้ำย
- 16. 2) เตรียมดินแปลกปลูก หรือหลุมปลูกไม้ผล อัตราส่วน
30-50 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร ผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
5) เพิ่มเปอร์เซ็นต์ความงอกเป็นเวลา 12 ชั่วโมงของ
เมล็ดพันธุ์ อัตราส่วน 15-20 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร แช่เมล็ด
พันธุ์พอท่วมก่อนเพาะ
4) กาจัดน้าเสียโดย อัตราส่วน 75-100 ซี.ซี./น้า
20 ลิตร ราดให้ทั่วบริเวณน้าเสียหรือในคอกปศุสัตว์
3) ใช้แทนสารเร่งปุ๋ยหมัก อัตราส่วน 75-100
ซี.ซี./น้า 20 ลิตร พรมลงบนวัสดุทาปุ๋ยหมัก
1) พืชผักสวนครัว พืชไร่ ไม้ผลยืนต้น ให้ทางใบ อัตราส่วน
15-20 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร ทุก ๆ 5-7 วัน ควบคู่กับให้ทางราก
30-50 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร ทุก ๆ 15-20 วัน.
ส้ำหรับสูตร 1
- 17. 1) สูตร 2 เหมาะสาหรับพืชผักที่ใช้กินดอกผล เช่น
กะหล่าดอก แตงโม แตงกวา แตงเทศ แคนตาลูป
ถั่วฝักยาว ถั่วแปบ ถั่วเหลือง มะรุม น้าเต้า กุยช่าย
บวบต่างๆ มะเขือต่างๆ ฟักทอง ฟักเขียว พริกต่างๆ
4) สูตร 2 นี้ ใช้จนถึงระยะออกดอกติดผลก็ได้
3) ใช้อัตราส่วน 30 - 50 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร ราดทางดิน
สลับการฉีดทางใบ 5 - 7 วัน/ครั้ง จะทาให้ดินร่วนซุย
2) ใช้อัตราส่วน 0.5 - 20 ซี.ซี./น้า 20 ลิตร
ฉีดพ่นทางใบทุก ๆ 5 - 7 วัน/ครั้ง
ส้ำหรับสูตร 2
- 18. อัตราและ
วิธีการใช้
น้าหมักชีวภาพ
⇒ พืชไร่
1. ช่วงเตรียมดิน
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 5 ลิตร/น้า 20 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมักด้วยน้าในอัตราส่วนข้างต้น และฉีดพ่นดินก่อนการไถพรวนดิน
หรือไถกลบซังข้าว
2. การแช่ท่อนพันธุ์อ้อย และมันสาปะหลัง
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า 100 ลิตร
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมักด้วยน้าในอัตราข้างต้น พร้อมนาท่อนพันธุ์ แช่นาน 20-30 นาที
ก่อนปลูก
3. ช่วงการเจริญเติบโต
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 0.5-1 ลิตร/น้า 20 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : ฉีดพ่นบนต้นพืชทั้งระยะแตกกิ่ง แตกใบ ออกดอก และติดผล
- 19. ⇒ ข้ำว
1. การแช่เมล็ดพันธุ์ข้าว
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า 30 ลิตร/เมล็ดข้าว 20 กิโลกรัม
วิธีใช้ : แช่เมล็ดข้าว 1-2 วัน ก่อนหว่านเมล็ด
2. ช่วงเตรียมดิน
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า 40 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมักด้วยน้าในอัตราส่วนข้างต้น และฉีดพ่นดินก่อนการไถพรวนดิน
หรือไถกลบซังข้าว
3. ช่วงการเจริญเติบโต
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า 50 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมักด้วยน้าในอัตราส่วนข้างต้น แล้วฉีดพ่นต้นพืช
อัตราและ
วิธีการใช้
น้าหมักชีวภาพ
- 20. ⇒ พืชผัก และไม้ดอก
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า
50 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมัก และฉีดพ่นบน
ต้นพืชในทุกระยะ
⇒ ไม้ผล
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า
50 ลิตร/ไร่
วิธีใช้ : เจือจางน้าหมัก และฉีดพ่นบน
ต้นพืชในทุกระยะ โดยเฉพาช่วงออกดอก
และติดผล
⇒ บ่อกุ้งหรือบ่อปลา
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า 1
คิว
วิธีใช้ : เติมน้าหมักลงบ่อเลี้ยงทุก ๆ 1 เดือน
⇒ คอกเลี้ยงสัตว์
อัตราการใช้ : น้าหมักชีวภาพ 1 ลิตร/น้า
40 ลิตร/พื้นที่ 100 ตารางเมตร
วิธีใช้ : เจือจางด้วยน้า และฉีดพ่นบนลาน
หรือคอกสัตว์ บนตัวสัตว์ ทุก ๆ 1-3 เดือน
อัตราและ
วิธีการใช้
น้าหมักชีวภาพ
- 22. ประโยชน์ของน้าหมักชีวภาพ
1. ด้ำนกำรเกษตร
– ใช้ฉีดพ่นหรือเติมในดินหรือน้า ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด-
ด่าง ในดิน และน้า
– ใช้เติมในดิน ช่วยปรับสภาพโครงสร้างของดิน ทาให้ดินร่วนซุย
อุ้มน้าได้ดี และช่วยเพิ่มจานวนจุลินทรีย์ในดิน และน้า
– ช่วยเพิ่มอัตราการย่อยสลายสารอินทรีย์ในดิน และน้า
– ใช้รดต้นพืชหรือแช่เมล็ดพันธุ์ ท่อนพันธุ์ เพื่อเร่งการเกิดราก
และการเจริญเติบโตของพืช
– เป็นสารที่ทาหน้าที่เหมือนฮอร์โมนพืช กระตุ้นการเกิดราก
และการเจริญเติบโต ทาให้ผลผลิต และคุณภาพสูงขึ้น
– ใช้ฉีดพ่นในแปลงเกษตร ช่วยต้านแมลงศัตรูพืช และลดจานวน
แมลงศัตรูพืช
– ใช้ฉีดพ่นในแปลงผัก ผลไม้ หรือผลผลิตต่าง ๆ เพื่อป้องกันการ
ทาลายผลผลิตของแมลง
- 23. 2. ด้ำนปศุสัตว์
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นดินในฟาร์มเพื่อลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์
ซากพืช ซากสัตว์ในฟาร์ม
– ใช้เติมในน้าเสียเพื่อกาจัดน้าเสียด้วยการเพิ่มจานวนจุลินทรีย์
ในการย่อยสารอินทรีย์ในน้าเสีย
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นหรือตัวสัตว์เพื่อป้องกัน และลดจานวนของ
จุลินทรีย์ก่อโทษ และเชื้อโรคต่าง ๆ
– ช่วยป้องกันแมลงวัน และการเจริญเติบโตของหนอนแมลง
ต่าง ๆ
– ใช้ผสมอาหารสัตว์จาพวกหญ้าเพื่อเพิ่มจานวนจุลินทรีย์ใน
กระเพาะอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง
– ใช้หมักหญ้า ฟางข้าวหรือหญ้าอาหารสัตว์เพื่อให้เกิดการย่อย
ง่าย
ประโยชน์ของน้าหมักชีวภาพ
- 28. วิธีด้ำเนินงำน
1. วางแผนงานว่าจะเริ่มทาอะไรตรงไหนอย่างไรบ้าง อย่างเป็นระบบ
2. เริ่มสารวจว่าแต่ละวันเหลือเศษอาหารบริมาณเท่าไหร่บ้าง จด
บันทึกไว้และนาข้อมูลมาคานวนว่าในการทาน้าหมักแต่ละครั้งต่อเศษ
อาหารในแต่ละวันจะได้ออกมาในปริมาณเท่าไหร่
3. จัดหาอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ
จัดหาอุปกรณ์
4. ลงมือทาน้าหมักจากเศษอาหารโดยทาตามสูตรแต่ละสูตร ที่จะ
ให้ผลของน้าหมักที่ต่างกันออกไป และหมักตามระยะเวลาที่กาหนด
โดยหมั่นตรวจสอบและสังเกตการเปลี่ยนแปลงเสมอ ๆ
5. เมื่อถึงระยะเวลาที่กาหนดแล้ว นาน้าหมักที่ทาออกมาในแต่ละ
สูตรมาใช้ในแปลงเกษตร โดยกาหนดตัวแปลควบคุมคือ ชนิดของ
ต้นไม้ ปริมาณในการให้น้าหมัก ช่วงเวลาในการให้น้าหมัก แล้วบันทึก
ผลที่ได้
วิธีการจัดทาโครงงาน
- 29. ล้ำดับ ขันตอน
สัปดำห์
ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
- 31. โครงการสวนผักคนเมือง.//(2560).//ทาน้าหมักชีวภาพจากเศษอาหาร.//สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิ-
กายน 2562,/จาก/http://www.thaicityfarm.com/2018/02/19
บ้านไร่นาเรา.//(2559).// 4 สูตรน้าหมักชีวภาพยอดนิยม.// สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2562,/
http:// www.banrainarao.com/knowledge/biofer_10
เกษตรพื้นฐาน.//(2558).//น้าหมักชีวภาพ และวิธีทาน้าหมักชีวภาพ.// สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน
2562,/ https://puechkaset.com
ไทยรัฐ.//(2559).//น้าหมักชีวภาพสูตรพลิกโลก งอกเร็ว ต้านโรค เพิ่มผลผลิต.// สืบค้นเมื่อ 21
พฤศจิกายน 2562,/ thaicityfarm.com/2018/02/19/ทาน้าหมักชีวภาพจากเศษอ/
บ้านและสวน.//(2562).//ทาปุ๋ยจากเศษอาหาร ในครัวเรือน.//สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2562,/
จาก /https://www.baanlaesuan.com/44024/plant-scoop/fertilizer
บรรณานุกรม