More Related Content Similar to ระบบสืบพันธ์ุสตรี Similar to ระบบสืบพันธ์ุสตรี (20) ระบบสืบพันธ์ุสตรี5. หัวหน่าว
เป็นส่วนนูนเหนือต่อ pubic symphysis
ประกอบด้วยผิวหนังและชั้นไขมัน
ส่วนผิวหนังจะมีขน มีลักษณะหยาบหนาและหยิก
การเรียงตัวของขนในเพศหญิงจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่มีฐานอยู่
ด้านบน
22. การแบ่งส่วนต่างๆของช่องท้อง
1 2 3
4 5 6
87 9
1- Rt Hypochondriac region
2- Epigastric region
3- Lt Hypochondriac region
4- Rt Lumbar region
5- Umbilical region
6- Lt Lumbar region
7- Rt Ilioinguinal region
8- Hypogastric (pubic) region
9- Lt Ilioinguinal region
26. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ
อายุและสถานภาพสมรส
อาการสาคัญที่นาผู้ป่วยมาพบแพทย์ เช่นตกขาว, ตกเลือด
การเจ็บป่วยจากปัจจุบันและอดีต
การเจ็บป่วยในครอบครัวหรือโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ประวัติระดู อายุเริ่มมีระดูครั้งแรก, ลักษณะเลือดที่ออก, ระยะเวลา
ที่มา,ปริมาณเลือดที่ออก, ระดูปกติครั้งสุดท้าย (LMP)
ประวัติการตั้งครรภ์, การคุมกาเนิด, การมีบุตร, การแท้งการคลอด
บุตร
ประวัติการแพ้ยา, อาหาร
33. คาตอบ
P 3-1-1-4 หมายความว่า
ตั้งครรภ์ครบกาหนด 3 ครั้ง
คลอดก่อนกาหนด 1 ครั้ง
แท้ง 1 ครั้ง
ขณะนี้ เด็กมีชีวิต 4 คน
40. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
อาการปวดท้องน้อยเป็นมานาน 6 เดือน ขึ้นไป
อาการปวดท้องน้อยที่ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุได้
โดยใช้การตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ด้วยวิธีขั้นพื้นฐาน
อาการปวดท้องน้อยมีผลต่อผู้ป่วย เช่น เสียสุขภาพจิต
สมรรถภาพในการทางานในชีวิตประจาวันลดลง ใช้ยา
บรรเทาปวดเป็นเวลานาน อ่อนเพลีย นอนหลับ
ผิดปกติ ตลอดจนชีวิตสมรสถูกบั่นทอน
49. โรคระบบสืบพันธุ์สตรี
ไม่สัมพันธ์กับรอบระดู-พังผืดในอุ้งเชิงกราน (pelvic
adhesion) ,เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ (endometritis) ,ปีก
มดลูกอักเสบ (salpingo-oophoritis), กลุ่มอาการเนื้ อเยื่อรัง
ไข่เหลือในอุ้งเชิงกรานหลังการผ่าตัด (ovarian remnant
syndrome) ,กลุ่มอาการเลือดคั่งในอุ้งเชิงกราน (pelvic
congestion syndrome) ,เนื้ องอกของรังไข่ (ovarian
neoplasm) ,การหย่อนตัวของอุ้งเชิงกราน (pelvic
relaxation) ,อุ้งเชิงกรานอักเสบแบบเรื้อรัง (chronic pelvic
inflammatory disease)
51. โรคระบบทางเดินอาหาร
ก้อน fecaliths ในไส้ติ่ง (appendiceal fecaliths)
การอักเสบของ diverticulum (diverticulitis)
กลุ่มอาการลาไส้บิดตัวผิดปกติ (irritable bowel
syndrome)
โรคลาไส้อักเสบ (inflammatory bowel
syndrome)
53. โรคระบบกล้ามเนื้ อ กระดูก และข้อ
ความผิดรูปแต่กาเนิด (congenital anomalies)
ความคดงอของกระดูกสันหลัง (scoliosis, kyphosis)
ความเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลังหรือข้อต่อกระดูกเคลื่อน
(spondylolysis, spondylolithesis)
Pelvic floor tension myalgis
Myofascial pain
กระดูกผุกร่อน (osteoporosis)
57. ระดูขาว (leukorrhea)
ระดูขาวปกติ เป็นระดูขาวที่พบในภาวะปกติเป็น
ส่วนผสมของสิ่งซึ่งขับออกจากต่อมต่างๆของระบบ
อวัยวะสืบพันธุ์
ระดูขาวผิดปกติ มีลักษณะและกลิ่นผิดปกติ อาจมี
อาการคัน ปวดแสบร้อนบริเวณปากช่องคลอดหรือ
บริเวณใกล้เคียง
58. ระดูขาวปกติมาจาก
Bartholin’s gland จะขับน้าเมือกออกมาหล่อลื่นช่องคลอดส่วนล่าง
และปากช่องคลอด
Sweat gland, sebaceous gland บริเวณ vulva และ
paraurethral gland(skene’s gland)
Vagina หลุดร่วงจากเซลล์ชั้นผิวของเยื่อบุผนังช่องคลอด
Cervix โดยการขับน้าเมือกจาก endocervical gland
Uterine secretion จาก endometrial gland
Tubal secretion
59. ระดูขาวที่ปกติอาจเพิ่มขึ้น
ช่วงใกล้ตกไข่ estrogen จะกระตุ้น endocervical
glands หลั่งน้าเมือกจานวนมาก
ระยะก่อนมีระดู 2-3 วัน เลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มทาให้
secretion จากทุกส่วนเพิ่ม
การตั้งครรภ์ มีการร่วงของเซลล์บุผนังช่องคลอดและน้าเมือก
จาก endocervical glands เพิ่มมากขึ้น
ขณะร่วมเพศ จะทาให้ secretion จาก bartholin’s
glands เพิ่มขึ้น
61. สาเหตุระดูขาวผิดปกติ
การติดเชื้อ เช่น TV, เชื้อรา, หนองใน
ปากมดลูกอักเสบและเป็นแผล
สิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด
แผลที่ปากช่องคลอดและปากมดลูก
เนื้ องอกและมะเร็งของช่องคลอดหรือปากมดลูก
สาเหตุอื่นๆ เช่น fistula
62. สาเหตุต่างๆของตกขาวและการวินิจฉัยโรค
สี ลักษณะ จำนวน กลิ่น สำเหตุที่น่ำนึกกึง
ใส เมือก +ถึง++ ไม่มี -มีไข่ตก
-ได้รับเอสโตรเจนมาก
-มีอารมณ์เครียด
ใสถึงขาวขุ่น เหนียว +ถึง++ อาจมีกลิ่นน้ากรด -ปากมดลูกอักเสบ
-BV
ชมพู เป็นน้าเหลือง +ถึง++ ไม่มี -ได้รับเอสโตรเจนน้อยไป
-Nonspecific
infection
เขียวปน
เหลือง
เป็นฟอง +ถึง++ เหม็น -TV
63. สาเหตุต่างๆของตกขาวและการวินิจฉัยโรค
สี ลักษณะ จำนวน กลิ่น สำเหตุที่น่ำนึกกึง
น้าตาล เป็นน้า +ถึง++ กลิ่นอับ -ช่องคลอดอักเสบ, ปากมดลูกอักเสบ,
ปากมดลูกตีบตัน, เยื่อบุโพรงมดลูก
อักเสบและสภาวะหลังได้รับรังสี
เทามีเลือดปน ไม่เหนอะหนะ +ถึง
++++
เหม็นเน่า -มีแผลในช่องคลอด, ช่องคลอดอักเสบ,
เนื้ องอกช่องคลอด ปากมดลูก เยื่อบุโพรง
มดลูก
ขาว เกาะเป็นแผ่น +ถึง++ เหม็นอับ -การติดเชื้อราของช่องคลอด
64. candida
สาเหตุ จาก candida albicans อาจมีลักษณะเป็น yeast cells
หรือเป็น pseudohyphae
สาหรับ yeast cells ส่วนใหญ่พบเป็น normal flora อยู่ในช่อง
คลอด แต่ pseudohyphae มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการแล้ว
ตกขาวลักษณะสีเหลืองหรือขาวเป็นก้อนคล้ายนมข้น ผนังช่องคลอดมีการ
อักเสบบวมแดง มีอาการคันในช่องคลอด อวัยวะเพศภายนอกมีอาการ
อักเสบบวมแดงและคัน
ภาวะต่างๆ เช่น ตั้งครรภ์,เบาหวาน,ภูมิคุ้มกันต่า,การเจ็บป่วยเรื้อรัง,การใช้
ยาปฏิชีวนะ,ยาคุมกาเนิดนานๆ,คนอ้วนมากๆ พบมาก
69. การวินิจฉัย
การทา wet smear คือ เอาตกขาวผสมน้าเกลือ 1-2
หยดบนแผ่นกระจกสไลด์ แล้วหยด 10% KOH ดูกล้อง
จุลทรรศ์จะเห็น hyphea
การทา Gram’s stained ดูด้วยกล้องขยาย พบ
pseudohyphae และ budding cell ติดสี gram
positive
71. การรักษา (uncomplicate)
Local treatment
Nystatin (100,000u)
- 1 เม็ด สอดช่องคลอดก่อนนอน 14 (10) วัน
Clotrimazole (100 mg)
- 1 เม็ด สอดช่องคลอดก่อนนอน 7 (6) วัน
- 2 เม็ด สอดช่องคลอดก่อนนอน 3 วัน
Clotrimazole (500 mg)
- 1 เม็ด สอดช่องคลอดก่อนนอน ครั้งเดียว แต่ได้ผลดีน้อยกว่า ชนิด 100 mg
และกลับเป็นซ้าได้บ่อย
72. การรักษา (uncomplicate)
Systemic treatment
Ketoconazole (200 mg)
- 1 เม็ด รับประทาน 5 วัน ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคตับ มีผลข้างเคียง เช่น เวียน
ศีรษะ, คลื่นไส้อาเจียน
Itraconazole (100 mg)
- 2 เม็ด รับประทาน เช้า-เย็น 1 วัน ครอบคลุมเชื้อได้มาก
Fluconazole (150 mg)
- 1 เม็ด ครั้งเดียว
74. Trichomonas vaginitis
สาเหตุจากเชื้อ Trichomonas vaginalis
ลักษณะตกขาวเป็นฟองสีเขียวปนเหลือง หรือสีขาว
คันในช่องคลอดและบริเวณรอบๆปากช่องคลอด
อาจมีปัสสาวะแสบขัดเนื่องจากมีเชื้อเข้าไปในท่อปัสสาวะ
เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธุ์
เยื่อบุช่องคลอดมีการอักเสบทั่วๆไป
พบจุดแดงๆที่ ectocervix เรียก strawberry
cervix
77. การรักษา
Metronidazole รับประทาน 2กรัม ครั้งเดียว หรือ ขนาด
500 มก. 1 เม็ด วันละ 2 เวลา นาน 7 วัน พบคลื่นไส้อาเจียนได้
เชื้อจะหมดใน 24 ชม. อาการและรอยโรคอยู่นาน 3-6 สัปดาห์
ในสตรีตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ metronidazole ใน 3 เดือนแรก ของ
การตั้งครรภ์ เพราะอาจมีผลทาให้ทารกเกิดความพิการได้ ให้ใช้
clotrimazole (100 mg) สอดช่องคลอดวันละครั้งนาน 6 วัน
จะช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ถ้าตั้งครรภ์เกิน 16 สัปดาห์แล้ว อาจใช้
metronidazole ได้ สตรีให้นมบุตรต้องงดให้นมบุตร 24 ชม.
รักษาคู่สมรสด้วย
78. การรักษา
Tinidazole (500 mg) รับประทาน 4 เม็ด ครั้ง
เดียว สามารถทาลายเชื้อใน 24 ชม. เกิดคลื่นไส้
อาเจียนได้ไม่มาก
Ornidazole (500 mg) รับประทาน 3 เม็ด
ครั้งเดียว เกิดผลข้างเคียงเรื่องวิงเวียนศีรษะ
ค่อนข้างมาก
Trichomycin 1 เม็ด สอดช่องคลอด 7-10 วัน
79. Bacterial vaginosis
เกิดจากเชื้อ Gardnerella vaginalis
ตกขาวสีขาวขุ่นค่อนไปทางเหลือง กลิ่นฉุนเหมือนปลา
เน่า (ปลาเค็ม) (fishy amine odor) เนื่องจาก
เชื้อผลิตสาร amine
ในหญิงตั้งครรภ์เชื่อว่าทาให้เกิด PPROM
80. การวินิจฉัย ต้องมี 3 ใน 4 ข้อ
Thin homogeneous discharge
Vaginal pH higher than 4.5
Amine (fish like) odor of vaginal secretion บางคน
เรียก Amine test (ให้ผลบวก คือหยด 10% KOH ลงไปใน
ตกขาวได้กลิ่นเหม็นเหมือนปลาเค็มหรือปลาเน่า)
พบ clue cell (Gm – bacilli มาเกาะติดกับ epithelium)
จากการตรวจ wet smear, gram staining หรือ PAP
smear
82. การรักษา
Metronidazole (500 mg) รับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน
7วัน หรือ 2 g ครั้งเดียว
Tinidazol (500 mg) รับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน
Ampicillin (500 mg) รับประทานวันละ 4 ครั้ง นาน 7 วัน
Clindamycin (300 mg) รับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 7
วัน
83. Gonococcal vaginitis
เกิดจากเชื้อ Neisseria gonorrhoeae
Gm – diplococci (coffee bean) เชื้อมักอยู่ที่ urethra,
paraurethra ducts and glands, endocervix,
Bartholin’s glands
ตกขาวเป็นหนอง (mucopurulent discharge), ปัสสาวะแสบ
ขัด
บางครั้งบวมแดงและคันบริเวณ vulva
ใช้นิ้ วรีดท่อปัสสาวะจะมีหนองไหลออกมา
Bartholin’s gland อาจโตได้เนื่องจากมีการอักเสบ
85. การวินิจฉัย
Wet smear พบ WBC จานวน
มาก
Gm stained จาก urethra และ
endocervix พบ Gm –
diplococci (intracellular
diplococci)
92. การรักษา
Doxycycline (100 mg) รับประทานวันละ 2 ครั้ง
เป็นเวลา 10-14 วัน
Tetracycline HCL (500 mg) รับประทานวันละ 4
ครั้ง เป็นเวลา 10-14 วัน
Azithromycin 1 g รับประทานครั้งเดียว
สาหรับหญิงตั้งครรภ์ให้ Erythromycin (500 mg)
รับประทานวันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 10-14 วัน
93. Herpes genitalis
เป็นแล้วไม่หายขาด สามารถแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้
เด็กที่คลอดผ่านทางคลอดที่มีเชื้อไวรัสนี้ เด็กจะติดเชื้อ
แต่กาเนิดมีโอกาสที่จะตาย
ที่อวัยวะสืบพันธุ์เกิดจาก HSV-2
94. การวินิจฉัย
แผลที่เกิดจากการแตกออกของ vesicle กลมๆเล็กๆ
หลายๆอัน รวมเป็นแผลตื้นที่มีรูปเป็นวงๆมาต่อกัน
เรียกว่า multi-ring appearance
PAP smear ต้องขูดให้ได้เซลล์ จะพบเป็น
multinuclear giant cell with nuclear
ground glass appearance
96. การรักษา
Acyclovir (200 mg) รับประทาน 1 เม็ด วันละ 5
ครั้ง นาน 5 วัน ยาทาใช้กรณีแผลเริ่มแห้งแล้ว ระยะแรกควร
เป็น wet dressing
Valaciclovir (500 mg) รับประทาน 1 เม็ด วันละ 2
ครั้ง นาน 5 วัน แผลหายเร็วขึ้นและยับยั้งการเป็นซ้าได้ดี
Famciclovir (125 mg) รับประทาน 1 เม็ด วันละ 2
ครั้ง นาน 5 วัน แต่ในการยืดเวลาของการเป็นซ้าควรให้
500 mg ต่อ วัน
97. Condyloma acuminata
เกิดจากเชื้อ Human papilloma virus (HPV)
ลักษณะเหมือนหงอนไก่ ชอบอยู่บริเวณอับชื้น
อย่างน้อยร้อยละ 10 ของหญิงวัยเจริญพันธุ์ลักษณะ
ปกติ แต่มีเชื้อหูดหงอนไก่
100. การรักษาโดยใช้ยาหรือสารเคมีป้ ายที่รอยโรค
Podophyllins ไม่ควรใช้ยานี้ ในหูดหงอนไก่ขนาดใหญ่มาก
เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น coma, vascular
crisis และ respiratory failure การใช้รักษาหูดหงอนไก่ใน
ผู้ป่วยตั้งครรภ์นั้นเป็นข้อห้าม เพราะมีรายงาน 20%
podophyllin ทาให้เกิด intrauterine fetal death จาก
severe constriction of placental vessels
Trichloracetic acid ผลข้างเคียงน้อยกว่า podophylline
ใช้กับหญิงตั้งครรภ์ ผลดีพอควร ไม่นิยมใช้ป้ ายในช่องคลอดหรือที่
ปากมดลูก เพราะความเปียกชื้นทาให้ยากระจาย
105. การวินิจฉัย
แผลกลม rolled border ยุ่ยแดงเหมือนเนื้ อวัว
ulcerating granulomatous mass แผลไม่
เจ็บ ถูกต้องเลือดออกง่าย
พบบ่อยที่ labia, fourchette, ช่องคลอด, และที่
ปากมดลูก
ย้อม Giemsa stain หรือ Wright stain หา
Donovan’s body
106. การรักษา
Tetracycline (500 mg) วันละ 4 ครั้ง เป็น
เวลา 2-4 สัปดาห์
Streptomycin IM 5-10 วัน โดยให้จานวนยา
ทั้งสิ้น (total dose) = 20-30 g
Chloramphenicol 2g/d พบ blood
dyscrasia บ่อย
108. การรักษา
Doxycycline (100 mg) วันละ 2 ครั้ง เป็น
เวลา 21 วัน
Tetracycline HCL (500 mg) วันละ 4 ครั้ง
นาน 21 วัน
Erythromycin (500 mg) วันละ 4 ครั้ง นาน
21 วัน
Azithromycin 1 g/d นาน 14 วัน
109. Chancroid
เกิดจากเชื้อ Haemophillus ducreyi เป็น Gm – rod
มักเป็นที่ fourchette
แผลขอบกระรุ่งกระริ่งและเจ็บ อาจมีฝีมะม่วงที่ขาหนีบ
ขูดเนื้ อย้อม Unna Pappenheim พบแบคทีเรียรูปแท่งบางๆ
ติดสีแดงเรียงตัว เรียกว่า school of fish or rail-road
track
110. การรักษา
Erythromycin (500 mg) วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
Ceftriaxone 250 mg IM single dose
Quinolone รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง นาน 7-
10 วัน
Augmentin (375 mg) รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3
ครั้ง นาน 7-10 วัน
Azithromycin 1 g oral single dose
112. Syphillis
Primary แผลไม่เจ็บ ขอบแข็งคลาได้ชัด ก้นแผลสะอาดมักเป็น
แผลเดี่ยวตื้นๆ อาจพบต่อมน้าเหลืองที่ขาหนีบโต
Secondary เกิดหลังแผลหายแล้ว 6wks-6mo ผู้ป่วย
อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว ผื่นขึ้นตามตัว ผื่นไม่คันCondyloma
lata เป็นแผล ลักษณะนูนกว่าผิวหนังบริเวณนั้น ผิวเป็นมัน
Latent syphilis (early < 1 yrs, late > 1 yrs)
Tertiary syphilis sugg. neurosyphilis
114. การวินิจฉัย
Darkfield microscopy ตรวจน้าเหลืองจากแผล ดูเชื้อ
Spirochete
Screening test:VDRL, RPR ตรวจกรองเพื่อหา antibody ต่อ
lipoidal antigen
Confirmatory test:TPHA, FTA-AB,TPI
115. การรักษา Early Syphillis
Benzathine penicillin G 2.4 million u IM
single dose
Tetracycline (500 mg) รับประทานวันละ 4 ครั้ง
นาน 15 วัน
Erythromycin (500 mg) รับประทานวันละ 4 ครั้ง
นาน 15 วัน
116. การรักษา Late Latent Syphillis
Benzathine penicillin G 2.4 million u
IM wkly x 3 wks
Tetracycline (500 mg) รับประทานวันละ 4
ครั้ง นาน 30 วัน
Erythromycin (500 mg) รับประทานวันละ 4
ครั้ง นาน 30 วัน
120. การปวดระดูชนิดปฐมภูมิ (1 dysmenorrhea)
การปวดระดูจะพบได้ในรอบที่มีการตกไข่
อาการปวดเริ่มไม่กี่ชั่วโมงภายหลังระดูเริ่มมา หรืออาจก่อนระดูมา
1-2 ชั่วโมง
ระยะเวลาปวด 48-72 ชั่วโมง อาการปวดรุนแรงในช่วง 12
ชั่วโมงแรก ถ้าปวดเกิน 3 วันให้หาสาเหตุอื่น
ปวดเกร็งคล้ายการปวดระหว่างเจ็บครรภ์ ปวดกลางท้องน้อย อาจ
ร้าวไปหลังและด้านในของต้นขาแต่ไม่ต่ากว่าเข่า บางรายมีคลื่นไส้
อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นลม
ปวดรุนแรงอายุระหว่าง 18-24 ปี
121. สาเหตุของการปวดระดูชนิดปฐมภูมิ
(1 dysmenorrhea)
Prostaglandin ที่มีการผลิตมากคือ PGF 2α และ PGE 2
เยื่อบุมดลูกชนิด secretory เป็นแหล่งสาคัญในการผลิต PGF
2α
รอบระดูที่มีการตกไข่ เยื่อบุมดลูก ชนิด secretory จึงมีการสร้าง
PG มากจนทาให้ปวดระดู
PG กระตุ้นกล้ามเนื้ อมดลูกให้หดตัวและทาให้เกิดการหดรัดของ
หลอดเลือด นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดการหดรัดของกล้ามเนื้ อใน
กระเพาะอาหาร ลาไส้ และในหลอดเลือดทั่วไป
123. การรักษาด้วยยา
ยาที่นิยมใช้ได้แก่
Ponstan (250-500) 4 ครั้ง ต่อวัน 93%
Naproxen (250-500) 3-4 ครั้ง ต่อวัน 50-80%
Brufen (400) 1x4 ครั้ง ต่อวัน 66-100%
Indomethacin (25) 3-6 ครั้ง ต่อวัน 73-90%
Piroxicam (20) 1-2 ครั้ง ต่อวัน 80%
Buscopan (40) 4 ครั้ง ต่อวัน (ให้ก่อนระดูมา 2 วัน ให้ติดต่อ
อีก 3 วันหลังระดูมา)
125. การปวดระดูชนิดทุติยภูมิ (2 dysmenorrhea)
เป็นการปวดระดูที่มีสาเหตุจากพยาธิสภาพในอุ้งเชิงกราน
อาการร่วมเช่น ระดูมามาก,มีบุตรยาก,เจ็บขณะร่วมเพศ
มีประวัติการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานบ่อยๆ
มักมีอาการภายหลังอายุ 25-30 ปี
ตาแหน่งการปวดขึ้นอยู่กับตาแหน่งพยาธิสภาพ
เวลาเริ่มปวด อาจก่อนระดูมาหลายวันหรือพร้อมระดู
126. สาเหตุการปวดระดูชนิดทุติยภูมิ
การปวดเริ่มพร้อมระดูมา
- การปวดจากพยาธิสภาพที่มดลูก เช่น submucous
myoma, endometrial polyp, adenomyosis ,
ปากมดลูกตีบตันภายหลัง, ความพิการแต่กาเนิดของระบบ
mullerian, membranous dysmenorrhea
- ห่วงคุมกาเนิด
- uterine dysfunction, unexplained
menorrhagia and/ or dysmenorrhea
128. การปวดเริ่มพร้อมระดูมา
การปวดจากพยาธิสภาพที่มดลูก เช่น submucous myoma,
endometrial polyp, adenomyosis เกิดจากการเพิ่มการ
หดรัดตัวของมดลูกเพื่อบีบไล่สิ่งแปลกปลอมในโพรงหรือผนังมดลูก
ผู้ป่วยอาจมีระดูมามากร่วมด้วย
ปากมดลูกตีบตันภายหลังเกิดจากการผ่าตัดที่ปากมดลูก ทาให้เลือด
ระดูไหลไม่สะดวกและคั่งภายในโพรงมดลูกจึงเพิ่มการบีบรัดตัว
ความพิการแต่กาเนิดของระบบ mullerian ถ้าเป็นมดลูกชนิด
septate หรือ bicornuate การปวดเกิดจากการเรียงตัวของ
กล้ามเนื้ อมดลูกที่ผิดปกติ
129. การปวดเริ่มพร้อมระดูมา
ความพิการแต่กาเนิดของระบบ mullerian ถ้าเป็น rudimentary
horn ที่ไม่มีทางติดต่อกับโพรงมดลูกเลือดระดูจากตาแหน่งนี้ ไม่สามารถ
ระบายออก จึงเกิดเลือดคั่งในโพรงมดลูก อาการปวดในกลุ่มนี้ จะเริ่มมี
อาการปวดระดูชนิดปฐมภูมิ
Membranous dysmenorrhea พบในคนสูงอายุ เกิดจากเยื่อบุ
มดลูกลอกตัวเป็นชิ้นใหญ่แล้วอุดกั้นปากมดลูก ดังนั้นมดลูกจึงบีบรัด
ตัวอย่างรุนแรง
ห่วงคุมกาเนิดกระตุ้นเยื่อบุมดลูกให้สร้าง prostaglandins เพิ่มขึ้น ทา
ให้การบีบรัดตัวของมดลูกเพิ่มขึ้น
137. การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดงจากประวัติและการตรวจร่างกาย
PV อาจไม่พบความผิดปกติ ในรายที่เป็นที่ uterosacral
ligament ก็อาจจะคลาได้ก้อนเล็กๆ ตะปุ่มตะป่าที่ cul de sac
กดเจ็บ มดลูกคว่าหลังและติดแน่น ในรายเป็นที่รังไข่ อาจคลาได้เป็น
ถุงน้าของรังไข่ เรียกว่า chocolate cyst
U/S พบในรายที่เป็น endometrioma
Laparoscopy มักถือว่าให้ผลวินิจฉัย endometriosis ที่
เชื่อถือได้
การตรวจชิ้นเนื้ อ ให้การวินิจฉัยแน่นอนที่สุด
142. Estrogen and progestogen
Estrogen กด hypothalamus และ pituitary
gland ไม่ให้มีการสร้าง FSH และ LH แล้วในที่สุดจะไป
กดการสร้าง estrogen และ progesterone ทาให้
endometriosis ฝ่อไป
Estrogen กระตุ้นเยื่อบุมดลูก Progesterone ทาให้
เกิด decidual reaction และไม่มีระดูต่อไป
Norethynodrel 10 mg+mestranol 0.15 mg
2 tab/d เพิ่มวันละ 1 tab ถ้ายังมีเลือดออก
143. Estrogen and progestogen
Norethindrone acetate 2.5
mg+ethinyl estradiol 0.05 mg 2
tab/d เพิ่มวันละ 1 tab ถ้ายังมีเลือดออก
ให้นาน 9 เดือน
ข้อห้ามเหมือนยาคุม
144. Progesterone
ทาให้เกิด decidual endometrium และเสื่อมสลายไป
Progestogen ขนาดสูงจะไปกด hypothalamus ส่งผลทาให้
การผลิต estrogen ในร่างกายลดลงไปอีกด้วย
Norethridone acetate 10-30 mg/d x 6-12 mo
Dydrogesterone 5-10 mg/d >6 mo
Lynestrenol 5-15 mg/d >6 mo
DMPA 150 mg IM q 1 mo >6 mo
SE – breakthrough bleeding, Br tenderness,
fluid retention ,depression, andrgenic Fx
145. ผลข้างเคียง Progesterone
น้าหนักตัวเพิ่ม, เลือดระดูกะปริดกะปรอย, ซึมเศร้า, ปวดศีรษะ, ใจ
สั่น
ระดับ HDL-chol ลดลง โดยเฉพาะ Norethridone ,
Levonorgestrel, Lynestrenol, Gestrinone
การกลับคืนมาของการทางานของรังไข่จะช้ากว่าปกติ (DMPA)
ฤทธิ์แอนโดรเจนเกิน เช่น ผิวมัน, สิว, กล้ามเนื้ อเป็นตะคริว, เต้านม
เล็ก (Gestrinone)
ได้ผลเท่าเทียม Danazol แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่า
146. Gestrinone
เป็น 19-nor steroid ออกฤทธิ์ต้าน โปรเจสเตอ
โรน เอสโตรเจนและ gonadotropin รบกวนเม
ตาบอริซึมของคาร์โบไฮเดรต ไขมันและตับน้อยมาก
androgenic effect น้อยกว่า danazol
เชื่อว่าให้ผลดีเท่ากับหรือดีกว่าการใช้ danazol
เล็กน้อย ผลข้างเคียงได้แก่ androgenic effects
ต่างๆ
147. Danazol
ออกฤทธิ์กดการทางานหลายแห่งของระบบสืบพันธุ์ เป็นต้นว่าไปจับ
กับ sex hormone binding globulin (SHBG) ที่
hypothalamo-pituitary center ที่รังไข่และเยื่อบุมดลูก
จับกับ androgen และ progesterone receptor ของ
endometriotic epithelium ทาให้ endometriosis เสื่อม
สลาย
Danazol มีฤทธิ์ androgenic effects ช่วยให้การเสื่อม
สลายเร็วขึ้น
มีผลต่อ immune system ทาให้เยื่อบุมดลูกฝ่อ
148. Danazol
ขนาดยาที่รับประทาน 400-800 mg/d ส่วนใหญ่
ให้นานเกิน 6 เดือน ขึ้นไป
ผลแทรกซ้อน ได้แก่ muscle clamp, myalgia,
edema, rash, nausea, headache,
dizziness, hot flush, alteration of
lipoprotein metabolism และ
androgenic effects
149. ผลข้างเคียง Danazol
น้าหนักตัวเพิ่มขึ้น 85% ,กล้ามเนื้ อเป็นตะคริว 52%, เต้านม
เหี่ยวแฟบ 48%, อาการร้อนวูบวาบ 42%, ผิวมัน 37%, สิวขึ้น
27% ,ภาวะขนดก 21%, นอนไม่หลับ 10%, เสียงห้าว 7%
ควรระมัดระวังในคนโรคตับ (ยาถูกทาลายที่ตับ)
ควรระมัดระวังในคนโรคหัวใจ, HT, โรคไต (ยาทาให้น้าคั่ง)
หลีกเลี่ยงการใช้ยาในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะฤทธิ์แอนโดรเจนอาจ
ทาให้อวัยวะเพศภายนอกของทารกเพศหญิงมีลักษณะคล้ายเพศชาย
150. GnRHa (Gonadotropin releasing
hormone agonist)
เป็น peptide hormone ออกฤทธิ์แบบ agonist ต่อ
hypothalamic center โดยระยะแรก กระตุ้น
hypothalamus ก่อน และตามด้วยกดภายหลัง ดังนั้นช่วงแรกๆ
ไม่เกิน 3 วัน ระดับ FSH และ LH สูงขึ้น ระยะยาวจะลดลง และใน
ที่สุดเกิดภาวะ estrogen ต่า ซึ่งทาให้ endometriosis ฝ่อลง
ไม่ควรใช้นานเกิน 6 เดือนแล้วควรหยุดยา แต่ระยะหลังมีการใช้ 1-
2 ปี โดยเสริม (add-back) ฮอร์โมนเพศเข้าไปเพื่อลดภาวะ
กระดูกพรุน (conjugated estrogen 0.3-0.625 mg/d
และ/หรือ MPA 2.5-5.0 mg/d)
151. GnRHa (Gonadotropin releasing
hormone agonist)
Buserelin พ่นจมูก 300 mg วันละ 3-4 ครั้ง
Leuprolide IM 1.88-3.75 mg เดือนละครั้ง
Triptorelin IM 3.75 mg เดือนละครั้ง
Goserelin ฝังใต้ผิวหนัง 3.6 mg เดือนละครั้ง
152. SE of GnRHa (Gonadotropin releasing
hormone agonist)
ร้อนวูบวาบ 80%, นอนไม่หลับ 75%, ปวดศีรษะ
52%, เลือดกะปริดกะปรอย 41%, ความรู้สึกทางเพศ
ลดลง 38% ,อาการซึมเศร้า 38%, ช่องคลอดแห้ง
22%, ปวดข้อ 14%, ผมร่วง 8%
กรณีใช้ไปนานๆ จะเกิดภาวะกระดูกพรุน
อาการดีขึ้นประมาณร้อยละ 80
ผลใกล้เคียง Danazol แต่ผลข้างเคียงทาง
androgenic effects จะน้อยกว่า
154. อุบัติการณ์
พบสูงในช่วง 7 ปีแรก (การทางานของระบบต่อมไร้ท่อที่
ควบคุมรอบระดูยังทางานได้ไม่สมบูรณ์) และ 7 ปี หลัง
ของวัยเจริญพันธุ์ (ระบบการทางานบกพร่องร่วมกับ
พยาธิสภาพในระบบสืบพันธุ์)
ช่วงอายุ 20-40 ปี จะเป็นช่วงที่รอบระดูสม่าเสมอที่สุด
157. Hypothalamo-pituitary-ovarian (HPO) axis
ประกอบด้วย hypothalamus, ต่อมใต้สมอง, และรังไข่
มีการควบคุมโดยกลไก negative และ positive feedback
ส่งผลให้รังไข่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิงในสัดส่วนต่างๆ ใน
แต่ละช่วงเวลา
ส่งผลให้อวัยวะสืบพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงเป็นรอบๆ
เรียกว่ารอบระดู (menstrual or reproductive cycle)
ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่รังไข่ เรียกว่า ovarian cycle
160. Ovarian cycle
Follicular phase กินระยะเวลาประมาณ 10-14 วัน
Ovulatory phase กินระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน
Luteal phase กินระยะเวลาประมาณ 12-14 วัน
161. Endometrial cycle
Proliferative phase ตรงกับระยะ follicular phase
Secretory phase ตรงกับระยะ luteal phase
Menstrual phase เป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากสิ้นสุด
luteal phase
164. คาจากัดความที่สาคัญเกี่ยวกับระดูผิดปกติ
Oligomenorrhea คือ รอบระดูที่มีระยะห่างมากกว่า 35 วัน
Polymenorrhea คือ รอบระดูที่มีระยะห่างสั้นกว่า 24 วัน
Menrrhagia คือ ระดูที่มีปริมาณมากและเลือดออกนาน แต่ระยะห่าง
ปกติ
Metrorrhagia คือ เลือดออกที่มีระยะห่างไม่สม่าเสมอ
Menometrorrhagia คือ เลือดออกที่มีปริมาณมากและนานและ
ระยะห่างผิดปกติด้วย
Hypermenorrhea คือ ระดูที่มีปริมาณมาก แต่ระยะเวลาปกติและ
สม่าเสมอ
Hypomenorrhea คือ ระดูที่มีปริมาณน้อยในรอบระดูปกติ
169. ลักษณะของเลือดที่ออกจากโพรงมดลูกใน DUB
ชนิดของ DUB ลักษณะเลือดออกจากโพรงมดลูก
Ovulatory
Long proliferative or secretory phase Oligomenorrhea
Short proliferative or secretory phase Polymenorrhea
Corpus luteum insufficiency Premenstrual spotting
Menorrhagia, Polymenorrhea
Corpus luteum prolonged activity Menorrhagia
Oligomenorrhea
Normal phases Essential menorrhagia
Anovulatory
Cyclic menorrhgia Oligomenorrhea, Polymenorrhea
Acyclic Metrorrhagia
172. การดูแลรักษาด้วยยา
การรักษาเพื่อหยุดเลือดในกรณีที่เลือดออกมาก (stop
bleeding) ให้ estrogen ในขนาดสูง ได้แก่การให้
estrogen ทางหลอดเลือดดา หรือการให้รับประทานยาเม็ด
คุมกาเนิดในขนาดมากกว่าวันละ 1 เม็ด รายที่ตอบสนองต่อการ
รักษาเลือดจะออกน้อยลงภายใน 12-24 ชม. (ห้ามกรณี DVT,
RHD)
การรักษาเพื่อป้ องกันไม่ให้เลือดออกอีก (prevention of re-
bleeding) ให้ continuous combined estrogen-
progestin
173. การดูแลรักษาด้วยยา
Medical curettage ให้รับประทาน progestin นาน 10-
14 วัน เพื่อเปลี่ยนเยื่อบุโพรงมดลูกเป็น secretory
endometrium ไม่ได้ผลในราย atrophic endometrium
หรือ progestin breakthrough bleeding
เพื่อควบคุมรอบระดู (regulate menstrual cycle) ใช้
cyclic progestin หรือ cyclic estrogen-progestin
เพื่อลดปริมาณเลือดระดู (reduce menstrual blood loss)
174. ยาที่ใช้เพื่อการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก
Stop bleeding
Tranxenemic acid 500 mg single dose with
Conjugated equine estrogen (CEE or Premarin 0.625 mg) 4 tab oral q 4 hr (not more
than 24 hr)
Oral combined contraceptive pill 2 tab daily for 5-7 day
Prevention of re-bleeding
CEE 0.625 mg plus MPA 5-10 mg PO daily for 2-3 wk
Oral combined contraceptive pill in regular dosage
Medical curettage
MPA 5-10 mg PO daily for 10-14 day
Regulate menstrual cycle
Cyclic progestin e.g. MPA 5-10 mg PO daily for 10-14 day per mo
CEE 0.625 mg on d 1-25 and MPA 5-10 mg on d 16-25 of menstrual cycle
Oral combined contraceptive pill in regular dosage
175. ยาที่ใช้เพื่อการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก
Regulate menstrual blood loss
Long acting progestin e.g. Progestin medicated IUD (Minera)
Danazol 200 mg PO daily continuously
Antifibrinolytic agents e.g. Tranexamic acid 1000-2000 mg PO daily during mens
NSAID d1-5 of cycle
-Ponstan 500 mg PO at the onset of mens then 250-500 mg tid
-Naproxen 500 mg PO at the onset of mens then 250-500 mg bid
-Ibruprofen 200-400 mg PO tid
Oral combined contraceptive pill in regular dosage
GnRH analogue
High dose progestins
MPA 200 mg PO daily
DMPA 1000 mg IM weekly