More Related Content Similar to ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560) Similar to ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560) (20) More from Thitaree Samphao More from Thitaree Samphao (6) ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (1- 2560)2. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับระบบน้้าเหลือง ระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งปัจจัยที่
มีผลต่อการท้างานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จุดประสงค์การเรียนรู้
6. มีลิ้น
ปลายสุดเป็น lymphatic
capillary ตันแทรกตามเนื้อเยื่อ
และใน villus ของผนังทางเดิน
อาหาร
ล้าเลียง lymph (คล้ายกับเลือด
ต่างตรงที่ไม่มี RBC, platelet,
โปรตีนขนาดใหญ่)
ล้าเลียง lymph เข้าสู่
subclavian vain superior
vena cava
ท่อน้้าเหลือง/หลอดน้้าเหลือง (LYMPH VESSEL)
10. กลุ่มของต่อมน้้าเหลือง
3 คู่: คอหอย โคนลิ้น และเพดานปาก
Lymphocyte ท้าลายจุลินทรีย์ที่ผ่านมา
ในอากาศ
ติดเชื้อจะบวมแดง เรียกว่า ต่อมทอนซิล
อักเสบ
ต่อมทอนซิล (TONSIL GLAND)
11. อยู่ที่ทรวงอก รอบหลอดเลือดใหญ่ของหัวใจ
สร้าง Thymosin กระตุ้นการสร้างและการเจริญเติบโตของ lymphocyte ชนิด T-cell
ตัดออกเมื่อเป็นตัวอ่อน ท้าให้สัตว์มีภูมิต้านทานต่้า อ่อนแอ และตาย
ต่อต้านเชื้อโรค สารแปลกปลอม และอวัยวะที่ปลูกถ่ายจากผู้อื่น
ต่อมไทมัส (THYMUS GLAND)
13. น้้าเหลืองจากอวัยวะต่างๆ ถูกดูดซึม
เข้าสู่หลอดน้้าเหลืองฝอย ซึ่งแทรกตัว
อยู่ในอวัยวะ
ผนังของหลอดน้้าเหลืองฝอยเป็นเยื่อ
บุผิว
เมื่อหลอดน้้าเหลืองฝอยทั่วร่างกายมา
รวมกันจะเป็นหลอดน้้าเหลืองใหญ่ มี
ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาแล้วล้าเลียง
น้้าเหลืองกลับสู่เส้นเลือดด้าใหญ่กลับ
สู่หัวใจ
น้้าเหลืองจะปนไปกับเลือด ไปสู่
อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
การล้าเลียงน้้าเหลือง
18. ร่างกายถูกกระตุ้นจาก antigen
วัคซีนจากจุลินทรีย์ที่ตายแล้ว เช่นวัคซีนป้องกัน
โรคไอกรน ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค
วัคซีนจากจุลินทรีย์ที่ถูกท้าให้อ่อนก้าลังลง เช่น
วัคซีนป้องกันโรควัณโรค โปลิโอ หัด หัดเยอรมัน
คางทูม
ทอกซอยด์: สารพิษที่ท้าให้หมดสภาพ เช่น โรค
คอตีบ บาดทะยัก
ข้อดี: เกิดภูมิคุ้มกันอยู่นาน ไม่เกิดการแพ้
ข้อเสีย: ตอบสนองช้า (ใช้เวลา 4-7 วัน)
ภูมิคุ้มกันก่อเอง (ACTIVE IMMUNIZATION)
19. ภูมิคุ้มกันแบบจ้าเพาะ
รับ antibody เข้าร่างกาย
เตรียมโดย ฉีดเชื้อโรคที่อ่อนก้าลังเข้าร่างกาย
สัตว์ เพื่อให้สัตว์สร้าง antibody แล้วน้าเลือด
เฉพาะส่วน serum ซึ่งมี antibody มาฉีดให้
ผู้ป่วย
ต่อต้านเชื้อโรคได้ทันท่วงที
เช่น ซีรุ่มแก้พิษงู ซีรุ่มคอตีบ ซีรุ่มแก้พิษสุนัขบ้า
น้้านมน้้าเหลือง ภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูกโดยผ่าน
ทางรก
ข้อดี: ตอบสนองทันที
ข้อเสีย: อาจท้าให้แพ้ อยู่ได้ไม่นาน
ภูมิคุ้มกันรับมา (PASSIVE IMMUNIZATION)
22. Nonspecific defense mechanism
First line defense
Skin
Mucous membrane
Secretion of skin
Second line defense
Phagocytic white blood cell
The inflammatory response
Antimicrobial proteins
กลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จ้าเพาะเจาะจง
23. สร้างจากส่วนของร่างกาย
ผิวหนัง: Keratin ป้องกันการเข้าและ
ออกของสิ่งต่างๆ
เหงือ: เป็นกรด ยับยั้งการเจริญของ
จุลินทรีย์
จมูกและหู: เมือก
ตา: น้้าตา
ปาก: lysosome ท้าลายจุลินทรีย์หรือ
เชื้อโรค
FIRST LINE DEFENSE
กระเพาะอาหาร: กรดไฮโดรคลอริก
เอนไซม์ท้าลายจุลินทรีย์
ช่องคลอด: เมือก cilia ดักจับสิ่ง
แปลกปลอม และพัดออกนอกร่างกาย
24. Phagocytic white blood cell
The inflammatory response
Antimicrobial proteins
Natural killer cell
SECOND LINE DEFENSE
25. 1. Monocyte (5% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด) ออกจากกระแสเลือด แล้วเคลื่อนเข้าสู่
เนื้อเยื่อ และพัฒนาเป็นเซลล์ macrophage มีช่วงชีวิตค่อนข้างยาว
2. Neutrophil (60-70% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด) มีชีวิต 2-3 วัน สลายไปเมื่อท้าลาย
สิ่งแปลกปลอม
3. Eosinophil (1.5% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด) ท้าหน้าที่ท้าลายพยาธิขนาดใหญ่
4. Natural Killer cell ท้าลาย virus-infected body cell โดยจับที่เยื่อเซลล์และท้าให้
เซลล์แตก
PHAGOCYTIC WHITE BLOOD CELL
26. การท้าลายเชื้อโรคและเศษเซลล์ ซ่อมแซมบริเวณบาดแผล
เกิดบาดแผล basophil ในเลือดและ mast cell ที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน หลั่ง histamine
และ prostaglandin ท้าให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลมากขึ้น เม็ดเลือดขาว และสาร
ที่ท้าให้เลือดแข็งตัวเคลื่อนที่มายังบาดแผลได้มากและเร็ว
Neutrophil เปลี่ยนเป็น macrophage ท้าหน้าที่ phagocytosis เชื้อโรคและเศษเซลล์
เลือดแข็งตัว ปากแผลปิด
อาการอักเสบ ประกอบด้วยผื่นแดง ร้อน บวม เนื่องจากของเหลวออกจากหลอดเลือด
และเจ็บปวด
THE INFLAMMATORY RESPONSE (ตอบสนองโดยการอักเสบ)
27. โปรตีนในเลือดที่ท้าลายเชื้อจุลินทรีย์ได้
ได้แก่ lysozyme, complement
system, interferon
complement system : กลุ่มของโปรตีน
ในเลือด จับที่ผิวของ antigen ท้าให้ผิว
เซลล์ของ antigen เสียสภาพและตาย
Interferon: หลั่งออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อ
ไวรัส ป้องกันการรุกรานไปยังเซลล์อื่นที่เป็น
เซลล์ปกติ
ANTIMICROBIAL PROTEINS (โปรตีนต้านจุลชีพ)
28. Lymphocyte ชนิดหนึ่ง
ถูกสร้างในไขกระดูกและเจริญในกระแสเลือด
ก้าจัดเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสหรือเซลล์มะเร็งในร่างกาย
NATURAL KILLER CELL
29. Specific defense
mechanism (immune
response or immune
system)
Humoral immune
response (การก้าจัดสิ่ง
แปลกปลอมโดยการหลั่ง
แอนติบอดี)
Cell-mediated
immune response
(การก้าจัดสิ่งแปลกปลอม
โดยใช้เซลล์เป็นตัวกลาง)
กลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมแบบจ้าเพาะเจาะจง
31. Lymphocytes แบ่งได้ 2 ชนิด คือ B
lymphocyte และ T lymphocyte
เจริญจากเซลล์ตั้งต้นชนิดเดียวกัน คือ
Pluripotent stem cell ใน bone marrow
เซลล์ที่ยังเจริญต่อใน bone marrow สุดท้ายได้
B lymphocyte
ถ้า lymphocyte stem cell เคลื่อนไปและเกิด
maturation ที่ต่อมไทมัส (thymus gland) จะ
ได้ T cell
lymphocytes ทั้งสองชนิดจะเคลื่อนไปอยู่ที่
lymphoid tissue เช่น tonsil, lymph node,
spleen
เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน
32. LYMPHOCYTES
1. Ag จับกับ Ag receptor บน B cell หนึ่งๆ
2. B cell ที่มี receptor ที่จ้าเพาะต่อ Ag
นั้นจะเพิ่มจ้านวนได้เป็น clone
3. บางเซลล์พัฒนาไปเป็น short-lived
plasma cell และหลั่ง Ab
4. บางเซลล์พัฒนาไปเป็น long-lived memory cell ที่จะท้าให้เกิดการตอบสนอง
อย่างรวดเร็วเมื่อร่างกายได้รับ Ag เดิม
T หรือ B cell แต่ละเซลล์จ้าเพาะต่อ Ag แต่ละตัว
33. การเพิ่มจ้านวนของ Lymphocytes หลังเผชิญกับ Ag ครั้งแรก ใช้เวลา 10-17 วัน เรียก
การตอบสนองระยะแรกว่า primary immune response ได้เซลล์ 2 ชนิดคือ plasma
cell (B cell) & effector T cell (T cell) และ long-lived memory cells
ร่างกายเผชิญกับ Ag เดิมอีก จะเกิดการตอบสนองเรียก secondary immune
response ใช้เวลาตอบสนองสั้นลง 2-7 วัน
IMMUNOLOGICAL MEMORY
34. Antigen เข้าสู่ร่างกายและถูกท้าลาย
โดย phagocytosis
ชิ้นส่วนของ antigen (Ag) ที่ถูก
phagocyte ท้าลายกระตุ้นให้ B-cell
เพิ่มจ้านวน
B-cell เปลี่ยนไปท้าหน้าที่สร้าง
antibody (Ab) ที่จ้าเพาะต่อ
antigen เรียกว่า plasma cell และ
memory cell
memory cell: จดจ้า antigen
ถ้ามี antigen เดิมเข้ามาใน
ร่างกายอีกครั้ง memory cell จะ
แบ่งเซลล์เป็น plasma cell
ท้าลายเชื้อโรคนั้น
plasma cell: สร้าง antibody ที่
จ้าเพาะต่อ antigen
HUMORAL IMMUNE RESPONSE
35. Epitope or antigenic determinant เป็นส่วนของ Ag ที่ Ab เข้าไปจับ (Ab จะใช้
ส่วน antigen binding site ในการจับ)
แบคทีเรียตัวหนึ่ง ๆ อาจมี epitope ส้าหรับจับกับ Ab ได้ถึง 4 ล้านโมเลกุล
โครงสร้างและหน้าที่ของ ANTIBODY
36. Ab เป็นโปรตีนชนิด immunoglobulin (Ig)
โมเลกุลรูปตัว Y
ส่วนที่เกาะกับ Ag มี 2 ข้าง แต่ละข้างมี 2 แขน แขนสั้นเรียก light chain แขนยาว
เรียก heavy chain
C ล้าดับกรดอะมิโนคงที่ ส่วน V ล้าดับกรดอะมิโนแตกต่างตาม Ab แต่ละตัว
V ให้ epitope ของ Ag มาเกาะ
โครงสร้างและหน้าที่ของ ANTIBODY
37. Ig M (pentamer): เป็น Ig ที่พบเป็นชนิดแรกเมื่อ
expose กับ Ag พบครั้งแรกในปลาฉลามและปลา
กระดูกแข็ง ขนาดใหญ่ ไม่สามารถผ่านเข้าไปในรก
ได้
Ig G (monomer): พบมากในกระแสเลือด ผ่าน
เข้าไปในรกได้ ท้าลายแบกทีเรีย, ไวรัส และ toxin
Ig A (dimer): พบใน mucous และ colostrum
ป้องกันการจับของไวรัส และแบคทีเรียต่อ
epithelial surface
Ig D (monomer): พบมากที่ผิวของ B cell คาด
ว่าช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนจาก B cell ไปเป็น
plasma cell & memory B cell
Ig E (monomer): จับอยู่ที่ mast cell &
basophil เมื่อถูกกระตุ้นโดย Ag ท้าให้เกิดการหลั่ง
histamine หรือสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
Immunoglobulin (Ig)
38. Ab จับกับ Ag เป็น ag-ab complex โดยวิธี agglutination แล้วส่งต่อให้ macrophage
ท้าลาย โดยวิธี phagocytosis หรือ เป็น complex โดยวิธี complement fixation แล้ว
ส่งต่อให้ complement pathway เพื่อท้าให้เซลล์แตก (cell lysis)
การก้าจัด ANTIGEN ของ ANTIBODY
39. T-cell
ภายในต่อมไทมัส lymphocyte stem cell เจริญไปเป็น T-cell 3 ชนิด
1. เซลล์ทีผู้ช่วย (Helper-T-cell / TH): กระตุ้น lymphocyte ชนิด B ให้สร้าง
antibody ที่จ้าเพาะต่อ Antigen และท้าหน้าที่กระตุ้นการท้างานของ T-cell ชนิดอื่น
2. เซลล์ทีท้าลายสิ่งแปลกปลอม (Cytotoxic T-cell / Tc / CD8+ / Killer cell):
ท้าลายเซลล์แปลกปลอม เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส และเซลล์อวัยวะที่ได้รับ
การปลูกถ่าย
3. เซลล์ทีกดภูมิคุ้มกัน (Suppressor T-cell /Ts): ควบคุมการตอบสนองทาง
ภูมิคุ้มกันให้อยู่ในสภาวะสมดุล โดยสร้างสารไปกดการท้างานของ B-cell และ T-cell
ชนิด TH และ Tc
CELL-MEDIATED IMMUNE RESPONSE
40. 1. ร่างกายได้รับการติดเชื้อ และมีแอนติเจนแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย
2. Helper T cell เข้าจับกับแอนติเจนของสิ่งแปลกปลอมเพื่อระบุชนิดของ
แอนติเจนที่เข้ามาในร่างกาย
3. Helper T cell กระตุ้น B cell ให้เปลี่ยนเป็น plasma cell เพื่อหลั่ง
แอนติบอดีออกมาก้าจัดสิ่งแปลกปลอม
4. Helper T cell กระตุ้น cytotoxic T cell ให้หลั่งสาร/เอนไซม์ ย่อยเซลล์ที่
เกิดการติดเชื้อหรือเซลล์ผิดปกติ เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังเซลล์อื่นๆ
การท้างานของเซลล์ ที
42. ความต้านทานตามธรรมชาติของแต่ละ
บุคคล
สุขภาพทั่วไปของร่างกาย เช่น สภาพ
ร่างกาย ความเหนื่อย ความเครียด
อายุ และเพศ
ภาวะทุพโภชนาการหรือการขาด
สารอาหาร เช่นการขาดวิตามินเอและ
วิตามินซี ท้าให้การท้างานของเม็ดเลือด
ขาวลดลง
อาชีพ การท้างานและชนิดของงานที่ท้า
ความเป็นอยู่ทางสังคมและเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่มีผลต่อการท้างานของระบบภูมิคุ้มกัน
52. 9. นายทรงยศได้รับสาร ก หลังจากนั้นน้าเลือดมาตรวจ พบว่าจ้านวนของ
เซลล์ ข มีจ้านวนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม หนึ่งเดือนต่อมาน้าเลือดไปตรวจอีกครั้ง
พบว่าเซลล์ ข ในร่างกายสามารถผลิตสาร ค ที่ใช้ต่อต้านสาร ก ได้ จาก
ข้อมูลข้างต้นเป็นกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันแบบใด สาร ก และ ค คืออะไร
ตามล้าดับ
ก. แบบก่อเอง แอนติบอดี และแอนติเจน
ข. แบบก่อเอง ทอกซอยด์ และแอนติบอดี
ค. แบบก่อเอง แอนติเจน และทอกซอยด์
ง. แบบรับมา แอนติบอดี และแอนติเจน
จ. แบบรับมา ทอกซอยด์ และแอนติเจน