More Related Content
Similar to กล้องจุลทรรศน์
Similar to กล้องจุลทรรศน์ (20)
กล้องจุลทรรศน์
- 2. กล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ศึกษาเซลล์ เนื้อเยื่อ หรือสิ่งต่างๆที่มีขนาดเล็ก มีความสาคัญต่อ
การศึกษาทางชีววิทยาโดยเฉพาะสาขาเซลล์วิทยาอย่างมาก กล้องจุลทรรศน์
แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ ตามแหล่งกาเนิดแสง
1. กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (Light Microscope/LM)
2. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscope/EM)
- 3. 1. กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (Light Microscope/LM)
แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
1. กล้องจุลทรรศน์อย่างง่ายหรือแว่นขยาย (Single Light
Microscope) ใช้เลนส์นูนเพียงอันเดียวเป็นตัวช่วยในการ
ขยายวัตถุให้ดูใหญ่ขึ้น ภาพที่ได้เป็นภาพเสมือนขนาด
ใหญ่กว่าวัตถุ
- 5. 1. กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง
3. กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงแบบสเตอริโอ (Stereoscopic
microscope) เป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้กาลังขยายต่ากว่า
กล้องจุลทรรศน์เชิงประกอบ แต่ภาพที่เห็นเป็น
ภาพเสมือนหัวตั้งสามมิติ มีความชัดลึกมาก ใช้ศึกษาได้
ทั้งวัตถุทึบแสงและวัตถุบางโปร่งแสง เหมาะสาหรับ
ศึกษาส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุที่ต้องการ
ทราบรายละเอียดที่มีขนาดเล็กมากๆ
- 7. 1. กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง(ต่อ)
หลักการทางานคือ ใช้แหล่งกาเนิดแสงจากหลอดไฟ และใช้เลนส์รวมแสง
ให้ไปตกในตาแหน่งที่วัตถุวางอยู่ จากนั้นเลนส์ใกล้วัตถุจะเป็นตัวขยายภาพ
วัตถุให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วส่งต่อไปที่เลนส์ใกล้ตา เพื่อขยายภาพสุดท้าย
ภาพที่ได้จากกล้องจุลทรรศน์ : เป็นภาพเสมือน หัวกลับ กลับจากซ้ายไปขวา
(Lateral inversion) ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ โดยมีมุมมองภาพตัวอย่าง เช่น
ก
ชีวะ
Biology
ชี
ว
ะ
Bioligy
ก
- 8. องค์ประกอบของกล้องจุลทรรศน์
1. ส่วนฐาน (base) คือส่วนฐานที่วางติดกับโต๊ะ มีหลอดไฟฟ้าติดอยู่ที่ฐานกล้อง
พร้อมสวิทช์ปิดเปิด
2. ส่วนแขน (arm) คือส่วนที่ยึดติดระหว่างลากล้องกับส่วนฐาน
3. ลากล้อง (body tube) มีเลนส์ใกล้ตาติดอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างติดกับแผ่นหมุน ซึ่ง
มีเลนส์ใกล้วัตถุติดอยู่ บางกล้องมีปริซึมติดอยู่เพื่อหักเหแสงจากเลนส์ใกล้วัตถุให้
ผ่านเลนส์ใกล้ตา
- 9. องค์ประกอบของกล้องจุลทรรศน์(ต่อ)
4. แผ่นหมุน (revolving nosepiece) คือแผ่นกลมหมุนได้มีเลนส์ใกล้วัตถุติดอยู่เพื่อ
หมุนเปลี่ยนกาลังขยายของเลนส์ตามความต้องการ
5. เลนส์ใกล้วัตถุ (objective lens) คือเลนส์ที่ติดอยู่บนแผ่นหมุน ตามปกติจะมี 3 หรือ 4
อัน แต่ละอันจะมีตัวเลขแสดงกาลังขยายกากับไว้เช่น x4, x10, x40 หรือ x100 เป็นต้น
ในกรณีที่ใช้เลนส์ใกล้วัตถุกาลังขยาย x100 ต้องใช้น้ามันเป็นตัวกลางระหว่างเลนส์
และวัตถุจึงจะเห็นภาพ นอกจากนี้ ด้านข้างของเลนส์ใกล้วัตถุมีตัวเลขแสดงค่า N.A.
(numerical aperture) กากับอยู่ (ภาพที่ 2) ค่า N.A. (ความสามารถของเลนส์ที่รวบรวม
แสงที่หักเหผ่านวัตถุเข้ากล้องมากที่สุด) มีความสัมพันธ์กับ resolving power ดังนี้
- 10. 6. เลนส์ใกล้ตา (eyepiecelens) คือเลนส์ชุดที่อยู่ส่วนบนสุดของกล้อง มีตัวเลขบอกกาลังขยายอยู่
ทางด้านบน เช่น x5, x10, หรือ x15 เป็นต้น บางกล้องมีเลนส์ใกล้ตาอันเดียว (monocular) บาง
กล้องมีเลนส์ใกล้ตา 2 อัน (binocular) เลนส์ชุดนี้ขยายภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ ภาพที่เห็นมี
ขนาดขยาย เป็นภาพเสมือนหัวกลับ และกลับซ้ายเป็นขวากับวัตถุ
7. วงล้อปรับภาพ (adjustmentwheel) สาหรับปรับระยะห่างระหว่างวัตถุกับเลนส์ใกล้วัตถุ เพื่อ
ปรับภาพให้เห็นชัด ซึ่งระยะห่างที่ทาให้เห็นภาพชัด เรียกว่า ระยะการทางานของกล้อง
(working distance) หรือระยะโฟกัสของกล้อง วงล้อดังกล่าวมี 2 ชนิด คือ ชนิดปรับภาพหยาบ
(coarse adjustment wheel) ใช้ปรับระยะห่างระหว่างวัตถุกับเลนส์ใกล้วัตถุชนิดกาลังขยาย10
เท่าลงมา และชนิดปรับภาพละเอียด(fine adjustmentwheel) ใช้ปรับภาพให้ชัด เมื่อใช้เลนส์
ใกล้วัตถุกาลังขยายสูง 40 เท่าขึ้นไป
องค์ประกอบของกล้องจุลทรรศน์(ต่อ)
- 11. 8. แท่นวางวัตถุ (stage) มีช่องตรงกลางสาหรับให้แสงผ่าน และใช้วางสไลด์แก้ว เป็นอุปกรณ์
ที่เคลื่อนที่ได้(mechanical stage) ด้วยการหมุนปุ่มบังคับ อุปกรณ์ดังกล่าวมีคลิปเกาะสไลด์
และมีสเกลบอกตาแหน่งของสไลด์บนแท่นวางวัตถุ ฉะนั้นอุปกรณ์นี้จะช่วยอานวยความ
สะดวกในการเลื่อนสไลด์ไปทางขวา ซ้าย หน้า และหลังได้ในขณะที่ตามองภาพในกล้อง
ช่วยให้หาภาพได้รวดเร็ว และมีสเกลบอกตาแหน่งของวัตถุบนสไลด์
9. คอนเดนเซอร์ (condenser) คือชุดของเลนส์ที่ทาหน้าที่รวมแสงให้มีความเข้มมากที่สุด
เพื่อส่องวัตถุบนสไลด์แก้วให้สว่างที่สุด มีปุ่มปรับความสูงต่าของ condenser
10. ไอริสไดอะแฟรม (iris diaphragm) เป็นม่านปรับรูเปิดเพื่อให้แสงผ่านเข้า condenser
และมีปุ่มสาหรับปรับ iris diaphragm ให้แสงผ่านเข้ามากน้อยตามต้องการ
11. แหล่งกาเนิดแสง (light source) เป็นหลอดไฟฟ้าให้แสงสว่างติดอยู่ที่ฐานกล้อง มีสวิทช์
เปิดปิด และมีสเกลปรับปริมาณแสงสว่าง
องค์ประกอบของกล้องจุลทรรศน์(ต่อ)
- 13. 2. กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (ElectronMicroscope)คือกล้องจุลทรรศน์ที่ใช้
อิเล็กตรอนแทนแสงในการสร้างภาพขยายของวัตถุ ใช้แม่เหล็กไฟฟ้าแทนเลนส์ มี
กาลังขยายสูง สามารถแยกลายละเอียดวัตถุขนาด 0.1 nm ภาพที่ได้จากกล้องนี้มองไม่เห็น
ด้วยตาเปล่า ต้องแสดงผ่านหน้าจอเท่านั้น กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนมี 2 ชนิด คือ
2.1 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องผ่าน (Transmission Electron
Microscope) ได้ภาพ 2 มิติ ขยายภาพได้มากกว่า 1 ล้านเท่า เห็นภาพโครงสร้างได้
อย่างทะลุทะลวง นิยมใช้ศึกษาโครงสร้างภายในเซลล์
2.2 กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราด (Scanning Electron
Microscope) ได้ภาพ 3 มิติ แต่ไม่เห็นภายในอย่างทะลุทะลวง นิยมใช้ศึกษาพื้นผิว
ของเซลล์หรือโครงสร้างต่างๆ
- 15. 6. ค่อยๆหมุนปุ่มปรับภาพหยาบให้กล้องเลื่อนขึ้นช้าๆเพื่อหาระยะภาพ แต่ต้องระวัง
ไม่ให้เลนส์ใกล้วัตถุกระทบกับสไลด์ตัวอย่าง เพราะจะทาให้เลนส์แตกได้
7. ปรับภาพให้ชัดเจนขึ้นด้วยปุ่มปรับภาพละเอียด ถ้าวัตถุที่ศึกษาไม่อยู่ตรงกลางให้
เลื่อนสไลด์ให้มาอยู่ตรงกลาง
8. ถ้าต้องการให้ภาพขยายใหญ่ขึ้นให้หมุนเลนส์ใกล้วัตถุที่มีกาลังขยายสูงกว่าเดิม
มาอยู่ในตาแหน่งแนวของลากล้อง จากนั้นปรับภาพให้ชัดเจนด้วยปุ่มปรับภาพ
ละเอียดเท่านั้น ห้ามปรับภาพด้วยปุ่มปรับภาพหยาบเพราะจะทาให้ระยะของภาพ
หรือจุดโฟกัสของภาพเปลี่ยนไป
9. บันทึกกาลังขยายโดยหาได้จากผลคูณของกาลังขยายของเลนส์ใกล้วัตถุกับ
กาลังขยายของเลนส์ใกล้ตา
การใช้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง (ต่อ)
- 16. การระวังรักษากล้องจุลทรรศน์
1.การยกกล้อง ควรใช้มือหนึ่งจับที่แขนกล้อง (arm) และอีกมือหนึ่งวางที่ฐาน
(base) และต้องให้ลากล้องตั้งตรงเสมอ เพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดของเลนส์ใกล้ตาซึ่ง
สามารถถอดออกได้ง่าย
2.สไลด์และกระจกปิดสไลด์ต้องไม่เปียกเพราะอาจทาให้แท่นวางเกิดสนิม และทา
ให้เลนส์ใกล้วัตถุชื้นอาจเกิดราที่เลนส์ได้
3.ขณะที่ตามองผ่านเลนส์ใกล้ตาเมื่อจะต้องหมุนปุ่มปรับภาพหยาบ ต้องหมุนขึ้น
เท่านั้น ห้ามหมุนลง เพราะเลนส์ใกล้ตาอาจกระทบกระจกสไลด์ทาให้เลนส์แตกได้