More Related Content
More from Worapon Masee (17)
แฟลช
- 1. 8/21/2011
แฟลช ประกอบด้ วย
แฟลช 1. อุปกรณ์ ในการถ่ ายภาพ
2. ประเภทของแฟลช
ประเภทของแฟลช
3. การทํางานของไฟแฟลช
การทํ งานของไฟแฟลช
4. เทคนิคการถ่ ายภาพ/การใช้ แฟลช
ยภาพ/ แฟลช
5. การถ่ ายภาพกลางคืน (NIGHT LIGHT)
การถ่
อุปกรณ์ ในการถ่ ายภาพ ประกอบด้ วย
1. ตัวกล้อง (Body) ทําหน้ าทีเ่ ป็ นห้ องมืดปองกันแสงภายนอกเข้ าไปถูกฟิ ล์ม
Body) ทํ ้
2. เลนส์ (Lens) ทําหน้ าทีรับแสงสะท้ อนจากวัตถุส่งไปยังฟิ ล์ม
่
อุปกรณในการถายภาพ
อปกรณ์ ในการถ่ ายภาพ
(Lens) ทํ
3. ช่ องมองภาพ (View Finder) อยู่ทางด้ านหลังของกล้อง
View Finder) อยู
4. ชัตเตอร์์ ((Shutter) ทําหน้ าทีควบคุมเวลาฉายแสง (Exposure Time)
(Shutter) ทํ
) ่ )
5. แผ่ นไดอะแฟรม (Diaphram) ทําหน้ าทีควบคุมปริมาณของแสงทีตกบน
. แผ่ Diaphram) ทํ ่ ่
แผ่ นฟิ ล์ม
6. รู รับแสง (Aperture) เมื่อต้ องการให้ แสงเข้ ามากก็เปิ ดรู รับแสงให้ มีขนาดใหญ่
(Aperture) เมื
และต้ องการให้ ปริมาณแสงเข้ าไปถูกฟิ ล์มน้ อยก็เปิ ดรู ให้ เล็กลง
อุปกรณ์ ที่ใช้ ร่วมกับกล้ อง 3. แว่ นกรองแสง (Filters) เป็ นอุปกรณ์ ทใช้ ประกอบกับเลนส์ เพือให้ ได้ ภาพที่สวยงาม
ี่ ระกอบกั ่
แตกต่ างไปจากภาพปกติ
1. เครื่องวัดแสง (Exposure light meter) เป็ นเครื่องมือทีช่วยบอก
่
ลักษณะของแสงที่พอเหมาะ
4. สายลันไก (Shutter Release Cable) เป็ นอุปกรณ์ ที่ใช้ ต่อเข้ ากับปุ่ มลันไกช่ วยลันไก
่ ่ ่
2. ขาตั้งกล้อง (Tripod, Camera Supports)
. ขาตั ชัดเตอร์
1
- 2. 8/21/2011
5. ไฟแฟลชอิเลคโทรนิค (Electronic Flash) เป็ นอุปกรณ์ ทเี่ ป็ นแหล่งของแสง 7. กระเป๋ ากล้อง ( Case) เป็ นอุปกรณ์ ทควรจะสวมใส่ กล้องไว้ ตลอด เพราะปองกัน
. กระเป๋ ( Case) เป็ ี่ ้
สว่ างเพือช่ วยถ่ ายรู ป เมื่อแสงไม่ พอ
่ การขูดขีดของตัวกล้อง และเลนส์ ปองกันการกระทบกระเทือน
้
8. เครื่องขับเคลือนฟิ ล์มโดยอัตโนมัติ (Motor Drive,Autowinder)
. เครื ่ (Motor Drive,Autowinder)
อุปกรณ์ ชิ้นนีอาจไม่ จาเป็ นในการถ่ ายรู ปปกติ เพราะมีเวลาในการเลือนฟิ ล์มด้ วยตนเอง
้ ํ ่
แตสาหรบงานอาชพทตองการบนทกภาพตดตอกนในเวลาสนๆ
แต่ สําหรับงานอาชีพทีต้องการบันทึกภาพติดต่ อกันในเวลาสั้นๆ
่
9. กระเป๋ าเก็บกล้อง และอุปกรณ์ อนๆ (Baggage) เป็ นกระเป๋ าเอนกประสงค์ ที่
ื่ (Baggage) เป็
6. เลนส์ ฮูด (Lense Hood) เป็ นอุปกรณ์ ทใช้ เพือกันการสะท้ อนของแสง
ี่ ่
สามารถบรรจุกล้องและอุปกรณ์ ประกอบต่ างๆ นําไปใช้ ถ่ายรู ปได้ ช่วยปองกันการ
้
กระแทกได้ เป็ นอย่างดี
แฟลชทีมีใช้ กบอยู่ในปัจจุบันจะสามารถแบ่ งได้ เป็ นสองแบบ คือ แฟลชที่ตดกับตัว
่ ั ิ
กล้อง หรือบางครั้งเรียกว่ าแฟลช Pop up ตามลักษณะของตัวแฟลชทีจะเด้ งขึนมาเมื่อเปิ ด
่ ้
การใช้ งาน กับแฟลชภายนอก โดยเรียกตามลักษณะของแฟลชที่แยกออกมาจากตัวกล้อง
1. แฟลชติดตัวกล้ อง หรือแฟลช Pop up จะเป็ นแฟลชทีนิยมใช้ งานมากทีสุด
. แฟลชติ Pop up จะเป็ นแฟลชที่ ่
เนื่องจากเป็ นแฟลชทีมีมากับตัวกล้อง และหากตั้งโหมดการถ่ ายภาพเป็ นโหมดอัตโนมัตตว
นแฟลชที่ ิ ั
ประเภทของแฟลช
แฟลชนี้ ั
แฟลชนียงทํางานโดยอัตโนมัตเิ มื่อสภาพแสงไม่ เพียงพอสําหรับการถ่ ายภาพ
2. แฟลชภายนอกโดยทัวไปจะสามารถทีจะปรับมุมองศาของแฟลชได้ โดย
. แฟลชภายนอกโดยทั่ ่ องศาของแฟลชได้
การก้มเงย หรือหมุนซ้ ายขวาของตัวหัวแฟลช ซึ่งทําให้ สามารถกําหนดทิศทางของแสง
ได้ มากขึน โดยสามารถทีจะปรับให้ ตวแฟลชยิงสะท้ อนเพดาน หรือพนัง ให้ แสง
ากขึ้ ่ ั แฟลชยิ
กระจายมากระทบตัวแบบ หรือทีเ่ รียกว่ าการ Bounce flash ได้ ในแฟลชบางตัว
Bounce flash ได้ ในแฟลชบางตั
หากไม่ มีพนัง หรือเพดานให้ แสงยิงตกกระทบ ตัวแฟลชเองก็จะมีแผ่ นสีขาว ๆ อยู่
แฟลชเองก็
ด้ านบนของแฟลชสําหรับดึงออกมาทีเ่ รียกว่ า แผ่ น Bounce โดยแสงแฟลชจะ
นบนของแฟลชสํ Bounce โดยแสงแฟลชจะ
ั ่
กระทบกบแผนนีี้ และสะท้้ อนแสงออกไปยงตวแบบแทน เทคนิิคการ Bounce
ไป ั ั Bounce
flash นี้
flash นีจะช่ วยทําให้ แสงแฟลชดูน่ ุมขึน และไม่ ทาให้ ภาพถ่ ายทีได้ มีตวแบบทีมีมิติ
สงแฟลชดู ้ ํ ่ ั ่
มากขึน้
2
- 3. 8/21/2011
ประเภทของแฟลชตามการทํางาน
แบ่ งประเภทตามลักษณะการทํางานของแฟลชแล้วสามารถแบ่ งเป็ น 2 ประเภท คือ 1.1 F (Fast Peak) มีช่วงความสว่ างสั้นมากและแรงส่ องสว่ างค่ อนข้ างน้ อย ความสว่ าง
1. แฟลชหลอด (Bulb Flash) ประกอบด้ วยตัวหลอดที่ทาด้ วยแก้วใสบางฉาบ
ํ ถึงจุดสู งสุ ดภายในเวลา 0.005-0.009 วินาที นับจากการกดสวิทช์ ดังนั้นเมื่อใช้ ความเร็ว
005-
ด้ วยพลาสติคใสสี ฟาหรือสี นําเงินภายในหลอดบรรจุด้วยลวดโลหะพวกอลูมิเนียม
้ ้ กับแฟลชชนิดนี้ สามารถใช้ กบความเร็วของชัตเตอร์ ได้ สูงถึง 1/100 หรือ 1/125 วินาที
แฟลชชนิ ั ได้
(Aluminium) หรือเซอร์ โคเนียม (Zirconium) ทําเป็ นเส้ นเล็ก ๆ มากมาย และมีก๊าซ
Aluminium) 1.2 M (Medium Peak) ให้ ความสว่ างนานกว่ าประเภทแรก และช่ วงเวลาในการลุก
ออกซิเจนช่ วยในการเผาไหม้ ภายในจะมีใส้ หลอด เมื่อใส้ หลอดลุกไหม้ ถงทีสุด (Peak)
ึ ่ ไหม้ ปานกลาง คือ ให้ ความสว่ างถึงจุุดสูู งสุุ ดภายในเวลา 0.018-0.024 วินาที ฉะนั้นใช้
018-
แล้วจะค่ อย ๆ ดับลง ซึ่งความสว่ าง (Flash Duration) นั้นอยู่ระหว่ าง 1/200 ถึง 1/25 ความเร็วชัตเตอร์ ได้ ไม่ เกิน 1/50 ปกติจะใช้ 1/60 วินาที แต่ ถ้าหากอยากให้ สว่ างมากกว่ า
ได้
วินาที มีจานสะท้ อนแสงเป็ นตัวสะท้ อน และอีกชนิดหนึ่ง เป็ นแบบลูกเต๋ า (Cube) นั้นอาจใช้ 1/30 วินาทีกได้็
ภายในบรรจุหลอดเล็ก ๆ 4 หลอดเมื่อหลอดใดทํางานตัวแฟลชจะหมุนไป นอกจากนั้น
อาจมีแฟลชทีเ่ รียงลําดับแถว เรียกว่ า ฟลิปแฟลช (FlipFlash) อย่างไรก็ตามถ้ าหากจะ
FlipFlash)
แยกช่ วงเวลาของความสว่ างเป็ นเกณฑ์ แล้ว แฟลชหลอดมีอยู่ 4 พวก คือ
2. แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Flash Strobe) ผู้ทคดค้ นได้ สําเร็จ
แฟลชอิ ี่ ิ
1.3 S (Slow Peak) ให้ ความสว่ างถึงจุดสู งสุ ดภายในเวลา 0.03 วินาที ถือได้
3 S (Slow Peak) ให้ 03 วิ และนํามาใช้ เป็ นคนแรก คือ ฮาโรลด์ อี เอดเจอร์ ตน (Dr.Harold EEdgerton) กับ
ฮาโรลด์ ตัั EEdgerton)
ว่ าเป็ นการลุกไหม้ นานทีสุดและให้ กาลังส่ องสว่ างสู งมากเหมาะสําหรับ การใช้ กล้องใน
่ ํ ผู้ร่วมงานของเขาแห่ งสถาบัน MIT เขาให้ ชื่อสิ่งประดิษฐ์ นีว่า Kodatron Speed
้
สตูดโอ และการใช้ เทคนิคในการถ่ ายภาพแบบเปิ ดแฟลช (Open Flash) โดยไม่
ิ ดแฟลช Open Flash) โดยไม่ Lamp แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ ได้ พฒนามาอย่างรวดเร็วบางชนิดมีตาอิเล็กทรอนิกส์ ที่
แฟลชอิ ั
ต้ องต่ อสายแฟลชความเร็วชัตเตอร์ ทเี่ หมาะกับแฟลชชนิดนีประมาณ ไม่ เกิน 1/25
สายแฟลชความเร็ ที แฟลชชนิ ้ ใช้ ควบคุมปริมาณของแสงให้ ออกมาพอดีกบระยะการถ่ ายภาพได้ ซึ่งโอกาสทีจะทํา
ั ่
หรอ 30 วนาท
หรือ 1/30 วินาที
30 วนาท ให้ ได้ แสงไม่ พอดีเกือบไม่ มเี ลยแฟลชอิเล็กทรอนิกส์ มีขนาดให้ เลือกได้ ตามต้ องการ
ลยแฟลชอิ
1.4 FP (Focal Plane) ให้ แสงในช่ วงลุกไหม้ อย่างสมํ่าเสมอให้ ความสว่ างถึง
4 FP (Focal Plane) ให้ และกําลังส่ องสว่ างแตกต่ างกันไป ปกติจะมีอายุการใช้ งานเกินกว่ า 10,,000 ครั้ งขึน
10 ้
ขีดสู งสุ ด ภายในเวลา 0.016‐0.018 วินาที เหมาะในการใช้ กบกล้องแบบ ม่ านชัต
016‐ 018 วิ ั ไป ทั้งนีขึนอยู่กบการระวังรักษา แฟลชชนิดนีจะมีแบตเตอรี่แห้ งเป็ นตัวจ่ าย
้ ้ ั แฟลชชนิ ้
เตอร์ ใช้ ความเร็วชัตเตอร์ ได้ 1/60 วินาที
ใช้ ได้ 60 วิ พลังงาน ให้ บรรจุลงในคอนเดนเซอร์ และทําให้ แฟลชทํางาน ช่ วงเวลาส่ องสว่ าง
แฟลชทํ
ของแสงสั้นมากประมาณ 1/500 ถึง 1/2000 วินาที
3. TTL Flash (Through The Lens - Off the Film) หมายถึง เทคโนโลยี
ประเภทของแฟลชมี
ประเภทของแฟลชมี 4 ประเภท ดังนี้ แฟลชทีทางานสัมพันธ์ กบปริมาณแสงทีสะท้ อนผ่ านเลนส์ โดยจะมีเซนเซอร์ ตรวจจับ
่ ํ ั ่
1. Manual Flash หมายถึง แฟลชทีปล่อยพลังงานออกมาตามสเปกของ
่ แสงทีผ่านเลนส์ เข้ ามาสะท้ อนกับฟิ ล์ม เมื่อฟิ ล์มได้ รับแสงในปริมาณทีเ่ ซนเซอร์ คดว่ า
่ ิ
ตัวเครื่องทุกครั้งที่ยงแสงออกมา ผู้ใช้ จําเป็ นต้ องควบคุมกล้อง (ความเร็วชัตเตอร์ และรู
ิ เหมาะสมแล้ว ก็จะสั่งให้ แฟลชหยุดการทํางาน เป็ นการพัฒนาต่ อจาก Thyristor
ปรับแสง) ให้ สัมพันธ์ กลับแฟลช เพือให้ ฟิลม์ หรือเซนเซอร์ ได้ รับแสงทีเ่ พียงพอไม่ สว่ าง
แสง) ่ Flash โดยให้ กล้องมีส่วนร่ วมในการกําหนดปริมาณแสง ในบางกรณีพบว่ า Thyristor
หรือมืดเกินไปแฟลชบางรุ่นสามารถปรับชดเชยกําลังแฟลชได้ ค่าละ1/2 - 1/3 Stop
ละ1 Flash ให้ ผลทีดกว่ า
่ ี
่ ี่
2. Thyristor Flash หมายถึง แฟลชทีมีเซลรับแสงอยู่ทด้านหน้ าของตัวแฟลช 4. Intelligent Flash หมายถึงเทคโนโลยีแฟลชที่ทางานสัมพันธ์ กบปริมาณ
ํ ั
โดยจะปรับลดกําลังแฟลชลงให้ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม ผู้ใช้ ยงจําเป็ นต้ องควบคุม
ั แสงทีสะท้ อนผ่ านเลนส์ โดยก่อนทีม่านชัตเตอร์ จะทํางานแฟลชจะทํางานล่วงหน้ า
่ ่
กล้อง(ความเร็วชัตเตอร์ และรู ปรับแสง) ให้ สัมพันธ์ กลับแฟลช เพือให้ ฟิลม์ หรือเซนเซอร์
ง( แสง) ่ ก่อนหนึ่งครั้ง (pre flash) โดยจะมีเซนเซอร์ ตรวจจับแสงทีผ่านเลนส์ เข้ ามาสะท้ อน
่
ได้ รับแสงทีเ่ พียงพอไม่ สว่ าง หรือ มืดเกินไป พัมนาขึนจากแฟลชแมลนวลเดิมทําให้ ง่าย
้ กับกระจกสะท้ อนภาพ ส่ งข้ อมูลปริมาณแสงไปยังแฟลช ให้ แฟลชกําหนดปริมาณแสง
ต่ อการใช้ งานมากขึน โดยผู้ใช้ ไม่ จําเป็ นต้ องกังวลกับการปรับชดเชยแฟลช
้ ทีจะฉายจริงได้ อย่างเหมาะสม
่
3
- 4. 8/21/2011
ไฟแฟลชเป็
ไฟแฟลชเป็ นอุปกรณ์ ให้ แสงในขณะถ่ ายภาพ มีอณหภูมิสีใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์
ุ
ตอนกลางวัน ทํางานโดยการฉายแสงในช่ วงเวลาที่ส้ั นมาก ดังนั้นเราจึงสามารถถ่ ายภาพ
วัตถุทเี่ คลือนทีด้วยความเร็วได้ ชัดเจนภายใต้ แสงจากไฟแฟลชได้ เป็ นอย่างดี แฟลชทีเ่ รา
่ ่ สงจากไฟแฟลชได้ แฟลชที
คุ้นเคยกันคือแฟลชทีตดมากับกล้อง ซึ่งเป็ นแฟลชทีมีขนาดเล็ก กําลังส่ องสว่ างน้ อยมาก
แฟลชที่ ิ นแฟลชที่
การทางานของไฟแฟลช
การทางานของไฟแฟลช
การทํางานของไฟแฟลช
งานของไฟ มักทํางานได้ ดในระยะไม่ เกิน 3 เมตร จึงเหมาะกับการถ่ ายภาพระยะใกล้ แต่ ถ้าระยะห่ าง
ิ
ี
เกน 5 เมตร มกจะไดภาพทมดเกนไป
ั ไ้ ี่ ื ิ ไป
Guide Number
เป็ นค่ าทีบ่งบอกถึงกําลังไฟของแฟลชตัวนั้น สามารถใช้ เป็ นแนวทางเปรียบเทียบ
่ ไฟของแฟลชตั
ของแฟลชแต่
ของแฟลชแต่ ละรุ่นแต่ ละยีห้อได้ ค่ า Guide number ยิงมากหมายถึงกําลังไฟส่ องสว่ าง
่ ่
ได้ มากกว่ า
มากกว่
ความสัมพันธ์ ระหว่ างชัตเตอร์ กบไฟแฟลช ั ความสัมพันธ์ ระหว่ างม่ านชัตเตอร์ กบไฟแฟลช
งม่ กัั ไฟแฟลช
กล้องแต่ ละรุ่นจะมีค่ากําหนดความเร็วชัตเตอร์ สูงสุ ดทีจะใช้ กบไฟแฟลชได้
่ ั เราสามารถตั้งค่ าให้ กล้องสั่งงานให้ แฟลชทํางานโดยสัมพันธ์ กบการ
แฟลชทํ ั
ไม่ เท่ ากัน ขึนกับเทคนิคในการสร้ างม่ านชัตเตอร์ ของแต่ ละรุ่น หากเป็ นกล้องรุ่นเก่า
้ ทํางานของม่ านชัตเตอร์ ชุดที่ 1 หรือชุดที่ 2 ก็ได้ เนื่องจากม่ านชัตเตอร์ จะมี 2 ชุด
งานของม่ ชุ 1 หรื 2 ก็ งจากม่ จะมี 2 ชุ
จะต้ องใช้ ความเร็วชัตเตอร์ สูงสุ ดไม่ เกิน 1/60 วินาที แต่ ถ้ากล้องรุ่ นใหม่ ทาความเร็วชัต
ํ ปกติแล้วม่ านชั่ตเตอร์ ชุดที่ 1 จะปิ ดอยู่ตลอดเวลา และชุดที่ 2 จะซ่ อนอยู่ เมื่อเรากด
นชั ชุ 1 จะปิ 2 จะซ่
เตอร์ สูงสุ ดทีใช้ กบไฟแฟลชได้ ถง 1/200 วินาที สาเหตุทเี่ ลือกใช้ ความเร็วชัตเตอร์ สูงสุ ด
่ ั ึ ปุ่ มปล่อยชัตเตอร์ ม่ านชัตเตอร์ ชุดที่ 1 จะเคลือนทีในลักษณะเปิ ดให้ แสงผ่ านเข้ ามา
ยชั ชุ 1 จะเคลื่ ่
ไม่่ เกินค่่ าทีกาหนด เพราะต้้ องเป็ นความเร็็วชััตเตอร์์ ทช่ วงขณะเวลาหนึ่ง ม่่ านชััตเตอร์์
ไ ิ ี่ ํ ป็ ี่ ึ กระทบฟิ ล์ม และม่ านชัตเตอร์ ชุดที่ 2 จะเคลือนตัวตามชุดที่ 1 โดยปล่อยให้ มี
และม่ ชุ 2 จะเคลื่ 1 โดยปล่
เปิ ดเต็มที่ ซึ่ง ณ เวลานั้น กล้องจะส่ งสัญญาณให้ แฟลชทํางาน ซึ่งแฟลชจะใช้ เวลาฉาย ช่ องว่ างจะแคบหรือกว้ างขึนอยู่กบความเร็วชัตเตอร์ ที่ต้งตามหัวข้ อก่อนหน้ านี้ เมื่อ
้ ั ที ั
แสงประมาณ 1/10000 วินาที แล้วดับไป จากนั้นม่ านชัตเตอร์ จึงปิ ด ครบเวลาก็จะปิ ดหมด
เทคนิคการใช้ แสงแฟลชที่น่ ุมนวล
เทคนิคการถ่ ายภาพ
การถ่ ไฟแฟลชบางรุ่นจะสามารถเงยหัวแฟลชได้ ทําให้ เราสามารถลดความแข็งกระด้ าง
ของการใช้ แฟลชติดหัวกล้องได้ เพราะไฟทีส่องกระทบเพดานจะสะท้ อนแสงลงมาอย่าง
่
การใช้ แฟลช นิ่มนวล และไม่ เกิดเงาดําทีกาแพงด้ านหลังนางแบบ สําหรับแฟลชทีไม่ สามารถเงยได้
่ํ
ี่ ่
่
อาจใช้ กระดาษไข หรือถุงพลาสติกขุ่น กั้นไว้ ทหน้ าแฟลช เพือกรองให้ แสงแฟลชนุ่มลงก็
ไดผลดพอสมควร แตกยงเปนแสงตรง ทาใหหนานางแบบจะดูแบนกวาการสะทอน
ไ้ ี ่ ็ ั ป็ ํใ ้ ้ ่ ้
เพดาน มีข้อระวังเรื่องสีของเพดานทีสะท้ อนแสงแฟลชด้ วยคือ เพดานควรจะเป็ นสีขาว
่
เพือปองกันแสงสะท้ อนออกมาเป็ นสีตามสีเพดาน และเพดานทีใช้ วิธีนีได้ ควรเป็ น
่ ้ ่ ้
เพดานเรียบจะดีทสุด เพราะสะท้ อนแสงได้ ดทสุด ส่ วนเพดานแบบหลังคาจั่ว จะสะท้ อน
ี่ ี ี่
แสงลงมาได้ น้อยกว่ า เราอาจประยุกต์ เล่นสี สรรต่ างๆได้ โดยการใช้ กระดาษแก้วสีที่
ต้ องการหุ้มไว้หน้ าแฟลช เพือให้ เป็ นสีแบบแปลกๆก็ได้
่
4
- 5. 8/21/2011
การใช้ แฟลชพร้ อมกันหลายดวง
การใช้ แฟลชถ่ ายภาพภายนอก
การถ่ ายภาพแบบมืออาชีพ มักจะต้ องใช้ แหล่งแสงมากกว่ า 1 แหล่งเสมอ เพือ ่
ไม่ ให้ ภาพแบน และเปิ ดรายละเอียดภาพให้ ดูมีมิติ แต่ จะหลีกเลียงการใช้ แสงตรง
่ การถ่ ายภาพตอนกลางวันกล่าวถึงไปแล้วในหัวข้ อการให้ แสงแบบเปิ ด ส่ วน
โดยทัวไปจะเป็ นแสงข้ าง โดยมีแหล่งแสงทีแรงทีสุดเป็ นหลัก อาจเป็ นแสงอาทิตย์หรือ
่ ่ ่ หัวข้ อนีจะกล่าวถึงการถ่ ายภาพตอนกลางคืนโดยใช้ แสงแฟลช จะคล้ายกับการประยุกต์
้
เป็ นแฟลชทีวางอยู่ใกล้นางแบบทีสุดก็ได้ และมีไฟเสริมวางห่ างออกมา เพือให้ ช่วยลบเงา
่ ่ ่ เรื่องการให้ แสงแบบเปิ ด คือ ใช้ แฟลชลบเงา กับแนวคิดแบบใช้ ไฟพร้ อมกันหลายดวง แต่
ทเกดจากไฟหลก แตกสวางนอยกวาไฟหลก เพอใหเกดมตบนใบหนา และอาจใชไฟเสรม
ี่ ิ ไฟ ั ่ ็ ่ ้ ่ ไฟ ั ื่ ใ ้ ิ ิ ิ ใ ้ ใ ้ ไฟ ิ ในหัวข้ อนีเ้ ราจะใช้ แฟลชธรรมดาดวงเดียว ขอให้ นึกภาพว่ าเรากําลังจะถ่ ายภาพบ้ านหลัง
เพิมเติมอีกตามวัตถุประสงค์ ต่างๆ เช่ น ไฟส่ องผม ให้ เห็นรายละเอียดของผม หรืออาจใช้
่ หนึ่ง โดยวางกล้องบนขาตั้งกล้อง โดยเราต้ องการให้ แสงกับบ้ านทุกด้ าน เพือให้ เห็นมิติ
่
แผ่ นสะท้ อนแสงเป็ นแสงเสริมในการลบเงาจากไฟหลักก้ได้ กรณีทมีแฟลชหลายดวง
ี่ ของบ้ าน ทําได้ โดยตั้งเวลาแบบเปิ ดตลอด (B) แล้วถือแฟลชไปยิงแสงแบบกดยิงแสง
จะต้ องมีอปกรณ์ พเิ ศษเพือให้ แฟลชทํางานได้ พร้ อมกันทุกตัว อุปกรณ์ ไฟในห้ องถ่ ายภาพ
ุ ่ โดยตรงทีตวแฟลชในขณะทีกล้องกําลังเปิ ดรับแสงอยู่ไปรอบๆบ้ าน ตามจุดทีเ่ ราคิดว่ าจะ
่ ั ่
จะมีไฟนํา เพือส่ องให้ เห็นทิศทางแสงทีตกกระทบบนตัวแบบ จะทําให้ การจัดแสงทําได้
่ ่ ให้ แสงจนพอใจแล้วจึงเดินกลับมาปิ ดชัตเตอร์
ง่ าย แต่ ถ้าเราไม่ มีไฟนํา เราอาจใช้ หลอดไฟผูกติดกับแฟลชก็ได้ แต่ ค่อนข้ างยุ่งยาก
การถ่ ายภาพแบบมืออาชีพ มักจะต้ องใช้ แหล่งแสงมากกว่ า 1 แหล่งเสมอ เพือ ่
ภาพทีได้ จะเห็นว่ า ภาพบ้ านจะได้ รับแสงทั้งด้ านหน้ าและด้ านข้ างตามทีเ่ รากดแฟลช
่ ไม่ ให้ ภาพแบน และเปิ ดรายละเอียดภาพให้ ดูมีมิติ แต่ จะหลีกเลียงการใช้ แสงตรง
่
ทําให้ ดูเหมือนใช้ ไฟหลายดวง แต่ ทจริงมีดวงเดียว เทคนิคนี้ สามารถประยุกต์ ใช้ กบ
่ี ั โดยทัวไปจะเป็ นแสงข้ าง โดยมีแหล่งแสงทีแรงทีสุดเป็ นหลัก อาจเป็ นแสงอาทิตย์หรือ
่ ่ ่
การถ่ ายภาพภายในถําได้ ด้วย โดยการใช้ เลนส์ มุมกว้ าง แล้วเรากดแฟลชไปตามจุดที่
้ เป็ นแฟลชทีวางอยู่ใกล้นางแบบทีสุดก็ได้ และมีไฟเสริมวางห่ างออกมา เพือให้ ช่วยลบเงา
่ ่ ่
น่ าสนใจต่ างๆ ควรระวังไม่ ให้ เกิดเงาเนื่องจากตัวเรายืนขวางระหว่ างกําแพงถํากับ
ๆ ้ ทีเ่ กิดจากไฟหลัก แต่ กสว่ างน้ อยกว่ าไฟหลัก เพือให้ เกิดมิตบนใบหน้ า และอาจใช้ ไฟเสริม
็ ่ ิ
กล้อง จะทําให้ เห็นเงาของตัวเรายืนอยู่หน้ ากําแพงถํา อาจจะประยุกต์ ใช้ กระดาษแก้ว สี
้ เพิมเติมอีกตามวัตถุประสงค์ ต่างๆ เช่ น ไฟส่ องผม ให้ เห็นรายละเอียดของผม หรืออาจใช้
่
ต่ างๆผูกไว้ ทหน้ าแฟลช เพือให้ เกิดสีต่างบนผนังถํา ก็จะได้ ภาพทีดูสวยงามน่ าสนใจไป
่ี ่ ้ ่ แผ่ นสะท้ อนแสงเป็ นแสงเสริมในการลบเงาจากไฟหลักก้ได้ กรณีทมีแฟลชหลายดวง
ี่
อีกแบบ แต่ ระวังอย่าใช้ สีเลอะเกินไป จะต้ องมีอปกรณ์ พเิ ศษเพือให้ แฟลชทํางานได้ พร้ อมกันทุกตัว อุปกรณ์ ไฟในห้ องถ่ ายภาพ
ุ ่
จะมีไฟนํา เพือส่ องให้ เห็นทิศทางแสงทีตกกระทบบนตัวแบบ จะทําให้ การจัดแสงทําได้
่ ่
ง่ าย แต่ ถ้าเราไม่ มีไฟนํา เราอาจใช้ หลอดไฟผูกติดกับแฟลชก็ได้ แต่ ค่อนข้ างยุ่งยาก
การถ่ ายภาพกลางคืน (NIGHT LIGHT) หรือการถ่ ายภาพไฟกลางคืนที่
NIGHT LIGHT) หรื
สวยงาม จะได้ ภาพทีแปลกตาการถ่ ายภาพเวลากลางคืน ได้ แก่ การถ่ ายภาพทีอาศัยแสง
่ ่
สว่ างจากไฟฟาตามท้ องถนน ปายนีออนโฆษณานําพุ การยิงพลุ ห้ องโชว์ สินค้ า
้ ้ ้
ไฟประดับในวันเฉลิมฉลองต่ าง ๆ แสงไฟจากรถยนต์ แสงเทียน สายฟาแลบ ดวงจันทร์
้
การถ่ ายภาพกลางคืน และดวงดาวบนท้ องฟา ความสวยงามต่ าง ๆ ทีเ่ ราสามารถมองเห็นได้ ในเวลาคําคืน
ดังกล่าว
้ ่
(NIGHT LIGHT)
5
- 6. 8/21/2011
เทคนิคและการถ่ ายภาพตอนกลางคืน
การถ่ ายภาพกลางคืนไม่ ใช่ เรื่องทียากเย็นจนเกินไป โดยเฉพาะแสงสีในเมือง
่
นั้น สามารถถ่ ายภาพให้ ดูสวยงามได้ ง่ ายๆ เพียงแต่ มีกล้องทีปรับความเร็วชัตเตอร์ ตาได้
่ ตํํ่
และหาวิธีปองกันภาพสั่นไหวจากความเร็วชัตเตอร์ ตา หากถือกล้องด้ วยมือ ภาพทีได้ จะ
้ ตํํ่ ่
เบลอไม่ คมชัด วิธีทดทสุดคือใช้ ขาตั้งกล้อง ซึ่งจะช่ วยลดการสั่ นไหวได้ เป็ นอย่างดี หาก
ี่ ี ี่
ความเรวชตเตอรต
ความเรวชตเตอรตามากๆ เช่ น 1 วนาท หรือตํากว่ านั้น ไมควรใชนวกดปุมชตเตอร
ความเร็วชัตเตอร์ ตํํ่ามากๆ เชน 1 วินาที หรอตากวานน ไม่ ควรใช้ นิวกดป่ มชัตเตอร์
ตามากๆ 1 วนาท ่ ไมควรใชนวกดปุ
้ กดป่
โดยตรง เพราะเพียงกดชัตเตอร์ เเบาๆ ก็อาจเกิดการสั่นไหวจนส่ งผลให้ ภาพทีได้ ขาด
งกดชั บาๆ ่
ความคมชัดควรใช้ สายลันชัตเตอร์ แต่ ถ้าไม่ มีกใช้ ระบบถ่ ายภาพหน่ วงเวลาก็ได้ กล้อง
่ ็
บางรุ่นเลือกหน่ วงเวลาช่ วงสั้นๆ เช่ น 2 หรือ 3 วินาที ทําให้ ถ่ายภาพได้ โดยไม่ ต้องรอ
2 หรื 3 วิ การถ่ ายภาพตอนกลางคืนวัตถุทถูกถ่ ายก็คอต้ นกําเนิดแสงตามท้ องถนน เช่ น
ี่ ื
คอยนานเกินไป สําหรับกล้องดิจิตอลเมื่อมีสิ่งรองรับกล้องทีมั่นคง ก็ไม่ จําเป็ นต้ องใช้
่ ไฟของรถยนต์ ไฟข้ างถนน ไฟจากหน้ าต่ างของตึกรามบ้ านช่ องจึงไม่ มีการจัดแสง
ความไวแสงสู งๆ ควรปรับ ISO ไปทีตาสุ ด เพือให้ ภาพทีได้ มี Noise น้ อยที่สุด
ISO ไปที่ ่ํ ่ ่ Noise น้ เหมือนตอนถ่ ายภาพตอนกลางวัน ถ่ ายภาพตอนกลางคืนขึนอยู่กบว่ าเราอยากจะแสดง
้ ั
หรือไม่ มีเลย อะไรในภาพถ่ าย
การถ่ ายภาพในเวลากลางคืนนั้นต้ องมีอปกรณ์ ทจําเป็ นดังนี้
ุ ี่
วิธีการถ่ ายภาพ
1. กล้องถ่ ายภาพชนิดทีมีความเร็วชัตเตอร์ B หรือ T
่
2. ขาตั้งกล้อง 1. ติดตั้งกล้องกับขาตั้งกล้องให้ มั่นคง พร้ อมติดตั้งสายลันชัตเตอร์ ให้ พร้ อม
่ ให้
3. สายไกชัตเตอร์
สายไกชั 2. ส่ องกล้องหาทิศทางในการถ่ ายภาพ ให้ ได้ มุมทีเ่ หมาะทีสุด ่
4. นาฬิ กาจับเวลา 3. คาดคะเน สภาพแสงเพือกําหนดเวลา และรู รับแสง (โดยปกติถ้าเป็ นไฟตามถนน
่
5. ไฟฉายดวงเล็ก ๆ ปกติ จะใช้ ประมาณ 5.6หรือ 8)
6. สมุดบันทึกสําหรับจดรายละเอียด เช่ น เวลาในการเปิ ดหน้ ากล้อง 4. ตั้งความเร็วชัตเตอร์ ที่ B ลันชัตเตอร์ ค้้ างไว้ ให้ รถวิ่งผ่ านจนเป็ นทีพอใจ ประมาณ
ที ่ ค ่
10 -60 วินาที หรือถ้ าทิงช่ วงเวลานาน ใช้ ผ้าดําคลุมหน้ าเลนส์ ไว้ ก่อนก็ได้ การถ่ ายภาพ
้
ไฟกลางคืน ควรถ่ ายเผือหลาย ๆ ภาพ โดยใช้ เวลาในการบันทึกภาพ และขนาดรู รับแสง
่
ต่ าง ๆ กัน และจดบันทึกไว้ จะดีทสุด และควรฝึ กหัดเป็ นประจําเพราะต้ องอาศัยความ
ี่
ชํานาญอย่างสู งในการถ่ ายภาพประเภทนี้
ยภาพประเภทนี
ดังนั้นหลักการถ่ ายภาพกลางคืนโดยการใช้ โหมดกลางคืนนั้น มีวธีการดังนี้ ิ
1. การปรับ เอ๊กส์ โพส ควรปรับ ให้ โอเวอร์ ประมาณ +0.3 ขึนไป จน ถึง 1.2 โดย
้
ยิงปรับ โอเวอร์ มาเท่ าไหร่ มือต้ อง ยิงนิ่งขึนไปเท่ านั้น ถ้ าต้ องปรับเอ๊กส์ โพส เยอะมากๆ
่ ่ ้
ควรใช้ ขาตั้งกล้อง หรือ ที่วาง สําหรับ ถ่ ายภาพน่ าเหมาะสมกว่ า
2. แนะนําให้ เลือก อุณหภูมิสี แบบ แสงนีออน
3. ขณะเล็งจะถ่ ายรู ป พยายามดู ว่ า สังเกต เห็น Noise ในหน้ าจอหรือไม่ เพราะ
ถ้ าเห็น ในขณะ ถ่ าย เมื่อนําภาพทีถ่ายลงคอมพิวเตอร์ ภาพทีถ่ายมานั้นจะยิงมี Noise มาก
่ ่ ่ 4. สิ่งทีบ่งชี้ได้ ง่ ายๆ เลย เรื่อง Noise มากหรือน้ อย หาก ถ่ ายโหมดกลางคืน
่
ขึนอีก
้ แล้้วเวลากดเล็งโ สหากสามารถโฟกัสไ ้ เร็วโดยทีเ่ี ราก็ปรับเอ๊๊กส์์ โพสไว้้ เยอะนั่น
โฟกั โ ได้ โ ไ
หมายถึงรู ปนั้นจะคมชัดและมี Noise ไม่ มากต่ างกับรูปทีเ่ ราต้ องใช้ เวลาหาโฟกัส
อัตโนมัตนานๆ
ิ
5. ข้ อสําคัญเมื่อกดชัตเตอร์ ลงไปแล้วควรจะนิ่งอยู่สัก 1 วินาทีก่อนเปลียน ่
ตําแหน่ งกล้อง
6. และสุ ดท้ าย ถ้ าไม่ มีขาตั้งกล้อง สิ่งทีสําคัญนั้นคือมือต้ องนิ่งมากๆเอาแบบ
่
ว่ าตอนกดชัตเตอร์ หยุด หายใจเลยได้ ยิงดี ่
6