More Related Content
Similar to หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
Similar to หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา (20)
More from ขนิษฐา ทวีศรี (8)
หน่วยที่ 2 โครงสร้างและการเรียบเรียงประโยคและการใช้สำนวนภาษา
- 3. ประโยค คือ คาหรือกลุ่มคาที่นามาเรียงกัน
มีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถสื่อความได้ว่า
ใครทาอะไร คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร หรือมีสภาพอย่างไร
โครงสร้างประโยค โดยทัว่ไปประกอบด้วยส่วนสาคัญ
2 ส่วน คือ ประธาน และภาคแสดง
ประธาน ประกอบด้วยคานาม หรือคาสรรพนาม
ภาคแสดง ประกอบด้วยคากริยา 2 ชนิด ได้แก่
กริยาอกรรม หมายความว่า เป็นกริยาไม่ต้องมีกรรม และ
กริยาสกรรม เป็นกริยาที่ต้องการกรรม
- 4. ประธาน ภาคแสดง
คานาม คาสรรพนาม คากริยา
อกรรม
คากริยา
สกรรม
กรรม
แป้งหอม - ยิ้มแย้ม - -
- เธอ ขยัน - -
แม่ - - เก็บ ดอกไม้
- เขา - ดูป้ายข้างทาง
- 5. การเรียบเรียงประโยค คือ การนา
ประโยคมาเขียนเพื่อเรียบเรียงลาดับเนื้อเรื่อง
ให้ได้ใจความต่อเนื่องเป็นเรื่องราว หรือ
อาจจะเรียบเรียงประโยคให้ตรงกับภาพของ
เรื่องที่กาหนดให้
(ที่มา : www.trueplookpanya.com)
- 6. ตัวอย่าง การเรียบเรียงประโยค จากนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า
ระหว่างทาง กระต่ายเผลอนอนหลับไป
เช้าวันหนึ่ง กระต่ายพบเต่าคลานต้วมเตี้ยมอยู่ที่ริมบึง
เต่ารับคาท้า แล้วสัตว์ทั้งสองก็เริ่มวิ่งแข่งกัน
กระต่ายจึงท้าเต่าวิ่งแข่ง เพราะคิดว่าตนชนะแน่นอน
เต่าจึงชนะการวิ่งแข่ง
นาประโยคทงั้ 5 ประโยคมาเรียบเรียงได้ ดังนี้
เช้าวันหนึ่ง กระต่ายพบเต่าคลานต้วมเตี้ยมอยู่ที่ริมบึง
กระต่ายจึงท้าเต่าวิ่งแข่ง เพราะคิดว่าตนชนะแน่นอน เต่ารับคาท้า
แล้วสัตว์ทั้งสองก็เริ่มวิ่งแข่งกัน ระหว่างทาง กระต่ายเผลอนอนหลับไป
เต่าจึงชนะการวิ่งแข่ง
- 7. ในการเขียนเรียงความควรใช้สานวนภาษาที่ถูกต้องเหมาะสม
กับเนื้อเรื่องที่เขียน เพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนตรงกับ
จุดประสงค์ของการเขียน การเขียนเรียงความนั้นมีเรื่องที่เราจะต้อง
พรรณนา คือ ทาให้ผู้อ่านนึกเห็นภาพ มีตอนที่จะต้องอธิบาย คือ ทา
ให้ผู้อ่านเข้าใจ มีตอนที่เป็นทานองเทศนา คือ ที่เราต้องการให้ผู้อ่าน
เห็นชอบตามเราและทาตามเรา เช่น เราจะพูดถึงการสูบบุหรี่ ก็ต้อง
อธิบายให้เห็นว่าบุหรี่เป็นอย่างไรจึงให้โทษ แล้วก็อธิบายว่า มีคุณหรือ
มีโทษอย่างไร แล้วเทศนาให้เห็นส่วนดี เพื่อคนจะได้นึกเห็นจริง จะ
ได้เลิกสูบหรือพยายามเลิก หรือสูบน้อยลง(เปลื้อง ณ นคร, 2515: 13)
ซึ่งสานวนภาษาที่นิยมใช้มี 5 ลักษณะ คือ
(ดวงใจ ไทยอุบุญ, 2543: 210-221)
- 8. บรรยายโวหาร หมายถึง การเขียนอธิบายหรือบรรยาย
เหตุการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริงตามลาดับเหตุการณ์ เป็นการเขียน
ตรงไปตรงมา ไม่เยิ่นเย้อ มุ่งความชัดเจนเพื่อให้ผู้อ่านได้รับ
ความรู้ ความเข้าใจ ผู้เขียนควรใช้ภาษาที่กะทัดรัด เขียน
ให้ตรงเป้าหมาย อ่านเข้าใจง่าย ในการเขียนทัว่ๆ ไป มักใช้
บรรยายโวหาร เช่น การเขียนเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์ เล่า
ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น การเขียนรายงาน เขียนตารา หรือ
เขียนบทความ
- 9. ตัวอย่างบรรยายโวหาร
“หล่อนนึกถึงบ้านริมสวนในวัยเด็กที่มักจะชวน
เพื่อนๆ มุดรั้วลวดหนามเข้าไปเล่นในสวนเล็ก ๆ แห่งนั้น
เก็บชมพู่ มะปราง หรือละมุดสีดาที่ติดกิ่งเรี่ย ๆ กินกัน
เพลิดเพลิน บางทีก็ลุยลงไปจับปลาเข็มหางแดงหรือปลา
หัวตะกั่วในท้องร่องสวน หรือไม่เช่นนั้นก็นั่งทอดหุ่ยกันที่
ริมคลอง คอยดูเรือกาแฟบีบแตรลมปู๊นแป๊นที่มีขนมแห้งๆ
อย่างถัว่ตัดหรือตุ๊บตับ๊ ไม่ก็ขนมขี้แมวสีม่วงแดง สีชมพูอยู่
ในขวดโหล”
(ไฟ: ประภัสสร เสวิกุล)
- 10. พ ร ร ณ น า โ ว ห า ร ห ม า ย ถึง ก า ร เ ขีย น ที่
สอดแทรกอารมณ์ความรู้สึกของผู้เขียนเพื่อให้ผู้อ่าน
เกิดความซาบซึ้ง ประทับใจ มีความรู้สึกคล้อยตามไป
กับผู้เขียน เช่น การเขียนพรรณนาอารมณ์ความรู้สึก
รัก หลง โกรธ เกลียด เศร้า เป็นต้น โดยเลือกใช้
ถ้อยคาที่ไพเราะเห็นภาพพจน์ได้ง่าย เพื่อโน้มน้าว
อารมณ์ผู้อ่านให้คล้อยตามและเกิดความประทับใจ
- 11. ตัวอย่างพรรณนาโวหาร
“อากาศยามเช้าในสวนของคฤหาสน์บดินทราช
... ดูสดใส ผีเสื้อแสนสวย กรีดปีกระยับในสายแดด
อ่อนยามเช้าจากดอกหนึ่งไปที่ดอกไม้นานาพันธุ์อีก
หลาย ๆ ดอก สีของกุหลาบปักกิ่ง ... แดงสดสว่าง
จ้าตัดกับสีเขียวสดของสนามหญ้า ประกายของน้าค้าง
ต้องแดดวาววับราวกับอัญมณีเรี่ยรายอยู่บนพื้นสนาม”
(ซอยเดียวกัน: วาณิช จรุงกิจอนันต์)
- 12. เทศนาโวหาร หมายถึง การเขียน
อธิบาย ชี้แจงให้ผ้อู่านเข้าใจ ชี้ให้เห็นประโยชน์
หรือโทษของเรื่องที่กล่าวถึง เป็นการชักจูงให้
ผู้อ่านคล้อยตาม เห็นด้วยหรือเพื่อแนะนาสัง่สอน
ปลุกใจหรือเพื่อให้รู้ถึงข้อเท็จจริง การเขียนแบบ
เทศนาโวหารต้องอาศัยกลวิธีการชักจูงใจ
- 13. ตัวอย่างเทศนาโวหาร
“เราคิดว่าทุกคนที่เกิดมาอย่างไม่มีอะไรติดตัวมาเลย แม้แต่
ผ้านุ่งผ้าห่มสักผืนหนึ่งเวลาจากไปก็นาเอาไปไม่ได้ จะเป็นทรัพย์
สมบัติแท้ ๆ ที่ใกล้ชิดที่สุดก็ต้องฝังหรือเผาเปลี่ยนสภาพไป เมื่อฐานะ
ที่แท้จริงของมนุษย์คือการไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ในอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็น
ทรัพย์สินหรือชีวิตเลือดเนื้อของตนเช่นนี้ การที่เราจะมานั่งเศร้าโศกกับ
สิ่งที่เราไม่สามารถจะมีสิทธิ์ครอบครองได้จริงจังนั้น จะต่างอะไรกับคน
ที่เวียนดีใจเมื่ออาทิตย์ขึ้น และเสียใจเมื่ออาทิตย์ตก ซ้าแล้วซ้าเล่าอยู่
ทุกเมื่อเชื่อวัน”
(เชิงผาหิมพานต์: สุชีพ ปุญญานุภาพ)
- 14. อุปมาโวหาร หมายถึง การเขียนเป็น
สานวนเปรียบเทียบที่มีความคล้ายคลึงกันเพื่อทา
ให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยการ
เปรียบเทียบสิ่งของที่เหมือนกันเปรียบเทียบโดย
โยงความคิดไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง หรือเปรียบเทียบ
ข้อความตรงกันข้ามหรือข้อความที่ขัดแย้งกัน
- 17. ตัวอย่างสาธกโวหาร
“คนเราต้องเอาอย่างมดอย่าไปเอาอย่างหนอน เพราะ
มดนั้นถึงมันจะตัวเล็กนิดเดียวแต่ก็ขยันขันแข็ง สามารถ
ลากเหยื่อชิ้นใหญ่ ๆ ได้สบาย แต่ถึงกระนั้นมันก็กลับกิน
อาหารแต่น้อยจนเอวคอดกิ่ว ผิดกันกับหนอน ซึ่งเกียจ
คร้าน เอาแต่กินทงั้วันโดยไม่ทางานทาการอะไรจนตัวอ้วน
อุ้ยอ้าย ผลสุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของนกของปลา”
(ลอดลายมังกร: ประภัสสร เสวิกุล)