More Related Content
DOCX
วิธีล้างสารพิษในร่างกายแบบง่ายๆ PDF
PDF
PDF
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ PDF
PDF
PDF
ระบบประสาทส่วนกลางและรอบนอก PDF
What's hot
PDF
DOCX
PDF
PDF
คู่มือความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลทางจิตใจตามหลักการ EASE PPTX
สะเต็มศึกษากับชีวิตประจำวัน PDF
2ชุดฝึกทักษะกระบวนการคิดตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์ PDF
PPTX
วิเคราะห์การเมืองกับการศึกษา PDF
PPT
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
Ppt การส่งเสริมพฤติกรรมรักการอ่านเด็กปฐมวัย PDF
เอกสารประกอบการสอน เรื่อง พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีดีเอ็นเอ PDF
PDF
เอกสารประกอบการสอน เรื่องวิวัฒนาการ PDF
PDF
โครงงานสิ่งงประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ Viewers also liked
PDF
Microsoft word กิจกรรม nasa exercise PDF
ระบบยาและงานบริบาลเภสัชกรรม PDF
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่ PPT
01 ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดเพื่อการบำบัดรักษา PDF
PDF
กระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาและสารเสพติดแนวใหม่ PDF
คู่มือการแปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรภายใต้โครงการ Lanna health hub 2013 PDF
อ่านการ์ตูนออนไลน์ Rave master 35 PPTX
ข้างหลังภาพ Asma safa_nadia PDF
คู่มือโฆษณา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข PDF
PDF
อ่านการ์ตูนออนไลน์ Rave master 20 PDF
เทคนิคการสอนโดยไอซีทีเป็นฐาน PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 DOC
PDF
Brandssummercamp 2012 feb55_physics Similar to เครื่องดื่มทำลายฤทธิ์ยา
PDF
PPTX
PPT
ความรู้ทั่วไปเรื่องยา (ภญกนิษฐา) 19/6/58 PPTX
PPTX
PDF
ความคงตัวของเภสัชภัณฑ์และการเก็บรักษา PDF
PPTX
1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับยา PDF
คู่มือการจ่ายยา สถานปฏิบัติการเภสัชกรรมชุมชน 2554 PDF
PDF
การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีที่มีความเสี่ยงสูง PDF
PDF
PDF
PDF
Intro to dosage_form_handout PDF
PDF
การใช้ยาอย่างปลอดภัยและมีความสมเหตุผล.pdf PDF
PDF
ยาสามัญประจำบ้าน ฉบับที่4 PDF
More from Jintana Somrit
PPT
PPT
PPT
PDF
PDF
DOC
DOC
สมุนไพร ลดไขมันในเส้นเลือด คลอเรสเตอรอล PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
PDF
DOC
DOC
DOCX
PDF
เครื่องดื่มทำลายฤทธิ์ยา
- 1.
อาหารกับยา
อาหารที่เรากินกับยาจะมีผลต่อการดูดซึมของยาจากกระแสโลหิตเข้าสู่ร่างกายมีข้อควร
รู้คือ
1.ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้มมะนาว มะยม สับปะรด ห้ามกินพร้อมยาปฏิชีวนะที่กินก่อน
อาหาร เพราะผลไม้เหล่านี้มฤทธิ์เป็นกรดจะไปทำาลายฤทธิ์ของยาทำาให้การรักษาไม่ได้
ี
ผลเท่าที่ควร
2. นม ห้ามกินพร้อมกับยาเตตร้าซัยคลิน เพราะยาจะไปจับกับแคลเซียมในนมเกิดเป็น
สารประกอบเชิงซ้อนขนาดใหญ่ ทำาให้การดูดซึมเข้ากระแสโลหิตน้อยลง
3. อาหารพวกไขมัน พบว่าจะไปเพิ่มการละลาย และการดูดซึมของยาบางชนิดเพราะจะ
ไปกระตุ้นให้นำ้าดีหลั่งออกมา
4. เครื่องดื่มบำารุงกำาลัง เช่น ลิโพ กระทิงแดง มีส่วนประกอบของคาเฟอีนผสมอยู่ ห้าม
กินพร้อมยาแก้หวัด หอบหืด เพราะจะไปเพิ่มอาการใจสั่นมากยิ่งขึ้น
http://www.si.mahidol.ac.th/km/webboard/wbdetail.asp?room=0&wq_id=238
เครื่องดื่มต่าง ๆ มีผลต่อยาหรือไม่ ?
ปกติในเหล้า เบียร์ หรือไวน์ จะมีแอลกอฮอล์เป็น ส่วนผสม ตัวแอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์กด
ประสาท เช่นเดียวกับ ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาคลายกังวล ยาต้านความซึมเศร้า จะไป
กดประสาททำาให้ง่วงนอน หากกินยาพร้อมแอลกอฮอล์จะทำาให้มีผลข้างเคียงมากขึ้น มี
อาการง่วงนอน ง่วงซึม ขาดสมาธิ และถ้ากินแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ๆ อาจจะรุนแรงถึง
ขั้นมีผลต่อระบบการหายใจ
และแอลกอฮอล์ยังมีผลต่อตับ จะทำาให้ตับทำางาน หนักมากขึ้น ถ้าดื่มแอลกอฮอล์พร้อม
กับยาพาราเซตามอล ซึงมีผลต่อตับเช่นกัน จะทำาให้เสี่ยงต่อตับวายเฉียบพลันได้ แล้ว
่
แอลกอฮอล์ยังเป็นตัวทำาละลายที่ดี ถ้าดื่มแอลกอฮอล์พร้อมกับยาจะทำาให้ดูดซึมได้ดี
ขึ้น ทำาให้ยาที่กินเข้าไปมีสารเกินกว่าปกติ อาจจะเกิดผลข้างเคียงจากยาได้
หากจะเลียงโดยกินยาตอนเช้าแล้วไปดื่มแอลกอฮอล์ ตอนกลางคืนจะได้หรือเปล่า ?
่
ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน เพราะแอลกอฮอล์เมื่อเข้าไปในร่างกาย ฤทธิ์ของมันจะอยู่ใน
ร่างกายเป็นระยะเวลานาน จะไปอยู่ที่ตับ ตับยังทำางานเพื่อขจัดมันอยู่ อาจมีผลข้างเคียง
และทำาให้ตับวายได้
แล้วกินยาพร้อมนม นำำาแร่ นำำาผลไม้ได้หรือเปล่า ?
นำ้าทั้ง 3 ชนิดจะมีแร่ธาตุบางตัวที่จะไปทำาให้เกิดสารประกอบเชิงซ้อนกับยา ยาอาจดูด
ซึมได้ยากขึ้นและ ไม่ออกฤทธิ์ ทำาให้มประสิทธิภาพน้อยลง เช่น กลุ่มยาฆ่าเชื้อเตรต้า
ี
ไซคลิน ด็อกซี่ไซคลิน หรือ ซิโปรฟล็อกซาซิน รวมทั้งยารักษาโรคกระดูกพรุนใน กลุ่ม
บิสฟอสฟอเนต
หากกินยาพร้อมชา กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำาลังล่ะจะเป็นอะไรหรือไม่ ?
ชา กาแฟ และเครื่องดื่มชูกำาลังจะมีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะมีฤทธิ์กระตุ้น
ประสาท ทำาให้ตื่นตัว สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ถ้าไปดื่มพร้อมกับกินยากลุ่มลดนำ้ามูกจะยิ่ง
มีอาการใจสั่นมากขึ้น
ยาบางตัวจะมีปฏิกิริยาระหว่างกาเฟอีนกับยา เช่น ยาฆ่าเชื้อซิโปรฟล็อกซาซิน หรือยา
ลดกรดไซมีทีดีนจะทำาให้กาเฟอีนอยูในร่างกายได้นานขึ้น
่
- 2.
สรุปแล้วควรกินยาพร้อมนำำาเปล่าดีที่สุด นอกจากจะช่วยละลายยาแล้วยังช่วยลด
อาการข้างเคียงที่เกิดจากยาได้ เช่นกัดกระเพาะอาหารหรือเกิดระคายเคือง
กระเพาะอาหาร
อาการแพ้ยา แต่จริง ๆ แล้วการแพ้ยาหมายถึงเป็นอาการที่รนแรง เช่น หลอดลมตีบ
ุ
หายใจไม่ออก มีผื่นขึ้น มีลมพิษรุนแรง ปากบวม เยื่อบุตาบวม
ส่วนอาการข้างเคียงของยา ส่วนใหญ่จะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้นจากการใช้ยาแต่ละตัว เกิด
จากฤทธิ์ของตัวยาเองทีทำาให้เกิดผลข้างเคียง เช่น กินยาฆ่าเชื้ออะม็อกซี่ซิลลินแล้ว
่
เกิดการคลื่นไส้ พะอืดพะอม ซึ่งไม่รนแรง และสามารถแก้ไขอาการในเบื้องต้นได้
ุ
หากเมื่อกินยาแล้วมีอาการท้องเสีย ควรงดอาหาร ทีมีรสจัด งดกาแฟ งดนม ในช่วงที่มี
่
อาการท้องเสีย ถ้ากินยาฆ่าเชื้อแล้วท้องเสียให้กินพวกโยเกิร์ต ซึ่งจะมีจลินทรียที่ดีไป
ุ ์
เสริมลำาไส้ ทดแทนแบคทีเรียที่เสียไปกับการท้องเสีย
ฟังแล้วคงจะเข้าใจเรื่องของการกินยาให้ได้ยากันมากขึ้น
http://www.healthcorners.com/new_read_article.php?
category=generalhealth&id=3539
ยากับนำ้าผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
เวลาที่ไม่สบายเราก็ต้องทานยาเพื่อจะได้หายป่วยไวๆ แต่บางทีถาหากว่าเป็นโรคบาง
้
โรคแล้วทานยาแล้วเผลอตามด้วยการดื่มนำ้าผลไม้เข้า นั่นอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียง
ที่อันตราย ซึ่งคงไม่เป็นที่ปรารถนาอยากจะได้มาอย่างแน่นอน
คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ทีซานฟรานซิสโก ได้เปิดเผยผลการ
่
วิจัยซึงบ่งว่านำ้าผลไม้ส่งผลกระทบต่อระบบการทำางานของร่างกาย ที่จะทำาให้
่
ประสิทธิภาพในการรักษาของยาหมดไป เพราะก่อนที่ยานั้นจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด นำ้า
ผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หัวใจล้ม
เหลว และโรคภูมิแพ้ต่างๆ รวมไปถึงยาที่ใช้กับผู้ป่วยทีทำาการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่
่
ผลการวิจัยที่ได้รับการเปิดเผยก่อนหน้านี้ บ่งบอกถึงอันตรายของนำ้าผลไม้ในแง่ที่ส่งผล
ต่อการรับประทานยาเช่นกัน เพราะฤทธิ์ในการทำาลายเอนไซม์ในร่างกาย ทีทำาหน้าที่
่
สกัดกั้นไม่ให้ยาเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป เมื่อเอนไซม์ชนิดนี้ลดลง ทำาให้ตัวยาบาง
ชนิดรวมถึงยาที่ใช้ในการรักษา โรคความดันโลหิตและแอนติฮิสตามีน
(Antihistamines) มีฤทธิ์ในการรักษารุนแรงขึ้น เพราะในบางกรณีทร่างกายได้รับตัวยา
ี่
มากเกินขนาด จะเป็นผลเสียต่อการรักษาและร่างกายผู้ปวย ่
ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการทานยาพร้อมนำ้าผลไม้ทุกชนิด และเลือกรับประทานกับนำ้า
เปล่าดีที่สุด
http://www.bloggang.com/mainblog.php?
id=iamlady&month=02-10-2010&group=10&gblog=139
ข้อแนะนำาสำาหรับผู้ทานยาปฏิชีวนะ
1. ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาลดไข้ หรือแก้ไข้ ต้องให้แพทย์เท่านันเป็นผู้สั่ง ถ้ามีการทาน
้
ยาปฏิชีวนะอื่นอยู่ ให้แจ้งแพทย์ที่กำาลังตรวจรักษาทราบด้วย
2. ควรรับประทานเวลาท้องว่าง คือก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงหรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
เพราะยาชนิดนี้ถูกสลายได้ง่ายด้วยกรดในกระเพาะอาหาร
- 3.
3. ไม่ควรรับประทานร่วมกับนำ้าผลไม้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดการใช้ยากลุ่มนี้อาจเกิด
การแพ้ยาได้ง่าย อาการมีตั้งแต่น้อยจนรุนแรงถึงขั้น เสียชีวิตได้ ผู้ที่เคยแพ้ยาตัวใดควร
จำาชื่อไว้ให้แม่นยำาและแจ้ง ให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
4. แม่ที่กำาลังให้นมลูก ต้องแจ้งหมอให้ทราบด้วย เพราะยาอาจส่งผ่านไปทางนำ้านม
ให้ลูกได้ด้วย
5. ยาปฏิชีวนะไม่เป็นยาแก้อักเสบ และยาปฏิชีวนะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
เท่านั้น ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัส ถ้ามีเชื่อไวรัสก็ใช้ยา
ปฏิชีวนะไม่ได้ ต้องทำาให้ร่างกายมีความแข็งแรงและต่อสู้กับโรคให้หายเอง
http://sites.google.com/site/farijouehaircolor/sara-khwam-ru-sukhphaph-kab-
farijoue/kar-than-ya-ptichiw