SlideShare a Scribd company logo
โครงงาน
เรื่อง
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่กลีเซอรีนชาเขียว
และสบู่กลีเซอรีนชาเขียวกับน้ากุหลาบ
นาย ปวรวุธ วิสุทธิเสน เลขที่ 9 ม. 5/4
นาย อภิราม รสหานาม เลขที่ 13 ม. 5/4
น.ส. อัจฉรา เจริญกิจกังวาน เลขที่ 25 ม. 5/4
น.ส. จารุวรรณ เทพวุฑฒิ เลขที่ 27 ม. 5/4
น.ส. อธิชา สิงหนาท เลขที่ 35 ม. 5/4
นาเสนอ
อาจารย์ ศุจิรัตน์ คิดอยู่
โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรวิชา is
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียน ชิโนรสวิทยาลัย
บทคัดย่อ
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสบู่กลีเซอรีนสมุนไพร จัดทาขึ้นเพื่อ เรียนรู้วิธีการทาสบู่
เพราะสบู่เป็นของใช้ที่จาเป็นในชีวิตประจาวัน
ทุกวันเราอาบน้าต้องใช้สบู่เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย
ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกสบู่ที่สามารถทาความสะอาดได้ดีมากๆ
จนไม่คานึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวในภายหลัง ปัจจุบันสบู่มีมากมายหลายชนิดให้เราเลือกใช้
ตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละบุคคล บางชนิดก็ผสมสมุนไพรบางชนิดก็ผสมสารเคมี
เช่นTriclocarban เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจเกิดอาการแพ้สารเคมีหากใช้บ่อยเกินไป แต่เรารู้จักสบู่เหล่านั้นดีเพียงไร
และจะมีสักกี่คนที่ใส่ใจในรายละเอียดว่าสบู่แต่ละก้อนมีส่วนประกอบสาคัญอะไรบ้าง
สบู่ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบสาคัญที่จาเป็นและมีประโยชน์ต่อผิว
ซึ่งนอกจากจะทาให้สบู่ที่ได้ทาความสะอาดผิวได้ดีแล้วยังสามารถบารุงผิวได้อีกด้วย
ทั้งนี้สบู่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจาทุกวัน หากเราคัดสรรสบู่ที่ดีมีคุณภาพจะทาให้เร
มีสุขภาพผิวของที่ดีอยู่คู่กับเราไปตลอดนานเท่านาน
ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยการผลิตสบู่สมุนไพรใช้เองน่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ลดค่าใช้จ่าย
ช่วยเหลือเศรษฐกิจประชาชนชุมชนได้มาก
เพราะวัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นวัสดุที่ผลิตเองในประเทศเกษตรกรสามารถปลูกพืชน้ามัน
และสกัดน้ามันโดยวิธรการง่ายๆนามาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก
นอกจากนี้ในแหล่งชุมชนที่มีไขมันสัตว์เหลือใช้
อีกทั้งสมุนไพรหาได้ในประเทศมากมายการผลิตสบู่ผสมสมุนไพรจึงเป็นการสนับสนุนการนาสาร
จากวัสดุธรรมชาติที่ผลิตได้เองมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าราคาถูกประหยัดและใช้ได้ง่ายจึงน่าที่จะ
ผลิตสบู่สมุนไพร
เพื่อนามาใช้ชาระล้างทาความสะอาดร่างกายและของใช้หรือใช้ซักเสื้อผ้าแทนผงซักฟอกได้
ก่อนที่จะทาการผลิตสบู่สมุนไพร
จาเป็นต้องศึกษาวิธีการผลิตอย่างละเอียดก่อนเพื่อความปลอดภัยและและจะได้สบู่ที่มีคุณภาพดี
กิตติกรรมประกาศ
ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และ
สารสกัดชาเขียวกับน้ากุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ ในครั้งนี้ คณะผู้จัดทาโครงงานวิทยาศาสตร์
ได้รับความอนุเคราะห์จาก อาจารย์ ศุจิรัตน์ คิดอยู่
ที่ให้คาแนะนาปรึกษาเกี่ยวกับการเปรียญเทียบของประสิทธิภาพของสบู่ และ
ให้คาแนะนาในเรื่องของการทาสบู่วิธีการทาสบู่อย่างถูกต้อง และ
ถูกวิธีตลอดจนอธิบายถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ
ที่จาเป็นต้องใช้ในการนามาทาสบู่และสามารถนาไปลงมือปฏิบัติจริง
ในการจัดทาโครงงานชิ้นนี้และได้คาแนะนาปรึกษาในการทาโครงงานอย่างเป็นกันเอง
รวมทั้งแนวคิดตลอดจนข้อบกพร่องต่างๆที่ต้องแก้ไข
ทาให้คณะผู้จัดทาสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทาโครงงานชิ้นนี้ได้
จนโครงงานเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
คณะผู้จัดทาโครงงาน
วันที่14/08/60
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
บทที่ 1 บทนา 1
1.1 ความเป็นมาของโครงงาน
1.2 วัตถุของโครงงาน
1.3 สมมติฐาน
1.4 ขอบเขตของโครงงาน
1.5 ประโยชน์ที่ได้รับ จากโครงงาน
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3
บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน/วิธีดาเนินการวิจัย 7
บทที่ 4 ผลการทดลอง 12
บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 15
บรรณานุกรม 16
ภาคผนวช 17
บทที่1
บทนา
1.ความเป็นมาของโครงงาน
สบู่คือ สิ่งที่ทามาจากไขผสมสารเคมีหลายชนิดเข้าด้วยกัน และ ผลิตใช้กันมาก
ในปัจจุบันมนุษย์ใช้สบู่ขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ และ
สบู่ที่ทาจากสมุนไพรสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
คนส่วนใหญ่จะรู้จักสบู่สารเคมีมาก และ ใช้สบู่ที่ผสมสารเคมีกันทุกครัวเรือน ใช้ทุกวัน
ทุกครั้งที่ต้องการทาความสะอาดร่างกาย เพราะในสบู่มีสารที่สามารถฆ่าเชื้อโรค และ
แบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้นจึงต้องมีการผลิตสบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ (สารสกัดชาเขียว และ น้ากุหลาบ)
โดยสบู่นั้นต้องสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ
มีสีสันสวยงาม และ มีฟองที่นุ่ม เพื่อดึงดูงความสนใจของผู้อุปโภค
ที่สาคัญต้องเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับคูรสมบัติของสมุนไพรที่นามาทาสบู่ถึงคุณสมบัติที่ดีไม่เป็นอันต
รายต่อร่างกาย
2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อศึกษาการทาสบู่สมุนไพร
2. เพื่อศึกษาประโยชน์ของสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดน้ากุหลาบ
3. เพื่อส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน
3.สมมติฐาน
1. สบู่กลีเซอรีนผสมสมุนไพร สามารถทาความสะอาดผิวกายได้
2. สบู่กลีเซอรีนที่ผสมสมุนไพรสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดน้ากุหลาบ ช่วยให้ผิวสะอาด
ขจัดสารพิษ ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว และดูชุ่มชื่นขึ้น
3. สบู่กลีเซอรีนธรรมชาติไม่มีสารเคมีใดๆจึงไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
ตัวแปรต้น สบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และสารสกัดน้ากุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ
ตัวแปรตาม ความสะอาดชุ่มชื่นของผิวกาย
ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว
ตัวแปรควบคุม ปริมาณสบู่ผสมสมุนไพรจากสารสกัดชาเขียว และ
จากสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ากุหลาบ
4.ขอบเขตของโครงงาน
ส่วนผสมของสมุนไพร คือ สูตรสารสกัดชาเขียว และ
สูตรสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ากุหลาบ
5. ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
1.จะได้รู้ส่วนประกอบของสบู่ และ วิธีการทาสบู่สมุนไพร
2. จะได้ศึกษาประโยชน์และข้อดีของสารสกัดชาเขียว และน้ากุหลาบ
3. ให้ความรู้ บอกข้อดี และ ส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน
บทที่2
เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว สบู่น้ากุหลาบ
ผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฏีและหลักหารต่างๆจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้
สบู่เป็นสิ่งที่ใช้ในการทาความสะอาดร่างกาย เช่นการอาบน้า การล้างมือ สบู่จะช่วยละลายไขมัน
ทาให้การชาระล้างสะอาดมากขึ้น
สบู่
(soap) คือสารเคมีที่เกิดจากการทาปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ,
(NaOH,) และน้ามันที่มาจากสัตว์หรือพืชมีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง)
ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว
คือมีค่า pHอยู่ระหว่าง 8-10ใช้ชาระล้างร่างกายควบคู่กับการอาบน้า
ทามาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้าหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ
สบู่ก้อน คือส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง)
ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว
คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10(ในเอกสารจดแจ้งของ
อย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามีค่า ph ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ามันพืช ไขมันสัตว์ เบส
เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ปร
ะมาณ5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่เอาไว้อย่างน้อย 15-
30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม
2.1สารสกัดชาเขียว
อุดมไปด้วยสารโพลีฟินอลที่ชื่อว่า EGCC ( Epigallo Catechin ) มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษ
คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธ์แรงสูง ( Superpowerful Antioxdant )
ทาให้ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ
ซึ้งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรทั้งยังเพิ่มความชุ้นชื่นและความเปร่งปลั่งให้กับผิวห
น้าและช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตาและยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา
ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น
สาร EGCC
ในทางเคมีจัดเป็นสารโพลีฟินอลชนิดหนึ่งที่มีการวิจัยกันอย่างกว้างขวางและหลายการวิจัยก็พอว่า
สาร EGCC ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่
1.มีส่วนช่วยในขบวนการ
การกาจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือดซึ่งทาให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจ
าการอุตันของไขมันในหลอดเลือด
2.ช่วยในการขับสารพิษและสารอนุมูลอสระจึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและค
วามเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย
3.ช่วยทาให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทางานระดับเซลล์
ประโยชน์ของชาเขียว
1.ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลังในปริมาณสูง
สารแอนติออกซิแดนซ์นี่สามารถขับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด
2.ป้องกันโรคมะเร็ง EGCC สามารถลดเปอร์เซนต์การก่อตัวเป็นมะเร็งที่ดีที่สุด
นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่า Catechins มีบทบาทสาคัญ คือ
ช่วยลดภาวะเป็นพิษของสารก่อมะเร็งบางชนิดแทรงแซงกระบวนการเกาะยึดของสารก่อมะเร็งต่อ
DNA ของเซลล์ปกติสรรพคุณที่เป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลัง
เสริมการทางานกับสารแอนติออกซิแดนซ์และ Enzymes อื่นๆ
และจากัดการลุกลามของเซลล์เนื้องอก
2.2สารสกัดกุหลาบ
ชื่อทั่วไป สารสกัดน้าดอกกุหลาบ (Rose Water) ชื่อทางทฤกษาศาสตร์ (Rose hybrida) ชื่อว่า
INCI Name Rose Damascena flower water
สารสกัดดอกกุหลาบมีคุณสมบัติเป็น antiseptie และ anti bacteria
และยังสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิวได้อีกด้วยจึงนิยมนามาใช้ใ
นผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่ม Toner และ Moisturizer
ในการฟื้นฟูบารุงเซลล์ผิวที่เสียให้คืนสู่ความสมบรูณ์แข็งแรงนอกจากนี้สารสกัดดอกกุหลาบยังอุด
มไปด้วย
สารที่มีประโยชน์ในการบารุงผิวหน้าและผิวกายช่วยกระกระชับรูขุมขนไม่ให้เปิดกว้างหลักจากล้า
งหน้าช่วยเพิ่มความชุ้นชื่นให้แก่ผิวและช่วยปรับสมดุลของสภาพผิว
ฟื่นฟูเซลล์ผิดภายในให้แข็งแรงเป็น Anti-Oxidant ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจุดด่างดา
และช่วยให้ผิวพรรณ์สว่างสดใสสุขภาพดี สีผิวจุดด่างดาค่อยๆจางลง
กลีบกุหลาบ อุดมไปด้วย วิตามินซีแคโรทิน วิตามินบี วิตามินเค แคลเซียม และแร่ธาตุต่างๆ
ที่จาเป็นต่อร่างกายของระบบเลือด เรียกว่า
วิตามินเกลือแร่ต่างๆที่ร่างกายต้องการนั้นมีอยู่ครบถ้วนในกลีบกุหลาบ เช่น โปแตสเซียม
ที่จาเป็นต่อระบบหัวใจ
แร่ธาตุทองแดงที่ร่างกายต้องการเพิ่มกระบวนการสร้างเม็ดเลือดและใช่ในกระบวนการต่อมไร้ท่อ
ไอโอดีน ที่ร่างกายต้องการสาหรับการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
สารสกัดจกากลีบกุหลาบ ( Rose Crysta ) มีสารสาคัญ คือ EuGeniin และ Rose Polyphenol
Eugeniin แก้ปัญหาผดร้อน ผื่นแดง
แพ้ระคายเคืองจาการสารเคมีช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับผิว Rose polyphenol
ยับยั้งเอมไซม์ไฮนาลูโรนิเดส (Hyaluroidase) ที่ทาลายไฮยาลูโลนิกแอซิค
มนผิวชั้นลึกจึงเสมือนเป็นเกาะปกป้องให้ถูกทาลายน้อยลง
ช่วยยึดอายุและปรับโครงสร้างให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง แน่นฟิต กระชับ อุ้มน้า ไม่ยุบตัว
หย่อนคล้อยไปตามวัยตงสภาพผิวแรกรุ่น อ่อนเยาว์
ลดการผลิตเม็ดลีเมลานินที่ทาให้ผิวคล้าเสียหม่อนหมอง รอยกระ และรอยดาจากสิว
ผิวจึงขาวใสขึ้นทั้งผิวหน้าและผิวกาย ลดอาการอักเสบของผิวที่ไหม้ บวม รอยแดง
จากรังสียูวีในแสงแดด
2.3 กลีเซอรีน
คือ ของเหลวที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นมีความหนืด และมีรสหวาน
โดยปกติมาจากน้ามันของพืชซึ่งโดยทั้วไป คือ น้ามันมะพร้าว และน้ามันปาล์ม
ประโยชน์ของกลีเซอรีนบริสุทธิ์
สามารถนาไปประยุกติ์เป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอไรเซอร์
เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ
ซึ่งจะทาให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ขจัดความสกปรกที่ฝังแน่นไม่ให้อุดตันรูขุนขน
รวมทั้งปลอดภัยต่อผิวหนัง และเนื้อผ้าทุกชนิด
กลีเซอรีน ได้รับความสนใจและนาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ด้วยการทายาเหน็บทวาร
ใช้เป็นยาระบายและยังสามารถใช้เป็นยาเฉพาะทางผิวหนัง หลายชนิด รวมถึงโรคผิวหนัง ผื่น
แผลไฟลวก แผลกดทับ และบาดแผลของมีคม
เนื่องจากกลีเซอรีนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องได้
บทที่ 3
วิธีดาเนินการโครงงาน
ในการทาโครงงานเรื่อง “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว”
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/4 ประจาปีการศึกษา 2560 มีวิธีดาเนินการดังต่อไปนี้
1.ขั้นตอนเตรียมการ
ในการจัดทาโครงงานมีขั้นตอนเตรียมการดังนี้
1.ประชุมอภิปรายการจัดทาโครงงาน แต่งตั้งประธาน รองประธาน เลขาธิการและเหรัญญิก
2.กาหนดชื่อเรื่องโครงงานในหัวข้อการเปรียบเทียบสบู่
ซึ่งสมาชิกได้มีความเห็นร่วมกันแต่งชื่อเรื่องในการจัดทาโครงงาน คือ
“การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว”
3.ตั้งวัตถุประสงค์ตามแผนการดาเนินงาน เพื่อเป็นเป้าหมายในการศึกษา
ซึ่งผู้จัดทาได้ตั้งวัตถุประสงค์ดังนี้
1.เพื่อศึกษาการทาสบู่ชาเขียว และสบู่ชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ
2.อยากทราบถึงประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว
3.เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสบู่ชาเขียว กับสบู่ชาเขียวน้าดอกกุหลาบ
4.มอบหมาย และแบ่งภาระงานให้กับสมาชิก
รายชื่อผู้ร่วมงาน
สมาชิก นาย ปวรวุธ วิสุทธิเสน มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล
สมาชิก นาย อภิราม รสหานาม มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล
สมาชิก น.ส. อัจฉรา เจริญกิจกังวาน จัดหาข้อมูล
สมาชิก น.ส. จารุวรรณ เทพวูฑฒิ เสนอโครงงาน
สมาชิก น.ส. อธิชา สิงหนาท ทดลองทาสบู่
2.วัตถุและอุปกรณ์
2.1 กลีเซอรีน
2.2 มีด
2.3 เขียง
2.4 ถ้วย 3ใบ
2.5 ช้อนคน
2.6 น้าหอม
2.7 ภาชนะ/พิมพ์ที่ใส่สบู่
2.8 สารสกัดชาเขียว
2.9 สารสกัดน้าดอกกุหลาบ
3. วิธีการดาเนินการ
3.1 ประชุมวางแผน
3.2 ออกปฎิบัติการ
3.3 ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
3.4 ปฎิบัติการผลิตสบู่ทั้ง2สูตร
3.5 ทดสอบประสิทธิภาพของสบู่ทั้ง2สูตร
3.6 สรุปผลและรายงานโครงงาน
ขั้นตอนการผลิตสบู่ และ สบู่ชาเขียวและน้าดอกกุหลาบ
1.หั่นกลีเซอรีนเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2.นากลีเซอรีนใส่หม้อ ต้มจนละลายหมด
3.ผงชาเขียวชง
4.สารสกัดน้ากุหลาบ
5.ใส่สารสกัดทั้งหมด
5.1 ถ้วยกลาง สารสกัดชาเชียวกับสารสกัดน้ากุหลาบ
5.2 ถ้วยขวามือ สารสกัดชาเขียว
6. บรรจุใส่พิมพ์
6.1 ซ้ายสูตรสารสกัดชาเขียวกับ สารสกัดน้ากุหลาบ
6.2 ขวาสูตรสารสกัดชาเขียว
บทที่4
ผลการทดลอง/วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล
จากการวิจัยเรื่อง สบู่น้าดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีน
ผลปรากฏว่า สบู่ที่ทามาจากกลีเซอรีน ผสมน้าดอกกุหลาบและชาเขียวต่างชนิดกัน
คือ “น้าดอกกุหลาบ” และ “ชาเขียว” สามารถทาความสะอาดผิวกายต่างกันเพราะที่นามาผสมแตกต่
างกัน มีสรรพคุณต่างกัน มีความหอมแตกต่างกันตามที่นามาผสม
และสบู่น้าดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีนที่ทาเอง มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้
เท่ากับ 8(หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pHเท่ากัน
ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทาความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพ
รรณของเรา
4.1การศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ
จากการศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ สามารถผลิตสบู่ได้2สูตร
สูตรที่1 สูตรสารสกัดชาเขียว
สูตรที่2 สูตรสารสกัดชาเขียวและน้าดอกกุหลาบ
4.2ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้กับสบู่ทั้ง 2 สูตร
จากแบบสอบถามความพึงพอใจจากประชากร
ชาย 15 คน หญิง 20 คน
สูตรที่ 1 สารสกัดชาเขียว ดีมาก
(4)
ดี
(3)
พอใช้
(2)
ควรปรับปรุง
(1)
ค่าเฉลี่ย
1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่
1.1สี-กลิ่น
9 21 3 2 3.05
2.การเกิดฟอง 7 4 18 6 2.342
3.ประสิทธิภาพในการทาความสะอาด 6 25 4 0 3.057
4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังใช้ 10 22 3 0 3.2
5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่ 14 17 4 2 3.342
สูตรที่ 2
สารสกัดสารชาเขียวกับน้าดอกกุหล
าบ
ดีมาก
(4)
ดี
(3)
พอใช้
(2)
ควรปรับปรุง
(1)
ค่าเฉลี่ย
1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่
1.1สี-กลิ่น
8 21 4 2 3
2.การเกิดฟอง 3 7 17 6 2.08
3.ประเมินภาพในการทาความสะอา
ด
13 16 4 2 3.171
4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังจาการใช้ 7 24 4 0 3.085
5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่ 15 16 4 2 3.371
4.3การนาไปใช้งาน
การล้างมือ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่คณะผู้จัดทาได้ศึกษา ค้นคว้า และปฏิบัติ จนได้มาเป็นสบู่
เพื่อใช้ในการล้างมือให้สะอาดมากขึ้นกว่าการล้างน้าเปล่าและยังทาให้ผิวชุ่มชื้น สดชื่นและฆ่าเชื้อโ
รค เพื่อป้องกันและลดการเกิดไข้หวัดต่างๆ
ที่ทาให้สุขภาพกายเจ็บป่วย และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
บทที่5
สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
1.สรุปผลการทดลอง
1.1 การทดลองเป็นที่น่าพึงพอใจของสมาชิกภายในกลุ่มและผู้ทดลองใช้
และได้ทราบผลลัพธ์จากการทดลองใช้สบู่สมุนไพรแต่ละสูตรว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
2.ปัญหาและอุปสรรคในการทดลอง
2.1 สมาชิกภายในกลุ่มมีเวลาว่างไม่ตรงกัน
2.2 สบู่มีสีเข้มขึ้นเมื่อได้รับความร้อนเป็นเวลานาน ทาให้สบู่อาจจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป
2.3 สบู่แข็งตัวเร็ว ทาให้เวลาใส่พิมพ์สบู่อาจจะมีลายที่ไม่สวยงาม
3. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา
3.1 การนาสมุนไพร พืช หรือดอกไม้ชนิดอื่นๆมาเป็นส่วนผสมในการทาสบู่
3.2 การนาส่วนผสมหรือสารชนิดอื่นๆ เช่นกรดผลไม้ หรือวิตามินต่างๆ มาเป็นส่วนผสม
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย และตรงจุดกับที่ผู้ใช้ต้องการ
3.3 นาผลการทดลองมาปรับปรุงแก้ไขจากแบบสอบถามที่เพื่อนประเมินให้ดียิ่งขึ้น
บรรณานุกรม
https://www.chemipan.com/9829-สารสกัด-ดอกกุหลาบ-rose-water-เคมีภัณฑ์-สารเคมี.html
http://nrcaum.blogspot.com/
ภาคผนวก

More Related Content

What's hot

ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทchaipalat
 
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มดโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มดพัน พัน
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องKittichai Pinlert
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
Pongpan Pairojana
 
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้านโครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้านChok Ke
 
โครงงานยาเสพติด
โครงงานยาเสพติดโครงงานยาเสพติด
โครงงานยาเสพติดพัน พัน
 
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์Jiraporn
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1Ocean'Funny Haha
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดพัน พัน
 
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิดโครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
ธณัชช์ภรณ์ ศิริวัชเดชากุล
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
ssuser858855
 
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงานที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
Phongsak Kongkham
 
ตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อsukanya5729
 
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานบทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานChamp Wachwittayakhang
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนมโครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนมChok Ke
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
AjBenny Pong
 

What's hot (20)

ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บทตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน 5 บท
 
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มดโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เปลือกไข่ไล่มด
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
 
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้านโครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
โครงงานชาผักสมุนไพรพื้นบ้าน
 
โครงงานยาเสพติด
โครงงานยาเสพติดโครงงานยาเสพติด
โครงงานยาเสพติด
 
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างชื่อโครงงานวิทยาศาสตร์
 
โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1โครงงานไอเอส1
โครงงานไอเอส1
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
 
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิดโครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
โครงงานภาษาไทย เรื่อง คำไทยที่มักเขียนผิด
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...
 
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงานที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
ตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อตัวอย่างบทคัดย่อ
ตัวอย่างบทคัดย่อ
 
สารบัญ.
สารบัญ.สารบัญ.
สารบัญ.
 
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงานบทที่3 วิธีดำเนินงาน
บทที่3 วิธีดำเนินงาน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนมโครงงานวิทยาศาสตร์  ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
โครงงานวิทยาศาสตร์ ชุดโซฟาจากกระป๋องนม
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
 

Similar to โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5

โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
Chanya Sangsuwanlert
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
Waranya Kawila
 
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรโครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรPornthip Nabnain
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดBio Beau
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดBio Beau
 
Star fruit wardrobe
Star fruit wardrobeStar fruit wardrobe
Star fruit wardrobe
Dewdeng Npd
 
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่npapak74
 
โครงงาน607
โครงงาน607โครงงาน607
โครงงาน607
adthakron09
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Apaiwong Nalinee
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมjirapatte
 
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
TODSAPRON TAWANNA
 
พอทแบบแก้ไขได้
พอทแบบแก้ไขได้พอทแบบแก้ไขได้
พอทแบบแก้ไขได้
eeerre piyf
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 

Similar to โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5 (14)

บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรโครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
 
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูดโครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
โครงงานวิทยาศาสตร์แชมพูสระผมมะกรูด
 
Star fruit wardrobe
Star fruit wardrobeStar fruit wardrobe
Star fruit wardrobe
 
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
6แบบฝึกกรดเบสเผยแพร่
 
โครงงาน607
โครงงาน607โครงงาน607
โครงงาน607
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
รายงานแลป สบู่(Soap) 2556
 
พอทแบบแก้ไขได้
พอทแบบแก้ไขได้พอทแบบแก้ไขได้
พอทแบบแก้ไขได้
 
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพPresent โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
Present โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 

More from Nontagan Lertkachensri (20)

Pub
PubPub
Pub
 
slide
slideslide
slide
 
แผ่นพับ
แผ่นพับแผ่นพับ
แผ่นพับ
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่ 3
บทที่ 3บทที่ 3
บทที่ 3
 
บทที่4
บทที่4บทที่4
บทที่4
 
บทที่ 5 (1)
บทที่ 5 (1)บทที่ 5 (1)
บทที่ 5 (1)
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่5
บทที่5บทที่5
บทที่5
 
บทที่ 3-1
บทที่ 3-1บทที่ 3-1
บทที่ 3-1
 
บทที่2
บทที่2บทที่2
บทที่2
 
บทที่1
บทที่1บทที่1
บทที่1
 
ไอซ์5
ไอซ์5ไอซ์5
ไอซ์5
 
ไอซ์4
ไอซ์4ไอซ์4
ไอซ์4
 
ไอซ์3
ไอซ์3ไอซ์3
ไอซ์3
 
ไอซ์2
ไอซ์2ไอซ์2
ไอซ์2
 
ไอซ์1
ไอซ์1ไอซ์1
ไอซ์1
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 
บทที่4
บทที่4บทที่4
บทที่4
 

โครงงาน Is-กลุ่มสบู่-1-5

  • 1. โครงงาน เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่กลีเซอรีนชาเขียว และสบู่กลีเซอรีนชาเขียวกับน้ากุหลาบ นาย ปวรวุธ วิสุทธิเสน เลขที่ 9 ม. 5/4 นาย อภิราม รสหานาม เลขที่ 13 ม. 5/4 น.ส. อัจฉรา เจริญกิจกังวาน เลขที่ 25 ม. 5/4 น.ส. จารุวรรณ เทพวุฑฒิ เลขที่ 27 ม. 5/4 น.ส. อธิชา สิงหนาท เลขที่ 35 ม. 5/4 นาเสนอ อาจารย์ ศุจิรัตน์ คิดอยู่ โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรวิชา is ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียน ชิโนรสวิทยาลัย
  • 2. บทคัดย่อ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสบู่กลีเซอรีนสมุนไพร จัดทาขึ้นเพื่อ เรียนรู้วิธีการทาสบู่ เพราะสบู่เป็นของใช้ที่จาเป็นในชีวิตประจาวัน ทุกวันเราอาบน้าต้องใช้สบู่เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกสบู่ที่สามารถทาความสะอาดได้ดีมากๆ จนไม่คานึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวในภายหลัง ปัจจุบันสบู่มีมากมายหลายชนิดให้เราเลือกใช้ ตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละบุคคล บางชนิดก็ผสมสมุนไพรบางชนิดก็ผสมสารเคมี เช่นTriclocarban เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งผู้ใช้บางรายอาจเกิดอาการแพ้สารเคมีหากใช้บ่อยเกินไป แต่เรารู้จักสบู่เหล่านั้นดีเพียงไร และจะมีสักกี่คนที่ใส่ใจในรายละเอียดว่าสบู่แต่ละก้อนมีส่วนประกอบสาคัญอะไรบ้าง สบู่ที่ดีจะต้องมีส่วนประกอบสาคัญที่จาเป็นและมีประโยชน์ต่อผิว ซึ่งนอกจากจะทาให้สบู่ที่ได้ทาความสะอาดผิวได้ดีแล้วยังสามารถบารุงผิวได้อีกด้วย ทั้งนี้สบู่เป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจาทุกวัน หากเราคัดสรรสบู่ที่ดีมีคุณภาพจะทาให้เร มีสุขภาพผิวของที่ดีอยู่คู่กับเราไปตลอดนานเท่านาน ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยการผลิตสบู่สมุนไพรใช้เองน่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ลดค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือเศรษฐกิจประชาชนชุมชนได้มาก เพราะวัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นวัสดุที่ผลิตเองในประเทศเกษตรกรสามารถปลูกพืชน้ามัน และสกัดน้ามันโดยวิธรการง่ายๆนามาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนี้ในแหล่งชุมชนที่มีไขมันสัตว์เหลือใช้ อีกทั้งสมุนไพรหาได้ในประเทศมากมายการผลิตสบู่ผสมสมุนไพรจึงเป็นการสนับสนุนการนาสาร จากวัสดุธรรมชาติที่ผลิตได้เองมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าราคาถูกประหยัดและใช้ได้ง่ายจึงน่าที่จะ ผลิตสบู่สมุนไพร เพื่อนามาใช้ชาระล้างทาความสะอาดร่างกายและของใช้หรือใช้ซักเสื้อผ้าแทนผงซักฟอกได้ ก่อนที่จะทาการผลิตสบู่สมุนไพร จาเป็นต้องศึกษาวิธีการผลิตอย่างละเอียดก่อนเพื่อความปลอดภัยและและจะได้สบู่ที่มีคุณภาพดี
  • 3. กิตติกรรมประกาศ ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดชาเขียวกับน้ากุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ ในครั้งนี้ คณะผู้จัดทาโครงงานวิทยาศาสตร์ ได้รับความอนุเคราะห์จาก อาจารย์ ศุจิรัตน์ คิดอยู่ ที่ให้คาแนะนาปรึกษาเกี่ยวกับการเปรียญเทียบของประสิทธิภาพของสบู่ และ ให้คาแนะนาในเรื่องของการทาสบู่วิธีการทาสบู่อย่างถูกต้อง และ ถูกวิธีตลอดจนอธิบายถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จาเป็นต้องใช้ในการนามาทาสบู่และสามารถนาไปลงมือปฏิบัติจริง ในการจัดทาโครงงานชิ้นนี้และได้คาแนะนาปรึกษาในการทาโครงงานอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งแนวคิดตลอดจนข้อบกพร่องต่างๆที่ต้องแก้ไข ทาให้คณะผู้จัดทาสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทาโครงงานชิ้นนี้ได้ จนโครงงานเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทาโครงงาน วันที่14/08/60
  • 4. สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข บทที่ 1 บทนา 1 1.1 ความเป็นมาของโครงงาน 1.2 วัตถุของโครงงาน 1.3 สมมติฐาน 1.4 ขอบเขตของโครงงาน 1.5 ประโยชน์ที่ได้รับ จากโครงงาน บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3 บทที่ 3 วิธีดาเนินงานโครงงาน/วิธีดาเนินการวิจัย 7 บทที่ 4 ผลการทดลอง 12 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 15 บรรณานุกรม 16
  • 5. ภาคผนวช 17 บทที่1 บทนา 1.ความเป็นมาของโครงงาน สบู่คือ สิ่งที่ทามาจากไขผสมสารเคมีหลายชนิดเข้าด้วยกัน และ ผลิตใช้กันมาก ในปัจจุบันมนุษย์ใช้สบู่ขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ และ สบู่ที่ทาจากสมุนไพรสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน คนส่วนใหญ่จะรู้จักสบู่สารเคมีมาก และ ใช้สบู่ที่ผสมสารเคมีกันทุกครัวเรือน ใช้ทุกวัน ทุกครั้งที่ต้องการทาความสะอาดร่างกาย เพราะในสบู่มีสารที่สามารถฆ่าเชื้อโรค และ แบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นจึงต้องมีการผลิตสบู่สมุนไพรจากธรรมชาติ (สารสกัดชาเขียว และ น้ากุหลาบ) โดยสบู่นั้นต้องสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลิ่นหอมจากธรรมชาติ มีสีสันสวยงาม และ มีฟองที่นุ่ม เพื่อดึงดูงความสนใจของผู้อุปโภค ที่สาคัญต้องเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับคูรสมบัติของสมุนไพรที่นามาทาสบู่ถึงคุณสมบัติที่ดีไม่เป็นอันต รายต่อร่างกาย
  • 6. 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพื่อศึกษาการทาสบู่สมุนไพร 2. เพื่อศึกษาประโยชน์ของสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดน้ากุหลาบ 3. เพื่อส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน 3.สมมติฐาน 1. สบู่กลีเซอรีนผสมสมุนไพร สามารถทาความสะอาดผิวกายได้ 2. สบู่กลีเซอรีนที่ผสมสมุนไพรสารสกัดชาเขียว และ สารสกัดน้ากุหลาบ ช่วยให้ผิวสะอาด ขจัดสารพิษ ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว และดูชุ่มชื่นขึ้น 3. สบู่กลีเซอรีนธรรมชาติไม่มีสารเคมีใดๆจึงไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ตัวแปรต้น สบู่สมุนไพรสารสกัดชาเขียว และสารสกัดน้ากุหลาบ จากกลีเซอรีนธรรมชาติ ตัวแปรตาม ความสะอาดชุ่มชื่นของผิวกาย ป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิว ตัวแปรควบคุม ปริมาณสบู่ผสมสมุนไพรจากสารสกัดชาเขียว และ จากสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ากุหลาบ 4.ขอบเขตของโครงงาน ส่วนผสมของสมุนไพร คือ สูตรสารสกัดชาเขียว และ สูตรสารสกัดชาเขียวกับสารสกัดน้ากุหลาบ 5. ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน 1.จะได้รู้ส่วนประกอบของสบู่ และ วิธีการทาสบู่สมุนไพร 2. จะได้ศึกษาประโยชน์และข้อดีของสารสกัดชาเขียว และน้ากุหลาบ
  • 7. 3. ให้ความรู้ บอกข้อดี และ ส่งเสริมการใช้สบู่สมุนไพรในปัจจุบัน บทที่2 เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว สบู่น้ากุหลาบ ผู้ศึกษาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฏีและหลักหารต่างๆจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้ สบู่เป็นสิ่งที่ใช้ในการทาความสะอาดร่างกาย เช่นการอาบน้า การล้างมือ สบู่จะช่วยละลายไขมัน ทาให้การชาระล้างสะอาดมากขึ้น สบู่ (soap) คือสารเคมีที่เกิดจากการทาปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ, (NaOH,) และน้ามันที่มาจากสัตว์หรือพืชมีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pHอยู่ระหว่าง 8-10ใช้ชาระล้างร่างกายควบคู่กับการอาบน้า ทามาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้าหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ สบู่ก้อน คือส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10(ในเอกสารจดแจ้งของ อย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามีค่า ph ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ามันพืช ไขมันสัตว์ เบส เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ปร
  • 8. ะมาณ5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่เอาไว้อย่างน้อย 15- 30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม 2.1สารสกัดชาเขียว อุดมไปด้วยสารโพลีฟินอลที่ชื่อว่า EGCC ( Epigallo Catechin ) มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษ คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธ์แรงสูง ( Superpowerful Antioxdant ) ทาให้ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ ซึ้งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรทั้งยังเพิ่มความชุ้นชื่นและความเปร่งปลั่งให้กับผิวห น้าและช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตาและยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น สาร EGCC ในทางเคมีจัดเป็นสารโพลีฟินอลชนิดหนึ่งที่มีการวิจัยกันอย่างกว้างขวางและหลายการวิจัยก็พอว่า สาร EGCC ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่ 1.มีส่วนช่วยในขบวนการ การกาจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือดซึ่งทาให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจ าการอุตันของไขมันในหลอดเลือด 2.ช่วยในการขับสารพิษและสารอนุมูลอสระจึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและค วามเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกาย
  • 9. 3.ช่วยทาให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทางานระดับเซลล์ ประโยชน์ของชาเขียว 1.ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลังในปริมาณสูง สารแอนติออกซิแดนซ์นี่สามารถขับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด 2.ป้องกันโรคมะเร็ง EGCC สามารถลดเปอร์เซนต์การก่อตัวเป็นมะเร็งที่ดีที่สุด นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่า Catechins มีบทบาทสาคัญ คือ ช่วยลดภาวะเป็นพิษของสารก่อมะเร็งบางชนิดแทรงแซงกระบวนการเกาะยึดของสารก่อมะเร็งต่อ DNA ของเซลล์ปกติสรรพคุณที่เป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่ทรงพลัง เสริมการทางานกับสารแอนติออกซิแดนซ์และ Enzymes อื่นๆ และจากัดการลุกลามของเซลล์เนื้องอก 2.2สารสกัดกุหลาบ ชื่อทั่วไป สารสกัดน้าดอกกุหลาบ (Rose Water) ชื่อทางทฤกษาศาสตร์ (Rose hybrida) ชื่อว่า INCI Name Rose Damascena flower water สารสกัดดอกกุหลาบมีคุณสมบัติเป็น antiseptie และ anti bacteria และยังสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยอีกทั้งยังป้องกันการระคายเคืองผิวได้อีกด้วยจึงนิยมนามาใช้ใ นผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่ม Toner และ Moisturizer ในการฟื้นฟูบารุงเซลล์ผิวที่เสียให้คืนสู่ความสมบรูณ์แข็งแรงนอกจากนี้สารสกัดดอกกุหลาบยังอุด มไปด้วย สารที่มีประโยชน์ในการบารุงผิวหน้าและผิวกายช่วยกระกระชับรูขุมขนไม่ให้เปิดกว้างหลักจากล้า งหน้าช่วยเพิ่มความชุ้นชื่นให้แก่ผิวและช่วยปรับสมดุลของสภาพผิว
  • 10. ฟื่นฟูเซลล์ผิดภายในให้แข็งแรงเป็น Anti-Oxidant ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจุดด่างดา และช่วยให้ผิวพรรณ์สว่างสดใสสุขภาพดี สีผิวจุดด่างดาค่อยๆจางลง กลีบกุหลาบ อุดมไปด้วย วิตามินซีแคโรทิน วิตามินบี วิตามินเค แคลเซียม และแร่ธาตุต่างๆ ที่จาเป็นต่อร่างกายของระบบเลือด เรียกว่า วิตามินเกลือแร่ต่างๆที่ร่างกายต้องการนั้นมีอยู่ครบถ้วนในกลีบกุหลาบ เช่น โปแตสเซียม ที่จาเป็นต่อระบบหัวใจ แร่ธาตุทองแดงที่ร่างกายต้องการเพิ่มกระบวนการสร้างเม็ดเลือดและใช่ในกระบวนการต่อมไร้ท่อ ไอโอดีน ที่ร่างกายต้องการสาหรับการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ สารสกัดจกากลีบกุหลาบ ( Rose Crysta ) มีสารสาคัญ คือ EuGeniin และ Rose Polyphenol Eugeniin แก้ปัญหาผดร้อน ผื่นแดง แพ้ระคายเคืองจาการสารเคมีช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับผิว Rose polyphenol ยับยั้งเอมไซม์ไฮนาลูโรนิเดส (Hyaluroidase) ที่ทาลายไฮยาลูโลนิกแอซิค มนผิวชั้นลึกจึงเสมือนเป็นเกาะปกป้องให้ถูกทาลายน้อยลง ช่วยยึดอายุและปรับโครงสร้างให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง แน่นฟิต กระชับ อุ้มน้า ไม่ยุบตัว หย่อนคล้อยไปตามวัยตงสภาพผิวแรกรุ่น อ่อนเยาว์ ลดการผลิตเม็ดลีเมลานินที่ทาให้ผิวคล้าเสียหม่อนหมอง รอยกระ และรอยดาจากสิว ผิวจึงขาวใสขึ้นทั้งผิวหน้าและผิวกาย ลดอาการอักเสบของผิวที่ไหม้ บวม รอยแดง จากรังสียูวีในแสงแดด 2.3 กลีเซอรีน คือ ของเหลวที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นมีความหนืด และมีรสหวาน โดยปกติมาจากน้ามันของพืชซึ่งโดยทั้วไป คือ น้ามันมะพร้าว และน้ามันปาล์ม
  • 11. ประโยชน์ของกลีเซอรีนบริสุทธิ์ สามารถนาไปประยุกติ์เป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอไรเซอร์ เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะทาให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ขจัดความสกปรกที่ฝังแน่นไม่ให้อุดตันรูขุนขน รวมทั้งปลอดภัยต่อผิวหนัง และเนื้อผ้าทุกชนิด กลีเซอรีน ได้รับความสนใจและนาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ด้วยการทายาเหน็บทวาร ใช้เป็นยาระบายและยังสามารถใช้เป็นยาเฉพาะทางผิวหนัง หลายชนิด รวมถึงโรคผิวหนัง ผื่น แผลไฟลวก แผลกดทับ และบาดแผลของมีคม เนื่องจากกลีเซอรีนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องได้ บทที่ 3
  • 12. วิธีดาเนินการโครงงาน ในการทาโครงงานเรื่อง “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว” ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5/4 ประจาปีการศึกษา 2560 มีวิธีดาเนินการดังต่อไปนี้ 1.ขั้นตอนเตรียมการ ในการจัดทาโครงงานมีขั้นตอนเตรียมการดังนี้ 1.ประชุมอภิปรายการจัดทาโครงงาน แต่งตั้งประธาน รองประธาน เลขาธิการและเหรัญญิก 2.กาหนดชื่อเรื่องโครงงานในหัวข้อการเปรียบเทียบสบู่ ซึ่งสมาชิกได้มีความเห็นร่วมกันแต่งชื่อเรื่องในการจัดทาโครงงาน คือ “การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว” 3.ตั้งวัตถุประสงค์ตามแผนการดาเนินงาน เพื่อเป็นเป้าหมายในการศึกษา ซึ่งผู้จัดทาได้ตั้งวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อศึกษาการทาสบู่ชาเขียว และสบู่ชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ 2.อยากทราบถึงประสิทธิภาพของสบู่ชาเขียว 3.เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างสบู่ชาเขียว กับสบู่ชาเขียวน้าดอกกุหลาบ 4.มอบหมาย และแบ่งภาระงานให้กับสมาชิก รายชื่อผู้ร่วมงาน
  • 13. สมาชิก นาย ปวรวุธ วิสุทธิเสน มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล สมาชิก นาย อภิราม รสหานาม มีหน้าที่พิมพ์ข้อมูล สมาชิก น.ส. อัจฉรา เจริญกิจกังวาน จัดหาข้อมูล สมาชิก น.ส. จารุวรรณ เทพวูฑฒิ เสนอโครงงาน สมาชิก น.ส. อธิชา สิงหนาท ทดลองทาสบู่ 2.วัตถุและอุปกรณ์ 2.1 กลีเซอรีน 2.2 มีด 2.3 เขียง 2.4 ถ้วย 3ใบ 2.5 ช้อนคน 2.6 น้าหอม 2.7 ภาชนะ/พิมพ์ที่ใส่สบู่ 2.8 สารสกัดชาเขียว 2.9 สารสกัดน้าดอกกุหลาบ 3. วิธีการดาเนินการ 3.1 ประชุมวางแผน 3.2 ออกปฎิบัติการ 3.3 ค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 3.4 ปฎิบัติการผลิตสบู่ทั้ง2สูตร 3.5 ทดสอบประสิทธิภาพของสบู่ทั้ง2สูตร
  • 14. 3.6 สรุปผลและรายงานโครงงาน ขั้นตอนการผลิตสบู่ และ สบู่ชาเขียวและน้าดอกกุหลาบ 1.หั่นกลีเซอรีนเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2.นากลีเซอรีนใส่หม้อ ต้มจนละลายหมด 3.ผงชาเขียวชง
  • 16. 6. บรรจุใส่พิมพ์ 6.1 ซ้ายสูตรสารสกัดชาเขียวกับ สารสกัดน้ากุหลาบ 6.2 ขวาสูตรสารสกัดชาเขียว บทที่4 ผลการทดลอง/วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล
  • 17. จากการวิจัยเรื่อง สบู่น้าดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีน ผลปรากฏว่า สบู่ที่ทามาจากกลีเซอรีน ผสมน้าดอกกุหลาบและชาเขียวต่างชนิดกัน คือ “น้าดอกกุหลาบ” และ “ชาเขียว” สามารถทาความสะอาดผิวกายต่างกันเพราะที่นามาผสมแตกต่ างกัน มีสรรพคุณต่างกัน มีความหอมแตกต่างกันตามที่นามาผสม และสบู่น้าดอกกุหลาบและชาเขียวจากกลีเซอรีนที่ทาเอง มีค่า pH ตรงตามมาตรฐาน คือ มีค่าได้ เท่ากับ 8(หรือเบส) โดยสบู่ทั้งสองมีค่า pHเท่ากัน ซึ่งเป็นค่าที่ตามมาตรฐานที่ใช้ทาความสะอาดร่างกายกัน และค่า pH มีค่าเป็นกลางใกล้เคียงกับผิวพ รรณของเรา 4.1การศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ จากการศึกษาการผลิตสบู่จากสารสกัดชาเขียวกับน้าดอกกุหลาบ สามารถผลิตสบู่ได้2สูตร สูตรที่1 สูตรสารสกัดชาเขียว สูตรที่2 สูตรสารสกัดชาเขียวและน้าดอกกุหลาบ 4.2ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้กับสบู่ทั้ง 2 สูตร
  • 18. จากแบบสอบถามความพึงพอใจจากประชากร ชาย 15 คน หญิง 20 คน สูตรที่ 1 สารสกัดชาเขียว ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) ค่าเฉลี่ย 1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่ 1.1สี-กลิ่น 9 21 3 2 3.05 2.การเกิดฟอง 7 4 18 6 2.342 3.ประสิทธิภาพในการทาความสะอาด 6 25 4 0 3.057 4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังใช้ 10 22 3 0 3.2 5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่ 14 17 4 2 3.342
  • 19. สูตรที่ 2 สารสกัดสารชาเขียวกับน้าดอกกุหล าบ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) ค่าเฉลี่ย 1.รูปลักษณ์ภายนอกของสบู่ 1.1สี-กลิ่น 8 21 4 2 3 2.การเกิดฟอง 3 7 17 6 2.08 3.ประเมินภาพในการทาความสะอา ด 13 16 4 2 3.171 4.ความนุ่มลื่นของผิวหลังจาการใช้ 7 24 4 0 3.085 5.ความยาก-ง่ายในการล้างสบู่ 15 16 4 2 3.371 4.3การนาไปใช้งาน การล้างมือ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่คณะผู้จัดทาได้ศึกษา ค้นคว้า และปฏิบัติ จนได้มาเป็นสบู่ เพื่อใช้ในการล้างมือให้สะอาดมากขึ้นกว่าการล้างน้าเปล่าและยังทาให้ผิวชุ่มชื้น สดชื่นและฆ่าเชื้อโ รค เพื่อป้องกันและลดการเกิดไข้หวัดต่างๆ ที่ทาให้สุขภาพกายเจ็บป่วย และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
  • 20. บทที่5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 1.สรุปผลการทดลอง 1.1 การทดลองเป็นที่น่าพึงพอใจของสมาชิกภายในกลุ่มและผู้ทดลองใช้ และได้ทราบผลลัพธ์จากการทดลองใช้สบู่สมุนไพรแต่ละสูตรว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร 2.ปัญหาและอุปสรรคในการทดลอง 2.1 สมาชิกภายในกลุ่มมีเวลาว่างไม่ตรงกัน 2.2 สบู่มีสีเข้มขึ้นเมื่อได้รับความร้อนเป็นเวลานาน ทาให้สบู่อาจจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป 2.3 สบู่แข็งตัวเร็ว ทาให้เวลาใส่พิมพ์สบู่อาจจะมีลายที่ไม่สวยงาม 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา 3.1 การนาสมุนไพร พืช หรือดอกไม้ชนิดอื่นๆมาเป็นส่วนผสมในการทาสบู่ 3.2 การนาส่วนผสมหรือสารชนิดอื่นๆ เช่นกรดผลไม้ หรือวิตามินต่างๆ มาเป็นส่วนผสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย และตรงจุดกับที่ผู้ใช้ต้องการ 3.3 นาผลการทดลองมาปรับปรุงแก้ไขจากแบบสอบถามที่เพื่อนประเมินให้ดียิ่งขึ้น