More Related Content
More from Suphawich Bunli
More from Suphawich Bunli (6)
โครงงาน
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ท่านอนบอกสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1 นายเอกภพ ปัญญาหาญ เลขที่ 6 ชั้น ม.6 ห้อง 2
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
นายเอกภพ ปัญญหาญ เลขที่ 6
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ท่านอนบอกสุขภาพ
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
you tell the health.
ประเภทโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นายเอกภพ ปัญญาหาญ
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาเรียนที่ 1 – ภาคเรียนที่ 2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากแต่ละบุคคลมีท่านอนที่แตกต่างกันตามความชอบหรือตามลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อาจจะมี
หลายๆปัจจัยร่วมกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งเร้าหรือสภาวะแวดล้อมที่มีผลต่อการกระทาของระบบร่างกาย ซึ่งส่วนหนึ่ง
แสดงออกมาทางท่านอนและเป็นเหตุผลที่ผู้จัดทาสนใจที่จะนามาศึกษาเพื่ออธิบายสุขภาพที่แสดงออกมาผ่านท่า
นอน
วัตถุประสงค์
โครงงานเรื่อง ท่านอนบอกสุขภาพ จัดทาขึ้นเพื่อศึกษาลักษณะของท่านอนที่สามารถบอกถึงการทางาน
และประสิทธิภาพของร่างกายที่แสดงออกมาผ่านทางท่านอน
ขอบเขตโครงงาน
กาหนดให้ศึกษาลักษณะของท่านอน
หลักการและทฤษฎี
การนอนหลับ เป็นสิ่งที่สาคัญที่สุดสาหรับคนเรา เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมในส่วนที่
เสียหายหรือบาดเจ็บและช่วยจัดระบบการทางานในร่างกายต่าง ๆ ให้เข้าที่ เปรียบเสมือนการกด
ปุ่ม รีเซตร่างกายใหม่ในแต่ละวัน ซึ่งนอกจากเวลาในการนอนที่เหมาะสมแล้ว ท่านอนก็เป็นส่วนสาคัญ
ที่ส่งผลต่อสุขภาพ
การนอนหลับโดยใช้หมอนหนุนยังร่างกายส่วนต่าง ๆ เป็นท่านอนที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยลด
อาการปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่เกิดขึ้นจากการนอนหลับในท่าทางที่ไม่เหมาะสมได้ เหมาะ
สาหรับคนที่ชอบนอนดิ้น หรือเปลี่ยนท่านอนบ่อย ๆ โดยมีเทคนิคง่าย ๆ นั่นก็คือคนที่ติดการนอนหงาย
ควรนาหมอนใบเล็ก ๆ หนุนตรงบริเวณเอวเพื่อลดอาการปวดที่จะเกิดขึ้นเมื่อตื่นนอน ส่วนคนที่มักจะ
- 3. 3
นอนตะแคง ก็ควรจะใช้หมอนหนุนบริเวณระหว่างเข่า และคนที่มักจะนอนคว่าก็ควรหนุนหมอนบริเวณ
บริเวณสะโพกเพื่อให้หมอนช่วยรองรับข้อต่อต่าง ๆ ตั้งแต่เอวลงมา รวมทั้งจะช่วยทาให้คุณนอนหลับได้
สบายมากขึ้นอีกด้วย
เราอาจจะเคยได้ยินกันว่าการนอนตะแคงดีต่อสุขภาพที่สุด แต่จริง ๆ แล้วการนอนตะแคงก็มี
ผลกระทบต่อสุขภาพเหมือนกัน โดยการนอนตะแคงขวา ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไร เพราะจะทาให้เกิด
อาการแสบร้อนบริเวณกลางอกได้ ฉะนั้นถ้าหากเป็นคุณเป็นคนที่มักจะทานอาหารก่อนนอนละก็
หลีกเลี่ยงการนอนท่าตะแคงขวาดีกว่า ในขณะที่การนอนตะแคงข้างซ้ายก็ทาให้อวัยวะต่าง ๆ ภายใน
ร่างกายอย่างเช่น ปอด ตับ และช่องท้องเกิดการกดทับและทางานหนัก แต่ถึงอย่างนั้นแพทย์ก็ยังแนะนา
ให้หญิงที่ตั้งครรภ์นอนหลับในท่าตะแคงซ้ายอยู่ดี เพราะจะช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดของทารกใน
ครรภ์ดียิ่งขึ้น
การนอนตะแคงอาจจะทาให้เราต้องนอนทับแขนตัวเองอยู่บ่อย ๆ และอาจจะทาให้ปวดแขนได้
เพราะการกดทับบริเวณแขนและไหล่เวลานอน จะทาให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก รวมทั้งยังจะทาให้เกิด
แรงดันภายในเส้นประสาทบริเวณแขนด้วย แต่ถ้าหากนอนตะแคงแล้วยื่นแขนออกไป ก็จะช่วยลดทาให้
เส้นเลือดและเส้นประสาทบริเวณแขนทางานได้เป็นปกติ ทาให้นอนหลับสบายขึ้น
ท่านอนนี้เป็นท่านอนที่ดีต่อกระดูกสันหลังมากที่สุด เพราะทาให้ร่างกายอยู่ในท่าทางที่เป็น
ธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดอาการปวดหลังและปวดคอได้ รวมทั้งลดปัญหาการหยุดหายใจขณะนอนหลับของ
คนที่นอนกรนได้อีกด้วย แต่สาหรับสาว ๆ ที่ห่วงผิวพรรณละก็ การนอนตะแคงอาจจะมีผลให้ผิวพรรณ
หย่อนคล้อยก่อนวัย ทาให้ใบหน้าเกิดริ้วรอย และหน้าอกหย่อนคล้อยได้ แถมถ้านอนทับแขนตัวเองนาน
ๆ ก็อาจจะทาให้ปวดไหล่และแขนได้อีกด้วย
การนอนในท่าขดตัวเหมือนทารกนั้นเหมาะสาหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับอย่างเช่น
การกรน หรือผู้หญิงที่กาลังตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ใช่ท่านอนที่ดีสักเท่าไร เพราะท่านอนนี้จะไปขัดขวางการ
หายใจ ทาให้หายใจได้ไม่เต็มปอด แถมยังส่งผลโดยตรงถึงอาการปวดหลังและคออีกด้วย เพราะท่านอน
นี้จะต้องขดตัวจนทาให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาตินั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคนที่ไม่มี
ปัญหาในการนอนก็ควรจะนอนในท่าทางอื่นดีกว่า
ท่านอนคว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรเลย เพราะจะทาให้หายใจได้ลาบาก แถมยังเกิดอาการปวด
คอ เพราะในการนอนท่านี้คุณจะต้องหันหน้าไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ที่สาคัญท่านอนนี้ยังไม่ดีต่อกระดูก
สันหลังอีกด้วย เพราะจะทาให้กระดูกสันหลังอยู่ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่ก็ใช่ว่าท่านอนนี้จะมี
ผลเสียเพียงอย่างเดียว เพราะสาหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร การนอนคว่าจะช่วยทา
ให้ระบบการย่อยดีขึ้นได้
ท่านอนนี้เรียกว่าท่าปลาดาว ซึ่งเป็นท่าที่ดีต่อหลัง แถมยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
และผิวพรรณที่ทาให้ดูแก่ก่อนวัยได้อีกด้วย โดยการนอนท่านี้ก็เหมือนกับการนอนหงายทั่ว ๆ ไปที่จะ
ช่วยลดอาการกรนและปัญหากรดไหลย้อนได้ แต่จะแตกต่างก็ตรงที่การยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาพาดบน
หมอน เพราะจะทาให้เกิดแรงกดดันที่บริเวณไหล่ส่งผลทาให้ปวดเมื่อยได้ง่าย ฉะนั้นทางทีดีควรจะยืด
แขนออกไปสบาย ๆ ข้างลาตัวจะดีกว่า