New

4. 1. นิยาม ความหมายของผู้นา
และภาวะผู้นา
ผู้นา (Leader) หมายถึง บุคคลที่ทาให้องค์การเจริญก้าวหน้าและบรรลุผลสาเร็จโดยเป็ นผู้ที่มีบทบาท
แสดงความสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลที่เป็ นผู้ใต้บังคับบัญชา หรือเป็ นบุคคลที่ก่อให้เกิดความมั่นคงและช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายของกลุ่ม
ประเภทของผู้นา
จากการจาแนกประเภทของผู้นา อาจจาแนกโดยอธิบายให้เห็นถึงการเกิดผู้นาว่าเกิดขึ้นได้ 2 ประเภท คือ
1. จาแนกโดยสถานการณ์และโดยตาแหน่ง
2. จาแนกโดยลักษณะในการบริหารซึ่งมี 3 ประเภทซึ่งจะเน้นที่พฤติกรรมของผู้นาเป็ นสาคัญว่า ผู้นามี
พฤติกรรมเช่นไร ดังนี้
- ผู้นาแบบใช้พระเดช หมายถึง ผู้นาที่ยึดเอากฎหมาย ระเบียบแบบแผนเป็ นที่ตั้ง
- ผู้นาแบบใช้พระคุณ หมายถึง ผู้นาที่มีอานาจและศิลปะในการที่จะสามารถจูงใจให้บุคคล
ทั้งหลายทั้งปวงปฏิบัติ ตามที่ตนประสงค์
- ผู้นาแบบสัญลักษณ์ หมายถึง ผู้นาที่มีลักษณะเป็ นสัญลักษณ์ของผู้อยู่ในฐานะตาแหน่งที่ควร
แก่การเคารพนับถือ

5. 1. นิยาม ความหมายของผู้นาและ
ภาวะผู้นา (ต่อ)
คุณสมบัติของผู้นา ประกอบด้วย
ครองตน
- มีความประพฤติปฏิบัติตนดี
- มีความรู้ความสามารถ เข้าใจเหตุการณ์
- มีความซื่อสัตย์สุจริต
- มีความอดทนอดกลั้น
- มีเหตุมีผล
- มีการควบคุมอารมณ์ที่ดี (EQ=Emotional Qmotient)

6. 1. นิยาม ความหมายของผู้นาและ
ภาวะผู้นา (ต่อ)
คุณสมบัติของผู้นา ประกอบด้วย
ครองคน
- มีมนุษยสัมพันธ์ดี
- มีความเสียสละ
- มีความจริงใจ
- มีความสามารถในการจูงใจ
- มีความปรารถนาส่งเสริมให้ลูกน้องก้าวหน้า

7. 1. นิยาม ความหมายของผู้นาและ
ภาวะผู้นา (ต่อ)
คุณสมบัติของผู้นา ประกอบด้วย
ครองงาน
- มีความคิดริเริ่มสร ้างสรรค์
- มีความรับผิดชอบ
- มีการตรงต่อเวลา
- มีความมุ่งมั่นในการสร ้างผลงาน
- มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
- มีความกล้าหาญ

8. 1. นิยาม ความหมายของผู้นาและ
ภาวะผู้นา (ต่อ)
ภาวะผู้นา (Leadership) หมายถึง กระบวนการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือ
มากกว่าพยายามใช ้อิทธิพลของตนหรือกลุ่มตน กระตุ้น ชี้นา ผลักดัน ให้บุคคลอื่นหรือ
กลุ่มบุคคลอื่นมีความเต็มใจ และกระตือรือร ้นในการทาสิ่งต่างๆ ตามต้องการ โดยมี
ความสาเร็จของกลุ่มหรือองค์กรเป็ นเป้าหมาย
ลักษณะของภาวะผู้นา
มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประกำร ในกำรพิจำรณำว่ำผู้นำใดมีภำวะผู้นำหรือไม่ ได้แก่
1. ผู้นาเป็ นกระบวนการ
2. มีระดับความถูกต้องของการใช้อิทธิพล
3. มีความสาเร็จของจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้

9. 2. นิยาม ความหมายของการ
ทางานเป็ นทีม
การทางานเป็ นทีม (Teamwork) หมายถึง การที่บุคคลหลาย ๆ คนมา
รับผิดชอบงานร่วมกัน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน ซึ่งบุคคลแต่ละคนล้วนมีพื้นฐาน
แนวความคิด ทัศนคติ และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในทีมงาน
ผู้บริหารและหัวหน้างานทุกคนจะต้องพิจารณาวิเคราะห์หาสาเหตุโดยเริ่มที่ตนเองก่อน
วิธีการสร้างความสัมพันธ ์กับทีมงานเริ่มต้นง่าย ๆ คือ
1. การเป็ นผู้ฟังที่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยลดการเข้าใจผิด ลดความขัดแย้ง ช่วยให้การ
ตัดสินใจดีขึ้น
2. ควรมีอารมณ์ขันในการทางาน เพื่อสร ้างบรรยากาศที่ดีในการทางาน
3. ให้ความสาคัญและเห็นคุณค่าในความรู้ความสามารถของผู้อื่น

10. 3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้อง
กับภาวะผู้นา
แนวคิดทฤษฎีเชิงเส้นทาง – เป้ าหมาย
ของเฮาส์(House)
ทฤษฎีนี้ผู้นาจะต้องตัดสินใจเลือกพฤติกรรมที่
เหมาะสมกับผู้ร่วมงานและสภาพแวดล้อมในการ
ทางาน ได้จาแนกพฤติกรรมผู้นา 4 แบบ
1. ผู้นาแบบชี้นา – เป็ นผู้นาที่สั่งการ
ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
2. ผู้นาแบบสนับสนุน – เป็ นผู้นาที่มีความเป็ น
กันเอง
3. ผู้นาแบบมีส่วนร่วม – ผู้นาส่งเสริมให้สมาชิกได้
มีส่วนร่วมในการวางแผน แสดงความคิดเห็น
4. ผู้นาแบบเน้นความสาเร็จของงาน – ผู้นาจะ
มุ่งผลงานของกลุ่มจะกาหนดเป้ าหมายที่ท้าทาย

11. 3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับ
ภาวะผู้นา (ต่อ)
แนวคิดทฤษฏีคุณลักษณะผู้นาของมา
แชล (Marshall)
1. คุณลักษณะทางกายภาพ โดยจะต้องเป็ นผู้ที่
แข็งแรง ร่างกายสง่างาม
2. ภูมิหลังทางสังคม อันได้แก่ การมีความรู้และ
สภาพทางสังคมที่ดี
3. สติปัญญา มีสติปัญญาสูง มีการตัดสินใจที่ดีและมี
ทักษะในการสื่อความหมายและการพูด
Marshall ได้อธิบายคุณลักษณะความเป็ นผู้นา ควรต้องมี 6
ประการ ได้แก่

12. 4. บุคลิกภาพ ต้องเป็ นผู้ที่กระตือรือร ้น ตื่นตัวอยู่เสมอ ควบคุม
อารมณ์ได้ มีความคิดริเริ่มสร ้างสรรค์ มีจริยธรรม และความ
5. ลักษณะที่เกี่ยวข้องกับงาน ผู้นาควรมีความปรารถนาที่จะ
ทา ให้ดีที่สุด มีความรับผิดชอบ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มุ่งที่งาน
6. ลักษณะทางสังคม ผู้นาจะต้องเป็ นผู้ที่ปรารถนาจะร่วมมือกับ
คนอื่น มีเกียรติเป็ นที่ยอมรับของสมาชิกและคนอื่นๆ เข้าสังคมได้
ฉลาดในการเข้าสังคม
3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับ
ภาวะผู้นา (ต่อ)

13. 4. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวข้องกับการ
ทางานเป็ นทีม
แนวคิดทฤษฎีของเดลตัน (Dalton)
Dalton ได้เสนอแนวคิดในการสร ้างทีมที่มีประสิทธิผล ว่าปัจจัยที่
สาคัญ คือ ผู้นาทีมจะต้องมีความรับผิดชอบและมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. มอบหมายงานให้ถูกคน
2. ทาให้ความคาดหวังชัดเจน
3. กระตุ้นผู้ร่วมทีม
4. มองให้เห็นภาพใหม่
5. มีการวางแผนที่ดี
6. นาพนักงานใหม่เข้าไปใน
ทีมเพื่อให้เกิดวิธีการใหม่ๆ
7. ให้การกระตุ้นจูงใจ
8. ให้รางวัล ให้แรงเสริมทางบวก
9. เคลื่อนย้ายอุปสรรคที่ทาให้ทีม
ไม่บรรลุเป้าหมาย
10. มุ่งมั่นกับสิ่งที่จะทาให้ทีมไปสู่
ความก้าวหน้า

14. 5. บทบาทของผู้นาที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้าง
คุณภาพงานให้เกิดขึ้นได้
คุณลักษณะ
คุณลักษณะที่ทฤษฎีลักษณะเฉพาะของผู้นา
(Trait Theory) กล่าวถึงการศึกษาหาลักษณะเฉพาะ
(Trait) ที่ทาให้บุคคลเป็ นผู้นา ช่วงระยะแรกของ
การศึกษาภาวะผู้นาเริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1930- 1940
โดยแนวคิดมาจากทฤษฎีมหาบุรุษ (Greatman
Theory of Leadership) ของกรีกและโรมันโบราณ
คุณลักษณะของความเป็ นผู้นาคือลักษณะอันมีคุณค่า
อย่างยิ่ง ซึ่งนับเป็ นปัจจัยสาคัญในการปฏิบัติหน้าที่
เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่น เชื่อฟัง
และให้ความร่วมมืออย่างแท้จริงในอันแนะนาให้การ
ปฏิบัติภารกิจได้สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี

15. 5. บทบาทของผู้นาที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพ
งานให้เกิดขึ้นได้ (ต่อ)
ผู้นาในยุคปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วยคุณลักษณะ ต่อไปนี้
1. มีแรงขับเคลื่อนสูง (Drive) หมายถึง คุณลักษณะที่ผู้นาเป็ นผู้
มีความพยายามสูงในการทางานให้บรรลุตามเป้ าหมาย มีความกระตือรือร ้น
มีความพยายามในการทางาน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มีความคิดริเริ่ม
สร ้างสรรค์
2. มีแรงจูงใจสูง (Leadership Motivation) หมายถึง
คุณลักษณะของความต้องการอานาจ
ที่สูงกว่าผู้อื่น ชอบที่จะนามากกว่าตาม ความต้องการอานาจ คือ ความ
พยายามมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น
และมีอานาจในการทาให้ผู้อื่นยอมรับ ไว้วางใจและทางานให้สาเร็จตาม
วิสัยทัศน์

16. 3. มีความซื่อสัตย์ (Integrity) หมายถึง คุณลักษณะของผู้นาที่
กระทาตามที่พูดไว้ รักษาคามั่นสัญญา ทาให้ผู้อื่นเกิดความไว้วางใจ
(Honesty) ทาให้ผู้อื่นเชื่อถือ(Credibility)
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง (Self-Confidence) หมายถึง ผู้นา
ชอบทางานที่ท้าทายความสามารถ เช่น เชื่อมั่นว่าถ้าทางานได้สาเร็จแม้ว่า
ในสภาพความไม่แน่นอนของสถานการณ์ด้วยความมั่นใจในตนเอง
5. มีความรู ้ในด้านธุรกิจ (Knowledge of The Business)
เชิงธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม การแข่งขัน เทคโนโลยีต่างๆ ผู้นาที่แสวงหา
เฉลียวฉลาด มีความก้าวหน้าในอาชีพสูงมีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่
ส่วนคุณสมบัติทั่วไปของผู้นาที่ทาให้ผู้นาประสบความสาเร็จในการทางาน
5. บทบาทของผู้นาที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพงานให้เกิดขึ้นได้ (ต่อ)

17. วิธีการจูงใจ
วิธีกำรจูงใจทฤษฎีของ Herzberg ได้แสดงให้เห็นถึงควำมต้องกำรของคนในกำรทำงำน คือ
ควำมต้องกำรแรกเป็นกำรหลีกเลี่ยงควำมไม่พึงพอใจในสภำพแวดล้อมของงำน เรียกว่ำปัจจัยค้ำจุน ควำม
ต้องกำรที่สองเป็นควำมต้องกำรที่ผู้ปฏิบัติงำนจะต้องใช้ควำมสำมำรถของเขำแสวงหำควำมก้ำวหน้ำ
เรียกว่ำปัจจัยเกื้อหนุน
ปัจจัยเกื้อหนุน เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดควำมพึงพอใจมีควำมสัมพันธ์โดยตรงกับแรงจูงใจภำยใน
ที่เกิดจำกงำนที่ทำ ได้แก่ ควำมสำเร็จในกำรทำงำน กำรยกย่องนับถือ ควำมรับผิดชอบ ควำมก้ำวหน้ำ
ปัจจัยค้าจุน ปัจจัยนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดควำมไม่พึงพอใจ มีควำมสัมพันธ์โดยตรงกับสิ่งแวดล้อม
ภำยนอกเป็นแรงจูงใจภำยนอกที่เกิดจำกสภำวกำรณ์งำน ได้แก่ นโยบำยและกำรบริหำร วิธีกำรบังคับ
บัญชำ สัมพันธภำพกับผู้บังคับบัญชำ
5. บทบาทของผู้นาที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพงานให้เกิดขึ้นได้ (ต่อ)

18. 6. บทบาทของผู้นาที่ดี ที่ช่วยเสริมสร้างให้
ทีมงานมีประสิทธิภาพ
1. ลักษณะและภาวะความเป็ นผู้นาที่เหมาะสม ผู้นา
ต้องมีความรับผิดชอบ มีหน้าที่และบทบาทความเป็ นผู้นาที่
สมบูรณ์ คือสามารถมอบหมายงานและแบ่งสันงานให้ผู้อื่น
ดาเนินการโดยทางานเป็ นทีม หัวหน้าทีมหรือผู้นาจาเป็ นต้องมี
ทักษะด้านการงาน การขจัดปัญหาความขัดแย้ง สร ้างแรงจูงใจ
2. ความสามัคคี ช่วยให้สมาชิกทีมงานมีความรู้สึกเป็ น
พวกเดียวกันไม่มีความคิดเห็นและความสานึกที่เห็นแก่ตัว
3. การมีมนุษย์สัมพันธ ์ที่ดี ทีมงานที่มีประสิทธิภาพ
ผู้นาต้องสร ้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีภายในทีมงาน

19. ซึ่งเป็นนักจิตวิทยำและวิทยำกรชื่อดังชำวมำเลเซีย โดยหยิบมำสร้ำง "ทฤษฎีผู้นำ" โดยเรียนรู้
วิธีกำรบินของฝูงห่ำน ซึ่งแสดงถึงกำรทำงำนเป็นทีม
7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม
ทฤษฎี “ฝูงห่าน” ผลัดกันนา ผลัดกันตาม ของดร.ลีโอนาร์ด โยง (Leonard Yonng)

20. 7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม (ต่อ)
 คุณเคยสังเกตเห็นไหมว่ำในฤดูใบไม้ร่วง ฝูงห่ำนมักบินมุ่งหน้ำไปยังทิศใต้ ในลักษณะที่เป็น
ตัวอักษรวี (v) จำกกำรศึกษำตำมหลักวิทยำศำสตร์ได้ค้นพบว่ำ เหตุใดฝูงห่ำนจึงต้องบินเช่นนั้น
ในขณะที่ห่ำนตัวหนึ่งกระพือปีก ห่ำนที่บินตำมมำจะได้รับแรงยกเพิ่มขึ้น ดังนั้น กำรที่ฝูงห่ำน
บินเป็นอักษรวี (v) นั้น จะทำให้ประสิทธิภำพกำรบินเพิ่มขึ้น ๗๖% กว่ำกำรบินเดี่ยวเพียงตัวเดียว
ดังนั้น คนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมซึ่งไปในทิศทำงเดียวกัน สำมำรถไปถึงจุดหมำยได้เร็วกว่ำและ
ง่ำยกว่ำ เพรำะว่ำคนเหล่ำนั้นมุ่งหน้ำไปโดยอำศัยควำมไว้วำงใจ กำรทำหน้ำที่ของตนเองให้ดีที่สุด กำรแบ่งปัน
ข้อมูลกัน กำรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

21. 7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม (ต่อ)
หำกห่ำนตัวใดตัวหนึ่งเกิดบินหลุดจำกฝูง มันจะรู้สึกได้ทันทีถึงแรงต้ำนทำน
ที่เพิ่มมำกขึ้น ดังนั้น มันจะรีบบินกับเข้ำฝูง อย่ำงรวดเร็ว เพื่อจะได้ประโยชน์ในกำรบินเป็น
ฝูง
ดังนั้น ถ้ำเรำมีไหวพริบเหมือนห่ำน เรำจะมีกำรแบ่งปันข้อมูลกับบุคลคลอื่น
ที่มุ่งหน้ำไปยังที่ที่เดียวกับเรำ

22. 7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม (ต่อ)
 เมื่อห่ำนที่บินอยู่ข้ำงหน้ำรู้สึกเหนื่อย มันจะบินไปอยู่ข้ำงหลัง และให้ห่ำนตัว
อื่นบินข้ำงหน้ำแทน
ดังนั้น เรำต้องมีกำรแบ่งปันภำวะผู้นำ และผลัดเปลี่ยนกันไปกำรทำงำน
หนัก

23. 7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม (ต่อ)
ฝูงห่ำนที่บินอยู่ข้ำงหลังจะส่งเสียงร้องเพื่อให้กำลังใจห่ำนที่บินอยู่ข้ำงหน้ำ
ให้รักษำระดับควำมเร็วต่อไป
 คำพูดชมเชยและกำลังใจ จะทำให้คนที่อยู่แนวหน้ำยังคงมุ่งหน้ำต่อไปได้
ท่ำมกลำงควำมกดดัน และควำมอ่อนล้ำ ที่ต้องเผชิญ ในแต่ละวัน

24. 7. จิตวิทยาและเทคนิควิธีในการเป็นผู้นาและการทางานเป็นทีม (ต่อ)
ท้ำยที่สุด หำกว่ำห่ำนตัวใดตัวหนึ่งป่วยหรือได้รับบำดเจ็บ และไม่สำมำรถบินร่วมฝูงได้ ห่ำนอีก 2
ตัวจะบินตำมลงมำ เพื่อช่วยเหลือและปกป้องห่ำนตัวที่บำดเจ็บ จนกระทั่งห่ำนตัวนั้นหำยดีหรือว่ำตำยไปแล้ว
ห่ำนทั้ง 2 ตัวนั้น จะเข้ำกลุ่มกับฝูงห่ำน เพื่อจะตำมหำฝูงห่ำนเดิมให้ได้ทัน
ดังนั้น หำกเรำมีสัญชำตญำณเหมือนห่ำน เรำจะยืนอยู่เคียงข้ำงคนอื่นๆ ในช่วงเวลำที่ยุ่งยำก

26. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช
 เ ส ด็ จ พ ร ะ ร า ช ส ม ภ พ
เมื่อ 5 ธันวาคม 2470 ณ โรงพยาบาล
เมา นท์ ออ เบิร ์น เมือ งเค มบ ริดจ์ ม ล
รัฐแมสซาชูเซสส์สหรัฐอเมริกา
 ทรงมีพระนามเดิมว่า พระวรวงศ ์เธอพระองค์
เจ้าภูมิพลอดุลยเดช
 ทรงเป็ นพระโอรสในสมเดชพระเจ้าฟ้ ามหิดล
อดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร ์และ

27.  โครงการกังหันน้าชัยพัฒนา
 กังหัน น้าชัยพัฒนา คือสิ่งประดิษฐ์ซึ่งเกิดจาก
พระปรีชาสามารถและพระราชดาริของ
พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว เพื่อการแก้
มลพิษทางน้าซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นใน
หลายพื้นที่ ซึ่งสร้างเครื่องต้นแบบได้ครั้งแรก
ในปี 2532 การประยุกต์ใช้งานสามารถใช้
ประโยชน์เพื่อเติมอากาศให้กับน้าหรือใช้เพื่อ
ขับ เคลื่อนน้าได้ โดยการใช้งานทั้งในรูปแบบ
ที่ติดตั้งอยู่กับที่และใช้ในรูปแบบเคลื่อนที่ เพื่อ
เติมอากาศให้กับแหล่งน้าขนาดใหญ่ หรือตาม
้ ่ ่

28.  ถ้าท่านประพฤติดี ปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วย
ความเข้มแข็งรับผิดชอบ ก็จะเกิดเป็ นการ
นาที่ดี เป็ นตัวอย่างที่ดี ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา
ได้ประพฤติปฏิบัติตามสิ่งที่แต่ละคนแต่ละ
หน่ วยงานปฏิบัติ ก็จะประกอบส่งเสริม
กัน ในงานส่วนรวมของชาติดาเนินไปสู่
เป้ าหมายที่พึงประสงค์ คือความมั่นคง
ปลอดภัยของบ้านเมือง และความวัฒนา
ผาสุกของประชาชน
 เมื่อ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐

29.  สามัคคี”หรือการปรองดองกัน
ไม่ได้หมายความ ว่า คนหนึ่ง
พูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูด
เหมือนกันหมด ลงท้ายชีวิตก็
ไม่มีความหมาย ต้องมีความ
แตกต่างกัน แต่ต้องทางานให้
สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็
ต้องสอดคล้องกัน
 เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖

30.  โครงการแก้มลิง
 เ ป็ น แ น ว คิ ดใ น พ ร ะ ร า ช ด า ริ ข อ ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแก้ปัญหา
อุทกภัย โดยพระองค์ทรงตระหนักถึงความรุนแรง
ของอุทกภัยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี
พ.ศ.2538 จึงมีพระราชดาริ "โครงการแก้ม
ลิง" ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘
โดยให้จัดหาสถานที่เก็บกักน้าตามจุดต่างๆ ใน
กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับน้าฝนไว้ชั่วคราว
เมื่อถึงเวลาที่คลองพอจะระบายน้าได้จึงค่อย
ระบายน้าจากส่วนที่กักเก็บไว้ออกไป จึงสามารถ

31. จบการ
นาเสนอ