More Related Content
PDF
PDF
PDF
ใบกิจกรรมที่ 11 ระบบภูมิคุ้มกันและความผิดปกติ PPTX
ทฤษฎี การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของ จอห์น บี วัตสัน PPTX
PDF
PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ PDF
What's hot
PDF
PDF
Power point การถ่ายทอดทางพันธุกรรม PDF
แบบฝึกหัด หัวใจ เส้นเลือด การไหลเวียนเลือด PDF
PDF
ระบบประสาท (Nervous System) PDF
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว PDF
PDF
PDF
PDF
ใบความรู้ สังคม ป.1-3 ภาคเรียนที่ 1+443+dltvsocp3+T1 p1 3-sheet PDF
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน PDF
ทฤษฎีของไวก็อตสกี้(Vygotskys Theory) PDF
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T) PDF
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน PDF
ใบความรู้ที่ 6 เรื่อง ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ PDF
สื่อประกอบการสอน_เรื่อง_การจำแนกสัตว์_(3)-06251013.pdf PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ PDF
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต02 PDF
รายงานอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง PDF
Viewers also liked
PPTX
PPTX
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขของพาฟลอฟ PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ PPTX
ทฤษฎีสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดค์ PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของแบนดูรา PPT
PPTX
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรูเนอร์ PPTX
ทฤษฎีงานพัฒนาการของโรเบิร์ต เจ ฮาร์วิกเฮิต PPTX
ทฤษฎีการจริยธรรมของโคลเบิร์ก PPTX
ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ PPTX
PPTX
PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ PPTX
PDF
PPTX
PPT
PPT
(แก้ไขใหม่ๆ)เบอร์รัส สกินเนอร์ ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ PPTX
ทฤษฎีการเรียนรู้ของธอนไดค์ PDF
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกของพาฟลอฟ Similar to ทฤษฎีของวัตสัน
PDF
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบคลาสสิค PPTX
PPT
PPT
PPT
PPTX
PDF
PPTX
จิตวิทยาการเรียนรู้2525222 PPTX
PDF
ทฤษฎีการเรียนรู้ของฮัลล์3 PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PPT
PDF
สถานการณ์ปัญหา (พฤติกรรมนิยม) DOC
PPTX
PPTX
ทฤษฎีของวัตสัน
- 4.
- 5.
3. สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไขใหม่ (UCS)ที่ตรงข้ามกับสิ่งเร้าเก่า(UCS) เพื่อให้เกิด
การตอบสนองที่ตรงข้ามกับการตอบสนองเดิม เป็นการวางเงื่อนไขแบบใด
ก. การวางเงื่อนไขให้กลัว
ข. การวางเงื่อนไขกลับ
ค. การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ง. การวางเงื่อนไขแบบการตอบสนอง
4. ข้อใดคือแผนผังแสดงการวางเงื่อนไขกลับ
ก. ข.
ค. ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข ถูกต้อง
- 6.
5. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่หลักการนาทฤษฎีของวัตสันมาประยุกต์ใช้
ก. การนาหลักการเพิ่มพฤติกรรมมาใช้
ข.การนาหลักการลดพฤติกรรมมาใช้
ค. การนากฏความคล้ายคลึงกันไปใช้
ง. การนากฎการจาแนกมาใช้
6. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับทฤษฎีการเรียนรู้ของวัตสันที่ว่า พฤติกรรมเป็น
สิ่งที่สามารถควบคุมให้เกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. เกิดขึ้นได้ เพราะโดยการควบคุมสิ่งเร้าที่วางเงื่อนไขให้สัมพันธ์กับสิ่งเร้า
ตามธรรมชาติ
ข. เกิดขึ้นได้ เพราะการเรียนรู้จะคงทนถาวร หากมีการให้สิ่งเร้าที่สัมพันธ์กัน
นั้นควบคู่กันไปอย่างสม่าเสมอ
ค. เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะพฤติกรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจาก
เด็กจะเอาอารมณ์ของตนเป็นที่ตั้ง
ง. ก และ ข ถูกต้อง –
- 7.
7. วันหนึ่งขณะที่หนูน้อยนั่งเล่นอยู่ มีหนูขาววิ่งเขามาหนูน้อยก็นั่งเล่นโดยที่ไม่กลัวหนู
ขาวเลยวันต่อมาหนูน้อยนั่งเล่นอยู่ที่เดิมแล้วหนูขาวก็วิ่งเข้ามา ในขณะที่หนูขาววิ่งเข้า
มานั้นพ่อของหนูน้อยก็ได้นาค้อนไปเคาะที่กระเบื้องข้างบ้านเกิดเสียงดัง ทาให้หนูน้อย
ตกใจแล้วเกิดความกลัว ความกลัวที่กล่าวมาข้างต้น เรียกอีกอย่างว่าอะไร
ก. UCS ข. CR ค. UCR ง. CS
8. วัตสัน ใช้สิ่งเร้าสองสิ่งมาคู่กันแล้วทาให้เกิด การตอบสนองอย่างเดียว สิ่งเร้าสองสิ่งคือ
อะไร
ก.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR)
ข.สิ่งเร้าที่วางเงื่อนไข (CS) กับ ความกลัว (CR)
ค.ความกลัว (CR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR)
ง.สิ่งเร้าที่ไม่วางเงื่อนไข (UCR) กับ การตอบสนองที่ไม่ต้องวางเงื่อนไข (UCR)
- 8.
9. ข้อใดคล้ายคลึงกับการทดลองของวัตสันมากที่สุด
ก. จอยอยากให้สนุขเดินได้จึงให้อาหารสุนัขโดยการแขวน
ข.อายสั่นกระดิ่งก่อนให้อาหารปลาทุกครั้งเพื่อเป็นสัญญาน
ค. ปิงเป่านกหวีดทุกครั้งเมื่อมีคนเดินเข้าใกล้กรงเสือ
ง. แอลฟาชอบเล่นกระต่าย แม่ไม่อยากให้แอลฟาเล่นกระต่ายจึงเปิดวีดีโอผี
กระต่ายให้แอลฟาดูบ่อยๆ แอลฟากลัวมากและไม่อยากเล่นกระต่ายอีกเลย
10. แนวคิดของบุคลใดตรงกับแนวคิดของวัตสันมากที่สุด
ก. เจนเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมคือตัวกาหนดพฤติกรรมของเด็ก
ข. นานาเชื่อว่าเขาสามารถสร้างให้เด็กเป็นอะไรก็ได้โดยการวางเงื่อนไข
ค. อิงเชื่อว่าการวางเงื่อนไขต้องดูจากภูมิฐานของเด็ก
ง. ซาร่าเชื่อว่าเด็กคือผ้าขาวที่ผู้ใหญ่จะแต่งเติมอย่างไรก็ได้