1. การสอนพิเศษ

2. กลุ่มที่ 7 shot Gun สมาชิก : นางสาวสุพัตรา ขันเงิน 07520444 นางสาวธิดารัตน์ พลฉิม 07510405 นางสาวนุจรี ทองแจ้ง 07510411 นางสาวอรอุมา สุขเอี่ยม 09510311 นางสาวเอื้อมดาว กลิ่นดอกแก้ว 09510329 นายบรรพต พันธ์ศรี 09500720 นายภานุพงศ์ ศรีโคตร 09500748 นายพงศกร พิณสุวรรณ 09500897 นางสาววราพร แสงอรุณ 09501144

3. วัตถุประสงค์ในการสำรวจ ให้เข้าใจถึงปัจจัยและเหตุผลที่มีการสอนพิเศษ เพื่อหาเหตุผลที่ต้องมีการศึกษานอกเหนือจากห้องเรียน เพื่อให้เข้าใจสาเหตุที่ทำให้มีการเรียนและการสอนพิเศษอย่างแพร่หลาย เพื่อสำรวจความเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อการเรียนพิเศษในปัจจุบัน

4. ความหวายของคำว่า “ สอนพิเศษ ” คือ การสอนเพิ่มเติมพิเศษนอกห้องเรียนที่เรียนปกติมีการอธิบายและเน้นนอกจากห้องเรียน หรือมีการเกร็งข้อสอบ

5. ... ผลสรุปจากแบบสอบถาม …

6. แบบสอบถามสำหรับ .. ผู้สอนพิเศษ เพศ : 76% ผู้หญิง และ 24% ผู้ชาย ช่วงอายุเฉลี่ยของผู้สอนพิเศษ : 18-25 ปี สถานะการศึกษา : 86 % คือ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้ว 14 % คือ ผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ วุฒิการศึกษา : ส่วนใหญ่ คือ ระดับปริญญาตรี รองลงมา คือ ระดับปริญญาโท โดยคณะหรือสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษา : แสดงดังกราฟ

7. กราฟแสดงคณะของผู้สอนพิเศษ

8. สถาบัน : ส่วนใหญ่ คือ มหาวิทยาลัยศิลปากร อื่นๆ ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยศรี - นครินทร์วิโรฒ , มหาวิทยาลัยขอนแก่น , และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิชาที่สอนพิเศษ : ส่วนมากจะสอนวิชา คณิตศาสตร์ , วิทยาศาสตร์ , ฟิสิกส์ , เคมี และภาษาอังกฤษ ตามลำดับ ระดับชั้นที่เปิดสอน : มัธยมต้น > มัธยมปลาย > ประถม > ปริญญาตรี ตามลำดับ สถานที่ : ส่วนใหญ่ อยู่นอกมหาวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ คือ ข้าง 7-11 , ยูเนียน , ข้างหอสมุด ตามลำดับ เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในสอน : คือ 2-3 ชั่วโมง

9. รายได้ เฉลี่ยจากการสอน : ต่อคอร์ส คอร์สละ 1,000-2,500 บาท ต่อชั่วโมง ชั่วโมงละ 60-100 บาท รายได้ ต่อเดือนสูงสุด : 30,000 บาท รายได้ ต่อเดือนต่ำสุด : 2,000 บาท ( หมายเหตุ : ขึ้นกับจำนวนเด็กที่สอน )

10. เหตุผลในการสอนพิเศษ 66 % คือ หารายได้เสริมหรือ ได้รายระหว่างเรียน 8 % คือ ทำเป็นอาชีพหลัก 24 % คือ หาประสบการณ์ 2 % คือ ความชอบส่วนตัวถ่ายทอดความรู้ ที่ได้เรียนมา

11. กราฟแสดงเหตุผลในการสอนพิเศษ

12. ปัญหาที่พบ 1. ด้านผู้เรียน - เด็กไม่ตั้งใจเรียน - เด็กแต่ละคนพื้นฐานไม่เท่ากัน - เด็กไม่ฟัง ดื้อ - ไม่ทำการบ้าน ไม่ทบทวนบทเรียน - เวลาว่างไม่ตรงกัน 2. ด้านสถานที่ - หาที่นั่งลำบาก - ฝนตกเปียกไม่สะดวดในการนั่งเรียน - ที่นั่งไม่สะอาด

13. ข้อเสนอแนะ : ผู้สอนส่วนมากต้องการให้ทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนและ จัดบริเวณสำหรับสอนพิเศษให้เพียงพอและเป็นระบบ

14. แบบสอบถามสำหรับ .. ผู้เรียนพิเศษ เพศ : 39.9% เป็นผู้ชาย 60.1 % เป็นผู้หญิง อายุ : 68 % อยู่ในช่วง 13-17 ปี 24.9 % อยู่ในช่วง 18-24 ปี 7.1 % อยู่ในช่วง 8-12 ปี ระดับการศึกษา : แสดงดังกราฟ

15. กราฟแสดงระดับชั้นของผู้เรียนพิเศษ

16. รายวิชาที่เรียนพิเศษ : โดยแบ่งเป็นด้าน คือ ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน >> 6 % เคมี >> 33 % ฟิสิกส์ >> 10 % ชีววิทยา >> 9 % คณิตศาสตร์ >> 23 % ด้านภาษา >> 15 % สังคม >> 4 % โดยแสดงเป็นกราฟดังนี้

17. กราฟแสดงรายวิชาที่เรียนพิเศษ

18. เกรดเฉลี่ยของผู้เรียนพิเศษ : - ระดับประถมศึกษา อยู่ในช่วง 3.00-4.00 - ระดับมัธยมต้น อยู่ในช่วง 3.00-4.00 และ 2.00-2.59 - ระดับมัธยมปลาย อยู่ในช่วง 3.00-4.00 รองมาอยู่ในช่วง 2.60-2.99 - ปริญญาตรี > ปี 1 อยู่ในช่วง - > ปี 2 อยู่ในช่วง 1.60-1.99 และ 2.00-2.59 > ปี 3 อยู่ในช่วง 1.60-1.99 และ 2.00-2.59 > ปี 4 อยู่ในช่วง 2.00-2.59 เป็นส่วนมาก

19. จำนวนวันที่เรียนต่อ สัปดาห์ : ส่วนมากจะเรียน 1-3 วัน / สัปดาห์ และมีบางส่วนที่ เรียน 4-7 วัน / สัปดาห์ ค่าเรียนพิเศษ : - ผู้เรียนจะเรียนเป็นคอร์สมากที่สุด เฉลี่ยคอร์สละ >> 1,000-2,500 บาท ผู้เรียนที่เรียนเป็นชั่วโมง ไม่มากนัก เฉลี่ย ชั่วโมงละ >> 60-100 บาท ผู้เรียนที่เรียนเป็นเดือน มีค่อนข้างน้อย

20. สถานที่เรียนพิเศษ : 43 % จะอยู่ในมหาวิทยาลัย เช่น ข้าง 7-11 ยูเนียน ข้างหอสมุด ตามลำดับ 57 % เรียนอยู่นอกมหาวิทยาลัย เหตุผลที่เรียนพิเศษ : >> 33.7 % คือต้องการให้ผลการเรียนดีขึ้น >> 27.4 % คือเรียนในห้องเรียนไม่เข้าใจ >> 20.0 % คือหาความรู้เพิ่มเติม / เตรียมสอบเข้า >> 12.6 % คือเรียนรู้เทคนิควิธีลัดที่อาจารย์ไม่ได้สอน >> 4.20 % คือ เป็นความต้องการของผู้ปกครอง >> 2.1 % คือ มีสังคม พบปะเพื่อน

21. กราฟแสดงเหตุผลในการเรียนพิเศษ

22. ปัญหาในการเรียนพิเศษ : ในมหาวิทยาลัย >> เสียงดังรบกวน >> ยุงกัด >> ที่นั่งไม่เพียงพอ นอกมหาวิทยาลัย >> ไม่กลล้าถามพี่ที่สอน >> จำนวนผู้เรียนมากเกินไป

23. ข้อเสนอแนะ : ผู้เรียนส่วนใหญ่ อยากให้ผู้สอนพิเศษมาตรงเวลา และเวลาเรียนอยากให้ผู้ร่วมเรียนตั้งใจเรียนไม่คุย ไม่สร้างความรำคราญให้กับผู้อื่น และถ้าเป็นไปได้ควรศึกษาหาความรู้ด้วยตังเองจะดีที่สุด

24. แบบสอบถามสำหรับ .. ผู้ปกครอง ใจผู้ปกครองหลายๆคนในขณะนี้ คงมีคำถามในใจเกือบทุกคนว่า “ เรียนที่โรงเรียนอย่างเดียวพอมั๊ย ลูกเราต้องเรียนพิเศษหรือเปล่า ” “ จริงๆแล้วกวดวิชา จำเป็นมั๊ย ” “ เรียนพิเศษแล้วเกรดที่โรงเรียนจะดีขึ้นมั๊ย ” “ เห็นลูกเพื่อนไปเรียนกวดวิชา แล้วคะแนนดีขึ้น ” ฯลฯ

25. เพศ : ผู้หญิง 60.8 % ผู้ชาย 39.2 % ช่วงอายุ : 30.4 % อยู่ในช่วง 25-35 ปี 39.1 % อยู่ในช่วง 35-45 ปี 30.5 % 50 ปีขึ้นไป โดยมี 87 % ของผู้ปกครองที่มรบุตร - หลานที่เคย / กำลังเรียนพิเศษ

26. ความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อการสอนพิเศษในปัจจุบัน : ไม่เห็นด้วย คิดเป็น 13 % เพราะ >>> มองเป็นการสิ้นเปลือง และอาจทำให้เด็ก ไม่ตั้งใจเรียนกับอาจารย์ในห้องเรียน เรียนกับห้องเรียนปกติก็น่าจะเพียงพอ เห็นด้วย คิดเป็น 87 % เพราะ >>> ช่วยให้เด็กมีความรู้มากขึ้น มีความเข้าใจในบทเรียนมากขึ้น และก็จะทำให้ผงการเรียนดีขึ้นด้วย และจะได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

27. ข้อเสนอแนะ : ค่าเรียนพิเศษควรให้ลดลงกว่านี้ อยากให้รัฐบาลเน้นเรื่องการศึกษาเพราะในปัจจุบันบางครั้งการเรียน พิเศษก็เป็นค่านิยมที่ผิดไป อยากให้ผู้สอนเน้นการสอน เพราะบางครั้งก็สอนทำเฉพาะการบ้าน ควรติดตามและวัดผลความเข้าใจในเด็กที่สอนทุกคน

28. ปัญหาที่พบสำหรับผู้ปกครอง : >> 62.6 % คือ ค่าเรียนพิเศษค่อนข้างสูง >> 25.0 % คือ ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของผู้สอน / สถาบันที่สอน >> 10.4 % คือ บุตร - หลาน ใช้การเรียนพิเศษเป็นข้องอ้างในการหนี เที่ยว >> 1.3 % คือ บุตร - หลานไม่ต้องการที่จะเรียนพิเศษ >> 0.7 % อื่นๆ

29. ภาคผนวก

30. ขอบคุณครับ & ขอบคุณค่ะ