1. ประกาศโรงเรียนสมเด็จพิทยาคม
เรื่อง “ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้”
..................................................
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24
ได้ประกาศนโยบาย “ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” กาหนดมาตรการเร่งรัดคุณภาพการ
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้ เป้าหมายคือ นักเรียนทุกระดับชั้นมีความสามารถในการอ่าน
ออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้ กากับติดตามการดาเนินงานของโรงเรียน และรายงาน
ความก้าวหน้าการดาเนินงานต่อกระทรวงศึกษาธิการ โดยสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สานักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาและโรงเรียน ประกาศนโยบาย “ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียน
ไม่ได้” และให้โรงเรียนรวบรวมข้อมูลการอ่านการเขียนของนักเรียนทุกระดับชั้น วิเคราะห์ข้อมูลสรุปและรายงานผล
ต่อสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 โดย
โรงเรียนปรับระบบบริหารจัดการศึกษาและดาเนินงานการกากับติดตาม นิเทศ จัดทาแผนงาน/โครงการและ
กิจกรรมให้ความช่วยเหลือนักเรียน ดาเนินงานแก้ไขปัญหาการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนอย่างจริงจังและ
ต่อเนื่อง
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม จึงประกาศนโยบาย “ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้”
โดยดาเนินการตามมาตรการที่ โรงเรียนสมเด็จพิทยาคมกาหนด
ประกาศ ณ วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
(นายพิริยะ อุทโท)
ผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพิทยาคม

2. มาตรการ “ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้”
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม
---------------------------------------------------
โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม ได้ประกาศนโยบาย ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เมื่อ
วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังกล่าว โรงเรียนจึงได้กาหนดมาตรการ ในการดาเนินงานดังนี้
๑. ดาเนินการประกาศนโยบาย “ ปี ๒๕๕๘ เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” ให้ครู และ
ผู้ปกครองรับทราบ เพื่อให้มีส่วนร่วมดาเนินการพัฒนาและแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ โดยมีเป้าหมาย
สาคัญ คือ โรงเรียนต้องปลอดนักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
๒. ดาเนินการประเมินการอ่านการเขียนของนักเรียน ทุกระดับชั้น วิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุ และ
จัดทาข้อมูลนักเรียน ที่มีปัญหาการอ่านการเขียนภาษาไทย โดยระบุชื่อ ชั้น สภาพปัญหาของนักเรียนทุกระดับชั้น
เป็นรายบุคคล
๓. แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ร่วมกันวางแผน หาวิธีการในการแก้ไข
ปัญหา จัดทาแผนพัฒนาซ่อมเสริม โดยระบุชื่อ ชั้น สภาพปัญหา และวิธีการซ่อมเสริมที่ เหมาะกับสภาพปัญหาของ
นักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างชัดเจน และดาเนินการตามแผน โดยประสานความร่วมมือระหว่างครูภาษาไทย
ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น บุคลากรในโรงเรียน และต่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กร ภาครัฐและ
เอกชน
๔.ปรับระบบบริหารจัดการ ให้มีผู้รับผิดชอบโดยตรง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบร่วมกัน ครูทุกคน
ทุกกลุ่มสาระให้ร่วมกันรับผิดชอบ และแก้ไขปัญหานักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ให้ผลการดาเนินงานส่งผลต่อ
การพิจารณาความดีความชอบ
๕. โรงเรียนมีแผนพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเน้นคุณภาพ
ผู้เรียน คุณภาพครูผู้สอน และการบริหารจัดการที่ดี และผนวกแผนงานพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย
ไว้ในการประกันคุณภาพของโรงเรียนด้วย
๖. ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง และชุมชน ท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ
ผู้ปกครองของนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านการเขียนภาษาไทย
๗. พัฒนาครู จัดหานวัตกรรม สื่อ และวิธีการสอน ช่วยเหลือครู เร่งแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
ซ่อมเสริมนักเรียนให้แล้วเสร็จ ก่อนการสอบ O-NET นักเรียนชั้นม.๓ ม.๖ และช่วงปิดภาคเรียน
๘. ภายใน ๒ สัปดาห์ หลังจากเปิดภาคเรียน คัดกรองนักเรียน เป็นรายบุคคล จัดซ่อมเสริมนักเรียนที่มี
ปัญหาเป็นรายบุคคลก่อนเข้าสู่ห้องเรียนปกติ
๙.ผู้บริหารโรงเรียนและคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาการอ่าน การเขียนของโรงเรียนนิเทศ กากับ ติดตาม
ให้ความช่วยเหลือเป็นระยะๆ ต่อเนื่อง และทั่วถึงนักเรียนกลุ่มเป้าหมายทุกคน ทุกชั้น
๑๐. รายงานความก้าวหน้าต่อผู้ปกครอง และสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๔ ภาคเรียน
ละ ๒ ครั้ง ของทุกปีการศึกษา ดังนี้
ภาคเรียนที่ ๑
ครั้งที่ ๑ รายงานภายในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ของทุกปี รายงานข้อมูลนักเรียนกลุ่มที่มีปัญหาการ
อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ สภาพปัญหา แผนการซ่อมเสริมนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อกาหนดกลุ่มเป้าหมายและ
แผนการซ่อมเสริมที่ชัดเจน ของปีการศึกษา

3. ครั้งที่ ๒ รายงานภายในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ของทุกปี รายงานความก้าวหน้า ผลการพัฒนาในการ
แก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากการดาเนินการตามแผน การซ่อมเสริม ของ
นักเรียนเป็นรายบุคคล ว่ามีการพัฒนาขึ้นจากากรรายงานครั้งที่ ๑ หรือไม่อย่างไร โดยรายงาน ข้อมูล
ความก้าวหน้าของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ภาคเรียนที่ ๒
ครั้งที่ ๑ รายงานภายในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ของทุกปี รายงานความก้าวหน้า ผลการพัฒนาใน
การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเดิม จากการดาเนินการตามแผนการซ่อม
เสริมของนักเรียนเป็นรายบุคคล ว่ามีการพัฒนาขึ้นจากการรายงานครั้งที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ของปีการศึกษา หรือไม่
อย่างไร โดยรายงานข้อมูลความก้าวหน้าของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ครั้งที่ ๒ รายงานภายในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ของทุกปี รายงานความก้าวหน้า ผลการพัฒนาใน
การแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเดิมเมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา