ไม้ไผ่
- 1. แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชา ภาษาไทย รหัส
วิชา ท ๓๒๑๐๑
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง เครื่องจักสานของชาวไทยอีสาน
จำานวน ๑ ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ การพูดต่อหน้าชุมขนเรื่องเครื่องจักสาน
ของชาวไทยอีสาน เวลา ๒ ชั่วโมง
สอนวันที่ .................. เดือน ....................................................
พ.ศ. ........................... ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๕
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดง
ความรู้ ความคิดและความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมี
วิจารณญาณและสร้างสรรค์
๒. สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้
๑. การพูดต่อหน้าชุมชนเรื่องเครื่องจักสานของชาวไทยอีสาน
๒. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
การพูดต่อหน้าชุมชน
๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย
๓. เป้าหมายการเรียนรู้
๓.๑ เป้าหมายด้านความรู้ (ความเข้าใจที่คงทน) K
๓.๑.๑ ทักษะการพูด
๓.๒ เป้าหมายทักษะด้านกระบวนการเรียนรู้ (ทักษะคร่อมวิชา) P
๓.๒.๑ พูดต่อหน้าชุมชนเรื่องเครื่องจักสานของชาวไทยอีสาน
๓.๓ เป้าหมายด้านคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ A
๓.๓.๑ เห็นความสำาคัญของการพูด
๔. ความรู้และทักษะเฉพาะวิชา
๑ การพูด
๕. คำาถามสำาคัญ
เครื่องจักสานมีบทบาทต่อวิถีชีวิตชนชาวไทยอีสานอย่างไร
๖. บูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๑. ความพอประมาณ
- 3. ใบความรู้เรื่อง เครื่องจักสานชาวอีสาน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานเป็นภาคที่มีพื้นที่กว้างใหญ่
ครอบคลุมหลายจังหวัดได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม
นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร
สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี อุบลราชธานี หนองบัวลำาพู มุกดาหาร ภาค
อีสานเป็นดินแดนที่แยกจากที่ราบภาคกลาง โดยมีภูเขาที่ยกขึ้นมาประดุจ
ขอบของที่ราบสูงหันด้านชันไปทางภาคกลาง ด้านใต้มีด้านชันทางที่ราบตำ่า
เขมร ที่ราบสูงอีสานจะลาดเอียงไปทางตะวันออกเฉียงใต้บริเวณลุ่มแม่นำ้า
โขงทำาให้แม่นำ้าสายสำาคัญๆ ของภาคนี้ไหลจากตะวันตกไปยังตะวันออกไป
รวมกับแม่นำ้าโขง
นอกจากประชากรในภาคอีสานจะมีความหลากหลายของลักษณะ
ทางชาติพันธุ์แล้ว ยังมีวัฒนธรรมการบริโภคข้าวเหนียวเช่นเดียวกับ
ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคเหนือ แม้ว่าคนอีสานจะบริโภคข้าวเหนียวเหมือน
กับคนภาคเหนือก็ตามแต่เครื่องจักสานที่เกี่ยวเนื่องด้วยการบริโภคข้าว
เหนียวของภาคอีสานมีลักษณะเฉพาะตนที่ต่างไปจากของภาคเหนือ ถึงแม้
จะใช้ประโยชน์ในการใส่ข้าวเหนียวเช่นเดียวกันก็ตาม
เครื่องจักสานภาคอีสานที่เกี่ยวเนื่องด้วยวัฒนธรรมการบริโภคข้าว
เหนียวที่สำาคัญ คือ ก่องข้าว และกระติบ
ก่องข้าวและกระติบของชาวอีสาน ในบริเวณอีสานกลางและอีสาน
ใต้มีรูปแบบเฉพาะตนที่ต่างกัน โดยมีรูปแบบและวิธีการสานที่เป็นของตนเอง
ตามความนิยมของท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ก่องข้าวที่ใช้กันใน
บริเวณอีสานกลาง โดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคามร้อยเอ็ด ขอนแก่น นั้นมี
ลักษณะและรูปแบบต่างไปจากกระติบข้าวที่สานด้วยไม้ไผ่ของถิ่นอื่นๆก่อง
ข้าวชนิดนี้คล้ายกับก่องข้าวภาคเหนือ ประกอบด้วยส่วนสำาคัญ ๓ ส่วน ฐาน
ทำาด้วยไม้ตามแต่จะหาได้ เป็นแผ่นไม้กากบาทไหว้กันเพื่อใช้เป็นฐาน
สำาหรับตั้ง บางทีก็แกะเป็นลวดลายเพื่อความสวยงามไปด้วย ตัวก่องข้าว
สานด้วยไม้ไผ่ซ้อนกัน ๒ ชั้น เป็นรูปคล้ายโถ โดยมี ฝา รูปร่างเหมือนฝาชี
ครอบอีกชั้นหนึ่ง ขอบฝาจะใช้ก้านตาลเหลาเป็นแผ่นบางๆ โค้งทำาขอบฝา
เพื่อความคงทน การสานก่องข้าวชนิดนี้จะต้องสานตัวก่องข้าวซ้อนกัน ๒
ชั้น เพื่อให้เก็บความร้อนได้ดีโดยที่จะสานโครงชั้นในก่อนด้วยลายสองที่ก้น
เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม เพื่อให้เกิดมุมสี่มุมสำาหรับผูกกับไม้กากบาทที่เป็นฐานได้
สะดวก เสร็จแล้วจึงสานส่วนต่อขึ้นมาเป็นตัวก่องข้าวด้วยลายขัด(ภาษาถิ่น
- 4. เรียก "ลายกราว") โดยใช้ตอกตะแคงเส้นเล็กๆ จนได้ขนาดตามต้องการ
แล้วจึงสานตัวก่องข้าวด้านนอกครอบอีกชั้นหนึ่งด้วยตอกปื้นเป็นลายสองยืน
หรือลายสองเวียน เพื่อให้เกิดความสวยงาม ตัวก่องข้าวที่สานหุ้มนี้จะต้อง
สานให้ใหญ่กว่าตัวแบบภายใน แล้วพับปากก่องข้าวหุ้มกลับเข้าไปภายใน
เพื่อความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งโดยใช้เส้นหวายผูกคาดไว้ภายนอกเพื่อรับ
ขอบของฝาไปในตัว เมื่อได้ตัวก่องข้าวแล้วจึงทำาฐานให้ผายออกรับกับรูป
ทรงของก่องข้าวด้วย ไม้ฐานนี้จะผูกติดกับส่วนก้นสี่มุมด้วยหวาย เมื่อได้ตัว
ก่องข้าวพร้อมฐานแล้วจึงสานฝา ซึ่งมักจะสานด้วยตอกปื้นค่อนข้างใหญ่เป็น
ลายต่างๆ แล้วแต่จะเรียกโดยสานเป็นรูปคล้ายฝาชี เมื่อได้ส่วนประกอบที่
สำาคัญพร้อมแล้วจะต้องทำาหูสำาหรับร้อยเชือกเพื่อใช้สะพายบ่าหรือใช้แขวน
จากรูปทรงและวิธีการของก่องข้าวแบบนี้จะเห็นว่าเป็นการสร้างรูปแบบของ
เครื่องใช้ให้สนองประโยชน์ใช้สอยได้ดีนั่นเองก่องข้าวชนิดนี้มีความ
สมบูรณ์ทั้งรูปทรงที่สวยงามและใช้ประโยชน์ได้ดีด้วย
ภาชนะจักสานสำาหรับใส่ข้าวเหนียวนึ่งอีกแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันใน
อีสานเหนือ คือ "กระติบ"ซึ่งสานด้วยไม้ไผ่เช่นเดียวกัน แต่รูปแบบและวิธี
การสานแตกต่างออกไป กระติบมีรูปร่างทรงกระบอกคล้ายกระป๋องไม่มีขา มี
เพียงส่วนตัวกระติบและส่วนฝาเท่านั้น วิธีการสานจะสานด้วยตอกไม้เฮี้ยะซึ่ง
เป็นตอกอ่อนๆ โดยจะสานเป็นรูปทรงกระบอกให้มีความยาวเป็นสองเท่าของ
ความสูงของตัวกระติบที่ต้องการ เสร็จแล้วต้องพับทบกลับส่วนหนึ่งไว้เป็น
ด้านในตัวกระติบ ก่องข้าวชนิดนี้จะสานลายด้านในและด้านนอกต่างกันคือ
ส่วนที่จะพับทบกลับไว้ด้านในนั้นจะสานด้วยลายอำาเวียน ส่วนด้านนอกที่
ต้องการความสวยงามจะสานด้วยลายสองยืน หรือยกดอกเพื่อความสวยงาม
ส่วนก้นจะต้องสานเป็นแผ่นกลมๆ ต่างหากแต่นำามาผนึกติดกับตัวกระติบภาย
หลัง ส่วนฝากระติบก็จะทำาเช่นเดียวกับตัวกระติบ กระติบชนิดนี้บางครั้งอาจ
จะใช้ก้านตาลขดเป็นวงทำาเป็นส่วนฐาน เพื่อความคงทนด้วย
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างก่องข้างและกระติบ เกิดจาก
ความนิยมของท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นที่ทำาสืบทอดต่อๆ กันมาแต่บรรพบุรุษ
ปัจจุบัน ก่องข้าวและกระติบยังคงรักษารูปทรงและลักษณะเฉพาะถิ่นของตน
ไว้ได้ เพราะผู้สานแต่ละถิ่นมักมีความถนัดและเคยชินในการทำาตามแบบ
อย่างของตนมากกว่าที่จะเลียนแบบก่องข้าวถิ่นอื่น แม้ปัจจุบันเครื่องจักสาน
พื้นบ้านอีสานจะมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่น เพิ่มสีสันหรือนำาวัสดุสมัย
ใหม่ เช่น พลาสติก เข้ามาประยุกต์ใช้ประกอบกับเครื่องจักสาน ซึ่งเป็นไป
ตามสมัยนิยมมากกว่าความต้องการที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบดั้งเดิมของตน แต่
ในที่สุดก่องข้าวไม้ไผ่ก็ยังเป็นที่นิยมของชาวบ้านมากกว่าภาชนะชนิดอื่น
- 5. เครื่องจักสานพื้นบ้านที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ "ตะกร้า" หรือที่
ภาษาถิ่นเรียก "กะต้า"หรือ "กะต่า" ซึ่งเป็นภาชนะจักสานที่ใช้กันแพร่หลาย
ในภาคอีสาน
ตะกร้า หรือ กะต้าสาน มีประโยชน์ในการใช้สอยเช่นเดียวกับตะกร้า
ภาคกลางหรือซ้าภาคเหนือ เป็นภาชนะที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในภาคอีสาน
เพราะใช้ใส่ของได้สารพัดและใช้ได้ทั้งการหิ้ว หาบ และคอนด้วยไม้คาน รูป
ทรงของตะกร้าหรือกะต้าต่างไปจากตะกร้าภาคอื่น กะต้าสานด้วยไม้ไผ่ เริ่ม
สานก้นก่อนด้วยลายขัด (ลายขัดบี)ตอกคู่ แล้วค่อยๆ สานต่อขึ้นมาด้านข้าง
ของตะกร้าด้วยลายธรรมดาเรื่อยไปจนถึงปากของตะกร้าซึ่งจะใช้ตอกเส้น
เล็กเพื่อความแข็งแรงทนทานปากหรือขอบตะกร้าจะใช้วิธีเก็บนิมโดยสาน
ซ่อนตอกเข้าในตัวตะกร้า เสร็จแล้วจะทำาหูตะกร้าเพื่อใช้หิ้วหรือหาบ โดย
มากจะใช้ไม้ไผ่อีกชิ้นหนึ่งโค้งเหนือปากตะกร้า แล้วผูกปลายทั้งสองเข้ากับ
ขอบตะกร้า ตะกร้าภาคอีสานจะมีรูปทรงคล้ายๆกันเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมี
ขนาดเล็กและใหญ่ต่างกันเท่านั้น ตะกร้าชนิดนี้จะใช้ได้ทั้งแบบเป็นคู่และใช้
หิ้วเพียงใบเดียว ตั้งแต่ใช้ใส่ผัก ผลไม้ถ่าน และสิ่งของอื่นๆ ไปจนถึงใช้เป็น
เชี่ยนหมากสำาหรับใส่หมาก เรียกว่า "คุหมาก" หรือบางครั้งใช้ชันยาทำาเป็น
ครุหรือคุสำาหรับตักนำ้าก็ได้ ชาวอีสานนิยมใช้กะต้ากันทั่วไปเพราะมีนำ้าหนัก
เบาทำาได้ง่าย ราคาถูกกว่าภาชนะชนิดอื่น
อย่างไรก็ตาม ตะกร้าสานของอีสานถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องจักสานที่มี
รูปทรงและลวดลายในการสานง่ายๆ ไม่ละเอียดประณีต แต่เป็นเครื่องใช้ใน
ครัวเรือนที่ใช้กันแพร่หลาย เป็นเครื่องจักสานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นชนิด
หนึ่งของอีสาน จะพบเห็นชาวอีสานหิ้วตะกร้าหรือหาบตะกร้านี้ทั่วไป
นอกจากตะกร้าหรือกะต้าที่ใช้กันแพร่หลายในภาคอีสานหรือถือได้
ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องจักสานอีสานดังกล่าวแล้ว ในภาคอีสานยังมี
เครื่องจักสานที่น่าสนใจอีกหลายอย่างแต่ส่วนมากจะเป็นเครื่องจักสานไม้ไผ่
มากกว่าอย่างอื่น และเครื่องจักสานที่ใช้กันมากในชีวิตประจำาวันก็เป็นพวก
ภาชนะต่างๆ เช่น กระบุง ตะกร้า กระจาด เปลเด็ก เครื่องจักสานที่จำาเป็นต่อ
ชีวิตอีกอย่างหนึ่งคือเครื่องมือจับและดักสัตว์นำ้าเช่น ไซ ข้อง ตุ้มดักกบ ซ่อน
ปุ่มขังปลา ฯลฯ นอกจากนี้มีเครื่องจักสานที่เกี่ยวเนื่องกับการเลี้ยงไหมและ
การทอผ้า เช่น กะเพียดปั่นฝ้าย กระด้ง เลี้ยงไหม จ่อเลี้ยงไหม เครื่อง
จักสานที่เกี่ยวเนื่องกับขนบประเพณีของชาวอีสาน ได้แก่ เบ็งหมากสำาหรับ
ใส่ดอกไม้และเครื่องบูชาต่างๆ และก่องข้าวขวัญสำาหรับใส่ข้าวเหนียวนึ่ง
เป็นต้น
- 7. 1. เริ่มต้นงานที่ได้รับมอบหมายทันที
2. ทำางานเสร็จเรียบร้อยตามเวลาที่
กำาหนด
3. ขอคำาแนะนำาจากครูหรือเพื่อเมื่อ
ไม่เข้าใจ
4. ทำากิจกรรมด้วยความสนุกสนาน
และเต็มใจ
5. มีส่วนร่วมในการทำากิจกรรมอย่าง
สมำ่าเสมอ
6. ช่วยเหลือแนะนำาเพื่อนในการทำา
กิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วย
ตนเอง
รวมคะแนน
หมายเหตุ
ข้อใดที่นักเรียนปฏิบัติ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏิบัติ ได้คะแนน 0
คะแนน
เกณฑ์การประเมินจากแบบสังเกตอาจกำาหนด ดังนี้
7 คะแนน ดีมาก
5-6 คะแนน ดี
3-4 คะแนน พอใช้
1-2 คะแนน ควรปรับปรุง
ใบงาน