SlideShare a Scribd company logo
เนื้อเยื่อพืช
Plant Tissue
เนื้อเยื่อพืช
โครงสร้ า งทุ ก ส่ ว นของพื ช
เช่น ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล
เมล็ ด ประกอบด้ ว ยเซลล์
จ านวนมากมารวมกั น ท า
หน้ า ที่ เ ฉพาะอย่ า งใดอย่ า ง
หนึ่ ง กลุ่ ม เซลล์ นั้ น เรี ย กว่ า
เนื้อเยื่อ (Tissue)
เนื้อเยื่อพืช ที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างส่วนต่างๆ ของพืชแบ่งเป็น
หลายประเภท เช่น แบ่งตามความสามารถในการแบ่งเซลล์ หน้าที่
ลั ก ษณะโครงสร้ า ง หรื อ ตามต าแหน่ ง ที่ อ ยู่ ถ้ า จ าแนกตาม
ความสามารถในการแบ่งเซล์จะแบ่งเนื้อเยื่อพืชเป็น 2 ประเภท คือ
1. เนื้อเยื่อ เจริญ (Meristem tissue)
2. เนื้อเยื่อถาวร (Permament tissue)
เนื้อเยื่อเจริญ (Meristem tissue)
เนื้อเยื่อเจริญเป็นเนื้อเยื่อที่สามารถแบ่งตัวได้ มักมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ผนังเซลล์
บ า ง นิ ว เ ค ลี ย ส ใ ห ญ่ เ ด่ น ชั ด แ ว คิ ว โ อ ล ข น า ด เ ล็ ก เ ซ ล ล์ อ ยู่ ชิ ด กั น
ซึ่ ง เราสามารถแบ่ ง ประเภทของเนื้ อ เยื่ อ เจริ ญ อกเป็ น 3 ประเภท ตามต าแหน่ ง
1.เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย (Apical meristem) : เนื้อเยื่อประเภทนี้พบอยู่บริเวณ
ปลายยอด ปลายราก และตา

เนื้อเยื่อปลายยอด

เนื้อเยื่อปลายราก
2.เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (Laterral meristem) : จะพบหลังจากมีการเจริญขั้นที่
สอง เป็นเซลล์รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังเซลล์บาง เรียงตัวเป็นระเบียบ แบ่งเป็น 2 ชนิด
1) วาสคิวลาร์ แคมเบียม : แทรกอยู่ระหว่าง ไซเลม และโฟลเอ็ม มีหน้าที่ สร้าง
secondary xylem และ secondary pholem พบในพืชใบเลี้ยงคู่ทุกชนิด
และพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด
2) คอร์ก แคมเบียม : ทาหน้าที่สร้างคอร์ก เพื่อทาหน้าที่แทนเซลล์เอพิเดมิส

วาสคิวลาร์แคมเบียม

คอร์ก แคมเบียม
3.เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ(Intercalary meristem) : เนื้อเยื่อเจริญชนิดนี้จะอยู่
บริเวณเหนือข้อของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ทาให้ปล้องยืดยาวขึ้น ซึ่งมีฮอร์โมนจิบ เบอเรลลิน
เข้ามาเกี่ยวข้อง

เนื้อเยื่อเจริญเหนือ ข้อ
เนื้อเยื่อถาวร
เป็นเนื้อเยื่อที่เจริญเปลี่ยนแปลงมาทาหน้าที่เฉพาะ โดยจะไม่
แบ่งตัวอีก จาแนกเป็น 2 ประเภท คือ
1.เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissues)
2.เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (Complex permanent tissues)
เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว
1.Parenchyma เป็ น เนื้ อ เยื่ อ พื้ น ที่ พ บมากที่ สุ ด ในพื ช ตามส่ ว นต่ า งๆ
โดยเฉพาะส่วน ที่อ่อนนุ่ม เช่น บริเวณคอร์เทก พิธ เนื้อผลไม้ พาเรนไคมาเป็นเซลล์ที่
มีชีวิต ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปกลม รี ทรงกระบอก ภายใน
เซลล์อาจพบหรือไม่พบ นิวเคลียส ผนังเซลล์บางเป็นผนังเซลล์ชั้นแรก (primary
wall) มักพบ central vacuoles ขนาดใหญ่ และมี intercellular
spaces
2. Collenchyma รูปร่างรี ยาว เซลล์มีผนังหนาไม่สม่าเสมอ จัดเป็นผนังเซลล์ชั้น
แรก เป็นเนื้อเยื่อที่สร้างความแข็งแรงให้กับพืช เมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่ก็ยังเป็นเนื้อเยื่อ
ที่มี ชีวิ ต พบโดยทั่ วไปในส่ วนของพื ช ส่ วนประกอบภายในเซลล์อ าจพบ nucleus
chloroplasts บ้างแต่พบน้อย มาก เนื่องจากมีผนังเซลล์ที่หนา Collenchyma
เชื่อว่า Collenchyma มีต้นกาเนิดมาจาก parenchyma
3. Sclerenchyma เมื่อเจริญเต็มที่จะไม่มีชีวิต มีผนังเซลล์ที่หนามาก ลักษณะเด่น
ของเซลล์นี้คือ ผนังเซลล์ ขั้นที่สอง (secondary wall) หนา ประกอบด้วย
cellulose และ/หรือ lignin มักพบปะปนกับเซลล์ชนิดอื่นเพื่อทาหน้าที่ให้ความ
แข็งแรงแก่โครงสร้างต่างๆ Sclerenchyma มักพบ ตามลาต้น และในใบพบในส่วน
ของมัดท่อน้าท่ออาหาร และสร้างความแข็งแรงให้กับเมล็ด โดยเฉพาะส่วนของเปลือกหุ้ม
เมล็ดจัดเป็นเนื้อเยื่อสาคัญที่สร้างความแข็งแรงให้กับพืช
Sclerenchyma สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด โดยใช้ลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกัน
ดังนี้
3 .1 Fibres ลักษณะเซลล์ยาว ปลายเซลล์เรียว ผนังเซลล์หนามาก พบอยู่รวมกันเป็น
กลุ่มหรือเป็นมัด เช่น ในเนื้อไม้
3.2 Sclereids (Stone cells) ที่เรียก stone เนื่องจากเซลล์มีความแข็งแรง
เหมือนหิน มีรูปร่างหลายแบบ
4. Epidermis เป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดของส่วนต่างๆ ของพืช ประกอบด้วยเซลล์เรียง
ตัว เพียงชั้นเดียว รูปร่างแบนยาว ผนังเซลล์บาง โดยส่วนใหญ่ผนังเซลล์ด้านนอกจะหนา
กว่าด้านใน และพบมีสารคิวตินซึ่งเป็นสารพวกไขมัน เคลือบอยู่ชั้นนอก ยกเว้นในรากจะ
มี suberin เคลือบ พืชที่ขึ้นอยู่ในที่แห้งแล้งมักมีคิว ติน เคลือบหนา เพื่อรักษาน้าที่อยู่
ภายใน โดยทั่วไปอิพิเดอร์มิสไม่มี chloroplast
1. ไซเลม (Xylem)
เป็นเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ที่ทาหน้าที่เป็นท่อลาเลียงน้า อินทรียสารและแร่
ธาตุต่างๆในรูปของสารละลาย การลาเลียงแบบนี้เรียกว่า คอนดักชั่น
(Conduction)
ลักษณะของเนื้อเยื่อไซเลม
1. ประกอบด้วยเซลล์ 4 ชนิด คือ เทรคีด (Tracheid) เวลเซล เมมเบอร์
(Vessel member)สองชนิดรวมเรียกว่า ทราเคียรี อิลิเมนท์ (Tracheary
element) และไซเลม พาเรนไคมา , ไซเลม ไฟเบอร์
2. มีทั้ง Primary และ Secondary xylem ซึ่งจะพบในพืชแต่ละชนิด
แตกต่างกันไป
-เทรคีด ลักษณะเซลล์ เป็นเซลล์เดี่ยวๆรูปร่างกลมยาว ผนังเซลล์มีทั้งขั้นแรกและขั้น
ที่สอง เซลล์ตายเมื่อมีอายุมากขึ้น ลาเลียงน้าผ่านเซลล์ทางพิท แพร์
- เวสเซล เมมเบอร์ มีลักษณะเป็นเซลล์เดี่ยวๆรูปร่างป้อมๆ ผนังเซลล์มีทั้งขั้นแรก
และขั้นที่สอง และเซลล์จะตายเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
- ไซเลม พาเรนไคมา มีลักษณะรูปร่างคล้ายเซลล์พาเรนไคมาทั่วไป ผนังเซลล์เป็น
ขั้นที่สองจะมีพิทเกิดขึ้นด้วย ทาหน้าที่เก็บสะสมอาหารพวกแป้ง น้ามัน
- ไซเลม ไฟเบอร์ มีลักษณะเป็นเซลล์รูปร่างยาวๆ ผนังเซลล์ขั้นที่สองมีลิกนินสะสม
หนามาก เซลล์อาจมีผนังกั้นเป็นห้องๆเรียก เซพเตท ไฟเบอร์ (Septate fiber)
2. Phloem มาจากภาษกรีก phloios หมายถึง เปลือกไม้ (bark) ทาหน้าที่
ลาเลียง สารอินทรีย์ เช่น sucrose ไปยังส่วนต่างๆ ของพืช ทุกส่วนซึ่งแตกต่างจาก
การลาเลียงน้า ที่ลาเลียงจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ประกอบ
sieve element, companion cell, phloem fibres และ
phloem parenchyma
THE END

More Related Content

What's hot

โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Ratarporn Ritmaha
 
ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้Anana Anana
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
Wichai Likitponrak
 
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis Pat Pataranutaporn
 
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ  จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ  จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
Z-class Puttichon
 
structure and function of the stem
structure and function of the stemstructure and function of the stem
structure and function of the stem
Thanyamon Chat.
 
ราก (T)
ราก (T)ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
 
โครงสร้างของราก
 โครงสร้างของราก โครงสร้างของราก
โครงสร้างของราก
kanyamadcharoen
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
มัทนา อานามนารถ
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1dnavaroj
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชบทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
Pinutchaya Nakchumroon
 
Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561
Wichai Likitponrak
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )พัน พัน
 
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอกการปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Thanyamon Chat.
 
Kingdom plantae
Kingdom plantaeKingdom plantae
Kingdom plantae
Thanyamon Chat.
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นnokbiology
 
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของรากโครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
Thitaree Samphao
 
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกพัน พัน
 

What's hot (20)

โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
 
ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้ผลและเมล็ดแก้
ผลและเมล็ดแก้
 
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
12.การคายน้ำและการแลกแก๊สลำเลียงพืช
 
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis
การสังเคราะห์ด้วยแสง Photosynthesis
 
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ  จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ  จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
การศึกษาโครงสร้างดอกทานตะวัน ดอกบัวและดอกกุหลาบ จัดทำโดยนักเรียนระดับชั้น ม....
 
structure and function of the stem
structure and function of the stemstructure and function of the stem
structure and function of the stem
 
ราก (T)
ราก (T)ราก (T)
ราก (T)
 
โครงสร้างของราก
 โครงสร้างของราก โครงสร้างของราก
โครงสร้างของราก
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
 
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
วิทยาศาตร์พื้นฐาน ม1เทอม1
 
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชบทที่  11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
 
Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561
 
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
ฮอร์โมนพืช ( Plant hormones )
 
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอกการปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
การปฏิสนธิและการเจริญเติบโตของพืชดอก
 
Kingdom plantae
Kingdom plantaeKingdom plantae
Kingdom plantae
 
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้นโครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
โครงสร้างและหน้าที่ของลำต้น
 
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของรากโครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
 
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
 
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก
 

Viewers also liked

Obama And Bush With Children
Obama And Bush With ChildrenObama And Bush With Children
Obama And Bush With Children
kangaro10a
 
Integumentary system
Integumentary systemIntegumentary system
Integumentary system
MissReith
 
Cell
CellCell
นิเวศวิทยา
นิเวศวิทยานิเวศวิทยา
นิเวศวิทยาJaratpong Moonjai
 
Evolution[1]
Evolution[1]Evolution[1]
Evolution[1]
MissReith
 
Integumentary system
Integumentary systemIntegumentary system
Integumentary system
Madeleine Si
 
9789740330059
97897403300599789740330059
9789740330059CUPress
 
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissueเนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissueIssara Mo
 
150 ch9 muscle
150 ch9 muscle150 ch9 muscle
150 ch9 muscle
RONALDO QUITCO
 
Nervous tissue 2
Nervous tissue 2Nervous tissue 2
Nervous tissue 2
James H. Workman
 
Chap 11 nervous system part 1
Chap 11 nervous system part 1Chap 11 nervous system part 1
Chap 11 nervous system part 1
MissReith
 
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครู
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครูเอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครู
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครูJaratpong Moonjai
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชJaratpong Moonjai
 
สัณฐานวิทยาของพืช
สัณฐานวิทยาของพืชสัณฐานวิทยาของพืช
สัณฐานวิทยาของพืชJaratpong Moonjai
 
Skin
SkinSkin
Honors anatomy/physiology human tissues 2016
Honors anatomy/physiology human tissues 2016Honors anatomy/physiology human tissues 2016
Honors anatomy/physiology human tissues 2016
Anna DeVault
 
Anatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular SystemAnatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular System
Sarawut Fnp
 
Muscular system
Muscular systemMuscular system
Muscular system
James H. Workman
 
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jcLect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
Junior Umeh
 

Viewers also liked (20)

Obama And Bush With Children
Obama And Bush With ChildrenObama And Bush With Children
Obama And Bush With Children
 
Integumentary system
Integumentary systemIntegumentary system
Integumentary system
 
Cell
CellCell
Cell
 
นิเวศวิทยา
นิเวศวิทยานิเวศวิทยา
นิเวศวิทยา
 
Evolution[1]
Evolution[1]Evolution[1]
Evolution[1]
 
Integumentary system
Integumentary systemIntegumentary system
Integumentary system
 
Bio
BioBio
Bio
 
9789740330059
97897403300599789740330059
9789740330059
 
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissueเนื้อเยื่อพืช Plant tissue
เนื้อเยื่อพืช Plant tissue
 
150 ch9 muscle
150 ch9 muscle150 ch9 muscle
150 ch9 muscle
 
Nervous tissue 2
Nervous tissue 2Nervous tissue 2
Nervous tissue 2
 
Chap 11 nervous system part 1
Chap 11 nervous system part 1Chap 11 nervous system part 1
Chap 11 nervous system part 1
 
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครู
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครูเอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครู
เอกสารประกอบการนิเทศการสอนฉบับครู
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
 
สัณฐานวิทยาของพืช
สัณฐานวิทยาของพืชสัณฐานวิทยาของพืช
สัณฐานวิทยาของพืช
 
Skin
SkinSkin
Skin
 
Honors anatomy/physiology human tissues 2016
Honors anatomy/physiology human tissues 2016Honors anatomy/physiology human tissues 2016
Honors anatomy/physiology human tissues 2016
 
Anatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular SystemAnatomy of Muscular System
Anatomy of Muscular System
 
Muscular system
Muscular systemMuscular system
Muscular system
 
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jcLect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
Lect 4-&-5 cells-bsc-1010_f13_jc
 

Similar to เนี้อเยื่อ

เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanetเนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช AnnanetAnana Anana
 
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanetเนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช AnnanetAnana Anana
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
Thanyamon Chat.
 
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชโครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
เข็มชาติ วรนุช
 
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
มัทนา อานามนารถ
 
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อเนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อOui Nuchanart
 
Tissue oui
Tissue ouiTissue oui
Tissue oui
Oui Nuchanart
 
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
Wichai Likitponrak
 
Plant structure part 1
Plant structure part 1Plant structure part 1
Plant structure part 1
pitsanu duangkartok
 
Plant tissue
Plant tissuePlant tissue
Plant tissue
sukanya petin
 
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
kasidid20309
 
B06
B06B06
งาน1
งาน1งาน1
งาน1
kookoon11
 
พืช
พืชพืช
พืช
Chamaiporn
 
B06
B06B06
รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์dnavaroj
 

Similar to เนี้อเยื่อ (20)

เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanetเนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
 
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanetเนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
 
เนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืชเนื้อเยื่อพืช
เนื้อเยื่อพืช
 
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืชโครงสร้างและหน้าที่ของพืช
โครงสร้างและหน้าที่ของพืช
 
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
Ppt โครงสร้างและหน้าที่ของพืช.pdf 1
 
เนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อเนื้อเยื่อ
เนื้อเยื่อ
 
Tissue oui
Tissue ouiTissue oui
Tissue oui
 
9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช9.เนื้อเยื่อพืช
9.เนื้อเยื่อพืช
 
Plant structure part 1
Plant structure part 1Plant structure part 1
Plant structure part 1
 
Plant tissue
Plant tissuePlant tissue
Plant tissue
 
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
เรื่อง เนื้อเยื่อ tissue น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ slide ด้านล่่า...
 
Tissue1
Tissue1Tissue1
Tissue1
 
B06
B06B06
B06
 
งาน1
งาน1งาน1
งาน1
 
งาน1
งาน1งาน1
งาน1
 
พืช
พืชพืช
พืช
 
B06
B06B06
B06
 
ราก544
ราก544ราก544
ราก544
 
รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์รูปร่างลักษณะของเซลล์
รูปร่างลักษณะของเซลล์
 
Animal tissue
Animal tissueAnimal tissue
Animal tissue
 

More from มัทนา อานามนารถ

เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆ
เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆเง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆ
เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆมัทนา อานามนารถ
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
มัทนา อานามนารถ
 

More from มัทนา อานามนารถ (14)

งาน O-net คอมpptx
งาน O-net คอมpptxงาน O-net คอมpptx
งาน O-net คอมpptx
 
คอมพิวเตอร 1.1
คอมพิวเตอร  1.1คอมพิวเตอร  1.1
คอมพิวเตอร 1.1
 
ไฟฟ าสถ ตท__ทำให_เก_ดอ_บ_ต_เหต_ไฟ
ไฟฟ าสถ ตท__ทำให_เก_ดอ_บ_ต_เหต_ไฟไฟฟ าสถ ตท__ทำให_เก_ดอ_บ_ต_เหต_ไฟ
ไฟฟ าสถ ตท__ทำให_เก_ดอ_บ_ต_เหต_ไฟ
 
พ.ร.บ.
พ.ร.บ.พ.ร.บ.
พ.ร.บ.
 
งานชญานี ม6
งานชญานี ม6งานชญานี ม6
งานชญานี ม6
 
การประกันภัยตาม พ
การประกันภัยตาม พการประกันภัยตาม พ
การประกันภัยตาม พ
 
โครงงาน Blogger
โครงงาน Bloggerโครงงาน Blogger
โครงงาน Blogger
 
เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆ
เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆเง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆ
เง นฉ นใครอย_าแตะเก_อบเส_ดเหล_ออ_กน_ดๆๆ
 
โครงงานแฮกเกอร์ เนื้อหา
โครงงานแฮกเกอร์ เนื้อหาโครงงานแฮกเกอร์ เนื้อหา
โครงงานแฮกเกอร์ เนื้อหา
 
โครงงาน
โครงงานโครงงาน
โครงงาน
 
เคมีมอห้ากลางภาคสองห้าหก
เคมีมอห้ากลางภาคสองห้าหกเคมีมอห้ากลางภาคสองห้าหก
เคมีมอห้ากลางภาคสองห้าหก
 
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบโครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
 
ปังปอนด์งานจริง
ปังปอนด์งานจริงปังปอนด์งานจริง
ปังปอนด์งานจริง
 
งานคอมพิวเตอร์ของงจริง2
งานคอมพิวเตอร์ของงจริง2งานคอมพิวเตอร์ของงจริง2
งานคอมพิวเตอร์ของงจริง2
 

เนี้อเยื่อ

  • 2. เนื้อเยื่อพืช โครงสร้ า งทุ ก ส่ ว นของพื ช เช่น ราก ลาต้น ใบ ดอก ผล เมล็ ด ประกอบด้ ว ยเซลล์ จ านวนมากมารวมกั น ท า หน้ า ที่ เ ฉพาะอย่ า งใดอย่ า ง หนึ่ ง กลุ่ ม เซลล์ นั้ น เรี ย กว่ า เนื้อเยื่อ (Tissue)
  • 3.
  • 4.
  • 5. เนื้อเยื่อพืช ที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างส่วนต่างๆ ของพืชแบ่งเป็น หลายประเภท เช่น แบ่งตามความสามารถในการแบ่งเซลล์ หน้าที่ ลั ก ษณะโครงสร้ า ง หรื อ ตามต าแหน่ ง ที่ อ ยู่ ถ้ า จ าแนกตาม ความสามารถในการแบ่งเซล์จะแบ่งเนื้อเยื่อพืชเป็น 2 ประเภท คือ 1. เนื้อเยื่อ เจริญ (Meristem tissue) 2. เนื้อเยื่อถาวร (Permament tissue)
  • 6. เนื้อเยื่อเจริญ (Meristem tissue) เนื้อเยื่อเจริญเป็นเนื้อเยื่อที่สามารถแบ่งตัวได้ มักมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ผนังเซลล์ บ า ง นิ ว เ ค ลี ย ส ใ ห ญ่ เ ด่ น ชั ด แ ว คิ ว โ อ ล ข น า ด เ ล็ ก เ ซ ล ล์ อ ยู่ ชิ ด กั น ซึ่ ง เราสามารถแบ่ ง ประเภทของเนื้ อ เยื่ อ เจริ ญ อกเป็ น 3 ประเภท ตามต าแหน่ ง 1.เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย (Apical meristem) : เนื้อเยื่อประเภทนี้พบอยู่บริเวณ ปลายยอด ปลายราก และตา เนื้อเยื่อปลายยอด เนื้อเยื่อปลายราก
  • 7. 2.เนื้อเยื่อเจริญด้านข้าง (Laterral meristem) : จะพบหลังจากมีการเจริญขั้นที่ สอง เป็นเซลล์รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังเซลล์บาง เรียงตัวเป็นระเบียบ แบ่งเป็น 2 ชนิด 1) วาสคิวลาร์ แคมเบียม : แทรกอยู่ระหว่าง ไซเลม และโฟลเอ็ม มีหน้าที่ สร้าง secondary xylem และ secondary pholem พบในพืชใบเลี้ยงคู่ทุกชนิด และพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด 2) คอร์ก แคมเบียม : ทาหน้าที่สร้างคอร์ก เพื่อทาหน้าที่แทนเซลล์เอพิเดมิส วาสคิวลาร์แคมเบียม คอร์ก แคมเบียม
  • 8.
  • 9. 3.เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ(Intercalary meristem) : เนื้อเยื่อเจริญชนิดนี้จะอยู่ บริเวณเหนือข้อของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ทาให้ปล้องยืดยาวขึ้น ซึ่งมีฮอร์โมนจิบ เบอเรลลิน เข้ามาเกี่ยวข้อง เนื้อเยื่อเจริญเหนือ ข้อ
  • 10. เนื้อเยื่อถาวร เป็นเนื้อเยื่อที่เจริญเปลี่ยนแปลงมาทาหน้าที่เฉพาะ โดยจะไม่ แบ่งตัวอีก จาแนกเป็น 2 ประเภท คือ 1.เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว (Simple permanent tissues) 2.เนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน (Complex permanent tissues)
  • 11. เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว 1.Parenchyma เป็ น เนื้ อ เยื่ อ พื้ น ที่ พ บมากที่ สุ ด ในพื ช ตามส่ ว นต่ า งๆ โดยเฉพาะส่วน ที่อ่อนนุ่ม เช่น บริเวณคอร์เทก พิธ เนื้อผลไม้ พาเรนไคมาเป็นเซลล์ที่ มีชีวิต ขนาดค่อนข้างใหญ่ มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปกลม รี ทรงกระบอก ภายใน เซลล์อาจพบหรือไม่พบ นิวเคลียส ผนังเซลล์บางเป็นผนังเซลล์ชั้นแรก (primary wall) มักพบ central vacuoles ขนาดใหญ่ และมี intercellular spaces
  • 12. 2. Collenchyma รูปร่างรี ยาว เซลล์มีผนังหนาไม่สม่าเสมอ จัดเป็นผนังเซลล์ชั้น แรก เป็นเนื้อเยื่อที่สร้างความแข็งแรงให้กับพืช เมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่ก็ยังเป็นเนื้อเยื่อ ที่มี ชีวิ ต พบโดยทั่ วไปในส่ วนของพื ช ส่ วนประกอบภายในเซลล์อ าจพบ nucleus chloroplasts บ้างแต่พบน้อย มาก เนื่องจากมีผนังเซลล์ที่หนา Collenchyma เชื่อว่า Collenchyma มีต้นกาเนิดมาจาก parenchyma
  • 13. 3. Sclerenchyma เมื่อเจริญเต็มที่จะไม่มีชีวิต มีผนังเซลล์ที่หนามาก ลักษณะเด่น ของเซลล์นี้คือ ผนังเซลล์ ขั้นที่สอง (secondary wall) หนา ประกอบด้วย cellulose และ/หรือ lignin มักพบปะปนกับเซลล์ชนิดอื่นเพื่อทาหน้าที่ให้ความ แข็งแรงแก่โครงสร้างต่างๆ Sclerenchyma มักพบ ตามลาต้น และในใบพบในส่วน ของมัดท่อน้าท่ออาหาร และสร้างความแข็งแรงให้กับเมล็ด โดยเฉพาะส่วนของเปลือกหุ้ม เมล็ดจัดเป็นเนื้อเยื่อสาคัญที่สร้างความแข็งแรงให้กับพืช Sclerenchyma สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด โดยใช้ลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกัน ดังนี้ 3 .1 Fibres ลักษณะเซลล์ยาว ปลายเซลล์เรียว ผนังเซลล์หนามาก พบอยู่รวมกันเป็น กลุ่มหรือเป็นมัด เช่น ในเนื้อไม้ 3.2 Sclereids (Stone cells) ที่เรียก stone เนื่องจากเซลล์มีความแข็งแรง เหมือนหิน มีรูปร่างหลายแบบ
  • 14.
  • 15. 4. Epidermis เป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดของส่วนต่างๆ ของพืช ประกอบด้วยเซลล์เรียง ตัว เพียงชั้นเดียว รูปร่างแบนยาว ผนังเซลล์บาง โดยส่วนใหญ่ผนังเซลล์ด้านนอกจะหนา กว่าด้านใน และพบมีสารคิวตินซึ่งเป็นสารพวกไขมัน เคลือบอยู่ชั้นนอก ยกเว้นในรากจะ มี suberin เคลือบ พืชที่ขึ้นอยู่ในที่แห้งแล้งมักมีคิว ติน เคลือบหนา เพื่อรักษาน้าที่อยู่ ภายใน โดยทั่วไปอิพิเดอร์มิสไม่มี chloroplast
  • 16. 1. ไซเลม (Xylem) เป็นเนื้อเยื่อถาวรเชิงซ้อน ที่ทาหน้าที่เป็นท่อลาเลียงน้า อินทรียสารและแร่ ธาตุต่างๆในรูปของสารละลาย การลาเลียงแบบนี้เรียกว่า คอนดักชั่น (Conduction) ลักษณะของเนื้อเยื่อไซเลม 1. ประกอบด้วยเซลล์ 4 ชนิด คือ เทรคีด (Tracheid) เวลเซล เมมเบอร์ (Vessel member)สองชนิดรวมเรียกว่า ทราเคียรี อิลิเมนท์ (Tracheary element) และไซเลม พาเรนไคมา , ไซเลม ไฟเบอร์ 2. มีทั้ง Primary และ Secondary xylem ซึ่งจะพบในพืชแต่ละชนิด แตกต่างกันไป
  • 17. -เทรคีด ลักษณะเซลล์ เป็นเซลล์เดี่ยวๆรูปร่างกลมยาว ผนังเซลล์มีทั้งขั้นแรกและขั้น ที่สอง เซลล์ตายเมื่อมีอายุมากขึ้น ลาเลียงน้าผ่านเซลล์ทางพิท แพร์ - เวสเซล เมมเบอร์ มีลักษณะเป็นเซลล์เดี่ยวๆรูปร่างป้อมๆ ผนังเซลล์มีทั้งขั้นแรก และขั้นที่สอง และเซลล์จะตายเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ - ไซเลม พาเรนไคมา มีลักษณะรูปร่างคล้ายเซลล์พาเรนไคมาทั่วไป ผนังเซลล์เป็น ขั้นที่สองจะมีพิทเกิดขึ้นด้วย ทาหน้าที่เก็บสะสมอาหารพวกแป้ง น้ามัน - ไซเลม ไฟเบอร์ มีลักษณะเป็นเซลล์รูปร่างยาวๆ ผนังเซลล์ขั้นที่สองมีลิกนินสะสม หนามาก เซลล์อาจมีผนังกั้นเป็นห้องๆเรียก เซพเตท ไฟเบอร์ (Septate fiber)
  • 18.
  • 19. 2. Phloem มาจากภาษกรีก phloios หมายถึง เปลือกไม้ (bark) ทาหน้าที่ ลาเลียง สารอินทรีย์ เช่น sucrose ไปยังส่วนต่างๆ ของพืช ทุกส่วนซึ่งแตกต่างจาก การลาเลียงน้า ที่ลาเลียงจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ประกอบ sieve element, companion cell, phloem fibres และ phloem parenchyma