More Related Content
Similar to ประวัติของวรรณคดี
Similar to ประวัติของวรรณคดี (20)
More from Ruangrat Watthanasaowalak
More from Ruangrat Watthanasaowalak (11)
ประวัติของวรรณคดี
- 1. ความหมายของวรรณคดี
เป็นคำาที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนคำา Literature
ใ น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ป ร า ก ฏ ค รั้ ง แ ร ก ใ น พ ร ะ ร า ช
กฤษฎีกา จัดตั้งเป็นวรรณคดีสโมสร เมื่อวันที่ ๒๓
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
คำา ว ร ร ณ ค ดี ประกอบขึ้ น จากคำา ว ร ร ณ
ซึ่งเป็นคำา มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า ห นัง สือ
ส่ ว นคำา ค ดี เป็ น คำา เดี ย วกั บ ค ติ ซึ่ ง เป็ น คำา บาลี
แ ล ะ สั น ส ก ฤ ต แ ป ล ว่ า เ รื่ อ ง ต า ม รู ป ศั พ ท์
ว ร ร ณ ค ดี แปลว่า เ รื่อ ง ที่แ ต่ง เ ป็น ห นัง สือ แต่
หมายเฉพาะหนังสือที่แต่งดี
พ จ น า นุก ร ม ฉ บับ ร า ช บัณ ฑิต ย ส ถ า น พ .ศ .
๒๕๒๕ ให้คำาจำากัดความของวรรณคดีว่า หนัง สือ ที่
ได้ร ับ ยกย่อ งว่า แต่ง ดี
ห นัง สือ ที่ไ ด้ร ับ ย ก ย่อ ง ว่า แ ต่ง ดี หรือที่เป็น
วรรณคดี มีผู้ให้คำาจำากัดความไว้ต่าง ๆ กัน เช่น
- พ ร ะ ร า ช ก ฤ ษ ฎี ก า ร จั ด ตั้ ง
วรรณคดีส โมสร กล่าวว่า
๑) เป็นหนังสือดี กล่าวคือ เป็นเรื่องที่
สมควรซึ่งสาธารณชนจะอ่านได้โดยไม่เสีย
ประโยชน์ คื อ ไม่ เ ป็ น เรื่ อ งทุ ภ าษิ ต หรื อ เป็ น เรื่ อ งที่
ชักจูงความคิดผู้อ่านไปในทางอันไม่เป็นแก่นสาร ซึ่ง
จะชวนให้คิด วุ่นวายทางการเมือง อันเกิดเป็นเรื่อง
- 2. รำา คาญแก่รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(เพราะคนรู้น้อยอาจจะ ไขว้เขวได้)
๒) เป็นหนังสือแต่งดี ใช้วิธีเรียบเรียง
อย่างใด ๆ ก็ตามแต่ต้องให้เป็นภาษาไทยอันดี ถูก
ต้องตามเยี่ยงที่ใช้ในโบราณกาลหรือปัจจุบันก็ได้
ไม่ใช้ภาษาซึ่งเลียนภาษาต่างประเทศหรือใช้วิธีผูก
ประโยคประธานตามภาษาต่างประเทศ (เช่น ใช้ว่า
ไปจับรถไฟ แทน ขึ้นรถไฟ และ มาสาย แทน
มาช้า หรือ มาล่า ดังนี้เป็นตัวอย่าง)
- พ ร ะ ย า อ นุ ม า น ร า ช ธ น
(เสถีย รโกเศศ) ให้ความหมายว่า
วรรณคดี คือ ความรู้สึกนึกคิดของ
กวี ซึ่งถอดออกมาจากจิตใจให้ปรากฏ
เป็นรูปหนังสือและมีถ้อยคำาเหมาะเจาะ
เพราะพริ้ง เร้าใจให้ผู้
อ่านหรือผู้ฟังเกิดความรู้สึก
- พ ร ะ ว ร เ ว ท ย์ พ ิ ส ิ ฐ มี ค วามเห็ น
ว่า
ว ร ร ณ ค ดี คือ หนัง สื อ ที่ มี ลั ก ษณะ
เรียบเรียงถ้อยคำาเกลี้ยงเกลา เพราะพริ้ง
มีรส
ปลุ ก มโนคติ (imagination) ให้ เ พลิ ด เพลิ น เกิ ด
กระทบระเทือนอารมณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามอารมณ์ของ
ผู้ประพันธ์
- 3. - วิท ย์ ศิว ะศริย านนท์ กล่าวว่า
บทประพั น ธ์ ที่ เ ป็ น วรรณคดี คื อ บท
ประพัน ธ์ที่ มุ่ง ให้ ค วามเพลิ ด เพลิ น ให้ เกิ ด
ความ
รู้สึกนึกคิด(imagination) และอารมณ์ต่าง ๆ ตามผู้
เขียน นอกจากนี้บทประพันธ์ที่เป็นวรรณคดีจะต้องมี
รูปศิลปะ (form)
เท่า ทีก ล่า วมาแล้ว พอสรุป ได้ว ่า วรรณคดี
่
คือ เรื่อ งทีม ีล ัก ษณะดัง นี้
่
๑) ใช้ถ ้อ ย คำา สำา น ว นโ ว ห า ร ไ พ เ ร า ะ ส ล ะ
สลวย
๒) ก่อ ให้เ กิด อารมณ์ส ะเทือ นใจ
๓) ยกระดับ จิต ใจให้ส ูง ขึ้น
๔) ใช้เ ป็น แบบแผนในการแต่ง ได้
วรรณกรรม
คำาว่า วรรณกรรม ปรากฏครั้งแรกในพระราช
บัญญัติคุ้มครองศิลปะและวรรณกรรม พ.ศ. ๒๔๗๕
บัญ ญัติขึ้ นจากคำา ว่ า Literature เช่น เดี ย วกับ คำา
ว่า วรรณคดี แต่วรรณกรรมมีความหมายกว้างกว่า
- 4. คำา วรรณคดี วร ร ณ ก ร ร ม หมายถึง เ รื่อ ง ที่เ ขีย น
ขึ้ น ทั้ ง ห ม ด ไ ม่ จ ำา กั ด รูป แ บ บ ค ว า ม มุ่ ง ห ม า ย
แล ะคุณ ค่า วรรณกรรมที่แต่งดีประกอบด้วยศิลปะ
ของการเรี ย บเรี ย งหรื อ ที่ เ รี ย กว่ า ว ร ร ณ ศิ ล ป์
วรรณกรรมนั้นก็จัดเป็นวรรณคดี
แหล่ง ข้อ มูล :
ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคณะ. หนัง สือ เรีย น
สาระการเรีย นรู้พ ื้น ฐาน กลุม สาระภาษาไทย
่
ภาษาไทย
ม.๔ เล่ม ๑. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์,
๒๕๔๖.
เสนีย์ วิลาวรรณและคณะ. ประวัต ว รรณคดี
ิ
๑. กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๔๒.
ประเภทของวรรณคดี
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งวรรณคดีสโมสร ในรัชกาลพระบาทส
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กำาหนดประเภทของ วรรณดคีและพิจ
หนังสือที่เป็นยอดของวรรณคดีแต่ละประเภทไว้ ดังนี้
- 5. ๑. กวีน พ นธ์ คือ เรื่องที่แต่งเป็น โคลง ฉันท์ กาพ
ิ
กลอน
๒. ละครไทย คือ เรื่องที่แต่งเป็นกลอนแปด มีกำาหน
หน้าพาทย์
๓. นิท าน คือ เรื่องราวอันผูกขึ้นและแต่งเป็นร้อยแก
๔. ละครพูด คือ เรื่องราวที่เขียนเพื่อใช้แสดงบนเวท
๕. อธิบ าย (essay หรือ pamphlet) คือ การแสด
ศิลปวิทยา หรือกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช้ตำารา
แบบเรียน หรือความเรียงเรื่องโบราณ มีพงศาวดาร เป
หนัง สือ ที่เ ป็น ยอดแห่ง วรรณคดีไ ทย
กวีน พ นธ์
ิ
๑. ลิล ต พระลอ
ิ เป็นยอดของ ลิล ิต
๒. สมุท รโฆษคำา ฉัน ท์ เป็นยอดของ คำา ฉัน ท์
๓. เทศน์ม หาชาติ เป็นยอดของ กลอนกาพย์
ยาว)
๔. เสภาเรื่อ งขุน ช้า งขุน แผน เป็นยอดของ กลอ
สุภ าพ
ละครไทย บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลท
เป็นยอดของ
- 6. บทละครรำา
ละครพูด บทละครพูดเรื่องหัวใจนักรบ พระราชนิพนธ์ในร
ที่ ๖ เป็นยอดของ บทละครพูด
นิท าน เรื่องสามก๊ก ของเจ้าพระยาพระคลัง(หน) เป็นยอด
ความเรีย งนิท าน
อธิบ าย เรื่องพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ในรัช
๕ เป็นยอดของ ความเรีย งอธิบ าย
การแบ่ง ประเภทวรรณคดีต ามเกณฑ์ต ่า ง ๆ
วรรณคดีไ ทยอาจแบ่ง ตามเกณฑ์ต ่า ง ๆ ได้ ดัง นี้
๑. แบ่ง ตามความมุ่ง หมาย แยกได้ ๒ ประเภท ค
๑.๑ สารคดี คือ หนังสือที่มุ่งให้ความรู้แก่ผู้อ่านเป
สำาคัญ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้กลวิธี
การเขียนให้เกิดความบันเทิงเป็นผลพลอยได้ไปด้วย
๑.๒ บัน เทิง คดี คือ หนังสือที่มุ่งให้ความสนุกเพลิดเพลินแก
มากกว่าความรู้ แต่อย่างไร
ก็ดี บันเทิงคดีย่อมมีเนื้อหาที่เป็นสาระสำาคัญแทรกอยู่ด้วยในรูปขอ
ชีวิตและเกร็ดความรู้
๒. แบ่ง ตามลัก ษณะที่แ ต่ง แยกได้ ๒ ประเภท คือ
๒.๑ ร้อ ยแก้ว หมายถึง ความเรียงที่ใช้ภาษาพูดธร
- 7. แต่มีรูปแบบโดยเฉพาะและมี
ความไพเราะเหมาะเจาะด้วยเสียงและความหมาย
๒.๒ ร้อ ยกรอง หมายถึง ข้อความที่เรียบเรียงตามกำา
ของคณะและสัมผัสบังคับของแต่ละ
ชนิด คณะ ได้แก่ จำานวนคำาและจำานวนวรรคในแต่ละบท ลักษณ
บังคับ ได้แก่ กำาหนดสัมผัส กำาหนดคำาเอก คำาโท หรือกำาหนดค
ร้อ ยกรอง อาจเรียกว่า คำา ประพัน ธ์ กาพย์ก ลอน หรือ กว
นิพ นธ์ ก็ได้ ร้อยกรองแต่งเป็น กลอน โคลง ร่าย กาพย์ และฉ
๓. แบ่ง ตามลัก ษณะการจดบัน ทึก แยกได้ ๒ ป
คือ
๓.๑ วรรณคดีล ายลัก ษณ์อ ัก ษร ได้แก่ วรรณคดีทบ
ี่
ไว้เป็นหนังสือ อาจเป็นตัวจารึก
ตัวเขียน หรือตัวพิมพ์ก็ได้
๓.๒ วรรณคดีท ไ ม่ไ ด้บ ัน ทึก เป็น ลายลัก ษณ์อ ัก ษร
ี่
วรรณคดีที่บอกเล่า จดจำาสืบต่อกันมา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วรร
มุข ปาฐะ เช่น เพลงพื้นเมือง บทเห่กล่อม นิทานพื้นบ้าน ปริศ
คำาทาย
การแบ่ง ประเภทวรรณคดีด ง กล่า วอาจคาบเกีย วกัน ได
ั ่
สารคดีโ ดยทัว ไปมัก แต่ง เป็น ร้อ ยแก้ว แต่อ าจแต่ง เป็น ร้อ
่
กรองก็ไ ด้ บัน เทิง คดีอ าจแต่ง เป็น ร้อ ยกรองหรือ ร้อ ยแก้ว ก
แหล่ง ข้อ มูล :
ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคณะ. หนัง สือ เรีย นสาระการเร
- 8. พื้น ฐาน กลุ่ม สาระภาษาไทย ภาษาไทย ม.๔ เล่ม ๑.
กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๔๖.
เสนีย์ วิลาวรรณและคณะ. ประวัต ิว รรณคดี ๑.
กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๔๒.
วิว ัฒ นาการของวรรณคดีไ ทย
วิวัฒนาการของวรรณคดีไทย คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงข
วรรณคดีไทยจากสภาพแรกเริ่มไปสู่สภาวะที่เจริญงอกงามขึ้น ใ
รูปลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ด้านผู้แต่ง ด้านคำาประพันธ์ ด้านวัตถุประส
และด้านที่มาของเนื้อเรื่อง วิธีที่จะเห็นวิวัฒนาการของวรรณคดีไ
นั้นจะต้องศึกษาประวัติความเป็นมาของวรรณคดีเป็นสมัย ๆ โดย
ตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินท
เรียงตามลำาดับกันไป
นับแต่สมัยสุโขทัยมาจนถึงรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินท
วรรณคดีไทย มีลักษณะเป็นแบบฉบับที่ ยึดถือสืบต่อกันมาในรัช
๔ คนไทยเริ่มมีความสัมพันธ์กับประเทศตะวันตก คตินิยมอันเป็น
ชีวิต รวมถึงลักษณะของวรรณคดีของคนไทย เริ่มต้นเปลี่ยนแปล
ทวีมากขึ้นตามลำาดับ ตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ จนถึงปัจจุบัน
ลักษณะความแตกต่างระหว่างวรรณคดีไทยดั้งเดิมและวรรณ
ไทยปัจจุบันที่สำาคัญ มีดังนี้
๑. อิท ธิพ ล เดิม วรรณคดีไทยได้รับอิทธิพลจากอินเดีย
ประเทศแถบตะวันออกบางประเทศ เช่น จีน
ลังกา ชวา(อินโดนีเซีย) เปอร์เซีย(อิหร่าน) มอญ ปัจ จุบ ัน ได้ร
- 9. อิทธิพลจากประเทศยุโรป
๒. ลัก ษณะคำา ประพัน ธ์ เดิม นิยมร้อยกรองขนาดยาว
มากกว่าร้อยแก้ว ใช้ร้อยกรองทุกชนิด และ
เคร่งครัดในฉันทลักษณ์ ปัจ จุบ ัน นิยมร้อยแก้วมากกว่าร้อยกรอ
เลือกใช้ร้อยกรองเฉพาะ กลอน กาพย์ และโคลง มีการดัดแปล
ร้อยกรองให้มีรูปลักษณะผิดแผกไปจากเดิมและไม่เคร่งครัดใน
ฉันทลักษณ์
๓. รูป แบบ เดิม นิยมแต่งเป็นนิทาน นิยาย พงศาวด
ตำานาน ตำารา คำาสอน กฎหมาย นิราศ
จดหมายเหตุ ละครรำา บทพากย์โขน บทสดุดี ปัจ จุบ ัน นิยมแ
เป็นนวนิยาย เรื่องสั้น สารคดี บทความ ปาฐกถา บันทึก อน
บทละครพูด บทละครวิทยุ บทละครโทรทัศน์ บทภาพยนตร์
๔. แนวคิด เดิม แทรกคตินิยมแบบอุดมคติโดยมีแบบโร
ติก และสัญลักษณ์ปนอยู่ด้วย ปัจ จุบ ัน
เน้น สัจ นิย ม สัง คมนิย ม โดยมีส ัญ ลัก ษณ์น ิย มปนอยูด ้ว ย
่
๕. เนื้อ เรื่อ ง เดิม มักเป็นเรื่องไกลตัว จำากัดวงและมี
ลักษณะเชิงจินตนาการ เช่น เรื่องศาสนา จักร ๆ
วงศ์ ๆ เทพเจ้า กษัตริย์ ยักษ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ปัจ จุบ ัน เป
เป็นเรื่องใกล้ตัว อยู่ในวงกว้าง และมีลักษณะเชิงวิเคราะห์ วิจาร
เช่น เรื่องชีวิตประจำาวันของคนทั่วไป ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ
การเมือง ตามที่เป็นจริง
๖. ธรรมเนีย มนิย ม เดิม มีโครงสร้างที่เป็นแบบแผน
- 10. เลียนแบบครู เช่น ขึนต้นบทประณาม ชม
้
บ้านชมเมือง ชมการแต่งกาย ชมไม้ ชมนก ชมเนื้อ ชมกระบ
ทัพ ปัจ จุบ ัน ไม่มีโครงสร้างที่เป็นแบบแผน ตายตัว ผู้แต่งมีอิส
จะคิดแบบอย่างของตนเอง
๗. ความมุ่ง หมาย เดิม มุ่งให้คุณค่าทางอารมณ์ และส
ศรัทธามากกว่าปัญญา ปัจ จุบ ัน เน้นคุณค่า
ทางความคิดและปัญญาในการวิเคราะห์วิจารณ์เป็นสำาคัญ
๘. การดำา เนิน เรื่อ ง เดิม เน้นศิลปะการใช้ภาษาและร
วรรณคดีมากกว่าองค์ประกอบของเรื่อง เช่น
โครงเรื่อง แนวคิด ความสมจริง ปัจ จุบ ัน ให้ความสำาคัญของอ
ประกอบของเรื่อง เช่น เช่น โครงเรื่อง แนวคิด ความสมจริง
มากกว่าศิลปะการใช้ภาษาและรสวรรณคดี
๙. ผู้แ ต่ง เดิม ผู้แต่งจำากัดเฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน เจ้าน
ขุนนาง นักปราชญ์ราชกวี ปัจ จุบ ัน ผู้แต่ง
ส่วนมากเป็นประชาชนทั่วไป
๑๐. ผูอ ุป ถัม ภ์ เดิม พระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายเป็นผู้ชุบเ
้
กวีที่สร้างสรรค์วรรณคดี ปัจ จุบ ัน ผู้เขียน
มีรายได้จากการขายงานประพันธ์ของตน
- 11. โวหารในกวีน ิพ นธ์
โวหารในกวีน ิพ นธ์ท ี่น ิย มกัน มาแต่โ บราณ มี ๔ โวหา
คือ
๑. เสาวรจนี เป็นกระบวนชมความงามหรือพรรณนา
เกียรติคุณ
๒. นารีป ราโมทย์ เป็นการเกี้ยวพาราสี
๓. พิโ รธวาทัง เป็นการแสดงความไม่พอใจ เช่น ปร
ประชัน ตัดพ้อต่อว่า ข่มขู่และดุด่า โกรธ
๔. สัล ลาปัง คพิส ย เป็นการแสดงความโศกเศร้า ครำ่า
ั
และความอาลัย
แหล่ง ข้อ มูล :
พิชิต อัคนิจ. วรรณกรรมไทยสมัย สุโ ขทัย – กรุง ศรีอ ย
กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, ๒๕๓๖.
ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคณะ. หนัง สือ เรีย นสาระการเร
พื้น ฐาน กลุ่ม สาระภาษาไทย ภาษาไทย
ม.๔ เล่ม ๑. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๔๖.
เสนีย์ วิลาวรรณและคณะ. ประวัต ว รรณคดี ๑.
ิ
กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๔๒.
- 12. ศูน ย์ก ารเรีย นที่ ๔
ความสำา คัญ ของการเรีย นวรรณคดีไ ทย
กำา เนิด วรรณคคี
วิท ย์ ศิว ศริย านนท์ กล่าวว่า วรรณคดีเป็นสิ่งที่มีอยู่ในสัน
ของมนุษย์ตลอดเวลา เช่นเดียวกับศิลปะอื่น ๆ มนุษย์มีศิลปะทุกย
สมัย และศิลปะไม่ใช่การเล่นฆ่าเวลา วรรณคดีเกิดขึ้นได้เสมอใน
สภาวการณ์ต่าง ๆ และอาจจะมีมูลเหตุมาจากอารมณ์เพศ ศาสนา
การเล่น หรืองานก็ได้ ขึนอยู่กับทัศนะของแต่ละบุคคล หรือแต่ล
้
ความเชื่อ
พิช ิต อัค นิจ กล่าวว่า ตำานานกำาเนิดวรรณดคีของชาติต่า
อาทิ ตำานานกรีก ตำานานสันสกฤต ตำานานจีน เป็นต้นเค้าของท
การกำาเนิดวรรณคดีในสมัยปัจจุบัน เพราะมูลเหตุที่ทำาให้เกิดวรร
ตามหลักวิชาการสมัยใหม่ที่นำามากล่าวไว้ต่อไปนี้ ก็ลวนมีสาระอ
้
ตำานานที่กล่าวไว้แล้วแทบทั้งสิ้น คือ
๑. เกิด จากการนับ ถือ วีร ชน เช่น เรื่องรามายณะ ม
ภารตะ ลิลิตยวนพ่าย ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นต้น
๒. เกิด จากความเชื่อ ทางศาสนา ศาสนาเป็นที่พึ่งทา
ศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเป็นสิ่งบันดาลใจให้เกิด
วรรณคดีได้ เช่น เรื่องมหาชาติคำาหลวง ไตรภูมิพระร่วง
- 13. ปฐมสมโพธิกถา และอื่น ๆ
๓. เกิด จากอารมณ์ อารมณ์ที่เกิดเอง ไม่คล้อยตามผ
เช่น อารมณ์รัก โกรธ โศก เป็นมูลเหตุให้เกิดวรรณคดีไ
เช่น เรื่องมัทนะพาธา กามนิต อติรูป และอื่น ๆ
๔. เกิด จากความกลัว ภัย โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ
๕. เกิด จากการแลกเปลีย นวัฒ นธรรม การไปมาหา
่
ระหว่างสังคมต่าง ๆ ก็มีส่วนทำาให้เกิดวรรณคดีด้วย เช่น
นิราศลอนดอน นิราศกวางตุ้ง และอื่น ๆ
ความสำา คัญ ของการเรีย นประวัต ว รรณคดี
ิ
เนื่องจากวรรณคดีส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ผู้แต่ง
สภาพและเหตุการณ์แวดล้อมในยุคสมัยของผู้แต่ง เช่น มีความช
ในวีรกรรม ความสามารถหรือบุญบารมีของบุคคลสำาคัญก็แต่งเร
ประเภทสดุดี ถ้ามีความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาก็แต่งเรื่องธรรม
ชาดก ถึงแม้วรรณคดีที่เกิดจากความสะเทือนใจส่วนตัวของ ผู้แ
เอง ผู้แต่งก็มักสร้างเนื้อหาและฉากของเรื่องขึ้นจากสิ่งที่ผู้แต่งปร
พบเห็นเป็นส่วนมาก นอกจากรูปแบบ คำาประพันธ์ ประเภท และ
สำาคัญของเรื่องมักเป็นไปตามคตินิยมของสังคมในสมัยที่แต่ง เพร
ฉะนั้น การอ่า นวรรณคดีใ ห้ไ ด้ค ุณ ค่า ที่แ ท้จ ริง จำา เป็น ต้อ ง
เรีย น วรรณคดีใ นเชิง ประวัต ิ หรือ ประวัต ว รรณคดีป ระก
ิ
ด้ว ย การเรียนประวัติวรรณคดี พิจารณาถึงประเด็นสำาคัญของ
วรรณคดีในด้านต่าง ๆ ดังนี้
๑. ผู้แ ต่ง รวมถึงชีวประวัติและผลงาน
- 14. ๒. ที่ม าของเรือ ง ได้แก่ เรื่องที่เป็นต้นเค้า อาจเป็นเร
่
หรือเหตุการณ์ภายในประเทศ หรือที่ได้รบ ั
อิทธิพลจากต่างประเทศ
๓. ความมุ่ง หมายในการแต่ง ได้แก่ แรงบันดาลใจหร
ความมุ่งหมายของผู้แต่งในการแต่งวรรณคดีนั้น ๆ
๔. วิว ัฒ นาการและความสัม พัน ธ์ต อ เนื่อ งระหว่า ง
่
วรรณคดีแ ต่ล ะสมัย
๕. สภาพสัง คมในสมัย ที่แ ต่ง ซึ่งได้แก่ วัฒนธรรม
สังคม และเหตุการณ์ของบ้านเมืองในระยะเวลาที่แต่ง
๖. อิท ธิพ ลที่ว รรณคดีม ีต ่อ สัง คมทั้ง ในสมัย ที่แ ต่ง แ
ในสมัย ต่อ มา
ดัง นั้น การศึกษาประวัติวรรณคดี ทำาให้ทราบที่มาของวรร
แต่ละเรื่องว่าเกิดขึ้นอย่างไร มีแรง
บันดาลใจอะไร แต่งในสมัยใด ใครเป็นผู้แต่ง อิทธิพลของเหตุก
บ้านเมืองที่มีต่อวรรณคดี และอิทธิพลของ วรรณคดีที่มีต่อสังคม
ในแต่ละยุคสมัย
ประโยชน์ข องการเรีย นประวัต ิว รรณคดี
เนื่องจากการเรียนประวัติวรรณคดีมีลักษณะเป็นการเรียนรู้ท
และสิ่งแวดล้อมโดยทั่วไปของวรรณคดี การเรียนประวัติวรรณคด
- 15. ให้ประโยชน์หลายประการ ดังนี้
๑. ช่วยเพิ่มความเข้าใจและความซาบซึ้งในคุณค่าของ
วรรณคดี
๒. ได้ความรู้เกี่ยวกับภาษาและลักษณะอักขรวิธีสมัยต่าง
๓. ได้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับต่างประเทศสมัยต่า
๔. ได้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม สภาพสังคม และเหตุกา
บ้านเมือง ควบคู่กันไปกับวิวัฒนาการของวรรณคดีในสมัย
ๆ
แหล่ง ข้อ มูล :
ประพันธ์ เรืองณรงค์และคณะ. กลุ่ม สาระภาษาไทย ช่ว ง
๔(ม. ๔-๖). กรุงเทพมหานคร :
ประสานมิตร, ๒๕๔๖.
พิชิต อัคนิจ. วรรณกรรมไทยสมัย สุโ ขทัย – กรุง ศรีอ ย
กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, ๒๕๓๖.
ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคณะ. หนัง สือ เรีย นสาระการเร
พื้น ฐาน กลุ่ม สาระภาษาไทย ภาษาไทย
ม.๔ เล่ม ๑. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๔๖.
เสนีย์ วิลาวรรณและคณะ. ประวัต ว รรณคดี ๑.
ิ
- 16. กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๔๒.
การแบ่ง สมัย ของวรรณคดี
การแบ่ง สมัย ของวรรณคดี
วรรณคดีไทย เริ่มมีขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีขอ
มาจนกรุงรัตนโกสินทร์ วรรณคดีมิได้เกิดขึ้นทุกรัชกาล เพราะฉ
สมัยของวรรณคดีไทยอาจเรียกตามพระนามของพระมหากษัตริย
วรรณคดีเกิดขึ้นก็ได้ แต่ในที่นี้จะแบ่งโดยอิงตามลำาดับเวลาตาม
ประวัติศาสตร์ของชาติไทยเป็นหลัก ได้ดังต่อไปนี้
๑. วรรณคดีส มัย สุโ ขทัย วรรณคดีสมัยสุโขทัย เริ่มต
รัชกาลของพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช ที่มีการ
ประดิษฐ์ลายสือไทยขึ้น ใน พ.ศ. ๑๘๒๖ จนถึงรัชกาลของพระม
ธรรมราชาที่ ๔ สุโขทัยตกอยู่ใต้อำานาจ กรุงศรีอยุธยา ในพ
๑๙๒๑
๒. วรรณคดีส มัย อยุธ ยา ในสมัยนี้แบ่งเป็นยุคย่อยได้อ
สมัย คือ
๒.๑ สมัย อยุธ ยาตอนต้น เริ่มตั้งแต่การสถาปนากรุง
ศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในสมัยสมเด็จพระรามา-
ธิบดีที่ ๑(อู่ทอง) ประมาณปี พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึงสมัยสมเด็จพระเจ้า
- 17. ปราสาททอง ใน พ.ศ. ๒๑๙๘
๒.๒ สมัย อยุธ ยาตอนกลาง เริ่มตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ
ทรงธรรมจนถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
๒.๓ สมัย อยุธ ยาตอนปลาย เริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่ห
บรมโกศ ประมาณ พ.ศ. ๒๒๗๕ จนกระทั่ง
เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ใน พ.ศ. ๒๓๑๐
๓. วรรณดคีส มัย กรุง ธนบุร ี เกิดขึ้นในสมัยกรุงธนบุร
ราชธานี ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๑๐ – พ.ศ. ๒๓๒๕
๔. วรรณคดีส มัย กรุง รัต นโกสิน ทร์ แบ่งออกตามพัฒนา
ของวรรณคดี ได้ ๒ ระยะ คือ
๔.๑ สมัย กรุง รัต นโกสิน ทร์ต อนต้น เริ่มตั้งแต่สถาปน
รัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ใน พ.ศ.
๒๓๒๕ จนกระทั่งปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าน
ใน พ.ศ. ๒๓๖๗
๔.๒ สมัย รัต นโกสิน ทร์ต อนกลาง เริ่มในระหว่างรัชก
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
จนกระทั่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว คือระหว่า
พ.ศ. ๒๓๖๗ – พ.ศ. ๒๔๗๕
๔.๓ สมัย รัต นโกสิน ทร์ป ัจ จุบ น (หลัง การเปลีย นแป
ั ่
การปกครอง) เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง
การปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นการปกครอ
- 18. ประชาธิปไตย ในพ.ศ. ๒๔๗๕ ถึงปัจจุบัน
แหล่ง ข้อ มูล :
ประพันธ์ เรืองณรงค์และคณะ. กลุ่ม สาระภาษาไทย ช่ว ง
๔(ม. ๔-๖). กรุงเทพมหานคร :
ประสานมิตร, ๒๕๔๖.
พิชิต อัคนิจ. วรรณกรรมไทยสมัย สุโ ขทัย – กรุง ศรีอ ย
กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, ๒๕๓๖.
ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคณะ. หนัง สือ เรีย นสาระการเร
พื้น ฐาน กลุ่ม สาระภาษาไทย ภาษาไทย
ม.๔ เล่ม ๑. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๔๖.
เสนีย์ วิลาวรรณและคณะ. ประวัต ว รรณคดี ๑.
ิ
กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๔๒.