SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
สุ วรรณภูมิเป็ นแหล่งอารยธรรมและการเพาะปลูกมานาน
นับสิ บปี คนไทยสมัยโบราณส่ วนใหญ่ทาดินไม่ได้ “ทาขาย”
อย่างจริ งจัง การเกษตรดั้งเดิมจึงเป็ นเกษตรธรรมชาติที่ค่อย ๆ
พัฒนามาพร้อมกับวัฒนธรรมแบบภูมิปัญญา แต่ปัจจุบนนี้ เรา ั
มีพลเมืองมากขึ้น ต้องการอาหารและปั จจัยอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาก
สิ นค้าเกษตรต้องผลิตมากขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการของ
ผูบ ริ โ ภคและโรงงานอุ ต สาหกรรม ต้อ งอาศัย ความรู ้ แ ละ
   ้
เทคโนโลยีที่ทนสมัยต่าง ๆ
                 ั
                       นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
เพื่อให้ สมาชิกทังหมดในชุมชนได้ มีทางเลือกในการใช้ ชีวิตให้ สอดคล้ อง
                 ้
กลมกลืนกับธรรมชาติ ได้ เจริญสติกบการทางาน และผลผลิตที่ได้ ยงได้
                                       ั                               ั
นามาใช้ บริโภคและเมื่อเหลือเราก็นาไปจาหน่ายได้ เปาหมายในอนาคต
                                                         ้
ของมูลนิธิฯ ยังตังใจไว้ วาพื ้นที่แห่งนี ้จะเป็ นแหล่งในการศึกษา เรี ยนรู้
                   ้     ่
เทคนิคการทาสวนเกษตรแบบชีวภาพขนาดใหญ่เพื่อการพึงพาตนเอง ของ    ่
ทุกๆ ผู้คนและองค์กรต่างๆที่สนใจ
งานสวนเกษตรฯ จัดเป็ นกิจกรรมการเจริญสติที่สาคัญอีกงานหนึง การ        ่
เจริญสติจะเข้ าไปอยูในทุกๆ กิจกรรมในชีวิตประจาวันฝึ กเรี ยนรู้ที่จะอยูกบ
                     ่                                                     ่ ั
ปั จจุบน กับการงาน กับการเคลื่อนไหวอยูเ่ สมอ ความตึงเครี ยดทางจิตใจ
       ั
จะลดลง คุณภาพเหล่านี ้ก็จะนาไปสู่ สภาวะแห่งความสงบ ตื่นรู้ และผ่อน
คลาย ที่จะช่วยให้ มีคณภาพชีวิตที่ดี การงานมีประสิทธิภาพและมีชีวิตที่
                       ุ
สร้ างสรรค์                   นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
งานสวนเกษตรฯ จัดเป็ นกิจกรรมการเจริ ญสติที่สาคัญอีกงานหนึง การเจริ ญสติ
                                                                 ่
จะเข้ าไปอยูในทุกๆ กิจกรรมในชีวิตประจาวันฝึ กเรี ยนรู้ที่จะอยูกบปั จจุบน กับ
              ่                                              ่ ั       ั
การงาน กับการเคลื่อนไหวอยูเ่ สมอ ความตึงเครี ยดทางจิตใจจะลดลง คุณภาพ
เหล่านี ้ก็จะนาไปสู่ สภาวะแห่งความสงบ ตื่นรู้ และผ่อนคลาย ที่จะช่วยให้ มี
คุณภาพชีวิตที่ดี การงานมีประสิทธิภาพและมีชีวิตที่สร้ างสรรค์

สมาชิกทุกคนจะได้ ทางานด้ านต่างๆ ที่เป็ นประโยชน์ตอส่วนรวม เช่นงานสวน
                                                      ่
งานซ่อมบารุง ทาความสะอาด ดูแลรักษาสภาพแวดล้ อมที่อยูร่วมกัน ฯลฯ การ
                                                                 ่
ทางานมือเหล่านี ้จะทาให้ เราได้ เคลื่อนไหวร่างกาย เป็ นอิสระจากความคิด และ
ช่วยให้ เราได้ ค้นพบตัวเองท่ามกลางการใช้ ชีวิตร่วมกับผู้อื่น รู้วาจะปรับตัวให้
                                                                   ่
เหมาะสมกับชุมชนอย่างไร แล้ วช่วยให้ เราภูมิใจในตัวเองและเรี ยนรู้ถึงคุณค่า
ของตัวเองที่จะทาสิงต่างๆให้ สาเร็ จจากการงานเหล่านี ้ด้ วย
                    ่
                               นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
ั
    การเกษตรแผนใหม่กบการใช้ทรัพยากรแบบยังยืน
                                        ่
การเกษตรในปั จจุบนได้ เพิ่มการทาลายทรัพยากรต่าง ๆ ดังนี ้
                 ั

1. การเพิ่มพื ้นที่โดยบุกรุกป่ า การปรับเปลี่ยนป่ าธรรมชาติเป็ นสวนป่ า เป็ นต้ น หรื อเสียพื ้นที่ป่าไปกับ
โครงการอ่างเก็บน ้า ฯลฯ
2. การใช้ น ้ามันเชื ้อเพลิงกับเครื่ องจักรกลการเกษตรต่าง ๆ และการขนส่งพืชผล (ในอดีตไปทางเรื อ)
3. การใช้ น ้าจานวนมหาศาลในการทานาปรัง
4. โรงงานอุตสาหกรรมเกษตรที่ไม่ได้ คานึงถึงการทาลายแหล่งน ้าธรรมชาติ
5. ภูมิปัญญาท้ องถิ่นกับวัฒนธรรม ซึงเป็ นทรัพยากรชุมชน ได้ คอย ๆ หายไป
                                          ่                      ่

การปรับเปลี่ยนวิธีทาการเกษตรให้ ทนสมัยเป็ นเรื่ องจาเป็ น แต่ต้องพิจารณาอย่างชาญฉลาดและไม่ขาด
                                 ั
ความรับผิดชอบ




                                            นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
เกษตรกรรมยังยืนเป็ นวิถีเกษตรกรรมที่ฟืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและดารงรักษาไว้ ซง
                  ่                       ้                                         ึ่
ความสมดุลของระบบนิเวศ สามารถผลิตอาหารที่มีคณภาพและพอเพียงตามความ
                                                    ุ
จาเป็ นพื ้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรและผู้บริโภค พึงพาตนเองได้ ในทาง
                                                               ่
เศรษฐกิจ รวมทังเอื ้ออานวยให้ เกษตรกรและชุมชนท้ องถิ่นสามารถพัฒนาได้ อย่าง
                    ้
เป็ นอิสระ ทังนี ้เพื่อความผาสุกและความอยูรอดของมวลมนุษย์ชาติโดยรวม
              ้                             ่
แต่ที่ชดเจนและทาให้ ผมเข้ าใจได้ ง่าย เป็ นพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระ
       ั
เจ้ าอยูหวเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ตอนที่พระองค์ทานเสด็จไปพระราชทานปริญญาที่แม่
         ่ ั                                  ่
โจ้ พระองค์ทานทรงอธิบายภาพของระบบเกษตรยังยืนไว้ ชดเจนว่า
                ่                                 ่       ั
บ้ านเมืองไทยของเรานี ้ถึงจะมีรายได้ ทางอื่นอยูมาก แต่ก็ต้องถือว่าเลี ้ยงตัวอยูด้วย
                                                ่                             ่
การเกษตร เพราะฉะนันจึงมีความจาเป็ นตลอดไปที่จะต้ องทานุบารุงเกษตรกรรมทุก
                          ้
สาขาและเกษตรกรทุกระดับให้ พฒนาก้ าวหน้ าอยูเ่ สมอ เพื่อให้ ผลผลิตการเกษตรมี
                                  ั
คุณภาพสูงขึ ้น โดยไม่ผลาญทรัพยากรให้ เปลืองเปล่า

                                  นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
จะเห็นได้ ว่าเกษตรยั่งยืนไม่ ได้ มีแต่ องค์ ประกอบในเรื่ องความสมดุลของระบบนิเวศและ
สิ่งแวดล้ อมเท่ านัน แต่ จะต้ องมีอีกองค์ ประกอบหนึ่งควบคู่กันไปด้ วย คือ จะต้ องช่ วย
                    ้
ยกระดับมาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ ดีขึน และควร           ้
ต่ อเนื่องไปถึงรุ่ นลูกรุ่ นหลานด้ วย จึงจะเรี ยกได้ ว่ามีความ “ยั่งยืน” ในการทาการเกษตร
อย่ างแท้ จริง
เกษตรยั่งยืนเป็ น concept ซึ่งมีเทคนิควิธีการและรู ปแบบต่ างๆ หลากหลายให้
สามารถนาไปประยุกต์ ใช้ ได้ ทังกับเกษตรกรรายย่ อยรวมไปถึงบรรดาธุรกิจการเกษตร
                                   ้
รายใหญ่ ๆ
ถ้ าคิดแบบเข้ าข้ างตัวเองเกษตรเชิงเดี่ยวหรื อเกษตรเชิงการค้ าก็นับได้ ว่าเป็ นเกษตร
ยั่งยืน ถ้ าวิธีการทาการเกษตรของเราเกือหนุนระบบนิเวศและสิ่งแวดล้ อม จะทาได้
                                             ้
อย่ างไรนันคงต้ องศึกษาเพิ่มเติมกันต่ อไป ทุกวันนีได้ วางแผนชีวิตไว้ ๓ ขัน เริ่มจาก
            ้                                           ้                     ้
เกษตรแบบพอมีพอกินแล้ วจะค่ อยๆ พัฒนาไปเป็ นเกษตรแบบอยู่ดีกินดี และเปาหมาย          ้
สุดท้ าย (ถ้ าเป็ นไปได้ ) ก็คือ เกษตรแบบมั่งมีศรี สุข

                                  นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21

More Related Content

Similar to เศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรแบบยั่งยืน

กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยง
กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงกลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยง
กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงfreelance
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงsudza
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงnarudon
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง sapay
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงjo
 
เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่THESKYsorha
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงsombat nirund
 
เศรษฐกิจพอเพียงPpt
เศรษฐกิจพอเพียงPptเศรษฐกิจพอเพียงPpt
เศรษฐกิจพอเพียงPptpronprom11
 
โครงการเกษตร4 7
โครงการเกษตร4 7โครงการเกษตร4 7
โครงการเกษตร4 7Ploy Benjawan
 
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทย
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทยภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทย
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทยsomporn Isvilanonda
 
โครงการ การออม
โครงการ การออมโครงการ การออม
โครงการ การออมzeenwine
 
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวง
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวงความพอเพียงแนวทางพ่อหลวง
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวงKruwaw-ru Kan
 
ไอเอส1
ไอเอส1ไอเอส1
ไอเอส10866589628
 
เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่Chung Bowji
 
เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่Chung Bowji
 
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุป
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุปบ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุป
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุปfreelance
 

Similar to เศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรแบบยั่งยืน (20)

กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยง
กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยงกลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยง
กลุ่มควายโบ้ --พลังงานหมุนเวียนกับเศรษฐกิจพอเพียง เชื่อมโยง
 
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่เกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรทฤษฎีใหม่
 
เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียงเศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
 
Curri 02 11
Curri 02 11Curri 02 11
Curri 02 11
 
เศรษฐกิจพอเพียงPpt
เศรษฐกิจพอเพียงPptเศรษฐกิจพอเพียงPpt
เศรษฐกิจพอเพียงPpt
 
002
002002
002
 
โครงการเกษตร4 7
โครงการเกษตร4 7โครงการเกษตร4 7
โครงการเกษตร4 7
 
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทย
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทยภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทย
ภาพอนาคตของเกษตรกรรมไทย
 
โครงการ การออม
โครงการ การออมโครงการ การออม
โครงการ การออม
 
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวง
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวงความพอเพียงแนวทางพ่อหลวง
ความพอเพียงแนวทางพ่อหลวง
 
ไอเอส1
ไอเอส1ไอเอส1
ไอเอส1
 
5
55
5
 
เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่
 
เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่เกษตรทฤษฏีใหม่
เกษตรทฤษฏีใหม่
 
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุป
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุปบ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุป
บ้านหลังเขียว --พลวัตชุมชนบ้านเปร็ดในภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สรุป
 

เศรษฐกิจพอเพียง การเกษตรแบบยั่งยืน

  • 1.
  • 2. สุ วรรณภูมิเป็ นแหล่งอารยธรรมและการเพาะปลูกมานาน นับสิ บปี คนไทยสมัยโบราณส่ วนใหญ่ทาดินไม่ได้ “ทาขาย” อย่างจริ งจัง การเกษตรดั้งเดิมจึงเป็ นเกษตรธรรมชาติที่ค่อย ๆ พัฒนามาพร้อมกับวัฒนธรรมแบบภูมิปัญญา แต่ปัจจุบนนี้ เรา ั มีพลเมืองมากขึ้น ต้องการอาหารและปั จจัยอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาก สิ นค้าเกษตรต้องผลิตมากขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการของ ผูบ ริ โ ภคและโรงงานอุ ต สาหกรรม ต้อ งอาศัย ความรู ้ แ ละ ้ เทคโนโลยีที่ทนสมัยต่าง ๆ ั นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
  • 6. เพื่อให้ สมาชิกทังหมดในชุมชนได้ มีทางเลือกในการใช้ ชีวิตให้ สอดคล้ อง ้ กลมกลืนกับธรรมชาติ ได้ เจริญสติกบการทางาน และผลผลิตที่ได้ ยงได้ ั ั นามาใช้ บริโภคและเมื่อเหลือเราก็นาไปจาหน่ายได้ เปาหมายในอนาคต ้ ของมูลนิธิฯ ยังตังใจไว้ วาพื ้นที่แห่งนี ้จะเป็ นแหล่งในการศึกษา เรี ยนรู้ ้ ่ เทคนิคการทาสวนเกษตรแบบชีวภาพขนาดใหญ่เพื่อการพึงพาตนเอง ของ ่ ทุกๆ ผู้คนและองค์กรต่างๆที่สนใจ งานสวนเกษตรฯ จัดเป็ นกิจกรรมการเจริญสติที่สาคัญอีกงานหนึง การ ่ เจริญสติจะเข้ าไปอยูในทุกๆ กิจกรรมในชีวิตประจาวันฝึ กเรี ยนรู้ที่จะอยูกบ ่ ่ ั ปั จจุบน กับการงาน กับการเคลื่อนไหวอยูเ่ สมอ ความตึงเครี ยดทางจิตใจ ั จะลดลง คุณภาพเหล่านี ้ก็จะนาไปสู่ สภาวะแห่งความสงบ ตื่นรู้ และผ่อน คลาย ที่จะช่วยให้ มีคณภาพชีวิตที่ดี การงานมีประสิทธิภาพและมีชีวิตที่ ุ สร้ างสรรค์ นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
  • 7. งานสวนเกษตรฯ จัดเป็ นกิจกรรมการเจริ ญสติที่สาคัญอีกงานหนึง การเจริ ญสติ ่ จะเข้ าไปอยูในทุกๆ กิจกรรมในชีวิตประจาวันฝึ กเรี ยนรู้ที่จะอยูกบปั จจุบน กับ ่ ่ ั ั การงาน กับการเคลื่อนไหวอยูเ่ สมอ ความตึงเครี ยดทางจิตใจจะลดลง คุณภาพ เหล่านี ้ก็จะนาไปสู่ สภาวะแห่งความสงบ ตื่นรู้ และผ่อนคลาย ที่จะช่วยให้ มี คุณภาพชีวิตที่ดี การงานมีประสิทธิภาพและมีชีวิตที่สร้ างสรรค์ สมาชิกทุกคนจะได้ ทางานด้ านต่างๆ ที่เป็ นประโยชน์ตอส่วนรวม เช่นงานสวน ่ งานซ่อมบารุง ทาความสะอาด ดูแลรักษาสภาพแวดล้ อมที่อยูร่วมกัน ฯลฯ การ ่ ทางานมือเหล่านี ้จะทาให้ เราได้ เคลื่อนไหวร่างกาย เป็ นอิสระจากความคิด และ ช่วยให้ เราได้ ค้นพบตัวเองท่ามกลางการใช้ ชีวิตร่วมกับผู้อื่น รู้วาจะปรับตัวให้ ่ เหมาะสมกับชุมชนอย่างไร แล้ วช่วยให้ เราภูมิใจในตัวเองและเรี ยนรู้ถึงคุณค่า ของตัวเองที่จะทาสิงต่างๆให้ สาเร็ จจากการงานเหล่านี ้ด้ วย ่ นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
  • 8. การเกษตรแผนใหม่กบการใช้ทรัพยากรแบบยังยืน ่ การเกษตรในปั จจุบนได้ เพิ่มการทาลายทรัพยากรต่าง ๆ ดังนี ้ ั 1. การเพิ่มพื ้นที่โดยบุกรุกป่ า การปรับเปลี่ยนป่ าธรรมชาติเป็ นสวนป่ า เป็ นต้ น หรื อเสียพื ้นที่ป่าไปกับ โครงการอ่างเก็บน ้า ฯลฯ 2. การใช้ น ้ามันเชื ้อเพลิงกับเครื่ องจักรกลการเกษตรต่าง ๆ และการขนส่งพืชผล (ในอดีตไปทางเรื อ) 3. การใช้ น ้าจานวนมหาศาลในการทานาปรัง 4. โรงงานอุตสาหกรรมเกษตรที่ไม่ได้ คานึงถึงการทาลายแหล่งน ้าธรรมชาติ 5. ภูมิปัญญาท้ องถิ่นกับวัฒนธรรม ซึงเป็ นทรัพยากรชุมชน ได้ คอย ๆ หายไป ่ ่ การปรับเปลี่ยนวิธีทาการเกษตรให้ ทนสมัยเป็ นเรื่ องจาเป็ น แต่ต้องพิจารณาอย่างชาญฉลาดและไม่ขาด ั ความรับผิดชอบ นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
  • 9. เกษตรกรรมยังยืนเป็ นวิถีเกษตรกรรมที่ฟืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและดารงรักษาไว้ ซง ่ ้ ึ่ ความสมดุลของระบบนิเวศ สามารถผลิตอาหารที่มีคณภาพและพอเพียงตามความ ุ จาเป็ นพื ้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรและผู้บริโภค พึงพาตนเองได้ ในทาง ่ เศรษฐกิจ รวมทังเอื ้ออานวยให้ เกษตรกรและชุมชนท้ องถิ่นสามารถพัฒนาได้ อย่าง ้ เป็ นอิสระ ทังนี ้เพื่อความผาสุกและความอยูรอดของมวลมนุษย์ชาติโดยรวม ้ ่ แต่ที่ชดเจนและทาให้ ผมเข้ าใจได้ ง่าย เป็ นพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระ ั เจ้ าอยูหวเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ตอนที่พระองค์ทานเสด็จไปพระราชทานปริญญาที่แม่ ่ ั ่ โจ้ พระองค์ทานทรงอธิบายภาพของระบบเกษตรยังยืนไว้ ชดเจนว่า ่ ่ ั บ้ านเมืองไทยของเรานี ้ถึงจะมีรายได้ ทางอื่นอยูมาก แต่ก็ต้องถือว่าเลี ้ยงตัวอยูด้วย ่ ่ การเกษตร เพราะฉะนันจึงมีความจาเป็ นตลอดไปที่จะต้ องทานุบารุงเกษตรกรรมทุก ้ สาขาและเกษตรกรทุกระดับให้ พฒนาก้ าวหน้ าอยูเ่ สมอ เพื่อให้ ผลผลิตการเกษตรมี ั คุณภาพสูงขึ ้น โดยไม่ผลาญทรัพยากรให้ เปลืองเปล่า นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21
  • 10. จะเห็นได้ ว่าเกษตรยั่งยืนไม่ ได้ มีแต่ องค์ ประกอบในเรื่ องความสมดุลของระบบนิเวศและ สิ่งแวดล้ อมเท่ านัน แต่ จะต้ องมีอีกองค์ ประกอบหนึ่งควบคู่กันไปด้ วย คือ จะต้ องช่ วย ้ ยกระดับมาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ ดีขึน และควร ้ ต่ อเนื่องไปถึงรุ่ นลูกรุ่ นหลานด้ วย จึงจะเรี ยกได้ ว่ามีความ “ยั่งยืน” ในการทาการเกษตร อย่ างแท้ จริง เกษตรยั่งยืนเป็ น concept ซึ่งมีเทคนิควิธีการและรู ปแบบต่ างๆ หลากหลายให้ สามารถนาไปประยุกต์ ใช้ ได้ ทังกับเกษตรกรรายย่ อยรวมไปถึงบรรดาธุรกิจการเกษตร ้ รายใหญ่ ๆ ถ้ าคิดแบบเข้ าข้ างตัวเองเกษตรเชิงเดี่ยวหรื อเกษตรเชิงการค้ าก็นับได้ ว่าเป็ นเกษตร ยั่งยืน ถ้ าวิธีการทาการเกษตรของเราเกือหนุนระบบนิเวศและสิ่งแวดล้ อม จะทาได้ ้ อย่ างไรนันคงต้ องศึกษาเพิ่มเติมกันต่ อไป ทุกวันนีได้ วางแผนชีวิตไว้ ๓ ขัน เริ่มจาก ้ ้ ้ เกษตรแบบพอมีพอกินแล้ วจะค่ อยๆ พัฒนาไปเป็ นเกษตรแบบอยู่ดีกินดี และเปาหมาย ้ สุดท้ าย (ถ้ าเป็ นไปได้ ) ก็คือ เกษตรแบบมั่งมีศรี สุข นางสาว อานันทยา ชัยราช ม.4/7 เลขที่21