More Related Content
Similar to ไตรภูมิ Pdf (20)
ไตรภูมิ Pdf
- 2. • ผูแตง
พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไทย)เปนกษัตริยองคที่ 5 ของสุโขทัย
• ชื่อเดิม – เตภูมิกถา หรือ ไตรภูมิกถา
• ความหมาย – เรืองราวของสามโลก คือ กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ
่
• จุดมุงหมาย – ชี้ให-เห็นคุณและโทษของโลกทั้งสาม ที่มีแต1การ
แปรเปลียน ไม1แน1นอน มีแต1อนิจจลักษณะ
่
• – ชี้ให-มนุษยหาทางหลุดพ-นไปจากโลกทั้งสามเพื่อไปอยู1
ในโลกุตรภูมิ หรือนิพพาน
• – เน-นเรื่องกฎแห1งกรรม โดยเริ่มเนื้อหาจากนรกภูมิ
- 4. คุณคา
• ดานวรรณคดี – เปนหลักฐานแสดงให-เห็นว1าคนไทยรู-จักแต1งวรรณคดีตั้งแต1
สมัยสุโขทัย
• ดานศาสนา – เปนการนําเสนอปรัชญาทางพุทธศาสนา
• ดานจริยธรรม – กําหนดกรอบการปฏิบัติตนให-คนในสังคมทั้งผู-ปกครองและผู-
ถูกปกครอง ทําให-สังคมสงบสุข
• ดานประเพณีและวัฒนธรรม – แสดงให-เห็นความเชื่อที่ตกทอดมาสู1ประเพณี
และวัฒนธรรมในป=จจุบัน เช1น
• - การจัดดอกไม-ธูปเทียนให-คนตายก1อนป?ดฝาโลง เพื่อให-ผู-ตายนําดอกไม-นั้นไป
สักการะพระจุฬามณีเจดียในสวรรค
• - การเผาศพในเมรุเปรียบเสมือนการเดินทางขึ้นเขาพระสุเมรุไปสู1สวรรค
• ดานศิลปะ – ก1อให-เกิดงานจิตรกรรมและสถาป=ตยกรรมตามแผนภูมิจักรวาลใน
เรื่องไตรภูมิพระร1วง
- 5. แนวคิด / การใชภาษา
• แนวคิด – การเกิดในท-องมารดาเปนทุกขแบบหนึ่ง ไม1ใช1เรือง
่
น1ายินดีเลย
• – กวีมีความรูเรืองการกําเนิดมนุษยตามแบบวิทยาศาสตร
่
• การใชภาษา – มีการใช-คําเปนจังหวะน1าฟ=ง
• – มีการใช-คําสัมผัสคล-องจอง
• – มีการใช-โวหารภาพพจน โดยเฉพาะอุปมาโวหาร
- 6. จุดมุงหมายในการแตง / ลักษณะคําประพันธ
• มี ๒ ประการ เพื่อเทศนาโปรดพระมารดา เปนการ
เจริญธรรมกตัญEูประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง เพื่อใช-สั่ง
สอนประชาชนให-มีคุณธรรม เข-าใจพุทธศาสนา และช1วยกัน
ดํารงพุทธศานาไว-ให-มั่นคง
• ลักษณะคําประพันธ์
• ร้ อยแก้ ว ประเภทความเรี ยงสํานวนพรรณนา
- 7. เนื้อหา/สาระสําคัญ
• หนังสือไตรภูมิพระร1วง เปนวรรณคดีพุทธศาสนา ที่พญาลิ
ไททรงรวบรวมเนื้อหาสาระจากคัมภีร็ต1าง ๆ ในพุทธศาสนา ทั้ง
พระไตรป?ฎก อรรถกถา และอืน ๆ ไม1นอยกว1า ๓๐ คัมภีร จึงจัด
่ -
ได-ว1าเปนพระราชนิพนธประเภทค-นคว-ารวบรวมที่ดีเล1มหนึ่ง เนื้อ
เรื่องเริ่มต-นด-วยคาถานมัสการเปนภาษาบาลี มีบานแพนกบอกชื่อผู-
แต1ง วันเดือนปIที่แต1ง ชื่อคัมภีรต1าง ๆ บอกจุดมุงหมายในการ
1
แต1ง แล-วจึงกล1าวถึงภูมิทั้ง ๓ คําว1า เตภูมิ หรือ ไตรภูมิ แปลว1า
สามแดน คือ กามภูมิ รูปภูมอรูปภูมิ ทั้ง ๓ ภูมิ แบ1งออกเปน ๘
ิ
กัณฑ (กัณฑ = เรื่อง,หมวด,ตอน)
- 8. ๑. กามภูมิ
• เปนที่กําเนิดของชีวิตทั้งหลายที่ยังลุ1มหลงอยู1ใน
กามเปนแดนสุขสบายและแดนที่เปนทุกขปะปนกัน ผูที่ -
เกิดในภูมิต1าง ๆ ผู-ที่เกิดในภูมิต1าง ๆ ในกามภูมิ เพราะ
ผลกรรมของตนเปนใหญ1กามภูมิแบ1งออกเปน ๑๑
ภูมิ ได-แก1 อบายภูมิ ๔ ภูมิ มนุษย ๑ ภูมิ และ
สวรรค ๖ ภูมิ การพรรณนากามภูมิแบ1งออกเปน ๖
กัณฑ
- 9. ๑. กามภูมิ (ทั้ง 6 ภูมิ)
• ๑.๑ นรกภูมิ เป็ นแดนของสัตว์นรก
๑.๒ ดิรัจแนภูมิ เป็ นแดนของสัตว์ที!เจริ ญตามขวาง
๑.๓ เปตภูมิ เป็ นแดนของเปรตที!เคยเป็ นมนุษย์และทํา
ความชัว เกิดเป็ นเปรต
!
๑.๔ อสุรกายภูมิ เป็ นแดนของยักษ์ มารหรื อผีที!หลอก
มนุษย์ให้ ตกใจกลัว
๑.๕ มนุสสภูมิ เป็ นแดนของมนุษย์
๑.๖ ฉกามาพจร เป็ นแดนของเทวดาที!ยงเกี!ยวข้ องในกาม
ั
มี ๖ ชัน คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามะ
1
ดุสต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวดี
ิ
- 10. ๒. รูปภูมิ
• หรื อรูปาวจรภูมิ เป็ นที!อยู่ของพรหมมีรูป เรี ยกว่า
รูปพรหม ไม่มีเพศ มีรูปงามบริ สทธิ9 มีแสง สว่างรุ่งเรื องยิ!ง
ุ
กว่าเทวดาทังปวง มีเสียงไพเราะ และมีอายุยืนหลายพันปี
1
ทิพย์ มีทงหมด ๑๖ ชัน (โสฬสพรหม) จําแนกออกตามชัน
ั1 1 1
ของฌานที!บคคลได้ บรรลุ เรี ยงลําดับ ดังนี 1 ปริ สชชา ปโรหิต
ุ ั
ตา มหาพรหมา ปริ ตตาภา อัปปมานาภาอาภัสสรา ปริ ตตา
สุภา อัปปมาณาสุภา สุภกิณาหา เวหัปผลา อสัญญิสตตาอ ั
เวหา ตัปปา สุทสสา สุทสสี อกนิฏฐา รูปภูมิที!เรี ยกว่า มหา
ั ั
สุทธาวาส คือรูปภูมิ ๕ ชันสุดท้ าย (ชันที! ๑๑-๑๖) เป็ นภูมิที!
1 1
ไม่ถกทําลายด้ วยไฟบรรลัยกัลป
ู ์
- 11. ๓. อรูปภูมิ
• หรืออรูปาวจรภูมิ เปนแดนของพรหม
ไม1มีรูป มีแต1จตเท1านั้น แบ1งออกเปน ๔
ิ
ชั้น ได-แก1 อากาสานัญจายตนภูมิวิญญาณัญ
จายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ เนวสัญญา
นาสัญญายตนภูมิ
- 12. *~ไตรภูมิพระรวง ตอน มนุสสภูมิ~*
• การเกิดมนุษย
• ปฏิสนธิ -> กัลละ (ขนาด เศษ 1 ส1วน256 ของเส-นผม)
• 7 วัน -> อัมพุทะ (น้าล-างเนื้อ)
ํ
• 14 วัน -> เปสิ (ชินเนือ)
้ ้
• 21 วัน -> ฆนะ (ก-อนเนือ, แท1งเนื้อ ขนาดเท1าไข1ไก1)
้
• 28 วัน -> เบญจสาขาหูด (มีหัว แขน2 ขา2) ครบ 1 เดือน
• 35 วัน -> มีฝXามือ นิวมือ ลายนิ้วมือ
้
• 42 วัน -> มีขน เล็บมือ เล็บเท-า (เปนมนุษยครบสมบูรณ)
• 50 วัน -> ท1อนล1างสมบูรณ
• 84 วัน -> ท1อนบนสมบูรณ
• 184 วัน -> เปนเด็กสมบูรณ นังกลางท-องแม1 (6เดือน)
่
- 13. การคลอด / การเกิด
• การคลอด
• ท้ อง 6 เดือนคลอด - >ไม่รอด (บ่ห่อนได้ สกคาบ)
ั
• ท้ อง 7 เดือนคลอด ->ไม่แข็งแรง (บ่มิได้ กล้ าแข็ง)
• การเกิด
• มาจากสวรรค์ -> ตัวเย็น ออกมาแล้ วหัวเราะ (น่ากลัวแหะ-*-)
• มาจากนรก -> ตัวร้ อน ออกมาแล้ วร้ องไห้
• *** ลมกรรมชวาต = ลมเกิดแต่กรรม ดันให้ เด็กคลอดออกมา
- 14. กาลทัง 3
้
• กาลทั้ง 3 ได-แก1
• กาล 1 -> แรกเกิดในท-องแม1
• กาล 2 -> อยู1ในท-องแม1
• กาล 3 -> ออกจากในท-องแม1
• * คนธรรมดา -> ไม1รู-ตัว จําไม1ได-ทั้ง 3 กาล
• * พระป=จเจกโพธิเจ-า/ พระอรหันตาขีณาสพเจ-า / พระอัคร
สาวกเจ-า -> 2 กาลแรกรู-ตัว จําได- แต1ลืมกาลที่ 3
• *** ควรอิ่มสงสารแล = เกิดเปนคนควรใช-ชีวิตให-คุ-มค1า
(ประโยคสุดท-ายบท)
- 15. อุปมาโวหาร แสดงใหเห็นความทุกขของการเกิด
• - เลือดแลน้ําเหลืองย-อยลงเต็มตนทุกเมื่อแล ดุจดั่งลิงเมือฝนตก
่
แลนั่งกํามือเซาเจาอยูในโพรงไมนั้นแล
• - ในท-องแม1รอนนักหนา ดุจดังเราเอาใบตองเขาจอตน แลตมใน
-
หมอนั้นไซร
• - กุมารนั้นเจ็บเนื้อเจ็บตน ดั่งคนอันทานขังไวในไหอันคับแคบ
หนักหนา
• - กุมารอยูในท-องแม1นั้นให-เจ็บเพียงจะตายแล ดุจดั่งลูกทรายอัน
1
เพิ่งออกแล อยูธรหอยผิบมิดุจดั่งคนอันเมาเหลา(เหมือนลูกทราย
โดนคนเมาเอาไปโยนเล1น) ผิบมิดุจดั่งลูกงูอันหมองูเอาไปเลนนั้นแล
- 16. อุปมาโวหาร แสดงใหเห็นความทุกขของการเกิด
• - เมือถึงจักคลอด ดุจดั่งฝูงนรกอันยมบาลกุมตีนแลหยอนหัวลง
่
ในขุมนรก อันลึกไดแลรอยวา
• - เมือกุมารคลอดออกจากท-องแม1 ออกแลไปบ1มิพ-นตน ตนเย็น(แม1)
่
นั้นแลเจ็บเนื้อเจ็บตนนักหนา ดั่งชางสารทานชักทานเข็นออกจาก
ประตูลักษ(รูกุญแจ)อันนอยนั้น
• - แลคับตัวออกยากลําบากนั้นแล ผิบ1มิดั่งนั้น ดั่งคนผูอยูในนรก
แล แล ภูเขาอันชื่อคังไคยบรรพตหีบ(บีบ)แลเหง(ทับ) และบดบี้
นั้นแล
- 17. คุณคาของเรื่อง
๑. ดานภาษาและสํานวนโวหาร
• เปนวรรณคดีเล1มแรกที่เรียบเรียงในลักษณะการค-นคว-าจาก
คัมภีรต1าง ๆ ถึง ๓๐คัมภีร จึงมีศัพททางศาสนาและภาษาไทยโบราณ
อยู1มาก สามารถนํามาศึกษาการใช-ภาษาในสมัยกรุงสุโขทัย ตลอดจน
สํานวนโวหารต1าง ๆ ไตรภูมิพระร1วงมีสํานวนหนักไปในทางศาสนาโวหาร
และพรรณนาโวหาร ผูกประโยคยาว และใช-ถ-อยคําพรรณนา
ดีเด1น สละสลวยไพเราะ ก1อให-เกิดความรู-สึกด-านอารมณสะเทือนใจและ
ให-จนตภาพหรือภาพในใจอย1างเด1นชัด เช1น " บางเตนบางรําบาง
ิ
ฟอน ระบําบันลือเพลงดุรยดนตรี บางดีดบางสีบางตีบางเปา บาง
ิ
ขับศัพทสําเนียง หมูนักคุณจุณกันไปเดียรดาษพื้น ฆองกลองแตร
สังขระฆังกังสดาลมโหระทึกกึกกองทํานุกดี ที่มีดอกไมอันตระการ
ตาง ๆ สิ่ง มีจวงจันทนกฤษณาคันธาทํานอง ลบองดังเทพยดาใน
เมืองฟา สนุกนี้ทุกเมื่อบําเรอกันบมิวาย "
- 18. คุณคาของเรื่อง
๒. ดานความรู
• ๒.๑ ดานวรรณคดี ทําให-คนชั้นหลังได-รับความรู-ทางวรรณคดี อัน
เปนความคิดของคนโบราณ ซึ่งจะเปนพื้นฐานของวรรณคดีไทย เช1น
พระอินทร แท1นบัณพุกัมพล ช-างเอราวัณ เขาพระสุเมรุ ปXาหิม-
พานตต-นปาริชาติ ต-นนารีผล นรก สวรรค เปนต-น
• ๒.๒ ดานภูมิศาสตร เปนความรู-ทางภูมิศาสตรของคนโบราณ
โดยเชื่อว1าโลกมีอยู1 ๔ ทวีป ได-แก1 ชมพูทวีป บุรพวิเทหทวีป
อุตตรกุรุทวีป และอมรโคยานทวีป โดยมีเขาพระสุเมรุเปน
ศูนยกลาง
- 19. คุณคาของเรื่อง
• ๓. ดานสังคมและวัฒนธรรม
• ๓.๑ คําสอนทางศาสนา ไตรภูมิพระร1วงสอนให-คน
ทําบุญละบาป เช1น การทําบุญรักษาศีลเจรฐสมาธิภาวนาจะได-ขึ้น
สวรรคการทําบาปจะตกนรก แนวความคิดนี้มีอิทะพลเหนือนจิตใจ
ของคนไทยมาช-านาน เปนเสมือนแนวการสอนศีลธรรมของสังคม ให-
คนปฏิบัติชอบซึ่งเปนประโยชนต1อการอยู1ร1วมกันในสังคม
• ๓.๒ คานิยมเชิงสังคม อิทธิพลของหนังสือเล1มนี้ให-
ค1านิยมเชิงสังคมต1อคนไทย ให-ตั้งมั่นและยึดมั่นในการเปนคนใจบุญ
มีเมตตากรุณา รักษศีล บําเพ็ญทาน รู-จักเสียสละ เชื่อมั่นใน
ผล แห1งกรรม
- 20. คุณคาของเรื่อง
• ๓. ดานสังคมและวัฒนธรรม
• ๓.๓ ศิลปกรรม จิตรกรนิยมนําเรื่องราว
และความคิดในไตรภูมิพระร1วงไปเขียนภาพสีไว-ในโบสถ
วิหาร โดยจะเขียนภาพนรกไว-ที่ผนังด-านล1างหรือหลัง
องคพระประธาน และเขียนภาพสวรรคไว-ที่ผนังเบื้องบน
รอบโบสถวิหาร
- 21. คุณคาของเรื่อง
• ๔. ดานอิทธิพลตอวรรณคดีอื่น
• มีหนังสืออ-างอิงทํานองไตรภูมิพระร1วง ที่มีผู-แต1ง
เลียนแบบอีกหลายเล1ม เช1น จักรวาลทีปนี ของ พระสิริมังคลา
จารยแห1งเชียงใหม1ไตรภูมิโลกวินิจฉัย ในสมัยพระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ]าจุฬาโลกมหาราช และเล1าเรื่องไตรภูมิ เปนต-น
• ไตรภูมิพระร1วงมีอิทธิพลสําคัญต1อแนวคิดของกวีรุ1น
หลัง โดยนําความคิดในไตรภูมิพระร1วงสอดแทรกในวรรณคดี
ต1าง ๆ เช1น ลิลิตโองการแช1งน้ํา มหาเวสสันดร
ชาดก รามเกียรติ์ กากีคํากลอนขุนช-างขุนแผน