ห้องสมุดหน้า99 ปัจจุบัน

ความสามารถและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ที่นามาประยุกต์ใช้ในงานธุรกิจ
๗. การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การนาภาพยนตร์ออกมาฉาย
- การออกแบบและตัดต่อภาพ
- การควบคุมคุณภาพของเสียง
- การออกแบบท่าทางเต้น
- การโฆษณา เป็นต้น

๘. การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสาร เช่น
- การนาอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนร่วมในงาน เป็นต้น

๙. การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การซื้อ-ขายหุ้น เป็นต้น

๑๐. การนาคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การหาข้อมูลข่าวสาร
- การออกแบบรูปเล่ม
- การตัดต่อข้อมูล
- การส่งไปตีพิมพ์ เป็นต้น

ประโยชน์ในการนาเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจ
มีดังนี้

๑. ประโยชน์ในเรื่องของการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น

- ใช้ในการเก็บบันทึกเกี่ยวกับประวัติของพนักงานว่า ชื่อสกุลอะไร อายุเท่าไหร่ จบการศึกษามาจากที่ไหน เคย
ทางานมาแล้วหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งทาให้ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และสะดวกในการใช้ระยะเวลาในการค้นหา
มากกว่าที่จะใช้กระดาษในการเขียนบันทึกข้อมูล

- ใช้ในบันทึกเกี่วยกับข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าว่าเป็นประเภทอะไร ชื่อสินค้าอะไร สีอะไร มีลักษณะ
รูปแบบเป็นอย่างไร ผลิตเมื่อไหร่ และมีวันหมดอายุวันไหน เป็นต้น


๒. ประโยชน์ในเรื่องของการให้บริการลูกค้า คือสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องซึ่งสามารถ
ให้บริการลูกค้าที่มาขอใช้บริการได้อย่างทันทีที่ลูกค้ามาเข้ารับการบริการ เช่น
- ใช้ในด้านงานธนาคาร เช่น การฝากถอนเงินในธนาคาร เป็นต้น
- ใช้ในด้านการศึกษา เช่น การลงทะเบียนเรียน การบันทึกผลการ
เรียน และการประการผลการเรียน เป็นต้น


๓. ประโยชน์ในเรื่องของงานวิจัย เช่น
- ใช้ในการคานวณ คือ ใช้หาค่าของตัวเลขที่มีความสลับซับซ้อน เช่น การหาค่าของสมการ การถอดราก
และยกกาลังของตัวเลข เป็นต้น ซึ่งสามารถคานวณได้อย่างแม่นยา และมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- ใช้ในการประมวลผลข้อมูลในการทดลอง และทาการสรุปผลของการวิจัย เป็นต้น


๔. ประโยชน์ในเรื่องของการเก็บรักษาสินค้า เช่น
- ทาให้สามารถควบคุมอุหภูมิของสินค้าภายในโกดังได้ ว่าสินค้าประเภทไหนต้องการอุหภูมิประมาณกี่
องศา ชอบอากาศแบบไหน เป็นต้น จึงมีส่วนช่วยในการเก็บรักษาสินค้าได้เป็นเวลานาน และทาให้เกิดการ
เสียหายของสินค้าลดน้อยลงอีกด้วย


๕. ประโยชน์ในเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า เช่น
- เมื่อป้อนข้อมูลสินค้าลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถทราบได้ทันทีเลยว่าข้อมูลของสินค้ายังมีสภาพดี
อยู่หรือไม่ และทาให้สามารถทราบวันผลิต และวันหมดอายุได้อีกด้วย


๖. ประโยชน์ในเรื่องของการคานวณเงินเดือนและค่าแรงงานของพนักงาน เช่น
- ในการคานวณเงินเดือนและค่าแรงของพนักงาน ได้มีการนาโปรแกรมสาเร็จรูปขึ้นมาใช้เฉพาะในการ
คานวณเงินเดือนและค่าแรงของพนักงาน ทาให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น


๗. ประโยชน์ในเรื่องของการทาบัญชี คือ สามารถนาโปรแกรมสาเร็จรูปทางบัญชีเข้ามาช่วยในเรื่องต่าง ๆ เช่น
- ในเรื่องของการลงบันทึกรายการทางด้านบัญชี
- ในเรื่องของการลงสต็อกสินค้า
- ในเรื่องของการจัดทางบการเงินไม่ว่าจะเป็นงบทดลอง งบกระแส
เงินสด และงบดุล งบกาไรขาดทุน

เทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุดและ
ศูนย์สารสนเทศ
ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อห้องสมุด

1. ช่วยในการบันทึกข้อมูลข่าวสาร และสารสนเทศต่างๆ ได้อย่าง
รวดเร็ว
2. บันทึกข้อมูลและสารสนเทศได้เป็นจานวนมาก
3. สามารถสืบค้นข้อมูลและสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว
4. สามารถสื่อสารไปใช้ในระยะไกลได้

เทคโนโลยีในห้องสมุดและศูนย์สารสนเทศ
1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์
1.1 โปรแกรมสานักงาน
–โปรแกรมจัดการงานเอกสาร
–โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
–โปรแกรมสเปรดชีท

1.2 โปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติแบบบูรณาการ
– ลักษณะ
• เป็นระบบเบ็ดเสร็จ
• เป็นโปรแกรมที่ทางานในระบบเครือข่าย
• เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาสาหรับงานห้องสมุดโดยเฉพาะ
• เป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นสาหรับงานห้องสมุดทุกงาน

1.2 โปรแกรมห้องสมุดอัตโนมัติแบบบูรณาการ
• ตัวอย่างโปรแกรม
– ELIB
– L Spider
– Library 2000
– นวสาร
– Alice for Window

• การพิจารณานาระบบห้องสมุดอัตโนมัตมาใช้
ิ
–เลือกขนาดโปรแกรมให้เหมาะสมกับขนาดห้องสมุด
–ให้เลือกซือระบบงานทีจาเป็นก่อน
้ ่
–ผู้ผลิตมีความมั่นคง
–หากไม่พร้อมด้านการเงินอาจใช้โปรแกรมฟรี หรือคิดขึ้นเอง

2. เทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกับระบบห้องสมุดอัตโนมัติ
– 2.1 บาร์โค้ด
– 2.2 เครื่องอ่านบาร์โค้ด
– 2.3 RFID
– 2.4 Self Checkout
– 2.6 ประตูกันขโมย
– 2.7 แถบสัญญาณแม่เหล็ก
– 2.8 เครื่องลบ / เพิ่ม สัญญาณแม่เหล็ก

2.1 บาร์โค้ด
ส่วนประกอบของบาร์โค้ด
1. ส่วนลายเส้นซึ่งเป็นลายเส้นสีขาว (โปร่งใส) และสีดา
2. ส่วนข้อมูลตัวอักษร
3. แถบว่าง

• ประเภทของบาร์โค้ด
–Smart Barcode
–Dumb Barcode
• บาร์โค้ดกับงานห้องสมุด
–บัตรประจาตัวสมาชิก (Patron/ User Card)
–เลขประจาหนังสือ (Item Barcode)

2.2 เครื่องอ่านบาร์โค้ด

2.3 RFID : Radio Frequency Identification
1. ป้ายระบุข้อมูลของวัตถุ (Tag)

2.3 RFID : Radio Frequency Identification
2. เครื่องอ่านสัญญาณความถี่วิทยุ

• RFID กับงานห้องสมุด
• บริการรับคืนวัสดุสารสนเทศ

• เรียงวัสดุสารสนเทศ

• ระบบรักษาความปลอดภัยของวัสดุสารสนเทศ

• เครื่องตรวจสอบชั้นวางวัสดุสารสนเทศ

• เครื่องบริการยืม-คืน วัสดุสารสนเทศอัตโนมัติ

• การสารวจวัสดุสารสนเทศและการจัดชั้น

ขั้นตอนการทางานของ RFID
1. Folio Tag
2. Tagging
3. Check out
4. Security Gates
5. Book Return
6. Shelf Management Reader

2.4 Self Checkout

2.6 ประตูกันขโมย

2.7 แถบสัญญาณแม่เหล็ก

2.8 เครื่องลบ / เพิ่ม สัญญาณแม่เหล็ก

3. เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล
3.1 โทรสารหรือแฟกซ์
3.2 อีเมล์
3.3 เครือข่าย ได้แก่ LAN, WAN
3.4 Z39.50
3.5 อินเทอร์เน็ต
3.6 อินทราเน็ต
3.7 web2.0 / Library 2.0

3. เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล
3.1 โทรสารหรือแฟกซ์ ใช้ในการสื่อสารข้อมูลของห้องสมุดและ
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

3.2 อีเมล์ ใช้ในการติดต่อระหว่างหน่วยงาน และใช้ในการให้บริการ
สารสนเทศแก่ผู้ใช้บริการ

3.3 เครือข่าย ได้แก่ LAN, WAN สาหรับเชื่อมโยงเครือข่ายของ
ห้องสมุดเข้ากับเครือข่ายทั้งจากภายในและภายนอกหน่วยงาน

3.4 Z39.50
–เป็นมาตรฐานกาหนดรูปแบบวิธีการสื่อสารระหว่าง
คอมพิวเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสืบค้นไปยังระบบอื่นๆ
ได้มากกว่า 1 ระบบ ได้โดยไม่ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับ
รูปแบบและข้อกาหนดของระบบที่ต้องการติดต่อด้วย

• Z39.50 กาหนดการทางานด้วย
Protocol Z39.50ทางานดังนี้
• 1. Initialization
• 2. Search • 7. Sort
• 3. Retrieval • 8. Browse
• 4. Result Set Delete • 9.Extended Services
• 5. Access Control • 10. Explain
• 6. Accounting /Resource • 11. Termination
Control

3.5 อินเทอร์เน็ต มีประโยชน์คือ
– ใช้ในการสืบค้นสารสนเทศสาขาต่างๆ
– ใช้ในการติดตามข่าวสารที่ทนสมัยต่างๆ
ั
– ผู้ใช้สามารถสืบค้นฐานข้อมูลออนไลน์ของห้องสมุดผ่านเว็บได้
– เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของห้องสมุดผ่านเว็บได้
– เป็นประโยชน์ในการทางานของบรรณารักษ์

3.6 อินทราเน็ต ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในองค์กร

3.7 web2.0 / Library 2.0
• Web 2.0 การสร้างเว็บให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม
• Library 2.0 พัฒนามาจากแนวคิดของ Web 2.0

• 3.7 web2.0

3.7 Library 2.0
– ผู้ใช้มีส่วนร่วม
– บริการแบบ “User Center Services”

3.7 Library 2.0 เครื่องมือที่ใช้ได้แก่
• Blog 60 %
• Wikis 46.7%
• RSS 73.3%
• IM 26.7%
• Social Bookmarking 33.3%


4. เทคโนโลยีภาพลักษณ์
4.1 สื่อที่ใช้ในการจัดเก็บ
4.2 ระบบจัดเก็บเอกสารด้วยคอมพิวเตอร์
–CANON Canofile
–KEYFILE
–Kodak ImageLink
–SPOOLVIEW
–INFOMA

ปัญหาการนาเทคโนโยลีสารสนเทศมาใช้ในห้องสมุด

1. ห้องสมุดขาดแคลนงบประมาณ
2. ห้องสมุดขาดแคลนบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. เทคโนโลยีมักล้าสมัยเร็ว
4. ห้องสมุดเฉพาะส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก

ห้องสมุดหน้า99 ปัจจุบัน

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

Similar to ห้องสมุดหน้า99 ปัจจุบัน

Similar to ห้องสมุดหน้า99 ปัจจุบัน (20)

More from นพ มีวงศ์ธรรม

More from นพ มีวงศ์ธรรม (9)

ห้องสมุดหน้า99 ปัจจุบัน