SlideShare a Scribd company logo
1
ยุธัญชยชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๖. ยุธัญชยชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๔๖๐)
ว่าด้วยพระราชกุมารยุธัญชัย
(พระโพธิสัตว์ทูลขอบรรพชาว่า)
[๗๓] ขอเดชะพระมหาราช
ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระองค์ผู้ทรงเป็นจอมทัพ
ซึ่งแวดล้อมไปด้วยมิตรและอามาตย์ ข้าพระองค์จักบวช ขอพระองค์ผู้สมมติเทพ
โปรดพระราชทานการบวชนั้นเถิด
(พระราชาตรัสห้ามว่า)
[๗๔] ถ้าเจ้ายังมีความพร่องด้วยกามทั้งหลาย พ่อจะเพิ่มเติมให้แก่เจ้า
พ่อจะห้ามคนที่เบียดเบียนเจ้า ลูกยุธัญชัยอย่าบวชเลย
(พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า)
[๗๕] ข้าพระองค์ไม่มีความพร่องด้วยกามทั้งหลาย
คนที่เบียดเบียนข้าพระองค์ก็ไม่มี
แต่ข้าพระองค์ปรารถนาจะกระทาที่พึ่งซึ่งชรากาจัดไม่ได้
(พระศาสดาประกาศข้อความนั้นว่า)
[๗๖] พระราชบุตรทูลวิงวอนพระราชบิดา
และพระราชบิดาก็ทรงวิงวอนพระราชบุตร ชาวนิคมก็ทูลวิงวอนว่า
พ่อยุธัญชัยกุมาร อย่าผนวชเลย พ่อเอ๋ย
(พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า)
[๗๗] ข้าแต่ทูลกระหม่อมผู้ทรงเป็ นจอมทัพ
พระองค์โปรดอย่าทรงห้ามข้าพระองค์ผู้จะบวชเลย ขอข้าพระองค์อย่าได้ชื่อว่า
เป็นผู้ประมาทเพราะกามทั้งหลาย อย่าตกอยู่ในอานาจของชราเลย
(พระมารดาตรัสว่า)
[๗๘] ลูกเอ๋ย แม่ขอร้องลูก ขอห้ามลูก แม่ต้องการเห็นลูกนานๆ
ลูกยุธัญชัย อย่าบวชเลย
(พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า)
[๗๙] อายุของมนุษย์ทั้งหลายเหมือนน้าค้างที่ยอดหญ้า
พอพระอาทิตย์ขึ้นก็แห้งไป หม่อมแม่ พระองค์อย่าทรงห้ามหม่อมฉันเลย
(พระโพธิสัตว์ทูลเชิญพระราชบิดามาแล้วกราบทูลว่า)
[๘๐] ขอเดชะพระองค์ผู้ทรงเป็ นจอมทัพ
ขอทรงให้ราชบุรุษรีบเชิญเสด็จพระราชมารดานี้ขึ้นพระราชยานเถิด
2
ขอพระราชมารดาอย่าทรงทาอันตรายแก่ข้าพระองค์
ผู้กาลังจะข้ามทางกันดารเลย
(พระเทวีทรงคร่าครวญอยู่ว่า)
[๘๑] รีบไปกราบทูลว่า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
รัมมนครจะเป็ นเมืองร้าง ถ้าพระเจ้าสัพพทัตทรงอนุญาต
ให้ยุธัญชัยราชบุตรทรงผนวชแล้ว
[๘๒] พระราชกุมารพระองค์ใดประเสริฐกว่าพระราชบุตรพันพระองค์
ยังทรงพระเยาว์ มีพระฉวีวรรณประดุจทองคา
พระราชกุมารพระองค์นี้นั้นยังทรงมีพระกาลังแข็งแรง
ทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ผนวชแล้ว
(พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า)
[๘๓] พระราชกุมารทั้ง ๒ พระองค์ คือ ยุธัญชัยกุมาร
และยุธิฏฐิลกุมารทรงละพระราชมารดาและพระราชบิดา
ตัดเครื่องข้องของมฤตยูผนวชแล้ว
ยุธัญชัยชาดกที่ ๖ จบ
---------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
ยุธัญชยชาดก
ว่าด้วย การผนวชของเจ้าชายยุธัญชัยและยุธิฏฐิละ
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร
ทรงปรารภการออกมหาภิเนษกรมณ์ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ความพิสดารว่า วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายประชุมกันในโรงธรรมสภา
กล่าวถ้อยคาสรรเสริญพระคุณของพระศาสดาว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ถ้าว่าพระทศพลจักเสด็จครองเรือนไซร้
ก็จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในห้องสกลจักรวาล มีรัตนะ ๗
ประการอย่างครบครัน ทรงสาเร็จฤทธิ์ทั้ง ๔ มีพระโอรสกว่าพันเป็นบริวาร
พระองค์ทรงสละพระราชสมบัติ อันทรงสิริเห็นปานนี้
ทรงเห็นโทษในกามทั้งหลาย
ทรงม้ากัณฐกะมีนายฉันนะเป็นสหายออกจากพระนครในเวลาเที่ยงคืน ทรงผนวช
ณ ฝั่งแม่น้านที มีนามว่าอโนมา ทรงบาเพ็ญทุกรกิริยาตลอด ๖ พระพรรษา
จึงได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ดังพระประสงค์.
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้
พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบ
จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นที่ตถาคตออกสู่มหาภิเนษกรมณ์ แม้ในกาลก่อน
3
ก็เคยละราชสมบัติในกรุงพาราณสี อันมีประมาณเนื้อที่ ๑๒ โยชน์
ออกบวชแล้วเหมือนกัน ดังนี้แล้ว
จึงทรงนาอดีตนิทานมาตรัสดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล ได้มีพระราชาพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า สัพพทัต ณ
พระนครรัมมะ. (ที่จริง กรุงพาราณสีนี้ ในอุทยชาดก มีนามว่า
สุรุนธนะ ในจุลลสุตโสมชาดก มีนามว่า สุทัศนะ ในโสณนันทชาดก มีนามว่า
พรหมวัฑฒนะ ในกัณฑหาลชาดก มีนามว่า ปุปผวดี)
แต่ในยุธัญชัยชาดกนี้ได้มีนามว่ารัมมะ
นามของพระนครนี้ได้เปลี่ยนไปในกาลบางคราวด้วยประการฉะนี้. ณ
พระนครรัมมะนั้น พระเจ้าสัพพทัตได้มีพระราชโอรสพันพระองค์
ทรงพระราชทานสถาปนาพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ทรงพระนามว่า ยุธัญชยะ เ
ป็นที่พระอุปราช.
พระอุปราชนั้นได้ทรงบาเพ็ญมหาทานทุกๆ วัน.
ครั้นกาลล่วงไปอย่างนี้ วันหนึ่ง
พระโพธิสัตว์ทรงรถอันประเสริฐแต่เช้าตรู่
เสด็จไปสู่กีฬาในพระราชอุทยานด้วยพระสิริสมบัติอันใหญ่ยิ่ง
ทอดพระเนตรหยาดน้าค้าง อันติดอยู่อย่างกับตาข่าย ที่ทาด้วยเส้นด้าย ณ ที่ต่างๆ
มียอดไม้ ยอดหญ้า ปลายกิ่งไม้ และใยแมงมุมเป็นต้น จึงตรัสถามว่า
แน่ะสารถีผู้สหายเอ๋ย นี่เขาเรียกว่าอะไรกัน ได้ทรงสดับว่า ขอเดชะ
เหล่านี้เขาเรียกกันว่าหยาดน้าค้าง อันตกลงในฤดูหิมะ พระเจ้าข้า.
ทรงเล่นในพระราชอุทยานตลอดวัน เสด็จกลับก็ต่อเมื่อเวลาสายัณห์
มิได้ทรงเห็นหยาดน้าค้างเหล่านั้นเลย ตรัสถามว่า สารถีผู้สหายเอ๋ย
หยาดน้าค้างเหล่านี้ ไปไหนหมด บัดนี้ฉันไม่เห็นมันเลย ทรงสดับว่า ขอเดชะ
หยาดน้าค้างเหล่านั้น เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นไปอยู่
ก็ละลายตกลงเหนือแผ่นดินหมดเลย พระเจ้าข้า ดังนี้แล้ว
ทรงสลดพระทัยดาริว่า แม้ชีวิตและสังขารแห่งสัตว์เหล่านี้
ก็เป็นเสมือนหยาดน้าค้างบนปลายยอดหญ้า
เรายังไม่ถูกชราพยาธิและมรณะเบียดเบียนเลยทีเดียว
ควรจะอาลาพระมารดาพระราชบิดาไปบวชดังนี้แล้ว
จึงทรงกระทาหยาดน้าค้างนั่นแลให้เป็ นอารมณ์ ทรงเห็นภพทั้ง ๓
ประดุจมีเพลิงลุกทั่วไป เสด็จมาถึงพระตาหนักของพระองค์แล้ว
ก็ทรงดาเนินไปยังพระตาหนักพระราชบิดาผู้ประทับนั่งอยู่ ณ
วินิจฉัยศาลาอันตกแต่งประดับประดาดีแล้ว ถวายบังคมพระราชบิดา ประทับยืน
ณ ส่วนข้างหนึ่ง
เมื่อจะทูลขออนุญาตบรรพชา จึงตรัสพระคาถาที่ ๑ ว่า
4
หม่อมฉันขอถวายบังคมพระองค์
ผู้เป็นจอมทัพมีมิตรและอามาตย์แวดล้อมแน่นขนัด ข้าแต่พระทูลกระหม่อม
หม่อมฉันจักบวช ขอได้โปรดทรงอนุญาตเถิด.
ลาดับนั้น พระราชาเมื่อจะทรงห้ามท่าน จึงตรัสพระคาถาที่ ๒ ว่า
ถ้าเธอยังบกพร่องด้วยกามทั้งหลาย ฉันจักเพิ่มเติมให้เต็มครบ
ผู้ใดเบียดเบียนเธอ ฉันจักห้ามปราม พ่อยุธัญชัยเอ๋ย อย่าเพิ่งบวชเลย.
พระราชกุมารทรงได้สดับพระราชดารัสนั้นแล้ว จึงตรัสพระคาถาที่ ๓
ว่า
หม่อมฉันมิได้บกพร่องด้วยกามทั้งหลายเลย
ไม่มีใครเบียดเบียนหม่อมฉัน
แต่หม่อมฉันปรารถนาจะทาที่พึ่งที่ชราครอบงาไม่ได้ พระเจ้าข้า.
พระกุมารทูลขอบรรพชาเรื่อยๆ ด้วยประการฉะนี้.
พระราชาตรัสห้ามว่า อย่าบวชเลยพ่อคุณเอ๋ย.
พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสกึ่งพระคาถาว่า
พระโอรสกราบทูลวิงวอนพระราชบิดา
พระราชบิดาหรือก็ทรงวิงวอนพระราชโอรส.
พระราชาตรัสกึ่งพระคาถาที่เหลือว่า
พ่อเอ๋ย ชาวนิคมพากันอ้อนวอนว่า ข้าแต่พระยุธัญชัย
พระองค์อย่าทรงผนวชเลย.
พระกุมารตรัสพระคาถาที่ ๕ ว่า
ข้าแต่พระราชบิดาผู้ทรงเป็ นจอมทัพ
พระองค์อย่าทรงห้ามหม่อมฉันผู้จะบวชเลย
อย่าให้หม่อมฉันได้มัวเมาอยู่ด้วยกามทั้งหลาย เป็นไปในอานาจแห่งชราเลย
พระเจ้าข้า.
เมื่อพระโพธิสัตว์ได้กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระราชาได้ทรงยอมจานน
ฝ่ายพระราชมารดาของพระโพธิสัตว์นั้น ทรงสดับว่า ข้าแต่พระเทวี
พระโอรสของพระนาง กาลังกราบทูลให้พระราชบิดาทรงอนุญาตการบรรพชาอยู่
เจ้าคะ ตรัสว่า พวกเจ้าพากันพูดเรื่องอะไรกัน ทั้งๆ ที่พระพักตร์ก็มิได้ผัด
ประทับนั่งเหนือพระวอทอง รีบเสด็จไปสู่สถานที่วินิจฉัย
เมื่อจะตรัสวิงวอน จึงตรัสคาถาที่ ๖ ว่า
ลูกเอ๋ย แม่ขอร้องเจ้าแม่ขอห้ามเจ้า แม่ปรารถนาจะเห็นเจ้านานๆ
เจ้าอย่าบวชเลยนะ พ่อยุธัญชัย.
พระราชกุมารได้สดับพระราชเสาวนีย์นั้นแล้ว จึงตรัสคาถาที่ ๗ ว่า
น้าค้างบนยอดหญ้า พระอาทิตย์ขึ้นก็เหือดแห้งไปฉันใด
อายุของมนุษย์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น ขอทูลกระหม่อมแม่ อย่าทรงห้ามฉันเลย
5
พระเจ้าข้า.
ข้าแต่ทูลกระหม่อมแม่ หยาดน้าค้างบนยอดหญ้า
พอพระอาทิตย์ขึ้นไปก็สลายแห้งหายไป มิอาจจะดารงอยู่ได้ คือตกลงดินหมด
ฉันใด ชีวิตของหมู่สัตว์เหล่านี้ก็ฉันนั้น เป็ นของนิดหน่อย เป็ นไปชั่วกาล
มิได้ตั้งอยู่นานเลย ในโลกสันนิวาสเห็นปานนี้
พระองค์จะทรงเห็นหม่อมฉันนานๆ ได้อย่างไรเล่า พระเจ้าข้า
โปรดอย่าทรงห้ามหม่อมฉันเลย.
แม้เมื่อพระโพธิสัตว์กราบทูลอย่างนี้แล้ว
พระนางก็คงตรัสอ้อนวอนแล้วๆ เล่าๆ อยู่นั่นเอง.
ลาดับนั้น พระมหาสัตว์เจ้า เมื่อจะกราบทูลเตือนพระราชบิดา
จึงตรัสพระคาถาที่ ๘ ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเสนา
ขอได้โปรดรีบตรัสให้พระราชมารดาเสด็จขึ้นสู่ยานนี้เสียเถิด
พระมารดาอย่าได้ทรงกระทาอันตรายแก่หม่อมฉัน ผู้กาลังรีบด่วนเสียเลย.
ข้าแต่พระทูลกระหม่อมผู้เป็นจอมรถ
โปรดตรัสให้คนรีบเชิญพระมารดาของหม่อมฉันนี้ เสด็จขึ้นสู่พระยาน
คือพระวอทอง พระมารดาอย่าได้ทรงทาอันตรายแก่หม่อมฉัน
ผู้กาลังจะข้ามก้าวล่วงแดนกันดาร คือชาติ ชรา พยาธิและมรณะเสียเลย.
พระราชาทรงได้สดับพระดารัสของพระโอรสแล้วตรัสว่า
นางผู้เจริญขอได้ไปเสียเถิด จงประทับนั่งเหนือวอของเธอ
ขึ้นสู่ปราสาทอันยังความยินดีให้เจริญเลยทีเดียวเถิด.
พระนางทรงสดับพระราชดารัสของพระราชานั้น เมื่อมิอาจจะประทับอยู่ได้
ทรงแวดล้อมไปด้วยหมู่นารี เสด็จไปสู่พระปราสาท
ได้ประทับยืนทอดพระเนตรสถานวินิจฉัยด้วยหมายพระทัยว่า
ลูกรักจักเป็ นไปอย่างไรเล่าหนอ.
ฝ่ายพระโพธิสัตว์เจ้า เมื่อพระมารดาเสด็จไปแล้ว
ทรงอ้อนวอนพระราชบิดาอีก. พระราชาเมื่อมิทรงอาจจะห้ามได้ ก็ทรงอนุญาตว่า
พ่อเอ๋ย ถ้าเช่นนั้น จงทาใจของเธอให้ถึงที่สุดเถิด พ่อจงผนวชเถิด.
ในเวลาที่พระราชาทรงอนุญาตแล้ว พระขนิษฐาของพระโพธิสัตว์เจ้า
พระนามว่า ยุธิฏฐิลกุมาร ถวายบังคมพระราชบิดา กราบทูลขออนุญาตว่า
ข้าแต่พระทูลกระหม่อม
ขอพระองค์โปรดอนุญาตการบรรพชาของหม่อมฉันด้วยเถิด.
พระพี่น้องทั้งสองพระองค์ถวายบังคมพระราชบิดา ละกามทั้งหลาย
มีมหาชนแวดล้อมพากันเสด็จออกจากสถานที่วินิจฉัย.
ฝ่ายพระเทวีทอดพระเนตรดูพระมหาสัตว์ ทรงพระกันแสงว่า
6
เมื่อลูกฉันผนวชแล้ว รัมมนครก็จักว่างเปล่า
จึงตรัสพระคาถาทั้ง ๒ ว่า
ท่านทั้งหลายจงช่วยวิ่งเต้นด้วยเถิด ขอความเจริญจงมีแก่ท่านเถิด
รัมมนครจักเปล่าเปลี่ยวเสียแล้ว พ่อยุธัญชัย พระเจ้าสัพพทัตทรงอนุญาตแล้วละ.
เจ้าชายพระองค์ใด เป็ นผู้ประเสริฐกว่ามนุษย์ทั้งหลาย
ยังกาลังหนุ่มแน่นเปล่งปลั่งดังทองธรรมชาติ
เจ้าชายพระองค์นั้นมีพระกาลังแข็งแรง มีผ้านุ่งห่มย้อมด้วยน้าฝาดบวชแล้ว.
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ยังไม่ทรงผนวชในทันที.
พระองค์ทรงถวายบังคมพระราชมารดาพระราชบิดาแล้ว
ทรงชักชวนพระขนิษฐายุธิฏฐิลกุมาร เสด็จออกจากพระนคร
ให้มหาชนพากันกลับไปแล้ว พระพี่น้องทั้ง ๒ พระองค์ก็เสด็จเข้าสู่ป่าหิมพานต์
ทรงสร้างอาศรม ณ สถานที่อันน่ารื่นรมย์ใจ ทรงผนวชเป็นฤาษี
ทาฌานและอภิญญาให้บังเกิดได้แล้ว เลี้ยงชีพด้วยผลหมากรากไม้ในป่าเป็ นต้น
จนตลอดพระชามายุ ได้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้าแล้ว.
พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น
จึงตรัสพระคาถาสุดท้ายว่า
เจ้าชายทั้งสองพระองค์ คือยุธัญชัยกับยุธิฏฐิละ
ทรงละทิ้งพระราชมารดาและพระราชบิดาแล้วทรงตัดเครื่องข้องแห่งมัจจุราช
เสด็จออกผนวชแล้ว.
พระศาสดาทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะทั้งหลา
ย แล้วตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ถึงในกาลก่อน
ตถาคตก็ได้เคยละราชสมบัติผนวชแล้วเหมือนกัน ดังนี้แล้ว
จึงทรงประชุมชาดกว่า
พระราชมารดาพระราชบิดาในครั้งนั้น ได้มาเป็น
ตระกูลมหาราชในบัดนี้
ยุธิฏฐิลกุมารได้มาเป็น พระอานนท์
ส่วนยุธัญชัย ก็คือ เราตถาคต นั่นเองแล.
จบอรรถกถายุธัญชัยชาดกที่ ๖
-----------------------------------------------------

More Related Content

Similar to 460 ยุธัญชยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
maruay songtanin
 
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 

Similar to 460 ยุธัญชยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)

504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
504 ภัลลาติยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
458 อุทยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
513 ชยัททิสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
๑๐. มหาเวสสันดรชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุ...
 
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
273 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
509 หัตถิปาลชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
๐๕. มโหสธชาดก (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ])....
 
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
323 พรหมทัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
522 สรภังคชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
336 พรหาฉัตตชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
259 ติรีฏวัจฉชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
138 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
066 มุทุลักขณชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
313 ขันติวาทิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
235 วัจฉนขชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
153 สูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
106 อุทัญจนีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 

More from maruay songtanin

๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
maruay songtanin
 
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
maruay songtanin
 
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
maruay songtanin
 

More from maruay songtanin (20)

๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
 
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
 
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
 

460 ยุธัญชยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

  • 1. 1 ยุธัญชยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ๖. ยุธัญชยชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๔๖๐) ว่าด้วยพระราชกุมารยุธัญชัย (พระโพธิสัตว์ทูลขอบรรพชาว่า) [๗๓] ขอเดชะพระมหาราช ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระองค์ผู้ทรงเป็นจอมทัพ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยมิตรและอามาตย์ ข้าพระองค์จักบวช ขอพระองค์ผู้สมมติเทพ โปรดพระราชทานการบวชนั้นเถิด (พระราชาตรัสห้ามว่า) [๗๔] ถ้าเจ้ายังมีความพร่องด้วยกามทั้งหลาย พ่อจะเพิ่มเติมให้แก่เจ้า พ่อจะห้ามคนที่เบียดเบียนเจ้า ลูกยุธัญชัยอย่าบวชเลย (พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า) [๗๕] ข้าพระองค์ไม่มีความพร่องด้วยกามทั้งหลาย คนที่เบียดเบียนข้าพระองค์ก็ไม่มี แต่ข้าพระองค์ปรารถนาจะกระทาที่พึ่งซึ่งชรากาจัดไม่ได้ (พระศาสดาประกาศข้อความนั้นว่า) [๗๖] พระราชบุตรทูลวิงวอนพระราชบิดา และพระราชบิดาก็ทรงวิงวอนพระราชบุตร ชาวนิคมก็ทูลวิงวอนว่า พ่อยุธัญชัยกุมาร อย่าผนวชเลย พ่อเอ๋ย (พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า) [๗๗] ข้าแต่ทูลกระหม่อมผู้ทรงเป็ นจอมทัพ พระองค์โปรดอย่าทรงห้ามข้าพระองค์ผู้จะบวชเลย ขอข้าพระองค์อย่าได้ชื่อว่า เป็นผู้ประมาทเพราะกามทั้งหลาย อย่าตกอยู่ในอานาจของชราเลย (พระมารดาตรัสว่า) [๗๘] ลูกเอ๋ย แม่ขอร้องลูก ขอห้ามลูก แม่ต้องการเห็นลูกนานๆ ลูกยุธัญชัย อย่าบวชเลย (พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า) [๗๙] อายุของมนุษย์ทั้งหลายเหมือนน้าค้างที่ยอดหญ้า พอพระอาทิตย์ขึ้นก็แห้งไป หม่อมแม่ พระองค์อย่าทรงห้ามหม่อมฉันเลย (พระโพธิสัตว์ทูลเชิญพระราชบิดามาแล้วกราบทูลว่า) [๘๐] ขอเดชะพระองค์ผู้ทรงเป็ นจอมทัพ ขอทรงให้ราชบุรุษรีบเชิญเสด็จพระราชมารดานี้ขึ้นพระราชยานเถิด
  • 2. 2 ขอพระราชมารดาอย่าทรงทาอันตรายแก่ข้าพระองค์ ผู้กาลังจะข้ามทางกันดารเลย (พระเทวีทรงคร่าครวญอยู่ว่า) [๘๑] รีบไปกราบทูลว่า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ รัมมนครจะเป็ นเมืองร้าง ถ้าพระเจ้าสัพพทัตทรงอนุญาต ให้ยุธัญชัยราชบุตรทรงผนวชแล้ว [๘๒] พระราชกุมารพระองค์ใดประเสริฐกว่าพระราชบุตรพันพระองค์ ยังทรงพระเยาว์ มีพระฉวีวรรณประดุจทองคา พระราชกุมารพระองค์นี้นั้นยังทรงมีพระกาลังแข็งแรง ทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ผนวชแล้ว (พระโพธิสัตว์กุมารกราบทูลว่า) [๘๓] พระราชกุมารทั้ง ๒ พระองค์ คือ ยุธัญชัยกุมาร และยุธิฏฐิลกุมารทรงละพระราชมารดาและพระราชบิดา ตัดเครื่องข้องของมฤตยูผนวชแล้ว ยุธัญชัยชาดกที่ ๖ จบ --------------------------- คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา ยุธัญชยชาดก ว่าด้วย การผนวชของเจ้าชายยุธัญชัยและยุธิฏฐิละ พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการออกมหาภิเนษกรมณ์ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้. ความพิสดารว่า วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายประชุมกันในโรงธรรมสภา กล่าวถ้อยคาสรรเสริญพระคุณของพระศาสดาว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ถ้าว่าพระทศพลจักเสด็จครองเรือนไซร้ ก็จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในห้องสกลจักรวาล มีรัตนะ ๗ ประการอย่างครบครัน ทรงสาเร็จฤทธิ์ทั้ง ๔ มีพระโอรสกว่าพันเป็นบริวาร พระองค์ทรงสละพระราชสมบัติ อันทรงสิริเห็นปานนี้ ทรงเห็นโทษในกามทั้งหลาย ทรงม้ากัณฐกะมีนายฉันนะเป็นสหายออกจากพระนครในเวลาเที่ยงคืน ทรงผนวช ณ ฝั่งแม่น้านที มีนามว่าอโนมา ทรงบาเพ็ญทุกรกิริยาตลอด ๖ พระพรรษา จึงได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ดังพระประสงค์. พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบ จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นที่ตถาคตออกสู่มหาภิเนษกรมณ์ แม้ในกาลก่อน
  • 3. 3 ก็เคยละราชสมบัติในกรุงพาราณสี อันมีประมาณเนื้อที่ ๑๒ โยชน์ ออกบวชแล้วเหมือนกัน ดังนี้แล้ว จึงทรงนาอดีตนิทานมาตรัสดังต่อไปนี้ ในอดีตกาล ได้มีพระราชาพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า สัพพทัต ณ พระนครรัมมะ. (ที่จริง กรุงพาราณสีนี้ ในอุทยชาดก มีนามว่า สุรุนธนะ ในจุลลสุตโสมชาดก มีนามว่า สุทัศนะ ในโสณนันทชาดก มีนามว่า พรหมวัฑฒนะ ในกัณฑหาลชาดก มีนามว่า ปุปผวดี) แต่ในยุธัญชัยชาดกนี้ได้มีนามว่ารัมมะ นามของพระนครนี้ได้เปลี่ยนไปในกาลบางคราวด้วยประการฉะนี้. ณ พระนครรัมมะนั้น พระเจ้าสัพพทัตได้มีพระราชโอรสพันพระองค์ ทรงพระราชทานสถาปนาพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ทรงพระนามว่า ยุธัญชยะ เ ป็นที่พระอุปราช. พระอุปราชนั้นได้ทรงบาเพ็ญมหาทานทุกๆ วัน. ครั้นกาลล่วงไปอย่างนี้ วันหนึ่ง พระโพธิสัตว์ทรงรถอันประเสริฐแต่เช้าตรู่ เสด็จไปสู่กีฬาในพระราชอุทยานด้วยพระสิริสมบัติอันใหญ่ยิ่ง ทอดพระเนตรหยาดน้าค้าง อันติดอยู่อย่างกับตาข่าย ที่ทาด้วยเส้นด้าย ณ ที่ต่างๆ มียอดไม้ ยอดหญ้า ปลายกิ่งไม้ และใยแมงมุมเป็นต้น จึงตรัสถามว่า แน่ะสารถีผู้สหายเอ๋ย นี่เขาเรียกว่าอะไรกัน ได้ทรงสดับว่า ขอเดชะ เหล่านี้เขาเรียกกันว่าหยาดน้าค้าง อันตกลงในฤดูหิมะ พระเจ้าข้า. ทรงเล่นในพระราชอุทยานตลอดวัน เสด็จกลับก็ต่อเมื่อเวลาสายัณห์ มิได้ทรงเห็นหยาดน้าค้างเหล่านั้นเลย ตรัสถามว่า สารถีผู้สหายเอ๋ย หยาดน้าค้างเหล่านี้ ไปไหนหมด บัดนี้ฉันไม่เห็นมันเลย ทรงสดับว่า ขอเดชะ หยาดน้าค้างเหล่านั้น เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นไปอยู่ ก็ละลายตกลงเหนือแผ่นดินหมดเลย พระเจ้าข้า ดังนี้แล้ว ทรงสลดพระทัยดาริว่า แม้ชีวิตและสังขารแห่งสัตว์เหล่านี้ ก็เป็นเสมือนหยาดน้าค้างบนปลายยอดหญ้า เรายังไม่ถูกชราพยาธิและมรณะเบียดเบียนเลยทีเดียว ควรจะอาลาพระมารดาพระราชบิดาไปบวชดังนี้แล้ว จึงทรงกระทาหยาดน้าค้างนั่นแลให้เป็ นอารมณ์ ทรงเห็นภพทั้ง ๓ ประดุจมีเพลิงลุกทั่วไป เสด็จมาถึงพระตาหนักของพระองค์แล้ว ก็ทรงดาเนินไปยังพระตาหนักพระราชบิดาผู้ประทับนั่งอยู่ ณ วินิจฉัยศาลาอันตกแต่งประดับประดาดีแล้ว ถวายบังคมพระราชบิดา ประทับยืน ณ ส่วนข้างหนึ่ง เมื่อจะทูลขออนุญาตบรรพชา จึงตรัสพระคาถาที่ ๑ ว่า
  • 4. 4 หม่อมฉันขอถวายบังคมพระองค์ ผู้เป็นจอมทัพมีมิตรและอามาตย์แวดล้อมแน่นขนัด ข้าแต่พระทูลกระหม่อม หม่อมฉันจักบวช ขอได้โปรดทรงอนุญาตเถิด. ลาดับนั้น พระราชาเมื่อจะทรงห้ามท่าน จึงตรัสพระคาถาที่ ๒ ว่า ถ้าเธอยังบกพร่องด้วยกามทั้งหลาย ฉันจักเพิ่มเติมให้เต็มครบ ผู้ใดเบียดเบียนเธอ ฉันจักห้ามปราม พ่อยุธัญชัยเอ๋ย อย่าเพิ่งบวชเลย. พระราชกุมารทรงได้สดับพระราชดารัสนั้นแล้ว จึงตรัสพระคาถาที่ ๓ ว่า หม่อมฉันมิได้บกพร่องด้วยกามทั้งหลายเลย ไม่มีใครเบียดเบียนหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันปรารถนาจะทาที่พึ่งที่ชราครอบงาไม่ได้ พระเจ้าข้า. พระกุมารทูลขอบรรพชาเรื่อยๆ ด้วยประการฉะนี้. พระราชาตรัสห้ามว่า อย่าบวชเลยพ่อคุณเอ๋ย. พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสกึ่งพระคาถาว่า พระโอรสกราบทูลวิงวอนพระราชบิดา พระราชบิดาหรือก็ทรงวิงวอนพระราชโอรส. พระราชาตรัสกึ่งพระคาถาที่เหลือว่า พ่อเอ๋ย ชาวนิคมพากันอ้อนวอนว่า ข้าแต่พระยุธัญชัย พระองค์อย่าทรงผนวชเลย. พระกุมารตรัสพระคาถาที่ ๕ ว่า ข้าแต่พระราชบิดาผู้ทรงเป็ นจอมทัพ พระองค์อย่าทรงห้ามหม่อมฉันผู้จะบวชเลย อย่าให้หม่อมฉันได้มัวเมาอยู่ด้วยกามทั้งหลาย เป็นไปในอานาจแห่งชราเลย พระเจ้าข้า. เมื่อพระโพธิสัตว์ได้กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระราชาได้ทรงยอมจานน ฝ่ายพระราชมารดาของพระโพธิสัตว์นั้น ทรงสดับว่า ข้าแต่พระเทวี พระโอรสของพระนาง กาลังกราบทูลให้พระราชบิดาทรงอนุญาตการบรรพชาอยู่ เจ้าคะ ตรัสว่า พวกเจ้าพากันพูดเรื่องอะไรกัน ทั้งๆ ที่พระพักตร์ก็มิได้ผัด ประทับนั่งเหนือพระวอทอง รีบเสด็จไปสู่สถานที่วินิจฉัย เมื่อจะตรัสวิงวอน จึงตรัสคาถาที่ ๖ ว่า ลูกเอ๋ย แม่ขอร้องเจ้าแม่ขอห้ามเจ้า แม่ปรารถนาจะเห็นเจ้านานๆ เจ้าอย่าบวชเลยนะ พ่อยุธัญชัย. พระราชกุมารได้สดับพระราชเสาวนีย์นั้นแล้ว จึงตรัสคาถาที่ ๗ ว่า น้าค้างบนยอดหญ้า พระอาทิตย์ขึ้นก็เหือดแห้งไปฉันใด อายุของมนุษย์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น ขอทูลกระหม่อมแม่ อย่าทรงห้ามฉันเลย
  • 5. 5 พระเจ้าข้า. ข้าแต่ทูลกระหม่อมแม่ หยาดน้าค้างบนยอดหญ้า พอพระอาทิตย์ขึ้นไปก็สลายแห้งหายไป มิอาจจะดารงอยู่ได้ คือตกลงดินหมด ฉันใด ชีวิตของหมู่สัตว์เหล่านี้ก็ฉันนั้น เป็ นของนิดหน่อย เป็ นไปชั่วกาล มิได้ตั้งอยู่นานเลย ในโลกสันนิวาสเห็นปานนี้ พระองค์จะทรงเห็นหม่อมฉันนานๆ ได้อย่างไรเล่า พระเจ้าข้า โปรดอย่าทรงห้ามหม่อมฉันเลย. แม้เมื่อพระโพธิสัตว์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระนางก็คงตรัสอ้อนวอนแล้วๆ เล่าๆ อยู่นั่นเอง. ลาดับนั้น พระมหาสัตว์เจ้า เมื่อจะกราบทูลเตือนพระราชบิดา จึงตรัสพระคาถาที่ ๘ ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเสนา ขอได้โปรดรีบตรัสให้พระราชมารดาเสด็จขึ้นสู่ยานนี้เสียเถิด พระมารดาอย่าได้ทรงกระทาอันตรายแก่หม่อมฉัน ผู้กาลังรีบด่วนเสียเลย. ข้าแต่พระทูลกระหม่อมผู้เป็นจอมรถ โปรดตรัสให้คนรีบเชิญพระมารดาของหม่อมฉันนี้ เสด็จขึ้นสู่พระยาน คือพระวอทอง พระมารดาอย่าได้ทรงทาอันตรายแก่หม่อมฉัน ผู้กาลังจะข้ามก้าวล่วงแดนกันดาร คือชาติ ชรา พยาธิและมรณะเสียเลย. พระราชาทรงได้สดับพระดารัสของพระโอรสแล้วตรัสว่า นางผู้เจริญขอได้ไปเสียเถิด จงประทับนั่งเหนือวอของเธอ ขึ้นสู่ปราสาทอันยังความยินดีให้เจริญเลยทีเดียวเถิด. พระนางทรงสดับพระราชดารัสของพระราชานั้น เมื่อมิอาจจะประทับอยู่ได้ ทรงแวดล้อมไปด้วยหมู่นารี เสด็จไปสู่พระปราสาท ได้ประทับยืนทอดพระเนตรสถานวินิจฉัยด้วยหมายพระทัยว่า ลูกรักจักเป็ นไปอย่างไรเล่าหนอ. ฝ่ายพระโพธิสัตว์เจ้า เมื่อพระมารดาเสด็จไปแล้ว ทรงอ้อนวอนพระราชบิดาอีก. พระราชาเมื่อมิทรงอาจจะห้ามได้ ก็ทรงอนุญาตว่า พ่อเอ๋ย ถ้าเช่นนั้น จงทาใจของเธอให้ถึงที่สุดเถิด พ่อจงผนวชเถิด. ในเวลาที่พระราชาทรงอนุญาตแล้ว พระขนิษฐาของพระโพธิสัตว์เจ้า พระนามว่า ยุธิฏฐิลกุมาร ถวายบังคมพระราชบิดา กราบทูลขออนุญาตว่า ข้าแต่พระทูลกระหม่อม ขอพระองค์โปรดอนุญาตการบรรพชาของหม่อมฉันด้วยเถิด. พระพี่น้องทั้งสองพระองค์ถวายบังคมพระราชบิดา ละกามทั้งหลาย มีมหาชนแวดล้อมพากันเสด็จออกจากสถานที่วินิจฉัย. ฝ่ายพระเทวีทอดพระเนตรดูพระมหาสัตว์ ทรงพระกันแสงว่า
  • 6. 6 เมื่อลูกฉันผนวชแล้ว รัมมนครก็จักว่างเปล่า จึงตรัสพระคาถาทั้ง ๒ ว่า ท่านทั้งหลายจงช่วยวิ่งเต้นด้วยเถิด ขอความเจริญจงมีแก่ท่านเถิด รัมมนครจักเปล่าเปลี่ยวเสียแล้ว พ่อยุธัญชัย พระเจ้าสัพพทัตทรงอนุญาตแล้วละ. เจ้าชายพระองค์ใด เป็ นผู้ประเสริฐกว่ามนุษย์ทั้งหลาย ยังกาลังหนุ่มแน่นเปล่งปลั่งดังทองธรรมชาติ เจ้าชายพระองค์นั้นมีพระกาลังแข็งแรง มีผ้านุ่งห่มย้อมด้วยน้าฝาดบวชแล้ว. ฝ่ายพระโพธิสัตว์ยังไม่ทรงผนวชในทันที. พระองค์ทรงถวายบังคมพระราชมารดาพระราชบิดาแล้ว ทรงชักชวนพระขนิษฐายุธิฏฐิลกุมาร เสด็จออกจากพระนคร ให้มหาชนพากันกลับไปแล้ว พระพี่น้องทั้ง ๒ พระองค์ก็เสด็จเข้าสู่ป่าหิมพานต์ ทรงสร้างอาศรม ณ สถานที่อันน่ารื่นรมย์ใจ ทรงผนวชเป็นฤาษี ทาฌานและอภิญญาให้บังเกิดได้แล้ว เลี้ยงชีพด้วยผลหมากรากไม้ในป่าเป็ นต้น จนตลอดพระชามายุ ได้มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้าแล้ว. พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสพระคาถาสุดท้ายว่า เจ้าชายทั้งสองพระองค์ คือยุธัญชัยกับยุธิฏฐิละ ทรงละทิ้งพระราชมารดาและพระราชบิดาแล้วทรงตัดเครื่องข้องแห่งมัจจุราช เสด็จออกผนวชแล้ว. พระศาสดาทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะทั้งหลา ย แล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ถึงในกาลก่อน ตถาคตก็ได้เคยละราชสมบัติผนวชแล้วเหมือนกัน ดังนี้แล้ว จึงทรงประชุมชาดกว่า พระราชมารดาพระราชบิดาในครั้งนั้น ได้มาเป็น ตระกูลมหาราชในบัดนี้ ยุธิฏฐิลกุมารได้มาเป็น พระอานนท์ ส่วนยุธัญชัย ก็คือ เราตถาคต นั่นเองแล. จบอรรถกถายุธัญชัยชาดกที่ ๖ -----------------------------------------------------