SlideShare a Scribd company logo
1
ถุสชาดก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๘. ถุสชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๓๓๘)
ว่าด้วยหนูไม่กินแกลบ
(ในเวลาที่พระโอรสมีพระชนมายุ ๑๖ พรรษา
ขณะที่กาลังเสวยพระกระยาหารเย็น
พระราชาแห่งกรุงพาราณสีตรัสกับพระโอรสว่า)
[๑๔๙] แกลบก็ปรากฏโดยความเป็นแกลบ
และข้าวสารก็ปรากฏโดยความเป็นข้าวสารแก่หนูทั้งหลาย
แต่พวกหนูเว้นแกลบเสียแล้วเคี้ยวกินเฉพาะข้าวสารเท่านั้น
(ในเวลามีการเข้าเฝ้ าเป็นการใหญ่ พระราชาตรัสว่า)
[๑๕๐] การปรึกษากันในป่าก็ดี การกระซิบกันในบ้านก็ดี
การวางแผนฆ่าเราก็ดี ทั้งหมดนั้นเรารู้แล้ว
(ครั้นพระราชาประทับยืนอยู่ที่หัวบันได ก็ตรัสว่า)
[๑๕๑] ได้ยินว่า พ่อของลิงกัดผล(ลูกอัณฑะ)ของลูกลิง
ที่เกิดตามธรรมชาติเสียตั้งแต่ยังเล็กอยู่
(พระราชาประทับยืนที่ธรณีประตู ตรัสอีกว่า)
[๑๕๒] การที่เจ้ากระสับกระส่ายอยู่เหมือนแพะตาบอดในไร่ผักกาด
และเจ้านอนอยู่ใต้แท่นบรรทม ทั้งหมดนั้นเรารู้แล้ว
ถุสชาดกที่ ๘ จบ
----------------------------
คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา
ถุสชาดก
ว่าด้วย รู้จักแกลบหรือข้าวสารในที่มืด
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร
ทรงปรารภพระเจ้าอชาตศัตรู จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้
ได้ยินว่า เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูนั้นอยู่ในพระครรภ์ของพระมารดานั้น
พระมารดาของเธอผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าโกศล เกิดแพ้พระครรภ์
อยากดื่มพระโลหิตในพระชานุข้างขวาของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นอาการแรงกล้า.
พระนางถูกนางสนมผู้รับใช้ทูลถามจึงบอกความนั้นแก่นางสนมเหล่านั้น.
ฝ่ายพระราชาได้ทรงสดับแล้ว รับสั่งให้เรียกโหรผู้ทานายนิมิตมาแล้วตรัสถามว่า
เขาว่าพระเทวีทรงเกิดการแพ้พระครรภ์เห็นปานนี้
ความสาเร็จของพระนางจะเป็นอย่างไร?
พวกโหรผู้ทานายนิมิตกราบทูลว่า
2
สัตว์ผู้อุบัติในพระครรภ์ของพระเทวี จักปลงพระชนม์พระองค์แล้วยึดราชสมบัติ.
พระราชาตรัสว่า บุตรของเราจักฆ่าเราแล้วยึดราชสมบัติ ในข้อนั้นจะมีโทษอะไร
แล้วทรงเฉือนพระชานุข้างขวาด้วยพระแสงมีด
เอาจานทองรองรับพระโลหิตแล้วประทานให้พระเทวีดื่ม พระเทวีนั้นทรงดาริว่า
ถ้าโอรสผู้เกิดในครรภ์ของเราจักปลงพระชนม์พระบิดาไซร้
เราจะประโยชน์อะไรด้วยพระโอรสนั้น พระนางจึงให้รีดพระครรภ์
เพื่อให้ครรภ์ตกไป.
พระราชาทรงทราบจึงรับสั่งให้เรียกพระเทวีนั้นมา แล้วตรัสว่า
นางผู้เจริญ นัยว่าบุตรของเราจักฆ่าเราแล้วยึดราชสมบัติ
ก็เราจะไม่แก่ไม่ตายก็หามิได้ เธอจงให้เราเห็นหน้าลูกเถิด จาเดิมแต่นี้ไป
เธออย่าได้กระทากรรมเห็นปานนี้. จาเดิมแต่นั้น
พระเทวีเสด็จไปพระราชอุทยานแล้วให้รีดครรภ์. พระราชาได้ทรงทราบ
จึงทรงห้ามเสด็จไปพระราชอุทยาน จาเดิมแต่กาลนั้น.
พระเทวีทรงมีพระครรภ์ครบบริบูรณ์แล้วประสูติพระโอรส.
ก็ในวันขนานนามพระโอรสนั้น
เขาขนานพระนามว่า อชาตศัตรูกุมาร เพราะเป็นศัตรูต่อพระบิดาตั้งแต่ยังไม่ประ
สูติ เมื่ออชาตศัตรูกุมารนั้นทรงเจริญเติบโตอยู่ด้วยกุมารบริหาร.
วันหนึ่ง พระศาสดาแวดล้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐
เสด็จไปนิเวศน์ของพระราชาแล้วประทับนั่งอยู่.
พระราชาทรงอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
ด้วยของเคี้ยวและของฉันอันประณีต ทรงนมัสการแล้วประทับนั่งสดับธรรมอยู่.
ขณะนั้น พระพี่เลี้ยงแต่งองค์พระกุมารแล้วได้ถวายพระราชา
พระราชาทรงรับพระโอรสด้วยพระสิเนหาเป็นกาลัง ให้นั่งบนพระเพลา
ทรงปลาบปลื้มอยู่เฉพาะพระโอรส ด้วยความรักในพระโอรส
มิได้ทรงสดับพระธรรม.
พระศาสดาทรงทราบความประมาทของพระราชา จึงตรัสว่า
มหาบพิตร พระราชาทั้งหลายในครั้งก่อน
ทรงระแวงพระโอรสทั้งหลายถึงกับให้กระทาไว้ในที่อันมิดชิดให้ขัง
แล้วตรัสสั่งไว้ว่า เมื่อเราล่วงไปแล้ว
ท่านทั้งหลายจงนาออกมาให้ดารงอยู่ในราชสมบัติ อันพระราชาทูลอาราธนาแล้ว
จึงทรงนาเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี
พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกสิลา
สอนศิลปะพวกราชกุมารและพราหมณกุมารเป็นจานวนมาก.
พระโอรสของพระราชาในนครพาราณสี
3
เสด็จไปยังสานักของพระโพธิสัตว์นั้น ในเวลาพระองค์มีพระชนมายุ ๑๖
พรรษาเรียนไตรเพทและศิลปะทุกอย่าง เป็นผู้มีศิลปะครบบริบูรณ์แล้ว
จึงตรัสลาอาจารย์.
อาจารย์จึงตรวจดูพระราชกุมารนั้นด้วยวิชาดูอวัยวะ
แล้วคิดว่าอันตรายเพราะอาศัยพระโอรส จะปรากฎมีแก่พระราชกุมารนี้
เราจะปัดเป่าอันตรายนั้นไปเสียด้วยอานุภาพของตน จึงได้ผูกคาถาขึ้น ๔
คาถาถวายแก่พระราชกุมาร
ก็แหละเมื่อให้คาถาอย่างนี้แล้ว จึงกาชับพระราชกุมารนั้นว่า ดูก่อนพ่อ
เจ้าดารงอยู่ในราชสมบัติแล้ว ในเวลาโอรสของเจ้ามีชนมายุ ๑๖ พรรษา
เมื่อจะเสวยพระกระยาหาร พึงกล่าวคาถาที่หนึ่ง
ในเวลามีการเข้าเฝ้ าเป็นการใหญ่ พึงกล่าวคาถาที่ ๒
เมื่อเสด็จขึ้นปราสาทประทับยืนที่หัวบันได พึงกล่าวคาถาที่ ๓
เมื่อเสด็จเข้าห้องบรรทมประทับยืนที่ธรณีประตู พึงกล่าวคาถาที่ ๔
พระราชกุมารนั้นรับคา จึงไหว้อาจารย์แล้วไป
ได้ดารงอยู่ในตาแหน่งอุปราช เมื่อพระบิดาล่วงไปจึงดารงอยู่ในราชสมบัติ.
พระโอรสของท้าวเธอ ในเวลามีพระชนม์ได้ ๑๖ พรรษา
ได้เห็นสิริสมบัติของพระราชาผู้เสด็จออกเพื่อประโยชน์แก่กิจมีกีฬาในพระราชอุ
ทยานเป็นต้น มีความประสงค์จะปลงพระชนม์พระบิดาแล้ว
ยึดครองราชสมบัติจึงตรัสแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงของพระองค์.
พวกผู้ปฏิบัติบารุงเหล่านั้นพากันทูลว่า ดีแล้ว ขอเดชะ
ประโยชน์อะไรด้วยความเป็นใหญ่ที่ได้ในตอนแก่
ควรจะปลงพระชนม์พระราชาเสียด้วยอุบายอย่างใดอย่างหนึ่ง
แล้วยึดครองราชสมบัติ. พระกุมารคิดว่า
เราจะให้พระราชบิดาเสวยยาพิษสวรรคต
เมื่อจะเสวยพระกระยาหารเย็นกับพระราชบิดา จึงถือยาพิษ ประทับนั่งอยู่.
เมื่อพระกระยาหารในภาชนะกระยาหารยังไม่มีใครถูกต้องเลย
พระราชาได้ตรัสคาถาที่ ๑ ว่า :-
แกลบปรากฎโดยความเป็นแกลบแก่หนูทั้งหลาย
และข้าวสารก็ปรากฎโดยความเป็นข้าวสารแก่พวกมัน แม้ในที่มืด
พวกมันก็เว้นแกลบเสียกินแต่ข้าวสาร.
ท่านกล่าวอธิบายต่อไปว่า ลาดับนั้น พระกุมารคิดว่า แม้ในที่มืด
แกลบก็ปรากฎโดยความเป็นแกลบ
ข้าวสารปรากฎโดยความเป็นข้าวสารแก่หนูทั้งหลาย
พวกมันเว้นแกลบกินแต่ข้าวสาร ฉันใด ความที่เรานั่งกุมยาพิษร้ายก็ปรากฎ
ฉันนั้นเหมือนกัน.
4
พระกุมารดาริว่า พระบิดารู้เราแล้วจึงทรงกลัว
ไม่อาจใส่ยาพิษในภาชนะพระกระยาหาร
ลุกขึ้นถวายบังคมพระราชาแล้วเสด็จไป.
พระกุมารจึงไปบอกเรื่องนั้นแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงของพระองค์
แล้วตรัสถามว่า วันนี้ พระราชบิดารู้เราเสียก่อน บัดนี้
พวกเราจักปลงพระชนม์อย่างไร? ตั้งแต่นั้น
พวกผู้ปฏิบัติบารุงเหล่านั้นจึงหลบซ่อนอยู่ในพระราชอุทยานกระซิบหารือกัน
ตกลงว่ามีอุบายอย่างหนึ่ง จึงกาหนดลงว่า ในเวลาเสด็จไปสู่ที่เฝ้ าครั้งใหญ่ๆ
ผูกสอดพระแสงขรรค์ประสงค์ประทับยืนในระหว่างพวกอามาตย์
พอรู้ว่าพระราชาเผลอ จึงเอาพระแสงขรรค์ประหารให้สิ้นพระชนม์ ย่อมควร.
พระกุมารรับว่าได้ แล้วผูกสอดพระแสงขรรค์แล้วเสด็จไป
คอยมองหาโอกาสที่จะประหารพระราชาอยู่รอบด้าน.
ขณะนั้น พระราชาได้ตรัสคาถาที่ ๒ ว่า :-
การปรึกษากันในป่าก็ดี การพูดกระซิบกันในบ้านก็ดี
และการคิดหาโอกาสฆ่าเราในบัดนี้ก็ดี เรารู้หมดแล้ว.
ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า ดูก่อนพ่อกุมาร
การที่ท่านกระซิบกระซาบปรึกษากันทั้งในอุทยานและในบ้าน
และเหตุแห่งความคิดว่า เพื่อต้องการฆ่าเราในบัดนี้นั้นก็ดี เรารู้หมดแล้ว.
พระกุมารคิดว่า พระบิดารู้ว่าเราเป็นศัตรู
จึงหนีไปบอกแก่พวกปฏิบัติบารุงๆ ทาเวลาให้ผ่านพ้น ๗-๘ วัน จึงทูลว่า
ข้าแต่พระกุมาร พระบิดาย่อมไม่รู้ว่าพระองค์เป็นศัตรู
พระองค์ได้สาคัญไปอย่างนั้น เพราะการคิดคาดคะเนเอา
พระองค์จงปลงพระชนม์พระบิดานั้นเถิด.
วันหนึ่ง พระกุมารนั้นถือพระแสงขรรค์แล้วได้ยืนอยู่ที่ประตูห้อง
ใกล้หัวบันได. ครั้งนั้น พระราชาประทับยืนอยู่ที่หัวบันได ตรัสคาถาที่ ๓ :-
ได้ยินว่า ลิงตัวที่เป็นพ่อเอาฟันกัดผล
คือภาวะแห่งบุรุษของลูกที่เกิดตามสภาวะ เสียแต่ยังเยาว์ทีเดียว.
ท่านกล่าวคาอธิบายนี้ไว้ว่า
ลิงที่เกิดในป่ารังเกียจการบริหารฝูงของตน
เอาฟันกัดผลของลูกลิงเฉพาะตัวที่เป็นหนุ่ม ทาปุริสภาวะให้พินาศไป ฉันใด
เราเพิกถอนผลเป็ นต้นแม้ของท่านผู้ประสงค์ราชสมบัติเกินไป
จักทาปุริสภาวะให้พินาศไปฉันนั้น.
พระกุมารคิดว่า พระบิดาประสงค์จะให้จับเรา จึงตกพระทัยกลัว
เสด็จหนีไปบอกแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงว่า พระบิดาทรงคุกคามเรา. คนเหล่านั้น
เมื่อล่วงเวลาไปประมาณกึ่งเดือน จึงทูลว่า ข้าแต่พระกุมาร
5
ถ้าพระราชาพึงทรงทราบเหตุการณ์นั้น
จะไม่พึงอดกลั้นอยู่ตลอดกาลมีประมาณเท่านี้
พระองค์ตรัสโดยการคิดคาดคะเนเอา
พระองค์จงปลงพระชนม์พระราชานั้นเสียเถิด.
วันหนึ่ง
พระกุมารนั้นถือพระขรรค์เสด็จเข้าไปยังพระที่สิริไสยาสในปราสาทชั้นบน
แล้วนอนอยู่ในใต้บังลังก์ด้วยหวังใจว่า จักประหารพระราชบิดา
เมื่อเสด็จมาถึงทันที.
พระราชาเสวยพระกระยาหารเย็นแล้วส่งชนบริวารกลับไป ทรงดาริว่า
จักบรรทมจึงเสด็จเข้าห้องบรรทมอันประกอบด้วยสิริ ประทับยืนที่ธรณีประตู
แล้วตรัสคาถาที่ ๔ ว่า :-
การที่เจ้าดิ้นรนอยู่เหมือนแพะตาบอด ในไร่ผักกาดก็ดี
นอนอยู่ภายใต้นี้ก็ดี เรารู้หมดสิ้นแล้ว.
ท่านกล่าวคาอธิบายนี้ไว้ว่า
เจ้าดิ้นรนไปทางโน้นทางนี้ เพราะความกลัว
เหมือนแพะตาบอดที่เข้าไปยังดงผักกาด คือ ครั้งที่ ๑ เจ้าถือเอายาพิษมา ครั้งที่ ๒
ประสงค์จะประหารด้วยพระขรรค์จึงมา ครั้งที่ ๓
ได้ถือพระขรรค์มายืนที่หัวบันได และบัดนี้ เจ้าคิดว่าจักประหารพระราชานั้น
จึงมานอนอยู่ใต้ที่นอนทั้งหมดนั้น เรารู้อยู่บัดนี้จะไม่ละเจ้าไว้
จักจับเจ้าลงราชอาญา พระราชานั้นถึงจะไม่ทรงทราบอย่างนั้น แต่คาถานั้นๆ
ก็ส่องความนั้นๆ.
พระกุมารคิดว่า พระราชบิดาทรงทราบเราแล้ว
บัดนี้จักทรงทาเราให้พินาศ จึงตกพระทัยกลัว
จึงออกมาจากใต้พระที่บรรทมทิ้งพระขรรค์ ณ ที่ใกล้พระบาทพระราชานั่นเอง
หมอบลงที่ใกล้บาทมูลกราบทูลขอโทษว่า ขอเดชะๆ
พระราชบิดาโปรดงดโทษแก่หม่อมฉันเถิด.
พระราชาทรงขู่พระกุมารนั้นว่า เจ้าคิดว่า ใครๆ
จะไม่รู้การกระทาของเรา แล้วรับสั่งให้จองจาด้วยเครื่องจองจา คือโซ่ตรวน
แล้วให้ส่งเข้าเรือนจาตั้งการอารักขาไว้. ในกาลนั้น
พระราชาทรงสานึกได้ถึงคุณงามความดีของพระโพธิสัตว์. ต่อมา
พระราชานั้นเสด็จสวรรคต
พวกอามาตย์ราชเสวกกระทาการถวายพระเพลิงพระศพของท้าวเธอแล้ว
จึงนาพระกุมารออกจากเรือนจา ให้ดารงอยู่ในราชสมบัติ.
พระศาสดา ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงตรัสเหตุนี้ว่า
ดูก่อนมหาบพิตร
6
พระราชาในครั้งก่อนทรงรังเกียจเหตุที่ควรรังเกียจอย่างนี้
แม้พระองค์จะทรงตรัสอย่างนี้ พระราชาก็มิได้ทรงกาหนด ไม่รู้สึกพระองค์.
พระศาสดาทรงประชุมชาดกว่า
อาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกสิลาในครั้งนั้น
ได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาถุสชาดกที่ ๘
-----------------------------------------------------

More Related Content

Similar to 338 ถุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
maruay songtanin
 
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
maruay songtanin
 
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
maruay songtanin
 

Similar to 338 ถุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx (20)

286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
286 สาลูกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
246 พาโลวาทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
376 อวาริยชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
215 กัจฉปชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]ร.docx
 
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
325 โคธชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
372 มิคโปตกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
385 นันทิยมิคราชชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุ...
 
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
191 รุหกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
492 ตัจฉสูกรชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
349 สันธิเภทชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
343 กุนตินีชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
523 อลัมพุสาชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
337 ปีฐชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
296 สมุททชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
373 มูสิกชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
456 ชุณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
440 กัณหชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
415 กุมมาสปิณฑิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬ...
 
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
329 กาฬพาหุชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
176 กฬายมุฏฐิชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ...
 

More from maruay songtanin

๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
maruay songtanin
 
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
maruay songtanin
 
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
maruay songtanin
 
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
maruay songtanin
 
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
maruay songtanin
 
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
maruay songtanin
 
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
maruay songtanin
 
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
maruay songtanin
 
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
maruay songtanin
 
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
maruay songtanin
 

More from maruay songtanin (20)

๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๖. อภิชชมานเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๕. อุพพรีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๒๔. กัณณมุณฑเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๒๓. สุตตเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๒๒. อุตตรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๒๑. อังกุรเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
๒๐. จูฬเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุ...
 
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๙. ธนปาลเสฏฐิเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๘. กัณหเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
๑๗. มัฏฐกุณฑลีเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหา...
 
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๖. นันทาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
๑๕. มัตตาเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬา...
 
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
๑๔. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉ...
 
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
๑๓. สังสารโมจกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมห...
 
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
๑๒. อุรคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]...
 
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
๑๑. นาคเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ]....
 
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๑๐. ขัลลาฏิยเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
๙. มหาเปสการเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจ...
 
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
๘. โคณเปตวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx
 
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
๗. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ [ฉบับ...
 

338 ถุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ].docx

  • 1. 1 ถุสชาดก พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ ๘. ถุสชาดก (จากพระไตรปิฎก ลาดับเรื่องที่ ๓๓๘) ว่าด้วยหนูไม่กินแกลบ (ในเวลาที่พระโอรสมีพระชนมายุ ๑๖ พรรษา ขณะที่กาลังเสวยพระกระยาหารเย็น พระราชาแห่งกรุงพาราณสีตรัสกับพระโอรสว่า) [๑๔๙] แกลบก็ปรากฏโดยความเป็นแกลบ และข้าวสารก็ปรากฏโดยความเป็นข้าวสารแก่หนูทั้งหลาย แต่พวกหนูเว้นแกลบเสียแล้วเคี้ยวกินเฉพาะข้าวสารเท่านั้น (ในเวลามีการเข้าเฝ้ าเป็นการใหญ่ พระราชาตรัสว่า) [๑๕๐] การปรึกษากันในป่าก็ดี การกระซิบกันในบ้านก็ดี การวางแผนฆ่าเราก็ดี ทั้งหมดนั้นเรารู้แล้ว (ครั้นพระราชาประทับยืนอยู่ที่หัวบันได ก็ตรัสว่า) [๑๕๑] ได้ยินว่า พ่อของลิงกัดผล(ลูกอัณฑะ)ของลูกลิง ที่เกิดตามธรรมชาติเสียตั้งแต่ยังเล็กอยู่ (พระราชาประทับยืนที่ธรณีประตู ตรัสอีกว่า) [๑๕๒] การที่เจ้ากระสับกระส่ายอยู่เหมือนแพะตาบอดในไร่ผักกาด และเจ้านอนอยู่ใต้แท่นบรรทม ทั้งหมดนั้นเรารู้แล้ว ถุสชาดกที่ ๘ จบ ---------------------------- คาอธิบายเพิ่มเติมนามาจากบางส่วนของอรรถกถา ถุสชาดก ว่าด้วย รู้จักแกลบหรือข้าวสารในที่มืด พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร ทรงปรารภพระเจ้าอชาตศัตรู จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้ ได้ยินว่า เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูนั้นอยู่ในพระครรภ์ของพระมารดานั้น พระมารดาของเธอผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าโกศล เกิดแพ้พระครรภ์ อยากดื่มพระโลหิตในพระชานุข้างขวาของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นอาการแรงกล้า. พระนางถูกนางสนมผู้รับใช้ทูลถามจึงบอกความนั้นแก่นางสนมเหล่านั้น. ฝ่ายพระราชาได้ทรงสดับแล้ว รับสั่งให้เรียกโหรผู้ทานายนิมิตมาแล้วตรัสถามว่า เขาว่าพระเทวีทรงเกิดการแพ้พระครรภ์เห็นปานนี้ ความสาเร็จของพระนางจะเป็นอย่างไร? พวกโหรผู้ทานายนิมิตกราบทูลว่า
  • 2. 2 สัตว์ผู้อุบัติในพระครรภ์ของพระเทวี จักปลงพระชนม์พระองค์แล้วยึดราชสมบัติ. พระราชาตรัสว่า บุตรของเราจักฆ่าเราแล้วยึดราชสมบัติ ในข้อนั้นจะมีโทษอะไร แล้วทรงเฉือนพระชานุข้างขวาด้วยพระแสงมีด เอาจานทองรองรับพระโลหิตแล้วประทานให้พระเทวีดื่ม พระเทวีนั้นทรงดาริว่า ถ้าโอรสผู้เกิดในครรภ์ของเราจักปลงพระชนม์พระบิดาไซร้ เราจะประโยชน์อะไรด้วยพระโอรสนั้น พระนางจึงให้รีดพระครรภ์ เพื่อให้ครรภ์ตกไป. พระราชาทรงทราบจึงรับสั่งให้เรียกพระเทวีนั้นมา แล้วตรัสว่า นางผู้เจริญ นัยว่าบุตรของเราจักฆ่าเราแล้วยึดราชสมบัติ ก็เราจะไม่แก่ไม่ตายก็หามิได้ เธอจงให้เราเห็นหน้าลูกเถิด จาเดิมแต่นี้ไป เธออย่าได้กระทากรรมเห็นปานนี้. จาเดิมแต่นั้น พระเทวีเสด็จไปพระราชอุทยานแล้วให้รีดครรภ์. พระราชาได้ทรงทราบ จึงทรงห้ามเสด็จไปพระราชอุทยาน จาเดิมแต่กาลนั้น. พระเทวีทรงมีพระครรภ์ครบบริบูรณ์แล้วประสูติพระโอรส. ก็ในวันขนานนามพระโอรสนั้น เขาขนานพระนามว่า อชาตศัตรูกุมาร เพราะเป็นศัตรูต่อพระบิดาตั้งแต่ยังไม่ประ สูติ เมื่ออชาตศัตรูกุมารนั้นทรงเจริญเติบโตอยู่ด้วยกุมารบริหาร. วันหนึ่ง พระศาสดาแวดล้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ เสด็จไปนิเวศน์ของพระราชาแล้วประทับนั่งอยู่. พระราชาทรงอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ด้วยของเคี้ยวและของฉันอันประณีต ทรงนมัสการแล้วประทับนั่งสดับธรรมอยู่. ขณะนั้น พระพี่เลี้ยงแต่งองค์พระกุมารแล้วได้ถวายพระราชา พระราชาทรงรับพระโอรสด้วยพระสิเนหาเป็นกาลัง ให้นั่งบนพระเพลา ทรงปลาบปลื้มอยู่เฉพาะพระโอรส ด้วยความรักในพระโอรส มิได้ทรงสดับพระธรรม. พระศาสดาทรงทราบความประมาทของพระราชา จึงตรัสว่า มหาบพิตร พระราชาทั้งหลายในครั้งก่อน ทรงระแวงพระโอรสทั้งหลายถึงกับให้กระทาไว้ในที่อันมิดชิดให้ขัง แล้วตรัสสั่งไว้ว่า เมื่อเราล่วงไปแล้ว ท่านทั้งหลายจงนาออกมาให้ดารงอยู่ในราชสมบัติ อันพระราชาทูลอาราธนาแล้ว จึงทรงนาเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :- ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักกสิลา สอนศิลปะพวกราชกุมารและพราหมณกุมารเป็นจานวนมาก. พระโอรสของพระราชาในนครพาราณสี
  • 3. 3 เสด็จไปยังสานักของพระโพธิสัตว์นั้น ในเวลาพระองค์มีพระชนมายุ ๑๖ พรรษาเรียนไตรเพทและศิลปะทุกอย่าง เป็นผู้มีศิลปะครบบริบูรณ์แล้ว จึงตรัสลาอาจารย์. อาจารย์จึงตรวจดูพระราชกุมารนั้นด้วยวิชาดูอวัยวะ แล้วคิดว่าอันตรายเพราะอาศัยพระโอรส จะปรากฎมีแก่พระราชกุมารนี้ เราจะปัดเป่าอันตรายนั้นไปเสียด้วยอานุภาพของตน จึงได้ผูกคาถาขึ้น ๔ คาถาถวายแก่พระราชกุมาร ก็แหละเมื่อให้คาถาอย่างนี้แล้ว จึงกาชับพระราชกุมารนั้นว่า ดูก่อนพ่อ เจ้าดารงอยู่ในราชสมบัติแล้ว ในเวลาโอรสของเจ้ามีชนมายุ ๑๖ พรรษา เมื่อจะเสวยพระกระยาหาร พึงกล่าวคาถาที่หนึ่ง ในเวลามีการเข้าเฝ้ าเป็นการใหญ่ พึงกล่าวคาถาที่ ๒ เมื่อเสด็จขึ้นปราสาทประทับยืนที่หัวบันได พึงกล่าวคาถาที่ ๓ เมื่อเสด็จเข้าห้องบรรทมประทับยืนที่ธรณีประตู พึงกล่าวคาถาที่ ๔ พระราชกุมารนั้นรับคา จึงไหว้อาจารย์แล้วไป ได้ดารงอยู่ในตาแหน่งอุปราช เมื่อพระบิดาล่วงไปจึงดารงอยู่ในราชสมบัติ. พระโอรสของท้าวเธอ ในเวลามีพระชนม์ได้ ๑๖ พรรษา ได้เห็นสิริสมบัติของพระราชาผู้เสด็จออกเพื่อประโยชน์แก่กิจมีกีฬาในพระราชอุ ทยานเป็นต้น มีความประสงค์จะปลงพระชนม์พระบิดาแล้ว ยึดครองราชสมบัติจึงตรัสแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงของพระองค์. พวกผู้ปฏิบัติบารุงเหล่านั้นพากันทูลว่า ดีแล้ว ขอเดชะ ประโยชน์อะไรด้วยความเป็นใหญ่ที่ได้ในตอนแก่ ควรจะปลงพระชนม์พระราชาเสียด้วยอุบายอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วยึดครองราชสมบัติ. พระกุมารคิดว่า เราจะให้พระราชบิดาเสวยยาพิษสวรรคต เมื่อจะเสวยพระกระยาหารเย็นกับพระราชบิดา จึงถือยาพิษ ประทับนั่งอยู่. เมื่อพระกระยาหารในภาชนะกระยาหารยังไม่มีใครถูกต้องเลย พระราชาได้ตรัสคาถาที่ ๑ ว่า :- แกลบปรากฎโดยความเป็นแกลบแก่หนูทั้งหลาย และข้าวสารก็ปรากฎโดยความเป็นข้าวสารแก่พวกมัน แม้ในที่มืด พวกมันก็เว้นแกลบเสียกินแต่ข้าวสาร. ท่านกล่าวอธิบายต่อไปว่า ลาดับนั้น พระกุมารคิดว่า แม้ในที่มืด แกลบก็ปรากฎโดยความเป็นแกลบ ข้าวสารปรากฎโดยความเป็นข้าวสารแก่หนูทั้งหลาย พวกมันเว้นแกลบกินแต่ข้าวสาร ฉันใด ความที่เรานั่งกุมยาพิษร้ายก็ปรากฎ ฉันนั้นเหมือนกัน.
  • 4. 4 พระกุมารดาริว่า พระบิดารู้เราแล้วจึงทรงกลัว ไม่อาจใส่ยาพิษในภาชนะพระกระยาหาร ลุกขึ้นถวายบังคมพระราชาแล้วเสด็จไป. พระกุมารจึงไปบอกเรื่องนั้นแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงของพระองค์ แล้วตรัสถามว่า วันนี้ พระราชบิดารู้เราเสียก่อน บัดนี้ พวกเราจักปลงพระชนม์อย่างไร? ตั้งแต่นั้น พวกผู้ปฏิบัติบารุงเหล่านั้นจึงหลบซ่อนอยู่ในพระราชอุทยานกระซิบหารือกัน ตกลงว่ามีอุบายอย่างหนึ่ง จึงกาหนดลงว่า ในเวลาเสด็จไปสู่ที่เฝ้ าครั้งใหญ่ๆ ผูกสอดพระแสงขรรค์ประสงค์ประทับยืนในระหว่างพวกอามาตย์ พอรู้ว่าพระราชาเผลอ จึงเอาพระแสงขรรค์ประหารให้สิ้นพระชนม์ ย่อมควร. พระกุมารรับว่าได้ แล้วผูกสอดพระแสงขรรค์แล้วเสด็จไป คอยมองหาโอกาสที่จะประหารพระราชาอยู่รอบด้าน. ขณะนั้น พระราชาได้ตรัสคาถาที่ ๒ ว่า :- การปรึกษากันในป่าก็ดี การพูดกระซิบกันในบ้านก็ดี และการคิดหาโอกาสฆ่าเราในบัดนี้ก็ดี เรารู้หมดแล้ว. ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า ดูก่อนพ่อกุมาร การที่ท่านกระซิบกระซาบปรึกษากันทั้งในอุทยานและในบ้าน และเหตุแห่งความคิดว่า เพื่อต้องการฆ่าเราในบัดนี้นั้นก็ดี เรารู้หมดแล้ว. พระกุมารคิดว่า พระบิดารู้ว่าเราเป็นศัตรู จึงหนีไปบอกแก่พวกปฏิบัติบารุงๆ ทาเวลาให้ผ่านพ้น ๗-๘ วัน จึงทูลว่า ข้าแต่พระกุมาร พระบิดาย่อมไม่รู้ว่าพระองค์เป็นศัตรู พระองค์ได้สาคัญไปอย่างนั้น เพราะการคิดคาดคะเนเอา พระองค์จงปลงพระชนม์พระบิดานั้นเถิด. วันหนึ่ง พระกุมารนั้นถือพระแสงขรรค์แล้วได้ยืนอยู่ที่ประตูห้อง ใกล้หัวบันได. ครั้งนั้น พระราชาประทับยืนอยู่ที่หัวบันได ตรัสคาถาที่ ๓ :- ได้ยินว่า ลิงตัวที่เป็นพ่อเอาฟันกัดผล คือภาวะแห่งบุรุษของลูกที่เกิดตามสภาวะ เสียแต่ยังเยาว์ทีเดียว. ท่านกล่าวคาอธิบายนี้ไว้ว่า ลิงที่เกิดในป่ารังเกียจการบริหารฝูงของตน เอาฟันกัดผลของลูกลิงเฉพาะตัวที่เป็นหนุ่ม ทาปุริสภาวะให้พินาศไป ฉันใด เราเพิกถอนผลเป็ นต้นแม้ของท่านผู้ประสงค์ราชสมบัติเกินไป จักทาปุริสภาวะให้พินาศไปฉันนั้น. พระกุมารคิดว่า พระบิดาประสงค์จะให้จับเรา จึงตกพระทัยกลัว เสด็จหนีไปบอกแก่พวกผู้ปฏิบัติบารุงว่า พระบิดาทรงคุกคามเรา. คนเหล่านั้น เมื่อล่วงเวลาไปประมาณกึ่งเดือน จึงทูลว่า ข้าแต่พระกุมาร
  • 5. 5 ถ้าพระราชาพึงทรงทราบเหตุการณ์นั้น จะไม่พึงอดกลั้นอยู่ตลอดกาลมีประมาณเท่านี้ พระองค์ตรัสโดยการคิดคาดคะเนเอา พระองค์จงปลงพระชนม์พระราชานั้นเสียเถิด. วันหนึ่ง พระกุมารนั้นถือพระขรรค์เสด็จเข้าไปยังพระที่สิริไสยาสในปราสาทชั้นบน แล้วนอนอยู่ในใต้บังลังก์ด้วยหวังใจว่า จักประหารพระราชบิดา เมื่อเสด็จมาถึงทันที. พระราชาเสวยพระกระยาหารเย็นแล้วส่งชนบริวารกลับไป ทรงดาริว่า จักบรรทมจึงเสด็จเข้าห้องบรรทมอันประกอบด้วยสิริ ประทับยืนที่ธรณีประตู แล้วตรัสคาถาที่ ๔ ว่า :- การที่เจ้าดิ้นรนอยู่เหมือนแพะตาบอด ในไร่ผักกาดก็ดี นอนอยู่ภายใต้นี้ก็ดี เรารู้หมดสิ้นแล้ว. ท่านกล่าวคาอธิบายนี้ไว้ว่า เจ้าดิ้นรนไปทางโน้นทางนี้ เพราะความกลัว เหมือนแพะตาบอดที่เข้าไปยังดงผักกาด คือ ครั้งที่ ๑ เจ้าถือเอายาพิษมา ครั้งที่ ๒ ประสงค์จะประหารด้วยพระขรรค์จึงมา ครั้งที่ ๓ ได้ถือพระขรรค์มายืนที่หัวบันได และบัดนี้ เจ้าคิดว่าจักประหารพระราชานั้น จึงมานอนอยู่ใต้ที่นอนทั้งหมดนั้น เรารู้อยู่บัดนี้จะไม่ละเจ้าไว้ จักจับเจ้าลงราชอาญา พระราชานั้นถึงจะไม่ทรงทราบอย่างนั้น แต่คาถานั้นๆ ก็ส่องความนั้นๆ. พระกุมารคิดว่า พระราชบิดาทรงทราบเราแล้ว บัดนี้จักทรงทาเราให้พินาศ จึงตกพระทัยกลัว จึงออกมาจากใต้พระที่บรรทมทิ้งพระขรรค์ ณ ที่ใกล้พระบาทพระราชานั่นเอง หมอบลงที่ใกล้บาทมูลกราบทูลขอโทษว่า ขอเดชะๆ พระราชบิดาโปรดงดโทษแก่หม่อมฉันเถิด. พระราชาทรงขู่พระกุมารนั้นว่า เจ้าคิดว่า ใครๆ จะไม่รู้การกระทาของเรา แล้วรับสั่งให้จองจาด้วยเครื่องจองจา คือโซ่ตรวน แล้วให้ส่งเข้าเรือนจาตั้งการอารักขาไว้. ในกาลนั้น พระราชาทรงสานึกได้ถึงคุณงามความดีของพระโพธิสัตว์. ต่อมา พระราชานั้นเสด็จสวรรคต พวกอามาตย์ราชเสวกกระทาการถวายพระเพลิงพระศพของท้าวเธอแล้ว จึงนาพระกุมารออกจากเรือนจา ให้ดารงอยู่ในราชสมบัติ. พระศาสดา ครั้นทรงนาพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงตรัสเหตุนี้ว่า ดูก่อนมหาบพิตร