สมพร
- 1. วิชชุ มมาลา ฉันท์ ๘
๏ แรมทางกลางเถื่อน ห่ างเพือนหาผู้
่
หนึ่งใดนึกดู เห็นใครไป่ มี
หลายวันถั่นล่วง เมืองหลวงธานี
นามเวสาลี ดุ่มเดาเข้ าไป
๏ ผูกไมตรีจต
ิ เชิงชิดชอบเชื่อง
กับหมู่ชาวเมือง ฉันท์ อชฌาสัย
ั
เล่าเรี่องเคืองขุ่น ว้าวุ่นวายใจ
จาเป็ นมาใน ด้ าวต่างแดนตน
๏ เขาแสนสังเวช สังเกตอาการ
แห่ งท่ านอาจารย์ ท่ าทีทุกข์ ทน
ภายนอกบอกแผล แน่ แท้ ทุพพล
เห็นเหตุสมผล ให้ พกอาศรัย
ั
๏ ข่ าวคราวกล่าวกัน อือพลันทันแพร่ หลาย
้
ลือลากาจาย
่ แจ้งรั่วทั่วไป
มนตรีกราบทูล เค้ามูลขานไข
แด่ องค์ท้าวไท แหล่งหล้าลิจฉวี
๏ ทรงทราบข่ าวสาสน์ โดยราชดารัส
สัญญาอาณัติ ทุ่มฆาฏเภรี
ทุกไท้ ราชา อาณาวัชชี
มาชุมนุมมี การตรึกปรึกษา
๏ แน่ นเนืองเนื่องนับ ลาดับโดยหมู่
ทันใดราชผู้ เป็ นใหญ่ ในสภา
เริ่มอารัมภ์ พจน์ ตามบทมีมา
ชี้แจงจักปรา รภกันฉันใด
- 2. ๏ พราหมณ์หนึ่งซึ่งเขา เป็ นเปาโรหิต
พวกปัจจามิตร์ มาคธเขตไกล
ต้องราชอาญูา หนีมาอาศรัย
จาไล่ให้ ไป ฤๅรับเลียงดู
้
ฯลฯ
ถอดความวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘
วัสสการพราหมณ์ พักตามทางกลางป่ า ห่ างไกลจากเพื่อน ๆ จะหาผู้ใดสั กคนก็ไม่ มี เป็ นเวลาหลายวันจึงจะเข้ าเขต
เมืองเวสาลี อันเป็ นเมืองหลวงของแคว้ นวัชชี และมุ่งหน้ าเดินเข้ าไปในเมือง เข้ าไปผูกมิตรกับชาวเมืองด้ วยอัธยาศัยอันดี
เล่ าเรื่องราวแต่ หนหลังให้ ฟัง ชาวเมืองพากันสงสารเห็นใจ ประกอบกับท่ าทางทุกข์ ทรมานและบาดแผล เห็นสมเหตุสมผล
จึงให้ ที่พักอาศัย ข่ าวเล่ าลือกันไปแพร่ หลายรู้กันทั่วไป ข้ าราชการจึงนาเรื่องขึ้นกราบทูลกษัตริย์ลิจฉวี เมื่อทรงทราบข่ าว
จึงมีพระราชดารัสสั่ งให้ ตีกลองเป็ นสั ญญาณ เชิญกษัตริย์ลิจฉวีทุกพระองค์มาประชุมปรึกษาหารือ เมื่อมาประชุมอย่าง
เนืองแน่ นตามลาดับแล้ ว กษัตริย์ลิจฉวีผ้ ูเป็ นประธานในที่ประชุมก็ทรงดารัสเริ่มต้ นขึ้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่ าจะทาประการใด
พราหมณ์ คนหนึ่งเป็ นปุโรหิตแคว้ นมคธซึ่งเป็ นศัตรูของเรา ต้ องโทษหนีมาอาศัยอยู่ในเมืองของเรา จะขับไล่ ไปให้ พ้นหรือ
อุปการะไว้ ดี ที่ประชุมทั้งหมดตกลงเป็ นเสี ยงเดียวกันว่ า บ้ านเมืองของมันนั้นเป็ นศัตรูกับวัชชีอย่างแน่ ชัด อาจมีแผนการ
หรือกลอุบายมาเป็ นไส้ ศึกสื บความลับ หากเห็นสิ่ งใดไม่ ชอบมาพากลก็ไล่ มันไปเสี ยทันที แต่ ขณะนี้ยงไม่ แน่ ชัดเป็ นเพียง
ั
แค่ข้อสงสั ยควรรั้งรอไว้ ก่อน ให้ ไปพาตัวเข้ ามาสอบสวนความจริงเท็จเป็ นประการใดเสี ยก่ อนแล้ วจึงจะสั่ งการตามความ
เหมาะสมต่ อไป
- 3. คุณค่ าด้านวรรณศิลป์
๑. การสรรคา เป็ นการเลือกใช้ คาที่สื่อความคิดและอารมณ์ได้ อย่างงดงาม ดังนี้
๑.๑ การเลือกใช้ คาได้ ถูกต้องตรงตามความหมายที่ต้องการ มีการใช้ คาที่ประณีตเป็ นพิเศษ เมือ
่
กล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระมหากษัตริย์ ครู อาจารย์ จะใช้ คาศัพท์ ภาษสีสันสกฤต
ดังบทประพันธ์
๏ พราหมณ์หนึ่งซึ่งเขา เป็ นเปาโรหิต
พวกปัจจามิตร์ มาคธเขตไกล
ต้องราชอาญูา หนีมาอาศรัย
จาไล่ให้ ไป ฤๅรับเลียงดู
้
๑.๒ เล่นคาซ้า การใช้ คาซ้ากันในตาแหน่ งต่างๆของคาประพันธ์ ช่ วยสร้ างอารมณ์ความรู้สึกและ
เน้ นยาความหมาย ตัวอย่างบทประพันธ์
้
๑.๓ เล่นคาซ้ อน เป็ นการนาคาเดี่ยว ๒ คาที่มความหมายหรือเสียงคล้ายกัน ใกล้เคียงกันมาเข้ าคู่กน
ี ั
โดยตาแหน่ งของคาซ้ อนอาจอยู่ชิดกันหรือแยกจากกัน เพือเล่นคาล้อและยาความ
่ ้
เช่ น
๏ แรมทางกลางเถื่อน ห่ างเพือนหาผู้
่
หนึ่งใดนึกดู เห็นใครไป่ มี
- 4. ๑.๔ การหลากคา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คาไวพจน์ ทาให้ เกิดความหมายอันไพเราะกินใจ
เป็ นสิ่ง ที่สร้ างสรรค์อารมณ์ซึ่งอาจเกิดได้ ด้วยกลวิธีต่างๆในการแต่งของกวี
๒. การใช้ โวหารภาพพจน์
การใช้ โวหารภาพพจน์ เป็ นกลวิธีการนาเสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาที่ใช้ พูดหรือเขียนให้
แปลกออกไปจากภาษาตามตัวอักษรทาให้ ผู้อ่านเกิดภาพในใจ เกิดความประทับใจเกิดความรู้สึก
สะเทือนใจ เป็ นการเปรียบเทียบให้ เห็นภาพอย่างชัดเจน
๒.๑ บรรยายโวหาร ใช้ คาให้ เห็นภาพชัดเจนตามลาดับเหตุการณ์ รวดเร็ว ไม่เยินเย้อเข้ าใจง่ าย
่
เช่ น
๏ แน่ นเนืองเนื่องนับ ลาดับโดยหมู่
ทันใดราชผู้ เป็ นใหญ่ ในสภา
เริ่มอารัมภ์ พจน์ ตามบทมีมา
ชี้แจงจักปรา รภกันฉันใด
๒.๒ พรรณนาโวหาร เป็ นการสร้ างมโนภาพให้ ผู้อ่านเกิดภาพขึนใจ หรือมองเห็นภาพบรรยากวี
้
ตามที่กวีต้องการ
๒.๓ อุปมา คือ การเปรียบเทียบว่าสิ่งหนึ่งเหมือนกับสิ่งหนึ่งโดยใช้ คาเชื่อมที่มีความหมาย
ช่ นเดียวกับ คาว่า “เหมือน” เช่ น ดุจ ดั่ง ราว ราวกับ เปรียบ ประดุจ เฉก เล่ห์ ปาน เพียง เพียง
้
พ่าง
- 5. ตัวอย่าง เ ช่ น
อับแสงสุ ริยรังรจนา ดุจมือแมนมา
พิจตรด้ วยแก้วแกมกล
ิ
๑. ลีลาการประพันธ์
ลีลา การเขียน หรือ อาจเรียกว่าโวหาร เป็ นการเลือกและเรียบเรียงถ้ อยคาให้ ได้ ความหมายตามที่ผู้เขียน
ต้องการ ผู้เขียนจะเขียนอย่างไรจึงจะเสนอความคิดต่อผู้อ่านได้ ตรงเปาหมาย เกิดความเข้ าใจกันระหว่าง
้
ผู้เขียนและผู้อ่าน
ถ้ าผู้เขียนเพียงแต่ต้องการอธิบายความ ควรใช้ ภาษาง่ ายๆ จัดระเบียบความคิดให้ ถูกต้อง และมีการ
ยกตัวอย่างประกอบข้ อความชัดเจน ถ้ าต้องการพรรณนา จะต้องเขียนด้ วยความรู้สึก ถ้ อยคาที่ใช้ จะต้อง
เลือกสรรอย่างประณีต เขียนให้ เกิดความสนใจและประทับใจ เปรียบเทียบให้ เห็นจริง ใช้ ภาพพจน์ ช่วยให้
เกิดความประทับใจ หยิบลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้นๆ ขึนมาบรรยายให้ เกิดความชัดเจน
้
การทาให้ เกิดความประทับใจกับคนอ่านลองใช้ วธีเหล่านีดู
ิ ้
1. ใช้ ถ้อยคาชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่คลุมเครือหรือแย้งได้
2. ใช้ คาพืนๆ อ่านเข้ าใจง่ าย ผูกประโยคสั้นๆ ไม่ซับซ้ อน
้
3. มีความกระชับ เขียนได้ กะทัดรัด และตรงจุด
4. ใช้ ภาษาถูกต้อง ตรงตามยุคสมัย
5. รู้จกเลือกสรร พูดในสิ่งที่ควรพูด ละเว้นสิ่งที่ไม่เป็ นประโยชน์
ั
6. มีแนวคิดแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ผู้อ่านคาดไม่ถึง
7. พยายามใช้ คาไทย คาสุ ภาพ คามีอานาจ ละเว้นคาสแลง คาหยาบ ศัพท์ ยากๆ หรือ
ภาษาต่างประเทศ
8. มีความไพเราะกลมกลืน ผูกประโยคได้ สละสลวย ใช้ คาเกลียงเกลา ไม่สะดุดหู ข้ อความทุก
้
ตอน ทุกย่อหน้ า เชื่อมกันได้ สนิท
9. สามารถโน้ นน้ าวผู้อ่านให้ สนใจ และประทับใจในเรื่องที่เขียน
10. ลีลาการเขียนที่ดี จึงต้องให้ คาน้ อยที่สุด แต่แจ่มแจ้ง และเข้ าใจง่ าย