More Related Content
More from Wichai Likitponrak (20)
เซลล์
- 5. 5
GENERAL BODY ORGANIZATION IN ANIMALS
- สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular organism) มีการจัดเรียงตัวของหน่วยต่าง ๆ
เป็นลาดับขั้นดังนี้
- เซลล์เป็นหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด
- ในแต่ละลาดับขั้นจะมีการทางาน
ร่วมกันอย่างเป็นระบบ
- 6. The size range of cells
ชนิดของเซลล์ เส้นผ่าศูนย์กลาง
Myoplasma
แบคทีเรีย
ส่วนใหญ่ของ
eukaryotic cell
0.1 - 1.0 ไมครอน
1.0 - 10.0 ไมครอน
10.0 - 100.0 ไมครอน
6
- 7. Prokaryotic and Eukaryotic cell
7
Prokaryotic cell (pro=before)
พบเฉพาะใน Kingdom
Monera
ไม่มีนิวเคลียสแท้จริง, ไม่มีเยื่อหุ้ม
นิวเคลียส
สารพันธุกรรมอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า
nucleoid
ไม่มี organelles ที่มีเยื่อหุ้ม
ได้แก่ bacteria ,blue green
algae
- 8. Eukaryotic cell (eu=true)
พบใน Kingdoms Protista, Fungi, Plante และ Animalia
มีนิวเคลียสที่แท้จริง, หุ้มด้วยเยื่อหุ้มนิวเคลียส
สารพันธุกรรมอยู่ในนิวเคลียส
ภายใน cytoplasm ประกอบด้วย cytosol และมี organelles ที่มีเยื่อหุ้ม
Cytoplasm = บริเวณภายในเซลล์ทั้งหมด ยกเว้นส่วนของนิวเคลียส
Cytosol = สารกิ่งของเหลงภายใน cytoplasm
8
- 13. Nuclear envelope
เป็นเยื่อ 2 ชั้น มีช่องว่างตรงกลาง มีรู (nuclear pores) แทรกอยู่ทั่วไป เป็นทางให้สารต่างๆ ผ่านเข้าออกได้
ภายในนิวเคลียสบรรจุสารพันธุกรรมที่อยู่ในรูปของโมเลกุล DNA ที่จับกับโมเลกุลของโปรตีน เป็นโครโมโซม
Nucleolus
• มีลักษณะเป็นเม็ดกลมขนาดเล็กในนิวเคลียส (RNA ขดตัวกันแน่นกับโปรตีน) ในหนึ่งเซลล์อาจมีหนึ่งหรือสองเม็ด
มองเห็นชัดขณะเซลล์ไม่มีการแบ่งตัว ทาหน้าที่สร้าง ribosome
13
นิวเคลียส (nucleus)
- 15. Ribosomes
ไม่มีเยื่อหุ้ม สร้างโปรตีน มี 2 subunit สร้างจาก nucleolus (เซลล์ที่สร้างโปรตีนสูงจะพบ nucleolus
และ ribosome จานวนมาก เช่นเซลล์ตับของคน) แบ่งเป็น 2 ชนิด
15
1. free ribosomes ทาหน้าที่สร้างโปรตีนที่ใช้ใน cytosol เช่น เอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับ metabolismใน
cytoplasm
2. bound ribosomes เป็น ribosome ที่เกาะอยู่ด้านผิวนอกของ ER สร้างโปรตีนส่งต่อไปรวมกับ organelles
อื่นๆ และส่งออกไปใช้นอกเซลล์ เช่น เซลล์ตับอ่อนหรือต่อมอื่นที่สร้างน้าย่อย
- 17. 17
Cytoskeleton
1. microfilament ประกอบด้วยโปรตีนที่หดตัวได้ชื่อ actin และอาจ
มี myosin อยู่ด้วย มีมากที่สุด หน้าที่เกี่ยวกับการหดตัวของ
กล้ามเนื้อ การเปลี่ยนรูปร่างของเซลล์ การแยกตัวของไซโตพลาสซึม
(แบ่งเซลล์) pseudopodia movement หรือ ameboid
movement
2. intermediate filament มีการพัฒนาอย่างมาก ประกอบด้วย
โปรตีนอย่างน้อย 5 ชนิด หน้าที่เป็นตัวรับแรงดึง เช่น เดสโมโซมที่
ทาหน้าที่เกี่ยวกับการคงรูปร่างของเซลล์ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับการยึด
กันของไมโครฟิลาเมนท์ในเซลล์กล้ามเนื้อและยังทาหน้าที่ค้าจุน
axon ของเซลล์ประสาท
3. microtubule ประกอบด้วยโปรตีน tubulin มีความแข็งที่สุด พบ
เป็นองค์ประกอบของส่วนยื่นของเซลล์ประสาท เซนโตรโซม และเซน
ตริโอล มีหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของโครโมโซม (แบ่งเซลล์)
ออร์การ์เนลล์ในไซโตพลาสซึม และ ซีเลียกับแฟลกเจลลา
- 18. Endoplasmic reticulum (ER)
มีเยื่อหุ้ม เป็นท่อแบนหรือกลม กระจายอยู่ใน cytosol
ช่องภายใน เรียกว่า cisternal space เชื่อมติดต่อกับ
ช่องว่างที่อยู่ระหว่างเยื่อหุ้มนิวเคลียส
1. Rough endoplasmic reticulum (RER)
มีไรโบโซมเกาะติดด้านนอก (ขรุขระ) สร้างโปรตีนที่ส่งออก
ไปนอกเซลล์ (ไรโบโซมที่เกาะเยื่อ ER
cisternal vesicle Golgi complex
เพิ่มคาร์โบไฮเดรต (glycoprotein) ก่อนส่งออก)
2. Smooth endoplasmic reticulum (SER)
ไม่มีไรโบโซมมาเกาะจึงเรียบ เชื่อมติดต่อกับ RER มี
ความสาคัญในการสร้างฮอร์โมนชนิดสเตอรอยด์ และไขมัน
ลดความเป็นพิษในเซลล์กล้ามเนื้อ (ตับ) ควบคุมการเก็บ
และปล่อยแคลเซียม (การทางานกล้ามเนื้อ) เป็นต้น
18
- 19. The Golgi apparatus
19
เป็นถุงแบนหลายถุงเรียงซ้อนกัน เรียกว่า Golgi cisternar ตรงกลางเป็นท่อแคบและ
ปลายสองข้างโป่งออก และมีกลุ่มของ vesicles อยู่รอบๆ หน้าที่สาคัญ เติมคาร์โบไฮเดรด
ให้กับโปรตีนจาก RER ให้เป็น glycoprotein เพื่อส่งออกโดยกระบวนการ
exocytosis, สร้าง primary lysosomes ซึ่งบรรจุ enzymes ,เกี่ยวกับการสร้าง
ผนังหุ้มเซลล์ (membrane flow)
- 20. Lysosomes
เป็นออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้มรูปกลมขนาดเล็ก ภายในบรรจุ enzyme หลายชนิดที่ทาหน้าที่ย่อย
โมเลกุลขนาดใหญ่ (ทางานดีที่สุดที่ pH 5)
Hydrolytic enzyme และ lysosomal membrane สร้างมาจาก RER และส่งต่อไปยัง Golgi
complex
intracellular digestion เช่น อะมีบากินอาหารหรือเซลล์ของคน เช่น macrophage โดยวิธี
phagocytosis เกิดเป็น food vacuole ซึ่งจะรวมกับ lysosome เอ็นไซม์ในcytosome จะทาหน้าที่
ย่อยอาหารนั้น
การย่อย organelles ในไซโตพลาสซึมเพื่อนาสารต่างๆกลับมาใช้สร้างใหม่อีก (autophagy)
การเกิด metamorphosis ของการพัฒนาของตัวอ่อนในพวกสัตว์สะเทินน้าสะเทินบก
มีบทบาทสาคัญต่อเมตาบอริซึมต่างๆในร่างกายเป็นอย่างมาก ถ้าหากมีความผิดปกติในการทางาน
ของเอ็นไซม์ในไลโซโซม จะทาให้เกิดโรคต่างๆได้
20
- 25. Peroxisomes (microbodies)
พบในเซลล์ยูคาริโอตเกือบทุกชนิด เป็นถุงเยื่อหุ้มชั้นเดียว ภายในมี granular core ซึ่งเป็นที่รวม
ของเอ็นไซม์ย้อมติดสีเข้ม
เอ็นไซม์ชนิดต่างๆทาหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสร้างหรือทาลาย hydrogen peroxide (H2O2)
เพื่อป้ องกันไม่ให้เกิดสารพิษขึ้นภายในเซลล์
RH2 + O2
Oxidase R + H2O2
2H2O2
catalase 2H2O + O2
ในเซลล์ตับพบมี peroxisomes ขนาดใหญ่ จึงเข้าใจว่าอาจมีหน้าเกี่ยวข้องกับการทาลายพิษ
ของสารต่างๆหลายชนิด เช่น alcohol
25
- 26. Mitochondria
พบใน eukaryotic cell เกือบทุกชนิด มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น เยื่อหุ้มชั้นนอกเรียบ ส่วนเยื่อชั้นในจะมีการโป่งยื่น
เข้าข้างในเรียกว่า cristae เยื่อหุ้มทั้งสองชั้นแบ่ง mitochondria เป็นช่องภายใน 2 ส่วน ได้แก่ ช่องที่อยู่
ระหว่างเยื่อชั้นนอกและเยื่อชั้นใน (intermembrane space) และช่องที่ถูกล้อมรอบอยู่ภายในเยื่อชั้นใน
(mitochodrial matrix)
มีเอ็นไซม์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการหายใจระดับเซลล์ (cellular respiration) : ATP
มี DNA และ ribosome (70s) เป็นของตนเอง : เพิ่มจานวนได้ตามความต้องการพลังงาน
26
- 27. Chloroplast
Chloroplast เป็น plastids ชนิดหนึ่งของเซลล์พืชที่มีรงควัตถุสีเขียว ที่เรียกว่า
chlorophyll ซึ่งประกอบด้วยเอ็นไซม์และโมเลกุลของสารที่ทาให้เกิดกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
Chloroplast มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น หุ้มล้อมรอบของเหลวที่เรียกว่า stroma ภายในมีถุงแบน
thylakoids ซึ่งซ้อนกันเป็นตั้งเรียกว่า granum
มี DNA และ ribosome (70s) เป็นของตนเอง : เพิ่มจานวนได้ตามความต้องการสังเคราะห์แสง
27
Plastid มี 3 ชนิด ได้แก่
1. Leucoplast = ไม่มีสี สะสมแป้งในพืช
2. Chromoplast = สีต่างๆเว้นสีเขียว (มะเขือเทศสีแดง)
3. Chloroplast = สีเขียว สังเคราะห์แสง
- 32. Diffusion and Passive transport
การแพร่ (diffusion) หมายถึง การเคลื่อนที่ของโมเลกุลของสารจากบริเวณความ
เข้มข้นมากกว่าไปยังน้อยกว่า จนกว่าจะอยู่ในสภาพสมดุล (dynamic equilibrium) โดย
โมเลกุลของสารยังคงเคลื่อนอยู่แต่เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วเท่ากันทั้งสองบริเวณ การแพร่ของโมเลกุล
ของสารผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เรียกว่า passive transport เซลล์ไม่ต้องใช้พลังงานที่จะทาให้เกิดการ
แพร่ขึ้น และเยื่อหุ้มเซลล์มีสมบัติ selective permeable ดังนั้นอัตราการแพร่ของสารชนิดต่างๆ
จะไม่เท่ากัน
32
ตัวอย่างการแพร่ในสิ่งมีชีวิต
ได้แก่ การหายใจของสัตว์
ขณะหายใจเข้าก๊าซออกซิเจนจาก
อากาศที่ผ่านเข้าไปในถุงลมในปอดมี
ความเข้มข้นสูงกว่าในเส้นเลือดฝอย
ออกซิเจนจึงแพร่จากถุงลมเข้าไปใน
เส้นเลือดฝอย และในขณะเดียวกัน
คาร์บอนไดออกไซด์จะแพร่จากเส้น
เลือดเข้าสู่ถุงลม
- 34. The water balance of living cells
ลูกศรแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของโมเลกุลของน้าผ่านเซลล์สัตว์ซึ่งไม่มีผนังเซลล์ และ
เซลล์พืชซึ่งมีผนังเซลล์
34
- 35. The contractile vacuole of Paramesium : an
evolutionary adaptation for osmoregulation
Filling vacuole
Contracting vacuole
35
- 36. Facilitated diffusion
Transport proteins ช่วยในการนาโมเลกุลของสารผ่านเยื่อหุ้ม
เซลล์จากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารสูงไปยังบริเวณที่มีความ
เข้มข้นต่ากว่า เรียกกระบวนการนี้ว่า facilitated diffusion โดย
เซลล์ไม่ต้องใช้พลังงาน
36
- 37. Active transport
บางครั้งเซลล์ต้องการลาเลียงสารจากที่มีความเข้มข้นต่าไปยังที่มีความเข้มข้น
สูงกว่า กระบวนการนี้เรียกว่า active transport ซึ่งต้องการพลังงานคือ ATP
ตัวอย่างเช่น เซลล์ขับ NA+ ออกนอกเซลล์และนา K+ เข้าไปในเซลล์ ซึ่ง
เรียกว่า Sodium-potassium pump
37
กระบวนการเริ่มต้นจาก Na+ จับกับโปรตีนซึ่ง
เป็น transport protein แล้ว ATP ให้
พลังงานแก่โปรตีนทาให้โปรตีนเปลี่ยนรูปร่าง
และปล่อย Na+ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ออกไป
ขณะเดียวกัน K+ เข้าจับกับโปรตีน ทาให้
โปรตีนเปลี่ยนแปลงรูปร่างอีกครั้งหนึ่ง ทาให้
K+ ถูกปล่อยเข้าไปในเซลล์ แล้วโปรตีนกลับมี
รูปร่างเหมือนเดิมอีกพร้อมที่จะเริ่มต้น
กระบวนการใหม่ต่อไป
- 39. An electrogenic pump
ตัวอย่างเช่น
Na+/K+ pump เป็น electrogenic pump ที่สาคัญของเซลล์สัตว์
Proton pump เป็น electrogenic pump ที่สาคัญของเซลล์พืช แบคทีเรีย และพวก
เห็ดรา รวมทั้ง mitochondria และ chloroplasts ใช้ proton pump ในการสังเคราะห์ ATP
39
Cotransport เป็นกระบวนการร่วมที่เกิดจาก ATP pump ตัวเดียวทางานแล้วมีผลไปทาให้
transport protein ตัวต่อไปทางานเพื่อนาสารเข้าสู่เซลล์
ตัวอย่างเช่น ในเซลล์พืชใช้ proton
pump ร่วมกับ transport protein ที่
นา sucrose –H+ เข้าไปในเซลล์