งานนำเสนอองค์ความรู้จากการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับโรคความผิดปกติทางระบบประสาทมนุษย์ของนักเรียนม.6ห้อง144โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาปีการศึกษา2560 ครูผู้สอน นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่งครู คศ.1 เอกวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ประวัติการศึกษา : พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกรียตินิยมอันดับ 2) สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2551 ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2552 ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พ.ศ. 2555 สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอกสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2558 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการประเมินและการวิจัยทางการศึกษา เอกวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

1. โรคลมชัก

2. งานนาเสนอข้อมูลข้อมูลที่เกี่ยวกับโรคทางระบบประสาท
เรื่อง ลมชัก
แก่ นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์
ครู คศ.1 สาขาวิชาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1

3. สมาชิกภายในกลุ่ม
 นางสาว คนธนันท์ คุณากร เลขที่3 ห้อง 144
 นางสาว ศศินันท์ สุจิรัตนวิมล เลขที่20 ห้อง 144
 นาย กฤษฎ์ อดิเรกสาร เลขที่ 22 ห้อง 144
 นาย เจษฎากร หวังเสต เลขที่ 23 ห้อง 144

4. ครูผู้สอน
 นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตาแหน่งครู คศ.1 เอกวิชาชีววิทยา
 ประวัติการศึกษา :
 พ.ศ. 2549 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกีรยตินิยมอันดับ 2) สาขาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล
 พ.ศ. 2551 ศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ เอกเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
 พ.ศ. 2552 ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
 พ.ศ. 2555 สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เอกสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
 พ.ศ. 2558 ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการประเมินและการวิจัยทางการศึกษา
เอกวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง

5. รายละเอียดของลาดับหัวข้อที่นาเสนอ
ประวัติของโรคลมชัก
สาเหตุของโรคลมชัก
• สมองปกติ
• สมองผิดปกติ
อาการโรคลมชัก
• ชักเฉพาะส่วน
• ชักทั้งตัว
การป้องกันโรคลมชัก
• สาหรับผู้ที่เป็นอยู่แล้ว
• ป้องกันไว้ก่อน
การรักษาโรคลมชัก
• ใช้ยา
• ผ่าตัดสมอง
• กระตุ้นเส้นประสาทสมอง

6. เป็นกลุ่มโรคทางประสาทวิทยาซึ่งถูกจากัดความโดยอาการชักอันมี
ต้นเหตุจากการทางานอย่างสอดคล้องมากเกินไปของเซลล์ประสาท
ระยะเวลาและความรุนแรงของโรคลมชักสามารถมีได้ตั้งแต่แบบสั้นๆ
และแทบไม่มีอาการ ไปจนถึงอาการสั่น
อย่างรุนแรงเป็นเวลานานๆ
โรคลมชัก หรือ โรคลมบ้าหมู Epilepsy

7. ประวัติของโรคลมชัก
บันทึกทางการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุด – มีผู้ป่วยโรคลมชักตั้งแต่สมัยเริ่มมีการ
บันทึกประวัติศาสตร์ คนในสมัยโบราณคิดว่าโรคลมชักเป็นภาวะที่เกี่ยวข้อง
กับ ภูติผี และวิญญาณและพบการระบุไว้ในประมวลกฎหมายฮัมมูราบีมีการ
อธิบายอาการชักของผู้ป่วยโดยเอ็ดวิน พาไพรัส ผู้ป่วยที่ถูกกล่าวถึงได้รับการ
วินิจฉัยว่าตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเทพแห่งดวงจันทร์ และรับการรักษาด้วย
พิธีขับไล่ผีอาการชัก

8. บันทึกรายละเอียดของโรคลมชักที่เก่าแก่ที่สุดพบใน ซาคิกคุซึ่งเป็นตาราแพทย์
เขียนโดยใช้อักษรรูปลิ่มของชาวบาบิโลเนียทาขึ้นระหว่างปี 1067 ถึง 1046
ก่อนคริสตกาลในบันทึกฉบับนี้มีการกล่าวถึงรายละเอียดของโรคลมชักเช่น
ลักษณะอาการ รายละเอียดการรักษา และ ผลการรักษาที่พบ นอกจากนั้น
ยังมีคาอธิบายรูปแบบต่าง ๆ ของอาการชักไว้ด้วย
ประวัติของโรคลมชัก (ต่อ)

9. สาเหตุของโรคลมชัก
โรคลมชักอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ
ทั้งในผู้ที่มีสมองปกติ และผู้ที่มีความผิดปกติทางสมอง
1.ผู้ที่มีสมองปกติ การชักอาจเกิดจากการได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่
-ไข้สูง
-ระดับน้าตาลและเกลือแร่ผิดปกติ
-การใช้ยาบางชนิด
-การอดนอน

10. 2.ผู้ที่มีความผิดปกติในสมอง ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของการชัก ได้แก่
-โรคทางพันธุกรรมที่มักมีอาการชักร่วมด้วย
-ภาวะสมองพิการแต่กาเนิด ซึ่งเกิดตั้งแต่เมื่อทารกยังอยู่ในครรภ์ อาจมีสาเหตุมา
จากการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ การได้รับสารเสพติด การขาดอาหาร หรือ
อุบัติเหตุในระหว่างตั้งครรภ์ เป็นต้น
-การกระทบกระเทือนต่อสมองเนื่ องมาจากอุบัติเหตุ
-การติดเชื้อในสมอง อาทิ ฝีในสมอง สมองอักเสบ
-เนื้องอกในสมอง หรือมะเร็งที่กระจายจากอวัยวะอื่น ๆ
มาสู่สมอง
สาเหตุของโรคลมชัก (ต่อ)

11. ลักษณะอาการสาคัญของโรค
1.ชักเฉพาะส่วน
- ชักเกร็ง กระตุกเฉพาะส่วน
อาการเกร็งหรือกระตุกเป็นๆหายๆ ครั้งละไม่นาน โดยผู้ป่วย
ยังรู้สึกตัวดี โต้ตอบกับคนรอบข้างได้
- มีพฤติกรรมผิดปกติ
มีอาการเหม่อต่างๆ ต้องสังเกตให้ดี เพราะผู้ป่วยยังเดินไปมา
ได้ปกติ แต่ไม่สามารถโต้ตอบได้บางคนอาจจะถูมือไปมา
- ชักเกร็ง กระตุกเฉพาะส่วนแล้วลุกลามเป็นทั้งตัว
ตอนแรกผู้ป่วยจะมีอาการเกร็งหรือกระตุกเป็นบางส่วน
โดยยังรู้สึกตัวดี ต่อมาจะเป็นมากขี้นจนทั่วทั้งตัว และหมดสติ

12. 2.ชักทั้งตัวหมดสติ
- ผู้ป่วยจะล้มลงกับพื้นทันที โดยไม่มีอาการมาก่อน
- ชักกระตุกครั้งเดียวอย่างแรง
มีอาการกระตุกขึ้นมาอย่างแรงทั้งตัว หมดสติเป็นเวลาสั้นๆ
- ชักเกร็งกระตุกทั้งตัวและหมดสติ(ลมบ้าหมู)
พบมากกว่าประเภทอื่นและมักพบในเด็ก บางคนอาจมีอาการตาค้าง
ตาเหลือก น้าลายฟูมปาก ขากรรไกรแข็ง กัดริมฝีปากกัดลิ้นตัวเอง
- นั่งนิ่งเหม่อลอย
อาการเหมือนคนนั่งหรือยืนนิ่งๆไม่พูดอะไร อาจมีการกระพริบตาถี่ๆ
ลักษณะอาการสาคัญของโรค (ต่อ)

13. การป้องกันโรคลมชัก
สาหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคลมชักอยู่แล้ว
- รับประทานยาอย่างสม่าเสมอและถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์หาก
รู้สึกว่าการรับประทานยาไม่สามารถควบคุมอาการชักได้
- นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถกระตุ้นอาการชักได้
ดังนั้นจึงควรนอนหลับวันละ 6-8 ชั่วโมง
- สวมป้ายข้อมือทางการแพทย์ การสวมใส่ป้ายข้อมือที่ระบุว่าเป็นโรคลมชัก
สามารถช่วยให้คนรอบข้างช่วยผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีเมื่ออาการกาเริบ
- ออกกาลังกาย การออกกาลังกายอย่างเหมาะสมจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงมากขึ้น

14. โรคลมชักสามารถป้องกันได้ด้วยการลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรค
- ป้องกันการบาดเจ็บที่สมอง เช่น ขับขี่อย่างปลอดภัย เดินอย่างระมัดระวัง
อาการบาดเจ็บที่สมองคือสาเหตุของโรคลมชักที่มักพบได้บ่อย
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง พบมากในผู้สูงอายุ เราควรดูแลสุขภาพ
ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ ไม่สูบบุหรี่
- ล้างมือให้สะอาดและรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
โรคพยาธิตืดหมูคือหนึ่งในสาเหตุของโรคลมชักที่สามารถพบได้โดย
โรคนี้มีสาเหตุจากพยาธิที่อยู่ในอาหารที่ปนเปื้อนและไม่ผ่านการปรุงสุก
การป้องกันโรคลมชัก (ต่อ)

16. การรักษาโรคลมชัก
บางกรณีสามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ก็มีหลายรายที่ไม่สามารถรักษาให้
หายได้ทาได้เพียงยับยั้งไม่ให้เกิดอาการชักด้วยการรับประทานยาควบคุมอาการ
- การใช้ยา (Anti-epileptic Drugs: AEDs)
ยาต้านอาการชักนั้นไม่สามารถรักษาโรคลมชักให้หายขาดได้ทาได้เพียง
ควบคุมอาการชักเท่านั้น โดยกลไกหลักของยาต้านอาการชักนั้นก็คือ
ตัวยาจะเข้าไปปรับเปลี่ยนปริมาณสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับนา
กระแสไฟฟ้าในสมอง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการชัก

17. การผ่าตัดสมอง
ในกรณีที่การใช้ยาไม่สามารถควบคุมอาการชักได้แพทย์ผู้
เชี่ยวชาญจะแนะให้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อนาเอาสมองส่วนที่
เป็นสาเหตุของโรคลมชักออก การรักษาด้วยวิธีนี้จะถูกแนะ
นาให้ผู้ป่วยก็ต่อเมื่อสาเหตุของโรคลมชักเกิดจากส่วนใดส่วน
หนึ่งในสมองที่แน่ชัด หรือการผ่าตัดนาส่วนของสมองนั้นออก
แล้วจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการทางานของสมองโดยรวม
การรักษาโรคลมชัก (ต่อ)

18. การกระตุ้นเส้นประสาทสมอง (Vagus Nerve Stimulation: VNS)
เป็นการผ่าตัดฝังอุปกรณ์ไว้ใต้ผิวหนังบริเวณกระดูกไหปลาร้า โดยอุปกรณ์
ดังกล่าวปล่อยกระแสไฟฟ้าไปยังเส้นประสาท ช่วยให้ความถี่และ
ความรุนแรงของอาการชักลดลงได้โดยผู้ป่วยยังต้องใช้ยาต้านอาการชัก
และอาจพบอาการข้างเคียงเช่น เสียงแหบ เจ็บคอ หรือไอขณะที่อุปกรณ์ทางาน
การรักษาโรคลมชัก (ต่อ)

19. การกระตุ้นสมองส่วนลึก (Deep Brain Stimulation: DBS)
เป็นการผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าไว้ที่บริเวณสมองเพื่อลดการทางานที่ผิดปกติ
ของกระแสไฟฟ้าในสมองที่เกี่ยวข้องกับอาการชัก อุปกรณ์นี้สามารถลด
ความถี่ของอาการชักได้แต่อาจทาให้เกิดเลือดออกในสมอง เกิดภาวะซึมเศร้า
หรือปัญหาเกี่ยวกับความจา
การรักษาโรคลมชัก (ต่อ)

21. คลิปวิดีโอเกี่ยวกับโรคลมชัก

22. บทสรุปของโรคลมชัก
ประวัติโรคลมชัก - มีผู้ป่วยโรคลมชักตั้งแต่สมัยเริ่มมีการบันทึกประวัติศาสตร์
คนในสมัยโบราณคิดว่าโรคลมชักเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับ ภูติผี และวิญญาณ
สาเหตุของโรคลมชัก - แบ่งออกเป็น ผู้ที่มีสมองปกติ ที่ได้รับการกระตุ้นจาก
ปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การมีไข้สูง และ ผู้ที่มีความผิดปกติในสมอง อาทิ โรคทาง
พันธุกรรม การติดเชื้อในสมอง
ลักษณะอาการของโรค – แบ่งออกเป็น ชักเฉพาะส่วน หรือ ชักทั้งตัวหมดสติ

23. การรักษาโรคลมชัก - การใช้ยานั้นไม่สามารถรักษาโรคลมชักให้
หายขาดได้แต่การผ่าตัดสมองจะสามารถรักษาโรคให้หายขาดได้โดย
สถิติแล้ว ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดสมองร้อยละ70 จะ
หายขาดจากโรค
การป้องกันโรคลมชัก – ทาได้โดยลดความเสี่ยงที่จะทาให้เกิดโรค อาทิ
ป้องกันการบาดเจ็บที่สมอง ล้างมือให้สะอาดและรับประทานอาหารที่ถูก
สุขลักษณะ สาหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคลมชักอยู่แล้ว ควรรับประทานยาอย่าง
สม่าเสมอและถูกต้อง นอนหลับให้เพียงพอ และ ออกกาลังกาย
บทสรุปของโรคลมชัก (ต่อ)

24. บรรณานุกรม
 http://haamor.com/th/%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%8A
%E0%B8%B1%E0%B8%81/
 https://health.kapook.com/view4982.html
 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%
B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8
%81
 https://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases
-treatment/epilepsy-1
 http://www.thailandepilepsy.org/?page_id=463

25. ขอบคุณค่ะ/ครับ