306325 unit6-e-payment

ระบบการชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Payment System)
Unit 6 :
306325 : พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
อ.ดร.ศุภชานันท์ วนภู
Supachanun.w@gmail.com
Business Computer, FMS, NRRU

306325 Unit 6 : E-Payment
เนื้อหาของบทนี้
1) ความหมายและประเภทของระบบชาระเงิน
2) ระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของไทย
3) วิธีการชาระเงินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
 บริการชาระเงินผ่านที่ทาการไปรษณีย์
 บริการโอนเงินผ่านธนาคาร
 บริการชาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
 บริการชาระเงินผ่านทางโทรศัพท์
 บริการชาระเงินผ่านผู้ให้บริการอื่นๆ
4) แนวทางในการเลือกระบบชาระเงินที่ดี
2

ระบบชาระเงินคืออะไร
3
ระบบการชาระเงิน หมายถึง กระบวนการส่งมอบหรือโอนสื่อการชาระ
เงินเพื่อชาระราคา โดยมีองค์ประกอบที่สาคัญ 3 ส่วน คือ
(1) องค์กรและบุคคล หมายถึง ผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน และองค์กรที่เป็นตัวกลางใน
การชาระเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน เป็นต้น
(2) กระบวนการดาเนินการภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อตกลง กฎเกณฑ์
ธรรมเนียมปฏิบัติ ที่กาหนดบทบาท หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร
และบุคคลต่าง ๆ รวมถึงกลไกการชาระเงินที่เกี่ยวข้อง
(3) สื่อการชาระเงินประเภทต่าง ๆ เช่น เงินสด ตราสารการเงิน บัตร
พลาสติก การโอนเงินทางบัญชี ตลอดจนถึงการชาระเงินด้วย

ประเภทของระบบชาระเงิน
4
ระบบการชาระเงินแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
(1) ระบบการชาระเงินด้วยเงินสดจะเกี่ยวข้องกับ
กระบวนการต่าง ๆ เช่น การจัดพิมพ์ธนบัตร การนา
ธนบัตรออกใช้ การรับและจ่ายเงินสดระหว่างธนาคาร
กลาง สถาบันการเงิน และบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนการตรวจคัดธนบัตรชารุดออกไปทาลาย และ
พิมพ์ธนบัตรใหม่ขึ้นทดแทนเป็นต้น

ประเภทของระบบชาระเงิน
5
ระบบการชาระเงินแบ่งได้เป็น 2 ประเภท
(2) ระบบการชาระเงินด้วยสื่อการชาระเงินที่มิใช่เงินสด
จาแนกได้เป็นการใช้สื่อการชาระเงินที่เป็นตราสาร เช่น เช็ค
ดร๊าฟท์ ตั๋วแลกเงิน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับผู้สั่งจ่าย ผู้ทรงเช็ค
ธนาคารที่เกี่ยวข้อง ระบบหรือวิธีการแลกเปลี่ยนเช็คระหว่าง
ธนาคาร ตลอดจนกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เช็ค เป็นต้น สาหรับ
สื่อการชาระเงินที่มิใช่ตราสาร เช่น ระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะ
เกี่ยวข้องกับบุคคล สถาบันการเงิน รวมถึงระบบการโอนเงิน
ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ
ระเบียบวิธีการดาเนินงานที่เกี่ยวข้องด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของไทย
 ระบบโอนเงินรายใหญ่ (BAHTNET)
 ระบบโอนเงินรายย่อย (Media Clearing)
 บัตรเครดิต (Credit Card)
 ระบบแสดงใบเรียกเก็บเงินและชาระเงิน
(Electronic Bill Presentation and Payment
หรือ eBPP)
 ระบบเช็ค (Electronic Cheque Clearing
System หรือ ECS)
6

 ระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit / Direct
Credit)
 ระบบชาระเงินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
(E-Commerce Payment)
 ธนาคารอินเทอร์เน็ต (Internet Banking)
 ระบบโอนเงิน EDI หรือ Financial Electronic
Data Interchange (FEDI)
7

 ระบบโอนเงินรายย่อย (Online Retail Fund
Transfer หรือ ORFT)
 บัตรเครดิต (Credit Card)
 บัตรเดบิต (Debit Card)
 ระบบโอนเงินผ่านที่ทาการไปรษณีย์
 ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ SWIFT
 ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ Western Union
8

ระบบการชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์
9
ระบบการชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ดาเนินการมี 3 ระบบได้แก่
(1) ระบบการโอนเงินรายใหญ่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ระบบ
BAHTNET
(2) ระบบการหักบัญชีเช็คด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ระบบ ECS
(3) ระบบการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร หรือ ระบบ Media
Clearing

 ระบบโอนเงินรายใหญ่ (BAHTNET) เป็นเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงิน
ที่สร้างขึ้นโดย ธปท. สามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก โดยเน้นธุรกรรม
ขนาดใหญ่ผ่านเครือข่าย VPN ที่เชื่อมอยู่กับ Terminal ที่เคาน์เตอร์ของ ธ.พาณิชย์ โดยเป็นวิธี
ชาระเงินแบบมีผลทันที (Real Time Gross Settlement ; RTGS)
BOT
บ/ช กระแสรายวันทั้งสองธนาคาร
เมื่อมีคาสั่งโอนเงินเข้าบ/ช ธนาคาร ข.
ธนาคาร ก
ธนาคาร ขBOT หักบ/ชกระแสรายวัน ก เข้า ขBOT จะรับหลักทรัพย์ค้าประกันจาก
ธนาคาร ก. เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการโอน
เงิน เช่น พันธบัตร ทาให้ BOT สามารถ
ปล่อยกู้ให้ได้ทันทีเมื่อเงินไม่พอตัดบัญชี
BAHTNET-VPN
BAHTNET-VPN
ธุรกรรมไม่น้อยกว่า 30% ในแต่ละวัน
ให้กระทาช่วงเช้า เพื่อให้เกิดการ
ไหลเวียนของเงินในระบบทั้งวัน
ระบบโอนเงินรายใหญ่

ระบบโอนเงินรายใหญ่
 การโอนเงินระหว่างสถาบันการเงิน โดยเน้นที่มูลค่าธุรกรรมขนาด
ใหญ่ โดยผู้รับโอนเงินสามารถถอนเงินจากบัญชีได้ทันที
 ผู้ใช้บริการสามารถโอนเงินไปสู่บัญชีธนาคารใดก็ได้ โดยติดต่อที่
เคาน์เตอร์ของธนาคารพาณิชย์ ที่มีเครื่องเทอร์มินัลเชื่อมกับระบบ
BAHTNET ผ่าน Virtual Private Network อยู่โดยธนาคารจะปิด
รับโอนเงินในเวลา 14.30 น.
 การโอนเงินด้วยระบบ BAHTNET เป็นวิธีชาระเงิน
แบบมีผลทันที
11

ระบบโอนเงินรายย่อย
 ระบบโอนเงินรายย่อย (Media Clearing)
เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์แบบ BAHTNET แต่มีธุรกรรมไม่เกิน 500,000 บาทต่อวัน และไม่เป็น
RTGS ต้องรอรวบรวมธุรกรรมไว้จนหมดสิ้นวัน จึงส่งข้อมูลเข้าชาระบัญชีระหว่างธนาคารที่ BOT
(Batching Process) วันละ 1 ครั้ง ในรูปของไฟล์อีเล็กทรอนิกส์ ผู้รับโอนเงินจะได้รับเงินวันรุ่งขึ้น
BOT
เมื่อมีคำสั่งโอนเงินเข้ำบ/ชธนำคำร ผู้รับโอน
ธนำคำร ผู้โอน
ธนำคำร ผู้รับโอน
รวบรวมทุก Transaction เป็น 1 file
BOT จะรับไฟล์อีเล็กทรอนิกส์วันละ 1 ครั้ง (Batch File)
BAHTNET-VPN
BAHTNET-VPN
ธุรกรรมย่อยได้แก่ การโอนเงินจาก
บัญชีบริษัท เข้าบัญชีเงินเดือน
พนักงาน

ระบบโอนเงินรายย่อย
 เป็นระบบชาระเงินรายย่อยซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน
500,000 บาท
 ระบบนี้ไม่มีการโอนเงินแบบมีผลทันที แต่จะรวบรวม
ธุรกรรมไว้จนถึงสิ้นวันจึงมีการส่งข้อมูลเข้าทาการ
ชาระบัญชีระหว่างธนาคารซึ่งฝากไว้ที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (Batch file)
13

ระบบแสดงใบเรียกเก็บเงินและชาระเงิน
 บริการส่งใบแจ้งหนี้และรับชาระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ผู้ให้ บริการจะติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ ซึ่งมีฐานลูกค้าจานวน
มากและมีรอบการเก็บเงินค่าบริการทุกเดือน และกาหนดให้
บริษัทเหล่านี้ส่งข้อมูลค่าบริการประจาเดือนแก่ผู้ให้บริการ
eBPP
 eBPP อยู่รายเดียวในประเทศไทยคือ บริษัท Advance
Business eXchange โดยผ่านเวบไซต์
www.ThailandBills.com
14

ระบบเช็ค
 ระบบการชาระเงินโดยเช็คระหว่างธนาคารอยู่ภายใต้การดูแล
ของ Electronic Clearing House ของธนาคารแห่งประเทศ
ไทย
 มีวัตถุประสงค์หลัก คือ การเคลียร์เช็คระหว่างธนาคารได้
รวดเร็วขึ้นโดยการส่งข้อมูลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งระบบ
Offline and online
15

Electronic Cheque Clearing System
สั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าและ
เขียนเช็คเพื่อชาระเงิน
ร้านค้านาเช็คเข้า
ธนาคารของ
ร้านค้าเพื่อให้เรียก
เก็บเงินตามเช็ค
นาเช็คส่งเคลียริ่งเฮ้าส์
เพื่อเรียกเก็บเงินจาก
ธนาคารเจ้าของเช็ค
ฐานข้อมูลลายมือชื่ออีเล็กทรอนิกส
ธนาคารของผู้ซื้อ
ผู้ซื้อสินค้า
เรียกเก็บเงินตาม
เช็คหรือหักบัญชีเงิน
ฝากกระแสรายวัน
BOT
สำนักหักบัญชีอัตโนมัติ
ส่งเช็คเข้ำมำที่ ธปท.
กระจายเช็คกลับมา
ยังธนาคารเจ้าของ
เช็ค

Electronic Cheque Clearing System
 การใช้อิเล็กทรอนิกส์เช็ค
17

ระบบหักบัญชีอัตโนมัติ
 ระบบที่เจ้าของบัญชีธนาคารอนุญาตให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีเพื่อ
ชาระค่าบริการแก่ผู้ให้บริการที่ระบุไว้ล่วงหน้าตามรอบที่กาหนด หรือาจ
เรียกว่า เป็นการหักเงินจากเจ้าของบัญชีหลายรายไปสู่เจ้าของบัญชีราย
เดียว Many-to-one
 ระบบนี้เป็นที่นิยมในการชาระค่าสาธารณูปโภค
 ระบบ Direct Credit เป็นกระบวนการที่เจ้าของบัญชีอนุญาตให้ธนาคาร
หักเงินจากบัญชีของตนและกระจายไปสู่เจ้าของบัญชีหลายคนได้ หรือ
อาจเรียกว่าเป็นกระบวนการ One-to-many ซึ่งนิยมใช้ในการโอน
เงินเดือนให้แก่พนักงานในหน่วยงานทุกสิ้นเดือน
18

e-Commerce Payment






e-Commerce Payment
- ความพยายามของธนาคาร
 CVV2 หลังบัตรเครดิต กรอกลงไปในเว็บไซต์
 บัตร VISA Electron
 บัตร MasterCard Electronic

ลูกค ้าเลือกซื้อ
สินค ้าใน website
Merchant จะส่งข ้อมูลบัตรเครดิต
และวงเงินค่าสินค ้าไปยัง
Payment Gateway ซึ่งข ้อมูลนี้
จะถูกเข ้ารหัสไว ้แล ้ว
Payment Gateway
ตรวจสอบข ้อมูลของบัตร
เพื่อขออนุมัติวงเงินต่อไป
(Authorization)
เรียกเก็บเงินจากบัญชีของลูกค ้า
Payment Gateway
ธนาคาร
ผู้ออกบัตรเครดิต
ตัดยอดชาระ
แก่ผู้ขาย
Component of e-Payment by 

Security Policy

https://www....
ทดสอบการใช้งานระบบ SSL
และการ Certified Site
Double click here

e-Commerce Payment
Verified by VISA
 เป็นระบบชาระเงินชนิดใหม่ที่คิดค้นโดย VISA
เพื่อลดความเสี่ยงจากการทาธุรกรรมทางการเงินบน
อินเทอร์เน็ต
 ผู้ถือบัตรเครดิตจะต้องทาการขอรหัสลับจากธนาคารผู้ออกบัตรก่อนชาระค่าสินค้าในเว็บไซต์ที่มี
Verified by VISA เมื่อถึงขั้นตอนการชาระเงินจะมีหน้าจอให้กรอกข้อมูลรหัสลับในหน้า
ดังกล่าว ผู้ซื้อจะปลอดภัยจากการที่ร้านค้านี้ได้รับการระบุตัวตนที่แท้จริง และมั่นใจได้ว่าจะไม่
ถูกนาข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ
 ร้านค้าก็มั่นใจเพราะมีการยืนยันตัวผู้ซื้อชัดเจน เพราะหากเกิดการปฏิเสธการชาระเงิน ธนาคาร
ที่ออกบัตร Visa จะเป็นผู้รับผิดชอบการชาระเงินนั้น
 ด้วยระบบการชาระเงินที่ดี จะทาให้การซื้อขายสินค้าบนระบบพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์เป็นไปได้
นับเป็นการเปิดโอกาสแก่ผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ช่องทางนี้พัฒนาการค้าต่างประเทศได้มาก
ขึ้นด้วย

Transaction Brokers

ธนาคารอินเทอร์เน็ต
ธนาคารอินเทอร์เน็ต (Internet Banking)
 เป็นการเพิ่มความสะดวกในการชาระเงินแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและไม่
ต้องใช่สมุดคู่ฝาก เช่น การดูยอดเงินในบัญชี การโอนระหว่างบัญชีออมทรัพย์กับ
กระแสรายวัน การชาระค่าสาธารณูปโภคผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยระบบ
หักบัญชีด้วยตนเอง

ธนาคารอินเทอร์เน็ต

ระบบโอนเงิน EDI หรือ Financial Electronic
Data Interchange
 การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นมาตรฐานรูปแบบข้อมูลทางการค้า มักใช้ใน
ธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น กรมศุลกากร
31

ระบบโอนเงินรายย่อย (Online Retail Fund Transfer)
<ORFT>
 ลูกค้าธนาคารสามารถทาการโอนเงินข้ามบัญชีระหว่าง
ธนาคารได้ โดยทาธุรกรรมผ่านเครื่อง ATM ได้ทุกธนาคาร
32

บัตรเครดิต
(Credit Card System)
 บัตรเครดิตคือบัตรที่ผู้ใช้บัตรได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารเจ้าของบัตรให้สามารถ
ใช้เงินเพื่อซื้อหาสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ที่เป็นสมาชิกกับธนาคาร แล้วจะทาการ
เรียกเก็บเงินงวดละ 1 เดือน ในปัจจุบันมี 2ประเภท คือ
 บัตรเครดิตของธนาคารในประเทศไทย
 บัตรเครดิตบริษัทต่างประเทศ เช่น VISA , MasterCard , JCB , AMEX
 บัตรเครดิตจึงเป็นช่องทางในการรับชาระเงินจากการซื้อขายผ่าน e-Commerce
ได้อีกช่องทางหนึ่ง ด้วยข้อดีที่ปลอดภัยดังนี้
1. ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตจะออกเงินล่วงหน้าแก่ผู้ซื้อ ดังนั้นถ้าผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้า สามารถปฏิเสธ
การจ่ายเงินได้เมื่อถึงรอบบัญชีเรียกเก็บ
2. ร้านค้าสามารถโต้แย้งข้อพิพาทต่อรายการค้าที่มีปัญหาได้ 6 เดือน และสามารถติดตามตรวจสอบ
รายการซื้อขายว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่

บัตรเดบิต
 บัตรเดบิตเป็นส่วนผสมระหว่างบัตร ATM และบัตรเครดิต
โดยผู้ใช้บัตรจะต้องมีบัญชีเงินฝากจากธนาคารก่อน เมื่อ
ต้องการใช้เงินผู้ถือบัตรเดบิตสามารถถอนเงินจากเครื่อง ATM
โดยใช้บัตรของตนเช่นเดียวกับบัตร ATM
 และสามารถใช้ในการชาระสินค้าได้โดยหักเงินผ่านบัตร
เช่นเดียวกับบัตรเครดิต เพียงแต่จะเป็นการหักเงินในบัญชี
ทันที ไม่ได้รอรอบการชาระเหมือนบัตรเครดิต
34

ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T
 Society for World wide Interbank Financial
Telecommunication
 เกิดจากการรวมกลุ่มของสถาบันการเงินเพื่อสร้าง
เครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางการเงินระหว่างประเทศ
35

ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ Western Union
 ระบบนี้เป็นทางเลือกของการโอนเงินรายย่อยระหว่าง
ประเทศ โดยผู้ให้บริการ บริษัท Western Union
Financial Services ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา
36

วิธีการชาระเงินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การเลือกวิธีการชาระเงิน เป็นสิ่งที่สาคัญสาหรับการทาธุรกรรม
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะถ้ามีระบบการชาระเงินที่ดีและสะดวก
ก็จะทาให้การบริการไม่สะดุด สามารถแบ่งวิธีการหรือช่องทางการ
ชาระเงินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ออกเป็น 5 ประเภท คือ
 บริการชาระเงินผ่านที่ทาการไปรษณีย์
 บริการโอนเงินผ่านธนาคาร
 บริการชาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
 บริการชาระเงินผ่านทางโทรศัพท์
 บริการชาระเงินผ่านผู้ให้บริการอื่นๆ
37

(1) บริการชาระเงินผ่านที่ทาการไปรษณีย์
ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการผ่านที่ทาการไปรษณีย์ได้
มากกว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ และผู้ให้บริการอีกกว่า
900 แห่ง โดยมีรูปแบบของการให้บริการ ได้แก่
(1) บริการธนาณัติ
(2) ตั๋วแลกเงินไปรษณีย์
(3) ไปรษณีย์เก็บเงิน หรือพัสดุเก็บเงินปลายทาง
(4) เพย์ แอท โพสท์ (PAY AT POST) บริการชาระค่าใช้จ่าย
ต่างๆ มากกว่า 80 รายการ
38

(2) บริการโอนเงินผ่านธนาคาร
การโอนเงินผ่านธนาคารผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้หลาย
รูปแบบ ดังนี้
(1) โอนเงินผ่านบริการของเคาน์เตอร์ธนาคาร
(2) โอนเงินผ่านเครื่องฝากเงินอัตโนมัติ (ATM)
(3) ชาระผ่านอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง
39

 การใช้บัตรเครดิตเป็นระบบชาระเงินที่ธนาคารให้วงเงิน
แก่ผู้ถือบัตรเพื่อซื้อหาสินค้าจากร้านค้าที่เป็นสมาชิก
ร้านค้าของธนาคาร การเรียกเก็บจะกระทาเป็นงวด
เดือนละ 1 ครั้ง
 ปัจจุบันมีบัตรเครดิต 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
และ
40
(3) บริการชาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต

(4) บริการชาระเงินผ่านทางโทรศัพท์
เป็นรูปแบบการชาระเงินที่นาเอาเทคโนโลยีต่างๆมาใช้งาน
ร่วมกับ Internet เพื่อให้ระบบการชาระเงินมีความสมบูรณ์
มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของการให้บริการ ได้แก่
(1) ไมโคร เพย์เมนท์ (Micro Payment)
(2) ระบบออดิโอเท็กซ์ 1900
(3) การชาระเงินด้วย SMS
(4) โมบายเพย์เมนท์คลับ
(5) mPay จาก AIS
41

ธนาคารอินเทอร์เน็ต (e-Banking)
 ระบบธนาคารที่อนุญาตให้ลูกค้าซึ่งมีบัญชีเงินฝากกับ
ธนาคารสามารถทาธุรกรรมบางประเภทกับธนาคารได้
โดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและไม่ใช้สมุกคู่ฝาก
ตัวอย่างของธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการระบบธนาคาร
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
42

 การขยายตัวอย่างรวดเร็วของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตใน
ประเทศไทย ทาให้ผู้ประกอบการสนใจในการนา
สินค้าของตนมาเสนอขายทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ซึ่ง
จัดเป็นรูปแบบหนึ่งของการทาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
43
(5) บริการชาระเงินผ่านผู้ให้บริการอื่นๆ

BIS Core Principle
 เงื่อนไขในการเลือกระบบชาระเงินที่ดี หรือ Bank for
International Settlement หรือ BIS ได้วางหลักการ
ของระบบชาระเงินที่ดีเพื่อใช้ประเมินกับระบบชาระ
เงินที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้จานวนมาก และมีการหักบัญชี
ระหว่างสถาบันการเงิน หลักการนี้เรียกว่า BIS Core
Principle ซึ่งมีองค์ประกอบ 10 ข้อสาหรับพิจารณา
ระบบชาระเงินที่ดี
44

BIS Core Principle
1. ระบบชาระเงินนั้นต้องได้รับการรับรองตามกฎหมาย
2. กฎ ระเบียบ ของระบบชาระเงินต้องเป็นที่เข้าใจแก่ผู้ที่
เกี่ยวข้อง รวมทั้งเข้าใจถึงความเสี่ยงทั้งหมดที่เกิดจากการ
เข้าร่วมใช้ระบบชาระเงินนั้น
3. ระบบชาระเงินจะต้องมีกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่อาจ
เกิดขึ้นเนื่องจากสมาชิกบางคนในระบบไม่สามารถชาระหนี้
ได้
45

BIS Core Principle
4. การชาระราคา (Settlement)
5. การชาระราคาสุทธิระหว่างกัน (Multilateral Netting)
6. การชาระราคาใช้สินทรัพย์ที่ออกโดยธนาคารกลาง
7. ระบบชาระเงินต้องการรักษาความปลอดภัยและมีความ
น่าเชื่อถือในการดาเนินการระบบชาระเงินจะต้องมีการ
เตรียมแผนสารองเพื่อให้กระบวนการดาเนินงานประจาวัน
เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด
46

BIS Core Principle
8. ระบบชาระเงินต้องมีประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจและ
สะดวกต่อการปฏิบัติ
9. ระบบชาระเงินจะต้องมีเป้าหมายและวางเงื่อนไขของสมาชิก
ในการเข้าร่วมใช้บริการที่เปิดเผยและชัดเจน เพื่อให้เกิดความ
เป็นธรรม
10. ผู้บริหารระบบชาระเงินจะต้องมีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
โปร่งใส และต้องรับผิดชอบต่อการดาเนินงาน
47

ระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย
 ระบบ BAHTNET
 ระบบ Media Clearing
 ระบบเช็ค
 ระบบบัตรเครดิต
 ระบบโอนเงินรายย่อย ORFT
48

Web Site
ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th
SWIFT www.swift.com
Western Union www.westernunion.com
VISA www.visa.com
Master www.mastercard.com
eBPP ในไทย www.thailandbill.com
บริษัท PCC www.pccepay.com
BIS Core Principle www.bis.org
49

306325 unit6-e-payment

Recommended

Recommended

More Related Content

What's hot

What's hot (20)

Similar to 306325 unit6-e-payment

Similar to 306325 unit6-e-payment (17)

More from pop Jaturong

More from pop Jaturong (20)

306325 unit6-e-payment