More Related Content
Similar to แผนการสอน (20)
แผนการสอน
- 1. แผนการจัดการ
เรียนรู้
หน่วยการเรียนที่
1
วิชา การเขียน
โปรแกรมภาษาซี
รหัส ง 30243
จำานวน 1
หน่วยกิต
ชื่อหน่วย ภาษา
คอมพิวเตอร์และ
หลักการ
เขียนโปรแกรม
จำานวนชั่วโมง
รวม 2 ชั่วโมง
เรื่อง ภาษาคอมพิวเตอร์และหลักการเขียน
โปรแกรม
จำานวนชั่วโมง
2 ชั่วโมง
สาระสำาคัญ
การเขียนโปรแกรมผู้เขียนส่วนใหญ่มักประสบปัญหา คือไม่
ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในการ
เขียนโปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ซึ่งการเขียน
โปรแกรมที่ดีนั้นจะต้องคำานึงถึงสิ่งต่อไปนี้ คือ
1. ต้องมีความเข้าใจการทำางานของระบบคอมพิวเตอร์ และ
เข้าใจหน้าที่ของแต่ละ
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
2. ต้องมีความเข้าใจขั้นตอนของหลักการเขียนโปรแกรม
3. ต้องมีความเข้าใจหลักเกณฑ์และโครงสร้างของภาษาที่ใช้
เขียนโปรแกรม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบความหมายและยุคของคอมพิวเตอร์
2. สามารถอธิบายหลักการทำางานของตัวแปลภาษาประเภท
ต่าง ๆ
3. สามารถอธิบายขั้นตอนการเขียนหรือการพัฒนาโปรแกรม
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
1
- 2. 2. ความหมายและยุคของภาษาคอมพิวเตอร์
3. ตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์
4. หลักการเขียนหรือการพัฒนาโปรแกรม
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. แนะนำาการเรียนการสอน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี
รายละเอียดมาตรฐานวิชาชีพ
จุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา คำาอธิบายรายวิชา
การวัดผลและประเมินผล
2. อธิบาย ความหมายและยุคของภาษาคอมพิวเตอร์ ตัวแปล
ภาษาคอมพิวเตอร์ หลักการเขียนหรือการพัฒนาโปรแกรม
ในขณะบรรยายจะสอดแทรกความรู้ด้านคุณธรรม
จริยธรรม ให้ผู้เรียนตามโอกาส
3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะสอน
4. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
5. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
6. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการเรียนรู้
ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
2
- 3. ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
3
- 5. ชื่อหน่วย แนะนำา
ภาษาซี
จำานวนชั่วโมง
รวม 2 ชั่วโมง
เรื่อง แนะนำาภาษาซี จำานวนชั่วโมง
2 ชั่วโมง
สาระสำาคัญ
ภาษาซีเป็นภาษาที่มีลักษณะเป็นโครงสร้างและใช้ได้กับงาน
หลาย ๆ ด้าน คำาสั่งที่ใช้ในภาษาซี
มีลักษณะคล้ายกับภาษาระดับสูงอื่น ๆ แต่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้น
นั่นคือภาษาซีสามารถใช้งานในระดับตำ่า (Low Level) ได้ เปรียบ
เสมือนสะพานเชื่อมโยงภาษาเครื่องซึ่งเป็นภาษาระดับตำ่าเข้ากับ
ภาษาระดับสูง ทำาให้ภาษาซีสามารถใช้งานในด้านซอฟต์แวร์ระบบ
(System Software) เช่นใช้ในการเขียนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติ
การ (Operating Software) และสามารถใช้กับงานอื่นทั่ว ๆ ไป
เช่น โปรแกรมที่ใช้ในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และ
วิศวกรรมศาสตร์ หรือโปรแกรมที่ใช้ทางด้านธุรกิจต่าง ๆ
นอกจากนี้ภาษาซียังมีคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ
โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซี สามารถนำาไปใช้งานกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์อื่นได้ง่ายกว่าโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาระดับสูงอื่น ๆ
เพราะภาษาซีได้แยกส่วนที่ขึ้นอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละ
ประเภทไว้ในไลบรารีฟังก์ชัน ดังนั้นโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซี
ทุกโปรแกรม จะทำางานได้ต้องเรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ จากไลบรารี
ฟังก์ชันมาตรฐาน ทำาให้วิธีการเขียนโปรแกรมมีรูปแบบเหมือนกัน
สามารถนำาไปใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบประวัติความเป็นมาของภาษาซี
2. สามารถอธิบายลักษณะจำาเพาะของภาษาซีได้
3. สามารถอธิบายขั้นตอนการทำางานของภาษาซีได้
4. สามารถอธิบายความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรมที่
เขียนด้วยภาษาซี
5
- 6. เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. ประวัติของภาษาซี
3. ลักษณะจำาเพาะของภาษาซี
4. ขั้นตอนการทำางานของภาษาซี
5. ตัวแปลภาษาซี
6. การนำาภาษาซีไปใช้งาน
7. ตัวอย่างโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซี
8. ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา
ซี
9. Editor ของภาษาซี
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย ประวัติของภาษาซี ลักษณะจำาเพาะของภาษาซี
ขั้นตอนการทำางานของภาษาซี
ตัวแปลภาษาซี การนำาภาษาซีไปใช้งาน ตัวอย่างโปรแกรม
ที่เขียนด้วยภาษาซี ความผิดพลาด
ที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซี Editor
ของภาษาซี ในขณะบรรยายจะสอด
แทรกความรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนตาม
โอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการเรียน
รู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
6
- 10. สาระสำาคัญ
การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง
สิ่งสำาคัญที่ต้องศึกษาทำาความ
เข้าใจ คือองค์ประกอบของภาษา เพราะการศึกษาองค์ประกอบของ
ภาษาทำาให้เกิดความเข้าใจในการเขียนโปรแกรม สามารถนำาส่วน
ต่าง ๆ ของภาษามาใช้ในการเขียนโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบองค์ประกอบที่สำาคัญของภาษาซี
2. เพื่อให้ทราบโครงสร้างของภาษาซี
3. สามารถเขียนคำาสั่งแบบต่าง ๆ ในภาษาซี
4. สามารถเลือกใช้คำาสั่งต่าง ๆ ในภาษาซีได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. องค์ประกอบของภาษาซี
3. โครงสร้างของภาษาซี (Structure)
4. ข้อมูล (Data)
5. ตัวแปร (Variable)
6. ตัวดำาเนินการ (Operator)
7. นิพจน์ (Expression)
8. หมายเหตุ (Comment)
9. ประเภทของคำาสั่งในภาษาซี (Type Of Command)
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย องค์ประกอบของภาษาซี โครงสร้างของภาษาซี
ข้อมูล ตัวแปร ตัวดำาเนินการ
นิพจน์ หมายเหตุ ประเภทของคำาสั่งในภาษาซี ในขณะ
บรรยายจะสอดแทรกความรู้ด้าน
คุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนตามโอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
10
- 11. 4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และ
ส่วนที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการ
เรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
11
- 14. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบความหมายของข้อมูล
2. เพื่อให้ทราบประเภทของข้อมูลในภาษาซี
3. เพื่อให้ทราบความหมายของตัวแปร
4. เพื่อให้ทราบหลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาซี
5. เพื่อให้ทราบประเภทของตัวแปรในภาษาซี
6. เพื่อให้ทราบรูปแบบการประกาศตัวแปรในภาษาซี
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. ความหมายของข้อมูล
3. ประเภทของข้อมูลในภาษาซี
4. ความหมายของตัวแปร
5. หลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาซี
6. ประเภทของตัวแปรในภาษาซี
7. รูปแบบการประกาศตัวแปรในภาษาซี
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย ความหมายของข้อมูล ประเภทของข้อมูลในภาษา
ซี ความหมายของตัวแปร
หลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษาซี ประเภทของตัวแปรใน
ภาษาซี รูปแบบการประกาศ
ตัวแปรในภาษาซี ในขณะบรรยายจะสอดแทรกความรู้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม
ให้ผู้เรียนตามโอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการเรียน
รู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
14
- 15. 1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
15
- 17. (.........................................
.................................)
นายชยุต พรมวิชัย
แผนการจัดการ
เรียนรู้
หน่วยการเรียนที่
5
วิชา การเขียนโปรแกรม
ภาษาซี
รหัส ง 30243
จำานวน 1
หน่วยกิต
ชื่อหน่วย ตัวดำาเนินการ
และนิพจน์
ในภาษาซี
จำานวนชั่วโมง
รวม 2 ชั่วโมง
เรื่อง ตัวดำาเนินการและนิพจน์ในภาษาซี จำานวนชั่วโมง
2 ชั่วโมง
สาระสำาคัญ
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นการรวมคำาสั่งต่าง ๆ เพื่อ
แก้ไขปัญหา หรือเพื่อให้ได้ ผลลัพธ์ตามต้องการ คำาสั่งแต่ละคำาสั่ง
ต้องมีตัวดำาเนินการเพื่อกำาหนดค่าหรือกระทำาการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังนั้นการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับตัวดำาเนินการและนิพจน์จึงเป็น
สิ่งจำาเป็น เพราะการเลือกใช้งานตัวดำาเนินการและนิพจน์อย่าง
เหมาะสม ทำา ให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นมานั้นทำา งานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ตัวดำาเนินการและนิพจน์ในภาษาซีส่วนใหญ่จะเหมือนกับตัว
ดำาเนินการและนิพจน์ในภาษา อื่น ๆ ส่วนความแตกต่างที่มีอยู่ คือ
รูปแบบการใช้งาน และมีตัวดำาเนินการที่ไม่มีในภาษาอื่นเพิ่มขึ้นมา
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบความหมายของตัวดำาเนินการ
2. เพื่อให้ทราบหน้าที่ของตัวดำาเนินการประเภทต่าง ๆ
3. เพื่อให้ทราบความหมายของนิพจน์
17
- 18. 4. สามารถเขียนโปรแกรมภาษาซี โดยใช้ตัวดำาเนินการ
ประเภทต่าง ๆ และนิพจน์ได้
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. ตัวดำาเนินการ (Operator)
3. ตัวดำาเนินการคณิตศาสตร์ (Mathematical Operator)
4. ตัวดำาเนินการเชิงตรรกะ (Logical Operator)
5. ตัวดำาเนินการเปรียบเทียบ (Relational Operator)
6. ตัวดำาเนินการเพิ่มค่าและลดค่า (Increment and
Decrement Operator)
7. ตัวดำาเนินการบิตไวส์ (Bitwise Operator)
8. ลำาดับการทำางานของตัวดำาเนินการ (Precedence and
Associativity of Operator)
9. นิพจน์ (Expression)
10. การเปลี่ยนประเภทของตัวแปร
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย ตัวดำาเนินการ ตัวดำาเนินการคณิตศาสตร์ ตัว
ดำาเนินการเชิงตรรกะ ตัวดำาเนินการ
เปรียบเทียบ ตัวดำาเนินการเพิ่มค่าและลดค่า ตัวดำาเนินการ
บิตไวส์ ลำาดับการทำางานของตัว
ดำาเนินการ นิพจน์ การเปลี่ยนประเภทของตัวแปร ใน
ขณะบรรยายจะสอดแทรกความรู้
ด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนตามโอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการเรียน
รู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
18
- 19. 1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
19
- 21. แผนการจัดการ
เรียนรู้
หน่วยการเรียนที่
6
วิชา การเขียนโปรแกรม
ภาษาซี
รหัส ง 30243
จำานวน 1
หน่วยกิต
ชื่อหน่วย ฟังก์ชันรับ
ข้อมูลและฟังก์ชัน
แสดงผลลัพธ์
จำานวนชั่วโมง
รวม 4 ชั่วโมง
เรื่อง ฟังก์ชันรับข้อมูลและฟังก์ชันแสดง
ผลลัพธ์
จำานวนชั่วโมง
8 ชั่วโมง
สาระสำาคัญ
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นการรวมคำาสั่งต่าง ๆ
เพื่อแก้ไขปัญหา หรือเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ สิ่งที่สำาคัญใน
การทำางานของโปรแกรม คือการรับข้อมูลเข้ามาเพื่อทำาการประมวล
ผล และการแสดงผลลัพธ์ที่ได้ออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่ง
ถือเป็นส่วนประกอบที่ทุกโปรแกรมต้องมี ดังนั้นการศึกษาราย
ละเอียดเกี่ยวกับฟังก์ชันรับข้อมูลและฟังก์ชันแสดงผลลัพธ์จึงเป็นสิ่ง
จำาเป็น เพราะการเลือกใช้งานฟังก์ชันรับข้อมูลและฟังก์ชันแสดง
ผลลัพธ์อย่างเหมาะสม ทำาให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นมานั้นทำางานได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบลักษณะการทำางานของฟังก์ชันรับข้อมูล
ประเภทต่าง ๆ
2. เพื่อให้ทราบลักษณะการทำางานของฟังก์ชันแสดงผลลัพธ์
ประเภทต่าง ๆ
3. สามารถเลือกใช้งานฟังก์ชันรับข้อมูลได้อย่างเหมาะสม
4. สามารถเลือกใช้งานฟังก์ชันแสดงผลลัพธ์ได้อย่างเหมาะ
สม
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. ฟังก์ชันรับข้อมูล
21
- 22. 2.1 ฟังก์ชัน scanf()
2.2 ฟังก์ชัน getchar()
2.3 ฟังก์ชัน getch()
2.4 ฟังก์ชัน getche()
2.5 ฟังก์ชัน gets()
3. ฟังก์ชันแสดงผลลัพธ์
3.1 ฟังก์ชัน printf()
3.2 ฟังก์ชัน putchar()
3.3 ฟังก์ชัน puts()
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย ฟังก์ชันรับข้อมูลซึ่งประกอบด้วย ฟังก์ชัน
scanf() ฟังก์ชัน getchar()
ฟังก์ชัน getch() ฟังก์ชัน getche() ฟังก์ชัน gets()
ฟังก์ชันแสดงผลลัพธ์ซึ่งประกอบด้วย ฟังก์ชัน printf()
ฟังก์ชัน putchar() ฟังก์ชัน puts()
ในขณะบรรยายจะสอดแทรกความรู้ด้านคุณธรรม
จริยธรรม ให้ผู้เรียนตามโอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการ
เรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
22
- 23. 2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
23
- 25. ชื่อหน่วย คำาสั่งควบคุม
การทำางานของ
โปรแกรม
แบบเลือกทำา
จำานวนชั่วโมง
รวม 2 ชั่วโมง
เรื่อง คำาสั่งควบคุมการทำางานของ
โปรแกรมแบบเลือกทำา
จำานวนชั่วโมง
2 ชั่วโมง
สาระสำาคัญ
การเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน หรือโปรแกรม
ที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขการทำางาน
ที่ยุ่งยาก จำาเป็นต้องใช้คำาสั่งควบคุมการทำางานของโปรแกรม
ประเภทต่าง ๆ เพื่อทำาให้โปรแกรมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ง่ายในการเขียนคำาสั่ง และสะดวกต่อการบำารุงรักษาโปรแกรม ซึ่ง
คำาสั่งควบคุมการทำางานของโปรแกรมมีหลายแบบด้วยกัน แต่ในบท
นี้จะกล่าวถึงเฉพาะคำาสั่งควบคุมการทำางานของโปรแกรมแบบเลือก
ทำาเท่านั้น
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อให้ทราบความหมายของคำาสั่งควบคุมการทำางานของ
โปรแกรมแบบเลือกทำา
2. เพื่อให้ทราบรูปแบบและลักษณะการทำางานของคำาสั่ง if
3. เพื่อให้ทราบรูปแบบและลักษณะการทำางานของคำาสั่ง if-
else
4. เพื่อให้ทราบรูปแบบและลักษณะการทำางานของคำาสั่ง if-
else if
5. เพื่อให้ทราบรูปแบบและลักษณะการทำางานของคำาสั่ง
switch
6. สามารถเลือกใช้งานคำาสั่งแบบเลือกทำาในภาษาซีได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
เนื้อหาสาระ
1. สาระสำาคัญ
2. คำาสั่งควบคุมการทำางานของโปรแกรมแบบเลือกทำา
25
- 26. 3. คำาสั่ง if
4. คำาสั่ง if-else
5. คำาสั่ง if-else if
6. คำาสั่ง switch
7. คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์ #if
8. คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์ #if - #else
9. คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์ #if - #elif
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. อธิบาย คำาสั่งควบคุมการทำางานของโปรแกรมแบบเลือก
ทำา คำาสั่ง if คำาสั่ง if-else
คำาสั่ง if-else if คำาสั่ง switch คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์
#if คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์ #if - #else
คำาสั่งพรีโพรเซสเซอร์ #if - #elif ในขณะบรรยายจะ
สอดแทรกความรู้ด้านคุณธรรม
จริยธรรม ให้ผู้เรียนตามโอกาส
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหาทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำาแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภายในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งการเรียน
รู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมการเรียนและพฤติกรรมการทำางาน
26
- 27. 3. ประเมินการทำาแบบประเมินผลท้ายบท 20 ข้อ ทำาถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำาถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำาถูก 15-18 ข้อ ปานกลาง
ทำาถูก 10-14 ข้อ ผ่าน
ทำาถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่าน
4. ประเมินผลงานตามใบงาน
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
27
- 29. ชื่อหน่วย คำำสั่งควบคุม
กำรทำำงำนของ
โปรแกรม
แบบวนรอบ
จำำนวนชั่วโมง
รวม 4 ชั่วโมง
เรื่อง คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของ
โปรแกรมแบบวนรอบ
จำำนวนชั่วโมง
8 ชั่วโมง
สำระสำำคัญ
กำรเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ไขปัญหำที่ซับซ้อน หรือโปรแกรม
ที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขกำรทำำงำน
ที่ยุ่งยำก จำำเป็นต้องใช้คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของโปรแกรม
ประเภทต่ำง ๆ เพื่อทำำให้โปรแกรมใช้งำนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
ง่ำยในกำรเขียนคำำสั่ง และสะดวกต่อกำรบำำรุงรักษำโปรแกรม ซึ่ง
คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของโปรแกรมมีหลำยแบบด้วยกัน แต่ในบท
นี้จะกล่ำวถึงเฉพำะคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของโปรแกรมแบบวน
รอบเท่ำนั้น
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. เพื่อให้ทรำบควำมหมำยของคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของ
โปรแกรมแบบวนรอบ
2. เพื่อให้ทรำบรูปแบบและลักษณะกำรทำำงำนของคำำสั่ง
while
3. เพื่อให้ทรำบรูปแบบและลักษณะกำรทำำงำนของคำำสั่ง do -
while
4. เพื่อให้ทรำบรูปแบบและลักษณะกำรทำำงำนของคำำสั่ง for
5. สำมำรถเลือกใช้งำนคำำสั่งแบบวนรอบนภำษำซีได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพ
เนื้อหำสำระ
1. สำระสำำคัญ
2. คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของโปรแกรมแบบวนรอบ
3. คำำสั่ง while
4. คำำสั่ง do – while
29
- 30. 5. คำำสั่ง for
6. กำรใช้คำำสั่ง break ร่วมกับคำำสั่งวนรอบ
7. กำรใช้คำำสั่ง continue ร่วมกับคำำสั่งวนรอบ
8. กำรใช้คำำสั่ง exit() ร่วมกับคำำสั่งวนรอบ
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
1. อธิบำย คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนของโปรแกรมแบบวนรอบ
คำำสั่ง while คำำสั่ง do – while
คำำสั่ง for กำรใช้คำำสั่ง break ร่วมกับคำำสั่งวนรอบ
กำรใช้คำำสั่ง continue ร่วมกับคำำสั่ง
วนรอบ กำรใช้คำำสั่ง exit() ร่วมกับคำำสั่งวนรอบ ใน
ขณะบรรยำยจะสอดแทรกควำมรู้ด้ำน
คุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนตำมโอกำส
2. เปิดโอกำสให้ผู้เรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นต่ำง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหำทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำำแบบฝึกหัดท้ำยบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภำยในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมด้วยตนเอง จำกแหล่งกำรเรียน
รู้ต่ำง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งกำรเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชำกำรเขียนโปรแกรมภำษำซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงำน
กำรวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมกำรเรียนและพฤติกรรมกำรทำำงำน
3. ประเมินกำรทำำแบบประเมินผลท้ำยบท 20 ข้อ ทำำถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำำถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำำถูก 15-18 ข้อ ปำนกลำง
30
- 31. ทำำถูก 10-14 ข้อ ผ่ำน
ทำำถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่ำน
4. ประเมินผลงำนตำมใบงำน
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
...........................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
........................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
......................................................................
31
- 33. สำระสำำคัญ
กำรเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหำต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ประเภทเดียวกันหลำยชุด กำรกำำหนดตัวแปรทั่ว ๆ ไปเพื่อเก็บ
ข้อมูลเหล่ำนั้น อำจทำำให้เกิดควำมยุ่งยำกและสับสนได้ ดังนั้นภำษำ
ซีจึงได้มีกำรกำำหนดให้มีกำรสร้ำงตัวแปรชุดหรือที่เรียกว่ำตัวแปร
อำร์เรย์ (Array) ขึ้นมำเพื่อสะดวกในกำรจัดกำรเกี่ยวกับข้อมูลเหล่ำ
นั้น
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. เพื่อให้ทรำบควำมหมำยของตัวแปรอำร์เรย์
2. เพื่อให้ทรำบรูปแบบกำรใช้งำนตัวแปรอำร์เรย์
3. เพื่อให้ทรำบกำรกำำหนดค่ำเริ่มต้นให้กับตัวแปรอำร์เรย์
4. เพื่อให้ทรำบกำรอ้ำงถึงข้อมูลในตัวแปรอำร์เรย์
5. สำมำรถใช้งำนตัวแปรอำร์เรย์ในกำรเขียนโปรแกรมภำษำ
ซีได้
เนื้อหำสำระ
1. สำระสำำคัญ
2. ตัวแปรอำร์เรย์
3. กำรประกำศตัวแปรอำร์เรย์
4. กำรกำำหนดค่ำเริ่มต้นให้กับตัวแปรอำร์เรย์
5. กำรอ้ำงถึงข้อมูลในตัวแปรอำร์เรย์
6. กำรนำำข้อมูลเข้ำไปเก็บและกำรแสดงผลลัพธ์ของข้อมูลใน
ตัวแปรอำร์เรย์
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
1. อธิบำย ตัวแปรอำร์เรย์ กำรประกำศตัวแปรอำร์เรย์
กำรกำำหนดค่ำเริ่มต้นให้กับตัวแปร
อำร์เรย์ กำรอ้ำงถึงข้อมูลในตัวแปรอำร์เรย์ กำรนำำ
ข้อมูลเข้ำไปเก็บและกำรแสดงผลลัพธ์
ของข้อมูลในตัวแปรอำร์เรย์ ในขณะบรรยำยจะสอดแทรก
ควำมรู้ด้ำน คุณธรรม จริยธรรม
33
- 34. ให้ผู้เรียนตำมโอกำส
2. เปิดโอกำสให้ผู้เรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นต่ำง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหำทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำำแบบฝึกหัดท้ำยบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภำยในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมด้วยตนเอง จำกแหล่งกำรเรียน
รู้ต่ำง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งกำรเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชำกำรเขียนโปรแกรมภำษำซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงำน
กำรวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมกำรเรียนและพฤติกรรมกำรทำำงำน
3. ประเมินกำรทำำแบบประเมินผลท้ำยบท 20 ข้อ ทำำถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำำถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำำถูก 15-18 ข้อ ปำนกลำง
ทำำถูก 10-14 ข้อ ผ่ำน
ทำำถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่ำน
4. ประเมินผลงำนตำมใบงำน
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
34
- 38. ขณะบรรยำยจะสอดแทรกควำมรู้ด้ำน คุณธรรม
จริยธรรม ให้ผู้เรียนตำมโอกำส
2. เปิดโอกำสให้ผู้เรียนร่วมแสดงควำมคิดเห็นต่ำง ๆ ขณะ
สอน
3. ให้ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสรุปเนื้อหำทั้งหมด
4. ให้ผู้เรียนทำำแบบฝึกหัดท้ำยบทเรียน ในส่วนที่ 1 และส่วน
ที่ 2 ส่งภำยในชั่วโมงเรียน
5. ผู้เรียนศึกษำค้นคว้ำเพิ่มเติมด้วยตนเอง จำกแหล่งกำรเรียน
รู้ต่ำง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต
สื่อและแหล่งกำรเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชำกำรเขียนโปรแกรมภำษำซี ของนรีรัตน์
นิยมไทย
2. แผ่นใส
3. ใบงำน
กำรวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ของผู้เรียนในชั้นเรียน
2. ประเมินพฤติกรรมกำรเรียนและพฤติกรรมกำรทำำงำน
3. ประเมินกำรทำำแบบประเมินผลท้ำยบท 20 ข้อ ทำำถูกได้
ข้อละ 1 คะแนน
ทำำถูก 18-20 ข้อ ดี
ทำำถูก 15-18 ข้อ ปำนกลำง
ทำำถูก 10-14 ข้อ ผ่ำน
ทำำถูก 0 - 9 ข้อ ไม่ผ่ำน
4. ประเมินผลงำนตำมใบงำน
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรียนรู้
..............................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................
38