More Related Content
Similar to สรุปรัตนโกสินทร์ตอนต้น
Similar to สรุปรัตนโกสินทร์ตอนต้น (10)
สรุปรัตนโกสินทร์ตอนต้น
- 3. กรมมหาดไทย: ผู้บังคับบัญชา = สมุหนายก
ดูแลฝ่ายทหาร+พลเรือน
ควบคุมหัวเมืองฝ่ายเหนือ+อีสาน
กรมกลาโหม: ผู้บังคับบัญชา = สมุหพระกลาโหม
ดูแลฝ่ายทหาร+พลเรือน
ควบคุมหัวเมืองฝ่ายใต้+ตะวันตก
กรมเมือง : เสนาบดี
ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ตัดสินคดีในเขตราชธานี
- 4. กรมวัง : เสนาบดี
พระราชมณเฑียร พระราชวัง พระราชพิธี
ตัดสินความในเขตพระราชวัง
กรมท่า : รายรับรายจ่าย / พิจารณาคดีทรัพย์หลวง
รับรองชาวต่างชาติ (ค้าขาย/ทาสัญญา)
ดูแลหัวเมืองชายฝั่งตะวันออก
กรมนา : เสนาบดี
ดูแลรักษานาหลวง / เก็บหางข้าวค่านา
พิจารณาเรื่องที่นา โค กระบือ
- 9. เป็นแบบยังชีพ
แบ่งเป็น 1. ใช้ภายในครอบครัว
2. เสียภาษีอากร
3. แลกเปลี่ยนซื้อขายกัน
(ถ้าเหลือนะ (--) ไม่มาก็น้อย)
เกษตรกรรม --> เน้นปลูกข้าว
อุตสาหกรรม --> น้าตาลทราย ต่อเรือ เหมืองแร่
เช่น ดีบุก เหล็ก
1. พื้นฐานทางเศรษฐกิจ
- 10. 2. รายได้ของอาณาจักร
ส่วนใหญ่กับ จีน (การค้าจากเรือสาเภา)
ดูแลโดยกรมพระคลังสินค้า only !!! (กิจการข้า...ใครอย่าแตะ)
- สินค้าออก --> ดีบุก / งาช้าง / ไม้ / พริกไทย / รังนก / น้าตาล
- สินค้าเข้า --> เครื่องถ้วย/ชามสังคโลก / ชา / เงิน / ปืน / ดนปืน
2.1 การค้ากับต่างประเทศ
- 14. 2.3 รายได้สินค้าผูกขาด + ต้องห้าม
ผูกขาด - พระคลังสินค้าขายเอง
- เพื่อความปลอดภัย+มั่งคงของประเทศ
- เช่น อาวุธปืน / กระสุนปืน / ดินระเบิด
ต้องห้าม - หายาก + ราคาแพง
- ต่างประเทศต้องการจานวนมาก
- เช่น งาช้าง / รังนก / ไม้ฝาง / ไม้กฤษณา
- 15. เช่น พระราชพิธี / ช่วยคนอนาถา
2.4 รายจ่าย
จ่ายเป็นเบี้ยหวัด เงินให้เจ้านาย+ขุนนาง
ด้านความมั่นคง เช่น เลี้ยงดูสัตว์พาหนะ / ซื้ออาวุธ
ด้านศาสนา เช่น ก่อสร้าง ปฏิสังขรณ์วัด
อื่นๆ
- 17. 1. ระบบศักดินา
- กาหนดฐานะของคนในสังคม
- ใช้ ที่นา เป็นเกณฑ์ ซึ่งไม่ได้ถือครองจริง
เป็นสิ่งสมมติ (มโนขึ้น)
- จานวนไพร่ที่ครอบครอง
- หลักเกณฑ์ในการปรับไหม
- เรียงลาดับในการเข้าเฝ้ า
** ผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบ
ต่อสังคมและประเทศชาติมาก --> ศักดินามาก
- 19. แบ่งกลุ่มคนในสังคมอย่างกว้างๆเป็น 2 ชนชั้น
ชนชั้นปกครอง =พระมหากษัตริย์ / เจ้านาย / ขุนนาง --> พวกมูลนาย (ไฮโซ)
ชนชั้นที่ถูกปกครอง = ไพร่ ทาส
2. ชนชั้นในสังคม
พระสงฆ์
- ไม่จัดเป็นชนชั้นใดชนชั้นหนึ่ง เป็นผู้มีหน้าที่สืบทอดเผยแผ่พระพุทธศาสนา
- คนกลางในการเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆในสังคมเข้าด้วยกัน
- 23. - ราษฎรทั้งชายและหญิง
- สังกัดมูลนาย เพื่อได้รับการดูและ + คุ้มครอง
- สักขึ้นทะเบียนสังกัดกรมกองต่างๆ --> รับราชการ
- คนส่วนใหญ่ในสังคมประมาณร้อยละ 80-90
- เป็นฐานอานาจที่สาคัญยิ่งของชนชั้นปกครอง
2.4 ไพร่
- 24. - 18 – 70 ปี
- ราษฎรสามัญ
- ผ่านการสักขึ้นทะเบียนสังกัดกรมกองต่างๆ
- เพื่อรับราชการ
- ไม่เข้ารับราชการ อาจส่งส่วย/ผลผลิตแทนใช้แรงงาน
เรียกว่า ไพร่ส่วย
2.4.1 ไพร่หลวง
- 25. - ผ่านการสักแล้ว
- ไพร่ส่วนตัวของพวกมูลนาย
- ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ตามศักดินาของ
- เพื่อให้รับใช้ทางานส่วนตัวไม่ต้องถูกเกณฑ์มาทางานให้รัฐ
- ไพร่ที่สังกัดกับกรมของเจ้านายที่ทรงกรม (กรมเจ้า)
ก็ถือเป็นไพร่สม
2.4.2 ไพร่สม
- 26. - คนส่วนน้อยในสังคม
- ชนชั้นต่าสุด + ไม่มีอิสระในชีวิตของตน
- เป็นกรรมสิทธิ์ของนายเงิน
- แบ่งออกเป็น 7 ประเภท
ทาสเชลย / ทาสในเรือนเบี้ย / ทาสสินไถ่ / ทาสท่านให้
ทาสที่ได้มาแต่บิดามารดา / ทาสที่ได้มาจากทัณฑโทษ
ทาสที่เลี้ยงไว้ยามทุพภิกขภัย
2.5 ทาส
- 29. หลังการเสียกรุงครั้งที่ 2 --> เสื่อมโทรม
พระไตรปิฎกก็บกพร่องอยู่มาก
รัชกาลที่ 1 --> สังคายนาพระไตรปิฎก @ วัดมหาธาตุ ( พ.ศ.2331 )
- ให้ชาระพระไตรปิฎกให้เป็นระเบียบหมวดหมู่
- เรียกว่า “ฉบับทองหรือทองใหญ่ หรือฉบับทองทึบ”
- ออกกฎหมายสาหรับพระสงฆ์หลาย
- ไม่สนใจเล่าเรียนพระไตรปิฎก + การเทศน์
- พระสงฆ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของฆราวาส
การสังคายนาและชาระพระไตรปิฎก
- 35. แบบพระราชนิยม
ส่วนหลังคา ไมมีช่อฟ้ า ใบระกา หางหงส์
ส่วนของเสา ไม่มีบัวหัวเสา ย่อมุมเสา คันทวย มีเสาพาไลขนาดใหญ่
หน้าบัน งานก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบแบบจีน
ลวดลายดอกไม้จีน เครื่องบูชาจีน
อาคารวัดพระวิหาร
หรือพระอุโบสถ
เป็นแบบจีน
- 36. รัชกาลที่ 1 --> โปรดคนรบเก่ง
รัชกาลที่ 2 --> โปรดคนแต่งกลอน/นาฏศิลป์ เก่ง
รัชกาลที่ 3 --> โปรดคนที่สร้างวัด