น.ส.อภิสรา เฮียงสา ม.6/9 เลขที่18

1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน การศึกษาความนิยมผลิตภัณฑ์จากชาเขียวในอุตสาหกรรมเครื่องสาอาง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
น.ส.อภิสรา เฮียงสา เลขที่ 18 ชั้น ม.6 ห้อง9
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม (ถ้ามี)…………………………………………………
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34

2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม 1
1 น.ส.อภิสรา เฮียงสา เลขที่ 18 ม.6/9
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
การศึกษาความนิยมผลิตภัณฑ์จากชาเขียวในอุตสาหกรรมเครื่องสาอาง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
A study on the popularity of green tea products in the cosmetics industry.
ประเภทโครงงาน ศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน น.ส.อภิสรา เฮียงสา ม.6/9 เลขที่18
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจากผู้จัดทามีความสนใจเกี่ยวกับชา ที่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลกและเป็นเรื่องราวที่สื่อถึง
วัฒนธรรมของคนในหลายประเทศ ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่มาจากธรรมชาติ มีกลิ่นหอม มีประโยชน์และสรรพคุณ ทา
ให้มีสุขภาพดี และเป็น เครื่องดื่มที่คนหลายเชื้อชาตินิยมดื่มกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น
หรือชาวยุโรป ชาที่ นิยมดื่มในปัจจุบันอาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ คือ ชาจีน ชาเขียว และชาฝรั่ง ซึ่งชาแต่ละชนิด
จะมีความแตกต่าง กันที่รสชาติและรสสัมผัส นอกจากนี้สารสกัดจากชาเขียว มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยบารุงผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยด่างดาบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่าเสมอ และลดการอักเสบของ
ผิวหนัง สารสกัดจากชาเขียว หรือคาเทชิน ชนิดความเข้มข้นสูงสุดที่สามารถสกัดได้ในปัจจุบัน คือ EGCG
(epigallocatechin gallate) 95% มีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่าโพลีฟีนสูง เป็น
สารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันความเสียหายของเซลล์ และการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
ผลการวิจัยวิทยาศาสตร์พบว่า สาร EGCG ที่พบในใบชาเขียวสกัด มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
ซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ยังพบว่า สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ ด้วยการลดการสร้าง
ความมันบนใบหน้า (sebum secretion) และลดการอักเสบ (anti-inflammatory) รวมถึงให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น
(elasticity) ป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื่น
และความเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า และช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตา และยังลดการบวมของเปลือก
ตาและถุงใต้ตา ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น
ส่งผลให้ในอุตสาหกรรมเครื่องสาอาง ได้นาชาเขียวเข้ามาเป็นส่วนประกอบที่สาคัญในตัวผลิตภัณฑ์ใน
หลากหลายยี่ห้อและยังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นจานวนมากทั้งในอุตสาหกรรมเครื่องสาอางฝั่งเอเชีย และ
ยุโรป

3. 3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อนาความรู้จากวิชาต่างๆ มาบูรณาการกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะการคิด
2.ศึกษาประโยชน์ของชาเขียว
3.ศึกษากระแสความนิยมของชาเขียวในเครื่องสาอาง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ศึกษาความนิยมของชาเขียวในเครื่องสาอาง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
สารสาคัญที่พบได้ในชาเขียว จะประกอยไปด้วย กรดอะมิโน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี สารในกลุ่ม
xanthine alkaloids คือ คาเฟอีน (caffeine) และธิโอฟิลลีน (theophylline) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทางาน
ของระบบประสาทส่วนกลาง และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกว่า คาเทชิน (catechins) โดยเราสามารถแยกสาร
คาเทชินออกได้เป็น 5 ชนิด คือ gallocatechin (GC), epicatechin (EC), epigallocatechin (EGC), epicatechin
gallate (ECG), และ epigallocatechin gallate (EGCG) โดยคาเทชินที่พบได้มากและมีฤทธิ์ทรงพลังที่สุดในชาเขียว
คือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate – EGCG) ซึ่งมีความสาคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูล
อิสระ
ซึ่งมีการพิสูจน์แล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวสามารถช่วยชะลอความแก่ชราและช่วยคงความอ่อนเยาว์
ไว้ได้แม้ว่าในอาหารอื่น ๆ จะมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินบี เบต้าแคโรทีน แต่เมื่อ
เปรียบเทียบกันแล้วจะพบว่าคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของโพลีฟีนอลในชาเขียวจะเหนือกว่า
ผลการวิจัยวิทยาศาสตร์พบว่า สาร EGCG ที่พบในใบชาเขียวสกัด มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
ซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากรังสี UVA และ UVB นอกจากนี้ยังพบว่า สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้ ด้วยการลดการสร้าง
ความมันบนใบหน้า (sebum secretion) และลดการอักเสบ (anti-inflamatory) รวมถึงให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น
(elasticity)ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับชาเขียวก็มีวางจาหน่ายในหลากหลายรูปแบบ โดยผู้ผลิตได้คิดค้นผลิตภัณฑ์
ใหม่ ๆ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากชาเขียวหลั่งไหลออกมาสู่ท้องตลาดเป็นจานวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ถนอม
ผิว เครื่องสาอางต่าง ๆ สบู่ เกลืออาบน้า น้ายาดับกลิ่นตัว ครีมบารุงผิว โลชั่น ยาสีฟัน น้ายาบ้วนปาก ฯลฯ
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
งบประมาณ
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
___________________________________________________________________
__________________________________________________________________

4. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
สถานที่ดาเนินการ
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________