More Related Content
Similar to การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต (20)
More from Kankamol Kunrat (8)
การรักษาดุลยภาพของน้ำในสิ่งมีชีวิต
- 3. นำ้าในร่างกาย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.นำ้าที่อยู่นอกเซลล์ (extracellular fluid)
เป็นนำ้าที่อยู่นอกเยื่อเซลล์ มีหน้าที่รักษาสภาวะ
แวดล้อมภายนอกเซลล์ให้คงที่ แบ่งเป็น 3 ส่วน
คือ
พลาสมา (plasma) คือนำ้าที่อยู่ในระบบ
หมุนเวียนเลือด มี
ประมาณ 4-5 %
ของนำ้าหนักตัว
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 5. นำ้าที่อยู่ระหว่างเซลล์ (intercellular
fluid) อยู่รอบๆเซลล์ตามช่องว่างระหว่างเซลล์
ทำาให้เซลล์เปียกชุ่มตลอดเวลา ช่วยหล่อเลี้ยง
เซลล์ ทั้งช่วยนำาสารอาหารเข้าสู่เซลล์ และนำา
ของเสียออกจากเซลล์ มีประมาณ 16-20 %
ของนำ้าหนักตัว
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 6. 2. นำ้าที่อยู่ในเซลล์ (intracellular fluid) คือ
ส่วนของนำ้าที่อยู่ในเยื่อเซลล์ เป็นนำ้าที่สำาคัญใน
กระบวนการเมทาบอลิซึมของเซลล์ มีประมาณ
30 – 40 % ของนำ้าหนักตัวชนิดของ
เนื้อเยื่อ
ปริมาณของนำ้าโดย
ประมาณ (%)
ไขมัน 20
กระดูก 25 – 30
เนื้อเยื่อเกี่ยว
พัน
60
ตับ 70
กล้ามเนื้อลาย 75
สมองส่วนสีเทา 85
สมองส่วนสีขาว 70
นำ้าเลือด 90
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 7. การรักษาสมดุลของนำ้าใน
สัตว์
1. ร่างกายได้รับนำ้าจาก
นำ้าดื่ม เป็นนำ้าที่ร่างกายได้รับมากที่สุด ประมาณ
วันละ 1,200 ลบ.ซม.
อาหาร ภายในอาหารมีนำ้าเป็นส่วนประกอบอยู่
วันละ 1,000 ลบ.ซม.
นำ้าจากกระบวนการเมทาบอลิซึม เกิดจาก
กระบวนการออกซิเดชั่นของสารอาหารภายใน
เซลล์ ประมาณวันละ 300 ลบ.ซม.
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 8. 2. ร่างกายเสียนำ้าจาก
ปัสสาวะ ร่างกายเสียนำ้าโดยการขับถ่ายในรูป
ปัสสาวะมากที่สุด ประมาณวันละ 1,500
ลบ.ซม.
เหงื่อ ขับเหงื่อทางผิวหนัง ประมาณวันละ 500
ลบ.ซม.
ลมหายใจ ในรูปของไอนำ้า ประมาณวันละ
350 ลบ.ซม.
อุจจาระ มีนำ้าปนออกมากับอุจจาระ ประมาณ
วันละ 150 ลบ.ซม.
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 11. การควบคุมนำ้าของร่างกาย
นำ้าดื่ม การดื่มนำ้ามีกลไกที่เรียกว่า การกระหาย
นำ้า (thirst) ประกอบด้วย
- นำ้าที่อยู่นอกเซลล์ ลดปริมาณลง (extracellular
dehydration)
- นำ้าที่อยู่ในเซลล์ ลดปริมาณลง (intracellular
dehydration)
- หัวใจวาย (heart failure) ภาวการณ์ทำางานของ
หัวใจอ่อนลง จนทำาให้ทำางานไม่ไหว
- ปากแห้ง (dryness of mouth)
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 13. ไต (Kidneys)
ไตคนมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วแดง 2 เมล็ด
อยู่ในช่องท้องด้านหลังของลำาตัว เมื่อผ่าไตตาม
ยาวจะสังเกตเห็นเนื้อไต 2 ชั้น คือ ชั้นนอกและ
ชั้นใน ซึ่งในเนื้อไตแต่ละข้างประกอบด้วยหน่วย
ไต (Nephron) ประมาณ
1 ล้านหน่วย ทำาหน้าที่กำาจัดของเสียในรูปของ
ปัสสาวะ
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 18. 2. หลอดเลือดฝอย มี 2 ส่วน ได้แก่
• กลุ่มหลอดเลือดฝอยที่อยู่ใน Bowman’s
Capsule เรียกว่า โกลเมอรูลัส (Glomerulus)
• หลอดเลือดฝอยที่พันอยู่ตามท่อของหน่วยไต
โกลเมอรูลัส
หลอดเลือดฝอยตามท่อไ
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 19. 3. ท่อหน่วยไต (Convoluted Tubule) แบ่ง
ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
• ท่อ (ขด) หน่วยไตส่วนต้น มีการดูดสารที่มี
ประโยชน์กลับเข้าสู่ร่างกายมากที่สุด เช่น
กลูโคส กรดอะมิโน วิตามิน และนำ้า
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 21. • ท่อ (ขด) หน่วยไตส่วนท้าย เป็นบริเวณที่มี
การดูดโซเดียมไอออน (Na+
) ภายใต้การควบคุม
ของฮอร์โมนแอลโดสเทอโรน (Aldosterone)
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 22. 4. ท่อรวม (Collecting Duct) เป็นบริเวณที่มี
การดูดนำ้ากลับเข้าสู่ร่างกายภายใต้การควบคุม
ของฮอร์โมน ADHจากต่อมใต้สมอง และเป็น
แหล่งรวมของเหลวที่เกิดจากการทำางานของ
หน่วยไต ซึ่งสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นปัสสาวะ
ก่อนที่จะส่งต่อไปยังกรวยไต
นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา
- 23. กลไกการผลิตปัสสาวะของ
หน่วยไต
ประกอบด้วย 2 กระบวนการ ดังนี้
(1) การกรองสารที่โกลเมอรูลัส (Glomerulus
Filtration)
ผนังของกลุ่มหลอดเลือดฝอย “โกลเมอรูลัส” มี
คุณสมบัติพิเศษในการยอมให้สารโมเลกุลเล็กที่
มีอยู่ในเลือด เช่น นำ้า แร่ธาตุ วิตามิน ยูเรีย
กรดยูริก กลูโคส และกรดอะมิโนผ่าน
ส่วนสารโมเลกุลใหญ่โดยปกติแล้วจะไม่สามารถ
ผ่านไปได้ เช่น เม็ดเลือดแดง โปรตีนขนาดใหญ่
และไขมัน
การกรองสารบริเวณนี้จะอาศัยแรงดันเลือด
เป็นสำาคัญ โดยวันหนึ่งๆ จะมีการกรองสารได้
ประมาณ 180 ลิตร (180 ลูกบาศก์เดซิเมตร)นางสาวกันต์กมล คุณรัตน์ ครู คศ.1 โรงเรียนสังวาลย์
วิทยา