More Related Content
Similar to การแบ่งเซลล์ (20)
การแบ่งเซลล์
- 2. วัฏ จัก รเซลล์ (Cell Cycle)
• วัฏ จัก รของเซลล์เ ริ่ม ตั้ง แต่เ ซลล์เ จริญ เต็ม ที่ เตรีย ม
ตัว จะมีก ารแบ่ง เซลล์ จนกระทั้ง แบ่ง เซลล์ไ ด้เ ซลล์ใ หม่
ในวัฏ จัก รนี้จ ะมีเ หตุก ารณ์ต ่า ง ๆ เกิด ขึ้น มากมาย แบ่ง
ออกได้เ ป็น 2 ระยะใหญ่ๆ คือ ระยะเตรีย มการแบ่ง ตัว
(Interphase period) และระยะแบ่ง ตัว (Division
period)
- 3. 1. ระยะเตรีย มพร้อ ม หรือ ระยะ
อิน เทอร์เ ฟส (Interphase)
• ระยะเตรีย มแบ่ง ตัว เป็น ระยะที่เ ซลล์เ ตรีย มจะแบ่ง เซลล์
มีก ระบวนการ
เมแทบอลิซ ึม สูง และมีก ิจ กรรมต่า ง ๆ เกิด ขึ้น มากมาย
ที่ส ำา คัญ ได้แ ก่ การจำา ลอง DNA ในช่ว งระหว่า งการ
แบ่ง ตัว ของเซลล์ เพื่อ เตรีย มพร้อ มสำา หรับ กระบวนการ
ต่อ ไป อาจแบ่ง ออกเป็น 3 ระยะคือ
• ก.ระยะจี1 ( G 1 & Growth phase I) หรือ ระยะ
ก่อ นการสร้า ง DNA เป็น ระยะเซลล์ส ร้า งส่ว นประกอบ
ต่า งๆ เพื่อ เตรีย มพร้อ มในการสร้า ง DNA
• ข. ระยะเอส 2 (S 1 & Synthesis phase) หรือ ระยะ
การสร้า ง DNA เป็น ระยะ DNA , RNA และโปรตีน
ถูก สร้า งขึ้น มากที่ส ุด โดยเฉพาะ DNA จะมีม ากเป็น
2 เท่า
• ค. ระยะจี 2 (G 2 & Growth phase II) เป็น ระยะ
สุด ท้า ยของวงจร ไม่ม ีก ารสัง เคราะห์ DNA แต่ม ีก าร
สัง เคราะห์โ ปรตีน ในระดับ ตำ่า ระยะนี้ก ิน เวลาน้อ ยที่ส ุด
เมื่อ สิ้น สุด จี 2 แล้ว จะเข้า สู่ร ะยะการแบ่ง เซลล์
(Cell division)
- 4. 2. ระยะแบ่ง เซลล์ หรือ
ระยะ M (Mitosis)
• เป็น ระยะที่เ กิด ต่อ จากระยะจี 2 ซึ่ง
นิว เคลีย สมีค วามพร้อ มที่จ ะแบ่ง ตัว
ในเซลล์ร า งกายจะแบ่ง แบบไมโทซีส
่
แต่ส ำา หรับ การแบ่ง เซลล์เ พื่อ สร้า ง
เซลล์ส ืบ พัน ธุ์ นิว เคลีย สจะแบ่ง แบบ
ไมโอซีส
- 6. • การแบ่ง เซลล์แ บบไมโทซีส เป็น การแบ่ง ตัว ของ
นิว เคลีย สในการแบ่ง ตัว ของเซลล์ร ่า งกาย (Somatic
cell) เพื่อ จะให้ม ีจ ำา นวนเซลล์เ พิ่ม ขึ้น หรือ ให้ม ีเ ซลล์
ทดแทนเซลล์ท ี่ต ายไป เมื่อ สิ้น สุด การแบ่ง ตัว แล้ว เซลล์
เดิม (mother cell) แต่ล ะเซลล์จ ะแบ่ง ตัว ให้เ ซลล์ใ หม่
(Daugther cell) จำา นวนโครโมโซม และยีน ส์ท ี่พ บใน
เซลล์ท ั้ง สามที่เ หมือ นกัน ทุก ประการ
• แหล่ง ที่พ บการแบ่ง เซลล์แ บบไมโทซีส พบที่บ ริเ วณ
เซลล์ร ่า งกายของพืช สัต ว์บ ริเ วณที่ม ีก ารเจริญ เติบ โต
อย่า งรวดเร็ว เช่น บริเ วณเนื้อ เยื่อ ส่ว นยอดและปลาย
รากของพืช
• กระบวนการแบ่ง เซลล์แ บบไมโทซิส แบ่ง ออกได้เ ป็น 2
กระบวนการดัง นี้ค ือ
- กระบวนการแบ่ง นิว เคลีย ส (karyokinesis )
- กระบวนการแบ่ง ไซโทพลาสซึม (Cytokinesis)
- 7. กระบวนการแบ่ง นิว เคลีย ส
(karyokinesis ) ขั้น ตอนการแบ่ง
นิว เคลีย ส แบ่ง เป็น 5 ระยะดัง นี้
• 1. ระยะอิน เตอร์เ ฟส (Interphase Stage)
• เป็น ระยะทีเ ซลล์เ ติบ โตเติม ที่ เซลล์ม ก าร
่ ี
เปลี่ย นแปลง ทางเคมีม ากทีส ุด หรือ มีเ มแทบอลิ
่
ซึม สูง มาก จึง เรีย ก Metabolic stage ใช้เ วลา
นานทีส ุด ดัง นั้น ถ้า ศึก ษาการแบ่ง เซลล์แ บบไม
่
โทซิส จากกล้อ งจุล ทรรศน์ จะพบเซลล์ป รากฏ
อยูใ นระยะนีม ากทีส ุด •โครโมโซมมีล ัก ษณะ
่ ้ ่
เป็น เส้น ใยยาวขดไปมา เรีย กว่า เส้น ใยโครมา
ทิน ( chromation) มีก ารสัง เคราะห์ DNA ขึ้น
มาอีก 1 เท่า ตัว หรือ มีก ารจำา ลองโครโมโซม
อีก 1 ชุด แต่ย ง ติด กัน อยู่ ทีป มเซนโทรเมีย ร์
ั ่
(centromere) หรือ ไคเนโตคอร์
(kinetochore)
- 8. • 2. ระยะโพรเฟส (Prophase Stage)
• ระยะนี้โ ครมาทิด จะหดตัว โดยการบิด เป็น เกลีย ว
สั้น ลง ทำา ให้เ ห็น ได้ช ัด เจนว่า โครโมโซม 1 แท่ง มี 2
โครมาทิด เยื่อ หุ้ม นิว เคลีย ส และนิว คลีโ อลัส สลายไป
เซนทริโ อล (centrioles) ในเซลล์ส ัต ว์ และโพรติส ท์
บางชนิด เช่น สาหร่า ย รา จะเคลื่อ นที่แ ยกไปอยู่ต รง
ข้า มกัน ในแต่ล ะขั้ว เซลล์ และสร้า งเส้น ใยโปรตีน
(microtubule) เรีย กว่า ไมโทติก สปิน เดิล ( mitotic
spindle) และสปิน เดิล ไฟเบอร์ (spindle fiber) ไป
เกาะที่เ ซนโทรเมีย ร์ ของทุก โครมาทิด ดัง นั้น รอบ ๆ
เซนโทรโอล จึง มีไ มโทติก สปิน เดิล ยื่น ออกมาโดย
รอบมากมายเรีย กว่า แอสเทอร์
(Aster)
- 9. • 3. ระยะเมทาเฟส (Metophase Stage)
• ระยะนี้ไ มโทติก สปิน เดิล จะหดตัว ดึง ให้โ ครมาทิด
ไปเรีย งตัว อยู่ใ นแนวกึ่ง กลางเซลล์ (equatorial
plate) โครมาทิด หดสั้น มากที่ส ุด จึง สะดวกต่อ การ
เคลื่อ นที่ ของโครมาทิด มาก ระยะนี้เ หมาะมากที่ส ุด
ต่อ การนับ จำา นวนโครโมโซม , จัด เรีย งโครโมโซมเป็น
คู่ ๆ หรือ ที่เ รีย กว่า แครีโ อไทป์ (karyotype) หรือ
เหมาะต่อ การศึก ษารูป ร่า ง ความผิด ปกติ ของ
โครโมโซม ตอนปลายของระยะนี้ มีก ารแบ่ง ตัว ของ
เซนโทรเมีย ร์ ทำา ให้โ ครมาทิด พร้อ มที่จ ะแยกจากกัน
- 10. • 4. ระยะแอนาเฟส (Anaphase Stage)
• ระยะนี้ไ มโทติก สปิน เดิล หดสั้น เข้า ดึง ให้โ ครมา
ทิด แยกตัว ออกจากกัน แล้ว โครมาทิด จะค่อ ย ๆ เคลื่อ น
ไปยัง แต่ล ะขั้ว ของเซลล์ โครโมโซมในระยะนี้จ ะเพิ่ม
จาก 2n เป็น 4n เป็น ระยะเวลาที่ใ ช้ส ั้น ที่ส ุด ระยะนี้
จะเห็น โครโมโซม มีร ูป ร่า งคล้า ยอัก ษรตัว วี (V) , ตัว เจ
(J) และตัว ไอ (I) ขึ้น อยู่ก ับ ตำา แหน่ง ของเซนโทรเมีย ร์
ว่า อยู่ก ึ่ง กลางของโครโมโซม หรือ ค่อ นข้า งปลาย หรือ
เกือ บปลายสุด
- 11. • 5. ระยะเทโลเฟส (Telophase Stega)
• เป็น ระยะสุด ท้า ยของการแบ่ง เซลล์ โดยโครมาทิด
ที่แ ยกออกจากกัน จะเรีย กว่า โครโมโซมลูก (daughter
chromosome) ซึ่ง จะไปรวมกลุ่ม ในแต่ล ะขั้ว ของเซลล์
มีก ารสร้า งเยื่อ หุ้ม นิว เคลีย ส ล้อ มรอบโครโมโซม และ
นิว คลีโ อลัส ปรากฏขึ้น ไมโทติก สปิน เดิล สลายไป มี
การแบ่ง ไซโทพลาสซึม ออกเป็น 2 ส่ว น คือ
- 12. • - ในเซลล์ส ต ว์ จะเกิด โดยเยือ หุ้ม
ั ่
เซลล์จ ะคอดกิ่ว จาก 2 ข้า งเข้า ใจ
กลางเซลล์ จนเกิด เป็น เซลล์ 2
เซลล์ใ หม่
• - ในเซลล์พ ืช จะเกิด โดยกอลจิค อม
เพลกซ์ส ร้า งเซลลูโ ลสมาก่อ ตัว เป็น
เซลล์เ พลท (cell plate) หรือ แผ่น
กั้น เซลล์ ตรงกลางเซลล์ ขยายไป
2 ข้า งของเซลล์ ซึ่ง ต่อ มาเซลล์เ พลท
จะกลายเป็น ส่ว นของผนัง เซลล์
• ผลสุด ท้า ย จะได้เ ซลล์ใ หม่ 2 เซลล์
ที่ม ีข นาดเท่า กัน เสมอ โดย
นิว เคลีย สของเซลล์ใ หม่ มีอ งค์
ประกอบ และสมบัต ิเ หมือ นกัน และมี
สภาพเหมือ นกับ นิว เคลีย ส ในระยะ
- 15. • การแบ่ง เซลล์แ บบไมโอซิส เป็น การแบ่ง เซลล์เ พื่อ สร้า ง
เซลล์ส ืบ พัน ธุ์ข องสัต ว์ ซึ่ง เกิด ในวัย เจริญ พัน ธุ์ ของสิ่ง มี
ชีว ิต โดยพบในอัณ ฑะ (testes) , รัง ไข่ (ovary) ,
และเป็น การแบ่ง เพื่อ สร้า งสปอร์ (spore) ในพืช ซึ่ง
พบในอับ ละอองเรณู (pollen sac) และอับ สปอร์
(sporangium) หรือ โคน (cone) หรือ ในออวุล
(ovule) มีก ารลดจำา นวนชุด โครโมโซมจาก 2n เป็น n
ซึ่ง เป็น กลไกหนึ่ง ที่ช ่ว ยให้จ ำา นวนชุด โครโมโซมคงที่
ในแต่ล ะสปีช ีส ์
- 16. ระยะนี้ใ ช้เ วลานานมาก แบ่ง ได้เ ป็น 5
ระยะย่อ ย คือ
• 1.1 เลปโตตีน (leptotene หรือ leptoneme) เห็น
โครโมโซมมีลักษณะเป็นเส้นบางๆ
• 1.2 ไซโกตีน (zygotene หรือ zygonema) โครโมโซมซึ่งมี
ลักษณะคล้ายกัน (homologous chromosome) มาจับคู่กันโดย
มีบางส่วนติดกัน จึงเห็นเป็นเส้นคู่ที่อาจจะพันกันอยู่เป็นเกลียวแต่ละ
คู่เรียกว่า ไบวาเลนต์ (bivalent)
• แต่ละเส้นที่เห็นเป็นโครโมโซม 1 เส้น ไม่ใช่โครมาติด
• 1.3 แพคคีต ีน (pachytene หรือ pachynema) โครโมโซมที่
เห็นเป็นเส้นยาวๆ หดตัวสั้นและหนาขึ้น
- 17. • 1.4 ดิป โปลตีน (diplotene หรือ diplonema)
โครโมโซมแต่ล ะแท่ง แยกให้เ ห็น เป็น สองโครมาติด ยึด
ติด กัน อยู่ท ี่เ ซนโตรเมีย ร์ ดัง นั้น โครโมโซมเดิม ที่จ ับ คู่ก ัน
จึง มี 4 โครมาติด เรีย กกัน ว่า เทเตรด (tetrads) โครมา
ติด ที่แ ยกออกจากกัน ทำา ให้เ กิด การไขว้ก ับ โครมาติด
ของอีก โครโมโซมหนึ่ง ที่เ ข้า คู่ก ัน เรีย กวว่า เกิด ไคแอ
สมาตา(chiasmata) และมีก ารแลกเปลี่ย นชิ้น ส่ว นของ
โครมาทิด เกิด ขึ้น ด้ว ยเรีย กว่า เกิด ครอสซิง โอเวอร์
(crossing over)
• 1.5 ไดอะคิเ นซิส (diakinesis) คู่ข องโครโมโซมหดสั้น
เต็ม ที่ พร้อ มกับ เริ่ม เคลื่อ นที่ นิว คลีโ อลัส สลายตัว
พร้อ มๆ กับ เยื่อ หุ้ม นิว เคลีย สเริ่ม สลาย
- 18. • 2. เมตาเฟส 1 (metaphase 1)
โครโมโซมจะมาเรีย งกัน อยู่ก ลาง
เซลล์ใ นลัก ษณะเข้า แถวเรีย ง 4 ของ
โครมาติด (เทีย บกับ เมตาเฟสของ
การแบ่ง เซลล์แ บบไมโตซิส ซึง มีก าร
่
เข้า แถวเรีย ง 2 ของโครมาติด ) สาย
ใยสปิน เดิล ดึง อยูใ นเซนโตรเมีย ร์
่
- 19. • 3. แอนาเฟส 1 (anaphase 1) คูข อง ่
โครมาติด หรือ แต่ล ะโครโมโซมแยก
ออกไปคนละด้า นของเซลล์ (แทนที่
จะดึง โครมาติด ไปคนละข้า งดัง เช่น
ในระยะแอนาเฟสของไมโตซิส )
ทำา ให้แ ต่ล ะข้า งของเซลล์ม ีก ลุ่ม
โครโมโซมเพีย งครึ่ง เดีย ว (haploid)
ของจำา นวนเดิม
- 20. • 4. ทีโ ลเฟส 1 (telophase 1) มีเ ยือ ่
หุ้ม นิว เคลีย สเกิด ขึ้น รอบกลุ่ม
โครโมโซมที่แ ยกไปอยูค นละข้า งของ
่
เซลล์ เยือ หุ้ม เซลล์ค อดเข้า หากัน
่
แบ่ง เซลล์เ ดิม ออกเป็น สองเซลล์
เซลล์ใ หม่ท ี่เ กิด ขึ้น มีโ ครโมโซมเพีย ง
ครึ่ง เดีย วของจำา นวนโครโมโซมเดิม
(อย่า นับ จำา นวนเส้น ของโครมาติด
ต้อ งจำา ให้แ ม่น ว่า ระยะนี้ 2 โครมาติด
ที่ย ง ติด กัน อยูค อ 1 โครโมโซม) ใน
ั ่ ื
เซลล์ข องพืช โดยเฉพาะส่ว นที่ส ร้า ง
เกสรตัว ผู้ม ก จะแบ่ง ต่อ เลยโดยยัง ไม่
ั
แยกออกเป็น 2 เซลล์
- 23. • ระยะโพรเฟส 2 (Prophase II)
เป็น ช่ว งสัน ๆ โครโมโซมมีก ารหด
้
ตัว แต่ล ะแท่ง ประกอบด้ว ยโครมาติด
สองสายยึด ติด กัน ตรงเซนโทรเมีย ร์
องค์ป ระกอบทางพัน ธุก รรมบนโครมา
ติด ทั้ง สอง อาจเหมือ นกัน หรือ แตก
ต่า งกัน ขึ้น อยูก ับ ว่า มีก าร crossing
่
over เกิด ขึ้น หรือ ไม่
- 24. • ระยะเมทาเฟส 2 (Metaphase II)
โครโมโซมทั้ง หมดซึง มีจ ำา นวนเพีย ง
่
ครึ่ง หนึ่ง ของออโตโซม จะมาเรีย งตัว
กัน อยูใ นแนวกลางเซลล์ และเส้น ใย
่
สปิน เดิล ยืด ที่แ ขนเซน
- 25. • ระยะแอนนาเฟส 2 (Anaphase II)
เส้น ใยสปิน เดิล ดึง เซนโตรเมีย ร์แ ยก
ออก ทำา ให้โ ครโมโซมแต่ล ะเส้น แยก
ออกจากกัน ไปอยูแ ต่ล ะขั้ว ของเซลล์
่
ขณะนี้จ ะเรีย กว่า โครโมโซม
- 26. • ระยะเทโลเฟส 2 (Telophase II)
โครโมโซมที่แ ต่ล ะขั้ว ของเซลล์จ ะ
รวมกลุ่ม เกิด นิว คลีโ อไทด์แ ละเยือ ่
หุ้ม นิว เคลีย ส เส้น ใยสปิน เดิล สลาย
และสุด ท้า ยจะเกิด การแบ่ง ไซโต
พลาสท์อ อกเป็น 2 ส่ว นทำา ให้เ ซลล์
ใหม่เ กิด ขึ้น
- 27. • เมื่อ สิน สุด กระบวนการแบ่ง เซลล์ไ ม
้
โอซีส ทั้ง หมดแล้ว จะได้เ ซลล์ใ หม่ 4
เซลล์ แต่ล ะเซลล์จ ะมีจ ำา นวน
โครโมโซมเป็น ครึ่ง หนึ่ง ของเซลล์เ ดิม
และสารพัน ธุก รรมของแต่ล ะเซลล์ก ็
ยัง แตกต่า งกัน ด้ว ย
- 29. บระหว่า งการแบ่ง เซลล์โ ดยกระบวนการไมโท
ไมโทซิส ไมโอซิส
1. โดยทั่ว ไป เป็น การแบ่ง เซลล์ข อง 1. โดยทั่ว ไป เกิด กับ เซลล์ ที่จ ะทำา หน้า ที่
ร่า งกาย เพื่อ เพิ่ม จำา นวนเซลล์ เพื่อ ให้ก ำา เนิด เซลล์ส ืบ พัน ธุ์ จึง เป็น การ
การเจริญ เติบ โต หรือ การสืบ พัน ธุ์ แบ่ง เซลล์ เพื่อ สร้า งเซลล์ส ืบ พัน ธุ์
ในสิ่ง มีช ีว ิต เซลล์เ ดีย ว
2. เริ่ม จาก 1 เซลล์แ บ่ง ครั้ง เดีย วได้เ ป็น 2. เริ่ม จาก 1 เซลล์ แบ่ง 2 ครั้ง ได้เ ป็น
2 เซลล์ใ หม่ 4 เซลล์ใ หม่
3. เซลล์ใ หม่ท ี่เ กิด ขึ้น 2 เซลล์ สามารถ 3. เซลล์ใ หม่ท ี่เ กิด ขึ้น 4 เซลล์ ไม่
แบ่ง ตัว แบบไมโทซิส ได้อ ีก สามารถแบ่ง ตัว แบบไมโอซิส ได้อ ีก
แต่อ าจแบ่ง ตัว แบบไมโทซิส ได้
4. การแบ่ง แบบไมโทซิส จะเริ่ม เกิด ขึ้น 4. ส่ว นใหญ่จ ะแบ่ง ไมโอซิส เมื่อ อวัย วะ
ตั้ง แต่ ระยะไซโกต และสืบ เนื่อ งกัน สืบ พัน ธุ์เ จริญ เต็ม ที่แ ล้ว หรือ เกิด ใน
ไปตลอดชีว ิต ไซโกต ของสาหร่า ย และราบาง
ชนิด
5. จำา นวนโครโมโซม หลัง การแบ่ง จะ 5. จำา นวนโครโมโซม จะลดลงครึ่ง หนึ่ง
เท่า เดิม (2n) เพราะไม่ม ีก ารแยกคู่ ในระยะไมโอซิส เนื่อ งจากการแยก
ของโฮโมโลกัส โครโมโซม คู่ ของโฮโมโลกัส โครโมโซม ทำา ให้
เซลล์ใ หม่ม ีจ ำา นวนโครโมโซมครึ่ง
หนึ่ง ของเซลล์เ ดิม (n)