More Related Content
Similar to อาชีพผู้ประกาศข่าวกีฬา พิธีกร
Similar to อาชีพผู้ประกาศข่าวกีฬา พิธีกร (20)
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
อาชีพผู้ประกาศข่าวกีฬา พิธีกร
- 1. อาชีพผู้ประกาศข่ าวกีฬา พิธีกร
นิยามอาชีพ
ผูปฏิบติงานอาชีพนี้ ทาหน้าที่ดาเนินรายการโทรทัศน์ หรื อรายการบนเวทีการแสดง โดยประกาศ
้ ั
อธิ บาย แนะนารายการ และหรื อบุคคล หรื อสิ่ งที่น่าสนใจต่อท่านผูชม ซักถามผูเ้ ข้าร่ วมรายการ ให้
้
ตอบคาถามข้อปั ญหา เรื่ องที่น่าสนใจโดยเป็ นผูจดเตรี ยมรายการด้วยตนเอง หรื อโดยมีผร่วมทีมเป็ น
้ั ู้
ผูดาเนิ นการ และพยายามดาเนินรายการให้ผชมได้รับความรู ้เรื่ องที่น่าสนใจและความบันเทิงตาม
้ ู้
นโยบาย
ลักษณะของงานทีทา
่
1. ศึกษานโยบาย และวัตถุประสงค์ของสถานีโทรทัศน์ บุคคล หรื อองค์กรที่มอบหมายให้
ดาเนินการเพื่อให้บรรลุผลสาเร็ จตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของเจ้าของรายการ
2. จัดเตรี ยมทาข้อมูล จัดทาบทพูด หรื อบทสนทนาให้เหมาะสมกับรายการที่จดขึ้น โดยมุ่งให้เป็ นที่
ั
พอใจของเจ้าของรายการสถานีโทรทัศน์ และผูชมรายการ โดยอาจดาเนินรายการเพียงลาพังผูเ้ ดียว
้
หรื อทางานเป็ นทีม
3. อ่านประกาศ ท่องจาสคริ ปต์เพื่อเตรี ยมออกรายการโดยไม่ให้เกิดความผิดพลาด
4. ถ่ายทอดข้อมูลเรื่ องราวต่างๆ และสื่ อความหมายด้วยภาษาไทย หรื อภาษาต่างประเทศที่ถูกต้อง
และชัดเจน
5. ดาเนินรายการโดยการเสนอความรู ้ สารคดี และเรื่ องที่น่าสนใจของรายการ ตั้งคาถาม และข้อ
ปั ญหาเพื่อให้ผร่วมรายการตอบร่ วมการสนทนาหรื อร่ วมทากิจกรรมที่จดขึ้นพยายามเชื่อมโยง
ู้ ั
รายการให้ราบรื่ น และไม่ติดขัด
6. ช่วยเหลือผูเ้ ข้าร่ วมรายการเมื่อมีขอขัดข้องเกิดขึ้นในขณะดาเนินรายการ
้
7. อาจอ่านประกาศโฆษณาผูสนับสนุนรายการ
้
- 2. 8. อาจจัดเตรี ยมสถานที่โดยการออกแบบและตกแต่งให้เหมาะสมกับรายการ
9. อาจจัดหาอุปกรณ์เพื่อใช้ในการดาเนินรายการ สรรหาตัวบุคคลที่มาแสดงร่ วมรายการ อาจ
นาเสนอภาพประกอบการบรรยายเป็ นวิดีโอภาพยนตร์ หรื อภาพนิ่ง แผนภูมิ ฯลฯ ตามความ
เหมาะสมกับรายการ
10. อาจเช่ารายการ และหาค่าโฆษณามาเป็ นค่าใช้จ่ายในการดาเนินรายการ
11. เป็ นงานที่ตองสื่ อสารกับผูชมในห้องส่ ง และผูชมทางบ้าน
้ ้ ้
สภาพการทางาน
พิธีกรจะทางานในช่วงกาหนดเวลาหนึ่งๆ ตามผังรายการของสถานีโทรทัศน์ในห้องส่ งของสถานี
โทรทัศน์ หรื อนอกสถานที่เพื่อการแสดงสดหรื อมีถ่ายทอดสด หรื อบันทึกเทปโทรทัศน์เพื่อนาออก
รายการในช่วงเวลาที่กาหนดไว้ ต้องอยูท่ามกลางแสงสว่างมากจากแสงไฟในห้องส่ ง อาจใช้เวลา
่
มากในการ ถ่ายทา และต้องถ่ายซ้ าหลายครั้ง เมื่อเกิดข้อผิดพลาดในบทพูด หรื อคิวการแสดงอาจ
เป็ นพิธีกรที่ดาเนินรายการคนเดียวหรื อมากกว่าหนึ่งคน แต่ส่วนมากไม่เกิน 3 คน พิธีกร แบ่งเป็ น
ประเภทตามรายการที่เสนอให้กลุ่มผูชมได้เลือกบริ โภค คือจัดตามเนื้ อหา และความเหมาะสมของ
้
พิธีกรกับรายการ เช่น พิธีกรจัดรายการเพลง พิธีกรรายการสาระคดีน่ารู ้ในประเทศ หรื อต่างประเทศ
พิธีกรรายการข่าวสารบ้านเมือง พิธีกรรายการเกมส์โชว์ พิธีกรรายการทาอาหาร พิธีกรรายการนา
เที่ยว พิธีกรคอลัมน์ผหญิง พิธีกรรายการ สุ ขภาพ พิธีกรรายการเกษตรเพื่อชุมชน พิธีกรแนะนาการ
ู้
ประกอบอาชีพ หรื อการทามาหากิน เป็ นต้น
อีกประเภทหนึ่ง คือ การดาเนินรายการเป็ นพิธีกรบนเวทีซ่ ึงจะต้องดาเนินรายการสดที่ตอง ใช้
้
ความสามารถเฉพาะตัว และใช้ไหวพริ บในการแก้ไขปั ญหาที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด พิธีกรที่
จัดรายการบนเวทีจะใช้เวลาทางานประมาณ 2 - 3 ชัวโมง และมักจะเป็ นพิธีกรคู่ คือพิธีกรชายคู่
่
พิธีกรหญิงคู่ หรื อพิธีกรชายหญิงคู่
ผูปฏิบติงานเป็ นพิธีกรในบางครั้งจะต้องเดินทางไปบันทึก และถ่ายทาเทปโทรทัศน์ หรื อเก็บข้อมูล
้ ั
หรื อความคิดเห็นของประชาชนนอกสถานที่เพื่อใช้ประกอบรายการที่นาเสนอต่อผูชม ้
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
1. สาเร็ จการศึกษาระดับปริ ญญาตรี
2. สนใจ และรักการพูด และกล้าแสดงออก สามารถสื่ อสารให้ผชมเข้าใจได้
ู้
3. มีประกาศณี ยบัตรผูประกาศจากกรมประชาสัมพันธ์
้
4. ต้องเป็ นผูที่ออกเสี ยงควบกล้ าในภาษาไทยชัดเจน มีน้ าเสี ยงน่าฟัง สุ ภาพ และมีลีลาในการ
้
นาเสนอ
- 3. 5. ต้องมีรูปร่ างหน้าตา และบุคลิกลักษณะ ที่ค่อนข้างดี และโดดเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจจากผูชม ้
6. มีไหวพริ บ และปฏิภาณดี สามารถแก้ไขเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
7. เป็ นผูมีความรู้รอบตัว และสนใจกระแสเหตุการณ์ของโลก เพื่อใช้ประโยชน์ในการดาเนิน
้
รายการ
8. มีคุณลักษณะในการทางานเป็ นทีมสู งมีมนุษยสัมพันธ์ มีระเบียบวินยในการทางาน
ั
9. มีทศนคติที่ดี มีความเป็ นกลาง
ั
10. คัดเลือกเชิ ญผูเ้ กี่ยวข้องกับประเด็นที่กาลังจะออกหรื อดาเนินรายการมาเป็ นแขกรับเชิญ
11. มีความอบอุ่น เปิ ดเผย ซื่ อสัตย์เป็ นกันเองต่อผูร่วมรายการ และผูชมรายการ
้ ้
ผูท่ีจะประกอบอาชีพนี้ ควรเตรี ยมความพร้อมดังต่อไปนี้ :
้
1. เป็ นผูสาเร็ จการศึกษาอย่างน้อยระดับอนุปริ ญญา ต้องฝึ กฝนการอ่านออกเสี ยงภาษาไทยให้
้
ชัดเจน ได้จงหวะ รวมทั้งมีความรู ้ทวไปและเป็ นผูที่มีความขยันหมันเพียรในการศึกษาหาความรู ้
ั ั่ ้ ่
เพิ่มเติมเกี่ยวกับจรรยาบรรณทางวิชาชีพ และมีความรู ้เรื่ องสิ ทธิ มนุษยชน ตลอดจนเรื่ องความมันคง
่
ของชาติ
2. เป็ นผูได้รับการฝึ กอบรมจากสมาคมวิทยุ โทรทัศน์แห่งประเทศไทย และผ่านการสอบ
้
ประกาศนียบัตร ผูประกาศจากกรมประชาสัมพันธ์ โดยสมัครสอบด้วยตนเอง หรื อผ่าน
้
สถาบันการศึกษาที่สังกัดอยู่
โอกาสความก้าวหน้ าในอาชีพ
ในกรณี ของพิธีกรจัดรายการเพลง หรื อวีเจ อาจได้รับการทาบทามให้เป็ นพิธีกรรายการ อื่นที่ไม่ซ้ า
กับการเป็ นพิธีกรรายการเดิมเป็ นดารา และอาจเป็ นผูประกาศข่าวบันเทิง ถ้าฝึ กฝนภาษาอังกฤษ
้
เพิ่มเติมก็จะสามารถทางานกับสถานีโทรทัศน์ ในเครื อข่ายของต่างประเทศได้ ส่ วนพิธีกรจัด
รายการประเภทถามตอบ หรื อดาเนินรายการสาระทางเศรษฐกิจ หรื อการเมืองอาจใช้ประสบการณ์
ทาการวิเคราะห์สถานการณ์ และเขียนบทความลงหนังสื อพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ ความรู ้ และมุมมอง
สาหรับ กลุ่มเป้ าหมายที่ไม่ชอบดูโทรทัศน์ได้ดวยพิธีกรทางโทรทัศน์ไม่ค่อยเปลี่ยนอาชีพมาก
้
้ ่
เท่าไหร่ ถาเปลี่ยนก็จะอยูในแวดวงอาชีพเดียวกัน เช่นเป็ นผูอานวยการผลิตรายการเองเป็ นเจ้าของ
้
รายการ และมักเป็ นผูบริ หารสู งสุ ดของขององค์กรนั้น ๆ
้
- 4. การเป็ นพิธีกรมืออาชีพ
พิธีกร (Master of Ceremony: MC)
คือ ผูดาเนินการในพิธีต่าง ๆ เป็ นบุคคลที่ทาหน้าที่ กากับ / นา / อานวยการ ให้กิจกรรม รายการหรื อ
้
พิธีการต่าง ๆ ดาเนินการไปให้แล้วเสร็ จ เรี ยบร้อยตามวัตถุประสงค์และกาหนดการที่วางไว้
หน้ าทีของพิธีกร
่
1. เป็ นผูให้ขอมูลแก่ผฟัง / ผูชม / ผูเ้ ข้าร่ วมพิธี โดยอย่างน้อยจะต้องมี ขบวนการดังต่อไปนี้ เช่น
้ ้ ู้ ้
ตามลาดับ ในแต่ละกิจกรรม
1. แจ้งกาหนดการ
2. แจ้งรายละเอียดของรายการ
3. แนะนาผูพด ผูแสดง
้ ู ้
4. ผูดาเนินการอภิปรายและอื่น ๆ
้
2. เป็ นผูเ้ ริ่ มกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการ เช่น
1. กล่าวทักทาย ต้อนรับเชิ ญเข้าสู่ งาน
2. เชิญเข้าสู่ พิธี ดาเนิ นรายการต่าง ๆ แล้วแต่กิจกรรม
2. เชิญ เปิ ดงาน ‟ ปิ ดงาน
3. เป็ นผูเ้ ชื่ อมโยงกิจกรรม / งาน / พิธี / รายการต่าง ๆ เช่น
1. กล่าวเชื่อมโยงเหตุการณ์ตามลาดับ
2. แจ้งให้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกาหนดการ
3. แจ้งขอความร่ วมมือ
4. กล่าวเชื่อมโยงรายการให้ชวนติดตาม
5. เป็ นผูส่งเสริ มจุดเด่นให้งานหรื อกิจกรรมและบุคคลสาคัญในงานพิธี / รายการโดยพิธีกร
้
จะต้องเป็ นผูทาหน้าที่ในวาระที่เหมาะสม เช่น
้
- 5. 6. กล่าวยกย่องสรรเสริ ญ ชื่นชมบุคคลสาคัญที่เกี่ยวข้องในพิธี
7. กล่าวถึงจุดเด่นของงานพิธีน้ น ๆ
ั
8. กล่าวแจ้งผลรางวัลและการมอบรางวัล
4. เป็ นผูที่สร้างสี สน บรรยากาศของงาน / พิธี / รายการ เช่น
้ ั
1. ให้ขอมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเป็ นระยะ
้
2. มีมุขขาขึ้นเป็ นระยะ ๆ
5. เป็ นผูเ้ สริ มสร้างความสมานฉันท์ในงาน / กลุ่มผูร่วมงาน เช่น
้
1. กล่าวละลายพฤติกรรม
2. กล่าวจูงใจให้รักสามัคคี
6. เป็ นผูเ้ ติมช่องว่างและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในงานพิธีต่าง ๆ เช่น
1. กล่าวชี้แจงกรณี บุคคลสาคัญไม่สามารถมาช่วยงานพิธีต่าง ๆ ได้
2. กล่าวทาความเข้าใจกรณี ตองเปลี่ยนแปลงกาหนดการ
้
โฆษกผู้ประกาศ
คือ ผูที่ทาหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงาน องค์กร กับประชาชน เพื่อให้ได้รับ
้
ความสนับสนุนร่ วมมือ
อันจะทาให้กิจการงานนั้น ๆ ประสบผลสาเร็ จ ได้ตามวัตถุประสงค์ ด้วยวิธีการที่แตกต่างในแต่ละ
กิจกรรม เช่น
„ การบอกกล่าว
„ การชี้แจง
„ การเผยแพร่
„ แก้ความเข้าใจผิด
„ การสารวจประชามติ
บทบาทการทาหน้าที่ของโฆษกผูประกาศ โดยการใช้เครื่ องมือด้านสื่ อต่าง ๆ เช่น เอกสาร สื่ อ
้
วิทยุโทรทัศน์ จัดเวทีประชาคม เดินสารวจประชามติ เป็ นกระบวนการประชาสัมพันธ์ ที่จะต้อง
ดาเนินการต่อไป เช่นกระบวนการจัดกิจกรรมโดยใช้เวทีประชาคม ผูที่จะต้องทาหน้าที่ ในการ
้
ควบคุม ดาเนิ นการให้ไปตามวัตถุประสงค์ในแต่ละครั้ง ผูที่เป็ นพิธีกรในการดาเนิ นการรายการ
้
ดังกล่าว จะต้องมีความเข้าใจ ในกระบวนการ และรู ้หลักการวิธีการ ในการดาเนิ นการดังกล่าวนั้น ๆ
เป็ นภาระหน้าที่ของพิธีกรทั้งสิ้ น ฉะนั้นจาเป็ นที่จะต้อง ศึกษาบทบาทหน้าที่ของพิธีกรดังต่อไปนี้
- 6. พิธีกร
คือ บุคลากรที่จะต้องพูดโดยใช้ความสามารถเฉพาะตนจากการฝึ กฝนและศึกษาเท่านั้น ไม่ใช้
สักแต่จะพูดอย่างเดียวไม่ มีความรู ้ความเข้าใจในกิจกรรมที่จะต้องรับผิดชอบในด้านการพูดใน
ตาแหน่งพิธีกร ฉะนั้น จะต้องมีการเตรี ยมตัวเตรี ยมใจก่อนจะเป็ นการเริ่ มต้นที่จะทาหน้าที่ในการ
เป็ นพิธีกรในกิจกรรมต่าง ๆ พิธีกรหรื อโฆษก อาจจะเป็ นบุคคลคนเดียวกันในกิจกรรมนั้น ๆ สร้าง
ความเข้าใจในข้อมูล ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ต่อกิจกรรมต่าง ๆ ของข้อเท็จจริ ง ให้ทศนะ ในโอกาสที่
ั
จะต้องปฏิบติในแต่ละสถานการณ์ ในแต่ละกิจกรรม พิธีกร จะถูกกล่าวถึงมากในกรณี ที่เป็ น
ั
ทางการ ส่ วนโฆษกจะเป็ นคาที่เรี ยกใช้ในส่ วนที่ก่อนถึงเวลาดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ หรื อบางครั้งใน
ท้องถิ่นชนบทจะเรี ยกรวมกันเช่น
่
“ โฆษกพิธีกร ดาเนินการ ต่อไป ” ไม่วาจะเรี ยกว่าพิธีกรหรื อโฆษกในกิจกรรมนั้น ๆ จะต้องเป็ น
การพูดคุยในที่ชุมชน นันคือต่อคนส่ วนมากทุกครั้งเป็ นการพูดในที่ชุมชน ซึ่ งมีผเู ้ ข้าร่ วมจานวนมาก
่
หากพูดผิดก็จะทาให้เสื่ อมเสี ยแก่ตนเองและองค์กร และถ้าหากทาดีพดดีก็จะมีสง่าราศีแก่ตนเอง
ู
เช่นกัน ดังสุ ภาษิต ของสุ นทรภู่ที่วา่
“ ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรี ศกดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่ อยจิต แม้พดชัวตัวตายทาลายมิตร จะชอบผิดอยูท่ีพด
ั ู ่ ่ ู
ให้ถูกทาง ”
ฉะนั้น คนที่เป็ นพิธีกรที่ดี มีความสามารถจะต้องมีการฝึ กฝนเรี ยนรู้ในหลักการ กลยุทธ์ในการ
พูดคุยต่าง ๆ ดังนี้ เช่น
- 7. „ เตรี ยมพร้อม
„ ซ้อมดี
„ ท่าทีสง่า
„ หน้าตาสุ ขม ุ
„ ทักที่ประชุมอย่าวกวน
„ เริ่ มต้นให้โน้มน้าว
„ เรื่ องราวให้กระชับ
„ จับตาที่ผฟัง
ู้
„ เสี ยงดังให้พอดี
„ อย่าให้มีอออ้า้
„ ยิมแย้มแจ่มใสตลอดเวลา
้
บุคคลที่จะทาหน้าที่ดงกล่าวจะต้องมีการเตรี ยมความพร้อมและเตรี ยมตัวในการทาหน้าที่ จะมี
ั
2 กลุ่มคือ
1. รู ้ตวก่อนและจะต้องเตรี ยมตัว
ั
2. ไม่รู้มาก่อน จะต้องไปใช้ปฏิภาณ ไหวพริ บทุกคนทาได้
การเตรียมตัวในการทาหน้ าทีพธีกร หรือโฆษก ผู้ประกาศ
่ ิ
พิธีกรหรื อโฆษก จะต้องมีการเตรี ยมตัวในการทาหน้าที่ ดังนี้
1. ศึกษาข้อมูล / วิเคราะห์สถานการณ์ ผูนา ผูชม โอกาส วัตถุประสงค์ของงานพิธี รายการ
้ ้
ที่กาหนดไว้ เพื่อทราบความมุ่งหมายของการทาหน้าที่
2. เตรี ยมเนื้ อหาและคาพูด เริ่ มต้นอย่างไร ? มุขตลก ขาขัน แทรกอย่างไร คาคม ลูกเล่น
จุดเด่นที่ควรกล่าวถึง ต้องเตรี ยมค้นคว้าศึกษาจากศูนย์ขอมูลมาให้พร้อม
้
3. ตรวจสอบความเหมาะสม ของบทความที่เตรี ยมมาว่าเหมาะสมกับเวลาหรื อไม่
่
4. ต้องมีการฝึ กซ้อมไม่วาจะซ้อมหลอกหรื อซ้อมจริ ง ต้องมีการฝึ กซ้อม
5. ศึกษาสถานที่จดงานหรื อพิธีที่กาหนดไว้ล่วงหน้า
ั
6. เตรี ยมเสื้ อผ้าและชุดการแต่งกาย อย่างเหมาะสมกับกิจกรรม พร้อมดูแลตั้งแต่ หัวจรด
เท้า
- 8. ข้ อควรปฏิบัติในการทาหน้ าทีพธีกร หรือโฆษก
่ ิ
ข้อควรปฏิบติในการทาหน้าที่ของพิธีกรหรื อโฆษก มีดงนี้
ั ั
„ ทาจิตให้แจ่มใส
„ ไปถึงก่อนเวลา
„ อุ่นเครื่ องแก้ประหม่า
„ ทาหน้าที่สุดฝี มือ
„ เลื่องลือผลงาน
ข้ อพึงระวัง สาหรับการทาหน้ าทีเ่ ป็ นพิธีกร
„ ต้องดูดีมีบุคลิก
„ ต้องรักษาเวลาอย่างเคร่ งเครี ยด
„ ต้องแสดงออกอย่างสุ ภาพและให้เกียรติ ร่ าเริ งแจ่มใส ให้ความเป็ นกันเอง
„ ต้องมีการประสานงานด้านข้อมูล และพร้อมเผชิญปั ญหาโดยไม่หงุดหงิด
„ ต้องใช้ภาษาให้ถูกต้องชัดเจนให้ชวนฟัง น่าติดตาม
„ ต้องเสริ มจุดเด่นของคนอื่นไม่ใช่ของตนเอง
„ สร้างความประทับใจ ด้านสุ ภาษิต หรื อคาคม
- 9. บรรณานุกรม
- สานักงานคณะกรรมการมาตรฐาน การบริ หารงานบุคคลส่ วนท้องถิ่น. “การเป็ นพิธีกรมืออาชีพ.”
พิธีกร (Master of Ceremony: MC). 22 ก.ค. 2011.
http://www.local.moi.go.th/piteekon.html 28 ก.ค. 2554.
- “แนะแนวอาชีพ.” พิธีกร-ผูดาเนินรายการ-Host-Master-of-Ceremony-Moderator.
้
24 ก.ค. 2011. http://www.xn--72c0baa2eyce3a4p.com 28 ก.ค. 2554.