More Related Content
Similar to Work32 27-28 (20)
Work32 27-28
- 3. การนาเสนอ
• การนาเสนอ คือ กระบวนการ วิธีการ เพื่อให้รู้ ให้ทราบ ให้เข้าใจ ในกิจกรรมขององค์กร ของสถาบัน ของ
หน่วยงาน ได้อย่างชัดเจน
การถ่ายทอดเนื้อหา สาระที่ผสมผสานกันระหว่าง ศิลปะการพูดกับการแสดงข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ผ่านสื่อและ
อุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสม
• ลักษณะและรูปแบบการนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ(ที่นิยมใช้) มี 3 วิธีการ คือ
1. มี ผู้นาเสนอ และใช้ เอกสารประกอบเป็นส่วนร่วมในการนาเสนอ
2. มี ผู้นาเสนอ ใช้ วัสดุ-อุปกรณ์เครื่องฉาย เป็นสื่อ และมี เอกสารประกอบ เป็นส่วนร่วม
3. จัดเป็น Display ในรูปของนิทรรศการ ที่ใช้ Post line เป็นเส้นนาทาง และ(อาจ)มี เอกสารประกอบ เป็น
ส่วนร่วม
- 5. ผู้ฟัง
การฟัง หมายถึงการรับสาร หรือเสียงที่ได้ยินทางหู การฟังอย่างมีจุดมุ่งหมาย มีมารยาทและรู้จักพินิจพิเคราะห์
เนื้อหาของสาร ที่รับว่ามีข้อเท็จจริง อย่างไร รู้จักจับใจความสาคัญ ใจความย่อย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้รับสาร ได้
ประโยชน์จากการฟังอย่างเต็มที่
ในการฟังเรื่องใด ๆ ก็ตาม ผู้ฟังควรตั้งจุดมุ่งหมาย ในการฟัง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายหลัก 3 ประการ คือ
1) ฟังเพื่อความรู้ ได้แก่ การฟังเรื่องราวที่เป็นวิชาการ ข่าวสารและข้อแนะนาต่าง ๆ การฟังเพื่อความรู้ จาเป็นต้อง
ฟังให้เข้าใจและจดจาสาระสาคัญให้ได้
2) ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน คือ การฟังเรื่องราวที่สนุกสนานเพลิดเพลิน ทาให้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากภารกิจ
การงานและสิ่งแวดล้อม
3) ฟังเพื่อให้ได้รับคติหรือความจรรโลงใจ คือ การฟังเรื่องที่ทาให้เกิดแนวคิด และสติปัญญา เกิดวิจารณญาณ ขัด
เกลาจิตใจให้มีคุณธรรม การฟังประเภทนี้ต้องรู้จักเลือกฟัง และเลือกเชื่อในสิ่งที่ถูกที่ควรซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟัง มีคติใน
การดาเนินชีวิตไปในทางดีงาม และรู้จักสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อสังคม
- 6. ผู้นาเสนอ
• 1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือ มีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร โดยไม่ต้องให้ผู้รับรับการ
นาเสนอต้องถามว่าต้องการให้พิจารณาอะไร
2. มีรูปแบบการนาเสนอเหมาะสม กล่าวคือ มีความกะทัดรัดได้ใจความ เรียงลาดับไม่สนใช้ภาษาเข้าใจ
ง่าย ใช้ตาราง แผนภูมิ แผนภาพ ช่วยให้พิจารณาข้อมูลได้สะดวก
3. เนื้อหาสาระดี กล่าวคือ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ตรงตามความต้องการ มี
ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทันสมัย และมีเนื้อหาเพียงพอแก่การพิจารณา
4. มีข้อเสนอที่ดี กล่าวคือ มีข้อเสนอที่สมเหตูสมผล มีข้อพิจารณาเปรียบเทียบ ทางเลือกที่เห็นได้ชัด เสนอแนะ
แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
- 8. กระบวนการในการนาเสนอ
• เตรียมข้อมูล การเตรียมตัวสาหรับงานนาเสนอ ต้องมีข้อมูลทั้งในส่วนของผู้บรรยายและผู้ฟังบรรยาย ด้านหนึ่งคือ
ต้องหาข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อใช้นาเสนอ เริ่มจากต้องทราบว่าการนาเสนอในครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร ต้องการให้ผู้ฟัง
ทราบอะไรบ้าง ใครเป็นผู้ที่เหมาะสมในการถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้
• จัดทางานนาเสนอ เมื่อมีข้อมูลจนครบถ้วน ก็ให้นาข้อมูลต่างๆมาสร้างเป็นงานนาเสนอ เริ่มจากการจัดเตรียม
หัวข้อหลักๆให้เหมาะสม ให้เป็นไปตามจุดประสงค์ที่วางเอาไว้คือ ต้องทราบว่าในสไลด์แต่ละแผ่นมีวัตถุประสงค์
อะไร ควรมีข้อข้อความใดบ้าง เมื่อครบถ้วนแล้ว จึงค่อยตกแต่งแต่ละสไลด์ให้สวยงาม
• ซักซ้อมก่อนนาเสนอจริงเมื่อได้สร้างงานนาเสนอพร้อมกับพิมพ์เอกสารเตรียมไว้แล้ว สิ่งที่ต้องทาต่อไปคือ การ
ซักซ้อมการบรรยาย ผู้อ่านสามารถตรวจสอบท่าทางตัวเองได้ในกระจกบานใหญ่ๆ สังเกตน้าเสียงและท่าทาง เพื่อ
ป้ องกันการประหม่าขณะอยู่ท่ามกลางสายตาประชาชนจานวนมาก
• นาเสนอจริง ขณะนาเสนอจริง ผู้บรรยายควรเป็นส่วนเดียวกับผู้ฟัง กล่าวคือควรทาให้บรรยากาศการบรรยายเป็น
กันเอง เมื่อเป็นกันเองแล้วเรื่องต่างๆ ก็จะง่าย ผู้บรรยายก็ไม่เกร็ง ผู้ฟังรู้สึกสบาย งานนาเสนอก็จะราบรื่นไปด้วยดี
- 9. หลักการนาเสนอที่ดี
• มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน กล่าวคือ มีความต้องการที่แน่ชัดว่า เสนอเพื่ออะไร โดยไม่ต้องให้ผู้รับรับการ
นาเสนอต้องถามว่าต้องการให้พิจารณาอะไร
• มีรูปแบบการนาเสนอเหมาะสม กล่าวคือ มีความกะทัดรัดได้ใจความ เรียงลาดับไม่สนใช้ภาษาเข้าใจ
ง่าย ใช้ตาราง แผนภูมิ แผนภาพ ช่วยให้พิจารณาข้อมูลได้สะดวก
• เนื้อหาสาระดี กล่าวคือ มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน ตรงตามความต้องการ มี
ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันทันสมัย และมีเนื้อหาเพียงพอแก่การพิจารณา
• มี ข้อเสนอที่ดี กล่าวคือ มีข้อเสนอที่สมเหตูสมผล มีข้อพิจารณาเปรียบเทียบ ทางเลือกที่เห็นได้
ชัด เสนอแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
- 10. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนาเสนองาน
• ปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ได้มีบทบาทสาคัญเกี่ยวกับชีวิตประจาวันของคนเรา มากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์ทาให้
การดาเนินชีวิตของคนเราในปัจจุบันสะดวกสบายขึ้น ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ
สติปัญญาและอารมณ์ ทาให้สังคมในปัจจุบัน เป็นสังคมแห่งในการเรียนรู้ และก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ด้วย
อิทธิพลของความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ ด้านการสื่อสารโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี
สารสนเทศที่มีเครือข่าย โยงใยทั่วโลก ประโยชน์ที่เกิดขึ้นในด้านการศึกษาคือก่อให้เกิดกระแสข่าวสารข้อมูล
ความรู้ การแสวงหาความรู้ การกระจายข่าวสารข้อมูลทาให้การเรียนรู้มีความสะดวก ง่าย และรวดเร็วหลากหลาย
รูปแบบ และพัฒนาต่อยอดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คอมพิวเตอร์จึงเป็นสิ่งที่สาคัญ ในการพัฒนาการศึกษาของชาติให้
เจริญรุ่งเรืองต่อไป
- 11. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในการทางาน
• 1. เครื่องเสียงและเครื่องขยายเสียง
ใช้ในการบันทึกเสียงหรือกระจายเสียง ในการนาเสนอรูปแบบของการบรรยายเพื่อให้ผู้รับฟังได้ยินเสียง
ผู้บรรยายชัดเจนและน่าสนใจ
• 2. เครื่องคอมพิวเตอร์
จัดเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ซึ่งสามารถนามาใช้ในการนาเสนอได้อย่างดีและมี
ประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ
• 3. โปรเจ็คเตอร์
เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี
เครื่องเล่นดีวีดี และเครื่องกาเนิดภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล ขยายขนาดบนจอรับภาพ ช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น
เหมาะสาหรับการนาเสนอข้อมูลในห้องประชุม เพื่อให้ผู้เข้าประชุมมองเห็นภาพหรือข้อความได้อย่างชัดเจน
- 12. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในการทางาน
• 4. วิชวลไลเซอร์
เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิตอลประเภทหนึ่ง ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮด หรือเครื่องฉายข้ามศีรษะ ใช้
แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลยโดยไม่ต้องดัดแปลง อุปกรณ์นี้เหมาะสาหรับใช้ในการ
นาเสนองานต่าง ๆ
• 5. เครื่องพิมพ์
เครื่องพิมพ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์สามารถพิมพ์ได้ทั้งสี และขาวดา สามารถพิมพ์ข้อความและรูปภาพได้ โดย
ผ่านทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์
• 6. กล่องถ่ายรูปดิจิตัล
เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูก
เก็บลงในหน่วยความจา ที่อยู่ในกล้อง
- 13. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนาเสนองาน
• 1) ซอฟต์แวร์ประมวลคา (word processing software) เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้สาหรับการพิมพ์
เอกสาร สามารถแก้ไข เพิ่ม แทรก ลบ และจัดรูปแบบเอกสารได้อย่างดี เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเป็นแฟ้ มข้อมูล เรียกมา
พิมพ์หรือแก้ไขใหม่ได้ และสามารถพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์รูปแบบตัวอักษรมีให้เลือกหลายรูปแบบ เอกสารจึงดู
เรียบร้อยสวยงาม ช่วยสร้างเอกสารในรูปแบบที่ต้องการได้ง่าย
- 14. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนาเสนองาน
• 2) ซอฟต์แวร์ตารางทางาน (spreadsheet software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคิดคานวณ การ
ทางานของซอฟต์แวร์ตารางทางาน ใช้หลักการเสมือนมีโต๊ะทางานที่มีกระดาษขนาดใหญ่วางไว้ มีเครื่องมือคล้าย
ปากกา ยางลบ และเครื่องคานวณเตรียมไว้ให้เสร็จ บนกระดาษมีช่องให้ใส่ตัวเลข ข้อความหรือสูตร สามารถสั่งให้
คานวณตามสูตรหรือเงื่อนไขที่กาหนด
- 15. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนาเสนองาน
• 3) ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (database management software) การใช้งานคอมพิวเตอร์
อย่างหนึ่งคือการใช้เก็บข้อมูล และจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์ จึงจาเป็นต้องมีซอฟต์แวร์จัดการข้อมูล
การรวบรวมข้อมูลหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกันไว้ในคอมพิวเตอร์เรียกว่าฐานข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลจึง
หมายถึงซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การประมวลผลข้อมูลพื้นฐานการสร้าง
รายงานผล หรือสรุปผลของข้อมูลที่ผ่านการประมวลแล้ว ซอฟต์แวร์นี้จะมีการจัดเก็บทั้งค่าข้อมูลพร้อมโครงสร้าง
ข้อมูล เพื่อช่วยลดความซ้าซ้อนและความขัดแย้งของข้อมูลตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้งานทั้งหลายได้รับความสะดวก
และใช้ข้อมูลร่วมกันได้
- 16. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนาเสนองาน
• 4) ซอฟต์แวร์นาเสนอ (presentation software) เป็นอีกซอฟต์แวร์หนึ่งที่มีการใช้งานอย่าง
แพร่หลาย ซอฟต์แวร์นาเสนอช่วยให้การนาเสนอทาได้ง่ายสะดวกรวดเร็ว และทาให้การนาเสนอมีความน่าสนใจ
มากยิ่งขึ้น สามารถแสดงข้อความในลักษณะที่สื่อความได้ง่าย ด้วยเครื่องมือสาเร็จที่ซอฟต์แวร์มีให้ใช้งาน
ซอฟต์แวร์นาเสนอสามารถสร้างสไลด์โดยประกอบด้วย ตัวอักษร รูปภาพ กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพเคลื่อนไหว
เสียงและอื่นๆ ซอฟต์แวร์นาเสนอ ทั้งซอฟต์แวร์ชุดปลาดาวหรือซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยด์นั้นมี
รูปแบบการใช้งานที่ง่าย