SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
จัดทำโดย
นำย ภูมินทร์ ศรีสองเมือง เลขที่ 8 ม.6/10
นำย กรวิชญ์ วรรณผง เลขที่ 10 ม.6/10
 ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์
1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (EDUCATIONAL
MEDIA)
2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (TOOLS DEVELOPMENT)
3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (THEORY
EXPERIMENT)
4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ ใช้งำน (APPLICATION)
5. โครงงำนพัฒนำเกม (GAME DEVELOPMENT)
1.โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (EDUCATIONAL MEDIA)
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะ
ต้องมีภำคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม กำรสอนโดย
ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่ำเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ
ONLINE ให้นักเรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้
โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นสำขำคอมพิวเตอร์ วิชำ
คณิตศำสตร์ วิชำวิทยำศำสตร์ วิชำสังคม วิชำชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำควำมเข้ำใจ
ยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่ำงเช่น โปรแกรมสอนวิธีกำรใช้งำน ระบบสุริยะจักรวำล โปรแกรม
แบบทดสอบวิชำต่ำง ๆ
2.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (TOOLS DEVELOPMENT)
เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือมำใช้ช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่ำงของ
เครื่องมือช่วยงำน เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน ซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำง ๆ เป็นต้น สำหรับ
ซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภำษำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้งำนในงำนพิมพ์ต่ำง ๆ บน
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้ โดยง่ำย ซึ่งรูปที่ได้สำมำรถนำไปใช้งำนต่ำง ๆ ได้มำกมำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในกำรมองวัตถุ
ในมุมต่ำง ๆ ใช้สำหรับช่วยในกำรออกแบบสิ่งของต่ำง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (THEORY EXPERIMENT)
เป็นโครงงำนใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำง ๆ เป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร
ข้อเท็จจริงและแนวควำมคิดต่ำง ๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำ แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่
ในรูปของสมกำร สูตร หรือคำอธิบำยก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีกำรจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ กำรทำโครงงำนประเภทนี้มี
จุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำง เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของเหลว กำรทดลองเรื่อง
พฤติกรรมของปลำอโรวำน่ำ ทฤษฎีกำรแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ ใช้งำน(APPLICATION)
เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบ
และตกแต่งอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนงำนประเภทนี้จะมีกำร
ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ ใช้สอยต่ำง ๆ ซึ่งอำจจะสร้ำงใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภำพสูงขึ้นก็ได้ โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ ใน
กำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้น ๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับปรุงแก้ ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และ
เครื่องมือต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอำจใช้วิธีทำงวิศวกรรมฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในกำรพัฒนำด้วย
5. โครงงำนพัฒนำเกม (GAME DEVELOPMENT)
เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้ และ/หรือ ควำมเพลิดเพลิน เช่น เกมหมำกรุก เกมหมำกฮอส เกมกำรคำนวณ
เลข ซึ่งเกมที่พัฒนำขึ้นนี้น่ำจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมี
กำรออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำ
กำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่
และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำง ๆ
ขั้นตอนกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์
มีทั้งหมด 6 ขั้นตอน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ
2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้ำโครงของโครงงำน
4. กำรลงมือทำโครงงำน
5. กำรเขียนรำยงำน
6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำจำกปั ญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
ระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปั ญหำที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ได้จำกแหล่งต่ำงๆ กัน ดังนี้
1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์ หรือวำรสำรต่ำงๆ
2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ
3. กำรฟั งบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ
4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน
5. งำนอดิเรกของนักเรียน
6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์
ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ
2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ
4. มีเวลำเพียงพอ
5. มีงบประมำณเพียงพอ
6. มีควำมปลอดภัย
2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล
กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอคำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้
แนวคิดที่ใช้ ในกำรกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ควำมรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะ
ศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้นได้อย่ำงเหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ
1. จะทำ อะไร
2. ทำไมต้องทำ
3. ต้องกำรให้เกิดอะไร
4. ทำอย่ำงไร
5. ใช้ทรัพยำกรอะไร
6. ทำกับใคร
7. เสนอผลอย่ำงไร
3. องค์ประกอบของเค้ำโครงของโครงงำน
รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทาโครงงานของนักเรียน
แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
4. กำรลงมือทำโครงงำน
4.1 กำรเตรียมกำร
กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย
และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้ มข้อควำมไว้ ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกกำรทำกิจกรรม
ต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผลอย่ำงไร มีปั ญหำและแก้ ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้ง
ข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
4.2 กำรลงมือพัฒนำ
1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดี
ขึ้น
2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อนจึงค่อยทำส่วนที่เป็นส่วนประกอบ
หรือส่วนเสริมเพื่อให้ โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำร
ต่อเชื่อมชิ้นงำนที่ชัดเจนด้วย
3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ ไข
กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้นทำงำนได้
ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำร ที่ระบุไว้ ในเป้ ำหมำยและทำด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย
4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนำผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อควำมที่สั้นกะทัดรัดอย่ำงครอบคลุม เพื่อช่วยให้
ผู้อ่ำนได้เข้ำใจถึงสิ่งที่ค้นพบจำกกำรทำโครงงำน และทำกำรอภิปรำยผลด้วย เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้
พร้อมกับนำ ไปหำควำมสัมพันธ์กับหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงกำรนำ
หลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทำโครงงำนเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอำจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปั ญหำ ซึ่งสำมำรถเขียน
เป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5. กำรเขียนรำยงำน
กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิด
วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำงๆ
เกี่ยวกับโครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน
กระชับ และตรงไปตรงมำ ให้ครอบคลุมหัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้
5.1 ส่วนนำ
ส่วนนำ เป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงำนนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงำน
2. ชื่อผู้ทำโครงงำน
3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่ำวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงำน ที่มีส่วนช่วยทำให้ โครงงำนสำเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบำยถึงที่มำ ควำมสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินกำร และผลที่ได้ โดยย่อ
5.2 บทนำ
บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
2. เป้ ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ
3. ขอบเขตของโครงงำน
5.3 หลักกำรและทฤษฎี
หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ ในกำรพัฒนำ
โครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย
5.4 วิธีดำเนินกำร
วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปั ญหำหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีกำรที่ใช้แก้ ไข
พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ในกำรทำงำน
5.5 ผลกำรศึกษำ
ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือข้อควำม ทั้งนี้ให้คำนึงถึงควำม
เข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุด้วยว่ำข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือ
คัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควรกล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของ
กำรทำโครงงำน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำ โครงงำนนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อกำร
ปรับปรุงแก้ ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนำคตด้วย
5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำโครงงำนนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำผลงำนของ
โครงงำนไปใช้ด้วย
5.8 บรรณำนุกรม
บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและรำยละเอียด
ต่ำงๆ ที่นำมำใช้ประโยชน์ ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย
5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน
หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงำน
2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงำนนั้นได้
3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำนนั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไรออกมำเป็นข้อมูลขำออก
5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟั งก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่ มใด เพื่อให้ผลงำนทำงำนในฟั งก์ชันหนึ่งๆ
6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน
กำรนำเสนอและกำรแสดงผลงำนเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของกำรทำโครงงำน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลควำมคิด ควำมพยำยำม
ในกำรทำงำนที่ผู้ทำโครงงำนได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้ำใจถึงผลงำนนั้น กำรเสนอผลงำนอำจทำได้ ในหลำยรูปแบบต่ำงๆ กัน
เช่น กำรแสดงผลงำนโดยไม่มีกำรอธิบำยประกอบกำรรำยงำนด้วยคำพูดในที่ประชุม กำรจัดนิทรรศกำรโดยโปสเตอร์และอธิบำยด้วยคำพูด
เป็นต้น โดยผลงำนที่นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงำน
2. ชื่อผู้จัดทำโครงงำน
3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ
4. คำอธิบำยถึงที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน
5. วิธีกำรดำเนินกำรที่สำคัญ
6. กำรสำธิตผลงำน
7. ผลกำรสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จำกกำรทำโครงงำน

More Related Content

What's hot

ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4kanatakenta
 
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20varatkhimhihi
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Natsinee Methajaroenrak
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3noeynymon
 
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภทAoy Amm Mee
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์sarwsw
 
การพัฒนาเครื่องมือ
การพัฒนาเครื่องมือการพัฒนาเครื่องมือ
การพัฒนาเครื่องมือdgnjamez
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน Nongnut Wasikarn
 

What's hot (18)

ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
Project 3
Project 3 Project 3
Project 3
 
Project 3
Project 3 Project 3
Project 3
 
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
น.ส.วรัชยา แซ่เตียวม.5 1 เลขที่20
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภทใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท
 
Presentation (1)
Presentation (1)Presentation (1)
Presentation (1)
 
Comm3
Comm3Comm3
Comm3
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Pranpriya605
Pranpriya605Pranpriya605
Pranpriya605
 
การพัฒนาเครื่องมือ
การพัฒนาเครื่องมือการพัฒนาเครื่องมือ
การพัฒนาเครื่องมือ
 
เบล
เบลเบล
เบล
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์และขั้นตอน
 
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
 
Workk2
Workk2Workk2
Workk2
 
ใบงาน 3
ใบงาน 3ใบงาน 3
ใบงาน 3
 
Presentation Activity 3
Presentation Activity 3Presentation Activity 3
Presentation Activity 3
 

Similar to Presentation 3

โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)Natsinee Methajaroenrak
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^Natsinee Methajaroenrak
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Cin Pichita
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Sup's Tueng
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3minimalistknont
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3Nontt' Panich
 
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษาความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษาสุชาติ องค์มิ้น
 
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3TanakornKhamwang
 
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2TanakornKhamwang
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานMoomy Momay
 

Similar to Presentation 3 (20)

Com3
Com3Com3
Com3
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
Com03
Com03Com03
Com03
 
Kot
KotKot
Kot
 
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
Computer projrct 3
Computer projrct 3Computer projrct 3
Computer projrct 3
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Project 3
Project 3Project 3
Project 3
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษาความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
ความหมายและต วอย างห_วข_อโครงงานประเภทการพ_ฒนาส__อเพ__อการศ_กษา
 
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
กิจกรรมที่ 2-3 Presentation 3
 
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
กิจกรรมที่2-3 Presentation 2
 
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)
 
K3
K3K3
K3
 
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงานใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
 

More from GanokwanBaitoey (20)

Project 3 presentation
Project 3 presentationProject 3 presentation
Project 3 presentation
 
2562 final-project -2
2562 final-project -22562 final-project -2
2562 final-project -2
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
Presentation 3
Presentation 3 Presentation 3
Presentation 3
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project
2562 final-project  2562 final-project
2562 final-project
 
presentation 3
presentation 3presentation 3
presentation 3
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Presentation 3
Presentation 3 Presentation 3
Presentation 3
 
prasentation 2
prasentation 2prasentation 2
prasentation 2
 
Presentation 3
Presentation 3Presentation 3
Presentation 3
 
Presentation 3
Presentation 3Presentation 3
Presentation 3
 
Computer project 2
Computer project 2Computer project 2
Computer project 2
 
presentation 2
presentation 2presentation 2
presentation 2
 
presentation 2
presentation 2presentation 2
presentation 2
 
Presentation 2
Presentation 2Presentation 2
Presentation 2
 
presentation 2
presentation 2presentation 2
presentation 2
 

Presentation 3

  • 1.
  • 2. จัดทำโดย นำย ภูมินทร์ ศรีสองเมือง เลขที่ 8 ม.6/10 นำย กรวิชญ์ วรรณผง เลขที่ 10 ม.6/10
  • 3.  ประเภทของโครงงำนคอมพิวเตอร์ 1. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (EDUCATIONAL MEDIA) 2. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (TOOLS DEVELOPMENT) 3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (THEORY EXPERIMENT) 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ ใช้งำน (APPLICATION) 5. โครงงำนพัฒนำเกม (GAME DEVELOPMENT)
  • 4. 1.โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (EDUCATIONAL MEDIA) เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรผลิตสื่อเพื่อกำรศึกษำ โดยกำรสร้ำงโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยกำรเรียน ซึ่งอำจจะ ต้องมีภำคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถำมคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสำมำรถเรียนแบบรำยบุคคลหรือรำยกลุ่ม กำรสอนโดย ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่ำเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์กำรสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอำจเป็นกำรพัฒนำบทเรียนแบบ ONLINE ให้นักเรียนเข้ำมำศึกษำด้วยตนเองก็ได้ โครงงำนประเภทนี้สำมำรถพัฒนำขึ้นเพื่อใช้ประกอบกำรสอนในวิชำต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นสำขำคอมพิวเตอร์ วิชำ คณิตศำสตร์ วิชำวิทยำศำสตร์ วิชำสังคม วิชำชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอำจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำควำมเข้ำใจ ยำก มำเป็นหัวข้อในกำรพัฒนำโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่ำงเช่น โปรแกรมสอนวิธีกำรใช้งำน ระบบสุริยะจักรวำล โปรแกรม แบบทดสอบวิชำต่ำง ๆ
  • 5. 2.โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (TOOLS DEVELOPMENT) เป็นโครงงำนเพื่อพัฒนำเครื่องมือมำใช้ช่วยสร้ำงงำนประยุกต์ต่ำง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่ำงของ เครื่องมือช่วยงำน เช่น ซอฟต์แวร์วำดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งำน ซอฟต์แวร์ช่วยกำรมองวัตถุในมุมต่ำง ๆ เป็นต้น สำหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อกำรพิมพ์งำนนั้นสร้ำงขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภำษำ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เรำใช้งำนในงำนพิมพ์ต่ำง ๆ บน เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้ โดยง่ำย ซึ่งรูปที่ได้สำมำรถนำไปใช้งำนต่ำง ๆ ได้มำกมำย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในกำรมองวัตถุ ในมุมต่ำง ๆ ใช้สำหรับช่วยในกำรออกแบบสิ่งของต่ำง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
  • 6. 3. โครงงำนประเภทจำลองทฤษฎี (THEORY EXPERIMENT) เป็นโครงงำนใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรจำลองกำรทดลองของสำขำต่ำง ๆ เป็นโครงงำนที่ผู้ทำต้องศึกษำรวบรวมควำมรู้ หลักกำร ข้อเท็จจริงและแนวควำมคิดต่ำง ๆ อย่ำงลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องกำรศึกษำ แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักกำร ซึ่งอำจอยู่ ในรูปของสมกำร สูตร หรือคำอธิบำยก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีกำรจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ กำรทำโครงงำนประเภทนี้มี จุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีควำมรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่ำงดี ตัวอย่ำง เช่น กำรทดลองเรื่องกำรไหลของเหลว กำรทดลองเรื่อง พฤติกรรมของปลำอโรวำน่ำ ทฤษฎีกำรแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
  • 7. 4. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ ใช้งำน(APPLICATION) เป็นโครงงำนที่ใช้คอมพิวเตอร์ ในกำรสร้ำงผลงำนเพื่อประยุกต์ ใช้งำนจริงในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับกำรออกแบบ และตกแต่งอำคำร ซอฟต์แวร์สำหรับกำรผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับกำรระบุคนร้ำย เป็นต้น โครงงำนงำนประเภทนี้จะมีกำร ประดิษฐ์ฮำร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ ใช้สอยต่ำง ๆ ซึ่งอำจจะสร้ำงใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภำพสูงขึ้นก็ได้ โครงงำนลักษณะนี้จะต้องศึกษำและวิเครำะห์ควำมต้องกำรของผู้ใช้ก่อน แล้วนำข้อมูลที่ได้มำใช้ ใน กำรออกแบบ และพัฒนำสิ่งของนั้น ๆ ต่อจำกนั้นต้องมีกำรทดสอบกำรทำงำนหรือทดสอบคุณภำพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว ปรับปรุงแก้ ไขให้มีควำมสมบูรณ์ โครงงำนประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ควำมรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภำษำโปรแกรม และ เครื่องมือต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอำจใช้วิธีทำงวิศวกรรมฮำร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในกำรพัฒนำด้วย
  • 8. 5. โครงงำนพัฒนำเกม (GAME DEVELOPMENT) เป็นโครงงำนพัฒนำซอฟต์แวร์เกมเพื่อควำมรู้ และ/หรือ ควำมเพลิดเพลิน เช่น เกมหมำกรุก เกมหมำกฮอส เกมกำรคำนวณ เลข ซึ่งเกมที่พัฒนำขึ้นนี้น่ำจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นกำรใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่ำงมีหลักกำร โครงงำนประเภทนี้จะมี กำรออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์กำรเล่น เพื่อให้น่ำสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ควำมรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนำควรจะได้ทำ กำรสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่ำง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมำปรับปรุงหรือพัฒนำขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่ำสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่ำง ๆ
  • 9. ขั้นตอนกำรทำโครงงำนคอมพิวเตอร์ มีทั้งหมด 6 ขั้นตอน 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล 3. จัดทำเค้ำโครงของโครงงำน 4. กำรลงมือทำโครงงำน 5. กำรเขียนรำยงำน 6. กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน
  • 10. 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงำนที่สนใจ โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมำพัฒนำเป็นโครงงำนคอมพิวเตอร์ มักจะได้มำจำกปั ญหำ คำถำม หรือควำมสนใจในเรื่องต่ำงๆ จำกกำรสังเกตสิ่งต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่ำงๆ รอบตัว ปั ญหำที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ได้จำกแหล่งต่ำงๆ กัน ดังนี้ 1. กำรอ่ำนค้นคว้ำจำกหนังสือ เอกสำร หนังสือพิมพ์ หรือวำรสำรต่ำงๆ 2. กำรไปเยี่ยมชมสถำนที่ต่ำงๆ 3. กำรฟั งบรรยำยทำงวิชำกำร รำยกำรวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งกำรสนทนำอภิปรำยแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นระหว่ำงเพื่อนนักเรียนหรือกับบุคคลอื่นๆ 4. กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในโรงเรียน 5. งำนอดิเรกของนักเรียน 6. กำรเข้ำชมงำนนิทรรศกำรหรืองำนประกวดโครงงำนคอมพิวเตอร์ ในกำรตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมำพัฒนำโครงงำนคอมพิวเตอร์ ควรพิจำรณำองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้ 1. ต้องมีควำมรู้และทักษะพื้นฐำนอย่ำงเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษำ 2. สำมำรถจัดหำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 3. มีแหล่งควำมรู้เพียงพอที่จะค้นคว้ำหรือขอคำปรึกษำ 4. มีเวลำเพียงพอ 5. มีงบประมำณเพียงพอ 6. มีควำมปลอดภัย
  • 11. 2. ศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล กำรศึกษำค้นคว้ำจำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงกำรขอคำปรึกษำจำกผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้ แนวคิดที่ใช้ ในกำรกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษำได้เฉพำะเจำะจงมำกยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ควำมรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะ ศึกษำจนสำมำรถใช้ออกแบบและวำงแผนดำเนินกำรทำโครงงำนนั้นได้อย่ำงเหมำะสม ในกำรศึกษำจะต้องได้คำตอบว่ำ 1. จะทำ อะไร 2. ทำไมต้องทำ 3. ต้องกำรให้เกิดอะไร 4. ทำอย่ำงไร 5. ใช้ทรัพยำกรอะไร 6. ทำกับใคร 7. เสนอผลอย่ำงไร
  • 12. 3. องค์ประกอบของเค้ำโครงของโครงงำน รายงาน รายละเอียดที่ต้องระบุ ชื่อโครงงาน ทาอะไร กับใคร เพื่ออะไร ประเภทโครงงาน วิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ชื่อผู้จัดทาโครงงาน ผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้ ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู-อาจารย์ผู้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทาโครงงานของนักเรียน แนวคิด ที่มา และความสาคัญ สภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล วัตถุประสงค์ สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
  • 13. 4. กำรลงมือทำโครงงำน 4.1 กำรเตรียมกำร กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ ในกำรพัฒนำให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้ มข้อควำมไว้ ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกกำรทำกิจกรรม ต่ำงๆ ระหว่ำงทำโครงงำน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่ำงไร ได้ผลอย่ำงไร มีปั ญหำและแก้ ไขได้หรือไม่อย่ำงไร รวมทั้ง ข้อสังเกตต่ำงๆ ที่พบ
  • 14. 4.2 กำรลงมือพัฒนำ 1. ปฏิบัติตำมแผนงำนที่วำงไว้ ในเค้ำโครง แต่อำจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้ำพบว่ำจะช่วยทำให้ผลงำนดี ขึ้น 2. จัดระบบกำรทำงำนโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อนจึงค่อยทำส่วนที่เป็นส่วนประกอบ หรือส่วนเสริมเพื่อให้ โครงงำนมีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น และถ้ำมีกำรแบ่งงำนกันทำ ให้ตกลงรำยละเอียดในกำร ต่อเชื่อมชิ้นงำนที่ชัดเจนด้วย 3. พัฒนำระบบงำนด้วยควำมละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่ำงเป็นระบบและครบถ้วน 4.3 กำรทดสอบผลงำนและแก้ ไข กำรตรวจสอบควำมถูกต้องของผลงำน เป็นควำมจำเป็นเพื่อให้แน่ ใจว่ำผลงำนที่พัฒนำขึ้นทำงำนได้ ถูกต้องตรงกับควำมต้องกำร ที่ระบุไว้ ในเป้ ำหมำยและทำด้วยประสิทธิภำพสูงด้วย
  • 15. 4.4 กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนำผลงำนเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อควำมที่สั้นกะทัดรัดอย่ำงครอบคลุม เพื่อช่วยให้ ผู้อ่ำนได้เข้ำใจถึงสิ่งที่ค้นพบจำกกำรทำโครงงำน และทำกำรอภิปรำยผลด้วย เพื่อพิจำรณำข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหำควำมสัมพันธ์กับหลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนที่ผู้อื่นได้ศึกษำไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงกำรนำ หลักกำร ทฤษฎี หรือผลงำนของผู้อื่นมำใช้ประกอบกำรอภิปรำยผลที่ได้ด้วย 4.5 แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทำโครงงำนเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอำจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปั ญหำ ซึ่งสำมำรถเขียน เป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษำและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
  • 16. 5. กำรเขียนรำยงำน กำรเขียนรำยงำนเป็นวิธีกำรสื่อควำมหมำยเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้ำใจแนวคิด วิธีดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่ำงๆ เกี่ยวกับโครงงำนนั้น ในกำรเขียนรำยงำนนักเรียนควรใช้ภำษำที่อ่ำนง่ำย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมำ ให้ครอบคลุมหัวข้อต่ำงๆเหล่ำนี้
  • 17. 5.1 ส่วนนำ ส่วนนำ เป็นกำรให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงำนนั้นซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อโครงงำน 2. ชื่อผู้ทำโครงงำน 3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ 4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่ำวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงำน ที่มีส่วนช่วยทำให้ โครงงำนสำเร็จ 5. บทคัดย่อ อธิบำยถึงที่มำ ควำมสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินกำร และผลที่ได้ โดยย่อ 5.2 บทนำ บทนำเป็นส่วนรำยละเอียดของเนื้อหำของโครงงำนซึ่งประกอบด้วย 1. ที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน 2. เป้ ำหมำยของกำรศึกษำค้นคว้ำ 3. ขอบเขตของโครงงำน
  • 18. 5.3 หลักกำรและทฤษฎี หลักกำรและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จำกกำรศึกษำหำข้อมูลหรือหลักกำร ทฤษฎี หรือวิธีกำรที่จะนำมำใช้ ในกำรพัฒนำ โครงงำน ซึ่งรวมถึงกำรระบุผลงำนของผู้อื่นที่นักเรียนนำมำเปรียบเทียบหรือพัฒนำเพิ่มเติมด้วย 5.4 วิธีดำเนินกำร วิธีดำเนินกำร อธิบำยขั้นตอนกำรดำเนินงำนโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปั ญหำหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีกำรที่ใช้แก้ ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ในกำรทำงำน 5.5 ผลกำรศึกษำ ผลกำรศึกษำ นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนำได้ โดยอำจแสดงเป็นตำรำง หรือ กรำฟ หรือข้อควำม ทั้งนี้ให้คำนึงถึงควำม เข้ำใจของผู้อ่ำนเป็นหลัก 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบำยผลสรุปที่ได้จำกกำรทำ งำน ถ้ำมีกำรตั้งสมมติฐำนควรระบุด้วยว่ำข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือ คัดค้ำนสมมติฐำนที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจำกนั้นยังควรกล่ำวถึงกำรนำ ผลกำรทดลองหรือพัฒนำไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของ กำรทำโครงงำน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลำดบำงประกำรที่เกิดขึ้นจำกกำรทำ โครงงำนนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อกำร ปรับปรุงแก้ ไขหำกจะมีผู้ศึกษำค้นคว้ำในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนำคตด้วย
  • 19. 5.7 ประโยชน์ ประโยชน์ที่ได้รับจำกโครงงำน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจำกกำรพัฒนำโครงงำนนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจำกกำรนำผลงำนของ โครงงำนไปใช้ด้วย 5.8 บรรณำนุกรม บรรณำนุกรม รวบรวมรำยชื่อหนังสือ วำรสำร เอกสำร หรือเว็บไซด์ต่ำงๆ ที่ผู้ทำ โครงงำนใช้ค้นคว้ำ หรืออ่ำนเพื่อศึกษำข้อมูลและรำยละเอียด ต่ำงๆ ที่นำมำใช้ประโยชน์ ในกำรทำ โครงงำนนี้กำรเขียนเอกสำรบรรณำนุกรมต้องให้ถูกต้องตำมหลักกำรเขียนด้วย 5.9 กำรจัดทำคู่มือกำรใช้งำน หำโครงงำนที่นักเรียนจัดทำ เป็นกำรพัฒนำระบบใหม่ขึ้นมำ ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบำยวิธีกำรใช้ผลงำนนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย 1. ชื่อผลงำน 2. ควำมต้องกำรของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรำยละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงำนนั้นได้ 3. ควำมต้องกำรของซอฟต์แวร์ ระบุรำยชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงำนนั้นทำงำนได้อย่ำงสมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของผลงำน อธิบำยว่ำผลงำนนั้นทำ หน้ำที่อะไรบ้ำง รับอะไรเป็นข้อมูลขำเข้ำและส่วนอะไรออกมำเป็นข้อมูลขำออก 5. วิธีกำรใช้งำนของแต่ละฟั งก์ชัน อธิบำยว่ำจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่ มใด เพื่อให้ผลงำนทำงำนในฟั งก์ชันหนึ่งๆ
  • 20. 6. การนาเสนอและแสดงโครงงาน กำรนำเสนอและกำรแสดงผลงำนเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของกำรทำโครงงำน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลควำมคิด ควำมพยำยำม ในกำรทำงำนที่ผู้ทำโครงงำนได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้ำใจถึงผลงำนนั้น กำรเสนอผลงำนอำจทำได้ ในหลำยรูปแบบต่ำงๆ กัน เช่น กำรแสดงผลงำนโดยไม่มีกำรอธิบำยประกอบกำรรำยงำนด้วยคำพูดในที่ประชุม กำรจัดนิทรรศกำรโดยโปสเตอร์และอธิบำยด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงำนที่นำมำเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้ 1. ชื่อโครงงำน 2. ชื่อผู้จัดทำโครงงำน 3. ชื่ออำจำรย์ที่ปรึกษำ 4. คำอธิบำยถึงที่มำและควำมสำคัญของโครงงำน 5. วิธีกำรดำเนินกำรที่สำคัญ 6. กำรสำธิตผลงำน 7. ผลกำรสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จำกกำรทำโครงงำน