SlideShare a Scribd company logo
1 of 24
Download to read offline
ประเภทและขั้นตอนของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภท
ของโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอน
ของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์เป็น
เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชาดังนั้น
โครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก
ทั้งในลักษณะของเนื้อหากิจกรรมและลักษณะของ
ประโยชน์หรือผลงานที่ได้ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ
ได้ 5 ประเภท
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
(Educational Media)
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ
(Tools Development)
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี
(Theory Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
(Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม
(Game Development)
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมี
ภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถ
เรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่า
เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการ
พัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชา
ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์
วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียน
ทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรม
แบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน
เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งานซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุ
ในมุมต่าง ๆ เป็นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรม
ประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ
บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้
งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุม
ต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรม
ประเภท 3D
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ
เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และ
แนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือ
คาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทา
โครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรม
ของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน
เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับ
การระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้
สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้
โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการ
ออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของ
สิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์
โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม
และเครื่องมือต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
4. โครงงานประยุกต์ใช้งาน
5. โครงงานพัฒนาเกม
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ หรือความเพลิดเพลิน เช่น
เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้น
ให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงาน
ประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น
พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้
เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทาอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอน จะมีความสาคัญต่อความสาเร็จ
ของโครงงานนั้น ๆ การคัดเลือกโครงงานที่สนใจจะทา ควรเป็นไปตามความสามารถ ความถนัด ความสนใจ และความต้องการ
ของตัวผู้เรียนเอง การสารวจและการเลือก เรื่องที่จะทาโครงงาน เป็นขั้นตอนแรกของการทาโครงงาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สาคัญมาก
ขั้นตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ดังนี้
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน (การตั้งชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจจะทา)
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
5. การจัดทารายงาน
6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน (การตั้งชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจจะทา)
ปัญหาสาคัญในการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ประการหนึ่งคือ ผู้เรียนไม่ทราบว่าจะทาโครงงานเรื่องอะไร โดยทั่วไปเรื่องที่จะนามาพัฒนาเป็น
โครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากเรื่องทั่ว ๆ ไป จากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่
เกี่ยวเนื่องกับระบบ คอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจ เลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
ควรพิจารณาองค์ประกอบสาคัญๆ ดังนี้
เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทาโครงงาน
ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษาซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คาปรึกษา
มีเวลาเพียงพอ
มีงบประมาณเพียงพอ
มีความปลอดภัย
2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคาปรึกษาจากครูผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
จะช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจน
สามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการ ทาโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว ผู้เรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสาคัญ
ไว้ด้วยแหล่งข้อมูลที่สาคัญอีกแหล่งหนึ่งคือ การศึกษาผลงานของโครงงานคอมพิวเตอร์จากงานแสดงนิทรรศการ หรือจากเอกสารรายงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจค้นหาได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับผู้เรียนในด้านความรู้ เทคนิคและวิธีการ
พัฒนา นอกจากนี้ยังทาให้เกิดแนวคิดที่จะดัดแปลงผลงานดังกล่าว มาจัดทาโครงงานคอมพิวเตอร์ในหัวข้อที่ตนสนใจด้วย ตัวอย่างเว็บไซต์ เช่น
1) http://oho.ipst.ac.th เป็นเว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสอนวิชา
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
2) http://www.toryod.com เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสิทธิบัตร สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่ผู้เรียนสามารถเข้าไปศึกษา แนวคิดเพื่อนามาใช้สร้าง
โครงงาน หรือต่อยอดได้
3) http://www.ipthailand.org เป็นเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3. การจัดทาข้อเสนอโครงงาน
โดยทั่วไป การทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์มีขั้นตอนที่สาคัญดังนี้
3.1 กาหนดขอบเขตงาน
วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทบทวนเอกสารวิชาการ เพื่อนามากาหนดขอบเขต ลักษณะ
และแนวทางในการวางแผนจัดทาโครงงาน
3.2 การออกแบบการพัฒนา
การออกแบบพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ตัวแปล ภาษา
และวัสดุต่าง ๆ ที่ต้องใช้กาหนด คุณลักษณะของผลงาน ระบุเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา
พร้อมทั้งกาหนดตารางการปฏิบัติงาน
3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น
การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น
โดยอาจทาการพัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้โดยนาผลจากการ
ปฏิบัติไปปรับปรุง แผนการปฏิบัติงานที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกสาหรับผู้เสนอโครงงานที่ต้องการตรวจสอบความเป็นไปได้ของ
โครงงานและหลักการ
3.4 จัดทาและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เขียนข้อเสนอโครงงานนาเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้แนะนา
ในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่อีกครั้ง ซึ่งจะทาให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างราบรื่น
4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
เมื่อข้อเสนอโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่า 50% ขั้นต่อไปจะ
เป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
4.1 การเตรียมการ
ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการทดลอง
พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่สาหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก
หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่าง ๆ
ระหว่างทาโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่
อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
4.2.1 ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้า
พบว่าจะช่วยทาให้ผลงานดีขึ้น
4.2.2 จัดระบบการทางานโดยทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้แล้วเสร็จก่อนจึงค่อยทาส่วน
ที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น
และถ้ามีการแบ่งงานกันทาให้ทาความตกลงในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
4.2.3 พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบ
และครบถ้วน
4.2.4 คานึงถึงความประหยัด ความปลอดภัย และระยะเวลาในการทางาน
4.3 การตรวจสอบผลงานและแก้ไข
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงานเป็นความจาเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนา
ขึ้นทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้าหมาย และทาด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
4.4 การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม
เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงาน และทาการอภิปรายผลด้วย
เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือ
ผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนาหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่น
มาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้เรียนอาจพบข้อสังเกตประเด็นที่สาคัญหรือปัญหา
ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5. การจัดทารายงาน
เมื่อทาโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทาการวิเคราะห์ผล และสรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทาคือการจัดทารายงาน
ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงาน โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความหมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้
ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิดวิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานในการเขียนรายงานนั้น
ผู้เรียนควรใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ส่วนนา ประกอบด้วย 1.1 ปกนอก
1.2 ใบรองปก
1.3 ปกใน
1.4 บทคัดย่อ
1.5 กิตติกรรมประกาศ
1.6 สารบัญ
1.7 คาอธิบายสัญลักษณ์และคาย่อ (ถ้ามี)
5. การจัดทารายงาน
2. ส่วนเนื้อเรื่อง ส่วนนี้กาหนดให้ทาแบบเป็นบท จานวน 5 บท ประกอบด้วย
2.1 บทที่ 1 บทนา
2.2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.3 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดาเนินการ
2.4 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน
2.5 บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินงาน/อภิปรายผลการดาเนินงาน
5. การจัดทารายงาน
3. ส่วนอ้างอิง เป็นส่วนท้ายของรายงานโครงงาน ประกอบด้วย รายการอ้างอิงหรือบรรณานุกรม และ ภาคผนวก
3.1 รายการอ้างอิงหรือบรรณานุกรม
3.2 ภาคผนวก
3.3 คู่มือการใช้งาน (ถ้ามี)
หากโครงงานที่ผู้เรียนจัดทาเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้ผู้เรียนจัดทาคู่มือ อธิบาย
วิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
- ชื่อผลงาน
- ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ (ถ้ามี) ระบุรายละเอียดของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
5. การจัดทารายงาน
คู่มือการใช้งาน สามารถแยกออกจากรายงานฉบับสมบูรณ์ หรือใส่ไว้เป็นภาคผนวกของ
รายงานฉบับสมบูรณ์ก็ได้ แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทาที่กล่าวมานี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการเขียน
รายงานซึ่งเป็นการเขียนรายงานในลักษณะทั่ว ๆ ไป รูปแบบดังกล่าวนี้อาจไม่เหมาะสมกับ
โครงงานบางประเภทก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงาน ซึ่งสิ่งที่สาคัญที่สุดที่ผู้เขียน
รายงานควรตระหนักไว้อยู่เสมอคือควรเขียนรายงานให้ชัดเจน ใช้ศัพท์เทคนิคที่ถูกต้อง
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสาคัญ ๆ ทั้งหมดของโครงงาน
- ความต้องการของซอฟต์แวร์ (ถ้ามี) ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ใน
เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทางานได้อย่างสมบูรณ์
- คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทาหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็น
ข้อมูลเข้า และส่งอะไรออกมาเป็นข้อมูลออก
- วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคาสั่งใด หรือกดปุ่มใด
- ข้อแนะนาในการใช้งาน เพื่อให้ผลงานนั้นสามารถทางานได้ดีที่สุด
6. การนาเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน
การนาเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทาโครงงาน
เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทางานที่ผู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ทาให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น
การเสนอผลงานอาจทาได้ในหลายรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น การแสดงผลงาน โดยไม่มีการอธิบายประกอบ การรายงานด้วยคาพูดในที่ประชุม
การจัดนิทรรศการ โดยโปสเตอร์ และอธิบายด้วยคาพูด โดยผลงานที่นามาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1) ชื่อโครงงาน
2) ชื่อผู้จัดทาโครงงาน
3) ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4) คาอธิบายถึงที่มาและความสาคัญของโครงงาน
5) วิธีการดาเนินการที่สาคัญ
6) การสาธิตผลงาน
7) ผลการสังเกตและข้อสรุปสาคัญที่ได้จากการทาโครงงาน
แหล่งอ้างอิง
https://sites.google.com/site/neuxhakhorngngankhxmphiwtexr/
prapheth-khxng-khorng-ngan-khxmphiwtexr
https://sites.google.com/a/kts.ac.th/it_kts/unit5/subunit5-1
https://sites.google.com/a/moeipit.ac.th/wirapons/
khan-txn-kar-tha-khorng-ngan-khxmphiwtexr
นางสาว คนึงนิจ ติคา ม. 6/13 เลขที่ 28
นางสาว จารุวรรณ จันทะกี ม. 6/13 เลขที่ 40

More Related Content

What's hot (20)

3computer
3computer3computer
3computer
 
Presentation Computer Project
Presentation Computer ProjectPresentation Computer Project
Presentation Computer Project
 
Yanisaand prapasiriproject2
Yanisaand prapasiriproject2Yanisaand prapasiriproject2
Yanisaand prapasiriproject2
 
Workk2
Workk2Workk2
Workk2
 
Com2
 Com2 Com2
Com2
 
เบล
เบลเบล
เบล
 
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
หลักการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
Project 3
Project 3 Project 3
Project 3
 
Project 3
Project 3 Project 3
Project 3
 
งานนำเสน
งานนำเสนงานนำเสน
งานนำเสน
 
Comfsara
ComfsaraComfsara
Comfsara
 
Project1229
Project1229Project1229
Project1229
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
งานคู่
งานคู่งานคู่
งานคู่
 
ใบงานที่2
ใบงานที่2ใบงานที่2
ใบงานที่2
 
กิจกรรมที่2,3,4 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2,3,4 โครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่2,3,4 โครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2,3,4 โครงงานคอมพิวเตอร์
 
Presentation3
Presentation3Presentation3
Presentation3
 
Presentation Activity 3
Presentation Activity 3Presentation Activity 3
Presentation Activity 3
 
Ratchadaporn605
Ratchadaporn605Ratchadaporn605
Ratchadaporn605
 

Similar to Computer projrct 3

โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)Natsinee Methajaroenrak
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์Natsinee Methajaroenrak
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^Natsinee Methajaroenrak
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2Rattana Wongphu-nga
 
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)Napisx
 
Cream and black pitch deck presentation
Cream and black pitch deck presentationCream and black pitch deck presentation
Cream and black pitch deck presentationNatjaree Nameny
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงานThank Chiro
 
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์sa_jaimun
 

Similar to Computer projrct 3 (20)

Comm3
Comm3Comm3
Comm3
 
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)โครงงานคอมพ วเตอร  (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
โครงงานคอมพ วเตอร (บ_นท_กอ_ตโนม_ต_)
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
โครงงานคอมพิวเตอร์ ค่ะ ^^
 
ใบงานท 4
ใบงานท   4ใบงานท   4
ใบงานท 4
 
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
 
Comm3
Comm3Comm3
Comm3
 
Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)Presentation 3 (1)
Presentation 3 (1)
 
Work 3
Work 3Work 3
Work 3
 
K3
K3K3
K3
 
K3.1
K3.1K3.1
K3.1
 
K3
K3K3
K3
 
K3.1
K3.1K3.1
K3.1
 
K3
K3K3
K3
 
Cream and black pitch deck presentation
Cream and black pitch deck presentationCream and black pitch deck presentation
Cream and black pitch deck presentation
 
Commmmm
CommmmmCommmmm
Commmmm
 
รายงาน
รายงานรายงาน
รายงาน
 
Night2
Night2Night2
Night2
 
Nightice612
Nightice612Nightice612
Nightice612
 
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ใบความรู้ 2.1วิธีการดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
 

More from NaluttapornPhakamung (7)

Final Presentation
Final PresentationFinal Presentation
Final Presentation
 
Final computer
Final computerFinal computer
Final computer
 
Project computer 3
Project computer 3Project computer 3
Project computer 3
 
Alopecia
AlopeciaAlopecia
Alopecia
 
Tinnitus
TinnitusTinnitus
Tinnitus
 
Computer
ComputerComputer
Computer
 
Stinky feet
Stinky feetStinky feet
Stinky feet
 

Computer projrct 3