More Related Content
Similar to Presentation (1)
Similar to Presentation (1) (20)
Presentation (1)
- 9. ความสําคัญของโครงงาน
คอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษา
ค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน
โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียน
รู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงาน
ที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้าน
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตาม
ความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้ค า
แนะน าความสามารถที่เกิดจากการท าโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทําให้ผู้เรียนเกิด
ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่สําคัญ 5 ประการดังนี้
- 10. 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจาก
การที่นักเรียนเป็นผู้ทําโครงงานต้องนําเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อน
นักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทําโครงงาน
ต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วย
ปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่อ
อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนําเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้าน
คอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
- 11. 3. ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
3.1 การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิดเนื่องจากอะไร
3.2 การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องน าความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหา
ข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
3.3 การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนน าความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
3.4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทําโครงงานใดและไม่ควร
ทําโครงงานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคํานวณเลข
หวย ส าหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อ
สังคมทําให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
3.5 การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนา
โครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวม
ทั้งการสรุปผลและการน าเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและ
ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คําปรึกษา
- 13. ขอบเขตของโครงงาน
1.เป็นโครงงานพัฒนาเว็บไซต์เรื่อง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
(Hard ware) โดยการใช้โปรแกรม web pagemaker ในการ
พัฒนาเว็บไซต์ และใช้โปรแกรม Photoshop cs4 ในการ
ตกแต่งภาพและตัวอักษร
2.ขอบเขตเนื้อหา เป็นโครงงานพัฒนาเว็บไซต์ในเรื่องที่กลุ่ม
สนใจ โดยจัดทําเว็บไซต์ในหัวข้อเรื่อง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
(Hard ware) โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 4 หัวข้อ ดังนี้
2.1.ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
2.2.ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
2.3.ขั้นตอนการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง
2.4.การดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- 16. 1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงาน (การตั้งชื่อโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจจะทํา)
- เห็นประโยชน์และความคุ้มค่าของเรื่องที่จะทําโครงงาน
- ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
- สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
- มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคําปรึกษาซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ให้คําปรึกษา
- มีเวลาเพียงพอ
- มีงบประมาณเพียงพอ
- มีความปลอดภัย
- 17. 2. การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคําปรึกษาจากครูผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์
ภูมิปัญญาท้องถิ่น จะช่วยให้ผู้เรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกําหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะ
เจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดําเนิน
การทําโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเว็บไซต์ เช่น
1) http://oho.ipst.ac.th เป็นเว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์ สถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การ
ประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์
2) http://www.nectec.or.th/nsc เป็นเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ
คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ทุนวิจัยกับเยาวชนในการพัฒนาโปรแกรม
คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโครงงาน และจัดการแข่งขัน
- 19. 3.3 พัฒนาโครงงานขั้นต้น
การพัฒนาโครงงานขั้นต้น เป็นการลงมือปฏิบัติเพื่อศึกษา
ความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจทําการพัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วนตามที่
ได้ออกแบบไว้โดยนําผลจากการปฏิบัติ ไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติงาน
ที่ออกแบบไว้ในครั้งแรกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือก
สําหรับผู้เสนอโครงงานที่ต้องการตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครง
งานและหลักการ
3.4 จัดทําและเสนอข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
เขียนข้อเสนอโครงงานนําเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อ
อาจารย์ที่ปรึกษาจะได้แนะนําในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่อีกครั้ง ซึ่งจะ
ทําให้การวางแผนและดําเนินการทําโครงงานเป็นไปอย่างราบรื่น
ขั้นตอนการจัดทําข้อเสนอโครงงาน
- 20. 4. การลงมือพัฒนาโครงงาน
เมื่อข้อเสนอโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทําโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้ว
มากกว่า50% ขั้นต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
4.1 การเตรียมการ
ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการทดลอง พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่
สําหรับใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึก หรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
สําหรับบันทึกการทํากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทําโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่
อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
4.2.1 ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทําให้ผลงาน
ดีขึ้น
4.2.2 จัดระบบการทํางานโดยทําส่วนที่เป็นหลักสําคัญให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยทําส่วนที่เป็นส่วนประกอบ
หรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทํา ให้ทําความตกลงในการต่อเชื่อมชิ้นงาน
ที่ชัดเจนด้วย
4.2.3 พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.2.4 คํานึงถึงความประหยัด ความปลอดภัย และระยะเวลาในการทํางาน
- 22. 5. การจัดทํารายงาน
เมื่อทําโครงงานจนได้ข้อมูลอย่างเพียงพอและทําการวิเคราะห์ผล และสรุปผลแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทําคือการจัดทํา
รายงาน ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในการพัฒนา และคู่มือการใช้งานรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์เป็นวิธีสื่อความ
หมายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดําเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอ
แนะต่างๆ
เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียนรายงานนั้น ผู้เรียนควรใช้ภาษาที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้
ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. ส่วนนํา
ประกอบด้วย : 1.3 ปกใน 1.6 สารบัญ
1.1 ปกนอก 1.4 บทคัดย่อ 1.7 คําอธิบายสัญลักษณ์และคําย่อ (ถ้ามี)
1.2 ใบรองปก 1.5 กิตติกรรมประกาศ
- 24. 3. ส่วนอ้างอิง
เป็นส่วนท้ายของรายงานโครงงาน ประกอบด้วย รายการ
อ้างอิงหรือบรรณานุกรม และภาคผนวก
3.1 รายการอ้างอิงหรือบรรณานุกรม
3.2 ภาคผนวก
3.3 คู่มือการใช้งาน (ถ้ามี)
หากโครงงานที่ผู้เรียนจัดทําเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้ผู้เรียน
จัดทําคู่มืออธิบายวิธีการใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
- ชื่อผลงาน
- ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ (ถ้ามี) ระบุราย
ละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
- 25. - ความต้องการของซอฟต์แวร์ (ถ้ามี) ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่อง
คอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทํางานได้อย่างสมบูรณ์
- คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทําหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลเข้า
และส่งอะไรออกมาเป็นข้อมูลออก
- วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคําสั่งใด หรือกดปุ่มใด
- ข้อแนะนําในการใช้งาน เพื่อให้ผลงานนั้นสามารถทํางานได้ดีที่สุด
คู่มือการใช้งาน สามารถแยกออกจากรายงานฉบับสมบูรณ์ หรือใส่ไว้เป็นภาคผนวกของ
รายงานฉบับสมบูรณ์ก็ได้ แล้วแต่ดุลยพินิจของผู้จัดทํา ที่กล่าวมานี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการเขียน
รายงานซึ่งเป็นการเขียนรายงานในลักษณะทั่วๆ ไป รูปแบบดังกล่าวนี้อาจไม่เหมาะสมกับโครงงานบาง
ประเภทก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงาน ซึ่งสิ่งที่สําคัญที่สุดที่
ผู้เขียนรายงานควรตระหนักไว้อยู่เสมอคือควรเขียนรายงานให้ชัดเจน ใช้ศัพท์เทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ภาษา
ที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสําคัญๆ ทั้งหมดของโครงงาน