More Related Content
More from อำนาจ ศรีทิม (20)
การฝึกท่ามือเปล่า
- 1. คู่มอการฝึ ก
ื
ว่ าด้ วย
แบบฝึ กบุคคลท่ ามือเปล่า
คฝ.๗-๖ พ.ศ.๒๕๔๔
หน้า
บทที่๑ - กล่าวทัวไป่ ๑
บทที่๒ - การฝึ กบุคคลท่ามือเปล่า ๕
- ท่าตรง ๕
- ท่าพัก ๖
- ท่าหันอยู่กบที่
ั ๙
- ท่าก้าวทางข้าง ๑๖
- ท่าก้าวถอยหลัง ๑๗
- ท่าเดิ น ๑๘
- ท่าหยุดจากการเดิ น ๒๒
- ท่าเปลี่ยนเท้าในเวลาเดิ น ๒๓
- ท่าซอยเท้า ๒๕
- ท่าหันในเวลาเดิ น ๒๘
- ท่าเคารพ ๓๔
- ท่าวิ่ ง ๔๕
- ท่าหยุดจากการวิ่ ง ๔๖
- ท่าเปลี่ยนเท้าในเวลาวิ่ ง ๔๘
- ท่าเปลี่ยนจากการวิ่ งเป็ นการเดิ น ๔๙
- ท่าเปลี่ยนจากการเดิ นเป็ นการวิ่ ง ๕๑
- ท่าหันในเวลาวิ่ ง ๕๒
- ท่าถอดหมวกและสวมหมวก ๕๘
- ท่าหมอบและลุก ๖๖
บทที่๓ - การฝึ กแถวชิ ด ๗๐
- แถวหน้ ากระดาน ๗๐
- แถวตอน ๘๓
- การตรวจแถว ๙๐
- การเปลี่ยนทิ ศทางขณะเคลื่อนที่ของรูปแถวตอน ๙๕
- 2. - ๑ -
บทที่ ๑
กล่าวทั ่วไป
๑. กล่าวนา
๑.๑ บุคคลพลเรือนซึงเข้ารับราชการทหารใหม่ ไม่ว่าจะเข้ามารับราชการในฐานะเข้ารับราชการ
่
ตามพระราชบัญญัตรบราชการทหาร เข้ารับราชการเป็นนักเรียนนายสิบ เข้ารับราชการเป็นนักเรียน
ิั
นายทหาร หรือสมัครเข้ารับราชการซึงต้องแต่งตังยศให้กตาม จาเป็นจะต้องได้รบการฝึกท่าบุคคล
่ ้ ็ ั
เบืองต้นก่อนเสมอ ทังนี้เพื่อปร ะสงค์จะฝึกให้บุคคลพลเรือนเหล่านี้มลกษณะทหารโดยสมบูรณ์ และ
้ ้ ีั
ให้มความรอบรูในลักษณะท่าทางส่วนบุคคล ซึงมีความจาเป็นจะต้องนาไปใช้ในการปฏิบตตนในเรือง
ี ้ ่ ั ิ ่
เกียวกับวินยและแบบธรรมเนียมของทหารตลอดเวลาทีรบราชการทหาร
่ ั ่ั
๑.๒ การฝึกท่าบุคคลเบืองต้นจึงถือได้ว่าเป็ นการฝึกเริมแรกทีมความสาคัญอย่างยิงต่อการเข้ารับ
้ ่ ่ ี ่
ราชการทหาร เนื่องจากการฝึกนี้จะเป็นเครืองช่วยปูพนฐานบุคคลพลเรือนให้เปลียนลักษณะท่าทาง
่ ้ื ่
เป็นทหารได้โดยสมบูรณ์ในโอกาสต่อไป
่
๒. ความมุงหมาย
คู่มอการฝึกเล่มนี้ได้กาหนดขึนโดยความมุงหมายเพื่อให้หน่วยทหาร หรือผูทมหน้าทีรบผิดชอบ
ื ้ ่ ้ ่ี ี ่ั
ในการฝึกท่าบุคคลเบืองต้นให้กบบุคคลประเภทต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ได้นาไปใช้เป็นแบบฉบับใน
้ ั
การฝึกบุคคลท่ามือเปล่าให้เป็นมาตรฐานอันเดียวกัน เพื่อปรับลักษณะท่าทางของบุคคลพลเรือนให้
เป็นทหารโดยสมบูรณ์
๓. ขอบเขต
คู่มอการฝึกเล่มนี้จะกล่าวถึงการฝึกบุคคลท่ามือเปล่า ซึงครอบคลุมท่าทีสาคัญ ๆ และเป็นท่า
ื ่ ่
หลักๆ ได้แก่ ท่าตรง ท่าพัก ท่าหัน ท่าเดิน ท่าหยุด ท่าเคารพ ท่าวิง ท่าถอดหมวกและสวมหมวก
่
ท่าหมอบลุก และรวมถึงการฝึกแถวชิดด้วย
๔. การบรรลุผล
เพื่อให้การฝึกบรรลุความมุงหมายดังกล่าวข้างต้น ผูบงคับบัญชาทุกชัน ตลอดจนผูมหน้าทีฝึก
่ ้ ั ้ ้ ี ่
ทุกนายจะต้องคอยกวดขัน และหมันดูแลให้การฝึกดาเนินไปด้วยดีทสุด โดยจะต้องพยายามคิดค้นหา
่ ่ี
วิธฝึกและใช้อุบายในการฝึกอย่างประณีตรอบคอบ เอาใจใส่ และเมือพบข้อบกพร่องต่าง ๆ ทีเกิดขึน
ี ่ ่ ้
จากการฝึกจะต้องจัดการแก้ไขทันที
๕. การนาไปใช้
ผูฝึกจะต้องใช้ดุลพินิจในการกาหนดวิธการฝึก ให้เหมาะสมแก่ จานวนผูรบการฝึก จานวน
้ ี ้ั
เครืองช่วยฝึก ครูฝึกและผูชวยครูฝึกทีมอยู่ ทังนี้เพื่อเป็ นการป้องกันไม่ให้ผรบการฝึกต้องรอคอย
่ ้่ ่ ี ้ ู้ ั
การฝึกอัน เนื่องจากความจากัดของเครือง ช่วยฝึก และปฏิบตไปในทางผิด ๆ อันเนื่องจากการ
่ ั ิ
ขาดการกากับดูแลการปฏิบตของครูฝึกและผูช่วยครูฝึกอย่างใกล้ชด
ั ิ ้ ิ
๑
- 3. - ๒ -
๖. การปรับปรุงแก้ไข
หากผูใช้ค่มอเล่มนี้ประสงค์ทจะให้ขอเสนอแนะในการเปลียนแปลงแก้ไข หรือให้ขอคิดเห็นต่าง ๆ
้ ู ื ่ี ้ ่ ้
เพื่อปรับปรุงคู่มอให้ดขนย่อมกระทาได้ ข้อคิดเห็นต่าง ๆ ทีจะเสนอให้เปลียนแปลงเหล่านี้ควรจะบ่ง
ื ี ้ึ ่ ่
หน้า ข้อ และบรรทัดตามทีปรากฏในคู่มอด้วย และควรจะให้เหตุผลประกอบเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
่ ื
อย่างถ่องแท้ และสามารถนามาประเมินค่าได้โดยสมบูรณ์ ข้อคิดเห็นเหล่านี้ขอให้ส่งตรงไปยังแผนก
การฝึก กองวิทยาการ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อาเภอปราณบุร ี จังหวัดประจวบคีรขนธ์ ี ั
๗. คาแนะนาในการใช้คาบอก
เพื่อให้ผมหน้าทีในการฝึกได้มความเข้าใจ และสามารถใช้คาบอกตามทีกาหนดไว้ในคู่มอเล่มนี้
ู้ ี ่ ี ่ ื
สาหรับสังการปฏิบตท่าต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่สบสน แ ละเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงแนะนาให้
่ ั ิ ั
ผูใช้ค่มอได้ทราบถึงรายละเอียดเกียวกับการใช้คาบอกดังต่อไปนี้
้ ู ื ่
๗.๑ ประเภทของคาบอก คาบอกทีกาหนดไว้ในคู่มอเล่มนี้แบ่งลักษณะออกเป็น ๔ ประเภท คือ
่ ื
๗.๑.๑ คาบอกแบ่ง
๗.๑.๒ คาบอกเป็นคา ๆ
๗.๑.๓ คาบอกรวด
๗.๑.๔ คาบอกผสม
๗.๒ การใช้คาบอก ลักษณะทีต่างกันของคาบอกประเภทต่าง ๆ จะเป็นเครืองบ่งให้ทราบถึง
่ ่
ลักษณะการปฏิบตของท่านัน ๆ แนวทางในการใช้น้าเสียงเพื่อสัง่ และเขียนไว้ให้เห็นความ แตกต่าง
ั ิ ้
กันอย่างเด่นชัดโดยการแสดงเครืองหมายไว้่
๗.๒.๑ คาบอกแบ่ง (รูปที่ ๑) เป็นคาบอกทีใช้เพื่อออกคาสังสาหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่แล้ว
่ ่ ่
มักจะกาหนดไว้ให้ปฏิบตได้เป็นจังหวะเดียวหรือแบ่งเป็นจังหวะ ๆ ได้ คาบอกแบ่งนี้ผให้คาบอก
ั ิ ู้
จะต้องเปล่งเสียงบอกในคาแรกด้วยการลากเสียงค่อนข้างยาว แล้วเว้นจั งหวะไว้เล็กน้อยก่อนทีจะ ่
เปล่งเสียงบอกในคาหลัง ด้วยการเน้นเสียงให้หนักและสัน การเขียนคาบอกชนิดนี้จะแสดงไว้ให้เห็น
้
ด้วยการใช้เครืองหมาย - ขันกลางไว้ระหว่างคาบอกคาหน้าและคาหลัง ตัวอย่างเช่น “ขวา - หัน”
่ ้
เป็นต้น
หัน
ขวา
รูปที่ ๑ แสดงการบอก คาบอกแบ่ง
๗.๒.๒ คาบอกเป็นคา ๆ (รูปที่ ๒) เป็นคาบอกทีใช้เพื่อออกคาสังสาหรับท่าฝึกทีส่วน
่ ่ ่
ใหญ่แล้วมักจะไม่กาหนดให้ปฏิบตแบ่งเป็นจังหวะ ๆ ไว้ (แต่สามารถแบ่งการฝึกออกเป็นตอน ๆ ได้)
ั ิ
๒
- 4. - ๓ -
และจาเป็นต้องใช้คาบอกยืดยาวซึงอาจจะมีหลายพยางค์กได้ จึงจาเป็น ต้องเว้นจังหวะการบอกไว้เป็น
่ ็
ตอน ๆ หรือคา ๆ คาบอกเป็นคา ๆ นี้ผให้คาบอกจะต้องเปล่งเสียงบอกทังในคาแรกและคาหลังด้วย
ู้ ้
การวางน้าหนักเสียงไว้เท่า ๆ กัน โดยเว้นจังหวะระหว่างคาไว้เล็กน้อย ไม่ตองลากเสียงยาวในคา
้
แรก และเน้นหนักในคาหลัง เหมือนคาบอกแบ่ง การเขียนคาบอกช นิดนี้จะแสดงไว้ให้เห็นโดยการใช้
เครืองหมาย, ขันกลางไว้ระหว่างคาบอกคาหน้าและคาหลัง ตัวอย่างเช่น “ ตามระเบียบ, พัก ” เป็น
่ ้
ต้น
ตาม พัก
ระเบียบ
รูปที่ ๒ แสดงการบอก คาบอกเป็ นคา ๆ
๗.๒.๓ คาบอกรวด (รูปที่ ๓) เป็นคาบอกทีใช้เพื่อออกคาสังสาหรับท่าฝึกทีส่วนใหญ่แล้ว
่ ่ ่
มักจะไม่กาหนดให้ปฏิบตแบ่งเป็นจังหวะ ๆ ไว้ (แต่สามารถแบ่งการฝึกออกเป็นตอน ๆ ได้ ) และเป็น
ั ิ
คาสังทีไม่ยดยาวหรือมีหลายพยางค์ จึงไม่มความจาเป็นต้อง แบ่งจังหวะการสังไว้เป็นตอน ๆ หรือ
่ ่ ื ี ่
คา ๆ คาบอกรวดนี้ไม่ว่าจะมีกพยางค์กตาม ผูใ ห้คาบอกจะต้องบอกรวดเดียวจบโดยวางน้าหนักเสียง
่ี ็ ้
เป็นระดับเดียว การเขียนคาบอกชนิดนี้จะแสดงไว้ให้เห็นโดยเขียนเป็นคาติดต่อกันทังหมด ไม่ใช้
้
เครืองหมายใด ๆ ทังสิน ตัวอย่างเช่น “ถอดหมวก” เป็นต้น
่ ้ ้
ถอด
หมวก
รูปที่ ๓ แสดงการบอก คาบอกรวด
๗.๒.๔ คาบอกผสม (รูปที่ ๔) เป็นคาบอกทีมลกษณะคล้ายคาบอกเป็นคา ๆ จะผิดกับคา
่ ีั
บอกเป็นคา ๆ ก็ตรงที่ คาบอกในคาหลังจะเป็นคาบอกแบ่ง เพราะฉะนันคาบอกประเภทนี้จงเป็นคา
้ ึ
บอกทีใช้เพื่อออกคาสังสาหรับท่าฝึก ทีส่วนใหญ่มกจะกาหนดให้ปฏิบตแบ่งเป็นจังหวะ ๆ ได้ตาม
่ ่ ่ ั ั ิ
ลักษณะของคาบอกแบ่งทีผสมอยูในคาหลังของคาบอกผสมนี้เป็นหลัก คาบอกผสมนี้ผให้คาบอก
่ ่ ู้
จะต้องเปล่งเสียงบอกในคาห้วงแรกเช่นเดียวกับคาบอกเป็นคา ๆ คือ วางน้าหนักเสียงไว้เท่า ๆ กัน
ส่วนการเปล่งเสียงในคาบอกห้วงหลังก็คงเปล่งเสียงในลักษณะเดียวกันกับคาบอกแบ่ง คือ เปล่งเสียง
บอกในคาแรกด้วยการลากเสียงค่อนข้างยาว แล้วเว้นจังหวะไว้เล็กน้อยก่อนทีจะเปล่งเสียงบอกในคา
่
หลังด้วยการเน้นเสียงให้หนักและสัน การเขียนคาบอกชนิดนี้จะแสดงไว้ให้เห็นโดยใช้เครืองหมาย,
้ ่
ขันกลางไว้ระหว่างคาบอกห้วงแรกและห้วงหลัง ส่วน คาบอกในห้วงหลังคงใช้เครืองหมาย-ขันกลางไว้
้ ่ ้
ระหว่างคาบอกคาหน้าและคาหลัง ตัวอย่างเช่น “ ทางขวา, แลขวา-ทา ” เป็นต้น
๓
- 5. - ๔ -
ทา
ทางขวา แลขวา
รูปที่ ๔ แสดงการบอก คาบอกผสม
๘. คาแนะนาในการฝึ ก
๘.๑ ลาดับขันตอนในการฝึก สมควรฝึกแบบปิดขันตอนจนทหารปฏิบตได้คล่องแคล่วพอสมควร
้ ้ ั ิ
แล้ว จึงค่อยฝึกแบบเปิดขันตอน
้
๘.๒ คาบอกปิดขันตอน ้
๘.๒.๑ “จังหวะ” ใช้กบคาบอกแบ่งและคาบอกผสม
ั
๘.๒.๒ “ตอน” ใช้กบคาบอกเป็นคา ๆ และคาบอกรวด
ั
๘.๒.๓ ใช้คาบอกเช่นเดียวกับการฝึกแบบเปิดจังหวะหรือเปิดตอน โดยแจ้งเตือนให้ทหาร
ทราบล่วงหน้าว่าจะฝึกปิดจังหวะหรือปิดตอน ในการปฏิบตของทหารเมือสินคาบอกให้ปฏิบตเฉพาะ
ั ิ ่ ้ ั ิ
“จังหวะ ๑” หรือ “ตอนที่ ๑” สาหรับจังหวะหรือตอนทีเหลือให้ใช้คาบอก “ต่อไป” จนกว่าจะปฏิบตจบ
่ ั ิ
ท่านัน ๆ เช่น ท่าขวาหัน ซึงแบ่งออกเป็น ๒ จังหวะ
้ ่
๘.๒.๓.๑ คาบอกเริมแรก “ขวา - หัน” ปฏิบตจงหวะที่ ๑
่ ั ิั
๘.๒.๓.๒ คาบอก “ต่อไป” ปฏิบตจงหวะที่ ๒
ั ิั
๔
- 6. - ๕ -
บทที่ ๒
การฝึ กบุคคลท่ามือเปล่า
๙. ท่าตรง (รูปที่ ๕)
รูปที่ ๕ ท่าตรง
๙.๑ คาบอก “แถว - ตรง” (คาบอกแบ่ง)
๙.๒ การปฏิ บติ ท่านี้มจงหวะเดียว
ั ีั
๙.๒.๑ ลักษณะของท่าตรงมีดงนี้คอ จะต้องยืนให้สนเท้าทังสองชิดและอยูในแนวเดียวกัน
ั ื ้ ้ ่
ปลายเท้าทังสองแบะออกไปทางข้าง ข้างละเท่า ๆ กัน จนปลายเท้าห่างกันประมาณ ๑ คืบ หรือให้
้
ความยาวของเท้าเฉียงเป็นมุมประมาณ ๔๕ องศา เข่าเห ยียดตรงและบีบเข้าหากัน แขนทังสองอยู่
้
่
ข้างลาตัวในลักษณะงอข้อศอกไว้ จนเกิดเป็ นช่องว่างห่างจากลาตัวประมาณหนึ่งฝามือและพลิก
ข้อศอกไปทางข้างหน้าเล็กน้อยจนไหล่ทงสองข้างตึงและเสมอกัน นิ้วมือทังห้าเหยียดตรงเรียงชิด
ั้ ้
ิ ่ี ่ ่
ติดกัน และให้น้วกลางแตะไว้ทตรงกึงกลา งขาท่อนบนประมาณแนวตะเข็บกางเกงเปิดฝามือออกไป
ทางด้านนิ้วก้อยเล็กน้อย ลาคอตังตรงไม่ยนคาง สายตามองตรงไปทางข้างหน้าในแนวระดับ
้ ่ื
วางน้าหนักตัวให้อยูบนเท้าทังสองข้างเท่า ๆ กันและนิ่ง
่ ้
๕
- 7. - ๖ -
๙.๒.๒ เมือได้ยนคาบอก “แถว -” ทหารจะต้องจัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้ยนอยูใน
่ ิ ื ่
ลักษณะของท่าตรงตามทีได้กล่าวแล้ว ยกเว้นเข่าขวาหย่อนเล็กน้อย พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด
่
ให้เต็มที่ และยกอกให้ผงผาย
่ึ
๙.๒.๓ เมือได้ยนคาบอก “ตรง” ให้ทหารกระตุกเข่าขวาเข้ามาอย่างรวดเร็วและแข็งแรงจน
่ ิ
ตึง ในลักษณะทีให้บบเข่าทังสองเข้าหากันแล้วนิ่ง
่ ี ้
๙.๒.๔ ท่าตรง ถือเป็นท่าพืนฐานของทุกท่าก่อนจะปฏิบตท่าใดก็ตาม จะต้องเริมต้นจาก
้ ั ิ ่
ท่าตรงเสมอ
๑๐. ท่าพัก
๑๐.๑ ท่าพักแบ่งออกเป็ น ๒ ประเภท คือ
๑๐.๑.๑ ท่าพักในแถว ประกอบด้วย ท่าพักตามปกติ ท่าพั กตามระเบียบ และท่าพัก
ตามสบาย
๑๐.๑.๒ ท่าพักนอกแถว ประกอบด้วย ท่าพักแถวและท่าเลิกแถว
๑๐.๒ ท่าพักตามปกติ (รูปที่ ๖)
๑๐.๒.๑ คาบอก “พัก” (คาบอกรวด)
๑๐.๒.๒ การปฏิบติ ท่านี้มจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลาดับขันตอนดังต่อไปนี้
ั ีั ั ิ ้
๑๐.๒.๒.๑ ในขันแรกเมือได้ยนคาบอก “พัก” ให้ทหารหย่อนเข่าขวาลง
้ ่ ิ
เล็กน้อย โดยพยายามไม่ให้ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมีการไหวติงไปด้วยอย่างกระทันหัน
๑๐.๒.๒.๒ สาหรับในขันต่อไปนัน ้ ้ ท่านี้อนุญาตให้ทหารเคลื่อนไหว
ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและเปลียนเข่าพักได้ตามสมควรและเท่าทีจาเป็น
่ ่
๑๐.๒.๒.๓ ท่านี้หามทหารขยับเขยือน หรือเปลียนทียนของเท้าทังสองข้าง
้ ้ ่ ่ ื ้
และห้ามพูดคุยกันโดยเด็ดขาด
๑๐.๒.๒.๔ เมือได้ยนคาบอก “แถว-” ให้ทหารยืดตัวขึนพร้อมกับสูดลม
่ ิ ้
หายใจเข้าปอดจนเต็มที่ และจัดทุกส่วนของร่างกายให้อยูในลักษณะของท่าตรง เว้นเข่าขวายัง
่
หย่อนอยู่ ถ้าได้ยนคาบอกขณะทีหย่อนเข่าซ้าย ก็ให้เปลียนมาหย่อนเข่าขวา
ิ ่ ่
๑๐.๒.๒.๕ เมือได้ยนคาบอก “ตรง” ให้กระตุกเข่าขวากลับไปอยูในลักษณะ
่ ิ ่
ของท่าตรงอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
๖
- 8. - ๗ -
รูปที่ ๖ ท่าพักตามปกติ
๑๐.๓ ท่าพักตามระเบียบ (รูปที่ ๗)
๑๐.๓.๑ คาบอก “ตามระเบียบ, พัก” (คาบอกเป็นคา ๆ)
๑๐.๓.๒ การปฏิบติ ท่านี้มจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลาดับขันตอนดังต่อไปนี้
ั ีั ั ิ ้
๑๐.๓.๒.๑ เมือได้ยนคาบอก “ตามระเบียบ, พัก” ให้ทหารแยกเท้าซ้ายออก
่ ิ
ไปทางด้านซ้ายประมาณ ๓๐ ซม. อย่างแข็งแรงและผึงผายโดยให้เท้าทังสองข้างอยูระดับหัวไหล่
่ ้ ่
ในขณะเดียวกันให้นามือทังสองข้างไปจับกันไว้ทางด้านหลัง ในลักษณะหันหลังมือทังสองข้างเข้าหา
้ ้
ลาตัว ใช้มอซ้ายจับมือขวาโดยให้มอขวาอยูทางด้านนอก วางนิ้วหัวแม่มอขวาให้ทบและจับนิ้วหัว
ื ื ่ ื ั
แม่มอซ้ายไว้ นิ้วมือทังสี่ (เว้นนิ้วหัวแม่มอ) ของมือขวาเหยียดตึงเรียงชิดติดกัน โดยให้เฉียงลงไปทาง
ื ้ ื
เบืองล่างทางซ้าย วางหลังมือซ้ายแตะไว้แนวกึงกลางด้านหลังลาตัวประมาณใต้แนวเข็มขัด และแบะ
้ ่
ข้อศอกทังสองข้างไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่พอสบาย ลักษณะของการยืนจะต้องให้ขาทังสองตึง
้ ้
๗
- 9. - ๘ -
(๗ ก.) (๗ ข.)
รูปที่ ๗ ท่าพักตามระเบียบ
น้าหนักตัวอยูบนเท้าทังสองข้างเท่า ๆ กัน ยกอกให้สง่าผ่าเผย จัดไหล่ทงสองข้างให้เสมอกัน ลาคอ
่ ้ ั้
ตังตรง สายตามองตรงไปข้างหน้าในแนวระดับและนิ่ง
้
๑๐.๓.๒.๒ เมือได้ยนคาบอก “แถว-” ให้สดลมหายใจเข้าปอดจนเต็มที่
่ ิ ู
๑๐.๓.๒.๓ เมือได้ยนคาบอก “ตรง” ให้ชกเท้าซ้ายกลับมาชิดกับเท้าขวาใน
่ ิ ั
ลักษณะทีให้สนเท้าทังสองชิดและอยูในแนวเดียวกัน ปลายเท้าทังสองแบะออกไปทางข้าง ข้างละ
่ ้ ้ ่ ้
เท่า ๆ กัน ห่างกันประมาณ ๑ คืบ พร้อมกันนันให้ลดมือทังสองข้า งลงมาอยูในลักษณะของท่าตรง
้ ้ ่
อย่างแข็งแรงแล้วนิ่ง
๑๐.๔ ท่าพักตามสบาย
๑๐.๔.๑ คาบอก “ตามสบาย, พัก” (คาบอกเป็นคา ๆ)
๑๐.๔.๒ การปฏิบติ ท่านี้มจงหวะเดียว แต่ให้ปฏิบตไปตามลาดับขันตอน ดังต่อไปนี้
ั ีั ั ิ ้
๑๐.๔.๒.๑ เมือได้ยนคาบอก “ตามสบาย, พัก” ให้ทหารหย่อนเข่าขวาลง
่ ิ
เล็กน้อย โดยพยายามไม่ให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมีการไหวติงไปด้วยอย่างกระทันหัน เช่นเดียวกับ
การทาท่าพักตามปกติในขันแรก ้
๘
- 10. - ๙ -
๑๐.๔.๒.๒ สาหรับในขันต่อไปนัน ท่านี้อนุ ญาตให้ทหารเคลื่อนไหวอิรยาบถ
้ ้ ิ
ได้ตามสบาย ห้ามพูดคุยกันเว้นแต่ได้รบอนุญาต และเท้าข้างใดข้างหนึ่งจะต้องอยูกบที่
ั ่ ั
๑๐.๔.๒.๓ ท่านี้หามทหารออกนอกแถว ถ้าไม่อนุญาตให้นงจะนังไม่ได้ ถ้า
้ ั่ ่
ั่ ่ ่ ั
ได้รบอนุ ญาตให้นงจะต้องนังในลักษณะทีให้ปกเท้าข้างใดข้างหนึ่งเป็นหลักอยูกบที่
ั ่ ั
๑๐.๔.๒.๔ เมือได้ยนคาบอก “แถว-” ไม่ว่าทหารจะอยูในอิรยาบถใดก็ตามให้
่ ิ ่ ิ
ทหารรีบกลับมาอยูในท่าพักตามปกติ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่ และยกอกให้ผงผาย
่ ่ึ
๑๐.๔.๒.๕ เมือได้ยนคาบอก “ตรง” ให้ทหารกระตุกเข่าขวาเข้ามาอย่าง
่ ิ
รวดเร็วและแข็งแรงจนเข่าตึง ในลักษณะทีให้บบเข่าทังสองข้างเข้าหากันอยูในท่าตรงแล้วนิ่ง
่ ี ้ ่
๑๐.๕ ท่าพักแถว
๑๐.๕.๑ คาบอก “พักแถว” (คาบอกรวด)
๑๐.๕.๒ การปฏิบติ ั
๑๐.๕.๒.๑ เมือได้ยนคาบอก “พักแถว” ให้ทหารทุกคนทีอยูในแถวต่างคน
่ ิ ่ ่
ต่างแยกออกไปจากแถวในทันทีและอย่างฉับไว ท่าพักแถวนี้ทหารแต่ละคนสามารถจะหาทีนงพักได้ ่ ั่
ตามสะดวก แต่ตองอยูในบริเวณใกล้เคียงนันและไม่ทาเสียงอึกทึก
้ ่ ้
๑๐.๕.๒.๒ เมือได้ยนคาบอก “แถว” ให้ทุกคนรีบกลับมาเข้าแถวทีเดิม
่ ิ ่
โดยเร็วในรูปแถวเดิม และเมือจัดแถวเป็นรูปแถวเรียบร้อยแล้ว ให้อยูในท่าตรงจนกว่าจะได้รบคาสัง่
่ ่ ั
ปฏิบตอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
ั ิ
๑๐.๕.๓ โอกาสในการใช้ สาหรับพักนอกแถ วในระยะเวลาสัน เพื่อรอการฝึกหรือ ้
ปฏิบตงานต่อไป
ั ิ
๑๐.๕.๔ คาแนะนาสาหรับผูฝึก เมือผูฝึกเรียกแถวใหม่ดวยการใช้คาบอก “แถว”
้ ่ ้ ้
แล้วผูฝึกจะสัง่ “แถว - ตรง” อีกไม่ได้ ถ้าเห็นว่าทหารทีกลับมาเข้าแถวใหม่ยงจัดแถวไม่เรียบร้อย
้ ่ ั
ผูฝึกจะต้องใช้คาบอก “จัดแถว” และ “นิ่ง” ตามลาดับเท่านัน
้ ้
๑๐.๖ ท่าเลิ กแถว
๑๐.๖.๑ คาบอก “เลิกแถว” (คาบอกรวด)
๑๐.๖.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคาบอกว่า “เลิกแถว” ให้ทหารทุกคนทีอยูในแถวแยก
ั ่ ิ ่ ่
กระจายกันออกไปจากแถวโดยเร็ว
๑๐.๖.๓ โอกาสในการใช้ สาหรับเลิกการฝึกหรือปฏิบตงานในครังนัน ั ิ ้ ้
๑๑. ท่าหันอยู่กบที่
ั
ท่าหันอยูกบทีแบ่งออกเป็น ๕ ท่า คือ ท่าขวาหัน , ท่าซ้ายหัน, ท่ากลับหลังหัน, ท่ากึงขวาหัน,
่ ั ่ ่
และท่ากึงซ้ายหัน
่
๙
- 11. - ๑๐ -
๑๑.๑ ท่าขวาหัน (รูปที่ ๘)
(๘/๑ ก.) (๘/๑ ข.) (๘/๒)
จังหวะหนึ่ง จังหวะสอง
รูปที่ ๘ ท่าขวาหัน
๑๑.๑.๑ คาบอก “ขวา - หัน” (คาบอกแบ่ง)
๑๑.๑.๒ การปฏิบติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะดังต่อไปนี้
ั
๑๑.๑.๒.๑ จังหวะหนึ่ ง เมือได้ยนคาบอก “ขวา - หัน” ให้ทหารเปิดปลายเท้า
่ ิ
ขวาให้สงขึนจากพืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที่ แล้วหมุนตัวไปทางขวาจนได้ ๙๐
ู ้ ้ ่ ั
องศา ด้วยการใช้สนเท้าขวาเป็นจุดหมุน ในขณะเดียวกันนัน ให้ใช้ปลายเท้าซ้ายกดแน่นไว้กบพืนเพื่อ
้ ้ ั ้
ช่วยให้มการทรงตัวดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกด ปลาย
ี
เท้าไว้ ณ ทีเดิมในลักษณะให้ขาเหยียดตึง ในขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องพยายามรักษา
่ ่ ้
ทรวดทรงของลาตัว และการวางมือทังสองให้อยูในลักษ ณะของท่าตรงตลอดเวลาด้วย เมือหมุนตัว
้ ่ ่
ไปได้ทแล้ว ทหารจะต้องอยูในท่ายืนทีวางน้าหนักตัวทังหมดไว้บนเท้าขวา ขาซ้ายเหยียดตึงไปทาง
่ี ่ ่ ้
ด้านหลังทางซ้าย ส้นเท้าเปิดและบิดออกไปทางด้านนอกของลาตัว
๑๑.๑.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าซ้ายมาชิดกับเท้าขวา เพื่อยืนในลักษณะของ
ท่าตรงอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
๑๑.๑.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดจังหวะ
้
เพื่อให้ทหารปฏิบตจงหวะหนึ่งโดยใช้คาบอก “ขวา - หัน” เมือจะให้ทหารปฏิบตต่อไปในจังหวะสอง
ั ิั ่ ั ิ
ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
๑๐
- 12. - ๑๑ -
๑๑.๒ ท่าซ้ายหัน (รูปที่ ๙)
(๙/๑ ก.) (๙/๑ ข.)
รูปที่ ๙ ท่าซ้ายหันจังหวะหนึ่ ง
(๙/๒)
รูปที่ ๙ ท่าซ้ายหันจังหวะสอง
๑๑
- 13. - ๑๒ -
๑๑.๒.๑ คาบอก “ซ้าย - หัน”
๑๑.๒.๒ การปฏิบติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะดังต่อไปนี้
ั
๑๑.๒.๒.๑ จังหวะหนึ่ง เมือได้ยนคาบอก “ซ้าย - หัน” ให้ทหารเปิดปลาย
่ ิ
เท้าซ้ายให้สงขึนจากพืนเล็กน้อยโดยพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที่ แล้วหมุนตัวไปทางซ้ายจนได้
ู ้ ้ ่ ั
๙๐ องศา ด้วยการใช้สนเท้าซ้ายเป็นจุดหมุน ในข ณะเดียวกันนันให้ใช้ปลายเท้าขวากดแน่นไว้กบพืน
้ ้ ั ้
เพื่อให้มการทรงตัวดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าหมุนตามไปด้วย โดยพยายามกดปลายเท้า
ี
ขวาไว้ ณ ทีเดิมในลักษณะให้ขาเหยียดตึง ในขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องพยายามรักษาทรวดทรง
่ ่ ้
ของลาตัว และการวางมือทังสองให้อยูในลั กษณะของท่าตรงตลอดเวลาด้วย เมือหมุนตัวไปได้ทแล้ว
้ ่ ่ ่ี
ทหารจะอยูในท่ายืนทีวางน้าหนักตัวทังหมดไว้บนเท้าซ้าย ขาขวาเหยียดตึงไปทางด้านหลังทางขวา
่ ่ ้
ส้นเท้าเปิดและบิดออกไปทางด้านนอกของลาตัว
๑๑.๒.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าขวามาชิดกับเท้าซ้าย เพื่อยืนในลักษณะของ
ท่าตรงอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
๑๑.๒.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดจังหวะ
้
เพื่อให้ทหารปฏิบตจงหวะหนึ่ง โดยใช้คาบอก “ซ้าย - หัน” เมือจะให้ทหารปฏิบตต่อไปในจังหวะสอง
ั ิั ่ ั ิ
ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
๑๑.๓ ท่ากลับหลังหัน (รูปที่ ๑๐)
(๑๐/๑ ก.) (๑๐/๑ ข.)
รูปที่ ๑๐ ท่ากลับหลังหันจังหวะหนึ่ ง
๑๒
- 14. - ๑๓ -
(๑๐/๒)
รูปที่ ๑๐ ท่ากลับหลังหันจังหวะสอง
๑๑.๓.๑ คาบอก “กลับหลัง - หัน” (คาบอกแบ่ง)
๑๑.๓.๒ การปฏิบติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะดังต่อไปนี้
ั
๑๑.๓.๒.๑ จังหวะหนึ่ง เมือได้ยนคาบอก “กลับหลัง - หัน” ให้ทหารเปิด
่ ิ
ปลายเท้าขวาให้สงขึนจากพืนเล็กน้อยและพยายามกดส้นเท้าให้ตรึงอยูกบที่ แล้วหมุนตัวไปทางขวา
ู ้ ้ ่ ั
จนได้ ๑๘๐ องศา (กลับหน้าเป็นหลัง) ด้วยการใช้สนเท้าขวาเป็นจุดหมุน ในขณะเดียวกันนันให้ใช้
้ ้
ปลายเท้าซ้ายกดแน่นไว้กบพืนเพื่อให้มการทรงตัวดีในระหว่างหมุนตัว แล้วเปิดส้นเท้าพร้อมกับ
ั ้ ี
เหวียงเท้าซ้ายไปทางซ้าย และนาปลายเท้าซ้ายไปแตะพืนไว้ทางด้านหลังในทิศทางเฉียงไปทางหลัง
่ ้
ทางซ้ายของลาตัว ส้นเท้าเปิ ด เข่าเหยียดตึง ในขณะทีหมุนตัวไปนันจะต้องพยายามรักษา
่ ้
ทรวดทรงของลาตัว และการวางมือทังสองให้อยูในลักษณะของท่าตรงตลอดเวลาด้วย เมือหมุนตัวไป
้ ่ ่
ได้ทแล้วทหารจะอยูในท่ายืนทีวางน้าหนักตัวทังหมดไว้บนเท้าขวา ขาซ้ายเหยียดตึงไปทางด้านหลัง
่ี ่ ่ ้
ทางซ้าย ส้นเท้าเปิดและบิดออกไปทางด้านนอกของลาตัว
๑๓
- 15. - ๑๔ -
๑๑.๓.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าซ้ายมาชิดกับเท้าขวา เพื่อยืนในลักษณะของ
ท่าตรงอย่างรวดเร็วและแข็งแรง
๑๑.๓.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดจังหวะ
้
เพื่อให้ทหารปฏิบตจงหวะหนึ่ง โดยใช้คาบอก “กลับหลัง - หัน” เมือจะให้ทหารปฏิบตต่อไปในจังหวะ
ั ิั ่ ั ิ
สอง ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
๑๑.๔ ท่ากึ่งขวาหัน
(๑๑/๑ ก.) (๑๑/๑ ข.) (๑๑/๒)
จังหวะหนึ่ง จังหวะสอง
รูปที่ ๑๑ ท่ากึ่งขวาหัน
๑๑.๔.๑ คาบอก “กึงขวา - หัน” (คาบอกแบ่ง)
่
๑๑.๔.๒ การปฏิบติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะ ในการปฏิบตคงมีขนตอนเหมือนกัน
ั ั ิ ั้
กับการทาท่าขวาหัน จะแตกต่างกันเฉพาะให้หนไปเพียง ๔๕ องศา เท่านัน
ั ้
๑๑.๔.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิด
้
จังหวะ เพื่อให้ทหารปฏิบตจงหวะหนึ่ง โดยใช้คาบอก “กึงขวา - หัน” เมือจะให้ทหารปฏิบตต่อไปใน
ั ิั ่ ่ ั ิ
จังหวะสอง ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
๑๔
- 16. - ๑๕ -
๑๑.๕ ท่ากึ่งซ้ายหัน
(๑๒/๑ ก.) (๑๒/๑ ข.) (๑๒/๒)
จังหวะหนึ่ง จังหวะสอง
รูปที่ ๑๒ ท่ากึ่งซ้ายหัน
๑๑.๕.๑ คาบอก “กึงซ้าย - หัน” (คาบอกแบ่ง)
่
๑๑.๕.๒ การปฏิบติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะ ในการปฏิบตคงมีขนตอนเหมือน กัน
ั ั ิ ั้
กับการทาท่าซ้ายหัน จะแตกต่างกันเฉพาะให้หนไปเพียง ๔๕ องศา เท่านัน
ั ้
๑๑.๕.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ในการฝึกปิดจังหวะให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิด
้
จังหวะ เพื่อให้ทหารปฏิบตจงหวะหนึ่ง โดยให้คาบอก “กึงซ้าย - หัน” เมือจะให้ทหารปฏิบตต่อไปใน
ั ิั ่ ่ ั ิ
จังหวะสอง ให้ใช้คาบอก “ต่อไป”
๑๕
- 17. - ๑๖ -
๑๒. ท่าก้าวทางข้าง (รูปที่ ๑๓)
รูปที่ ๑๓ ท่าก้าวทางข้าง
๑๒.๑ คาบอก “ก้าวทางขวา. . . . . . .ก้าว, ทา” (คาบอกเป็นคา ๆ)
“ก้าวทางซ้าย. . . . . . .ก้าว, ทา”
๑๒.๒ การปฏิ บติ เมือได้ยนคาบอก “ก้าวทางขวา. . . . . .ก้าว, ทา” หรือ “ก้าวทางซ้าย. . . .
ั ่ ิ
. . .ก้าว, ทา” ให้ทหารก้าวเท้าขวา (ซ้าย) ไปทางข้างในลักษณะเข่าทังสองข้างตึง วางปลายเท้าขวา
้
้ ่
(ซ้าย) จดพืนแล้วลดส้นเท้าสัมผัสพืนเต็มฝาเท้า หลังจากนันเปลียนน้ าหนักตัวไปอยูบนเท้าที่ ก้าว
้ ้ ่ ่
ออกไป แล้วนาเท้าซ้าย (ขวา) ไปชิดเท้าทีกาวออกไปอยูในท่าตรง สาหรับก้าวต่อไปคงปฏิบติ
่ ้ ่ ั
เหมือนเดิมทุกประการจนครบจานวนก้าว ทังนี้จะต้องรักษาการทรงตัว และร่างกายส่วนอื่นให้อยูใน
้ ่
ท่าตรง
๑๒.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ้
๑๒.๓.๑ ท่าก้าวทางข้างนี้มกจะนาไปใช้ในโอกาส ทีตองการให้ทหารเปลียนทีตงแถวไป
ั ่ ้ ่ ่ ั้
ทางข้างในระยะใกล้ไม่เกิน ๑๐ ก้าว
๑๒.๓.๒ ถ้าหากประสงค์จะให้แถวทหารเปลียนทีตงแถวไปทางขวา (ซ้าย) ในระยะ
่ ่ ั้
มากกว่า ๑๐ ก้าว ให้ใช้วธบอกให้ทหารทาท่าขวา (ซ้าย) หัน เสียก่อน แล้วบอก “หน้า - เดิน”,
ิี
“แถว - หยุด”, “ขวา (ซ้าย) - หัน” กลับสู่ทศทางเดิม และจัดแถวใหม่
ิ
๑๖
- 18. - ๑๗ -
๑๒.๓.๓ คาบอกทีเขียนไว้ว่า “ก้าวทางขวา (ซ้าย).....ก้าว, ทา” นัน ตรงเครืองหมาย
่ ้ ่
….…ก้าว ทีเว้นไว้นน ผูฝึกจะต้องกาหนดจานวนก้าวให้ชดเจนด้วย เช่น “ก้าวทางขวา ๕ ก้าว, ทา”
่ ั้ ้ ั
เป็นต้น
๑๓. ท่าก้าวถอยหลัง (รูปที่ ๑๔)
(๑๔/ก.) (๑๔/ข.) (๑๔/ค.) (๑๔/ง.)
รูปที่ ๑๔ ท่าก้าวถอยหลัง
๑๓.๑ คาบอก “ก้าวถอยหลัง. . . . .ก้าว, ทา” (คาบอกเป็นคา ๆ)
๑๓.๒ การปฏิ บติ เมือได้ยนคาบอก “ก้าวถอยหลัง. . . . .ก้าว, ทา” ให้ทหารก้าวเท้าซ้าย
ั ่ ิ
ออกไปทางด้านหลังก่อนให้ได้ความยาวของก้าวประมาณ ๓๐ ซม. ในลักษณะทีเข่าทังสองเหยียดตึง ่ ้
และรักษาทรวดทรงของร่างกายให้อยูในลักษณะของท่าตรงตลอดเวลา แล้ววางปลายเท้าทีกาว
่ ่ ้
ออกไปก่อนนันจดกับพืน ต่อจากนันให้ลดส้ นเท้าลงไปยืนกับพืนพร้อมกับเปลียนน้าหนักตัวไปวางอยู่
้ ้ ้ ้ ่
บนเท้าซ้ายและยกส้นเท้าขวาสูงขึนเล็กน้อย
้ แล้วยกเท้าขวาก้าวออกไปทางข้างหลังใน
ลักษณะทีให้ผ่านเท้าซ้าย ออกไปทางด้านหลังของเท้าซ้ายอีกประมาณ ๓๐ ซม. และนาปลายเท้าขวา
่
ไปจดกับพืนไว้ในลักษณะเดียวกันกับการก้าวเท้าซ้ายออกไปข้างหลังในครังแรก ในลาดับต่อไปให้
้ ้
เปลียนเท้าก้าวไปข้างหลังสลับกันไปเช่นนันเรือย ๆ จนกว่าจะครบจานวนก้าวตามทีได้รบคาสังให้
่ ้ ่ ่ ั ่
หยุดเท้าข้างทีกาวไปครบจานวนนันไว้กบทีในลักษณะวางน้าหนักตัวยืนอยูบนเท้าข้างนัน แล้วจึงนา
่ ้ ้ ั ่ ่ ้
เท้าหน้าซึงเปิดส้นเท้าเล็กน้อยเข้ามาชิดกับเท้าข้างทีหยุดในลักษณะท่าตรง
่ ่
ในกรณีทได้รบคาสังให้กาวไปข้างหลังเพียงหนึ่งก้าว ก็ให้ปฏิบตโดยก้าวเท้าซ้ายออกไป
่ี ั ่ ้ ั ิ
ก่อนในลักษณะตามทีได้อธิบายไว้ขางต้น แล้วดึงเท้าขวาเข้ามาชิดกับเท้าซ้ายโดยไม่ตองก้าวต่อไป
่ ้ ้
๑๓.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ้
๑๓.๓.๑ ท่าก้าวถอยหลังนี้ มักจะนาไปใช้ในโอกาสทีตองการให้ทหารเปลียนทีตง
่ ้ ่ ่ ั้
แถวไปทางข้างหลังในระยะใกล้ ไม่เกิน ๑๐ ก้าว
๑๗
- 19. - ๑๘ -
๑๓.๓.๒ ถ้าหากประสงค์จะให้แถวทหารเปลียนทีตงแถว ไปทางข้างหลัง ในระยะ
่ ่ ั้
มากกว่า ๑๐ ก้าว ให้ใช้วธบอกให้ทหารทาท่ากลับหลังหันเสียก่อน แล้วบอก
ิี “หน้า - เดิน”
“แถว - หยุด”, “กลับหลัง - หัน” กลับสู่ทศทางเดิม และจัดแถวใหม่
ิ
๑๓.๓.๓ คาบอกทีเขียนไว้ว่า “ก้าวถอยหลัง. . . . .ก้าว, ทา” นัน ตรงเครืองหมาย
่ ้ ่
. . . . ก้าวทีเว้นไว้นน ผูฝึกจะต้องกาหนดจานวนก้าวให้ชดเจนด้วย เช่น “ก้าวถอยหลัง ๕ ก้าว, ทา”
่ ั้ ้ ั
เป็นต้น
๑๔. ท่าเดิ น
ท่าเดินแบ่งออกเป็น ๓ ท่า คือ ท่าเดินสวนสนาม, ท่าเดินตามปกติ, และท่าเดินตามสบาย
๑๔.๑ ท่าเดิ นสวนสนาม (รูปที่ ๑๕)
(๑๕/ก.) (๑๕/ข.)
รูปที่ ๑๕ ท่าเดิ นสวนสนาม
๑๔.๑.๑ คาบอก “สวนสนาม, หน้า - เดิน” (คาบอกผสม)
๑๔.๑.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคาบอก “สวนสนาม, หน้า - เดิน” ให้ทหารเริมออกเดิน
ั ่ ิ ่
โดยเตะเท้าซ้ายออกไปข้างหน้าในลักษณะขาเหยียดตึง ปลายเท้างุมลงจนรูสกว่าหลังเท้าตึง ฝาเท้า
้ ้ ึ ่
สูงจากพืนประมาณ ๑ คืบ พร้อมกับยกมือขวาซึงนิ้วทังห้าเรียงชิดกันและเหยียดตึงผ่านขึนมาทาง
้ ่ ้ ้
ด้านหน้า แล้วไปหยุดลงตรงประมาณแนวหัวเข็มขัด และให้ห่างจากหัวเข็มขัดประมาณหนึ่งฝามือ ่
่ ิ ่
ในลักษณะทีบดฝามือเฉียงลงไปทางข้างหน้า และยกศอกสูงขึนเล็กน้อยแต่ไม่ให้ศอกกาง ใน
้
ขณะเดียวกันนันก็ให้สลัดแขน และมือซ้ายซึงนิ้วทังห้าเรียงชิดกันและเหยียดตึงเฉียงลงไปทางด้าน
้ ่ ้
๑๘
- 20. - ๑๙ -
หลังทาง ซ้ายจนรูสกว่าแขนเหยียดตึง หันหลังมือออกทางด้านนอกลาตัวโดยไม่ให้ฝืนลักษณะตาม
้ ึ
ธรรมชาติ น้าหนักตัวทังหมดอยูบนเท้าขวา ลาตัวยืดตรง ยกหน้าอก สายตามองไปยังข้างหน้าใน
้ ่
แนวระดับ เมือจะสืบเท้าก้าวไปข้างหน้า ให้กาวเท้าซ้ายไปข้างหน้าให้ได้ระยะก้าวประมาณ ๘๐ ซม.
่ ้
่ ่
(นับจากส้นเท้าถึงส้นเท้า) แล้วจึงตบฝาเท้าลงไปกับพืนให้เต็มฝาเท้าอย่างแข็งแรงโดยไม่ให้เข่างอ ใน
้
ลาดับต่อไปให้เปลียนน้าหนักตัวทังหมดไปวางอยูบนเท้าซ้าย
่ ้ ่ แล้วเตะเท้าขวาออกไปข้างหน้าใน
ลักษณะเดียวกันกับการเตะเท้าซ้ายออกไปในครังแรก และในขณะเดียวกันนันก็ให้สะบัดแขนและมือ
้ ้
ขวาเฉียงลงไปทางด้านหลังทางขวาจนรูสกว่าแขนเหยียดตึง หันหลังมือออกทางด้านนอกลาตัวโดย
้ ึ
ไม่ให้ฝืนลักษณะตามธรรมชาติ พร้อมกับยกมือซ้ายผ่านขึนมาทางด้านหน้าแล้วไปหยุดลงตรง
้
่
ประมาณแนวหัวเข็มขัด และให้ห่างจากหัวเข็มขัดประมาณหนึ่งฝามือในลักษณะทีบดฝามือเฉียงลงไป ่ ิ ่
ทางข้างหน้า และยกศอกสูงขึนเล็กน้อยแต่ไม่ให้ศอกกาง ลาตัวยืดตรง ยกหน้าอ ก สายตามองตรงไป
้
ยังข้างหน้าในแนวระดับ ในลาดับต่อไปให้กาวสลับเท้ากันเดินต่อไปเช่นนี้เรือย ๆ ไป โดยพยายาม
้ ่
รักษาจังหวะความเร็วในการเดินให้คงทีไว้ในอัตราความเร็วนาทีละประมาณ ๙๖ - ๑๐๐ ก้าว
่
เมือเดินเป็นแถวการก้าวและตบเท้าแต่ละก้าว ตลอดจนการแกว่งแขนจะต้ องกระทาให้พร้อม
่
กันทังแถว และรักษาลักษณะท่าทางในทุกอิรยาบถของการเดินให้องอาจผึงผายและแข็งแรง อยูเสมอ
้ ิ ่ ่
ด้วยการตบเท้าหนักตลอดเวลา
๑๔.๑.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ้
๑๔.๑.๓.๑ ในการฝึกทหารนัน ถ้าผูฝึกประสงค์จะให้ทหารฝึกปฏิ บัตทละ
้ ้ ิ ี
ขันตอน เพื่อผลในการตรวจการปฏิบตของทหารตามขันตอนต่าง ๆ ให้เป็นไปโดยถูกต้องแล้ว ผูฝึก
้ ั ิ ้ ้
ย่อมสามารถจะกระทาได้ โดยให้ใช้คาบอกเช่นเดียวกับเปิดจังหวะ กล่าวคือ เมือจะเริมต้นทาการฝึก ่ ่
ท่าเดินสวนสนามให้ใช้คาบอก “ต่อไปจะฝึกเดินสวนสนามแบบปิดจังหวะ” “สวนสนาม, หน้า - เดิน”
เมือทหารได้ยนคาบอกดังกล่าวนี้ ให้ทาท่าเตะเท้าซ้ายไปข้างหน้าก่อนแล้วค้างไว้ และรอจนกว่าจะ
่ ิ
ได้รบคาสังให้ปฏิบตต่อไป เมือผูฝึกจะให้ทหารปฏิบตในจังหวะต่อไป ก็ให้ใช้คาบอก “ต่อไป” เมือ
ั ่ ั ิ ่ ้ ั ิ ่
ทหารได้ยนคาบอก “ต่อไป” จึงทาท่าเตะเท้าขวาต่อไปข้างหน้าแล้วค้างไว้ กระทาสลับกันไปเช่นนี้
ิ
เรือย ๆ
่
๑๔.๑.๓.๒ ก่อนทีจะเริมให้ทหารฝึกท่าเดินสวนสนาม ผูฝึกจะต้องอธิบายและ
่ ่ ้
แสดงตัวอย่างของท่าเดินสวนสนามให้ดู และนาเอาท่าหยุดจากการเดินมาสอนควบคู่กนไปด้วยเสมอ ั
๑๙
- 21. - ๒๐ -
๑๔.๒ ท่าเดิ นตามปกติ
(๑๖/ก.) (๑๖/ข.)
รูปที่ ๑๖ ท่าเดิ นตามปกติ
๑๔.๒.๑ คาบอก “หน้า - เดิน” (คาบอกแบ่ง)
๑๔.๒.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคาบอก “หน้า - เดิน” ให้ทหารเริมออกเดิน โดย
ั ่ ิ ่
่
ก้าวเท้าซ้ายออกไปข้างหน้าในลักษณะขาเหยียดตึง ฝาเท้า ขนานกับพืนและสูงจากพืนประมาณ ๑
้ ้
่
ฝามือ ปลายเท้าชีไปในทิศทางตรงหน้า ในขณะเดียวกันมือทังสองข้างกาแบบหลวม ๆ โดยนิ้วหัว
้ ้
แม่มอจดกับข้อทีสองของนิ้วชี้ นิ้วทังสี่ (เว้นนิ้วหัวแม่มอ) เรียงชิดกัน แกว่งแขนขวาไปด้านหน้าและ
ื ่ ้ ื
แขนซ้ายมาทางด้านหลัง ในลักษณะงอข้อศ อกเล็กน้อยและหันหลังมือออกไปทางด้านนอกลาตัวแต่
พองามโดยไม่ฝืนธรรมชาติ น้าหนักตัวอยูบนเท้าขวา แล้วจึงสืบเท้าซ้ายไปข้างหน้า ๑ ก้าว ระยะ
่
ประมาณ ๖๐ เซนติเมตร วางส้นเท้าซ้ายลงจดพืนก่อนปลายเท้า เปลียนน้าหนักตัวมาอยูบนเท้าซ้าย
้ ่ ่
่
แขนแกว่งด้านข้างลาตัวให้เลยลาตัวไปด้านหน้าและด้านหลัง ประมาณ ๑ ฝามือ โดยสัมพันธ์กบขา ั
ทีกาว ลาตัวยืดตรง ยกอกผึงผาย สายตามองตรงไปข้างหน้าในแนวระดับ สาหรับในก้าวต่อไปให้
่ ้ ่
ปฏิบตในลักษณะเช่นเดียวกัน โดยก้าวสลับเท้าเดินอย่างต่อเนื่องและพยายามรักษาจังหวะความเร็ว
ั ิ
ในการเดินให้คงที่ ในอัตรานาทีละประมาณ ๑๑๖ ก้าว
เมือเดินเป็นแถวการก้าวเท้าออกเดินแต่ละก้าว ตลอดจนการแกว่งแขนจะต้องกระทาให้พร้อม
่
กันทังแถว และรักษาลักษณะท่าทางในทุกอิรยาบถของการเดินให้องอาจผึงผายอยูเสมอ
้ ิ ่ ่
๑๔.๒.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก เมือประสงค์จะให้ทหารฝึ กปฏิบตทละขันตอน ให้ใช้
้ ่ ั ิ ี ้
คาบอกเช่นเดียวกับเปิดจังหวะ ด้วยคาบอก “ต่อไปจะฝึกเดินตามปกติแบบปิดจังหวะ” “หน้า - เดิน”
เมือทหารได้ยนคาบอกดังกล่าวนี้ ให้กาวเท้าซ้ายไปข้างหน้าและแกว่งแขนค้างไว้แล้วรอจนกว่าจะ
่ ิ ้
๒๐
- 22. - ๒๑ -
ได้รบคาสังให้ปฏิบตต่อไป เมือผูฝึกจะให้ทหารปฏิบตในจังหวะต่อไป ก็ให้ใช้คาบอก “ต่อไป” ทหารจึง
ั ่ ั ิ ่ ้ ั ิ
ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าพร้อมกับแกว่งแขนค้างไว้ กระทาสลับกันไปจนกว่าจะสังหยุด ่
๑๔.๓ ท่าเดิ นตามสบาย
๑๔.๓.๑ คาบอก “เดินตามสบาย” (คาบอกรวด)
๑๔.๓.๒ การปฏิบติ เมือได้ยนคาบอก “เดินตามสบาย” ให้ทหารปฏิบตการเดิน
ั ่ ิ ั ิ
และรักษาจังหวะอัตราความเร็วและระยะก้าวในการเดินเช่นเดียวกับท่าเดินตามปกติ คงมีลกษณะที่ ั
แตกต่างไปจากท่าเดินตามปกติตรงที่ ท่าเดินตามสบายไม่ตองรักษาท่าทางในการเดินอย่างเคร่งครัด
้
และถ้าเดินเป็นแถวก็ไม่จาเป็นต้องเดินพร้อมเท้า ห้ามพูดคุยกัน เว้นแต่จะได้รบอนุญาต ั
๑๔.๓.๓ คาแนะนาสาหรับผูฝึก ้
๑๔.๓.๓.๑ ในการฝึกท่าเดินตามสบายนัน ผูฝึกมีความจาเป็นต้องสอน
้ ้
ให้ทหารทราบถึงวิธการปฏิบตของท่าเปลียนเท้าในเวลาเดินเสียก่อน จึงจะทาการฝึกให้ทหารเดินท่า
ี ั ิ ่
เดินตามสบายได้ กล่าวคือ จะต้องนามาใช้เพื่อเปลียนจากท่าเดินตามสบายไปเป็นท่าเดินตามปกติ
่
(เดินเข้าระเบียบ)
๑๔.๓.๓.๒ ตามปกติแล้วท่าเดินตามสบาย มักจะนาไปใช้ในโอกาส
ทีตองการให้ทหารผ่อนคลายอิรยาบถในการเดินจากท่าเดินตามปกติ เพราะฉะนันผูฝึกจาเป็นต้องหัด
่ ้ ิ ้ ้
ท่าเดินตามสบายโดยบอกให้ทหารเดินตามปกติก่อน แล้วจึงสังให้เปลียนเป็นท่าเดินตามสบายโดยใช้
่ ่
คาบอกว่า “เดินตามสบาย”
๑๔.๓.๓.๓ เมือผูฝึกประสงค์จะให้ทหาร ซึงเดินอยูในท่าเดินตามสบาย
่ ้ ่ ่
กลับไปทาท่าเดินตามปกติ ผูฝึกจะต้องใช้คาบอก “เดินเข้าระเบียบ” เมือทหารได้ยนคาบอก “เดิน
้ ่ ิ
เข้าระเบียบ” ให้ทหารกลับไปทาท่าเดินตามปกติซงบางคนอาจจาเป็นต้องทาท่าเปลียนเท้าเองโดยไม่
่ึ ่
ต้องมีคาบอกก่อนก็ได้
๑๔.๓.๓.๔ ในขณะทีทหารเดินตามสบายอยูนน จะใช้คาบอก “แถว -
่ ่ ั้
หยุด” ไม่ได้ เพราะว่าทหารในแถวนันอาจจะเดินเท้าไม่พร้อมกันอยูกได้ เมือผูฝึกประสงค์จะสังให้
้ ่ ็ ่ ้ ่
แถวทหารซึงกาลังเดินตามสบายทาท่าหยุดจากการเดิน ผูฝึกจะต้องสังให้ทหารเดินเข้าระเบียบ
่ ้ ่
เสียก่อนจึงจะใช้คาบอก “แถว - หยุด” ได้
๒๑
- 23. - ๒๒ -
๑๕. ท่าหยุดจากการเดิ น (รูปที่ ๑๗)
จังหวะหนึ่ง (๑๗/๑) จังหวะสอง (๑๗/๒)
รูปที่ ๑๗ ท่าหยุดจากการเดิ น
๑๕.๑ คาบอก “แถว - หยุด” (คาบอกแบ่ง)
๑๕.๒ การปฏิ บติ ท่านี้แบ่งออกเป็นสองจังหวะดังต่อไปนี้
ั
๑๕.๒.๑ จังหวะหนึ่ ง เมือได้ยนคาบอก “แถว - หยุด” พอสินคาบอก “หยุด” ไม่ว่า
่ ิ ้
จะเป็นในขณะทีเท้าข้างใดตกถึงพืนก็ตาม ให้ทหารก้าวเท้าอีกข้างหนึ่งไปข้างหน้าอีกครึงก้าว
่ ้ ่
ประมาณ ๓๐ - ๔๐ เซนติเมตร แล้วหยุดเดิน พร้อมกันนันให้โน้มน้าหนั กตัวไปอยูทเี่ ท้าหน้า
้ ่
(เท้าทีกาวออกไปข้างหน้าอีกครึงก้าวนัน) มือและแขนทังสองยังคงแกว่งอยูในลักษณะสลับกับเท้า ขา
่ ้ ่ ้ ้ ่
ทังสองตึง ส้นเท้าหลังเปิดและบิดออกไปทางด้านนอกของลาตัวเล็กน้อย
้
๑๕.๒.๒ จังหวะสอง ชักเท้าหลังมาชิดกับเท้าหน้า พร้อมกับสะบัดมือและแขนทังสอง
้
ข้างลงไปอยูในลักษณะของท่าตรงอย่างแข็งแรงแล้วนิ่ง
่
๒๒