More Related Content
Similar to เทคโนโลย สารสนเทศ นาย ศิริราช สิทธิชัย งานของอาจารย์ สุวิชาปัญญาไข
Similar to เทคโนโลย สารสนเทศ นาย ศิริราช สิทธิชัย งานของอาจารย์ สุวิชาปัญญาไข (20)
เทคโนโลย สารสนเทศ นาย ศิริราช สิทธิชัย งานของอาจารย์ สุวิชาปัญญาไข
- 2. เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที( information technology: IT) คือการ
ประยุกต์ใชค้อมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เพื่อจัดเก็บ คน้หา ส่งผ่าน และจัดดา เนินการ
ขอ้มูล ซึ่งมักเกี่ยวขอ้งกับธุรกิจหน่งึหรือองค์การอื่น ๆ ศัพท์น้โีดยปกติก็ใชแ้ทนความหมายของเครื่อง
คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และยังรวมไปถึงเทคโนโลยีการกระจายสารสนเทศอย่างอื่นดว้ย
เช่นโทรทัศน์และโทรศัพท์อุตสาหกรรมหลายอย่างเกี่ยวขอ้งกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตัวอย่างเช่น ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์อิเล็กทรอนิกส์อุปกรณ์กึ่งตัวนา อินเทอร์เน็ต อุปกรณ์
โทรคมนาคม การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และบริการทางคอมพิวเตอร์
- 3. มนุษย์จัดเก็บ คน้คืน จัดดา เนินการ และสื่อสารสารสนเทศมาตงั้แต่ยุคเมโสโปเตเมียโดยชาวซูเมอร์ซึ่งได้
พัฒนาการเขียนเมื่อประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล แต่ศัพท์เทคโนโลยีสารสนเทศ ในความหมาย
สมัยใหม่ ปรากฏขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1958 ในงานพิมพ์ฮาร์เวิร์ดบิซเนสรีวิว (Harvard Business
Review) ซึ่งเขียนโดย แฮโรลด์เจ. เลวิตต์และ โทมัส แอล. วิสเลอร์โดยใหค้วามเห็นไวว้่า
"เทคโนโลยีใหม่ยังไม่มีชื่อที่ตงั้ขึ้นเป็นสิ่งเดียว เราจะเรียกมันว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที)" คา จา กัด
ความของศัพท์น้ปีระกอบดว้ยเทคโนโลยีสามประเภทไดแ้ก่ เทคนิคเพื่อการประมวลผล การประยุกต์ใช้
วิธีการทางสถิติศาสตร์และคณิตศาสตร์เพื่อการตัดสินใจ และการจา ลองความคิดในระดับที่สูงขึ้นผ่าน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
- 5. โครงสรา้งพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นกรอบงานบูรณาการภายใตเ้ครือข่ายดิจิตอลทา งานอยู่
โครงสรา้งพื้นฐานน้ปีระกอบดว้ย ศูนย์ขอ้มูล, เครื่องคอมพิวเตอร์, เครือข่ายคอมพิวเตอร์, อุปกรณจ์ัดการ
ฐานขอ้มูลและระบบการกา กับดูแล
ในเทคโนโลยีสารสนเทศและบนอินเทอร์เน็ต โครงสรา้งพื้นฐานเป็นฮาร์ดแวร์ทางกายภาพที่ถูกใชใ้นการ
เชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายตัวและผูใ้ชห้ลายคน โครงสรา้งพื้นฐานประกอบดว้ยสื่อการส่งผ่าน,
รวมทงั้สายโทรศัพท์, สายเคเบิลทีวี, ดาวเทียมและเสาอากาศ และยังมีเราเตอร์หลายตัว ที่ใชถ้่ายโอนขอ้มูล
ระหว่างเทคโนโลยีการส่งผ่านทงั้หลายที่แตกต่างกัน
ในการใชง้านบางครงั้ โครงสรา้งพื้นฐานหมายถึงการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ และไม่ติดต่อกับเครื่อง
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆที่เชื่อมต่อกัน อย่างไรก็ตาม สา หรับผูใ้ชเ้ทคโนโลยีสารสนเทศบางคน โครงสรา้ง
พื้นฐานถูกมองว่าเป็นทุกอย่างที่สนับสนุนการไหลและการประมวลผลของขอ้มูล
บริษัทโครงสรา้งพื้นฐานมีบทบาทสา คัญในการพัฒนาอินเทอร์เน็ต พวกเขามีอิทธิพลว่าที่ไหนบา้งตอ้งมีการ
เชื่อมโยง, ที่ไหนบา้งที่ขอ้มูลจะตอ้งถูกทา ใหส้ามารถเขา้ถึงได้และ จา นวนขอ้มูลที่สามารถดา เนินการไดแ้ละทา
ไดร้วดเร็วไดอ้ย่างไร[
- 6. คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ระยะแรก เช่น Colossus ใชเ้ทปเจาะรู(เป็นกระดาษแถบยาวที่ขอ้มูล
ถูกแทนดว้ยชุดของรู) เทคโนโลยีที่ปัจจุบันน้ลีา้สมัยไปแลว้ที่จัดเก็บขอ้มูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใชใ้นเครื่อง
คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย, ยอ้นหลังไปหลังสงครามโลกครงั้ที่สอง, เมื่อรูปแบบหนึ่งของหน่วยความจา แบบ
delay line (เมมโมรีแบบเขา้ถึงโดยลา ดับ) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลบลา้งความยุ่งเหยิงจากสัญญาณ
เรดาร์, การใชง้านในทางปฏิบัติเป็นครงั้แรกเป็น delay line ปรอทอุปกรณ์จัดเก็บขอ้มูลดิจิตอล
แบบเขา้ถึงโดยการสุ่มตัวแรกคือหลอดของ วิลเลียมส์ที่มีมาตรฐานของหลอดรังสีแคโทด แต่ขอ้มูลที่เก็บ
ไวใ้นนนั้มีความผันผวน จะ ตอ้งไดรั้บการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและหายไปเมื่อไฟดับ รูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด
ของตัวจัดเก็บขอ้มูลในคอมพิวเตอร์โดยไมผั่นผวนคือกลองแม่เหล็ก(magnetic drum) ที่
ถูกคิดคน้ใน ปี 1932 และถูกใชใ้นเครื่อง Ferranti Mark 1 ซึ่งเป็น คอมพิวเตอร์
อิเล็กทรอนิกส์วัตถุประสงค์ทัว่ไปที่ใชใ้นเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของโลก
- 7. ระบบการจัดการฐานขอ้มูลเกิดขึ้นใน ปี 1960s เพื่อแกไ้ขปัญหาการจัดเก็บและเรียกใชข้อ้มูลจา นวนมาก
ไดอ้ย่างถูกตอ้งและรวดเร็ว หนึ่งในระบบดังกล่าวแรกสุดเป็นระบบ Information
Management System (IMS) ของไอบีเอ็ม ซึ่งยังคงใชง้านอย่างกวา้งขวางกว่า
40 ปีต่อมา IMS เก็บขอ้มูลตามลา ดับขนั้แต่ ในปี 1970s เท็ด Codd เสนอรูปแบบการจัดเก็บ
ขอ้มูลที่สัมพันธ์เป็นทางเลือก อยู่บนพื้นฐานของการตงั้ทฤษฎีและตรรกะ คา กริยาและแนวคิดที่คนุ้เคย
ของตาราง, แถวและคอลัมน์ ระบบการจัดการฐานขอ้มูลเชิงสัมพันธ์ ในเชิงพาณิชย์ ( relational
database management system หรือ RDBMS) มีใหบ้ริการเป็น
ครงั้แรกโดยบริษัท Oracle ในปี 1980
- 8. เทคโนโลยีสารสนเทศที่นา มาใชส้า หรับการเรียนการสอน เป็นการใชเ้ทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง
สอนดว้ยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย หอ้งเรียนสมัยใหม่ มีอุปกรณ์วิดีโอโปรเจคเตอร์ (Video
Projector)มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านขอ้มูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่าง ๆ รูปแบบของสื่อ
ที่นา มาใชใ้นดา้นการเรียนการสอน ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนา มาใช้เช่น
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน อิเล็กทรอนิกส์บุค วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ระบบวิดีโอออนดมีานด์การสืบคน้
ขอ้มูลในคอมพิวเตอร์ และระบบอินเทอร์เน็ต เป็นตน้
- 9. - คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนา เอาเทคโนโลยี รวมกับการออกแบบโปรแกรมการสอน มาใชช้่วย
สอน ซึ่งเรียกกันโดยทัว่ไปว่าบทเรียน CAI ( Computer - Assisted
Instruction ) การจัดโปรแกรมการสอน โดยใชค้อมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบันมักอยู่ในรูป
ของสื่อประสม (Multimedia) ซึ่งหมายถึงนา เสนอไดท้งั้ภาพ ขอ้ความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว
ฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนน้เีหมาะกับการศึกษาดว้ยตนเอง และเปิดโอกาสใหผู้เ้รียนสามารถโตต้อบ กับ
บทเรียนไดต้ลอด จนมีผลป้อนกลับเพื่อใหผู้เ้รียนรู้บทเรียนไดอ้ย่างถูกตอ้ง และเขา้ใจในเน้อืหาวิชาของ
บทเรียนนนั้ๆ
- 10. - การเรียนการสอนโดยใชเ้ว็บเป็นหลัก เป็นการจัดการเรียน ที่มีสภาพการเรียนต่างไปจากรูปแบบเดิม
การเรียนการสอนแบบนี้ อาศัยศักยภาพและความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการนา เอาสื่อ
การเรียนการสอน ที่เป็นเทคโนโลยี มาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน ใหเ้กิดการเรียนรู้การสืบคน้ขอ้มูล
และเชื่อมโยงเครือข่าย ทา ใหผู้เ้รียนสามารถเรียนไดทุ้กสถานท ีีี่และทุกเวลา การจัดการเรียนการสอน
ลักษณะนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ ไดแ้ก่ การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-based
Instruction) การฝึกอบรมผ่านเว็บ (Web-based Trainning) การเรียน
การสอนผ่านเวิล์ดไวด์เว็บ (www-based Instruction) การสอนผ่านสื่อทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) เป็นตน้
- 12. เทคโนโลยีสารสนเทศไดรั้บการนา มาใชใ้นการพัฒนา ดา้นสาธารณสุขอย่างกวา้งขวาง และทา ใหง้านดา้น
สาธารณสุขเจริญกา้วหน้าอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุข ไดป้รับระบบการบริหารงาน และนา
เทคโนโลยี สารสนเทศมาใชใ้นงานต่างๆ ดังนี้
- ดา้นการลงทะเบียนผูป้่วย ตงั้แต่เริ่มทา บัตร จ่ายยา เก็บเงิน
- การสนับสนุนการรักษาพยาบาล โดยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ต่างๆ เขา้
ดว้ยกัน สามารถสรา้งเครือข่ายขอ้มูลทางการแพทย์ แลกเปลี่ยนขอ้มูลของผูป้่วย
- สามารถใหค้า ปรึกษาทางไกล โดยแพทย์ผูเ้ชี่ยวชา นาญ เทคโนโลยีสารสนเทศ จะช่วยใหแ้พทย์
สามารถเห็นหน้า หรือท่าทางของผูป้่วยได้ช่วยใหส้่งขอ้มูลที่เป็นเอกสาร หรือภาพเพื่อประกอบการ
พิจารณาของแพทย์ได้
- 13. - เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยในการ ใหค้วามรูแ้ก่ประชาชนของแพทย์ หรือหน่วยงาน
สาธารณสุขต่างๆ เป็นไปดว้ยความสะดวก รวดเร็ว ไดผ้ลขึ้น โดยสามารถใชส้ื่อต่างๆ เช่นภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหวมีเสียงและอื่นๆ เป็นตน้
- เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยใหผู้บ้ริหารสามารถกา หนดนโยบาย และติดตามกา กับการ
ดา เนินงานตามนโยบายไดดี้ยิ่งขึ้น โดยอาศัยขอ้มูลที่ถูกตอ้งฉับไว และขอ้มูลที่จา ป็น ทงั้นี้อาจใช้
คอมพิวเตอร์เป็นตัวเก็บขอ้มูลต่างๆ ทา ใหก้ารบริหารเป็นไปไดด้ว้ยความรวดเร็ว ถูกตอ้งมาก
ยิ่งขึ้น
- ในดา้นการใหค้วามรูห้รือการเรียน การสอนทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะ
ดาวเทียม จะช่วยใหก้ารเรียนการสอนทางไกล ทางดา้นการแพทย์และสาธารณะสุข เป็นไปไดม้าก
ขึ้นประชาชนสามารถเรียนรูพ้รอ้มกันไดทั้ว่ประเทศและ ยังสามารถโตต้อบหรือถามคา ถามไดด้ว้ย
- 15. กลุ่มนักวิทยาสตร์ วิศวกรที่ตอ้งการศึกษาพฤติกรรมบางอย่างของสิ่งมีชีวต รวมถึงสิ่งแวดลอ้มต่างๆ เช่น
ศึกษาการกระจายถิ่นที่อยู่ของนก การกระจายของแบคทีเรีย การสรา้งอาณาจักรของมด ผึ้ง ชีวิตความ
เป็นอยู่ของสัตว์ป่าต่าง ๆ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ตลอดจนระบบนิเวศวิทยา ความสนใจในการ
จา ลองความเป็นอยู่ของ สิ่งมีชีวิตไดมี้มานานแลว้ เริ่มตงั้แต่ครงั้ จอห์น พอยเมน ผูเ้ป็นนักคณิตศาสตร์
เสนอแนวคิดการทา ใหเ้ครื่องจักรทา งานโดยอัตโนมัติภายใตโ้ปรแกรม ซึ่งเป็นรากฐานของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ จนถึงปัจจุบันเกมแห่งชีวิตจึงเกิดขึ้น
- 16. เทคโนโลยีของการสื่อสารและโทรคมนาคมในปัจจุบันกา้วไกลไปมาก มีบริการมากมายที่ทันสมัยและ
ตอบรับกับการนา มาประยุกต์ใชใ้นการดา เนินธุรกิจ ตัวอย่างการใชโ้ทรศัพท์ในปัจจุบันน้กี็มิไดมีไวเ้พียง
สา หรับคุยสนทนาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันสามารถช่วยงานไดม้ากขึ้น โดยอา้งอิงขอ้มูลและการ
เปิดใหบ้ริการของบริษัท มีติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียมทงั้ภาพและเสียง มีโทรศัพท์มือถือรุ่นต่าง ๆ
ออกมามากมาย พัฒนาทงั้หน่วยงานของภาครัฐและเอกชน เช่นเทเลคอม เอเชีย คอร์ปอร์เรชัน่จา กัด
(มหาชน) ซึ่งเป็นผูว้างแผนการก่อสรา้ง และติดตงั้ขยายบริการโทรศัพท์พื้นฐาน 2.6 ลา้นเลขหมาย
ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงการซ่อมบา รุงรักษาเป็นระยะเวลา 25 ปีและเป็น
หนึ่งในผูใ้หบ้ริการในปัจจุบัน
- 17. การประยุกต์ใชเ้ทคโนโลยีสารสนเทศดา้นการออกแบบ ไดมี้การนา คอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ (
CAD : Computer Aided Design) ออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบสินคา้
และสามารถใชค้อมพิวเตอร์ช่วยควบคุมกระบวนการผลิต ( CAM : Computer
Aided Menufacturing ) เช่นควบคุมอุณหภูมิ ควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ลด
แรงงาน โดยใชค้อมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ทา งาน
- 18. ปัจจุบันไดมี้การนา เทคโนโลยีสารสนเทศเขา้มาใชใ้นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ มากมาย เช่น
การทา บัตรประจา ตัวประชาชน การเกิด การตาย การเสียภาษีอากร การทา ใบอนุญาตขับรถยนต์ การจ่าย
ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ การประมวลผลคะแนนเลือกตงั้ ฯลฯ เป็นตน้ งานเหล่านี้ไดมี้การนา ระบบ
สา นักงานอัตโนมัติเขา้มาใช้เพื่อทา ใหไ้ดข้อ้มูลข่าวสารที่รวดเร็ว และยังตอบสนองกับการบริหารยุคใหม่ที่
ตอ้งใชข้อ้มูลเป็นหลักในการบริหารจัดการ
- 19. กล่าวโดยสรุปคือ ไดมี้การนา คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้มาใชใ้นหน่วยงานต่าง ๆ เกือบ
ทุกวงการ ทงั้ภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะอยู่ในรูปของบุคคลหรือองค์กรใด ๆ ก็ตาม ฉะนนั้จึงจา เป็นอย่าง
ยิ่งที่จะตอ้งมีการศึกษาทางดา้นเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหน่วยงานดา้นการศึกษาก็มีความตื่นตัวและเปิด
ทา การเรียนการสอนในหลักสูตรดังกล่าว ทงั้ในระดับ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และเป็นสาขาวิชาที่มี
นักศึกษา ใหค้วามสนใจ กันมากเน่อืงจากยังมีตลาดแรงงานรองรับมากนัน่เอง