07
- 1. ใบงานที่ 7 เรื่อง โครงงานประเภท “การประยุกต์ ใช้ งาน”
ความหมาย
การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบน ได้มีการนามาใช้ในหลายสาขาวิชาชีพ ทั้ง
ั
ในด้านการศึกษา ด้านธุรกิจอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่ออานวย
ความสะดวกในการประกอบธุรกิจ การทางาน การศึกษาหาความรู ้ ทาให้คุณภาพชีวตของคนในสังคม
ิ
ปัจจุบนดีข้ ึน นอกจากนี้หน่วยงานราชการต่างๆ ก็นาเทคโนโลยีสารสนเทศและ ระบบคอมพิวเตอร์ เข้า
ั
ั
มาอานวยความสะดวกให้กบประชาชน ในการติดต่อประสานงานกับทางราชการ และในธุรกิจเอกชน
ทางด้านการโรงแรม และการท่องเที่ยว ก็ให้บริ การข้อมูลข่าวสาร และบริ การลูกค้าผ่านทางระบบ
อินเทอร์เน็ต ทาได้อย่างสะดวกรวดเร็วทันเหตุการณ์
ประยุกต์ ใช้ ในงานด้ านการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศที่นามาใช้สาหรับการเรี ยนการสอน เป็ นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลาย
อย่าง สอนด้วยสื่ ออุปกรณ์ที่ทนสมัย ห้องเรี ยนสมัยใหม่ มีอุปกรณ์วดีโอโปรเจคเตอร์ (Video Projector)มี
ั ิ
เครื่ องคอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่าง ๆ รู ปแบบของสื่ อที่นามาใช้ในด้านการ
เรี ยนการสอน ก็มีหลากหลาย ขึ้นอยูกบความเหมาะสมในการนามาใช้ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
่ ั
อิเล็กทรอนิกส์บุค วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ระบบวิดีโอออนดีมานด์ การสื บค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์
และระบบอินเทอร์เน็ต เป็ นต้น
- คอมพิวเตอร์ ช่วยสอน เป็ นการนาเอาเทคโนโลยี รวมกับการออกแบบโปรแกรมการสอน มาใช้
ช่วยสอน ซึ่งเรี ยกกันโดยทัวไปว่าบทเรี ยน CAI ( Computer - Assisted Instruction ) การจัดโปรแกรมการ
่
สอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบนมักอยูในรู ปของสื่ อประสม (Multimedia) ซึ่งหมายถึง
ั ่
นาเสนอได้ท้ งภาพ ข้อความ เสี ยง ภาพเคลื่อนไหวฯลฯ โปรแกรมช่วยสอนนี้เหมาะกับการศึกษาด้วย
ั
ตนเอง และเปิ ดโอกาสให้ผเู ้ รี ยนสามารถโต้ตอบ กับบทเรี ยนได้ตลอด จนมีผลป้ อนกลับเพื่อให้ผเู ้ รี ยนรู ้
บทเรี ยนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจในเนื้อหาวิชาของบทเรี ยนนั้นๆ
- 2. - การเรี ยนการสอนโดยใช้ เว็บเป็ นหลัก เป็ นการจัดการเรี ยน ที่มีสภาพการเรี ยนต่างไปจากรู ป
แบบเดิม การเรี ยนการสอนแบบนี้ อาศัยศักยภาพและความสามารถของเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็ นการ
นาเอาสื่ อการเรี ยนการสอน ที่เป็ นเทคโนโลยี มาช่วยสนับสนุนการเรี ยนการสอน ให้เกิดการเรี ยนรู ้ การ
สื บค้นข้อมูล และเชื่อมโยงเครื อข่าย ทาให้ผเู ้ รี ยนสามารถเรี ยนได้ทุกสถานท ีี่และทุกเวลา การจัดการ
ี
เรี ยนการสอนลักษณะนี้ มีชื่อเรี ยกหลายชื่อ ได้แก่ การเรี ยนการสอนผ่านเว็บ (Web-based Instruction)
การฝึ กอบรมผ่านเว็บ (Web-based Trainning) การเรี ยนการสอนผ่านเวิลดไวด์เว็บ (www-based
์
Instruction) การสอนผ่านสื่ อทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) เป็ นต้น
- อิเล็กทรอนิกส์ บค คือการเก็บข้อมูลจานวนมากด้วยซีดีรอม หนึ่งแผ่นสามารถเก็บข้อมูล
ุ
ตัวอักษรได้มากถึง 600 ล้านตัวอักษร ดังนั้นซีดีรอมหนึ่งแผ่นสามารถเก็บข้อมูลหนังสื อ หรื อเอกสารได้
ั
มากกว่าหนังสื อหนึ่งเล่ม และที่สาคัญคือการใช้กบคอมพิวเตอร์ ทาให้สามารถเรี ยกค้นหาข้อมูลภายใน
ซีดีรอม ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ดชนี สื บค้นหรื อสารบัญเรื่ อง ซีดีรอมจึงเป็ นสื่ อที่มีบทบาทต่อการศึกษา
ั
่
อย่างยิง เพราะในอนาคตหนังสื อต่าง ๆ จะจัดเก็บอยูในรู ปซีดีรอม และเรี ยกอ่านด้วยเครื่ องคอมพิวเตอร์ ที่
่
เรี ยกว่าอิเล็กทรอนิกส์บุค ซีดีรอมมีขอดีคือสามารถจัดเก็บ ข้อมูลในรู ปของมัลติมีเดีย และเมื่อนาซี ดีรอม
้
หลายแผ่นใส่ ไว้ในเครื่ องอ่านชุดเดียวกัน ทาให้ซีดีรอมสามารถขยายการเก็บข้อมูลจานวนมากยิงขึ้นได้ ่
- วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ หมายถึงการประชุมทางจอภาพ โดยใช้เทคโนโลยีการสื่ อสารที่
ทันสมัย เป็ นการประชุมร่ วมกันระหว่างบุคคล หรื อคณะบุคคลที่อยูต่างสถานที่ และห่างไกลกันโดยใช้
่
สื่ อทางด้านมัลติมีเดีย ที่ให้ท้ งภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสี ยง และข้อมูลตัวอักษร ในการประชุมเวลา
ั
เดียวกัน และเป็ นการสื่ อสาร 2 ทาง จึงทาให้ ดูเหมือนว่าได้เข้าร่ วมประชุมร่ วมกันตามปกติ ด้านการศึกษา
วิดีโอเทคเลคอนเฟอเรนซ์ ทาให้ผเู ้ รี ยนและผูสอนสามารถติดต่อสื่ อสารกันได้ ผ่านทางจอภาพ โทรทัศน์
้
และเสี ยง นักเรี ยนในห้องเรี ยน ที่อยูห่างไกลสามารถเห็นภาพและเสี ยง ของผูสอนสามารถเห็นอากับกิริยา
่ ้
ของ ผูสอน เห็นการเคลื่อนไหวและสี หน้าของผูสอนในขณะเรี ยน คุณภาพของภาพและเสี ยง ขึ้นอยูกบ
้ ้ ่ ั
ความเร็วของช่องทางการสื่ อสาร ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งที่มีการประชุมกัน ได้แก่ จอโทรทัศน์หรื อ
จอคอมพิวเตอร์ ลาโพง ไมโครโฟน กล้อง อุปกรณ์เข้ารหัสและถอดรหัส ผ่านเครื อข่ายการสื่ อสาร
ความเร็วสู งแบบไอเอสดีเอ็น (ISDN)
- 3. - ระบบวิดีโอออนดีมานด์ (Video on Demand) เป็ นระบบใหม่ที่กาลังได้รับความนิยมนามาใช้ ใน
หลายประเทศเช่น ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริ กา โดยอาศัยเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสู ง ทาให้ผชมตาม
ู้
บ้านเรื อนต่าง ๆ สามารถเลือกรายการวิดีทศน์ ที่ตนเองต้องการชมได้โดยเลือกตามรายการ (Menu) และ
ั
เลือกชมได้ตลอดเวลา วิดีโอออนดีมานด์ เป็ นระบบที่มีศนย์กลาง การเก็บข้อมูลวีดิทศน์ไว้จานวนมาก
ู ั
โดยจัดเก็บในรู ปแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ (Video Server) เมื่อผูใช้ตองการเลือกชมรายการใด ก็เลือกได้จาก
้ ้
ฐานข้อมูลที่ตองการ ระบบวิดีโอ ออนดีมานด์จึงเป็ นระบบที่จะนามาใช้ ในเรื่ องการเรี ยนการสอน
้
ทางไกลได้ โดยไม่มีขอจากัดด้านเวลา ผูเ้ รี ยนสามารถเลือกเรี ยน ในสิ่ งที่ตนเองต้องการเรี ยนหรื อสนใจได้
้
- การสื บค้ นข้ อมูล (Search Engine) ปัจจุบนได้มีการกล่าวถึงระบบการสื บค้นข้อมูลกันมาก
ั
แม้แต่ในเครื อข่ายอินเทอร์เน็ต ก็มีการประยุกต์ใช้ไฮเปอร์เท็กซ์ในการสื บค้นข้อมูล จนมีโปรโตคอลชนิด
ั
พิเศษที่ใช้กน คือ World Wide Web หรื อเรี ยกว่า www. โดยผูใช้สามารถเรี ยกใช้โปรโตคอล http เพื่อ
้
เชื่อมโยงเข้าสู่ ระบบไฮเปอร์เท็กซ์ ซึ่งเป็ นฐานข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ไฮเปอร์เท็กซ์มีลกษณะเป็ นแบบ
ั
มัลติมีเดีย เพราะสามารถสร้างเป็ นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ที่เก็บได้ท้ งภาพ เสี ยง และตัวอักษร มีระบบการ
ั
เรี ยกค้นที่มีประสิ ทธิภาพ โดยใช้โครงสร้างดัชนีแบบลาดับชั้นภูมิ โดยทัวไป ไฮเปอร์เท็กซ์จะเป็ น
่
ฐานข้อมูลที่มีดชนีสืบค้นแบบเดินหน้า ถอยหลัง และบันทึกร่ องรอยของการสื บค้นไว้ โปรแกรมที่ใช้ใน
ั
การสร้างไฮเปอร์เท็กซ์มีเป็ นจานวนมาก ส่ วนโปรแกรมที่มีชื่อเสี ยงได้แก่ HTML Compossor FrontPage
Marcromedia DreaWeaver เป็ นต้น ปัจจุบนเราใช้วิธีการสื บค้นข้อมูล เพื่อนาข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบใน
ั
การทาเอกสารรายงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- อินเทอร์ เน็ต คือเครื อข่ ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยเครื อข่ายย่อย และเครื อข่ายใหญ่
สลับซับซ้อนมากมาย เชื่อมต่อกันมากกว่า 300 ล้านเครื่ องในปัจจุบน โดยใช้ในการติดต่อสื่ อสาร
ั
ข้อความรู ปภาพ เสี ยงและอื่น ๆ โดยผ่านระบบเครื อข่ายคอมพิวเตอร์ ที่มีผใช้งานกระจายกันอยูทวโลก
ู้ ่ ั่
ปัจจุบนได้มีการนาระบบอินเทอร์เน็ต เข้ามาใช้ในวงการศึกษากันทัวโลก ซึ่งมีประโยชน์ในด้านการเรี ยน
ั ่
การสอนเป็ นอย่างมาก
- 4. ประยุกต์ ใช้ ในงานทะเบียนของสถานศึกษา
- งานรับมอบตัว ทาหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานที่นกศึกษานามารายงานตัว จากนั้นก็จดเก็บประวัติ
ั ั
ภูมิหลังนักศึกษา เช่น ภูมิลาเนา บิดามารดา ประวัติการศึกษา ทุนการศึกษา ไว้ในแฟ้ มเอกสารข้อมูล
ประวัตินกศึกษา
ั
- งานทะเบียนเรี ยนรายวิชา ทาหน้าที่จดรายวิชาที่ตองเรี ยนให้ก ั บนักศึกษา ในแต่ละภาคเรี ยนทุก
ั ้
ชั้นปี ตามแผนการเรี ยนของแต่ละแผนก แล้วจัดเก็บไว้ในแฟ้ มข้อมูลผลการเรี ยน
- งานประมวลผลการเรี ยน ทาหน้าที่นาผลการเรี ยนจากอาจารย์ผสอนมาประมวลในแต่ละภาค
ู้
เรี ยน จากนั้นก็จดเก็บไว้ในแฟ้ มเอกสารข้อมูลผลการเรี ยน และแจ้งผลการเรี ยนให้ผที่เกี่ยวข้องทราบ
ั ู้
- งานตรวจสอบผู้จบการศึกษา ทาหน้าที่ตรวจสอบรายวิชา และผลการเรี ยน ที่นกศึกษาเรี ยนตั้งแต่
ั
เริ่ มต้น จนกระทังจบหลักสู ตร จากแฟ้ มเอกสาร ข้อมูลผลการเรี ยน ว่าผ่านเกณฑ์การจบหรื อไม่
่
- งานส่ งนักศึกษาฝึ กงาน ทาหน้าที่หาข้อมูลจากสถานที่ฝึกงาน ในแต่ละแห่งว่าสามารถรองรับ
จานวน นักศึกษาที่จะฝึ กงานในรายวิชาต่าง ๆ ได้เป็ นจานวนเท่าใด จากนั้นก็จดนักศึกษา ออกฝึ กงานตาม
ั
รายวิชา ให้สอดคล้องกับจานวนที่สถานประกอบการต้องการ
ประยุกต์ ใช้ ในห้ างสรรพสิ นค้ าและสาขาย่ อย
่ ่ ั่
เนื่องจากห้างสรรพสิ นค้า เป็ นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มีอยูหลายสาขาที่จดจาหน่ายอยูทวประเทศ มี
ั
ซัพพลายเออร์กว่าพันราย และมีพนักงานอยูหลายพันคน ดังนั้นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และการตัดสิ นใจต้องทา
่
อย่างรวดเร็ วเพื่อให้ทนต่อเหตุการณ์ ดังนั้นการที่ตองใช้เทคโนโลยีจึงเป็ นสิ่ งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การใช้
ั ้
เครื่ องคอมพิวเตอร์และเครื่ องอ่านบาร์โค้ดจึงมีความจาเป็ นฝ่ ายเทคโนโลยีสารสนเทศจะเป็ นฝ่ าย
่
สนับสนุน สิ่ งสาคัญที่สุดคือ เราต้องให้ความมันใจได้วา ระบบจะต้องทางานได้ไม่มีปัญหาขัดข้อง
่
ปัจจุบนระบบการเชื่อมต่อห้างสรรพสิ นค้าจะเป็ นแบบสอง ลักษณะคือในต่างจังหวัดจะใช้การเชื่อมต่อ
ั
- 5. ผ่านดาวเทียม ในกรุ งเทพจะใช้การเชื่อมต่อแบบออนไลน์ ซึ่งจะมีการรับส่ งข้อมูลกันทุกวัน ในส่ วนของ
ไอที นอกจากจะต้องทาให้ระบบ สามารถทางานได้ตลอดเวลาแล้ว ยังต้องมันใจด้วยว่าข้อมูลที่รับส่ งกัน
่
นั้นมีความถูกต้อง ซึ่งในแต่ละวันมีขอมูลมาก ที่จะต้องผ่านการประมวลผลให้แก่ผบริ หารเพื่อใช้
้ ู้
่
ประกอบการตัดสิ นใจ ไม่วาจะเป็ นข้อมูลยอดขายข้อมูลสต็อกและข้อมูลต่างๆ ที่ ผูบริ หารต้องการ
้
ประยุกต์ ใช้ ในงานสาธารณสุ ขและการแพทย์
เทคโนโลยีสารสนเทศได้รับการนามาใช้ในการพัฒนา ด้านสาธารณสุ ขอย่างกว้างขวาง และทาให้
งานด้าน สาธารณสุ ขเจริ ญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุ ข ได้ปรับระบบการบริ หารงาน
และนาเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในงานต่างๆ ดังนี้
- ด้ านการลงทะเบียนผู้ป่วย ตั้งแต่เริ่ มทาบัตร จ่ายยา เก็บเงิน
- การสนับสนุนการรั กษาพยาบาล โดยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ต่างๆ เข้า
ด้วยกัน สามารถสร้างเครื อข่ายข้อมูลทางการแพทย์ แลกเปลี่ยนข้อมูลของผูป่วย
้
- สามารถให้ คาปรึ กษาทางไกล โดยแพทย์ผเู ้ ชี่ยวชานาญ เทคโนโลยีสารสนเทศ จะช่วยให้แพทย์
สามารถเห็นหน้า หรื อท่าทางของผูป่วยได้ ช่วยให้ส่งข้อมูลที่เป็ นเอกสาร หรื อภาพเพื่อประกอบการ
้
พิจารณาของแพทย์ได้
- เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่ วยในการ ให้ ความรู้ แก่ ประชาชนของแพทย์ หรื อหน่วยงาน
สาธารณสุ ขต่างๆ เป็ นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ได้ผลขึ้น โดยสามารถใช้สื่อต่างๆ เช่นภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหวมีเสี ยงและอื่นๆ เป็ นต้น
- เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่ วยให้ ผ้ บริ หารสามารถกาหนดนโยบาย และติดตามกากับการ
ู
ดาเนินงานตามนโยบายได้ ดียิ่งขึน โดยอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องฉับไว และข้อมูลที่จาป็ น ทั้งนี้อาจใช้
้
คอมพิวเตอร์เป็ นตัวเก็บข้อมูลต่างๆ ทาให้การบริ หารเป็ นไปได้ดวยความรวดเร็ว ถูกต้องมากยิงขึ้น
้ ่
- ในด้ านการให้ ความรู้ หรื อการเรี ยน การสอนทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะ
ดาวเทียม จะช่วยให้การเรี ยนการสอนทางไกล ทางด้านการแพทย์และสาธารณะสุ ข เป็ นไปได้มากขึ้น
ประชาชนสามารถเรี ยนรู ้พร้อมกันได้ทวประเทศและ ยังสามารถโต้ตอบหรื อถามคาถามได้ดวย
ั่ ้
- 6. ประยุกต์ ใช้ ในงานด้ านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
กลุ่มนักวิทยาสตร์ วิศวกรที่ตองการศึกษาพฤติกรรมบางอย่างของสิ่ งมีชีวต รวมถึงสิ่ งแวดล้อม
้
่
ต่างๆ เช่นศึกษาการกระจายถิ่นที่อยูของนก การกระจายของแบคทีเรี ย การสร้างอาณาจักรของมด ผึ้ง ชีวต ิ
่
ความเป็ นอยูของสัตว์ป่าต่าง ๆ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ตลอดจนระบบนิเวศวิทยา ความสนใจใน
่
การจาลองความเป็ นอยูของ สิ่ งมีชีวตได้มีมานานแล้ว เริ่ มตั้งแต่ครั้ง จอห์น พอยเมน ผูเ้ ป็ นนักคณิ ตศาสตร์
ิ
เสนอแนวคิดการทาให้เครื่ องจักรทางานโดยอัตโนมัติภายใต้โปรแกรม ซึ่งเป็ นรากฐานของเครื่ อง
คอมพิวเตอร์ จนถึงปั จจุบนเกมแห่งชีวตจึงเกิดขึ้น
ั ิ
ประยุกต์ ใช้ ในงานด้ านการสื่ อสารและโทรคมนาคม
เทคโนโลยีของการสื่ อสารและโทรคมนาคมในปั จจุบนก้าวไกลไปมาก มีบริ การมากมายที่
ั
ทันสมัยและตอบรับกับการนามาประยุกต์ใช้ในการดาเนินธุรกิจ ตัวอย่างการใช้โทรศัพท์ในปัจจุบนนี้กมิ ั ็
ไดมีไว้เพียงสาหรับคุยสนทนาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มนสามารถช่วยงานได้มากขึ้น โดยอ้างอิง
ั
ข้อมูลและการเปิ ดให้บริ การของบริ ษท มีติดต่อสื่ อสารผ่านดาวเทียมทั้งภาพและเสี ยง มีโทรศัพท์มือถือ
ั
รุ่ นต่าง ๆ ออกมามากมาย พัฒนาทั้งหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน เช่นเทเลคอม เอเชีย คอร์ปอร์เรชัน ่
จากัด (มหาชน) ซึ่งเป็ นผูวางแผนการก่อสร้าง และติดตั้งขยายบริ การโทรศัพท์พ้ืนฐาน 2.6 ล้านเลขหมาย
้
ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุ งเทพและปริ มณฑล รวมถึงการซ่อมบารุ งรักษาเป็ นระยะเวลา 25 ปี และเป็ น
หนึ่งในผูให้บริ การในปั จจุบน
้ ั
ประยุกต์ ใช้ ในงานด้ านการออกแบบผลิตภัณฑ์
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการออกแบบ ได้มีการนาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการ
ออกแบบ ( CAD : Computer Aided Design) ออกแบบผลิตภัณฑ์ ออกแบบสิ นค้า และสามารถใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยควบคุมกระบวนการผลิต ( CAM : Computer Aided Menufacturing ) เช่นควบคุม
อุณหภูมิ ควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ลดแรงงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ทางาน
- 7. ประยุกต์ ใช้ ในสานักงานภาครัฐและเอกชน
ปัจจุบนได้มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ มากมาย
ั
เช่น การทาบัตรประจาตัวประชาชน การเกิด การตาย การเสี ยภาษีอากร การทาใบอนุญาตขับรถยนต์ การ
จ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ การประมวลผลคะแนนเลือกตั้ง ฯลฯ เป็ นต้น งานเหล่านี้ได้มีการนาระบบ
สานักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้ เพื่อทาให้ได้ขอมูลข่าวสารที่รวดเร็ ว และยังตอบสนองกับการบริ หารยุคใหม่
้
ที่ตองใช้ขอมูลเป็ นหลักในการบริ หารจัดการ
้ ้
กล่าวโดยสรุปคือ ได้มีการนาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในหน่วยงานต่าง ๆ
่ ่
เกือบทุกวงการ ทั้งภาครัฐและเอกชนไม่วาจะอยูในรู ปของบุคคลหรื อองค์กรใด ๆ ก็ตาม ฉะนั้นจึงจาเป็ น
อย่างยิงที่จะต้องมีการศึกษาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในหน่วยงานด้านการศึกษาก็มีความตื่นตัว
่
และเปิ ดทาการเรี ยนการสอนในหลักสู ตรดังกล่าว ทั้งในระดับ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และเป็ น
สาขาวิชาที่มีนกศึกษา ให้ความสนใจ กันมากเนื่องจากยังมีตลาดแรงงานรองรับมากนันเอง
ั ่
http://forum.datatan.net/index.php/topic,126.msg126.html
Yupparaj Wittayalai School, Chiang Mai
Class 6/14
Kornkawin Auttawut Number 11
Pasida Wattanarat Number 17
Sureerat Kaewfoo Number 28