Computer
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา3 3201ง ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร5
ปีการศึกษา2562
ชื่อโครงงานไฟป่า
ชื่อผู้ทำโครงงาน
ชื่อนายพัทธดนย์ ประสีระเตสังข์เลขที่32 ชั้นม.6 ห้อง3
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่1-2ปีการศึกษา62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
นายพัทธดนย์ ประสีระเตสังข์ชั้น ม.6/3 เลขที่32
คาชี้แจงให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน(ภาษาไทย)
ไฟป่า
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
wildfires
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทำโครงงานนายพัทธดนย์ ประสีระเตสังข์
ชื่อที่ปรึกษาคุณครู เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดำเนินงานภาคเรียนที่1-2
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน(อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการท าโครงงาน)
ในปัจจุบันมีการเกิดไฟไหม้ป่ามีทุกจังหวัดเพราะป่าไม้ในประเทศไทยมีทั่วเต็มไปหมดทุกที่ก็เส
ไหม้ป่าได้ส่วนมากเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่ามากกว่าการเกิดไฟไหม้ป่าป่าไม้ในประเทศไทยมีหลายที่ ที่เกิด
ปัญหาไม่ใช่แค่ในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ติดกับเขาก็เลยท าให้
ส่วนใหญ่ต้องหาทางแก้ไขคนไทยส่วนมากชอบตัดไม้ทำลายป่าไม้ที่อุดมสมบรูณ์และมีคนส่วนน้อยที่ช รักษาป่าไม้ให้ดีขึ้น
จังหวัดเชียงใหม่มีการเกิดไฟไหม้ป่าเยอะมากกว่าที่อื่นในประเทศไทยเพรา
จึงมีต้นไม้มากกว่าที่อื่นและมีคนที่คิดไม่ดีกับปและที่ทาไม้เยอะเช่นกันาให้เกิดไฟไหม้ป่าส่วนมากก็อาจเกิดจา
การเผาไหม้ของขยะปลอดภัยหรือขยะมูลฝอยทั่วไปของชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นความสำคัญในการเกิด
ป่าที่เกิดจากคนในจังหวัดเชียงใหม่ได้คือ ตัดต้นไม้ทำลายธรรมชาติจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและโลกร้อนเก
ปัญหาตามมาก็คือไฟไหม้ป่าอยู่แถวนั้นก็จะมีผลตามไปด้วยและทำให้คนในจังหวัดเชียงใหม่อยู่
และถึงมากที่สุดคือไม่มีที่อยู่อาศัยคือผลกระทบของการเกิดไฟไหม้ป่าของจังหวัดเชียงใหม่
- 3. 3
วัตถุประสงค์(สิ่งที่ต้องการในการทำโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
-เพื่อทราบสาเหตุของไฟป่า
-เพื่อหาวิธีป้องกัน
-เพื่อหาวิธีแก้ไขที่ยั่งยืน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจ ากัดของการทำโครงงาน)
โครงงานเกี่ยวกับไฟป่าึึึงเปนนโครงงานที่ครอบคลุมถึงเรื่องต้ยตอของปัญาหรือสาเหตุของปัญหาไฟป่าและ
บอกถึงแนวทางแก้ไขและผลกระทบที่ตามมาของปัญหาไฟป่า
หลักการและทฤษฎี(ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการท าโครงงาน)
ระบบการจัดการและแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างครบวงจร กล่าวคือเริ่มต้นตั้งแต่การป้องกันมิให้เกิ
ศึกษาถึงสาเหตุของการเกิดไฟป่าในแต่ละท้องที่แล้ววางแผนป้องกันหรือกำจัดต้นตอของสาเหตุนั้นเสีย หา
ได้ผลไฟป่าก็จะไม่เกิด แต่ในทางปฏิบัติแล้ว แม้จะมีการป้องกันไฟป่าได้ดีเพียงใด ก็ยังไม่สาม เปอร์เึนต์
ไฟป่ายังมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆรองรับตามมาเตรียมการ ดับไฟป่า การตรวจหาไฟ
การดับไฟป่า และการประเมินผลปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าไฟก็มีปร การจัดการป่าไม้ ในหลายๆด้าน
ดังนั้นจึงต้องมีการใช้ประโยชน์จากไฟควบคู่กันไปด้วย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดำเนินงาน
1. กำรรวบรวมข้อมูลไฟป่ำ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับสภำพพื้นที่ปฏิบัติ สถิติไฟป่ำ สภำพปัญหำไฟป่ำ และ
พฤติกรรมของไฟป่ำ ซึ่งข้อมูลดังกล่ำวได้มำจำกกำรสำรวจในพื้นที่ และจำกกำรศึกษำวิจัย ข้อมูลไฟป่ำเหล่ำนี้จะ
นำมำใช้ในกำรวำงแผนงำนควบคุมไฟป่ำ
2. กำรจัดทำแผนงำนควบคุมไฟป่ำ โดยครอบคลุมกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม คือ กำรป้องกันไฟป่ำ และกำรดับ
ไฟป่ำ พร้อมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่ส่งเสริมให้กำรปฏิบัติงำนกิจกรรมหลักทั้งสองเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ
3. กำรปฏิบัติตำมแผน เป็นกำรดำเนินกำรไปพร้อม ๆ กันทั้งแผนป้องกันไฟป่ำและแผนดับไฟป่ำ ซึ่งหำกแผน
และกำรปฏิบัติงำนตำมแผนป้องกันไฟป่ำมีประสิทธิภำพ 100เปอร์เซ็นต์ก็จะไม่เกิดไฟป่ำ จึงไม่ต้องดับไฟป่ำ แต่
ในควำมเป็นจริงไม่ว่ำแผนงำนและกำรปฏิบัติงำนตำมแผนป้องกันไฟป่ำจะมีประสิทธิภำพมำกเพียงใด
ก็ยังมีโอกำสเกิดไฟป่ำขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องเข้ำปฏิบัติงำนตำมแผนดับไฟทันที
4. กำรประเมินผล เป็นกำรประเมินผลงำนกำรปฏิบัติงำนทุกขั้นตอน เพื่อวิเครำะห์ประสิทธิภำพของกำร
ปฏิบัติงำน
และประสิทธิผลที่เกิดจำกกำรปฏิบัติงำน แล้วนำมำเป็นข้อมูลเพื่อใช้ในกำรปรับปรุงแผนงำน
ควบคุมไฟป่ำให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.ที่ตบไฟ
ที่ตบไฟ (Fire swatter or Fire beater) เป็นเครื่องมือดับไฟป่ำที่พัฒนำขึ้นโดยใช้หลักกำรแยกออกซิเจนออกจำก
องค์ประกอบของสำมเหลี่ยมไฟ โดยกำรตบคลุมไฟป้องกันไม่ให้ออกซิเจนเข้ำไปทำปฏิกริยำสันดำป ไฟก็จะดับลง ที่ตบ
ไฟนี้พัฒนำมำจำกกำรภูมิปัญญำชำวบ้ำนที่ใช้กิ่งไม้ซึ่งมีใบหนำแน่นมำตบดับไฟ ลักษณะของที่ตบไฟคล้ำยกับไม้กวำด
ประกอบด้วยส่วนหัว ซึ่งทำจำกผ้ำใบหนำเคลือบด้วยยำง (ส่วนใหญ่ใช้สำยพำนลำเลียงมำตัดให้ได้ขนำดควำมยำวที่
เหมำะแก่กำรใช้งำน) มีขนำดประมำณ 30 x 40 ซม. โดยต่อกับส่วนที่เป็นด้ำมยำวประมำณ 2-2.5 เมตร
- 4. 2.ถังฉีดน้าดับไฟป่า
น้ำเป็นสำรเคมีที่มีประสิทธิภำพสูงและรำคำถูกที่สุด จึงเหมำะอย่ำงยิ่งที่จะใช้ในกำรดับไฟป่ำ แต่กำรลำเลียงน้ำเข้ำไป
ในพื้นที่ไฟไหม้ที่เป็นป่ำเขำสลับซับซ้อนเป็นเรื่องยำกลำบำก จึงต้องออกแบบถังบรรจุน้ำสำหรับสะพำยหลังเพื่อควำม
สะดวกในกำรเดินทำงไกล โดยทั่วไปแล้วถังฉีดน้ำดับไฟป่ำ (Backpack pump or Knapsack sprayer) มี 2
ประเภท คือ
- ประเภทถังแข็งคงรูป ทำจำกอลูมิเนียมหรือพลำสติก โดยทรงถังจะโค้งเข้ำรูปกับแผ่นหลัง มีสำยสะพำยสำหรับ
สะพำยคล้องไหล่ ด้ำนล่ำงของถังหรือที่ฐำนของถังจะมีรูให้น้ำออกเพื่อต่อเชื่อมด้วยสำยยำงมำยังที่สูบมือ ด้ำนบนถังจะ
มีฝำเปิด-ปิด ใช้สำหรับเป็นช่องทำงในกำรเติมน้ำ โดยปกติถังจะออกแบบให้บรรจุน้ำได้ประมำณ 15-20 ลิตร และที่
สูบมือสำมำรถฉีดน้ำไปได้ไกลประมำณ 5-8 เมตร โดยทั่วไปสำมำรถนำถังที่ใช้พ่นยำฆ่ำแมลงหรือพ่นปุ๋ยเคมีในทำง
กำรเกษตรมำใช้แทนถังน้ำดับไฟป่ำได้เป็นอย่ำงดี
- ประเภทถังอ่อนพับเก็บได้ ตังถังทำจำกแผ่นยำง หรือแผ่นผ้ำใบเคลือบยำง จึงมีลักษณะเหมือนถุงใส่น้ำที่จะโป่งออก
เมื่อเติมน้ำเต็ม แต่จะแฟบลงเมื่อน้ำหมด จึงสำมำรถม้วนหรือพับให้เหลือขนำดเล็กสำหรับเก็บหรือเพื่อควำมสะดวกใน
ระหว่ำงกำรขนย้ำยเคลื่อนที่
3.ครอบไฟป่า
ครอบไฟป่ำ (Rake-hoe or Macleod) เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมำเพื่อใช้ในงำนดับไฟป่ำโดยเฉพำะ โดยกำรนำ
เครื่องมือทำงกำรเกษตรสองชนิด คือครำดและจอบมำเชื่อมต่อให้เป็นเครื่องมือชิ้นเดียวกัน ทั้งนี้โดยส่วนหัวของ
เครื่องมือด้ำนหนึ่งมีลักษณะเป็นหน้ำจอบ ส่วนอีกด้ำนหนึ่งเป็นครำด จึงทำให้เครื่องมือดังกล่ำวสำมำรถทำงำนที่ต้องใช้
ทั้งจอบและครำดในเวลำเดียวกันได้อย่ำงรวดเร็วขึ้น อนึ่ง ยังไม่สำมำรถค้นหำเอกสำรอ้ำงอิงได้แน่นอนว่ำใครเป็นผู้
ประดิษฐ์อุปกรณ์ชนิดนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเชื่อว่ำเป็นกำรประดิษฐ์คิดค้นของ Mr. J.C. Macleod ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชำญไฟป่ำ
ชำวแคนำดำ ดังนั้นจึงมีผู้ที่เรียกชื่อเครื่องมือดังกล่ำวว่ำ Macleod ตำมชื่อของ Mr. J.C. Macleod
4.พลั่วไฟป่า
พลั่วไฟป่ำ (Fire shovel) เป็นเครื่องมือที่พัฒนำมำจำกพลั่วที่ใช้งำนในกำรเกษตรหรืองำนก่อสร้ำงทั่วไป โดยดัดแปลง
ให้ใช้เหล็กที่หนำกว่ำ ใบพลั่วมีลักษณะเรียวเล็กลงและใบพลั่วเป็นรูปคล้ำยใบโพธิ์หรือรูปหัวใจ คือตรงปลำยจะเรียว
แหลม และมีคมสำมด้ำน คือ ด้ำนข้ำงทั้งสองด้ำนและด้ำนปลำยแหลม พลั่วไฟป่ำสำมำรถใช้งำนได้อย่ำงกว้ำงขวำงทั้ง
เพื่อกำรทำแนวกันไฟและใช้ในกำรดับไฟป่ำโดยตรง
5.ขวานขุดไฟป่า หรือ พูลาสกี้
ขวำนขุดไฟป่ำ หรือพูลำสกี้ (Pulaski) เป็นเครื่องมือดับไฟป่ำอีกชนิดหนึ่งที่ดัดแปลงโดยนำเครื่องมือสองชนิด ได้แก่
ขวำนและจอบ มำเชื่อมต่อเป็นเครื่องมือชิ้นเดียวกัน โดยด้ำนหนึ่งของหัวเครื่องมือเป็นขวำน อีกด้ำนหนึ่งเป็นจอบหน้ำ
แคบ ต่อเชื่อมกับด้ำมจับขนำดควำมยำวพอเหมำะสำหรับงำนขุด ขวำนขุดไฟป่ำนี้เหมำะสมมำกสำหรับงำนขุดร่องแนว
กันไฟเพื่อดับไฟกึ่งผิวดินกึ่งใต้ดินในป่ำพรุ และในป่ำเขตอบอุ่นที่เชื้อเพลิงส่วนใหญ่เป็นชั้นหญ้ำมอสหนำ สำหรับ
ประเทศไทยยังไม่เคยมีกำรนำขวำนขุดไฟป่ำมำใช้ และกำรขุดร่องดับไฟป่ำพรุเท่ำที่ผ่ำนมำจะใช้ครอบไฟป่ำหรือจอบ
ธรรมดำ ซึ่งไม่ได้ผลดีเท่ำที่ควร
- 6. 4
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิด
ที่
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1 1
12
1 1 1
16 17
0 1 3 4 5
1 คิดหัวข้อโครงงาน /
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล /
3 จัดทำโครงร่างงาน /
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน /
5 ปรับปรุงทดสอบ /
6 การท าเอกสารายงาน / /
7 ประเมินผลงาน / /
8 น าเสนอโครงงาน /
ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทำโครงงาน)
ไฟป่ำหมดไปหริลดลงจำกเดิมทำให้สัตว์ป่ำสำมรถดำรงชีวิตอยู่ได้และช่วยรักษำต้นไม้และพรรณไม้ต่ำงๆได้อย่ำงมำกและลด
ต้นตอของปัญหำฝุ่นควัน
สถานที่ดำเนินการ
ป่ำไม้บริเวณภูเขำที่เกิดไฟป่ำบ่อยๆและมีอำกำศแห้ง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสำระวิทยำศำสตร์
กลุ่มสำระสังคมศึกษำ
กลุ่มสำระกำรงำนและเทคโนโลยี
- 7. 5
แหล่งอ้างอิง(เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาใช้การทำโครงงาน)
1. http://www.dnp.go.th/forestfire/FIRESCIENCE/lesson%208/lesson8_1.htm
2. http://www.dnp.go.th/forestfire/FIRESCIENCE/lesson%201/lesson1_6.htm
3. https://www.thairath.co.th/tags/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80
%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88
4. https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2236395