SlideShare a Scribd company logo
1 of 11
Download to read offline
๑ 
ไทยผนึกอาเซียนสร้างดินแดนแห่งความรุ่งเรืองและสันติภาพ
ประเวศ วะสี
( ๔ เมษายน ๒๕๖๑ )
๒ 
 
โลกเจริญด้วยเทคโนโลยีอย่างมหัศจรรย์ก็จริง แต่ก็ตก
อยู่ในสภาวะวิกฤตแห่งความขัดแย้งและรุนแรงสุดๆ
การก่อการร้ายระหว่างประเทศ และการใช้ระเบิดฆ่า
ตัวตาย เป็นดัชนีชี้ระดับความรุนแรง
สงครามในตะวันออกกลางที่ผู้คนเสียชีวิตและต้องอพยพทิ้งถิ่นเป็นเรือนล้าน สะท้อนปมขัดแย้ง
ทางเชื้อชาติ ศาสนา การเมือง ที่ถักทอกันอย่างซับซ้อนและเหนียวแน่น จนไม่มีใครสามารถคลาย
ออกได้ ความขัดแย้งระหว่างยิวกับอาหรับในปาเลสไตน์ลึกซึ้งรุนแรงถึงเลือดถึงเนื้อที่ดึง
มหาอํานาจมาเกี่ยวข้อง และมีความเสี่ยงต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ความขัดแย้งระหว่างโลก
ตะวันตกกับโลกอิสลาม ๑,๕๐๐ ล้านคน มีมาตั้งแต่สงครามครูเสด และยังมองไม่เห็นทางออกด้วย
สันติ ตรงข้ามกับบานปลายกลายเป็นสงครามครูเสดโลก ความขัดแย้งระหว่างมุสลิต่างนิกายคือ
ซุนนีย์กับชีอะห์ซึ่งไม่น่ามีก็มี และเป็นเรื่องใหญ่ที่ไปพัวพันกับความรุนแรงและสงคราม
ในสภาวะวิกฤตความรุนแรงโลกเช่นนี้ ขณะนี้ไม่มีใครแก้ได้ มหาอํานาจ แม้มีอํานาจก็แก้
ไม่ได้ เพราะเป็นคู่กรณีเสียเอง
ในสภาพเช่นนี้ควรหันมาดูจุดแข็งของประเทศเล็กๆ อย่างไทย
จุดแข็งของไทย
ท่ามกลางความ
ขัดแย้งรุนแรงถึง
เลือดถึงเนื้อในโลก
๓ 
 
ต้องดูประวัติศาสตร์ ในยุคล่าอาณานิคมประเทศน้อย
ใหญ่รอบประเทศไทย ทั้งใกล้และไกล ล้วนตกเป็น
เมืองขึ้นของมหาอํานาจยุโรป ยกเว้นประเทศไทย
ลองดูว่าประเทศไทยทําอย่างไร
ประเทศพม่าใช้วิธีสู้หัวชนฝาแล้วแพ้ พระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัต ถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย
และสวรรคตที่นั่น ไทยใช้การเจรจาผ่อนปรนยืดหยุ่นประนีประนอม และวิธีทางการทูต เมื่อทราบ
ว่า ซาเรวิช (มกุฎราชกุมารของรัสเซีย) เสด็จมาเอเซีย ทางไทยก็ล็อบบี้ให้แวะประเทศไทย เป็น
พระราชอาคันตุกะของ ร.๕ ซึ่งทรงจัดการรับเสด็จด้วยมิตรไมตรีอย่างดีเลิศ มกุฎราชกุมาร
พระองค์นี้ต่อมาเป็นพระเจ้าซาร์นิโคลาส ที่ ๒ ของรัสเซีย เมื่อ ร.๕ เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก
พ.ศ. ๒๔๔๐ ก็มีการวางกุศโลบายอย่างดีโดยเสด็จรัสเซียก่อน พระเจ้าซาร์นิโคลาสส่งภาพคู่
ระหว่างพระองค์ท่านกับพระปิยมิตรไปลงหนังสือพิมพ์ทั่วยุโรป เป็นการสื่อสารความเป็นมิตรสนิท
ระหว่างสยามกับรัสเซีย เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จถึงฝรั่งเศสและอังกฤษ ประเทศเหล่านั้นก็
ได้รับรู้ถึงสัมพันธภาพระหว่างสยามกับรัสเซียแล้ว นี้เป็นวิถีทางการทูตที่ผู้นําสยามดําเนินเพื่อลด
ความรุนแรงที่มหาอํานาจ เช่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ จะพึงทํากับสยาม
เมื่อเรือรบฝรั่งเศสเข้ามาทอดสมอในแม่น้ําเจ้าพระยาเพื่อคุกคามไทย มีบันทึกที่พบใน
ประเทศอังกฤษว่า เมื่อเสนาบดีต่างประเทศไทยขึ้นเหยียบเรือรบฝรั่งเศสเพื่อเจรจา เบื้องแรกฝ่าย
ฝรั่งเศสตึงเครียด แต่เมื่อคุยกันพักหนึ่งฝ่ายฝรั่งเศสก็หย่อนคลายเอาไวน์ออกมาเลี้ยง คนไทยมีฝีมือ
ในการเจรจาเชิงยืดหยุ่นประนีประนอม
เมื่อคืนวันสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช กลุ่มแบล็คเซฟ เทมเบอร์ เข้ายึดสถานทูต
อิสราเอลในกรุงเทพฯ กลุ่มนี้มีประวัติว่าเมื่อยึดที่ไหน ไม่มีที่ไม่มีใครตาย ทีมไทยที่ไปเจรจา
ประกอบด้วย พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และอีกท่านหนึ่ง ฝีมือเจรจาของ
กลุ่มนี้เรียกว่าสุดๆ ทั้งชวนกินข้าวด้วยกันโดยกินให้ดูว่าไม่มียาพิษ รับปากจะขึ้นเครื่องบินไปส่ง
ด้วยเพื่อไม่ให้ใครทําร้าย กลุ่มได้ยอมจากไปโดยไม่ได้ฆ่าใครเลย
ในสงครามในป่าระหว่างคนไทยด้วยกัน ในความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองเรื่อง
คอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงถึงขั้นจับอาวุธขึ้นประหัตประหารกัน จู่ๆ ก็เกิดคําสั่ง
นายกรัฐมนตรี 66/2523 ถือว่าคนที่จับอาวุธขึ้นต่อสู้อํานาจรัฐไม่ใช่ศัตรู แต่คือผู้ร่วมพัฒนาชาติ
จุดแข็งของไทย
คืออะไร
๔ 
ไทย สงครามยุติลง คนไทยที่เข้าป่าจับอาวุธคืนเมือง กลายเป็นนักวิชาการบ้าง นักการเมืองบ้าง
นักธุรกิจบ้าง กลมกลืนไปในสังคม เสมือนไม่เคยมีเรื่องอะไร คนไทยทําได้จริงๆ
จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าจุดแข็งของไทยคือความอ่อน(โยน) ยืดหยุ่น ประนีประนอม และ
เจรจาลดความรุนแรง ซึ่งควรจะใช้ให้เป็นประโยชน์ในสภาวะที่โลกขาดความยืดหยุ่น
ประนีประนอม เราจะต้องสลัดตัวออกจากการดูถูกตัวเอง และดูถูกกันเอง คิดและทําเรื่องใหญ่ๆ
๕ 
 
ประเทศอาเซียน ๑๐ ประเทศ รวมกันมี
ประชากรประมาณ ๖๐๐ ล้านคน เป็น ๒ เท่า
ของสหรัฐอเมริกา และใหญ่กว่าอียูเล็กน้อย
 
ฉะนั้นถ้าอาเซียนผนึกกัน และมีความแข็งแรงจะมีอํานาจต่อรองมากทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง และสันติภาพ
เอเซียอาคเณย์ หรือ สุวรรณภูมิ ในยุคระดับน้ําทะเลต่ํา เชื่อมโยงเป็นแผ่นดินเดียวกัน เป็น
ทวีปๆ หนึ่งก็ว่าได้ ถ้าเช็คดีเอ็นเอจะพบความร่วมในพันธุกรรมอย่างสําคัญ เอเซียอาคเณย์อยู่
ระหว่างอารยธรรมใหญ่ ๒ อารยธรรม คือ อารยธรรมลุ่มแม่น้ําสินธุและอารยธรรมลุ่มแม่น้ําฮวงโห
แต่สุวรรณภูมิก็มีอารยธรรมของตนเองด้วย ที่ตั้งของสุวรรณภูมิก็เป็นจุดแข็ง เพราะเป็นจตุรัสที่
เชื่อมต่อ เหนือ-ใต้ และ ตะวันออก-ตะวันตก ประเทศไทยก็เกือบจะอยู่ตรงกลางของเอเซีย
อาคเณย์หรืออาเซียน จากจุดแข็งของไทยที่กล่าวถึงในข้อ ๒ และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์กลางอาเซียน
ควรที่คนไทยจะรวมตัวกันสร้างความเข้มแข็งของอาเซียน และอาศัยอาเซียนเป็นฐานต่อไปมี
บทบาทในโลก การที่จะมีคนไทยเป็นรัฐบุรุษ หรือผู้นําระดับโลก มีความสําคัญต่อการยกระดับจิต
วิญญาณของประเทศไทย และมีประโยชน์ต่อสันติภาพของโลก
ถ้าอาเซียนผนึก
กันให้แข็งแรง
เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
๖ 
ท่ามกลางโลกที่ไร้สันติภาพ และยากที่จะสร้าง
สันติภาพ อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความสําเร็จใน
การสร้างสันติภาพค่อนข้างมาก
ที่นี่เคยเกิดสงครามมาก่อน คือสงครามเวียดนาม สงครามโจรจีนคอมมิวนิสต์ในมาเลย์ สงครามชน
เผ่าในเมียนมา การจับอาวุธขึ้นต่อสู้ในป่าในประเทศไทย แต่ทั้งหมดบัดนี้สงบ เวียดนามซึ่งได้รับ
ความเสียหายอย่างมากก็ไม่ได้มีความแค้นฝังใจต่ออเมริกันหรือไทย กลับสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อ
เพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ นับว่ามีความยืดหยุ่น ที่แตกต่างไปจากคนในตะวันออกกลาง เมื่อ
เมียนม่าตกอยู่ใต้ระบบเผด็จการทหารอันยาวนาน อเมริกันก็ยุงยงไทยให้ต่อต้านพม่า และเคยนํา
กลุ่มผู้ได้รับรางวัลโนเบลไปตะโกนประท้วงเมียนมาอยู่ที่ชายแดนไทย แต่ไทยก็มิได้ทําตามอเมริกัน
ในเรื่องนี้ กลับช่วยประคับประคองเมียนมาให้ผ่านวิกฤตไปได้ ถ้าดูให้ดีๆ คนในอาเซียนน่าจะมีวิถี
คิดเชิงยืดหยุ่นประนีประนอมมากกว่าคนตะวันออกกลางและตะวันตก ที่มีความแค้นฝังใจต่อกัน
อันไม่อาจลืมเลือนหรือให้อภัย
หากนักวิจารณ์สันติภาพใน ๑๐ ประเทศอาเซียน รวมตัวกันเป็นเครือข่าย ASEAN Peace
Initiatives ทําการศึกษาค้นคว้าลงลึกถึงวิถีคิดเชิงสันติภาพของประชาคมอาเซียน และส่งเสริมให้
ยิ่งๆ ขึ้น ในประชาคมอาเซียนมีมุสลิมอยู่จํานวนมาก ถ้าอาเซียนขับเคลื่อนเรื่องสันติภาพอย่าง
จริงจัง พี่น้องมุสลิมร่วมกับพี่น้องอื่นๆ จะเป็นพลังเพื่อสันติภาพ และพลังนี้จะสามารถขยายไปช่วย
สร้างสันติภาพในโลก
บทบาทของอาเซียน
ต่อสันติภาพโลก
๗ 
 
กลไกอาเซียน ไม่ควรแต่มีทางรัฐบาล
เท่านั้น เพราะมีข้อจํากัด แต่ควรจะมี
กลไลภาคสังคม ซึ่งมีความคล่องตัว
หลากหลายและศักยภาพมาก โดยกลไกภาครัฐกับกลไกภาคสังคมต่างเป็นอิสระ แต่เชื่อมโยง
สนับสนุนซึ่งกันและกัน
แนวคิดและแนวทางบทบาทภาคสังคมในการผนึกความเข้มแข็งของอาเซียนอาจมีได้ ดังนี้
(๑) ASEAN Think Tanks เป็นหัวใจที่จะโยงไปสู่เรื่องอื่นๆ นักคิดเรื่องอาเซียนในแต่ละประเทศ
ควรจะรวมตัวกันเป็น ASEAN Think Tank และกลุ่มความคิดจากทั้ง ๑๐ ประเทศ รวมกัน
เป็นเครือข่ายของนักคิดเรื่องอาเซียน กลุ่มความคิดในแต่ละประเทศ และเครือข่ายนักคิด
อาเซียน ควรจะประชุมกันบ่อยๆ จะเกิดความคิดเรื่องดีๆ ที่ควรทําออกมาอย่างต่อเนื่อง
(๒) ASEAN Information and Communication มีการวิจัยรวบรวมข้อมูลของแต่ละ
ประเทศแล้วนํามาสื่อสารให้รู้ถึงกัน เพื่อความเข้าใจและชื่นชม รวมทั้งใช้ในการวางแผนที่จะ
ทํางานต่อไป ทั้งนี้โดยสถานทูตที่ตั้งอยู่ในแต่ละประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน
วิชาการ และภาคธุรกิจ
(๓) ASEAN Business Council for Development ภาคธุรกิจเป็นภาคที่มีพลังมากและมี
ความคล่องตัวสูง ควรจะรวมตัวกันเป็นสภาภาคธุรกิจเพื่อการพัฒนาอาเซียน และมีบทบาทใน
การพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาทุกด้าน
(๔) เครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมการศึกษาแห่งอาเซียน ประเทศในอาเซียนมีความเหลื่อมล้ํา
ในโอกาสการศึกษามาก ควรช่ายเหลือกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ํานี้ ทั้งนี้อาจมีการตั้งกองทุน
สนับสนุนการศึกษาอาเซียนมีหลายประเทศ ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยในอาเซียนอาจ
รับหน้าที่ทําแผนและขับเคลื่อนแผนการศึกษาอาเซียน
บทบาทของภาคสังคม
ในการผนึกความ
เข้มแข็งของอาเซียน
๘ 
(๕) เทคโนโลยีแห่งอาเซียน อาเซียนต้องมีความเข้มแข็งทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาชีวิต
เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีในประเทศอาเซียนต้องร่วมมือ
กัน รวมทั้ง AIT ต้องเพิ่มศักยภาพ และขยายบทบาทให้ครอบคลุมพื้นที่อาเซียนทั้งหมด มี
ประเทศที่สนใจในอาเซียน ที่เรียกว่า อาเซียน+3 หรือ+4 เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง ต้อง
สามารถดึงมาสร้างความเข้มแข็งทางเทคโนโลยีให้อาเซียนอย่างเต็มที่
การจะมีสมรรถนะทางเทคโนโลยีที่ยากๆ ต้องมีความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์
พื้นฐานด้วย คือ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์
(๖) ระบบการท่องเที่ยวอาเซียนรวมทั้งการแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรม อาเซียนต้องพัฒนา
ระบบการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การเดินทาง บริการ มัคคุเทศก์ และ
อื่นๆ ถ้าทําอย่างครบวงจรจะกระตุ้นการวิจัยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม การอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อม การผลิตสินค้าวัฒนธรรม การเพิ่มและกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม และ
สันติภาพ ถ้าประชาชนระหว่างประเทศมีโอกาสทํามาค้าขายและมีได้มีรายได้อย่างเป็นธรรม
จะไม่มีใครสนใจ และอยากให้เกิดสงครามชายแดน การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องมือส่งเสริมการ
แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมที่สําคัญที่สุด
0
รูปที่ ๑ สรุปหัวขอที่อาจขับเคลื่อนในการผนึกอาเซียน
๑. ASEAN Think Tank
๓. ASEAN Business Council
for Development
๔. เครือขายความ
รวมมือสงเสริม
การศึกษาอาเซียน
๕. เทคโนโลยีแหงอาเซียน
๗. ระบบสุขภาพอาเซียน
๘. อาเซียนดินแดน
แหงสันติภาพ
๙. ระบบอาสาสมัคร
สันติภาพอาเซียน
ASEAN Peace Crops
๑๐. สถาบันการทูตชั้นสูง
แหงอาเซียน
๖. ระบบการทองเที่ยว
อาเซียนรวมทั้งการแลก
เปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม
๒. ASEAN Information
and Communication
๙ 
(๗) ระบบสุขภาพอาเซียน ประเทศอาเซียนเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก ๒ ภูมิภาค คือ
SEARO และ WEPRO นอกจากเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยดังกล่าวแล้ว ประเทศอาซียน
๑๐ ประเทศ ควรจะเชื่อมโยงระบบสุขภาพเข้าด้วยกัน เป็นระบบสุขภาพอาเซียน และ
พยายามทําให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีความ
เป็นราชการอยู่มาก
(๘) อาเซียนดินแดนแห่งสันติภาพ นักวิชาการสันติภาพ และนักสันติวิธีในประเทศอาเซียนควร
รวมตัวกันส่งเสริมให้อาเซียนเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ และทําหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพให้
ภูมิภาคอื่นๆ ของโลก งานสันติภาพมีมิติเชิงลึกเกี่ยวกับความเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความ
เป็นมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ทั้งระดับบุคคล ระดับองค์กร
และระดับสังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ํา และสร้างความเป็นธรรม การส่งเสริมให้อาเซียนเป็น
ดินแดนแห่งสันติภาพจะพาเราไปไกลแสนไกลบนเส้นทางการพัฒนาอันเป็นอารยะ การเป็น
มหาอํานาจทางกําลังอาวุธจะพาตัวเองและผู้อื่นไปสู่ความลําบากและหายนะ แต่การเป็น
มหาอํานาจทางสันติภาพเป็นความเจริญอย่างแท้จริง อาเซียนควรเป็นมหาอํานาจทางสันติภาพ
(๙) ASEAN Peace Corps ทั้ง ๑๐ ประเทศอาเซียน ควรจะตกลงกันที่จะมีนโยบาย ASEAN
Peace Corps โดยแต่ละประเทศจะส่งคนหนุ่มสาวของตนเป็นอาสาสมัครสันติภาพไปทํางาน
ในอีก ๙ ประเทศ ระบบอาสาสมัครสันติภาพแห่งอาเซียนจะเป็นเครื่องมือสําคัญในการถักทอ
ประเทศอาเซียนเข้ามาด้วยกัน
(๑๐) สถาบันการทูตชั้นสูงแห่งอาเซียน คนอาเซียนต้องร่วมกันสร้างรัฐบุรุษทางการทูตแห่ง
อาเซียน เพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ และสร้างสันติภาพระหว่างแผ่นดินอาเซียนกับ
โลก คนไทยและคนอาเซียนโดยรวมมีวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่น ประนีประนอม และความสามารถ
ในการเจรจาดังกล่าวแต่ต้น เหมาะแก่การทูต แต่ควรมีระบบส่งเสริม และสนับสนุน สถาบัน
การทูตชั้นสูงแห่งอาเซียนเป็นเครื่องมือสร้างรัฐบุรุษทางการทูตแห่งอาเซียน เพื่อไปเชื่อมโยง
แผ่นดินอาเซียนกับโลกให้เกิดโลกแห่งสันติภาพ ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างของกิจกรรมเพื่อผนึก
อาเซียนสู่โลกสากล ถ้ามีเครือข่ายนักคิดอาเซียน หรือ ASEAN Think Tanks ก็จะเกิด
ความคิดใหม่ๆ ดีๆ ออกมาได้เรื่อยๆ
๑๐ 
(๑) เริ่มต้นจากการก่อตัวขึ้นเอง
(Self-organized) ของคนที่
เหมาะสมจํานวนน้อย อย่าเพิ่ง
แต่งตั้งคณะกรรมการ
 
การก่อตัวขึ้นเองทําให้มีนิวเคลียสซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติเหมาะสม ในขณะที่วิธีเริ่มต้น
ด้วยคณะกรรมการใหญ่โตมีปัญหาเรื่องคุณภาพและความเหมาะสม ทําให้พิการตั้งแต่เริ่มต้น
(๒) กลุ่มแกนดังกล่าวในข้อ (๑) ปรึกษาหารือกันค่อยๆ เพิ่มคนเข้ามาเป็น Think Tank เรื่อง
อาเซียน Think Tank พบปะกันบ่อยๆ จะเกิดความคิดว่าควรทําอะไรบ้าง
(๓) เรื่องที่ต้องทําอย่างหนึ่งคือส่งเสริมให้มี Think Tank เรื่องอาเซียนเกิดขึ้นในแต่ละสมาชิก
ประเทศของอาเซียน และเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า ASEAN Think Tanks ตามที่
กล่าวเป็นหัวข้อแรกในตอนที่ ๕ สถานที่ที่เหมาะในการประชุม ASEAN Think Tanks คือ ตึก
C-Asean เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่ดี
(๔) ควรสร้างความเป็นภาคีระหว่าง ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ กรมอาเซียนของกระทรวง
ต่างประเทศ
ภาควิชาการ ต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างเข้มแข็งให้เข้าใจภูมิหลังของแต่ละประเทศอย่าง
ละเอียด โดยมีความร่วมมือกันระหว่างสถานทูตไทยในแต่ละประเทศกับสถาบันทางวิชาการ
ในประเทศไทย สภาวิจัยแห่งชาติ และสกว. ควรเข้ามาเป็นภาคี และมีนโยบายสนับสนุนการ
วิจัยให้ไทยเข้าใจอาเซียนอย่างลึกซึ้ง
ภาคธุรกิจ เนื่องจากการดําเนินการธุรกิจในประเทศอาเซียนจึงมีข้อมูล และการสื่อสารเกี่ยวกับ
อาเซียน ควรจะมีบทบาทให้ยิ่งขึ้นคือก่อตัวเป็น Business Council for Development เพื่อ
เป็นภาคีในการร่วมผนึกอาเซียนให้เป็นแผ่นดินแห่งความรุ่งเรือง และสันติ
กรมอาเซียน เป็นภาคีที่จะเชื่อมโยงข้อเสนอแนะของ Think Tank ไปสู่นโยบายของรัฐบาล
(๕) ดําเนินการตามข้อต่างๆ ที่กล่าวในตอนที่ ๕ และสรุปในรูปที่ ๑ หรืออื่นใดตามข้อเสนอแนะ
ของ Think Tanks
(๖) การเงินสนับสนุน ควรจะมาจากกหลายทาง กรมอาเซียนควรตั้งงบประมาณสนับสนุน เพราะ
การขับเคลื่อนดังกล่าวทั้งหมดนี้เป็นการสนับสนุนงานของกรมอาเซียน ภาคธุรกิจควรบริจาค
สนับสนุนอย่างเป็นกอบเป็นกําเพราะเป็นเรื่องสําคัญของคนไทยทั้งหมดร่วมกัน เรื่องบทบาท
วิธีดําเนินงาน
การผนึกอาเซียน
สร้างแผ่นดินแห่ง
ความรุ่งเรืองและสันติ
๑๑ 
ของประเทศไทยในการผนึกอาเซียนสร้างแผ่นดินแห่งความรุ่งเรืองและสันติภาพ เป็นเรื่อง
ใหญ่ระดับโลก การที่คนไทยคิดแต่เรื่องเล็กๆ ทําให้ติดอยู่ในความคับแคบ ดูถูกศักยภาพของ
ตัวเอง และทะเลาะเบาะแว้งจิกตีกันเหมือนไก่อยู่ในเข่ง เราต้องรวมตัวกันออกจากเข่ง บินสู่
โลกกว้าง ช่วยกันสร้างแผ่นดินแห่งสันติภาพและความรุ่งเรือง คนไทยและประเทศไทยมี
ศักยภาพที่จะทําได้ เพราะมีจุดแข็งเหมาะที่จะทํา
อาจตั้งมูลนิธิเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงาน เช่น มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (ประเทศ
ไทย) International Peace Foundation (Thailand) หรือชื่ออื่นตามที่กลุ่มเห็นร่วมกัน
ที่เสนอข้างต้นเป็นการมองภาพรวมอย่างคร่าวๆ เมื่อมี Think Tank ในเรื่องประเทศไทย
ผนึกอาเซียนสร้างดินแดนแห่งความรุ่นเรืองและสันติภาพ จะสามารถทําได้ดีกว่านี้
---------------------------------------------------

More Related Content

More from Pattie Pattie

More from Pattie Pattie (20)

สรุปการประชุม AAR การเข้าร่วมงาน HA National Forum ครั้งที่ 24 จาก กสศ
สรุปการประชุม AAR การเข้าร่วมงาน HA National Forum ครั้งที่ 24 จาก กสศสรุปการประชุม AAR การเข้าร่วมงาน HA National Forum ครั้งที่ 24 จาก กสศ
สรุปการประชุม AAR การเข้าร่วมงาน HA National Forum ครั้งที่ 24 จาก กสศ
 
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
สรุป Schools That Matter วันที่ 10 เมษายน 2567
 
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉินรูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
รูปแบบการขยายผลการจัดการเรียนรู้การแพทย์ฉุกเฉิน
 
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิรAIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
AIforTeaching โดย รศ. ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร
 
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิชการบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
การบริหารวิชาการและหลักสูตร บรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช
 
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
The Lancet Commission on peaceful societies through health equity and gender ...
 
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganizationคณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
คณะพยาบาลศาสตร์ สบช KMSharingforLearningOrganization
 
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสีการประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
การประชุมกลุ่มสามพราน ตระกูล ส โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี
 
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
Transformative Education——Pearls in Medical Education 2567
 
ResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdfResearchfoundationPro.pdf
ResearchfoundationPro.pdf
 
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdfPMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
PMAYP2024_Opening speech (Prof. Vicharn).pdf
 
670111_PDF.pdf
670111_PDF.pdf670111_PDF.pdf
670111_PDF.pdf
 
NoteMemoCare.pdf
NoteMemoCare.pdfNoteMemoCare.pdf
NoteMemoCare.pdf
 
KrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptxKrungthepThaonUniv.pptx
KrungthepThaonUniv.pptx
 
จาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptxจาก KM สู่ SLC.pptx
จาก KM สู่ SLC.pptx
 
Udom_Pdf.pdf
Udom_Pdf.pdfUdom_Pdf.pdf
Udom_Pdf.pdf
 
Kregrit_Pdf.pdf
Kregrit_Pdf.pdfKregrit_Pdf.pdf
Kregrit_Pdf.pdf
 
Phuket_sandbox.pdf
Phuket_sandbox.pdfPhuket_sandbox.pdf
Phuket_sandbox.pdf
 
Surin_ppt.pptx
Surin_ppt.pptxSurin_ppt.pptx
Surin_ppt.pptx
 
Nakornsawan.pdf
Nakornsawan.pdfNakornsawan.pdf
Nakornsawan.pdf
 

Thaiand asian

  • 2. ๒    โลกเจริญด้วยเทคโนโลยีอย่างมหัศจรรย์ก็จริง แต่ก็ตก อยู่ในสภาวะวิกฤตแห่งความขัดแย้งและรุนแรงสุดๆ การก่อการร้ายระหว่างประเทศ และการใช้ระเบิดฆ่า ตัวตาย เป็นดัชนีชี้ระดับความรุนแรง สงครามในตะวันออกกลางที่ผู้คนเสียชีวิตและต้องอพยพทิ้งถิ่นเป็นเรือนล้าน สะท้อนปมขัดแย้ง ทางเชื้อชาติ ศาสนา การเมือง ที่ถักทอกันอย่างซับซ้อนและเหนียวแน่น จนไม่มีใครสามารถคลาย ออกได้ ความขัดแย้งระหว่างยิวกับอาหรับในปาเลสไตน์ลึกซึ้งรุนแรงถึงเลือดถึงเนื้อที่ดึง มหาอํานาจมาเกี่ยวข้อง และมีความเสี่ยงต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ความขัดแย้งระหว่างโลก ตะวันตกกับโลกอิสลาม ๑,๕๐๐ ล้านคน มีมาตั้งแต่สงครามครูเสด และยังมองไม่เห็นทางออกด้วย สันติ ตรงข้ามกับบานปลายกลายเป็นสงครามครูเสดโลก ความขัดแย้งระหว่างมุสลิต่างนิกายคือ ซุนนีย์กับชีอะห์ซึ่งไม่น่ามีก็มี และเป็นเรื่องใหญ่ที่ไปพัวพันกับความรุนแรงและสงคราม ในสภาวะวิกฤตความรุนแรงโลกเช่นนี้ ขณะนี้ไม่มีใครแก้ได้ มหาอํานาจ แม้มีอํานาจก็แก้ ไม่ได้ เพราะเป็นคู่กรณีเสียเอง ในสภาพเช่นนี้ควรหันมาดูจุดแข็งของประเทศเล็กๆ อย่างไทย จุดแข็งของไทย ท่ามกลางความ ขัดแย้งรุนแรงถึง เลือดถึงเนื้อในโลก
  • 3. ๓    ต้องดูประวัติศาสตร์ ในยุคล่าอาณานิคมประเทศน้อย ใหญ่รอบประเทศไทย ทั้งใกล้และไกล ล้วนตกเป็น เมืองขึ้นของมหาอํานาจยุโรป ยกเว้นประเทศไทย ลองดูว่าประเทศไทยทําอย่างไร ประเทศพม่าใช้วิธีสู้หัวชนฝาแล้วแพ้ พระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัต ถูกเนรเทศไปอยู่อินเดีย และสวรรคตที่นั่น ไทยใช้การเจรจาผ่อนปรนยืดหยุ่นประนีประนอม และวิธีทางการทูต เมื่อทราบ ว่า ซาเรวิช (มกุฎราชกุมารของรัสเซีย) เสด็จมาเอเซีย ทางไทยก็ล็อบบี้ให้แวะประเทศไทย เป็น พระราชอาคันตุกะของ ร.๕ ซึ่งทรงจัดการรับเสด็จด้วยมิตรไมตรีอย่างดีเลิศ มกุฎราชกุมาร พระองค์นี้ต่อมาเป็นพระเจ้าซาร์นิโคลาส ที่ ๒ ของรัสเซีย เมื่อ ร.๕ เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๔๐ ก็มีการวางกุศโลบายอย่างดีโดยเสด็จรัสเซียก่อน พระเจ้าซาร์นิโคลาสส่งภาพคู่ ระหว่างพระองค์ท่านกับพระปิยมิตรไปลงหนังสือพิมพ์ทั่วยุโรป เป็นการสื่อสารความเป็นมิตรสนิท ระหว่างสยามกับรัสเซีย เมื่อพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จถึงฝรั่งเศสและอังกฤษ ประเทศเหล่านั้นก็ ได้รับรู้ถึงสัมพันธภาพระหว่างสยามกับรัสเซียแล้ว นี้เป็นวิถีทางการทูตที่ผู้นําสยามดําเนินเพื่อลด ความรุนแรงที่มหาอํานาจ เช่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ จะพึงทํากับสยาม เมื่อเรือรบฝรั่งเศสเข้ามาทอดสมอในแม่น้ําเจ้าพระยาเพื่อคุกคามไทย มีบันทึกที่พบใน ประเทศอังกฤษว่า เมื่อเสนาบดีต่างประเทศไทยขึ้นเหยียบเรือรบฝรั่งเศสเพื่อเจรจา เบื้องแรกฝ่าย ฝรั่งเศสตึงเครียด แต่เมื่อคุยกันพักหนึ่งฝ่ายฝรั่งเศสก็หย่อนคลายเอาไวน์ออกมาเลี้ยง คนไทยมีฝีมือ ในการเจรจาเชิงยืดหยุ่นประนีประนอม เมื่อคืนวันสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช กลุ่มแบล็คเซฟ เทมเบอร์ เข้ายึดสถานทูต อิสราเอลในกรุงเทพฯ กลุ่มนี้มีประวัติว่าเมื่อยึดที่ไหน ไม่มีที่ไม่มีใครตาย ทีมไทยที่ไปเจรจา ประกอบด้วย พล.อ.อ.ทวี จุลละทรัพย์ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และอีกท่านหนึ่ง ฝีมือเจรจาของ กลุ่มนี้เรียกว่าสุดๆ ทั้งชวนกินข้าวด้วยกันโดยกินให้ดูว่าไม่มียาพิษ รับปากจะขึ้นเครื่องบินไปส่ง ด้วยเพื่อไม่ให้ใครทําร้าย กลุ่มได้ยอมจากไปโดยไม่ได้ฆ่าใครเลย ในสงครามในป่าระหว่างคนไทยด้วยกัน ในความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองเรื่อง คอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงถึงขั้นจับอาวุธขึ้นประหัตประหารกัน จู่ๆ ก็เกิดคําสั่ง นายกรัฐมนตรี 66/2523 ถือว่าคนที่จับอาวุธขึ้นต่อสู้อํานาจรัฐไม่ใช่ศัตรู แต่คือผู้ร่วมพัฒนาชาติ จุดแข็งของไทย คืออะไร
  • 4. ๔  ไทย สงครามยุติลง คนไทยที่เข้าป่าจับอาวุธคืนเมือง กลายเป็นนักวิชาการบ้าง นักการเมืองบ้าง นักธุรกิจบ้าง กลมกลืนไปในสังคม เสมือนไม่เคยมีเรื่องอะไร คนไทยทําได้จริงๆ จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าจุดแข็งของไทยคือความอ่อน(โยน) ยืดหยุ่น ประนีประนอม และ เจรจาลดความรุนแรง ซึ่งควรจะใช้ให้เป็นประโยชน์ในสภาวะที่โลกขาดความยืดหยุ่น ประนีประนอม เราจะต้องสลัดตัวออกจากการดูถูกตัวเอง และดูถูกกันเอง คิดและทําเรื่องใหญ่ๆ
  • 5. ๕    ประเทศอาเซียน ๑๐ ประเทศ รวมกันมี ประชากรประมาณ ๖๐๐ ล้านคน เป็น ๒ เท่า ของสหรัฐอเมริกา และใหญ่กว่าอียูเล็กน้อย   ฉะนั้นถ้าอาเซียนผนึกกัน และมีความแข็งแรงจะมีอํานาจต่อรองมากทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสันติภาพ เอเซียอาคเณย์ หรือ สุวรรณภูมิ ในยุคระดับน้ําทะเลต่ํา เชื่อมโยงเป็นแผ่นดินเดียวกัน เป็น ทวีปๆ หนึ่งก็ว่าได้ ถ้าเช็คดีเอ็นเอจะพบความร่วมในพันธุกรรมอย่างสําคัญ เอเซียอาคเณย์อยู่ ระหว่างอารยธรรมใหญ่ ๒ อารยธรรม คือ อารยธรรมลุ่มแม่น้ําสินธุและอารยธรรมลุ่มแม่น้ําฮวงโห แต่สุวรรณภูมิก็มีอารยธรรมของตนเองด้วย ที่ตั้งของสุวรรณภูมิก็เป็นจุดแข็ง เพราะเป็นจตุรัสที่ เชื่อมต่อ เหนือ-ใต้ และ ตะวันออก-ตะวันตก ประเทศไทยก็เกือบจะอยู่ตรงกลางของเอเซีย อาคเณย์หรืออาเซียน จากจุดแข็งของไทยที่กล่าวถึงในข้อ ๒ และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์กลางอาเซียน ควรที่คนไทยจะรวมตัวกันสร้างความเข้มแข็งของอาเซียน และอาศัยอาเซียนเป็นฐานต่อไปมี บทบาทในโลก การที่จะมีคนไทยเป็นรัฐบุรุษ หรือผู้นําระดับโลก มีความสําคัญต่อการยกระดับจิต วิญญาณของประเทศไทย และมีประโยชน์ต่อสันติภาพของโลก ถ้าอาเซียนผนึก กันให้แข็งแรง เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
  • 6. ๖  ท่ามกลางโลกที่ไร้สันติภาพ และยากที่จะสร้าง สันติภาพ อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความสําเร็จใน การสร้างสันติภาพค่อนข้างมาก ที่นี่เคยเกิดสงครามมาก่อน คือสงครามเวียดนาม สงครามโจรจีนคอมมิวนิสต์ในมาเลย์ สงครามชน เผ่าในเมียนมา การจับอาวุธขึ้นต่อสู้ในป่าในประเทศไทย แต่ทั้งหมดบัดนี้สงบ เวียดนามซึ่งได้รับ ความเสียหายอย่างมากก็ไม่ได้มีความแค้นฝังใจต่ออเมริกันหรือไทย กลับสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อ เพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ นับว่ามีความยืดหยุ่น ที่แตกต่างไปจากคนในตะวันออกกลาง เมื่อ เมียนม่าตกอยู่ใต้ระบบเผด็จการทหารอันยาวนาน อเมริกันก็ยุงยงไทยให้ต่อต้านพม่า และเคยนํา กลุ่มผู้ได้รับรางวัลโนเบลไปตะโกนประท้วงเมียนมาอยู่ที่ชายแดนไทย แต่ไทยก็มิได้ทําตามอเมริกัน ในเรื่องนี้ กลับช่วยประคับประคองเมียนมาให้ผ่านวิกฤตไปได้ ถ้าดูให้ดีๆ คนในอาเซียนน่าจะมีวิถี คิดเชิงยืดหยุ่นประนีประนอมมากกว่าคนตะวันออกกลางและตะวันตก ที่มีความแค้นฝังใจต่อกัน อันไม่อาจลืมเลือนหรือให้อภัย หากนักวิจารณ์สันติภาพใน ๑๐ ประเทศอาเซียน รวมตัวกันเป็นเครือข่าย ASEAN Peace Initiatives ทําการศึกษาค้นคว้าลงลึกถึงวิถีคิดเชิงสันติภาพของประชาคมอาเซียน และส่งเสริมให้ ยิ่งๆ ขึ้น ในประชาคมอาเซียนมีมุสลิมอยู่จํานวนมาก ถ้าอาเซียนขับเคลื่อนเรื่องสันติภาพอย่าง จริงจัง พี่น้องมุสลิมร่วมกับพี่น้องอื่นๆ จะเป็นพลังเพื่อสันติภาพ และพลังนี้จะสามารถขยายไปช่วย สร้างสันติภาพในโลก บทบาทของอาเซียน ต่อสันติภาพโลก
  • 7. ๗    กลไกอาเซียน ไม่ควรแต่มีทางรัฐบาล เท่านั้น เพราะมีข้อจํากัด แต่ควรจะมี กลไลภาคสังคม ซึ่งมีความคล่องตัว หลากหลายและศักยภาพมาก โดยกลไกภาครัฐกับกลไกภาคสังคมต่างเป็นอิสระ แต่เชื่อมโยง สนับสนุนซึ่งกันและกัน แนวคิดและแนวทางบทบาทภาคสังคมในการผนึกความเข้มแข็งของอาเซียนอาจมีได้ ดังนี้ (๑) ASEAN Think Tanks เป็นหัวใจที่จะโยงไปสู่เรื่องอื่นๆ นักคิดเรื่องอาเซียนในแต่ละประเทศ ควรจะรวมตัวกันเป็น ASEAN Think Tank และกลุ่มความคิดจากทั้ง ๑๐ ประเทศ รวมกัน เป็นเครือข่ายของนักคิดเรื่องอาเซียน กลุ่มความคิดในแต่ละประเทศ และเครือข่ายนักคิด อาเซียน ควรจะประชุมกันบ่อยๆ จะเกิดความคิดเรื่องดีๆ ที่ควรทําออกมาอย่างต่อเนื่อง (๒) ASEAN Information and Communication มีการวิจัยรวบรวมข้อมูลของแต่ละ ประเทศแล้วนํามาสื่อสารให้รู้ถึงกัน เพื่อความเข้าใจและชื่นชม รวมทั้งใช้ในการวางแผนที่จะ ทํางานต่อไป ทั้งนี้โดยสถานทูตที่ตั้งอยู่ในแต่ละประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน วิชาการ และภาคธุรกิจ (๓) ASEAN Business Council for Development ภาคธุรกิจเป็นภาคที่มีพลังมากและมี ความคล่องตัวสูง ควรจะรวมตัวกันเป็นสภาภาคธุรกิจเพื่อการพัฒนาอาเซียน และมีบทบาทใน การพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาทุกด้าน (๔) เครือข่ายความร่วมมือส่งเสริมการศึกษาแห่งอาเซียน ประเทศในอาเซียนมีความเหลื่อมล้ํา ในโอกาสการศึกษามาก ควรช่ายเหลือกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ํานี้ ทั้งนี้อาจมีการตั้งกองทุน สนับสนุนการศึกษาอาเซียนมีหลายประเทศ ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยในอาเซียนอาจ รับหน้าที่ทําแผนและขับเคลื่อนแผนการศึกษาอาเซียน บทบาทของภาคสังคม ในการผนึกความ เข้มแข็งของอาเซียน
  • 8. ๘  (๕) เทคโนโลยีแห่งอาเซียน อาเซียนต้องมีความเข้มแข็งทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีในประเทศอาเซียนต้องร่วมมือ กัน รวมทั้ง AIT ต้องเพิ่มศักยภาพ และขยายบทบาทให้ครอบคลุมพื้นที่อาเซียนทั้งหมด มี ประเทศที่สนใจในอาเซียน ที่เรียกว่า อาเซียน+3 หรือ+4 เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง ต้อง สามารถดึงมาสร้างความเข้มแข็งทางเทคโนโลยีให้อาเซียนอย่างเต็มที่ การจะมีสมรรถนะทางเทคโนโลยีที่ยากๆ ต้องมีความเข้มแข็งทางวิทยาศาสตร์ พื้นฐานด้วย คือ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ (๖) ระบบการท่องเที่ยวอาเซียนรวมทั้งการแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรม อาเซียนต้องพัฒนา ระบบการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การเดินทาง บริการ มัคคุเทศก์ และ อื่นๆ ถ้าทําอย่างครบวงจรจะกระตุ้นการวิจัยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม การอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม การผลิตสินค้าวัฒนธรรม การเพิ่มและกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม และ สันติภาพ ถ้าประชาชนระหว่างประเทศมีโอกาสทํามาค้าขายและมีได้มีรายได้อย่างเป็นธรรม จะไม่มีใครสนใจ และอยากให้เกิดสงครามชายแดน การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องมือส่งเสริมการ แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมที่สําคัญที่สุด 0 รูปที่ ๑ สรุปหัวขอที่อาจขับเคลื่อนในการผนึกอาเซียน ๑. ASEAN Think Tank ๓. ASEAN Business Council for Development ๔. เครือขายความ รวมมือสงเสริม การศึกษาอาเซียน ๕. เทคโนโลยีแหงอาเซียน ๗. ระบบสุขภาพอาเซียน ๘. อาเซียนดินแดน แหงสันติภาพ ๙. ระบบอาสาสมัคร สันติภาพอาเซียน ASEAN Peace Crops ๑๐. สถาบันการทูตชั้นสูง แหงอาเซียน ๖. ระบบการทองเที่ยว อาเซียนรวมทั้งการแลก เปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ๒. ASEAN Information and Communication
  • 9. ๙  (๗) ระบบสุขภาพอาเซียน ประเทศอาเซียนเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก ๒ ภูมิภาค คือ SEARO และ WEPRO นอกจากเป็นสมาชิกขององค์การอนามัยดังกล่าวแล้ว ประเทศอาซียน ๑๐ ประเทศ ควรจะเชื่อมโยงระบบสุขภาพเข้าด้วยกัน เป็นระบบสุขภาพอาเซียน และ พยายามทําให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบขององค์การอนามัยโลก ซึ่งมีความ เป็นราชการอยู่มาก (๘) อาเซียนดินแดนแห่งสันติภาพ นักวิชาการสันติภาพ และนักสันติวิธีในประเทศอาเซียนควร รวมตัวกันส่งเสริมให้อาเซียนเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ และทําหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพให้ ภูมิภาคอื่นๆ ของโลก งานสันติภาพมีมิติเชิงลึกเกี่ยวกับความเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าความ เป็นมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ทั้งระดับบุคคล ระดับองค์กร และระดับสังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ํา และสร้างความเป็นธรรม การส่งเสริมให้อาเซียนเป็น ดินแดนแห่งสันติภาพจะพาเราไปไกลแสนไกลบนเส้นทางการพัฒนาอันเป็นอารยะ การเป็น มหาอํานาจทางกําลังอาวุธจะพาตัวเองและผู้อื่นไปสู่ความลําบากและหายนะ แต่การเป็น มหาอํานาจทางสันติภาพเป็นความเจริญอย่างแท้จริง อาเซียนควรเป็นมหาอํานาจทางสันติภาพ (๙) ASEAN Peace Corps ทั้ง ๑๐ ประเทศอาเซียน ควรจะตกลงกันที่จะมีนโยบาย ASEAN Peace Corps โดยแต่ละประเทศจะส่งคนหนุ่มสาวของตนเป็นอาสาสมัครสันติภาพไปทํางาน ในอีก ๙ ประเทศ ระบบอาสาสมัครสันติภาพแห่งอาเซียนจะเป็นเครื่องมือสําคัญในการถักทอ ประเทศอาเซียนเข้ามาด้วยกัน (๑๐) สถาบันการทูตชั้นสูงแห่งอาเซียน คนอาเซียนต้องร่วมกันสร้างรัฐบุรุษทางการทูตแห่ง อาเซียน เพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ และสร้างสันติภาพระหว่างแผ่นดินอาเซียนกับ โลก คนไทยและคนอาเซียนโดยรวมมีวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่น ประนีประนอม และความสามารถ ในการเจรจาดังกล่าวแต่ต้น เหมาะแก่การทูต แต่ควรมีระบบส่งเสริม และสนับสนุน สถาบัน การทูตชั้นสูงแห่งอาเซียนเป็นเครื่องมือสร้างรัฐบุรุษทางการทูตแห่งอาเซียน เพื่อไปเชื่อมโยง แผ่นดินอาเซียนกับโลกให้เกิดโลกแห่งสันติภาพ ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างของกิจกรรมเพื่อผนึก อาเซียนสู่โลกสากล ถ้ามีเครือข่ายนักคิดอาเซียน หรือ ASEAN Think Tanks ก็จะเกิด ความคิดใหม่ๆ ดีๆ ออกมาได้เรื่อยๆ
  • 10. ๑๐  (๑) เริ่มต้นจากการก่อตัวขึ้นเอง (Self-organized) ของคนที่ เหมาะสมจํานวนน้อย อย่าเพิ่ง แต่งตั้งคณะกรรมการ   การก่อตัวขึ้นเองทําให้มีนิวเคลียสซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติเหมาะสม ในขณะที่วิธีเริ่มต้น ด้วยคณะกรรมการใหญ่โตมีปัญหาเรื่องคุณภาพและความเหมาะสม ทําให้พิการตั้งแต่เริ่มต้น (๒) กลุ่มแกนดังกล่าวในข้อ (๑) ปรึกษาหารือกันค่อยๆ เพิ่มคนเข้ามาเป็น Think Tank เรื่อง อาเซียน Think Tank พบปะกันบ่อยๆ จะเกิดความคิดว่าควรทําอะไรบ้าง (๓) เรื่องที่ต้องทําอย่างหนึ่งคือส่งเสริมให้มี Think Tank เรื่องอาเซียนเกิดขึ้นในแต่ละสมาชิก ประเทศของอาเซียน และเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า ASEAN Think Tanks ตามที่ กล่าวเป็นหัวข้อแรกในตอนที่ ๕ สถานที่ที่เหมาะในการประชุม ASEAN Think Tanks คือ ตึก C-Asean เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่ดี (๔) ควรสร้างความเป็นภาคีระหว่าง ภาควิชาการ ภาคธุรกิจ กรมอาเซียนของกระทรวง ต่างประเทศ ภาควิชาการ ต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างเข้มแข็งให้เข้าใจภูมิหลังของแต่ละประเทศอย่าง ละเอียด โดยมีความร่วมมือกันระหว่างสถานทูตไทยในแต่ละประเทศกับสถาบันทางวิชาการ ในประเทศไทย สภาวิจัยแห่งชาติ และสกว. ควรเข้ามาเป็นภาคี และมีนโยบายสนับสนุนการ วิจัยให้ไทยเข้าใจอาเซียนอย่างลึกซึ้ง ภาคธุรกิจ เนื่องจากการดําเนินการธุรกิจในประเทศอาเซียนจึงมีข้อมูล และการสื่อสารเกี่ยวกับ อาเซียน ควรจะมีบทบาทให้ยิ่งขึ้นคือก่อตัวเป็น Business Council for Development เพื่อ เป็นภาคีในการร่วมผนึกอาเซียนให้เป็นแผ่นดินแห่งความรุ่งเรือง และสันติ กรมอาเซียน เป็นภาคีที่จะเชื่อมโยงข้อเสนอแนะของ Think Tank ไปสู่นโยบายของรัฐบาล (๕) ดําเนินการตามข้อต่างๆ ที่กล่าวในตอนที่ ๕ และสรุปในรูปที่ ๑ หรืออื่นใดตามข้อเสนอแนะ ของ Think Tanks (๖) การเงินสนับสนุน ควรจะมาจากกหลายทาง กรมอาเซียนควรตั้งงบประมาณสนับสนุน เพราะ การขับเคลื่อนดังกล่าวทั้งหมดนี้เป็นการสนับสนุนงานของกรมอาเซียน ภาคธุรกิจควรบริจาค สนับสนุนอย่างเป็นกอบเป็นกําเพราะเป็นเรื่องสําคัญของคนไทยทั้งหมดร่วมกัน เรื่องบทบาท วิธีดําเนินงาน การผนึกอาเซียน สร้างแผ่นดินแห่ง ความรุ่งเรืองและสันติ
  • 11. ๑๑  ของประเทศไทยในการผนึกอาเซียนสร้างแผ่นดินแห่งความรุ่งเรืองและสันติภาพ เป็นเรื่อง ใหญ่ระดับโลก การที่คนไทยคิดแต่เรื่องเล็กๆ ทําให้ติดอยู่ในความคับแคบ ดูถูกศักยภาพของ ตัวเอง และทะเลาะเบาะแว้งจิกตีกันเหมือนไก่อยู่ในเข่ง เราต้องรวมตัวกันออกจากเข่ง บินสู่ โลกกว้าง ช่วยกันสร้างแผ่นดินแห่งสันติภาพและความรุ่งเรือง คนไทยและประเทศไทยมี ศักยภาพที่จะทําได้ เพราะมีจุดแข็งเหมาะที่จะทํา อาจตั้งมูลนิธิเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงาน เช่น มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (ประเทศ ไทย) International Peace Foundation (Thailand) หรือชื่ออื่นตามที่กลุ่มเห็นร่วมกัน ที่เสนอข้างต้นเป็นการมองภาพรวมอย่างคร่าวๆ เมื่อมี Think Tank ในเรื่องประเทศไทย ผนึกอาเซียนสร้างดินแดนแห่งความรุ่นเรืองและสันติภาพ จะสามารถทําได้ดีกว่านี้ ---------------------------------------------------