SlideShare a Scribd company logo
1
ห้องสมุดหนังสือเก่า
 พล นิกร กิมหงวน และลูกชาย ตอน ทีมทหาร ไทย-เขมร

 สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับเขมรได้ขาดสะบั้นจากกันมาเป็นเวลาหลายปี
แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลเขมรได้ประกาศตัดสัมพันธ์ทางทูต และเรียกคณะทูต
เขมรทั้งหมดที่ประจำาอยู่ในกรุงเทพฯ กลับเขมร ซึ่งรัฐบาลไทยก็จำาเป็น
ต้องเรียกทูตของเรากลับเช่นเดียวกัน พรมแดนไทยเขมรถูกปิดตาย เรา
กับเขมรต่างหันหลังให้กัน เลิกมองหน้ากัน อย่างไรก็ตามประชาชาติทั้ง
สองก็หาได้เกลียดชังกันไม่ แต่เมื่อนโรดมสีหนุไม่ปรารถนาที่จะคบหา
สมาคมกับไทยแล้ว ชาวเขมรและคนไทยก็ไม่สามารถจะติดต่อพบปะกันได้
เขมรชนะคดีที่ศาลโลกเอาดินแดนเขาพระวิหารคืนไป
เขมรส่งกำาลังทหารบุกเข้ามาทางคลองใหญ่ในเขตจังหวัดตราด และส่ง
เรือรบล่วงลำ้าเข้ามาในน่านนำ้าของเรา จับกุมเรือประมงไทยไปหลายลำา คน
ไทยหลายคนที่อยู่ในเรือประมงเหล่านั้น ถูกจับไปขังคุกได้รับความทุกข์
ทรมานแสนสาหัสโดยที่เขาไม่ได้ทำาผิดคิดร้ายอะไรเลย บางคนก็ถูกทหาร
หรือตำารวจเขมรยิงทิ้ง ที่เจ็บป่วยก็ตายไปเพราะไม่ได้รับการรักษาพยาบาล

หลายต่อหลายครั้งที่เขมรยั่วยุโทสะเรา เพื่อต้องการให้กองทัพไทยบุก
ทะลวงเข้าไป นโรดมสีหนุจะได้แหกปากร้องบอกให้ชาวโลกรู้ว่าไทย
ข่มเหงรุกรานเขมร นโรดมสีหนุกำาลังจะพาประเทศชาติไปสู่ภัยพิบัติ ด้วย
การคบหาสมาคมกับคอมมิวนิสต์ ทำาท่าเหมือนกับจะยอมเป็นทาส
คอมมิวนิสต์

ในที่สุด รัฐบาลญี่ปุ่นก็ยื่นมือเข้าไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่างไทยกับเขมร
ทั้งนี้เพราะญี่ปุ่นเห็นว่าไทยกับเขมรต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เคยรักใคร่กันมาชา
นานแล้ว มีอาณาเขตติดต่อกัน เป็นชาวเอเซียด้วยกันควรที่จะเป็นมิตรต่อ
กันเหมือนเช่นเดิม การผิดพ้องหมองใจกันนั้นก็เป็นธรรมดาของเพื่อนบ้าน
ที่อยู่ใกล้กัน ก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งไม่กินเส้นกัน หรืออยากเตะปากกัน
บ้าง

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งคณะกรรมการคณะหนึ่ง เดินทางไปกัมพูชาหรือเขมร ซึ่ง
ไทยเรานั้นถนัดเรียกว่าเขมรมากกว่า มีขาวแพร่สะพัดไปทั่วโลกเมื่อญี่ปุ่น
                                           ่
เริ่มทำาหน้าที่ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ไทย-เขมร ชาวโลกต่างสดุดียกย่อง
ญี่ปุ่นที่ได้ปฏิบัติภารกิจอันควรทำายิ่ง คือสร้างมิตรภาพและสันติสุข

ในที่สุดคณะกรรมการของญี่ปุ่นซึ่งมี ฯพณฯ โยกูซีวะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ก็เดินทางจากพนมเป็ญมากรุงเทพฯ
และรุดเข้าพบคณะรัฐบาลของเรา

ฝ่ายไทยชี้แจงให้ฟังว่า การตัดสัมพันธ์ทางการทูตนั้นเขมรเป็นฝ่ายทำา
ก่อน โดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย เมื่อเขมรไม่ต้องการเป็นมิตรกับไทย เราก็
ต้องเลิกคบกับเขมรเป็นธรรมดาอยู่เอง ถ้าเขมรอยากจะคบกับไทยอีกเราก็
2
ยินดีเป็นมิตรด้วย ทางเราไม่เคยถือเป็นข้ออาฆาตพยาบาท ใครเป็นมิตร
กับเราเราก็เป็นมิตรกับเขา

คณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่าง ไทย-เขมร ได้บนกลับโตเกียว
                                                       ิ
เพื่อรายงานให้รัฐบาลของเขาทราบ แล้วก็เบิกเงินค่าเบี้ยเลียงเดินทาง ค่า
โรงแรม ค่าอาหาร ค่ารับรอง ค่าพาหนะหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จิปาถะ
เหมือนพวกเราไปต่างประเทศแล้วก็มาเบิกเงินจากรัฐบาล

ฯพณฯ โยกูซีวะ ได้ติดต่อกับรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเขมร เพื่อให้ทั้งสอง
ฝ่ายพบปะกันนัดประชุมกัน ประสานรอยร้าวให้กลับคืนดีเหมือนเช่นเดิม
นโรดมสีหนุได้โทรเลขแจ้งไปว่าทางกัมพูชาพร้อมเสมอที่จะพบกับผู้แทน
ไทย แต่ขอให้ประชุมกันที่กรุงเทพ ฯ เพราะที่พนมเป็ญไม่มีห้องประชุม
ที่เหมาะสมและไม่มีเงินงบประมาณเลี้ยงดูคณะกรรมการไกล่เกลี่ย ตลอด
จนค่าใช้จ่ายในการประชุม

 ทางญี่ปุ่นติดต่อกับรัฐบาลไทยขอให้ไทยรับเป็นเจ้าภาพ รัฐบาลจึงตอบ
ตกลงและได้นัดวันเวลาไปเรียบร้อย

      นโรดมสีหนุ ส่งออกญาเดโชสุริยัน อธิบดีกรมการโสเภณีและกะเทย
แห่งกัมพูชา เป็นผู้แทนผู้มีอำานาจเต็มในการเจรจาครั้งนี้ มีนายตำารวจ
ใหญ่และนายทหารชันผู้ใหญ่ติดตามมาด้วยหลายคน ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้
                    ้
ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ จัดห้องพิเศษให้พักที่โรงแรม “เอราวัณ”
ทำาให้ออกญาเดโชและคณะแปลกใจอย่างที่สุด เท่าที่รัฐบาลไทยได้แสดง
ไมตรีจิตอย่างสูงต่อพวกเขา ถึงเช่นนัน ส่วน ฯพณฯ โยกูซีวะกับคณะ
                                    ้
กรรมการก็พักอยู่โรงแรม “เอราวัณ” เช่นเดียวกัน ธงญี่ปุ่นและธงเขมรถูก
ชักขึ้นที่หน้าโรงแรมนั้น เป็นการยกย่องให้เกียรติแก่ผู้มาพัก ตำารวจได้ให้
ความอารักขาออกญาเดโชกับคณะอย่างแข็งแรง เพราะแว่วข่าวว่าพวกจิ๊ก
โก๋จะตอนรับท่านออกญาเดโชด้วยระเบิดขวด แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิด
ขึ้น เพราะรัฐบาลได้ประกาศทางวิทยุกระจายเสียง และทางโทรทัศน์
ขอร้องให้พี่น้องชาวไทยงดเว้นกระทำาการใด ๆ ที่จะเสื่อมเสียเกียรติของ
ชาติไทยและคนไทยทั้งชาติ

      การประชุมที่ “ศาลาสันติธรรม” ได้เริ่มต้นในตอน ๑๐.๐๐ น. ของวัน
ศุกร์ ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๐๘

      ฝ่ายเขมร ๙ คนรวมทั้งท่านออกญาเดโชนั่งรวมกลุ่มกันอยู่บนเก้าอี้
ทางด้านซ้ายของห้องประชุม ตอนกลางคือคณะกรรมการชาวญี่ปุ่น ๖ คน
ทางขวาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยมี พล อ. วิชิต ชัยสมรภูมิ รองผู้
บัญชาการทหารสูงสุดคนหนึ่ง และ พล ร.ต. ชอุ่ม เชวงศักดิ์ ผู้แทน
ของกองทัพเรือคนหนึ่ง นอกจากนี้ก็มีนายพลดิเรกกับคณะพรรคของเขา
พร้อมด้วยเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญสรรพาวุธแห่งกองทัพไทย
ซึ่งจะต้องถกเถียงกับผู้แทนเขมร ตามที่เขมรกล่าวหาว่ากองทัพไทยใช้
จรวดที่คล้ายคลึงกับแบบ “เรดสโตน” ติดระเบิดแรงสูงยิงค่ายทหารเขมร
3
ในป่าสองครั้งแล้ว จากฐานยิงจรวดในจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้เขมรยัง
หาว่ากองเรือตรวจอ่าวของไทยเรา ได้ใช้ปืนยิงชายฝั่งเขมรหลายต่อหลาย
ครั้ง  เพราะข้อหาเหล่านี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในตำาแหน่งผู้บัญชาการ
ทหารสูงสุดจึงบัญชาให้นายพลดิเรกกับคณะ และ พล ร.ต. ชอุ่มมาร่วม
ประชุมด้วย ซึ่งเป็นการบังเอิญอย่างที่สุด ท่านนายพลเรือผู้นี้เป็นเพื่อนรัก
เกลอเก่ากับพลและนิกรเสียด้วย รู้จักคุ้นเคยกับเสียหงวนและนายพลดิเรก
มีความเคารพรักเจ้าคุณปัจจนึก ฯ มานานแล้ว

      นอกจากผู้แทนทั้งสองชาติ และคณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท
แล้ว ก็มีผู้สังเกตการซึ่งเป็นชาวต่างชาติอีกหลายคน มีทั้งอเมริกัน อังกฤษ
ฝรั่งเศส และรัสเซีย ฯพณฯ โยกูซีวะ อดีตพลตรีแห่งกองทัพบกญี่ปุ่นที่
เคยนำาทหารเข้ายึดครองประเทศไทย ได้นั่งอยู่หน้าโต๊ะในที่สูงตำาแหน่ง
ประธานในที่ประชุมนี้ ท่านได้กล่าวเปิดประชุมเป็นภาษาไทย อย่างชัด
ถ้อยชัดคำา แต่มีเสียงซี๊ด ๆ ปนอยู่บ้าง ถึงกระนั้นก็นับว่าท่านนายพลแห่ง
กองทัพญี่ปุ่นพูดภาษาไทยได้ดี เพราะก่อนสงครามอาเซียบูรพาท่านเคย
เข้ามาอยู่ในกรุงเทพ ฯ หลายปี ตั้งร้านขายถ้วยชามและสินค้าญี่ปุ่น แม้
กระทั่งยายินตันและยากันยุง แล้วก็ใช้เวลาว่างทำาแผนที่ถนนหนทางต่าง
ๆ ในกรุงเทพ ฯ ตลอดจนจุดยุทธศาสตร์ที่สำาคัญต่าง ๆ

     “ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายข้าพเจ้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งเท่าที่ข้าพเจ้าได้
รับเกียรติให้มาเปิดโรงงานทอผ้าของญี่ปุ่นที่ถนนเพชรเกษมนี้” พูดจบ
ท่านโยกูซีวะก็สะดุ้งเฮือก “โอ๊ะ – ขอโทษทีครับผมหยิบโน้ตผิดไป”

      ผู้แทนไทยและผู้แทนเขมรต่างหัวเราะคิกคักไปตามกัน ท่านประทาน
รีบเปิดแฟ้มเอกสารของท่าน เลือกหาโน้ตที่เขียนไว้สำาหรับเปิดการประชุม
กรณีพิพาทระหว่างไทยกับเขมร เสี่ยหงวนสบตากับออกญาเดโช ซึ่งเป็น
ชายร่างใหญ่ผิวคลำ้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา อาเสี่ยก็ชักยัวะขึ้นมาทันที

     “มองอะไรวะ”      อาเสียถามเสียงค่อนข้างดัง

     ออกญาเดโช ฯ แสยะยิ้ม

     “มองไม่ได้หรือ”

     อาเสี่ยเค้นหัวเราะ

     “ออกไปข้างนอกซี”

     กรรมการคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ระหว่างกลาง ได้กล่าวกับเสี่ยหงวนทันที

     “กัมพูชากับไทยกำาลังจะเป็นมิตรกันนะครับ หนักนิดเบาหน่อยอย่าให้
มีเรื่องอะไรกันเลยครับ”
4
     อาเสี่ยยิ้มให้กรรมการชาวญี่ปุ่นเจ้าของร่างที่ค่อนข้างสั้นและเตี้ย สวม
แว่นตาสายตาสั้นตัดผมเกรียน เขาชื่นชมมากที่กรรมการคนนี้พูดไทยได้ดี

     “คุณช่วยบอกให้ออกญาเดโช โกนหนวดทิ้งเสียทีได้ไหมครับ            ไว้
หนวดแหยมยังงี้กวนโทโสผมยังไงชอบกล”

     พล อ. วิชิตหันมามองดูเสี่ยหงวน

     “นังเฉย ๆ คุณกิมหงวน
        ่                     อย่าทำาอะไรให้เสียเกียรติผู้แทนชาติไทย”

      ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ท่านประทานคือท่านโยกูซีวะก้มลงมอง
ดูโน้ตที่ท่านเขียนไว้ แล้วพูดไมโครโฟนเบา ๆ เสียงของท่านกระจายไปทั่ว
ห้อง

     “ท่านผู้แทนชาติไทยและกัมพูชาที่เคารพ คณะรัฐบาลญี่ปุ่นรู้สึก
ขอบคุณอย่างยิ่งที่ไทยกับกัมพูชายอมให้เราเป็นผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท
ระหว่างชาติทั้งสอง ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุม ณ บัดนี้ และให้ท่านผู้
แทนกัมพูชาแถลงก่อน”

     ออกญาเดโชผุดลุกขึ้นยืนทันที เขาแต่งกายแบบขุนนางเขมร นุงผ้า่
ม่วงสีนำ้าเงินโจงกระเบน สวมเสื้อราชปะแตนคอตั้งกระดุม ๕ เม็ด ประดับ
เหรียญตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงของเขมร และมีสายสะพายสีแดง
ส่วนลูกน้องของเขาแต่งเครื่องแบบทหารและตำารวจ

     “ข้าพเจ้าออกญาเดโชผู้แทนของรัฐบาลเขมร ตั้งใจจะกล่าวในที่
ประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภาษาของนายเก่าของข้าพเจ้า แต่
ข้าพเจ้าเห็นว่ารัฐบาลไทยให้การตอนรับพวกเราอย่างอบอุ่นใจ และท่าน
ประธานก็ยังให้เกียรติแก่ประเทศไทย กล่าวเปิดประชุมเป็นภาษาไทย
ข้าพเจ้าและคณะของข้าพเจ้าก็จะพูดภาษาไทยเช่นเดียวกัน”

       คณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ตลอดจนคณะกรรมการ พล
อ. วิชิต และ พล ร.ต. ชอุ่ม ต่างตบมือให้เกียรติออกญาเดโชเสียงกราวดัง
ไปทั่วห้อง แต่แล้ว พ.อ.นิกรก็พูดไมโครโฟนขึ้นทันที

     “ท่านประธานที่เคารพ     ข้าพเจ้าขออนุญาตพูดกับหัวหน้าผู้แทน
กัมพูชาสักนิดเถอะครับ”

     “ได้ครับ”   ท่านยูโกซีวะพูดยิ้ม ๆ

     นิกรมองหน้าออกญาเดโชแล้วยิ้มให้

     “เจ้าคุณครับ      เจ้าคุณน่ะเคยถูกพระร่วงขุนรามคำาแหงสาปให้เป็นหิน
อยู่ที่เมืองสุโขทัยเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๘๕๐ ใช่ไหมครับ”
5
    “คนละคนครับ     นันทวดของปู่ทวดของทวดของทวดของปู่ทวดผมอีก
                      ่
ที ข้าราชการชันผู้ใหญ่ที่กัมพูชานิยมใช้ราชทินนามว่าออกญาเดโชครับ”
              ้

    “ขอบคุณครับที่กรุณาให้ความกระจ่างแก่ผมในเรื่องนี้ แล้วออกญาอื่น
ๆ มีไหมครับ เช่น ออกญากาแร็ต ออกญามหานิล หรือออกญาถ่ายอะไร
เหล่านี้”

    “มีครับ   แต่ว่าชื่อเพราะกว่าที่คุณว่า”

     พ.อ.นิกรหัวเราะหึ ๆ ออกญาเดโชกล่าวกับที่ประชุมด้วยเสียงกังวาน
เขาพูดได้ดีราวกับว่าเขาเป็นคนไทยคนหนึ่ง

    “การที่กัมพูชาถอนทูตตัดสัมพันธไมตรีกับไทยนั้น ก็เนื่องจากเราได้
ทราบว่าไทยมีนโยบายเป็นศัตรูกับเรา”

    เสี่ยหงวนยกกำาปั้นทุบโต๊ะปัง

    “ไม่จริงโว้ย   โกหก ไทยไม่เคยคิดร้ายต่อประเทศเพื่อนบ้าน ไทยดี
ที่สุดต่อมิตร และร้ายที่สุดต่อศัตรู”

    ออกญาเดโชฟ้องประธานทันที

    “ท่านประธานได้ยินไหมครับ ผู้แทนไทยพูดวาจาหยาบคายกับผม”

    ประธานยิ้มให้เสี่ยหงวน

    “กรุณาพูดให้สุภาพหน่อย”

    เสี่ยหงวนก้มศีรษะคำานับท่านประธาน

    “อาริกาโต้”

    ท่านโยกูซีวะทำาหน้าชอบกล

    “ลำาบากนักก็อย่าพยายามพูดญี่ปุ่นเลยครับ   พูดไทยกับผมดีกว่า”

    ออกญาเดโชแถลงต่อที่ประชุมต่อไป

    “ข้าพเจ้าไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องการถอนทูต เพราะเราต่างฝ่ายต่างก็
ถอนทูตจากกันแล้ว เมื่อไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต ก็เหมือนกับว่าเรา
เลิกคบกันต่างคนต่างอยู่ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ทหารไทยบุกเข้าไปในดิน
แดนกัมพูชาบ่อย ๆ บางทีเรือรบไทยก็แล่นเข้าไปในน่านนำ้าของเรา”

    ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวขึ้นทันที
6
     “ความจริงนั้นตรงกันข้ามกับที่ท่านพูด เรามีเหตุผลและหลักฐานเพียง
พอ ที่จะยืนยันว่าทหารกัมพูชานั่นแหละ ได้ล่วงลำ้าเข้ามาในดินแดนของเรา
ก่อน จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ซึ่งฝ่ายเราก็เพียงแต่ขับไล่ออกไป”

     นายตำารวจเขมรคนหนึ่งกล่าวขึ้นดัง ๆ

     “นันเป็นโจรเขมรที่แต่งเครื่องแบบคล้ายทหารรัฐบาล กัมพูชาไม่
        ่
จำาเป็นต้องรับผิดชอบ สำาหรับทหารกัมพูชาแล้วไม่เคยบุกรุกเข้ามาในดิน
แดนไทยเลย พวกท่านนันแหละพยายามรุกรานเราเสมอ เมื่อเร็ว ๆ นี้
                        ่
เรือรบไทยประจำากองเรือตรวจอ่าวลำาหนึ่ง ได้ระดมยิงหมู่บ้านชายทะเล
ของเราเสียหายมาก ถูกราษฎรบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน”

     พล ร.ต. ชอุ่มแถลงโต้ตอบทันที

     “กองทัพเรือของเราขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาด      ไม่มีความจำาเป็นอะไรที่
เรือรบของเราจะระดมยิงชายฝั่งกัมพูชา ดังที่ท่านว่า”

     ออกญาเดโชพูดโพล่งขึ้น

     “แต่เรือรบไทยยิงเราแน่ มิหนำาซำ้านังมีเครื่องบินประจัญบานของกอง
ทัพอากาศไทยร่วมโจมตีอีก”

     เสี่ยหงวนจ้องมองดูหัวหน้าผู้แทนเขมรราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

     “ใส่ความกันอย่างนี้ต่อยกันดีกว่า”

     เจ้าคุณปัจจนึก ฯ จุปากดุกิมหงวน

     “อย่าบ้าน่าอ้ายหงวน ที่นี่ห้องประชุมโว้ยไม่ใช่บาร์หรือไนท์คลับจะได้
มีการชกต่อยกัน”

       ฝ่ายเขมรปรักปรำากล่าวหาไทยอีกมากมาย แต่ทางฝ่ายไทยก็ปฏิเสธ
ในเรื่องใช้กำาลังรุกรานไม่ว่าทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ เรายอมรับว่า
ตำารวจและทหารไทยได้ยิงต่อสู้ขับไล่ทหารเขมรที่บุกเข้ามาตามเส้น
พรมแดนเท่านั้น

       เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ไทยกับเขมรโต้เถียงกันอย่างหน้าดำาหน้าแดง
เมื่อเขมรกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธจรวดแบบที่คล้ายคลึงกับจรวด “เรดสโตน”
ของสหรัฐอเมริกา ระดมยิงค่ายทหารเขมรในป่าจากฐานจรวดในจังหวัด
จันทบุรี พล ท. ศาสตราจารย์ดิเรกหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสรรพาวุธ และนัก
วิทยาศาสตร์ของกองทัพไทย ก็ชแจงให้ผู้แทนเขมรทราบว่า กองทัพไทย
                                   ี้
ไม่เคยมีจรวดแบบนี้ใช้ ฐานที่ตั้งยิงจรวดของเราก็ไม่ได้สร้างที่จันทบุรีหรือ
ที่หนึ่งที่ใด เรามีแต่อาวุธปล่อยหรือจรวดนำาวิถีที่ประจำาเรือรบ ประจำา
เครื่องบิน หรือใช้ยิงจากรถบรรทุกจรวดเท่านั้น และเป็นจรวดขนาดเล็ก
7
ไม่ใช่จรวดขนาดยักษ์แบบ ยี.เอ.เอ็ม ๘๗ เอ. สกายโบลท์ ที่มีความยาวถึง
๓๘ ฟุตและยิงจากรถได้ไกลถึง ๑,๐๐๐ ไมล์ทะเล อาวุธต่าง ๆ ที่เราได้รับ
ความช่วยเหลือจากอเมริกานั้นเป็นอาวุธป้องกันตัว ไม่ใช่อาวุธรุกราน

     บรรยากาศในที่ประชุมค่อยแจ่มใสขึ้นเมื่อนายพลดิเรกแถลงว่า

     “พวกท่านคิดบ้างไหมว่า ที่ค่ายทหารกัมพูชาถูกยิงด้วยจรวดขีปนาวุธ
ติดจรวดแรงสูง แล้วก็ที่ชายฝั่งทะเลของท่านถูกปืนเรือระดมยิงนั้น จะ
เป็นการกระทำาของคอมมิวนิสต์ แล้วแกล้งใส่ร้ายว่าเป็นการกระทำาของ
ไทย เพื่อให้พวกท่านเคียดแค้นเกลียดชังเรา ไทยจะลอบยิงเขมรด้วย
จรวด หรือใช้ปืนเรือระดมยิงชายฝั่งเขมรเพื่ออะไรกัน”

     พ.อ. นิกร พูดเสริมขึ้น

     “พวกท่านเป็นชาวพุทธ พวกเราก็พุทธศาสนาเช่นเดียวกัน ท่านย่อม
ทราบดีว่าชาวพุทธย่อมไม่นิยมการเบียดเบียนข่มเหงรังแกกัน เมื่อไม่คบกัน
ก็ต่างคนต่างอยู่ ไทยไม่ปรารถนาที่จะรุกรานใคร แต่ถ้าใครบุกเรา เราสู้
ตาย”

     ท่านประธานกรรมการคือ ฯพณฯ โยกูซีวะเริ่มต้นไกล่เกลี่ยให้ไทยและ
เขมรปรองดองกัน มีความรักสามัคคีกันเหมือนแต่ก่อน โดยอ้างถึงความ
สัมพันธ์ระหว่างคนสองชาติซึ่งมีมาหลายศตวรรษแล้ว จนแทบจะกล่าวได้
ว่าเขมรกับไทยนั้นเปรียบเหมือนกับพี่น้องกัน เมื่อประธานกล่าวจบ ผู้แทน
ไทยและเขมรก็ตบมือขึ้นพร้อมกันเสียงลั่นห้อง

     ออกญาเดโชกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มผิดปกติ

     “พวกเราชาวเขมรขอปรองดองเป็นน้องพี่กับไทยต่อไปครับ”

     พล อ. วิชิต กล่าวขึ้นทันที

     “ขอบคุณครับท่านออกญา พวกเราคนไทยก็จะเป็นมิตรที่ดีของชาว
เขมรต่อไป เมื่อเราปรองดองกันได้เช่นนี้ เราก็ต้องหาทางให้ประชาชนทั้ง
สองชาติลืมเรื่องระหองระแหงทั้งหมดที่เกิดขึ้นเสียด้วย สำาหรับคนไทยเรา
พูดกันได้เพราะคนไทยเชื่อถือรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสมอ ว่าแต่ประชาชนชาวเขมรเถอะ”

     “ครับ เป็นเรื่องที่ผมหนักใจเหมือนกัน”    ท่านออกญาพูดยิ้ม ๆ “เจ้า
ฟ้าสีหนุท่านพยายามสั่งสอนให้ชาวเขมรเกลียดชังคนไทยจนเข้าไส้ การ
ที่จะให้มีความรักใคร่กันเหมือนแต่ก่อน มันก็เป็นเรื่องยุ่งยากไม่น้อย แต่
รัฐบาลกัมพูชาก็คงจะแก้ไขได้ อย่างน้อยที่สุดส่งนักกีฬามาแข่งขันในเร็ว
วันนี้ เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างไทยกับเขมร”

     เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เห็นพ้องด้วย
8

     “เป็นความคิดที่ดีมากครับเจ้าคุณเดโช    กีฬาช่วยสร้างความสามัคคี
ได้ดีกว่าอย่างอื่น”

     ท่านประธานกับคณะกรรมการมีท่าทางสบายใจไปตามกัน เท่าที่การ
ไกล่เกลี่ยสำาเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยใช้เวลาประชุมกันเพียงครั้งแรก หรือวัน
แรกเท่านั้น ฯพณฯ โยกูซีวะกล่าวกับที่ประชุมว่า

     “ถ้าเช่นนั้นคณะกรรมการ จะได้ติดต่อกับรัฐบาลทั้งสองชาติ เพื่อให้
จัดการแข่งขันกีฬาขึ้นที่กรุงเทพ ฯ นี้ แต่วาเราควรจะแข่งอะไรกันดีล่ะครับ”
                                          ่

    เสี่ยหงวนรีบพูดกรอกไมโครโฟนเบื้องหน้าเขา ก่อนที่คนอื่นจะออก
ความเห็น

     “ขอให้เป็นกีฬาที่ตื่นเต้นเร้าใจหน่อยนะครับ
                                             ผมว่ายกพวกตีกันข้าง
ละ ๕๐ คนหรือ ๑๐๐ คนเป็นดีที่สุด ตีกันกลางสนามฟุตบอลถือดิ้วคนละ
อัน พอผู้ตัดสินเป่านกหวีดปรี๊ดนักกีฬาไทยและเขมรก็วิ่งเข้าปะทะกัน ตี
กบาลกันอุตลุด ใครตายหรือบาดเจ็บสาหัสก็หามออกไป อย่างนี้ถึงใจ
พระเดชพระคุณคนดูแน่ เก็บค่าดูอย่างตำ่าสัก ๕๐ บาทก็ไม่มีใครรังเกียจ”

     ท่านประธานคัดค้านทันที

     “ไม่ได้ครับ อย่างนี้เป็นกีฬาโรมันสมัยก่อน เรากำาลังประสานความ
สามัคคีต่อกัน ต้องเล่นกีฬาแบบศิวิลัยเช่นกีฬาประเภทลู่หรือลาน หรือ
รักบี้และฟุตบอล”

     ออกญาเดโชกล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

     “สำาหรับกีฬาประเภทลู่และลาน ต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานหน่อยครับ
เพื่อดูสถิติของนักกีฬาให้ดีพอที่จะเอาชนะได้ ผมคิดว่าหากเราจัดการ
แข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีระหว่างไทยกับเขมรแล้วเป็นดีแน่ครับ”

     ศาสตราจารย์ดิเรกดีดมือแป๊ะ

     “ออไร๋    ผมขอสนับสนุนแนวความคิดของท่านออกญากาแร็ตครับ”

     หัวหน้าผู้แทนเขมรสะดุ้งเฮือก

     “ผมชื่อออกญาเดโชครับท่านศาสตราจารย์ กรุณาเรียกชื่อผมให้ถูก
หน่อย

     นิกรกระซิบกระซาบกับศาสตราจารย์ดิเรกเบา ๆ

     “ออกญาเดโชลูกชายออกยาแดงไงล่ะ          พ่อมันเคยเป็นพ่อค้าปลาก
รอบอยู่ที่เมืองพะตะบอง”
9

     พล อ. วิชิต ท่านนายพลอาวุโสยิ้มให้ออกญาเดโช และกล่าวกับ
หัวหน้าผู้แทนเขมรอย่างสุภาพ

     “ผมยินดีมากครับ ที่ไทยกับเขมรจะได้เป็นมิตรที่ดีต่อกันสืบไป   เท่าที่
เจ้าคุณเสนอต่อที่ประชุมให้มีการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี
ระหว่างทีมไทยกับทีมเขมรนั้นเราจะให้ทีมชาติของเราแข่งขันกันใช่ไหม”

     “มิได้ครับท่านนายพล  ผมคิดว่าทีมทหารไทย และทีมทหารเขมร
แข่งขันกันดีกว่า เพราะทีมทหารเขมรได้ฝึกซ้อมกันอยู่เสมอ และเล่นได้ดี
กว่าทีมชาติของเรา ซึ่งขณะนี้ทีมชาติของเราก็กำาลังเดินทางไปแข่งขันที่
กรุงจากาต้า”

     “ทีมทหาร”   นายพลวิชิตทวนคำาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เจ้าคุณหมาย
ถึงทีมรวมบกเรืออากาศใช่ไหมครับ”

     “ครับ  หมายถึงนักฟุตบอลชั้นดีของสมาทัพรวมกันเป็นทีม เรียกว่า
ทีมทหาร หรือจะเรียกว่าทีมรวมทหารก็สุดแล้วแต่ ท่านจะพอจัดทีมรวม
ทหารไทยสู้กับทีมทหารเขมรได้ไหมครับ”

     พล อ. วิชิตรับคำาทันที

     “ตกลงครับ  ไม่มีปัญหาอะไร ทีมทหารไทยกับทีมทหารกัมพูชา จะ
ต้องได้ลงสนามแข่งขันฟุตบอลกัน เพื่อเชื่อมความสามัคคีในครั้งนี้แน่นอน
เราจะกำาหนดให้แข่งขันเมื่อไหร่ล่ะครับเจ้าคุณชะโด”

     “ว้า”
         หัวหน้าผู้แทนเขมรร้องลั่น “นั่นมันปลานี่ครับท่านนายพล
พวกท่านไหงชอบเปลี่ยนชื่อผมเสียจริง ๆ ผมชื่อออกญาหรือพระยาเดโช
สุริยัน”

     ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกลั้นหัวเราะแทบแย่

     “ขอโทษครับเจ้าคุณ”

     ออกญาเดโชยิ้มเจื่อน ๆ

     “แล้วผมจะโทรเลขมาติดต่อกับท่านนะครับ เพื่อเรียนให้ทราบถึง
กำาหนดวันแข่งขันที่แน่นอน ซึ่งอย่างไรก็คงไม่เกินสองสัปดาห์ข้างหน้า”

     “ครับ   รัฐบาลไทยจะให้การรับรองนักฟุตบอลเขมรอย่างดีที่สุด”

     “ขอบคุณมากครับท่านนายพลนักฟุตบอลของเราได้ไปแข่งขันใน
ยุโรปมาหลายประเทศแล้ว ตลอดจนประเทศในเครือคอมมิวนิสต์ คราวนี้
10
แหละครับคนไทยจะได้เห็นความสามารถในการเล่นฟุตบอลของทีมทหาร
เขมร”

     เสี่ยหงวนพูดเสริมขึ้น

     “แต่ว่า    ท่านออกญาโปรดให้นักฟุตบอลของท่านทำากรมธรรม์ประกัน
ชีวิตไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อนนะครับ”

     ออกญาเดโชนัยน์ตาเหลือก

     “คุณมั่นใจว่าการแข่งขันฟุตบอลคราวนี้ ผู้เล่นจะต้องมีการเสียชีวิตใน
สนามหรือครับท่านพันเอก”

     อาเสี่ยยิ้มด้วยมุมปากข้างขวา

     “ก็คงจะมีบ้างครับ
                     ผมกะว่าทีมทหารเขมรอาจจะถูกเตะม้ามแตก
หัวใจแตก หรือคอขาด ราวห้าหกคนเป็นอย่างน้อย การเล่นฟุตบอลมันก็
ต้องมีพลาดพลั้งบ้าง”

     “ถ้าอย่างงันผมก็อยากจะอวดสักหน่อยว่านักฟุตบอลทีมรวมทหาร
                ้
เขมร เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด เคยเตะนักฟุตบอลต่างชาติตายคาสนามมา
หลายคนแล้ว ซึ่งเป็นการพลาดพลั้งไม่มีเจตนา”

     พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น

     “แต่นักฟุตบอลของเราเตะกันตายทุกวันแหละครับ แม้แต่ซ้อมกันก็มี
ตายบ่อย ๆ คนไทยที่ชอบดูกีฬาฟุตบอลเห็นเป็นของธรรมดาครับถ้านัก
ฟุตบอลตายในการแข่งขัน ตรงกันข้ามการแข่งขันจะหมดรสถ้าหากว่าทั้ง
สองทีมไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย”

     ออกญาเดโชฝืนหัวเราะ

     “เอาละครับ   ตายเป็นตาย กีฬาแบบนี้พลาดพลั้งมันก็ตายเหมือนกัน
แต่ว่าเราจะเล่นแรงในเกมเท่านั้น”

     เสี่ยหงวนพูดโพล่งขึ้น

     “ในเกมหรือนอกเกมได้ทั้งนั้น หรือเจ้าคุณกับผมจะขึ้นชกกันใน
รายการพิเศษที่สนามราชดำาเนินหรือลุมพินีก็ได้”

     “อ้าว” ออกญาเดโชอุทาน “ก็ไหนว่าเราคืนดีกันแล้ว”

     “ใช่ครับเราชกปากกันบนเวทีไม่ได้หมายความว่าเราโกรธกัน การ
ชกมวยเป็นกีฬานี่ครับเจ้าคุณเอาไหมล่ะ เจ้าคุณกับผมวัยเดียวกัน ถึงเจ้า
11
คุณใหญ่กว่าผมนิดหน่อย ผมก็ไม่รังเกียจเรื่องนำ้าหนัก ฟาดปากกันแบบ
มวยไทย”

        “ไม่ไหวครับ   เรื่องมวยผมไม่มีความรู้ ผมเป็นนักเท็นนิส”

        ฯพณฯ โยกูซีวะถือโอกาสกล่าวกับที่ประชุมว่า

        “บัดนี้สัมพันธไมตรีระหว่างไทย-เขมร ที่ขาดจากกันไปหลายปี ก็กลับ
มาคืนดีกันแล้ว คณะกรรมการขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่รู้สึกเสียใจ
ที่เราประชุมกันเป็นภาษาไทย ชาวต่างประเทศที่มาฟังการประชุม ในฐานะ
นักสังเกตการณ์ก็เลยไม่รู้เรื่องนั่งสัปหงกไปตามกัน ผมขอปิดการประชุม
เพียงเท่านี้ครับ และขอขอบคุณทั้งฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายไทยที่ไม่ได้มีการ
ปะทะกันในห้องประชุมนี้ สวัสดีครับ”

      ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนให้เกียรติท่านประทาน ต่อจากนั้น ฯพณฯ โยกูซี
วะก็ลงมาจากแท่น ตรงเข้ามาสัมผัสมือกับผู้แทนไทยและกัมพูชาโดยทั่ว
หน้ากัน ตอนนี้เองผู้แทนไทยและเขมรได้ลุกขึ้นเดินเข้ามาหากันและ
สัมผัสมือกัน

        “ท่านพันเอกคงไม่ใคร่ชอบหน้าผมเท่าใดนัก”        ออกญาเดโชกล่าวกับ
กิมหงวนอย่างยิ้มแย้ม

        “ครับ   ตอนแรกผมเกลียดเจ้าคุณอย่างเข้าไส้ แต่เดี๋ยวนี้หายเกลียด
แล้ว”

        เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ถือโอกาสพูดกลบเกลื่อน

        “ผมคิดว่าเขมรกับไทย ควรจะลืมความระหองระแหงที่เกิดขึ้นเสียให้
หมด และเราเริ่มต้นมาเป็นมิตรกันใหม่ ผมหวังว่าการแข็งขันฟุตบอลทีม
ทหารไทย-เขมร ครั้งนี้จะช่วยให้มิตรภาพของชาติทั้งสองเกิดขึ้นอย่าง
รวดเร็ว”

        พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น

        “ม่ายก็รบกันเลย”

     ออกญาเดโชกับคณะของเขา และคณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณี
พิพาทต่างย่อย ๆ กันออกไปจากห้องประชุมทีละคนสองคน         ในที่สุดก็
เหลือแต่ผู้แทนฝ่ายไทยเท่านั้น ยืนรวมกลุ่มสนทนากัน ส่วนพวกฝรั่งตานำ้า
ข้าวที่มาสังเกตการณ์หายหัวไปหมดแล้ว

        พล อ. วิชิต กล่าวถาม พล. ร.ต. ชอุ่มว่า

        “ทาง ทร. มีนักฟุตบอลชั้นเยี่ยมอยู่กี่คนครับ”
12

     “เห็นจะหายากหน่อยครับท่านรอง”       นายพลเรือตอบนอบน้อม “ทาง
ทร.มีแต่นักรักบี้ครับ”

     ท่านนายพลอาวุโสเปลี่ยนสายตามาที่ พ.อ. พล พัชราภรณ์

     “ได้ข่าวว่าพวกลูกชายของคุณเป็นนักฟุตบอลชั้นดีไม่ใช่หรือ ทูต
ทหารไทยที่วอชิงตันเขามาราชการแวะไปเยี่ยมผมที่บ้าน เล่าให้ฟังว่า
พนัส นพ สมนึก และดำารงเป็นนักฟุตบอลชั้นดาราของมหาวิทยาลัย

     พลหัวเราะเบา ๆ

     “ก็คงไม่เก่งจนเกินไปนักหรอกครับ
                                   อเมริกันเขาไม่ใคร่นิยมเล่น
ฟุตบอลและไม่สนับสนุนนักฟุตบอล เขาชอบเบสบอลและอเมริกันฟุตบอล
ครับ ลูกหลานผมมันเล่นขนาดพอใช้ได้ก็เลยเป็นดาราไป”

     “งันเรอะ
        ้        เขายังฝึกซ้อมออกกำาลังกันอยู่เสมอหรือ”

     “ครับ   เด็กหนุ่มนี่ครับท่านรอง เปิดโรงยิมที่บ้านซ้อมมวยและออก
กำาลังกันทุกวันแหละครับ เช้า ๆ ก็ออกวิ่ง แต่ฟุตบอลดูเหมือนไม่ได้ซ้อม
ครับ”

     ท่านนายพลอาวุโสเปลี่ยนสายตามาที่ พล ร.ต. ชอุ่ม

     “ผมจะให้พันเอกกิมหงวนเป็นคนวิ่งเต้นจัดทีมทหารไทยไว้รับมือกับ
ทีมทหารเขมร ดีไหมครับคุณชอุ่ม”

     “ดีครับท่านรอง  คุณกิมหงวนเงินหนาหน่อยถึงแม้จะต้องลงทุนไป
บ้าง ก็คงจะไม่ขัดข้องอะไร”

     เสี่ยหงวนพูดเสริมขึ้น

     “ผมให้งบประมาณล้านบาท        ล้านจริง ๆ ไม่ใช่เอาธนบัตรพันรอบหัว
ล้านแล้วบอกว่าล้าน”

     “ปู้โธ่” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เอ็ดตะโร “เดี๋ยวฉันก็เตะแกต่อหน้าท่าน
รองเท่านั้นเอง อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ยังทะลึ่งอีก”

     อาเสียอดหัวเราะไม่ได้ แล้วพูดกับท่านนายพลอาวุโสต่อไป

     “ผมจะออกค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมเองครับ      ซื้อกางเกงเสื้อทีมจ่าย
ให้นักฟุตบอลด้วย พร้อมทั้งรองเท้าถุงเท้าแองเกิล มีดพก สนับมือ เหล็ก
ขูดช้าฟซื้อให้พร้อม”
13
      “เดี๋ยว ๆ ๆ มีดพกสนับมือหรืออาวุธต่าง ๆ น่ะไม่ต้องซื้อ เราเล่น
ฟุตบอลกันไม่ใช่ฆ่ากัน”

      “ยังงันอาวุธไม่ต้องซื้อนะครับ ถ้าท่านรองมอบอำานาจให้ผมกับเพื่อน
            ้
ๆ คัดเลือกตัวนักฟุตบอลและทำาหน้าที่ควบคุมทำาการฝึกซ้อม เราจะจัดการ
ให้เรียบร้อยทุกอย่างครับ ทีมทหารไทยต้องชนะแหง ๆ แต่เห็นจะต้อง
เอาตัวจากทีม ทอ. เกือบทั้งหมด เอาทหารบกบ้าง”

      นิกรยิ้มให้ พล ร.ต. ชอุ่ม

      “ทร. ไม่มนักฟุตบอลชั้นดาราบ้างเลยหรืออุ่ม”
               ี

      “อือ
         ไม่มีจริง ๆ ถ้ามีก็ล้วนแต่รุ่นเก่าอายุมากแล้ว เลือกเอาจาก
ทหารบกและทหารอากาศเถอะเพื่อน แล้วก็เลือกดูความสามารถอย่าเห็น
แก่หน้า”

      เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พูดโพล่งขึ้น

      “แต่ต้องเอาเจ้าสี่คนลงเล่นด้วยนะโว้ย”

      นายพลดิเรกหัวเราะหึ ๆ

      “คุณพ่ออยากจะให้หลาน ๆ มีชื่อเสียงหรือครับ      ผมก็เห็นด้วยเหมือน
กัน แต่เราจะต้องให้พนัส นพ สมนึกและดำารงซ้อมดูก่อน ถ้าเล่นไม่ดีถึงขั้น
ดารา เราก็ไม่เอาลงเล่น การแข่งขันครั้งนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของประเทศ
ชาติด้วย เราจะเห็นแก่ลูกหลานไม่ได้ และทีมทหารไทยยอมตายเสียดีกว่า
ที่จะแพ้เขมร”

      ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยิ้มให้คณะพรรคสี่สหายโดยทั่วหน้า
กัน

      “เอาละครับ  เป็นอันว่าเรื่องการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี
ระหว่างทีมทหารไทย และทหารเขมรผมมอบให้คุณกิมหงวนเป็นหัวหน้าจัด
ทีมและฝึกซ้อม เจ้าคุณกับอาจารย์ดิเรกและคุณพลคุณนิกรเป็นผู้ช่วย การ
คัดเลือกตัวนักฟุตบอลจะเป็นทหารบกหรือทหารอากาศคนใดจะได้รับความ
สะดวกทุกอย่าง ซึ่งทีมของเราจะต้องฟิตกันเต็มที่ ขนาดกักตัวกันเลย”

      กิมหงวนยิ้มแป้น

      “ตกลงครับ ผมจะพยายามคัดเลือกตัวนักฟุตบอลชั้นดาราสัก ๓๐ คน
จัดเป็นทีม เอ. และ ทีมบี. ไว้ฝึกซ้อมกันและผมจะเอาไปกักตัวไว้ที่โรงแรม
“สี่สหาย” ส่วนสนามฝึกซ้อมก็จะใช้สนามโรงเรียนนายร้อย จปร. เชิญ
ทีมชั้นดีมาช่วยซ้อมให้ทีมทหารของเราด้วยเช่นทีมสโมสรตำารวจ ทีม
ธนาคารรวม”
14

       พล อ. วิชิตเห็นพ้องด้วย

       “ดีแล้วครับ สุดแล้วแต่คุณกับพรรคพวกของคุณเถอะ ขอให้คุณช่วย
ดูแลในเรื่องอาหาร และสุขภาพของนักฟุตบอลให้มาก”

       พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น

       “ผมรับหน้าที่นี้เองครับท่านรอง
                                  เรื่องอาหารต้องกินกันเต็มที่ละครับ
คือถึงเนื้อนมไข่ อย่างน้อยไข่ลวกคนละ ๕๐ ฟองต่อวัน”

       ท่านรองสะดุ้งโหยง

       “ไหงกินมากนักล่ะ กินวันละ ๕๐ ฟองนักฟุตบอลคงจะวุ่นวายไปตาม
กัน”

       “ถ้ายังงันลดลงเหลือ ๕ ฟองนะครับ”
                ้                             นิกรพูดยิ้ม ๆ   “อ้า - บางที
ผมจะลงเล่นทีมทหารไทยด้วยครับ”

       พล ร.ต. ชอุ่มพูดเสริมขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ

       “อย่าเลยโว้ยอ้ายกร     แก่นะมันเข้าสู่วัยชราแล้ว นักฟุตบอลอายุขนาด
                                  ่
แกวิ่งได้เดี๋ยวเดียวก็ยืนเท้าเอวหอบแฮ่ก ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้กันลงซ้อมกับพวก
เด็ก ๆ ยังเล่นได้ครึ่งเวลาเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่กันเล่นเท็นนิสอยู่แทบทุกวัน ให้
เด็ก ๆ เขาเล่นเถอะ”

       นิกรอมยิ้ม

       “นันน่ะซี
          ่     ปีนี้กันรู้สึกตัวว่ากันแก่ไปมาก เมื่อสองสามวันลองเตะปี๊บ
เปล่าดู เตะได้ไกลราว ๑๒ เมตรเท่านั้น”

     เสียงหัวเราดังขึ้นลั่นห้องประชุม ท่านายพลอาวุโสเดินนำาหน้าพา
ท่านนายพลเรือกับคณะพรรคสี่สหาย และเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ออกไปจาก
ห้องโถงใหญ่และยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความ
สามัคคี ระหว่างทีมทหารไทยกับทหารเขมร ซึ่งคงจะแข่งขันกันในไม่ช้านี้



     ออกจากศาลาสันติธรรม สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ก็กลับมาบ้าน
“พัชราภรณ์” ในชั่วโมงเดียวกันนั้นเอง

     คาดิลแล็คเก๋งแล่นผ่านประตูรั้วบ้าน ตรงมาตามถนนคอนกรีตผ่านหน้า
โรงเก็บรถ และเลี้ยวขวามือคลานเอื่อย ๆ ไปจอดเทียบหน้าบันไดตึกใหญ่
อาเสียกิมหงวนทำาหน้าที่ขับรถของเขาด้วยตนเอง นั่งคู่กับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ
ส่วนสี่สหายนังรวมกันอยู่ทางหลังรถ ทุกคนอยู่ในเครื่องแบบปรกติกากี
             ่
15
แกมเขียวเสื้อคอแบะผูกเน็คไท สวมหมวกแก็ปทรงหม้อตาล ต่างพากันลง
จากรถในท่าทางสง่าผ่าเผย

       เจ้าแห้วปราดออกมาจากห้องโถง และลงบันไดมาต้อนรับเจ้านายของ
เขา

       “เจ้าสี่คนนันอยู่หรือเปล่า”
                   ่                 พลถามเจ้าแห้วอย่างเป็นงานเป็นการ

       “รับประทานอยู่ครับ
                        พึ่งมาจากตึกใหม่เมื่อครู่นี้เอง รับประทานกำาลัง
คุยกับคุณหญิง และคุณผู้หญิงอยู่ในห้องโถงครับ”

      เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดินนำาหน้าพาสี่สหายขึ้นไปบนตึก เสี่ยงหงานสั่ง
ให้เจ้าแห้วนำารถไปเก็บ และทำาความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อคณะพรรคสี่
สหายกับเจ้าคุณเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทุกคนก็แลเห็นเจ้าหนุ่มเนื้อหอมทั้ง
สี่คน พร้อมด้วยสี่นางและคุณหญิงวาดนั่งเรียงรายอยู่รอบห้องโถง ร.ต.
พนัส ร.ต.นพ ร.ต.สมนึก และ ร.ต.ดำารงแต่งเครื่องแบบปรกติเสื้อเชิตแขน
ยาวสีกากีแกมเขียวแต่ไม่ได้ผูกเน็คไท

    ร.ต. สมนึกแลเห็นเตี่ยของเขา ก็หันมายิ้มให้เพื่อน ๆ ซึ่งนั่งรวมกันอยู่
บนโซฟาตัวเดียวกัน

       “ธนาคารของพวกเรามาแล้วโว้ย ฮ่ะ ฮ่ะ เสียเวลานั่งอยู่เกือบครึ่ง
ชั่วโมง” แล้วเขาก็เปลี่ยนสาตามาที่เสี่ยหงวนคุณเตี่ยของเขา “จ่ายเงิน
ให้ผมเร็ว ๆ เถอะครับเตี่ย ผมต้องการใช้เงินสักหมื่นบาท”

       อาเสียกลืนนำ้าลายเอื้อก

       “ฉันเป็นหนี้แกตั้งแต่เมื่อไรวะอ้ายตี๋”

       “แน่ะ   เรียกร้อยตรีว่าอ้าย ฮะ เดี๋ยวก็เจอข้อหาหมิ่นประมาทเท่านั้น
เอง”

       กิมหงวนทำาท่าจะเดินเข้าไปเล่นงานสมนึก แต่นิกรคว้าแขนไว้

       “ลูกมันล้อเล่นนิดเดียวเท่านี้ก็ยัวะ
                                        เมื่อตอนแกเป็นหนุ่มแกล้อเตี่ยแก
ยิ่งกว่าอ้ายนึกกระเซ้าแกเสียอีก เตี่ยแกไม่เห็นว่าอะไร อย่างมากก็…หน้า
ส้งตีง…จองหองเสียใหญ่หลวง ม่ายรู้จักเหล็กผู้ใหญ่ ชั่กหมานี่เก๋าเจ๊ง ล้อ
พ่อแม่เหมืองเพื่อง ๆ มีที่ไหน”

    เสียงหัวเราะดังขึ้นลั่นห้องโถง สี่สหายเดินไปนั่งรวมกันบนโซฟา
ใหญ่ตัวหนึ่ง เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้นวมข้างคุณหญิงวาด
นายพลดิเรกยิ้มให้ลูกชายของเขาแล้วถามว่า

       “พวกแกแต่งเครื่องแบบจะไปไหนกัน”
16

     “ไปกองพันพลร่มที่ป่าหวายครับคุณพ่อพวกเราจะไปรายงานตัวเป็น
ทางการว่าเราเรียนการกระโดดร่มและการรบในป่า ซึ่งเป็นหลักสูตรเบื้อง
ต้นเรียบร้อยแล้ว”

     “ออไร๋    พ่อขอชมเชยพวกแกทั้งสี่คนที่สามารถขับเครื่องบินได้ทั้ง
เครื่องบินใบพัดและเครื่องเจ๊ต นอกจากนี้ยังกระโดดร่มได้ดี สมความมุ่ง
หมายของทางการ นับว่าแกและเพื่อน ๆ เป็นนายทหารที่มีความรู้พอตัว
เหมาะแก่งานในหน้าที่ของผู้เชียวชาญพลังงานปรมาณูและอาวุธปล่อย”

     ร.ต. ศาสตราจารย์ดำารงยิ้มแป้น

     “คุณพ่อกับลุงพลลุงกิมหงวนน้ากรและคุณตา ไปประชุมที่ศาลาสันติ
ธรรมได้ความว่ายังไงบ้างครับ”

     นายพลดิเรกหัวเราะเบา ๆ

     “ก็ไม่มีอะไร เรากับเขมรปรองดองกันแล้ว เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นช่วย
ไกล่เกลี่ยให้ เขมรกับเราจะจัดการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีกัน ใน
ระหว่างทีมทหารไทยและทหารเขมรในเร็ว ๆ นี้ ที่สนามศุภชลาศัย”

     ร.ต. สมนึกพูดเสริมขึ้นทันที

     “ฟุตบอลหรือครับอาหมอ   ก๊อวิเศษซีครับ ผมคิดว่าอย่างไรเสียนัก
ฟุตบอลทั้งสองฝ่าย จะต้องตายคาสนามไม่น้อยกว่าฝ่ายละสองคน หรือ
อาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ขอให้ผมเล่นสักคนเถอะครับ ผมกับเพื่อน ๆ เป็น
ดาราฟุตบอลของมหาวิทยาลัยมาแล้วเมื่ออยู่อเมริกา”

      เสี่ยหงวนมองดูหน้าลูกชายของเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อว่า
ร.ต. สมนึกเล่นฟุตบอลเก่ง

     “ถามจริง ๆ เถอะวะอ้ายตี๋ แกน่ะเตะฟุตบอลเป็นหรือ”

     ทายาทของอาเสี่ยยิ้มด้วยริมฝีปากข้างขวาเพียงข้างเดียว

     “กรุณาเปลี่ยนคำาถามเสียใหม่ครับเตี่ย ที่ถูกเตี่ยควรจะถามผมว่า นัก
ฟุตบอลในเมืองไทยมีใครบ้างไหมที่เล่นฟุตบอลได้ดีอย่างผม”

     “โม้แล้วอ้ายตี๋”

     “ก็เป็นบ้าง”สมนึกพูดยิ้ม ๆ “พูดแล้วเตี่ยจะหาว่าผมคุยโวโอ้อวด
ผมนี่แหละครับศูนย์หน้าชั้นยอดที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงหรือลวดลาย หัวหน้า
ทีมชาติอิตาลีเคยไปดูพวกเราแข่งขันกับมหาวิทยาลัยเท็กซัสครั้งหนึ่ง พอ
ฟุตบอลเลิกเขามาหาผม และทาบทามขอซื้อตัวผมห้าหมื่นเหรียญอเมริกัน
17
จ้างไปเล่นทีมชาติของเขาสามปีให้เงินเดือน เดือนละพันเหรียญกินอยู่ฟรี
ผมปฏิเสธเขาไปว่าเตี่ยของผมมีเงินให้ผมถลุงตั้งร้อยล้านเหรียญอเมริกัน
เป็นอย่างน้อย แล้วเรื่องอะไรผมจะยอมขายตัวให้เขา ไปเล่นฟุตบอลให้
เขาเจ็บตัวเปล่า ๆ”

     เสี่ยหงวนพยักหน้ารับทราบ

     “เจริญ ๆ เถอะลูก”

     ร.ต. สมนึกยกมือไหว้

     “สมพรปากครับ”

     พลกล่าวกับสมนึกด้วยเสียงดุ ๆ

     “อย่าพูดเล่นอ้ายนึก แกเล่นฟุตบอลได้ดีจริง ๆ หรือ”

    เสี่ยตี๋ยิ้มแห้ง ๆ เขาไม่กล้าพูดล้อเลียนพลเลย เพราะพลจริงจังกับเขา
และเพื่อน ๆ เสมอ

     “จริงครับลุง”

     พลเปลี่ยนสายตามาที่ลูกชายของเขา

     “แกล่ะพนัส แกเคยเล่นในตำาแหน่งอะไร”

     “เซ็นเต้อรฮาฟครับคุณพ่อ”

     “เล่นได้ดีมากยังงั้นหรือ”

     “ไม่ครับคุณพ่อ    ผมพอเล่นให้ทีมมหาวิทยาลัยได้เท่านั้น ถ้าจะ
เปรียบผมกับเซ็นเต้อรฮ้าฟของทีมชาติไทยแล้ว ผมคงสู้เขาไม่ได้ ตั้งแต่
กลับมาจากอเมริกาหมายความว่าหลังจากที่เราสึกจากพระ พวกเราได้ดู
ฟุตบอลครั้งเดียว เมื่อตอนเย็นวันที่ ๒๓ พฤศจิกา เท่านั้นครับ กรุงเทพ ฯ
ผสม ชนะเวียตนาม ๒ - ๑ สนุกดีเหมือนกัน”

     นิกรยิ้มให้ลูกชายสุดสวาทของเขา

     “แล้วแกล่ะ ฝีมือของแกในการเล่นฟุตบอลเป็นยังไง”

     “ฝีเท้าครับไม่ใช่ฝีมือ”   ร.ต. นพพูดยิ้ม ๆ

     นิกรค้อนขวับ

     “เออ   นั่นแหละ แกเคยเล่นในตำาแหน่งอะไร”
18

     “ไลน์แมนครับ”       นพตอบหน้าตาย

     “เดี๋ยวก็โดนเตะเท่านั้น”
                          นิกรเอ็ดตะโรท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่าง
ครื้นเครงของคุณหญิงวาดและสี่นาง “ไลน์แมน เป็นผู้กำากับเส้นโว้ยไม่ใช่
คนเล่น”

     “อ๋อ      ผมลงเล่นในตำาแหน่งผู้รักษาประตูครับคุณพ่อ”

     “เล่นได้ดีไหม”

     “ปู้โธ่ เล่นเป็นโกล์มันจะยากเย็นอะไรครับ คอยรับอย่าให้ลูกมันเข้า
ประตูก็ใช้ได้ พวกเพื่อนนักเรียนที่มหาวิทยาลัยเยล มันเรียกผมว่าอ้าย
มือกาวครับคุณพ่อ จะชู้ตมาแบบไหนผมรับได้ทั้งนั้น ชู้ตในจุดโทษตัวต่อ
ตัวผมยังรับได้ ชู้ตเปรี้ยงรับปั๊บ พุ่งตัวรับ ล้มตัวลงรับหรือกระโดดรับ ใช้
หมัดชกออกไป ถามอ้ายพวกนี้ดูซีครับ ตั้งแต่ผมเป็นประตูมาทีมของเรา
ไม่เคยเสียประตูให้ใครเลย แมวมองของทีมเปรูถึงกับติดต่อจ้างผมไปเป็น
โกล์ทีมชาติให้เขา”

     “พอแล้ว”  นิกรพูดขัดขึ้น “สงสัยที่แกพูดน่ะมีความจริงเพียง ๕ เป
อรเซ็นต์ พ่อจะให้พวกแกลงสนามฝึกซ้อม ถ้าเล่นได้ดีจริง ๆ ก็จะให้เล่น
กับทีมทหารเขมร”

      คุณหญิงวาดกับสี่นางเกลียดชังเขมรเป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้นแทนที่จะ
คัดค้านเพราะกลัวว่าลูกหลานแข้งขาจะหักหรือได้รับอุบัติเหตุถึงตายใน
สนาม กลับสนับสนุนเต็มที่

     “สู้มนหลานย่า”
          ั            คุณหญิงวาดพูดยิ้ม ๆ “เขมรน่ะมันคบไม่ได้ จะมา
ญาติดีกับเราทำาไม แข่งขันฟุตบอลกันคราวนี้นึกหรือว่าจะเป็นการเชื่อม
สามัคคี ย่ารับรองว่าต้องเตะกันคอขาด และคนดูจะต้องแน่นสนามเป็น
ประวัติการณ์ทีเดียว”

     นันทาพูดเสริมขึ้น

     “จริงค่ะคุณอา     ฟุตบอลนัดนี้สนามไม่พอบรรจุคนดูแน่ ๆ”

     นวลลออยิ้มให้เสี่ยหงวน

     “เก็บเงินบำารุงการกุศลหรือไงคะเฮีย”

     “จ้ะ เก็บเงินบำารุงการกุศล เห็นจะให้สภากาชาดไทยมากกว่าที่อื่น
เพราะเราจะได้เจ้าหน้าที่เขามาช่วยเหลือในวันแข่งขันด้วย”

     นายพลดิเรกมองดูหน้าลูกชายของเข าด้วยความสนใจ
19
     “แกเคยเล่นฟุตบอลในตำาแหน่งอะไร       เจ้านึกเล่นเป็นศูนย์หน้า เจ้า
นพเล่นเป็นประตู เจ้านัสเป็นเซ็นเต้อรฮ้าฟ แล้วแกล่ะ”

     ร.ต. ดำารงยิ้มอย่างภาคภูมิ

     “ผม….ในซ้ายครับคู่ขากับอ้ายตี๋”

     “แกเล่นคล่องดีหรือ”

     ร.ต. ศาสตราจารย์ดำารงนิ่งคิด

     “ถ้าทีมคู่ต่อสู้ของเราอ่อนกว่า ผมก็เล่นคล่องครับ   แต่ถ้าเขาแข็งกว่า
เราผมก็เล่นไม่คล่อง”

     ประภาหัวเราะคิ้ก

     “ลูกแม่ตอบได้ดีทีเดียว      ความจริงก็เป็นอย่างนั้น การแข่งขันทุก
อย่างถ้าคู่ต่อสู้เหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ดูอ่อนไป ไม่ว่าจะเป็นมวย บาสเก็ต
รักบี้ หรือฟุตบอล”

     ประไพพูดเสริมขึ้น

     “อย่างไรก็ตาม ทีมทหารไทยแพ้ไม่ได้ค่ะ ถ้านักฟุตบอลต้องเดินเอา
ปี๊บคลุมหัว หรือม่ายก็บังคับให้เอาผ้าซิ่นมานุ่งเพราะแพ้เขมร แพ้ชาติอื่น
น่ะไม่แปลก แต่สำาหรับเขมรเราต้องชนะ นโรดมสีหนุจะมาดูไหมคะ”

     พลยิ้มให้เมียรักของนิกร

     “ไม่มาหรอกครับ ขืนมาก็คงไม่ได้กลับเขมร” แล้วเขาก็หันมาทาง
นายทหารหนุ่มทั้งสี่คน “เป็นอันว่าแกสี่คนมีหวังจะได้ลงเล่นทีมทหารไทย
ถ้าหากว่าพวกแกฝึกซ้อมได้ดีขนาดผู้เล่นทีมชาติของเรา”

      นพว่า “สำาหรับผมไม่ต้องซ้อมก็ได้ครับ มือผมเหนียวเหมือนกับ
ตุ๊กแก บางทีตะครุบลูกไว้ได้ผู้ตัดสินต้องช่วยแกะลูกออกจากมือผม”

     พลอดหัวเราะไม่ได้

     “เดี๋ยวก็โดนเขกกบาลเท่านั้น    แกได้ครึ่งหนึ่งของอัศวินก็ดีถมไป”

     เสี่ยหงวนกล่าวขึ้นทันที

     “พูดถึงอัศวินเศร้าใจไม่หาย
                             เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ของไทยเรา ไม่น่าจะตายยังหนุมแน่นแท้ ๆ”
                           ่
20
      นิกรว่า “มันถึงคราวของเขา โบราณว่าหมองูก็ตายเพราะงู หมอ
ตะเข้ตายเพราะตะเข้ หมอฟุตบอลก็ตายเพราะฟุตบอล หมอรักบี้ก็ตาย
เพราะรักบี้ น่าสงสารและน่าเสียดายมาก กันยอมรับว่ากันชอบกีฬาฟุตบอล
ที่สุด กันยกย่องบูชานักฟุตบอลชั้นดาราทุกคน และก็น่าแปลกที่พวกเราดู
ฟุตบอลเป็นประจำาจนกระทั่งนักฟุตบอลแทบทุกคนเห็นหน้าเราก็ยิ้มแย้มให้
เรา และทักทายเราเป็นอย่างดี”

    เจ้าหนุ่มเนื้อหอมทั้งสี่คนต่างมองดูหน้ากันพยักพเยิดกัน แล้วหยิบ
หมวกแก๊ปทรงหม้อตาลลุกขึ้น ร.ต. สมนึกเดินเข้าไปหาเสี่ยหงวน

     “จ่ายทรัพย์ให้ผมสักหมื่นเถอะครับ”

     “ไม่มีโว้ย”   เสี่ยหงวนตวาดแว็ด

     สมนึกยิ้มเศร้า ๆ หันมาพูดกับเพื่อนรักของเขา

     “ไปเถอะโว้ยเตี่ยไม่ให้เงิน กันยอมอดทุกอย่างแม้กระทั้งบุหรี่ ต่อไป
กันจะต้องหาเงินใช้เองบ้าง เป็นต้นว่ารับจ้างตรวจบัญชี หรือทำาบัญชีตาม
ห้างร้าน”

     “เดี๋ยวก่อน ๆ”อาเสี่ยเอ็ดตะโรแล้วล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตร
ใบละร้อยบาทปึกเบ้อเริ่มออกมาส่งให้ลูกชายของเขา “เอ้า – เอาไป พอ
สึกจากพระ มือซ้ายถือคันไถ มือขวาถือเตารีด ทั้งรีดทั้งไถแทบไม่เว้นวัน”

      ร.ต.สมนึกหัวเราะหึ ๆ จัดแจงสวมหมวกแล้วยกมือวันทยาหัตถ์เสี่ยหง
วนอย่างแข็งแรง ต่อจากนั้นเจ้าหนุ่มรูปหล่อทั้งสี่คน ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบ
ร้อยตรีก็พากันเดินออกไปจากห้องโถง คุณแม่ทั้งหลายและคุณย่ายิ้มน้อย
ยิ้มใหญ่ไปตามกัน



      หนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ ได้เสนอข่าวอย่างครึกโครมเกี่ยวกับความ
สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับเขมรที่ขาดสะบันจากกันเมื่อหลายปี กลับ
ปรองดองกันได้ด้วยการไกล่เกลี่ยของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งมี ฯพณฯ โยกูซีวะ
เป็นประธานการไกล่เกลี่ย คือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ไทยกับเขมรคืนดีกัน
นั่นเอง

      และข่าวของหนังสือพิมพ์ ที่แฟนฟุตบอลตื่นเต้นสนใจที่สุด ก็คือ
การแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี ระหว่างทีมทหารไทยกับทหารเขมร
ซึ่งจะแข่งขันกันที่สนามศุภชลาศัย ราวกลางเดือนธันวาคมนี้ ชิงถ้วย
ทองคำาของ ฯพณฯ โยกูซีวะนั่นเอง

     แน่นอนละ ต่อให้เก็บค่าผ่านประตูอย่างตำ่า ๑๐๐ บาท แฟนฟุตบอลก็
จะต้องหลั่งไหลไปชมการแข่งขันฟุตบอลนัดสำาคัญนี้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
21
ในวงการฟุตบอลย่อมทราบดีว่านักฟุตบอลทั้งสองฝ่ายจะต้องแข่งขันกัน
อย่างดุเดือด ถึงกับแข้งขาหักทุพพลภาพหรือตายคาสนาม การเล่นจะต้อง
เป็นไปอย่างรุนแรงที่สุด มีการเตะคาบลูกคาบดอก คือเตะทั้งลูกทั้งคนหรือ
เตะคนไม่เตะลูก บางทีก็อาจวางมวยกันกลางสนามระหว่างผู้เล่นทั้งสอง
ฝ่าย ไม่มใครเชื่อว่าการแข่งขันจะเป็นไปฉันท์มิตร เพราะเขมรกับไทยนั้น
           ี
ไม่มีวนที่จะเป็นมิตรกันได้อีกแล้ว นอกจากนโรดมสีหนุถูกฆ่าตาย หรือมีอัน
      ั
เป็นอหิวาต์ตายหรือเจ็บไข้ตาย

       ในที่สุดหนังสือพิมพ์ก็ลงกำาหนดวันแข่งขันที่แน่นอน แจ้งให้แฟน
ฟุตบอลทราบ คือวันเสาร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๐๘ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ
สนามศุภชลาศัย ที่ต้องแข่งขันในเวลากลางวันก็เพราะเสาไฟประจำาสนาม
ถูกรื้อออกหมด เกี่ยวกับการสร้างอัฒจันทร์เพิ่มเติมให้รอบสนาม เตรียมไว้
รับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในปี ๒๕๐๙

      อย่างไรก็ตามทีมทหารไทยยังไม่ยอมระบุตัวผู้เล่น เพียงแต่ พ.อ. กิม
หงวน ไทยแท้ ผู้ควบคุมทีมทหารไทยเปิดเผยว่า ผู้เล่นทีมทหารไทยทั้ง
๑๑ คนนั้นล้วนแต่เป็นนักฟุตบอลชั้นยอด ส่วนมากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ
หรือเคยเล่นให้ทีมชาติมาแล้ว อาเสี่ยกิมหงวนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า
รับรองว่าแฟนฟุตบอลจะไม่ผิดหวัง ทีมทหารไทยทุกคนให้สัตย์ปฏิญาณว่า
จะสู้ตายเพื่อให้สมศักดิ์ศรีของทหารไทยและกีฬาไทย

      นักฟุตบอลทีมทหารไทยรวม ๓๒ คน ทั้งทีมเอ. ทีมบี. และตัวสำารอง
ได้พักอยู่ที่โรงแรม “สี่สหาย” ซึ่ง พล ท. ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรกนาย
แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เอาใจใส่ดูแลในเรื่องสุขภาพของนักกีฬาเป็นอย่างดี มี
อาหารการกินอย่างดีเยี่ยม ผู้ควบคุมทีมจัดให้พักห้องละ ๔ คน ทีม
ทหารไทยไม่จำาเป็นต้องมีโค้ชเพราะผู้เล่นแต่ละคนเล่นฟุตบอลได้ดีกว่า
โค้ชที่จะมาอบรมฝึกสอน ผู้ควบคุมทีมคือ พ.อ. กิมหงวนกับเพื่อน ๆ ของ
เขา ต่างช่วยกันดูแลให้ความสะดวกสบายแก่นักฟุตบอลอย่างดีที่สุด มีการ
บริหารร่างกายในตอนเช้าและตอนบ่าย ในราว ๑๖.๐๐ น. เสี่ยหงวนได้พานัก
ฟุตบอลไปฝึกซ้อมที่โรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ไม่ได้ซ้อมทีม เพียงแต่ซ้อม
วิ่งทนซ้อมยิงประตูเฉพาะกองหน้า ปรึกษาหารือกันในการที่จะแข่งขันกับ
ทีมทหารเขมร ฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน แล้วก็ตกลงกันว่าทีม
ทหารไทยจะใช้วิธีเล่นแบบลูกยาวแบบเดียวกับทีมทหารอากาศ ทั้งนี้
เพราะฝ่ายเรารู้ดีว่าทีมทหารเขมรนั้น เล่นลูกสั้น เช่นเดียวกับเวียตนาม ตาม
แบบฉบับของฟุตบอลฝรั่งเศส หรือฟุตบอลยุโรปโดยมาก ถ้าหากว่าทีม
ทหารไทยเล่นลูกยาวดึงเกมให้ทีมทหารเขมรเล่นลูกยาวตามเรา เขมรต้อง
ปราชัยเราอย่างไม่มีปัญหา

       การคัดเลือกตัวนักฟุตบอลทีมทหารไทยยังไม่ได้กำาหนดแน่นอนลงไป
ว่าผู้ใด จะได้มีโอกาสลงสนามแข่งขัน จนกระทั่งการซ้อมทีมครั้งแรกผ่าน
ไปคณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ก็ช่วยกันคัดเลือกนักฟุตบอล
ฝีเท้าเยี่ยมไว้จากทีม เอ. และทีม บี. และปรับปรุงเปลี่ยนตัวใหม่ทุกครั้งที่
ซ้อม
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร
ไทยเตะเขมร

More Related Content

What's hot

แบบฝึกหัดม.4 5 6 เตรียมเอ็นฯ
แบบฝึกหัดม.4  5 6 เตรียมเอ็นฯแบบฝึกหัดม.4  5 6 เตรียมเอ็นฯ
แบบฝึกหัดม.4 5 6 เตรียมเอ็นฯAnan Pakhing
 
ภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทย
somchai2505
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์Marr Ps
 
Open letters to PM Yingluck
Open letters to PM YingluckOpen letters to PM Yingluck
Open letters to PM Yingluck
Charnvit Ks
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์Marr Ps
 
คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
 คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
thunchanokteenzaa54
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์
Piroj Poolsuk
 
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตยคำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
Junya Yimprasert
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีพัน พัน
 
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯคำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯJunya Yimprasert
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัน พัน
 
ภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยnatta25
 

What's hot (19)

แบบฝึกหัดม.4 5 6 เตรียมเอ็นฯ
แบบฝึกหัดม.4  5 6 เตรียมเอ็นฯแบบฝึกหัดม.4  5 6 เตรียมเอ็นฯ
แบบฝึกหัดม.4 5 6 เตรียมเอ็นฯ
 
ภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทย
 
ใบความรู้กาพย์เห่เรือ
ใบความรู้กาพย์เห่เรือใบความรู้กาพย์เห่เรือ
ใบความรู้กาพย์เห่เรือ
 
thai
thaithai
thai
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์
 
ภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทย
 
ขุนช้างขุนแผนฉบับร้อยแก้ว
ขุนช้างขุนแผนฉบับร้อยแก้วขุนช้างขุนแผนฉบับร้อยแก้ว
ขุนช้างขุนแผนฉบับร้อยแก้ว
 
Open letters to PM Yingluck
Open letters to PM YingluckOpen letters to PM Yingluck
Open letters to PM Yingluck
 
จิรทีปต์ 2
จิรทีปต์ 2จิรทีปต์ 2
จิรทีปต์ 2
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์
 
คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
 คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
คำราชาศัพท์ที่ใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน
 
คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์คำราชาศัพท์
คำราชาศัพท์
 
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตยคำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
คำตอบ(โต้) คนคลั่งเจ้า จาก คนรักประชาธิปไตย
 
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรีเอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
เอกสารประกอบการเรียน อาณาจักรธนบุรี
 
Yo book version 240810
Yo book version 240810Yo book version 240810
Yo book version 240810
 
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯคำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
คำตอบโต้กับคนรักสถาบันฯ
 
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรีพัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
 
นัด
นัดนัด
นัด
 
ภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทยภาษาไทย สำนวนไทย
ภาษาไทย สำนวนไทย
 

Viewers also liked

ประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาtommy
 
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเลล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเลtommy
 
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดี
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดีพระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดี
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดีtommy
 
แก้อาการสะบักจม
แก้อาการสะบักจมแก้อาการสะบักจม
แก้อาการสะบักจมtommy
 
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีtommy
 
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่tommy
 
ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย
tommy
 
ความรู้เรื่อง เพชร-
ความรู้เรื่อง  เพชร-ความรู้เรื่อง  เพชร-
ความรู้เรื่อง เพชร-tommy
 
โลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยโลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยtommy
 
นางแมวผี
นางแมวผีนางแมวผี
นางแมวผี
tommy
 
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์tommy
 
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกเศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกtommy
 
Rongse
RongseRongse
Rongsetommy
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑tommy
 
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูPor Waragorn
 
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวูตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
Sarod Paichayonrittha
 
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์sornblog2u
 
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเองสอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
Saravut Tamavong
 
โหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRโหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HR
Aek Samroeng
 
36 กลศึก
36 กลศึก36 กลศึก
36 กลศึกtommy
 

Viewers also liked (20)

ประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดาประชุมพงศาวดา
ประชุมพงศาวดา
 
ล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเลล่าพรายทะเล
ล่าพรายทะเล
 
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดี
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดีพระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดี
พระปกเกล้าทรงโต้แย้งปรีดี
 
แก้อาการสะบักจม
แก้อาการสะบักจมแก้อาการสะบักจม
แก้อาการสะบักจม
 
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดีแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
แนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ ปรีดี
 
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
ประกาศเปลี่ยนธรรมเนียมใหม่
 
ประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยประชาธิปไตย
ประชาธิปไตย
 
ความรู้เรื่อง เพชร-
ความรู้เรื่อง  เพชร-ความรู้เรื่อง  เพชร-
ความรู้เรื่อง เพชร-
 
โลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารยโลกพระศรีอารย
โลกพระศรีอารย
 
นางแมวผี
นางแมวผีนางแมวผี
นางแมวผี
 
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
 
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึกเศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
เศรษศาสตร์กลางทะเลลึก
 
Rongse
RongseRongse
Rongse
 
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
สมุนไพรไทย ตอนที่ ๑
 
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวูตำราพิชัยสงครามซุนวู
ตำราพิชัยสงครามซุนวู
 
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวูตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
ตำราพิชัยสงครามสิบสามบท ของซุนวู
 
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
ตำราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์
 
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเองสอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
สอนการดูลายมือด้วยตัวเอง
 
โหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HRโหงวเฮ้งกับงาน HR
โหงวเฮ้งกับงาน HR
 
36 กลศึก
36 กลศึก36 กลศึก
36 กลศึก
 

Similar to ไทยเตะเขมร

Samkok01
Samkok01Samkok01
Samkok01tommy
 
ธาตุธรรม ๓ ฝ่าย
ธาตุธรรม ๓ ฝ่ายธาตุธรรม ๓ ฝ่าย
ธาตุธรรม ๓ ฝ่ายRose Banioki
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1Sirisak Promtip
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Nakkarin Keesun
 
สร้างอาณาจักร
สร้างอาณาจักรสร้างอาณาจักร
สร้างอาณาจักร
Suriyan Tish
 
ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์vorravan
 
ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์vorravan
 
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสมชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
krupanida sornkheang
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
vanichar
 
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
kruthai40
 
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
kruthai40
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์Sirisak Promtip
 
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์tommy
 
คำทับศัพท์
คำทับศัพท์คำทับศัพท์
คำทับศัพท์phornphan1111
 
คำทับศัพท์
คำทับศัพท์คำทับศัพท์
คำทับศัพท์phornphan1111
 
5555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555gutonzabza191
 

Similar to ไทยเตะเขมร (20)

Samkok01
Samkok01Samkok01
Samkok01
 
King film
King filmKing film
King film
 
ธาตุธรรม ๓ ฝ่าย
ธาตุธรรม ๓ ฝ่ายธาตุธรรม ๓ ฝ่าย
ธาตุธรรม ๓ ฝ่าย
 
สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1สามัคคีเภทคำฉันท1
สามัคคีเภทคำฉันท1
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
สามัคคีเภทคำฉันท์ท๊อป
สามัคคีเภทคำฉันท์ท๊อปสามัคคีเภทคำฉันท์ท๊อป
สามัคคีเภทคำฉันท์ท๊อป
 
สร้างอาณาจักร
สร้างอาณาจักรสร้างอาณาจักร
สร้างอาณาจักร
 
ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์
 
ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์ภัยแฝงออนไลน์
ภัยแฝงออนไลน์
 
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสมชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนคำประสม
 
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
 
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
 
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
บทอาขยาน ภาษาไทย ม.๓
 
สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์สามัคคีเภทคำฉันท์
สามัคคีเภทคำฉันท์
 
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
พจนานุกรมฉบับคึกฤทธิ์
 
คำทับศัพท์
คำทับศัพท์คำทับศัพท์
คำทับศัพท์
 
คำทับศัพท์
คำทับศัพท์คำทับศัพท์
คำทับศัพท์
 
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
โคลนติดล้อ (สอน Ppt)[1]
 
Proverb11
Proverb11Proverb11
Proverb11
 
5555555555555555555555555555
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555
 

More from tommy

อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็นอันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
tommy
 
ศักดินาไทย
ศักดินาไทยศักดินาไทย
ศักดินาไทย
tommy
 
แบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิแบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิtommy
 
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบการเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบtommy
 
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคตสามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
tommy
 
สี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินสี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินtommy
 
เย้ยพระยม
เย้ยพระยมเย้ยพระยม
เย้ยพระยมtommy
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซากtommy
 
สมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจสมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจtommy
 
หมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบหมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบtommy
 
เจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยเจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยtommy
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิงtommy
 
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึกtommy
 
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3tommy
 

More from tommy (14)

อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็นอันตรายจากอาหารมื้อเย็น
อันตรายจากอาหารมื้อเย็น
 
ศักดินาไทย
ศักดินาไทยศักดินาไทย
ศักดินาไทย
 
แบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิแบบทดสอบสมาธิ
แบบทดสอบสมาธิ
 
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบการเมืองของประชาชน กุหลาบ
การเมืองของประชาชน กุหลาบ
 
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคตสามเกลอ ตอนสู่อนาคต
สามเกลอ ตอนสู่อนาคต
 
สี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดินสี่แผ่นดิน
สี่แผ่นดิน
 
เย้ยพระยม
เย้ยพระยมเย้ยพระยม
เย้ยพระยม
 
ผีตายซาก
ผีตายซากผีตายซาก
ผีตายซาก
 
สมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจสมบัติปิศาจ
สมบัติปิศาจ
 
หมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบหมู่บ้านผีดิบ
หมู่บ้านผีดิบ
 
เจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชยเจ้าพ่อเชย
เจ้าพ่อเชย
 
บ้านผีสิง
บ้านผีสิงบ้านผีสิง
บ้านผีสิง
 
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก36 กลยุทธิ์ชนะศึก
36 กลยุทธิ์ชนะศึก
 
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
ตั้งฮั่น ตอนที่ 3
 

ไทยเตะเขมร

  • 1. 1 ห้องสมุดหนังสือเก่า พล นิกร กิมหงวน และลูกชาย ตอน ทีมทหาร ไทย-เขมร สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับเขมรได้ขาดสะบั้นจากกันมาเป็นเวลาหลายปี แล้ว นับตั้งแต่รัฐบาลเขมรได้ประกาศตัดสัมพันธ์ทางทูต และเรียกคณะทูต เขมรทั้งหมดที่ประจำาอยู่ในกรุงเทพฯ กลับเขมร ซึ่งรัฐบาลไทยก็จำาเป็น ต้องเรียกทูตของเรากลับเช่นเดียวกัน พรมแดนไทยเขมรถูกปิดตาย เรา กับเขมรต่างหันหลังให้กัน เลิกมองหน้ากัน อย่างไรก็ตามประชาชาติทั้ง สองก็หาได้เกลียดชังกันไม่ แต่เมื่อนโรดมสีหนุไม่ปรารถนาที่จะคบหา สมาคมกับไทยแล้ว ชาวเขมรและคนไทยก็ไม่สามารถจะติดต่อพบปะกันได้ เขมรชนะคดีที่ศาลโลกเอาดินแดนเขาพระวิหารคืนไป เขมรส่งกำาลังทหารบุกเข้ามาทางคลองใหญ่ในเขตจังหวัดตราด และส่ง เรือรบล่วงลำ้าเข้ามาในน่านนำ้าของเรา จับกุมเรือประมงไทยไปหลายลำา คน ไทยหลายคนที่อยู่ในเรือประมงเหล่านั้น ถูกจับไปขังคุกได้รับความทุกข์ ทรมานแสนสาหัสโดยที่เขาไม่ได้ทำาผิดคิดร้ายอะไรเลย บางคนก็ถูกทหาร หรือตำารวจเขมรยิงทิ้ง ที่เจ็บป่วยก็ตายไปเพราะไม่ได้รับการรักษาพยาบาล หลายต่อหลายครั้งที่เขมรยั่วยุโทสะเรา เพื่อต้องการให้กองทัพไทยบุก ทะลวงเข้าไป นโรดมสีหนุจะได้แหกปากร้องบอกให้ชาวโลกรู้ว่าไทย ข่มเหงรุกรานเขมร นโรดมสีหนุกำาลังจะพาประเทศชาติไปสู่ภัยพิบัติ ด้วย การคบหาสมาคมกับคอมมิวนิสต์ ทำาท่าเหมือนกับจะยอมเป็นทาส คอมมิวนิสต์ ในที่สุด รัฐบาลญี่ปุ่นก็ยื่นมือเข้าไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่างไทยกับเขมร ทั้งนี้เพราะญี่ปุ่นเห็นว่าไทยกับเขมรต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เคยรักใคร่กันมาชา นานแล้ว มีอาณาเขตติดต่อกัน เป็นชาวเอเซียด้วยกันควรที่จะเป็นมิตรต่อ กันเหมือนเช่นเดิม การผิดพ้องหมองใจกันนั้นก็เป็นธรรมดาของเพื่อนบ้าน ที่อยู่ใกล้กัน ก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งไม่กินเส้นกัน หรืออยากเตะปากกัน บ้าง รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งคณะกรรมการคณะหนึ่ง เดินทางไปกัมพูชาหรือเขมร ซึ่ง ไทยเรานั้นถนัดเรียกว่าเขมรมากกว่า มีขาวแพร่สะพัดไปทั่วโลกเมื่อญี่ปุ่น ่ เริ่มทำาหน้าที่ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ไทย-เขมร ชาวโลกต่างสดุดียกย่อง ญี่ปุ่นที่ได้ปฏิบัติภารกิจอันควรทำายิ่ง คือสร้างมิตรภาพและสันติสุข ในที่สุดคณะกรรมการของญี่ปุ่นซึ่งมี ฯพณฯ โยกูซีวะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ก็เดินทางจากพนมเป็ญมากรุงเทพฯ และรุดเข้าพบคณะรัฐบาลของเรา ฝ่ายไทยชี้แจงให้ฟังว่า การตัดสัมพันธ์ทางการทูตนั้นเขมรเป็นฝ่ายทำา ก่อน โดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย เมื่อเขมรไม่ต้องการเป็นมิตรกับไทย เราก็ ต้องเลิกคบกับเขมรเป็นธรรมดาอยู่เอง ถ้าเขมรอยากจะคบกับไทยอีกเราก็
  • 2. 2 ยินดีเป็นมิตรด้วย ทางเราไม่เคยถือเป็นข้ออาฆาตพยาบาท ใครเป็นมิตร กับเราเราก็เป็นมิตรกับเขา คณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทระหว่าง ไทย-เขมร ได้บนกลับโตเกียว ิ เพื่อรายงานให้รัฐบาลของเขาทราบ แล้วก็เบิกเงินค่าเบี้ยเลียงเดินทาง ค่า โรงแรม ค่าอาหาร ค่ารับรอง ค่าพาหนะหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จิปาถะ เหมือนพวกเราไปต่างประเทศแล้วก็มาเบิกเงินจากรัฐบาล ฯพณฯ โยกูซีวะ ได้ติดต่อกับรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเขมร เพื่อให้ทั้งสอง ฝ่ายพบปะกันนัดประชุมกัน ประสานรอยร้าวให้กลับคืนดีเหมือนเช่นเดิม นโรดมสีหนุได้โทรเลขแจ้งไปว่าทางกัมพูชาพร้อมเสมอที่จะพบกับผู้แทน ไทย แต่ขอให้ประชุมกันที่กรุงเทพ ฯ เพราะที่พนมเป็ญไม่มีห้องประชุม ที่เหมาะสมและไม่มีเงินงบประมาณเลี้ยงดูคณะกรรมการไกล่เกลี่ย ตลอด จนค่าใช้จ่ายในการประชุม ทางญี่ปุ่นติดต่อกับรัฐบาลไทยขอให้ไทยรับเป็นเจ้าภาพ รัฐบาลจึงตอบ ตกลงและได้นัดวันเวลาไปเรียบร้อย นโรดมสีหนุ ส่งออกญาเดโชสุริยัน อธิบดีกรมการโสเภณีและกะเทย แห่งกัมพูชา เป็นผู้แทนผู้มีอำานาจเต็มในการเจรจาครั้งนี้ มีนายตำารวจ ใหญ่และนายทหารชันผู้ใหญ่ติดตามมาด้วยหลายคน ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ ้ ให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ จัดห้องพิเศษให้พักที่โรงแรม “เอราวัณ” ทำาให้ออกญาเดโชและคณะแปลกใจอย่างที่สุด เท่าที่รัฐบาลไทยได้แสดง ไมตรีจิตอย่างสูงต่อพวกเขา ถึงเช่นนัน ส่วน ฯพณฯ โยกูซีวะกับคณะ ้ กรรมการก็พักอยู่โรงแรม “เอราวัณ” เช่นเดียวกัน ธงญี่ปุ่นและธงเขมรถูก ชักขึ้นที่หน้าโรงแรมนั้น เป็นการยกย่องให้เกียรติแก่ผู้มาพัก ตำารวจได้ให้ ความอารักขาออกญาเดโชกับคณะอย่างแข็งแรง เพราะแว่วข่าวว่าพวกจิ๊ก โก๋จะตอนรับท่านออกญาเดโชด้วยระเบิดขวด แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิด ขึ้น เพราะรัฐบาลได้ประกาศทางวิทยุกระจายเสียง และทางโทรทัศน์ ขอร้องให้พี่น้องชาวไทยงดเว้นกระทำาการใด ๆ ที่จะเสื่อมเสียเกียรติของ ชาติไทยและคนไทยทั้งชาติ การประชุมที่ “ศาลาสันติธรรม” ได้เริ่มต้นในตอน ๑๐.๐๐ น. ของวัน ศุกร์ ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๐๘ ฝ่ายเขมร ๙ คนรวมทั้งท่านออกญาเดโชนั่งรวมกลุ่มกันอยู่บนเก้าอี้ ทางด้านซ้ายของห้องประชุม ตอนกลางคือคณะกรรมการชาวญี่ปุ่น ๖ คน ทางขวาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยมี พล อ. วิชิต ชัยสมรภูมิ รองผู้ บัญชาการทหารสูงสุดคนหนึ่ง และ พล ร.ต. ชอุ่ม เชวงศักดิ์ ผู้แทน ของกองทัพเรือคนหนึ่ง นอกจากนี้ก็มีนายพลดิเรกกับคณะพรรคของเขา พร้อมด้วยเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญสรรพาวุธแห่งกองทัพไทย ซึ่งจะต้องถกเถียงกับผู้แทนเขมร ตามที่เขมรกล่าวหาว่ากองทัพไทยใช้ จรวดที่คล้ายคลึงกับแบบ “เรดสโตน” ติดระเบิดแรงสูงยิงค่ายทหารเขมร
  • 3. 3 ในป่าสองครั้งแล้ว จากฐานยิงจรวดในจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้เขมรยัง หาว่ากองเรือตรวจอ่าวของไทยเรา ได้ใช้ปืนยิงชายฝั่งเขมรหลายต่อหลาย ครั้ง เพราะข้อหาเหล่านี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในตำาแหน่งผู้บัญชาการ ทหารสูงสุดจึงบัญชาให้นายพลดิเรกกับคณะ และ พล ร.ต. ชอุ่มมาร่วม ประชุมด้วย ซึ่งเป็นการบังเอิญอย่างที่สุด ท่านนายพลเรือผู้นี้เป็นเพื่อนรัก เกลอเก่ากับพลและนิกรเสียด้วย รู้จักคุ้นเคยกับเสียหงวนและนายพลดิเรก มีความเคารพรักเจ้าคุณปัจจนึก ฯ มานานแล้ว นอกจากผู้แทนทั้งสองชาติ และคณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท แล้ว ก็มีผู้สังเกตการซึ่งเป็นชาวต่างชาติอีกหลายคน มีทั้งอเมริกัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ฯพณฯ โยกูซีวะ อดีตพลตรีแห่งกองทัพบกญี่ปุ่นที่ เคยนำาทหารเข้ายึดครองประเทศไทย ได้นั่งอยู่หน้าโต๊ะในที่สูงตำาแหน่ง ประธานในที่ประชุมนี้ ท่านได้กล่าวเปิดประชุมเป็นภาษาไทย อย่างชัด ถ้อยชัดคำา แต่มีเสียงซี๊ด ๆ ปนอยู่บ้าง ถึงกระนั้นก็นับว่าท่านนายพลแห่ง กองทัพญี่ปุ่นพูดภาษาไทยได้ดี เพราะก่อนสงครามอาเซียบูรพาท่านเคย เข้ามาอยู่ในกรุงเทพ ฯ หลายปี ตั้งร้านขายถ้วยชามและสินค้าญี่ปุ่น แม้ กระทั่งยายินตันและยากันยุง แล้วก็ใช้เวลาว่างทำาแผนที่ถนนหนทางต่าง ๆ ในกรุงเทพ ฯ ตลอดจนจุดยุทธศาสตร์ที่สำาคัญต่าง ๆ “ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายข้าพเจ้ารู้สึกยินดีอย่างยิ่งเท่าที่ข้าพเจ้าได้ รับเกียรติให้มาเปิดโรงงานทอผ้าของญี่ปุ่นที่ถนนเพชรเกษมนี้” พูดจบ ท่านโยกูซีวะก็สะดุ้งเฮือก “โอ๊ะ – ขอโทษทีครับผมหยิบโน้ตผิดไป” ผู้แทนไทยและผู้แทนเขมรต่างหัวเราะคิกคักไปตามกัน ท่านประทาน รีบเปิดแฟ้มเอกสารของท่าน เลือกหาโน้ตที่เขียนไว้สำาหรับเปิดการประชุม กรณีพิพาทระหว่างไทยกับเขมร เสี่ยหงวนสบตากับออกญาเดโช ซึ่งเป็น ชายร่างใหญ่ผิวคลำ้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา อาเสี่ยก็ชักยัวะขึ้นมาทันที “มองอะไรวะ” อาเสียถามเสียงค่อนข้างดัง ออกญาเดโช ฯ แสยะยิ้ม “มองไม่ได้หรือ” อาเสี่ยเค้นหัวเราะ “ออกไปข้างนอกซี” กรรมการคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ระหว่างกลาง ได้กล่าวกับเสี่ยหงวนทันที “กัมพูชากับไทยกำาลังจะเป็นมิตรกันนะครับ หนักนิดเบาหน่อยอย่าให้ มีเรื่องอะไรกันเลยครับ”
  • 4. 4 อาเสี่ยยิ้มให้กรรมการชาวญี่ปุ่นเจ้าของร่างที่ค่อนข้างสั้นและเตี้ย สวม แว่นตาสายตาสั้นตัดผมเกรียน เขาชื่นชมมากที่กรรมการคนนี้พูดไทยได้ดี “คุณช่วยบอกให้ออกญาเดโช โกนหนวดทิ้งเสียทีได้ไหมครับ ไว้ หนวดแหยมยังงี้กวนโทโสผมยังไงชอบกล” พล อ. วิชิตหันมามองดูเสี่ยหงวน “นังเฉย ๆ คุณกิมหงวน ่ อย่าทำาอะไรให้เสียเกียรติผู้แทนชาติไทย” ภายในห้องประชุมเงียบกริบ ท่านประทานคือท่านโยกูซีวะก้มลงมอง ดูโน้ตที่ท่านเขียนไว้ แล้วพูดไมโครโฟนเบา ๆ เสียงของท่านกระจายไปทั่ว ห้อง “ท่านผู้แทนชาติไทยและกัมพูชาที่เคารพ คณะรัฐบาลญี่ปุ่นรู้สึก ขอบคุณอย่างยิ่งที่ไทยกับกัมพูชายอมให้เราเป็นผู้ไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ระหว่างชาติทั้งสอง ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุม ณ บัดนี้ และให้ท่านผู้ แทนกัมพูชาแถลงก่อน” ออกญาเดโชผุดลุกขึ้นยืนทันที เขาแต่งกายแบบขุนนางเขมร นุงผ้า่ ม่วงสีนำ้าเงินโจงกระเบน สวมเสื้อราชปะแตนคอตั้งกระดุม ๕ เม็ด ประดับ เหรียญตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงของเขมร และมีสายสะพายสีแดง ส่วนลูกน้องของเขาแต่งเครื่องแบบทหารและตำารวจ “ข้าพเจ้าออกญาเดโชผู้แทนของรัฐบาลเขมร ตั้งใจจะกล่าวในที่ ประชุมเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภาษาของนายเก่าของข้าพเจ้า แต่ ข้าพเจ้าเห็นว่ารัฐบาลไทยให้การตอนรับพวกเราอย่างอบอุ่นใจ และท่าน ประธานก็ยังให้เกียรติแก่ประเทศไทย กล่าวเปิดประชุมเป็นภาษาไทย ข้าพเจ้าและคณะของข้าพเจ้าก็จะพูดภาษาไทยเช่นเดียวกัน” คณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ตลอดจนคณะกรรมการ พล อ. วิชิต และ พล ร.ต. ชอุ่ม ต่างตบมือให้เกียรติออกญาเดโชเสียงกราวดัง ไปทั่วห้อง แต่แล้ว พ.อ.นิกรก็พูดไมโครโฟนขึ้นทันที “ท่านประธานที่เคารพ ข้าพเจ้าขออนุญาตพูดกับหัวหน้าผู้แทน กัมพูชาสักนิดเถอะครับ” “ได้ครับ” ท่านยูโกซีวะพูดยิ้ม ๆ นิกรมองหน้าออกญาเดโชแล้วยิ้มให้ “เจ้าคุณครับ เจ้าคุณน่ะเคยถูกพระร่วงขุนรามคำาแหงสาปให้เป็นหิน อยู่ที่เมืองสุโขทัยเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๘๕๐ ใช่ไหมครับ”
  • 5. 5 “คนละคนครับ นันทวดของปู่ทวดของทวดของทวดของปู่ทวดผมอีก ่ ที ข้าราชการชันผู้ใหญ่ที่กัมพูชานิยมใช้ราชทินนามว่าออกญาเดโชครับ” ้ “ขอบคุณครับที่กรุณาให้ความกระจ่างแก่ผมในเรื่องนี้ แล้วออกญาอื่น ๆ มีไหมครับ เช่น ออกญากาแร็ต ออกญามหานิล หรือออกญาถ่ายอะไร เหล่านี้” “มีครับ แต่ว่าชื่อเพราะกว่าที่คุณว่า” พ.อ.นิกรหัวเราะหึ ๆ ออกญาเดโชกล่าวกับที่ประชุมด้วยเสียงกังวาน เขาพูดได้ดีราวกับว่าเขาเป็นคนไทยคนหนึ่ง “การที่กัมพูชาถอนทูตตัดสัมพันธไมตรีกับไทยนั้น ก็เนื่องจากเราได้ ทราบว่าไทยมีนโยบายเป็นศัตรูกับเรา” เสี่ยหงวนยกกำาปั้นทุบโต๊ะปัง “ไม่จริงโว้ย โกหก ไทยไม่เคยคิดร้ายต่อประเทศเพื่อนบ้าน ไทยดี ที่สุดต่อมิตร และร้ายที่สุดต่อศัตรู” ออกญาเดโชฟ้องประธานทันที “ท่านประธานได้ยินไหมครับ ผู้แทนไทยพูดวาจาหยาบคายกับผม” ประธานยิ้มให้เสี่ยหงวน “กรุณาพูดให้สุภาพหน่อย” เสี่ยหงวนก้มศีรษะคำานับท่านประธาน “อาริกาโต้” ท่านโยกูซีวะทำาหน้าชอบกล “ลำาบากนักก็อย่าพยายามพูดญี่ปุ่นเลยครับ พูดไทยกับผมดีกว่า” ออกญาเดโชแถลงต่อที่ประชุมต่อไป “ข้าพเจ้าไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องการถอนทูต เพราะเราต่างฝ่ายต่างก็ ถอนทูตจากกันแล้ว เมื่อไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต ก็เหมือนกับว่าเรา เลิกคบกันต่างคนต่างอยู่ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ทหารไทยบุกเข้าไปในดิน แดนกัมพูชาบ่อย ๆ บางทีเรือรบไทยก็แล่นเข้าไปในน่านนำ้าของเรา” ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวขึ้นทันที
  • 6. 6 “ความจริงนั้นตรงกันข้ามกับที่ท่านพูด เรามีเหตุผลและหลักฐานเพียง พอ ที่จะยืนยันว่าทหารกัมพูชานั่นแหละ ได้ล่วงลำ้าเข้ามาในดินแดนของเรา ก่อน จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ซึ่งฝ่ายเราก็เพียงแต่ขับไล่ออกไป” นายตำารวจเขมรคนหนึ่งกล่าวขึ้นดัง ๆ “นันเป็นโจรเขมรที่แต่งเครื่องแบบคล้ายทหารรัฐบาล กัมพูชาไม่ ่ จำาเป็นต้องรับผิดชอบ สำาหรับทหารกัมพูชาแล้วไม่เคยบุกรุกเข้ามาในดิน แดนไทยเลย พวกท่านนันแหละพยายามรุกรานเราเสมอ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ่ เรือรบไทยประจำากองเรือตรวจอ่าวลำาหนึ่ง ได้ระดมยิงหมู่บ้านชายทะเล ของเราเสียหายมาก ถูกราษฎรบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน” พล ร.ต. ชอุ่มแถลงโต้ตอบทันที “กองทัพเรือของเราขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ไม่มีความจำาเป็นอะไรที่ เรือรบของเราจะระดมยิงชายฝั่งกัมพูชา ดังที่ท่านว่า” ออกญาเดโชพูดโพล่งขึ้น “แต่เรือรบไทยยิงเราแน่ มิหนำาซำ้านังมีเครื่องบินประจัญบานของกอง ทัพอากาศไทยร่วมโจมตีอีก” เสี่ยหงวนจ้องมองดูหัวหน้าผู้แทนเขมรราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ใส่ความกันอย่างนี้ต่อยกันดีกว่า” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ จุปากดุกิมหงวน “อย่าบ้าน่าอ้ายหงวน ที่นี่ห้องประชุมโว้ยไม่ใช่บาร์หรือไนท์คลับจะได้ มีการชกต่อยกัน” ฝ่ายเขมรปรักปรำากล่าวหาไทยอีกมากมาย แต่ทางฝ่ายไทยก็ปฏิเสธ ในเรื่องใช้กำาลังรุกรานไม่ว่าทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ เรายอมรับว่า ตำารวจและทหารไทยได้ยิงต่อสู้ขับไล่ทหารเขมรที่บุกเข้ามาตามเส้น พรมแดนเท่านั้น เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ไทยกับเขมรโต้เถียงกันอย่างหน้าดำาหน้าแดง เมื่อเขมรกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธจรวดแบบที่คล้ายคลึงกับจรวด “เรดสโตน” ของสหรัฐอเมริกา ระดมยิงค่ายทหารเขมรในป่าจากฐานจรวดในจังหวัด จันทบุรี พล ท. ศาสตราจารย์ดิเรกหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสรรพาวุธ และนัก วิทยาศาสตร์ของกองทัพไทย ก็ชแจงให้ผู้แทนเขมรทราบว่า กองทัพไทย ี้ ไม่เคยมีจรวดแบบนี้ใช้ ฐานที่ตั้งยิงจรวดของเราก็ไม่ได้สร้างที่จันทบุรีหรือ ที่หนึ่งที่ใด เรามีแต่อาวุธปล่อยหรือจรวดนำาวิถีที่ประจำาเรือรบ ประจำา เครื่องบิน หรือใช้ยิงจากรถบรรทุกจรวดเท่านั้น และเป็นจรวดขนาดเล็ก
  • 7. 7 ไม่ใช่จรวดขนาดยักษ์แบบ ยี.เอ.เอ็ม ๘๗ เอ. สกายโบลท์ ที่มีความยาวถึง ๓๘ ฟุตและยิงจากรถได้ไกลถึง ๑,๐๐๐ ไมล์ทะเล อาวุธต่าง ๆ ที่เราได้รับ ความช่วยเหลือจากอเมริกานั้นเป็นอาวุธป้องกันตัว ไม่ใช่อาวุธรุกราน บรรยากาศในที่ประชุมค่อยแจ่มใสขึ้นเมื่อนายพลดิเรกแถลงว่า “พวกท่านคิดบ้างไหมว่า ที่ค่ายทหารกัมพูชาถูกยิงด้วยจรวดขีปนาวุธ ติดจรวดแรงสูง แล้วก็ที่ชายฝั่งทะเลของท่านถูกปืนเรือระดมยิงนั้น จะ เป็นการกระทำาของคอมมิวนิสต์ แล้วแกล้งใส่ร้ายว่าเป็นการกระทำาของ ไทย เพื่อให้พวกท่านเคียดแค้นเกลียดชังเรา ไทยจะลอบยิงเขมรด้วย จรวด หรือใช้ปืนเรือระดมยิงชายฝั่งเขมรเพื่ออะไรกัน” พ.อ. นิกร พูดเสริมขึ้น “พวกท่านเป็นชาวพุทธ พวกเราก็พุทธศาสนาเช่นเดียวกัน ท่านย่อม ทราบดีว่าชาวพุทธย่อมไม่นิยมการเบียดเบียนข่มเหงรังแกกัน เมื่อไม่คบกัน ก็ต่างคนต่างอยู่ ไทยไม่ปรารถนาที่จะรุกรานใคร แต่ถ้าใครบุกเรา เราสู้ ตาย” ท่านประธานกรรมการคือ ฯพณฯ โยกูซีวะเริ่มต้นไกล่เกลี่ยให้ไทยและ เขมรปรองดองกัน มีความรักสามัคคีกันเหมือนแต่ก่อน โดยอ้างถึงความ สัมพันธ์ระหว่างคนสองชาติซึ่งมีมาหลายศตวรรษแล้ว จนแทบจะกล่าวได้ ว่าเขมรกับไทยนั้นเปรียบเหมือนกับพี่น้องกัน เมื่อประธานกล่าวจบ ผู้แทน ไทยและเขมรก็ตบมือขึ้นพร้อมกันเสียงลั่นห้อง ออกญาเดโชกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มผิดปกติ “พวกเราชาวเขมรขอปรองดองเป็นน้องพี่กับไทยต่อไปครับ” พล อ. วิชิต กล่าวขึ้นทันที “ขอบคุณครับท่านออกญา พวกเราคนไทยก็จะเป็นมิตรที่ดีของชาว เขมรต่อไป เมื่อเราปรองดองกันได้เช่นนี้ เราก็ต้องหาทางให้ประชาชนทั้ง สองชาติลืมเรื่องระหองระแหงทั้งหมดที่เกิดขึ้นเสียด้วย สำาหรับคนไทยเรา พูดกันได้เพราะคนไทยเชื่อถือรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสมอ ว่าแต่ประชาชนชาวเขมรเถอะ” “ครับ เป็นเรื่องที่ผมหนักใจเหมือนกัน” ท่านออกญาพูดยิ้ม ๆ “เจ้า ฟ้าสีหนุท่านพยายามสั่งสอนให้ชาวเขมรเกลียดชังคนไทยจนเข้าไส้ การ ที่จะให้มีความรักใคร่กันเหมือนแต่ก่อน มันก็เป็นเรื่องยุ่งยากไม่น้อย แต่ รัฐบาลกัมพูชาก็คงจะแก้ไขได้ อย่างน้อยที่สุดส่งนักกีฬามาแข่งขันในเร็ว วันนี้ เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างไทยกับเขมร” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เห็นพ้องด้วย
  • 8. 8 “เป็นความคิดที่ดีมากครับเจ้าคุณเดโช กีฬาช่วยสร้างความสามัคคี ได้ดีกว่าอย่างอื่น” ท่านประธานกับคณะกรรมการมีท่าทางสบายใจไปตามกัน เท่าที่การ ไกล่เกลี่ยสำาเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยใช้เวลาประชุมกันเพียงครั้งแรก หรือวัน แรกเท่านั้น ฯพณฯ โยกูซีวะกล่าวกับที่ประชุมว่า “ถ้าเช่นนั้นคณะกรรมการ จะได้ติดต่อกับรัฐบาลทั้งสองชาติ เพื่อให้ จัดการแข่งขันกีฬาขึ้นที่กรุงเทพ ฯ นี้ แต่วาเราควรจะแข่งอะไรกันดีล่ะครับ” ่ เสี่ยหงวนรีบพูดกรอกไมโครโฟนเบื้องหน้าเขา ก่อนที่คนอื่นจะออก ความเห็น “ขอให้เป็นกีฬาที่ตื่นเต้นเร้าใจหน่อยนะครับ ผมว่ายกพวกตีกันข้าง ละ ๕๐ คนหรือ ๑๐๐ คนเป็นดีที่สุด ตีกันกลางสนามฟุตบอลถือดิ้วคนละ อัน พอผู้ตัดสินเป่านกหวีดปรี๊ดนักกีฬาไทยและเขมรก็วิ่งเข้าปะทะกัน ตี กบาลกันอุตลุด ใครตายหรือบาดเจ็บสาหัสก็หามออกไป อย่างนี้ถึงใจ พระเดชพระคุณคนดูแน่ เก็บค่าดูอย่างตำ่าสัก ๕๐ บาทก็ไม่มีใครรังเกียจ” ท่านประธานคัดค้านทันที “ไม่ได้ครับ อย่างนี้เป็นกีฬาโรมันสมัยก่อน เรากำาลังประสานความ สามัคคีต่อกัน ต้องเล่นกีฬาแบบศิวิลัยเช่นกีฬาประเภทลู่หรือลาน หรือ รักบี้และฟุตบอล” ออกญาเดโชกล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “สำาหรับกีฬาประเภทลู่และลาน ต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานหน่อยครับ เพื่อดูสถิติของนักกีฬาให้ดีพอที่จะเอาชนะได้ ผมคิดว่าหากเราจัดการ แข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีระหว่างไทยกับเขมรแล้วเป็นดีแน่ครับ” ศาสตราจารย์ดิเรกดีดมือแป๊ะ “ออไร๋ ผมขอสนับสนุนแนวความคิดของท่านออกญากาแร็ตครับ” หัวหน้าผู้แทนเขมรสะดุ้งเฮือก “ผมชื่อออกญาเดโชครับท่านศาสตราจารย์ กรุณาเรียกชื่อผมให้ถูก หน่อย นิกรกระซิบกระซาบกับศาสตราจารย์ดิเรกเบา ๆ “ออกญาเดโชลูกชายออกยาแดงไงล่ะ พ่อมันเคยเป็นพ่อค้าปลาก รอบอยู่ที่เมืองพะตะบอง”
  • 9. 9 พล อ. วิชิต ท่านนายพลอาวุโสยิ้มให้ออกญาเดโช และกล่าวกับ หัวหน้าผู้แทนเขมรอย่างสุภาพ “ผมยินดีมากครับ ที่ไทยกับเขมรจะได้เป็นมิตรที่ดีต่อกันสืบไป เท่าที่ เจ้าคุณเสนอต่อที่ประชุมให้มีการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี ระหว่างทีมไทยกับทีมเขมรนั้นเราจะให้ทีมชาติของเราแข่งขันกันใช่ไหม” “มิได้ครับท่านนายพล ผมคิดว่าทีมทหารไทย และทีมทหารเขมร แข่งขันกันดีกว่า เพราะทีมทหารเขมรได้ฝึกซ้อมกันอยู่เสมอ และเล่นได้ดี กว่าทีมชาติของเรา ซึ่งขณะนี้ทีมชาติของเราก็กำาลังเดินทางไปแข่งขันที่ กรุงจากาต้า” “ทีมทหาร” นายพลวิชิตทวนคำาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “เจ้าคุณหมาย ถึงทีมรวมบกเรืออากาศใช่ไหมครับ” “ครับ หมายถึงนักฟุตบอลชั้นดีของสมาทัพรวมกันเป็นทีม เรียกว่า ทีมทหาร หรือจะเรียกว่าทีมรวมทหารก็สุดแล้วแต่ ท่านจะพอจัดทีมรวม ทหารไทยสู้กับทีมทหารเขมรได้ไหมครับ” พล อ. วิชิตรับคำาทันที “ตกลงครับ ไม่มีปัญหาอะไร ทีมทหารไทยกับทีมทหารกัมพูชา จะ ต้องได้ลงสนามแข่งขันฟุตบอลกัน เพื่อเชื่อมความสามัคคีในครั้งนี้แน่นอน เราจะกำาหนดให้แข่งขันเมื่อไหร่ล่ะครับเจ้าคุณชะโด” “ว้า” หัวหน้าผู้แทนเขมรร้องลั่น “นั่นมันปลานี่ครับท่านนายพล พวกท่านไหงชอบเปลี่ยนชื่อผมเสียจริง ๆ ผมชื่อออกญาหรือพระยาเดโช สุริยัน” ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกลั้นหัวเราะแทบแย่ “ขอโทษครับเจ้าคุณ” ออกญาเดโชยิ้มเจื่อน ๆ “แล้วผมจะโทรเลขมาติดต่อกับท่านนะครับ เพื่อเรียนให้ทราบถึง กำาหนดวันแข่งขันที่แน่นอน ซึ่งอย่างไรก็คงไม่เกินสองสัปดาห์ข้างหน้า” “ครับ รัฐบาลไทยจะให้การรับรองนักฟุตบอลเขมรอย่างดีที่สุด” “ขอบคุณมากครับท่านนายพลนักฟุตบอลของเราได้ไปแข่งขันใน ยุโรปมาหลายประเทศแล้ว ตลอดจนประเทศในเครือคอมมิวนิสต์ คราวนี้
  • 10. 10 แหละครับคนไทยจะได้เห็นความสามารถในการเล่นฟุตบอลของทีมทหาร เขมร” เสี่ยหงวนพูดเสริมขึ้น “แต่ว่า ท่านออกญาโปรดให้นักฟุตบอลของท่านทำากรมธรรม์ประกัน ชีวิตไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อนนะครับ” ออกญาเดโชนัยน์ตาเหลือก “คุณมั่นใจว่าการแข่งขันฟุตบอลคราวนี้ ผู้เล่นจะต้องมีการเสียชีวิตใน สนามหรือครับท่านพันเอก” อาเสี่ยยิ้มด้วยมุมปากข้างขวา “ก็คงจะมีบ้างครับ ผมกะว่าทีมทหารเขมรอาจจะถูกเตะม้ามแตก หัวใจแตก หรือคอขาด ราวห้าหกคนเป็นอย่างน้อย การเล่นฟุตบอลมันก็ ต้องมีพลาดพลั้งบ้าง” “ถ้าอย่างงันผมก็อยากจะอวดสักหน่อยว่านักฟุตบอลทีมรวมทหาร ้ เขมร เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุด เคยเตะนักฟุตบอลต่างชาติตายคาสนามมา หลายคนแล้ว ซึ่งเป็นการพลาดพลั้งไม่มีเจตนา” พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น “แต่นักฟุตบอลของเราเตะกันตายทุกวันแหละครับ แม้แต่ซ้อมกันก็มี ตายบ่อย ๆ คนไทยที่ชอบดูกีฬาฟุตบอลเห็นเป็นของธรรมดาครับถ้านัก ฟุตบอลตายในการแข่งขัน ตรงกันข้ามการแข่งขันจะหมดรสถ้าหากว่าทั้ง สองทีมไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย” ออกญาเดโชฝืนหัวเราะ “เอาละครับ ตายเป็นตาย กีฬาแบบนี้พลาดพลั้งมันก็ตายเหมือนกัน แต่ว่าเราจะเล่นแรงในเกมเท่านั้น” เสี่ยหงวนพูดโพล่งขึ้น “ในเกมหรือนอกเกมได้ทั้งนั้น หรือเจ้าคุณกับผมจะขึ้นชกกันใน รายการพิเศษที่สนามราชดำาเนินหรือลุมพินีก็ได้” “อ้าว” ออกญาเดโชอุทาน “ก็ไหนว่าเราคืนดีกันแล้ว” “ใช่ครับเราชกปากกันบนเวทีไม่ได้หมายความว่าเราโกรธกัน การ ชกมวยเป็นกีฬานี่ครับเจ้าคุณเอาไหมล่ะ เจ้าคุณกับผมวัยเดียวกัน ถึงเจ้า
  • 11. 11 คุณใหญ่กว่าผมนิดหน่อย ผมก็ไม่รังเกียจเรื่องนำ้าหนัก ฟาดปากกันแบบ มวยไทย” “ไม่ไหวครับ เรื่องมวยผมไม่มีความรู้ ผมเป็นนักเท็นนิส” ฯพณฯ โยกูซีวะถือโอกาสกล่าวกับที่ประชุมว่า “บัดนี้สัมพันธไมตรีระหว่างไทย-เขมร ที่ขาดจากกันไปหลายปี ก็กลับ มาคืนดีกันแล้ว คณะกรรมการขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่รู้สึกเสียใจ ที่เราประชุมกันเป็นภาษาไทย ชาวต่างประเทศที่มาฟังการประชุม ในฐานะ นักสังเกตการณ์ก็เลยไม่รู้เรื่องนั่งสัปหงกไปตามกัน ผมขอปิดการประชุม เพียงเท่านี้ครับ และขอขอบคุณทั้งฝ่ายกัมพูชา และฝ่ายไทยที่ไม่ได้มีการ ปะทะกันในห้องประชุมนี้ สวัสดีครับ” ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนให้เกียรติท่านประทาน ต่อจากนั้น ฯพณฯ โยกูซี วะก็ลงมาจากแท่น ตรงเข้ามาสัมผัสมือกับผู้แทนไทยและกัมพูชาโดยทั่ว หน้ากัน ตอนนี้เองผู้แทนไทยและเขมรได้ลุกขึ้นเดินเข้ามาหากันและ สัมผัสมือกัน “ท่านพันเอกคงไม่ใคร่ชอบหน้าผมเท่าใดนัก” ออกญาเดโชกล่าวกับ กิมหงวนอย่างยิ้มแย้ม “ครับ ตอนแรกผมเกลียดเจ้าคุณอย่างเข้าไส้ แต่เดี๋ยวนี้หายเกลียด แล้ว” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ถือโอกาสพูดกลบเกลื่อน “ผมคิดว่าเขมรกับไทย ควรจะลืมความระหองระแหงที่เกิดขึ้นเสียให้ หมด และเราเริ่มต้นมาเป็นมิตรกันใหม่ ผมหวังว่าการแข็งขันฟุตบอลทีม ทหารไทย-เขมร ครั้งนี้จะช่วยให้มิตรภาพของชาติทั้งสองเกิดขึ้นอย่าง รวดเร็ว” พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น “ม่ายก็รบกันเลย” ออกญาเดโชกับคณะของเขา และคณะกรรมการไกล่เกลี่ยกรณี พิพาทต่างย่อย ๆ กันออกไปจากห้องประชุมทีละคนสองคน ในที่สุดก็ เหลือแต่ผู้แทนฝ่ายไทยเท่านั้น ยืนรวมกลุ่มสนทนากัน ส่วนพวกฝรั่งตานำ้า ข้าวที่มาสังเกตการณ์หายหัวไปหมดแล้ว พล อ. วิชิต กล่าวถาม พล. ร.ต. ชอุ่มว่า “ทาง ทร. มีนักฟุตบอลชั้นเยี่ยมอยู่กี่คนครับ”
  • 12. 12 “เห็นจะหายากหน่อยครับท่านรอง” นายพลเรือตอบนอบน้อม “ทาง ทร.มีแต่นักรักบี้ครับ” ท่านนายพลอาวุโสเปลี่ยนสายตามาที่ พ.อ. พล พัชราภรณ์ “ได้ข่าวว่าพวกลูกชายของคุณเป็นนักฟุตบอลชั้นดีไม่ใช่หรือ ทูต ทหารไทยที่วอชิงตันเขามาราชการแวะไปเยี่ยมผมที่บ้าน เล่าให้ฟังว่า พนัส นพ สมนึก และดำารงเป็นนักฟุตบอลชั้นดาราของมหาวิทยาลัย พลหัวเราะเบา ๆ “ก็คงไม่เก่งจนเกินไปนักหรอกครับ อเมริกันเขาไม่ใคร่นิยมเล่น ฟุตบอลและไม่สนับสนุนนักฟุตบอล เขาชอบเบสบอลและอเมริกันฟุตบอล ครับ ลูกหลานผมมันเล่นขนาดพอใช้ได้ก็เลยเป็นดาราไป” “งันเรอะ ้ เขายังฝึกซ้อมออกกำาลังกันอยู่เสมอหรือ” “ครับ เด็กหนุ่มนี่ครับท่านรอง เปิดโรงยิมที่บ้านซ้อมมวยและออก กำาลังกันทุกวันแหละครับ เช้า ๆ ก็ออกวิ่ง แต่ฟุตบอลดูเหมือนไม่ได้ซ้อม ครับ” ท่านนายพลอาวุโสเปลี่ยนสายตามาที่ พล ร.ต. ชอุ่ม “ผมจะให้พันเอกกิมหงวนเป็นคนวิ่งเต้นจัดทีมทหารไทยไว้รับมือกับ ทีมทหารเขมร ดีไหมครับคุณชอุ่ม” “ดีครับท่านรอง คุณกิมหงวนเงินหนาหน่อยถึงแม้จะต้องลงทุนไป บ้าง ก็คงจะไม่ขัดข้องอะไร” เสี่ยหงวนพูดเสริมขึ้น “ผมให้งบประมาณล้านบาท ล้านจริง ๆ ไม่ใช่เอาธนบัตรพันรอบหัว ล้านแล้วบอกว่าล้าน” “ปู้โธ่” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เอ็ดตะโร “เดี๋ยวฉันก็เตะแกต่อหน้าท่าน รองเท่านั้นเอง อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ยังทะลึ่งอีก” อาเสียอดหัวเราะไม่ได้ แล้วพูดกับท่านนายพลอาวุโสต่อไป “ผมจะออกค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมเองครับ ซื้อกางเกงเสื้อทีมจ่าย ให้นักฟุตบอลด้วย พร้อมทั้งรองเท้าถุงเท้าแองเกิล มีดพก สนับมือ เหล็ก ขูดช้าฟซื้อให้พร้อม”
  • 13. 13 “เดี๋ยว ๆ ๆ มีดพกสนับมือหรืออาวุธต่าง ๆ น่ะไม่ต้องซื้อ เราเล่น ฟุตบอลกันไม่ใช่ฆ่ากัน” “ยังงันอาวุธไม่ต้องซื้อนะครับ ถ้าท่านรองมอบอำานาจให้ผมกับเพื่อน ้ ๆ คัดเลือกตัวนักฟุตบอลและทำาหน้าที่ควบคุมทำาการฝึกซ้อม เราจะจัดการ ให้เรียบร้อยทุกอย่างครับ ทีมทหารไทยต้องชนะแหง ๆ แต่เห็นจะต้อง เอาตัวจากทีม ทอ. เกือบทั้งหมด เอาทหารบกบ้าง” นิกรยิ้มให้ พล ร.ต. ชอุ่ม “ทร. ไม่มนักฟุตบอลชั้นดาราบ้างเลยหรืออุ่ม” ี “อือ ไม่มีจริง ๆ ถ้ามีก็ล้วนแต่รุ่นเก่าอายุมากแล้ว เลือกเอาจาก ทหารบกและทหารอากาศเถอะเพื่อน แล้วก็เลือกดูความสามารถอย่าเห็น แก่หน้า” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ พูดโพล่งขึ้น “แต่ต้องเอาเจ้าสี่คนลงเล่นด้วยนะโว้ย” นายพลดิเรกหัวเราะหึ ๆ “คุณพ่ออยากจะให้หลาน ๆ มีชื่อเสียงหรือครับ ผมก็เห็นด้วยเหมือน กัน แต่เราจะต้องให้พนัส นพ สมนึกและดำารงซ้อมดูก่อน ถ้าเล่นไม่ดีถึงขั้น ดารา เราก็ไม่เอาลงเล่น การแข่งขันครั้งนี้เกี่ยวกับชื่อเสียงของประเทศ ชาติด้วย เราจะเห็นแก่ลูกหลานไม่ได้ และทีมทหารไทยยอมตายเสียดีกว่า ที่จะแพ้เขมร” ท่านรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยิ้มให้คณะพรรคสี่สหายโดยทั่วหน้า กัน “เอาละครับ เป็นอันว่าเรื่องการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี ระหว่างทีมทหารไทย และทหารเขมรผมมอบให้คุณกิมหงวนเป็นหัวหน้าจัด ทีมและฝึกซ้อม เจ้าคุณกับอาจารย์ดิเรกและคุณพลคุณนิกรเป็นผู้ช่วย การ คัดเลือกตัวนักฟุตบอลจะเป็นทหารบกหรือทหารอากาศคนใดจะได้รับความ สะดวกทุกอย่าง ซึ่งทีมของเราจะต้องฟิตกันเต็มที่ ขนาดกักตัวกันเลย” กิมหงวนยิ้มแป้น “ตกลงครับ ผมจะพยายามคัดเลือกตัวนักฟุตบอลชั้นดาราสัก ๓๐ คน จัดเป็นทีม เอ. และ ทีมบี. ไว้ฝึกซ้อมกันและผมจะเอาไปกักตัวไว้ที่โรงแรม “สี่สหาย” ส่วนสนามฝึกซ้อมก็จะใช้สนามโรงเรียนนายร้อย จปร. เชิญ ทีมชั้นดีมาช่วยซ้อมให้ทีมทหารของเราด้วยเช่นทีมสโมสรตำารวจ ทีม ธนาคารรวม”
  • 14. 14 พล อ. วิชิตเห็นพ้องด้วย “ดีแล้วครับ สุดแล้วแต่คุณกับพรรคพวกของคุณเถอะ ขอให้คุณช่วย ดูแลในเรื่องอาหาร และสุขภาพของนักฟุตบอลให้มาก” พ.อ. นิกรพูดเสริมขึ้น “ผมรับหน้าที่นี้เองครับท่านรอง เรื่องอาหารต้องกินกันเต็มที่ละครับ คือถึงเนื้อนมไข่ อย่างน้อยไข่ลวกคนละ ๕๐ ฟองต่อวัน” ท่านรองสะดุ้งโหยง “ไหงกินมากนักล่ะ กินวันละ ๕๐ ฟองนักฟุตบอลคงจะวุ่นวายไปตาม กัน” “ถ้ายังงันลดลงเหลือ ๕ ฟองนะครับ” ้ นิกรพูดยิ้ม ๆ “อ้า - บางที ผมจะลงเล่นทีมทหารไทยด้วยครับ” พล ร.ต. ชอุ่มพูดเสริมขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ “อย่าเลยโว้ยอ้ายกร แก่นะมันเข้าสู่วัยชราแล้ว นักฟุตบอลอายุขนาด ่ แกวิ่งได้เดี๋ยวเดียวก็ยืนเท้าเอวหอบแฮ่ก ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้กันลงซ้อมกับพวก เด็ก ๆ ยังเล่นได้ครึ่งเวลาเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่กันเล่นเท็นนิสอยู่แทบทุกวัน ให้ เด็ก ๆ เขาเล่นเถอะ” นิกรอมยิ้ม “นันน่ะซี ่ ปีนี้กันรู้สึกตัวว่ากันแก่ไปมาก เมื่อสองสามวันลองเตะปี๊บ เปล่าดู เตะได้ไกลราว ๑๒ เมตรเท่านั้น” เสียงหัวเราดังขึ้นลั่นห้องประชุม ท่านายพลอาวุโสเดินนำาหน้าพา ท่านนายพลเรือกับคณะพรรคสี่สหาย และเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ออกไปจาก ห้องโถงใหญ่และยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความ สามัคคี ระหว่างทีมทหารไทยกับทหารเขมร ซึ่งคงจะแข่งขันกันในไม่ช้านี้ ออกจากศาลาสันติธรรม สี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ก็กลับมาบ้าน “พัชราภรณ์” ในชั่วโมงเดียวกันนั้นเอง คาดิลแล็คเก๋งแล่นผ่านประตูรั้วบ้าน ตรงมาตามถนนคอนกรีตผ่านหน้า โรงเก็บรถ และเลี้ยวขวามือคลานเอื่อย ๆ ไปจอดเทียบหน้าบันไดตึกใหญ่ อาเสียกิมหงวนทำาหน้าที่ขับรถของเขาด้วยตนเอง นั่งคู่กับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ส่วนสี่สหายนังรวมกันอยู่ทางหลังรถ ทุกคนอยู่ในเครื่องแบบปรกติกากี ่
  • 15. 15 แกมเขียวเสื้อคอแบะผูกเน็คไท สวมหมวกแก็ปทรงหม้อตาล ต่างพากันลง จากรถในท่าทางสง่าผ่าเผย เจ้าแห้วปราดออกมาจากห้องโถง และลงบันไดมาต้อนรับเจ้านายของ เขา “เจ้าสี่คนนันอยู่หรือเปล่า” ่ พลถามเจ้าแห้วอย่างเป็นงานเป็นการ “รับประทานอยู่ครับ พึ่งมาจากตึกใหม่เมื่อครู่นี้เอง รับประทานกำาลัง คุยกับคุณหญิง และคุณผู้หญิงอยู่ในห้องโถงครับ” เจ้าคุณปัจจนึก ฯ เดินนำาหน้าพาสี่สหายขึ้นไปบนตึก เสี่ยงหงานสั่ง ให้เจ้าแห้วนำารถไปเก็บ และทำาความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อคณะพรรคสี่ สหายกับเจ้าคุณเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทุกคนก็แลเห็นเจ้าหนุ่มเนื้อหอมทั้ง สี่คน พร้อมด้วยสี่นางและคุณหญิงวาดนั่งเรียงรายอยู่รอบห้องโถง ร.ต. พนัส ร.ต.นพ ร.ต.สมนึก และ ร.ต.ดำารงแต่งเครื่องแบบปรกติเสื้อเชิตแขน ยาวสีกากีแกมเขียวแต่ไม่ได้ผูกเน็คไท ร.ต. สมนึกแลเห็นเตี่ยของเขา ก็หันมายิ้มให้เพื่อน ๆ ซึ่งนั่งรวมกันอยู่ บนโซฟาตัวเดียวกัน “ธนาคารของพวกเรามาแล้วโว้ย ฮ่ะ ฮ่ะ เสียเวลานั่งอยู่เกือบครึ่ง ชั่วโมง” แล้วเขาก็เปลี่ยนสาตามาที่เสี่ยหงวนคุณเตี่ยของเขา “จ่ายเงิน ให้ผมเร็ว ๆ เถอะครับเตี่ย ผมต้องการใช้เงินสักหมื่นบาท” อาเสียกลืนนำ้าลายเอื้อก “ฉันเป็นหนี้แกตั้งแต่เมื่อไรวะอ้ายตี๋” “แน่ะ เรียกร้อยตรีว่าอ้าย ฮะ เดี๋ยวก็เจอข้อหาหมิ่นประมาทเท่านั้น เอง” กิมหงวนทำาท่าจะเดินเข้าไปเล่นงานสมนึก แต่นิกรคว้าแขนไว้ “ลูกมันล้อเล่นนิดเดียวเท่านี้ก็ยัวะ เมื่อตอนแกเป็นหนุ่มแกล้อเตี่ยแก ยิ่งกว่าอ้ายนึกกระเซ้าแกเสียอีก เตี่ยแกไม่เห็นว่าอะไร อย่างมากก็…หน้า ส้งตีง…จองหองเสียใหญ่หลวง ม่ายรู้จักเหล็กผู้ใหญ่ ชั่กหมานี่เก๋าเจ๊ง ล้อ พ่อแม่เหมืองเพื่อง ๆ มีที่ไหน” เสียงหัวเราะดังขึ้นลั่นห้องโถง สี่สหายเดินไปนั่งรวมกันบนโซฟา ใหญ่ตัวหนึ่ง เจ้าคุณปัจจนึก ฯ ทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้นวมข้างคุณหญิงวาด นายพลดิเรกยิ้มให้ลูกชายของเขาแล้วถามว่า “พวกแกแต่งเครื่องแบบจะไปไหนกัน”
  • 16. 16 “ไปกองพันพลร่มที่ป่าหวายครับคุณพ่อพวกเราจะไปรายงานตัวเป็น ทางการว่าเราเรียนการกระโดดร่มและการรบในป่า ซึ่งเป็นหลักสูตรเบื้อง ต้นเรียบร้อยแล้ว” “ออไร๋ พ่อขอชมเชยพวกแกทั้งสี่คนที่สามารถขับเครื่องบินได้ทั้ง เครื่องบินใบพัดและเครื่องเจ๊ต นอกจากนี้ยังกระโดดร่มได้ดี สมความมุ่ง หมายของทางการ นับว่าแกและเพื่อน ๆ เป็นนายทหารที่มีความรู้พอตัว เหมาะแก่งานในหน้าที่ของผู้เชียวชาญพลังงานปรมาณูและอาวุธปล่อย” ร.ต. ศาสตราจารย์ดำารงยิ้มแป้น “คุณพ่อกับลุงพลลุงกิมหงวนน้ากรและคุณตา ไปประชุมที่ศาลาสันติ ธรรมได้ความว่ายังไงบ้างครับ” นายพลดิเรกหัวเราะเบา ๆ “ก็ไม่มีอะไร เรากับเขมรปรองดองกันแล้ว เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นช่วย ไกล่เกลี่ยให้ เขมรกับเราจะจัดการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคีกัน ใน ระหว่างทีมทหารไทยและทหารเขมรในเร็ว ๆ นี้ ที่สนามศุภชลาศัย” ร.ต. สมนึกพูดเสริมขึ้นทันที “ฟุตบอลหรือครับอาหมอ ก๊อวิเศษซีครับ ผมคิดว่าอย่างไรเสียนัก ฟุตบอลทั้งสองฝ่าย จะต้องตายคาสนามไม่น้อยกว่าฝ่ายละสองคน หรือ อาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ขอให้ผมเล่นสักคนเถอะครับ ผมกับเพื่อน ๆ เป็น ดาราฟุตบอลของมหาวิทยาลัยมาแล้วเมื่ออยู่อเมริกา” เสี่ยหงวนมองดูหน้าลูกชายของเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อว่า ร.ต. สมนึกเล่นฟุตบอลเก่ง “ถามจริง ๆ เถอะวะอ้ายตี๋ แกน่ะเตะฟุตบอลเป็นหรือ” ทายาทของอาเสี่ยยิ้มด้วยริมฝีปากข้างขวาเพียงข้างเดียว “กรุณาเปลี่ยนคำาถามเสียใหม่ครับเตี่ย ที่ถูกเตี่ยควรจะถามผมว่า นัก ฟุตบอลในเมืองไทยมีใครบ้างไหมที่เล่นฟุตบอลได้ดีอย่างผม” “โม้แล้วอ้ายตี๋” “ก็เป็นบ้าง”สมนึกพูดยิ้ม ๆ “พูดแล้วเตี่ยจะหาว่าผมคุยโวโอ้อวด ผมนี่แหละครับศูนย์หน้าชั้นยอดที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงหรือลวดลาย หัวหน้า ทีมชาติอิตาลีเคยไปดูพวกเราแข่งขันกับมหาวิทยาลัยเท็กซัสครั้งหนึ่ง พอ ฟุตบอลเลิกเขามาหาผม และทาบทามขอซื้อตัวผมห้าหมื่นเหรียญอเมริกัน
  • 17. 17 จ้างไปเล่นทีมชาติของเขาสามปีให้เงินเดือน เดือนละพันเหรียญกินอยู่ฟรี ผมปฏิเสธเขาไปว่าเตี่ยของผมมีเงินให้ผมถลุงตั้งร้อยล้านเหรียญอเมริกัน เป็นอย่างน้อย แล้วเรื่องอะไรผมจะยอมขายตัวให้เขา ไปเล่นฟุตบอลให้ เขาเจ็บตัวเปล่า ๆ” เสี่ยหงวนพยักหน้ารับทราบ “เจริญ ๆ เถอะลูก” ร.ต. สมนึกยกมือไหว้ “สมพรปากครับ” พลกล่าวกับสมนึกด้วยเสียงดุ ๆ “อย่าพูดเล่นอ้ายนึก แกเล่นฟุตบอลได้ดีจริง ๆ หรือ” เสี่ยตี๋ยิ้มแห้ง ๆ เขาไม่กล้าพูดล้อเลียนพลเลย เพราะพลจริงจังกับเขา และเพื่อน ๆ เสมอ “จริงครับลุง” พลเปลี่ยนสายตามาที่ลูกชายของเขา “แกล่ะพนัส แกเคยเล่นในตำาแหน่งอะไร” “เซ็นเต้อรฮาฟครับคุณพ่อ” “เล่นได้ดีมากยังงั้นหรือ” “ไม่ครับคุณพ่อ ผมพอเล่นให้ทีมมหาวิทยาลัยได้เท่านั้น ถ้าจะ เปรียบผมกับเซ็นเต้อรฮ้าฟของทีมชาติไทยแล้ว ผมคงสู้เขาไม่ได้ ตั้งแต่ กลับมาจากอเมริกาหมายความว่าหลังจากที่เราสึกจากพระ พวกเราได้ดู ฟุตบอลครั้งเดียว เมื่อตอนเย็นวันที่ ๒๓ พฤศจิกา เท่านั้นครับ กรุงเทพ ฯ ผสม ชนะเวียตนาม ๒ - ๑ สนุกดีเหมือนกัน” นิกรยิ้มให้ลูกชายสุดสวาทของเขา “แล้วแกล่ะ ฝีมือของแกในการเล่นฟุตบอลเป็นยังไง” “ฝีเท้าครับไม่ใช่ฝีมือ” ร.ต. นพพูดยิ้ม ๆ นิกรค้อนขวับ “เออ นั่นแหละ แกเคยเล่นในตำาแหน่งอะไร”
  • 18. 18 “ไลน์แมนครับ” นพตอบหน้าตาย “เดี๋ยวก็โดนเตะเท่านั้น” นิกรเอ็ดตะโรท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่าง ครื้นเครงของคุณหญิงวาดและสี่นาง “ไลน์แมน เป็นผู้กำากับเส้นโว้ยไม่ใช่ คนเล่น” “อ๋อ ผมลงเล่นในตำาแหน่งผู้รักษาประตูครับคุณพ่อ” “เล่นได้ดีไหม” “ปู้โธ่ เล่นเป็นโกล์มันจะยากเย็นอะไรครับ คอยรับอย่าให้ลูกมันเข้า ประตูก็ใช้ได้ พวกเพื่อนนักเรียนที่มหาวิทยาลัยเยล มันเรียกผมว่าอ้าย มือกาวครับคุณพ่อ จะชู้ตมาแบบไหนผมรับได้ทั้งนั้น ชู้ตในจุดโทษตัวต่อ ตัวผมยังรับได้ ชู้ตเปรี้ยงรับปั๊บ พุ่งตัวรับ ล้มตัวลงรับหรือกระโดดรับ ใช้ หมัดชกออกไป ถามอ้ายพวกนี้ดูซีครับ ตั้งแต่ผมเป็นประตูมาทีมของเรา ไม่เคยเสียประตูให้ใครเลย แมวมองของทีมเปรูถึงกับติดต่อจ้างผมไปเป็น โกล์ทีมชาติให้เขา” “พอแล้ว” นิกรพูดขัดขึ้น “สงสัยที่แกพูดน่ะมีความจริงเพียง ๕ เป อรเซ็นต์ พ่อจะให้พวกแกลงสนามฝึกซ้อม ถ้าเล่นได้ดีจริง ๆ ก็จะให้เล่น กับทีมทหารเขมร” คุณหญิงวาดกับสี่นางเกลียดชังเขมรเป็นทุนอยู่แล้ว ดังนั้นแทนที่จะ คัดค้านเพราะกลัวว่าลูกหลานแข้งขาจะหักหรือได้รับอุบัติเหตุถึงตายใน สนาม กลับสนับสนุนเต็มที่ “สู้มนหลานย่า” ั คุณหญิงวาดพูดยิ้ม ๆ “เขมรน่ะมันคบไม่ได้ จะมา ญาติดีกับเราทำาไม แข่งขันฟุตบอลกันคราวนี้นึกหรือว่าจะเป็นการเชื่อม สามัคคี ย่ารับรองว่าต้องเตะกันคอขาด และคนดูจะต้องแน่นสนามเป็น ประวัติการณ์ทีเดียว” นันทาพูดเสริมขึ้น “จริงค่ะคุณอา ฟุตบอลนัดนี้สนามไม่พอบรรจุคนดูแน่ ๆ” นวลลออยิ้มให้เสี่ยหงวน “เก็บเงินบำารุงการกุศลหรือไงคะเฮีย” “จ้ะ เก็บเงินบำารุงการกุศล เห็นจะให้สภากาชาดไทยมากกว่าที่อื่น เพราะเราจะได้เจ้าหน้าที่เขามาช่วยเหลือในวันแข่งขันด้วย” นายพลดิเรกมองดูหน้าลูกชายของเข าด้วยความสนใจ
  • 19. 19 “แกเคยเล่นฟุตบอลในตำาแหน่งอะไร เจ้านึกเล่นเป็นศูนย์หน้า เจ้า นพเล่นเป็นประตู เจ้านัสเป็นเซ็นเต้อรฮ้าฟ แล้วแกล่ะ” ร.ต. ดำารงยิ้มอย่างภาคภูมิ “ผม….ในซ้ายครับคู่ขากับอ้ายตี๋” “แกเล่นคล่องดีหรือ” ร.ต. ศาสตราจารย์ดำารงนิ่งคิด “ถ้าทีมคู่ต่อสู้ของเราอ่อนกว่า ผมก็เล่นคล่องครับ แต่ถ้าเขาแข็งกว่า เราผมก็เล่นไม่คล่อง” ประภาหัวเราะคิ้ก “ลูกแม่ตอบได้ดีทีเดียว ความจริงก็เป็นอย่างนั้น การแข่งขันทุก อย่างถ้าคู่ต่อสู้เหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็ดูอ่อนไป ไม่ว่าจะเป็นมวย บาสเก็ต รักบี้ หรือฟุตบอล” ประไพพูดเสริมขึ้น “อย่างไรก็ตาม ทีมทหารไทยแพ้ไม่ได้ค่ะ ถ้านักฟุตบอลต้องเดินเอา ปี๊บคลุมหัว หรือม่ายก็บังคับให้เอาผ้าซิ่นมานุ่งเพราะแพ้เขมร แพ้ชาติอื่น น่ะไม่แปลก แต่สำาหรับเขมรเราต้องชนะ นโรดมสีหนุจะมาดูไหมคะ” พลยิ้มให้เมียรักของนิกร “ไม่มาหรอกครับ ขืนมาก็คงไม่ได้กลับเขมร” แล้วเขาก็หันมาทาง นายทหารหนุ่มทั้งสี่คน “เป็นอันว่าแกสี่คนมีหวังจะได้ลงเล่นทีมทหารไทย ถ้าหากว่าพวกแกฝึกซ้อมได้ดีขนาดผู้เล่นทีมชาติของเรา” นพว่า “สำาหรับผมไม่ต้องซ้อมก็ได้ครับ มือผมเหนียวเหมือนกับ ตุ๊กแก บางทีตะครุบลูกไว้ได้ผู้ตัดสินต้องช่วยแกะลูกออกจากมือผม” พลอดหัวเราะไม่ได้ “เดี๋ยวก็โดนเขกกบาลเท่านั้น แกได้ครึ่งหนึ่งของอัศวินก็ดีถมไป” เสี่ยหงวนกล่าวขึ้นทันที “พูดถึงอัศวินเศร้าใจไม่หาย เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุด ของไทยเรา ไม่น่าจะตายยังหนุมแน่นแท้ ๆ” ่
  • 20. 20 นิกรว่า “มันถึงคราวของเขา โบราณว่าหมองูก็ตายเพราะงู หมอ ตะเข้ตายเพราะตะเข้ หมอฟุตบอลก็ตายเพราะฟุตบอล หมอรักบี้ก็ตาย เพราะรักบี้ น่าสงสารและน่าเสียดายมาก กันยอมรับว่ากันชอบกีฬาฟุตบอล ที่สุด กันยกย่องบูชานักฟุตบอลชั้นดาราทุกคน และก็น่าแปลกที่พวกเราดู ฟุตบอลเป็นประจำาจนกระทั่งนักฟุตบอลแทบทุกคนเห็นหน้าเราก็ยิ้มแย้มให้ เรา และทักทายเราเป็นอย่างดี” เจ้าหนุ่มเนื้อหอมทั้งสี่คนต่างมองดูหน้ากันพยักพเยิดกัน แล้วหยิบ หมวกแก๊ปทรงหม้อตาลลุกขึ้น ร.ต. สมนึกเดินเข้าไปหาเสี่ยหงวน “จ่ายทรัพย์ให้ผมสักหมื่นเถอะครับ” “ไม่มีโว้ย” เสี่ยหงวนตวาดแว็ด สมนึกยิ้มเศร้า ๆ หันมาพูดกับเพื่อนรักของเขา “ไปเถอะโว้ยเตี่ยไม่ให้เงิน กันยอมอดทุกอย่างแม้กระทั้งบุหรี่ ต่อไป กันจะต้องหาเงินใช้เองบ้าง เป็นต้นว่ารับจ้างตรวจบัญชี หรือทำาบัญชีตาม ห้างร้าน” “เดี๋ยวก่อน ๆ”อาเสี่ยเอ็ดตะโรแล้วล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตร ใบละร้อยบาทปึกเบ้อเริ่มออกมาส่งให้ลูกชายของเขา “เอ้า – เอาไป พอ สึกจากพระ มือซ้ายถือคันไถ มือขวาถือเตารีด ทั้งรีดทั้งไถแทบไม่เว้นวัน” ร.ต.สมนึกหัวเราะหึ ๆ จัดแจงสวมหมวกแล้วยกมือวันทยาหัตถ์เสี่ยหง วนอย่างแข็งแรง ต่อจากนั้นเจ้าหนุ่มรูปหล่อทั้งสี่คน ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบ ร้อยตรีก็พากันเดินออกไปจากห้องโถง คุณแม่ทั้งหลายและคุณย่ายิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ไปตามกัน หนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ ได้เสนอข่าวอย่างครึกโครมเกี่ยวกับความ สัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับเขมรที่ขาดสะบันจากกันเมื่อหลายปี กลับ ปรองดองกันได้ด้วยการไกล่เกลี่ยของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งมี ฯพณฯ โยกูซีวะ เป็นประธานการไกล่เกลี่ย คือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้ไทยกับเขมรคืนดีกัน นั่นเอง และข่าวของหนังสือพิมพ์ ที่แฟนฟุตบอลตื่นเต้นสนใจที่สุด ก็คือ การแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี ระหว่างทีมทหารไทยกับทหารเขมร ซึ่งจะแข่งขันกันที่สนามศุภชลาศัย ราวกลางเดือนธันวาคมนี้ ชิงถ้วย ทองคำาของ ฯพณฯ โยกูซีวะนั่นเอง แน่นอนละ ต่อให้เก็บค่าผ่านประตูอย่างตำ่า ๑๐๐ บาท แฟนฟุตบอลก็ จะต้องหลั่งไหลไปชมการแข่งขันฟุตบอลนัดสำาคัญนี้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
  • 21. 21 ในวงการฟุตบอลย่อมทราบดีว่านักฟุตบอลทั้งสองฝ่ายจะต้องแข่งขันกัน อย่างดุเดือด ถึงกับแข้งขาหักทุพพลภาพหรือตายคาสนาม การเล่นจะต้อง เป็นไปอย่างรุนแรงที่สุด มีการเตะคาบลูกคาบดอก คือเตะทั้งลูกทั้งคนหรือ เตะคนไม่เตะลูก บางทีก็อาจวางมวยกันกลางสนามระหว่างผู้เล่นทั้งสอง ฝ่าย ไม่มใครเชื่อว่าการแข่งขันจะเป็นไปฉันท์มิตร เพราะเขมรกับไทยนั้น ี ไม่มีวนที่จะเป็นมิตรกันได้อีกแล้ว นอกจากนโรดมสีหนุถูกฆ่าตาย หรือมีอัน ั เป็นอหิวาต์ตายหรือเจ็บไข้ตาย ในที่สุดหนังสือพิมพ์ก็ลงกำาหนดวันแข่งขันที่แน่นอน แจ้งให้แฟน ฟุตบอลทราบ คือวันเสาร์ที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๐๘ เวลา ๑๕.๓๐ น. ณ สนามศุภชลาศัย ที่ต้องแข่งขันในเวลากลางวันก็เพราะเสาไฟประจำาสนาม ถูกรื้อออกหมด เกี่ยวกับการสร้างอัฒจันทร์เพิ่มเติมให้รอบสนาม เตรียมไว้ รับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในปี ๒๕๐๙ อย่างไรก็ตามทีมทหารไทยยังไม่ยอมระบุตัวผู้เล่น เพียงแต่ พ.อ. กิม หงวน ไทยแท้ ผู้ควบคุมทีมทหารไทยเปิดเผยว่า ผู้เล่นทีมทหารไทยทั้ง ๑๑ คนนั้นล้วนแต่เป็นนักฟุตบอลชั้นยอด ส่วนมากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ หรือเคยเล่นให้ทีมชาติมาแล้ว อาเสี่ยกิมหงวนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า รับรองว่าแฟนฟุตบอลจะไม่ผิดหวัง ทีมทหารไทยทุกคนให้สัตย์ปฏิญาณว่า จะสู้ตายเพื่อให้สมศักดิ์ศรีของทหารไทยและกีฬาไทย นักฟุตบอลทีมทหารไทยรวม ๓๒ คน ทั้งทีมเอ. ทีมบี. และตัวสำารอง ได้พักอยู่ที่โรงแรม “สี่สหาย” ซึ่ง พล ท. ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรกนาย แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เอาใจใส่ดูแลในเรื่องสุขภาพของนักกีฬาเป็นอย่างดี มี อาหารการกินอย่างดีเยี่ยม ผู้ควบคุมทีมจัดให้พักห้องละ ๔ คน ทีม ทหารไทยไม่จำาเป็นต้องมีโค้ชเพราะผู้เล่นแต่ละคนเล่นฟุตบอลได้ดีกว่า โค้ชที่จะมาอบรมฝึกสอน ผู้ควบคุมทีมคือ พ.อ. กิมหงวนกับเพื่อน ๆ ของ เขา ต่างช่วยกันดูแลให้ความสะดวกสบายแก่นักฟุตบอลอย่างดีที่สุด มีการ บริหารร่างกายในตอนเช้าและตอนบ่าย ในราว ๑๖.๐๐ น. เสี่ยหงวนได้พานัก ฟุตบอลไปฝึกซ้อมที่โรงเรียนนายร้อย จปร. แต่ไม่ได้ซ้อมทีม เพียงแต่ซ้อม วิ่งทนซ้อมยิงประตูเฉพาะกองหน้า ปรึกษาหารือกันในการที่จะแข่งขันกับ ทีมทหารเขมร ฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน แล้วก็ตกลงกันว่าทีม ทหารไทยจะใช้วิธีเล่นแบบลูกยาวแบบเดียวกับทีมทหารอากาศ ทั้งนี้ เพราะฝ่ายเรารู้ดีว่าทีมทหารเขมรนั้น เล่นลูกสั้น เช่นเดียวกับเวียตนาม ตาม แบบฉบับของฟุตบอลฝรั่งเศส หรือฟุตบอลยุโรปโดยมาก ถ้าหากว่าทีม ทหารไทยเล่นลูกยาวดึงเกมให้ทีมทหารเขมรเล่นลูกยาวตามเรา เขมรต้อง ปราชัยเราอย่างไม่มีปัญหา การคัดเลือกตัวนักฟุตบอลทีมทหารไทยยังไม่ได้กำาหนดแน่นอนลงไป ว่าผู้ใด จะได้มีโอกาสลงสนามแข่งขัน จนกระทั่งการซ้อมทีมครั้งแรกผ่าน ไปคณะพรรคสี่สหายกับเจ้าคุณปัจจนึก ฯ ก็ช่วยกันคัดเลือกนักฟุตบอล ฝีเท้าเยี่ยมไว้จากทีม เอ. และทีม บี. และปรับปรุงเปลี่ยนตัวใหม่ทุกครั้งที่ ซ้อม