1. การใช้คำาราชาศัพท์และคำาสุภาพ
คำาราชาศัพท์ คือ คำาที่ใช้สำาหรับพระราชาและเจ้านาย
หลักการใช้คำาราชาศัพท์
1. การใช้คำาว่า ทรง
ถ้ามีคำาว่า ทรง นำาหน้าจะเป็นคำากริยาราชาศัพท์
1.1 เติมทรงไว้ข้างหน้า คำากริยาธรรมดา เพื่อทำาให้เป็นคำากริยาราชาศัพท์
เช่น ทรงฟัง ทรงถาม
ทรงใช้ ทรงยินดี ทรงถือ ทรงรับ ทรงจับ ทรงขอบใจ เป็นต้น
1.2 เติมทรงไว้ข้างหน้าคำานามราชาศัพท์ เพื่อทำาให้เป็นคำากริยาราชาศัพท์
เช่น ทรงพระราชนิพนธ์
ทรงพระเมตตา ทรงพระอักษร ทรงพระสุบิน ทรงพระราชดำาริ เป็นต้น
1.3 เติมทรงไว้ข้างหน้าคำานามสามัญบางคำา เพื่อให้เป็นคำากริยาราชาศัพท์
เช่น ทรงดนตรี ทรงม้า
ทรงกีฬา ทรงศีล ทรงบาตร ทรงปืน เป็นต้น
1.4 ห้ามใช้ ทรง นำาหน้าคำากริยาที่เป็นคำาราชาศัพท์อยู่แล้ว เช่น ตรัส กริ้ว
เสด็จ เสวย ทอดพระเนตร
ประทับ ประทาน บรรทม ประสูติ สวรรคต พระราชทาน โปรด
2. การใช้คำากริยา มี และ เป็น
2.1 หากคำาที่ตามหลัง มี และ เป็น เป็นนามราชาศัพท์ ไม่ต้องเติม ทรง หน้า
คำาว่า มี หรือ เป็น เช่น
– สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี มี พระราชดำาริในการ
ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย
แก่เยาวชน
– พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็น พระราชธิดาในสมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร
2.2 หากคำาที่ตามหลัง มี และ เป็น เป็นคำาสามัญให้เติม ทรง ไว้หน้าคำากริยา
มี หรือ เป็น
– พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็น บัณฑิตนิติศาสตร์
3. การใช้คำาว่า พระบรม นำาหน้าคำานามหรือกริยา ไว้ใช้เฉพาะกับพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เท่านั้น เช่น
พระบรมราชโองการ พระบรมราชาภิเษก พระบรมราชานุเคราะห์
แต่ ถ้าจะใช้กับพระราชินี ให้ตัดคำาว่า บรม ออก เช่น พระราชโองการ พระ
ราชานุเคราะห์
4. การใช้คำาว่า พระราช นำาหน้าคำานามหรือกริยาสามัญ จะใช้กับ พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม
กุฎราชกุมาร และ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เช่น พระราชทาน เสด็จพระราชดำาเนิน ทรงพระราชนิพนธ์

2. ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์ในระดับเจ้าฟ้าลงมาให้ใช้คำาว่า ประทาน = ให้
เสด็จ =ไป
และทรงพระนิพนธ์ = แต่งหนังสือ
5. การใช้คำาว่า ทูลเกล้าฯ กับ น้อมเกล้าฯ ในการถวายของ
– ถ้าเป็นของเล็กๆ ยกขึ้นให้ได้ จะใช้คำาว่า ทูลเกล้าฯ ถวาย (ทูลเกล้าทูล
กระหม่อมถวาย)
– ถ้าเป็นของใหญ่ๆ ยกขึ้นให้ไม่ได้ จะใช้คำาว่า น้อมเกล้าฯ ถวาย (น้อมเกล้า
น้อมกระหม่อมถวาย)
6. ถวายการต้อนรับ ควรใช้คำาว่า เฝ้าฯ รับเสด็จ
ถวายความจงรักภักดี ควรใช้คำาว่า มีความจงรักภักดี, แสดงความจงรักภักดี
7. การใช้คำาว่า พระราชอาคันตุกะ กับ อาคันตุกะ แปลว่า แขกมาเยือน
พระราชอาคันตุกะ ใช้เมื่อเป็นแขกของพระมหากษัตริย์
อาคันตุกะ ใช้เมื่อเป็นแขกของผู้นำาประเทศที่เป็นคนธรรมดา
เช่น – ประธานาธิบดี เป็น พระราชอาคันตุกะ ของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว
– พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็น อาคันตุกะ ของประธานาธิบดี
8. หมายกำาหนดการ คือ หมายรับสั่งที่สำานักพระราชวัง แจ้งกำาหนดการเสด็จ
พระราชดำาเนินไปยัง
สถานีตำารวจต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย หรือเอกสารแจ้งขั้นตอนงานพระ
ราชพิธี
กำาหนดการ คือเอกสารแจ้งขั้นตอนงานทั่วๆ ไป โดยสำานักพระราชวังไม่ได้
เกี่ยวข้อง
– สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชานุ
ญาตให้สื่อมวลชน
เข้าเฝ้าฯ ตามหมายกำาหนดการ ในวโรกาสที่เสด็จฯ ยังศูนย์ศิลปาชีพพิเศษ-
บางไทร
– นายกรัฐมนตรีเปิดประชุมคณะทูตไทยในภาคพื้นยุโรปตรงตาม
กำาหนดการ
ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน
และอาจเป็นเช่นนี้ชั่วชีวัน
เมื่อรักอันแจ่มกระจ่างกลับร้างไกล
1. ดอกโศกมิได้หมายถึงสิ่งใด
๑. ผิดหวัง ๒. เศร้าใจ
๓. ดอกไม้ ๔. ชำ้าใจ
2. คำาเขียนจดหมายถึงพระสังฆราชเจ้าข้อใดถูกต้อง
๑. กราบทูล ๒. ขอประทานกราบทูล
๓. กราบนมัสการ ๔. นมัสการ
3 . ข้อใดมีการใช้สัญลักษณ์
๑. ความจนเป็นแรงให้แข็งสู้ หากชีพอยู่จะมิยอมค้อมหัวให้
๒. นำ้าตาเปรียบเหมือนเพื่อน คอยตักเตือนกระตุ้นใจ

3. ๓. ลมหวนครวญเสียงลม พาใจครบตามครวญ
๔. วันนี้ฉันมีสายรุ้งสวย นำาทางช่วยมุ่งมั่นพาสร้างสรรค์
4. อุบลวรรณฟังสุนทรพจน์เรื่อง “สามัคคีธรรม นำาไทยให้
เป็นสุข” หลังจากฟังแล้ว ตระหนักว่าควรปฏิบัติชีวิตให้อยู่ในความ
สามัคคี อุบลวรรณมีความสามารถในการฟังด้านใด
๑. สรุปความ ๒. วิเคราะห์
๓. ตีความ ๔. ประเมินค่า
5. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสำาราญพระราชหฤทัย คำาที่
ขีดเส้นใต้หมายถึง
๑. สดชื่น ๒. สบายกาย
๓. สดใส ๔. สบายใจ
6. ข้อใดเป็นภาษาสื่อสารมวลชน
๑. บุคคลหลายฝ่ายให้ความร่วมมือกับโครงการสมานฉันท์
๒. ปีนี้ทบวงมหาวิทยาลัยประกาศผลสอบเร็วกว่ากำาหนด
๓. เบื้องหลัง ๑๐ เมษายน ถล่ม “บูรพาพยัคฆ์”
๔. นายกรัฐมนตรีประกาศไม่ยุบสภา
7. ในเทศกาลต่าง ๆ คุณยายไปทำาบุญที่วัดบางครั้งก็บังสกุล อุทิศ
ส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับและ กรวดนำ้าทุกครั้ง คำาใดเขียนผิด
๑. เทศกาล ๒. บังสกุล
๓. ส่วนกุศล ๔. กรวดนำ้า
8. เมื่อคนเมืองคับคั่งด้วยคนป่า เมื่อคนดีด้อยค่า
เหมือนกรวดหิน
เมื่อสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน สัตว์เมืองก็ต้องสิ้น
วิสัยเมือง
คำาประพันธ์ข้างต้นเป็นโวหารประเภทใด
๑. เทศนาโวหาร ๒. บรรยายโวหาร
๓. อุปมาโวหาร ๔. พรรณนา
โวหาร
9. ทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำาวันข้อใดมีความสำาคัญต่อข้าราชการ
ตำารวจมากที่สุด
๑. ฟัง ๒. พูด
๓. อ่าน ๔. เขียน
10. ขอให้มีความรักที่มั่นคง ซื่อตรงดุจนภากับแขไข
รู้จักอ่อน ผ่อนปรน ให้อภัย รักสดใส สุขสันต์ นิรันดร
ใจความสำาคัญของข้อความข้างต้นกล่าวถึงเรื่องใด
๑. ความรัก ๒. ความ
ซื่อสัตย์
๓. ความเมตตา ๔. ความอ่อนโยน
11. คณะกรรมาธิการจัดให้มีการประชุม... คำาที่ขีดเส้นใต้อ่าน
อย่างไร

4. ๑. กัน-มา-ทิ-กาน ๒. กัน – ทิ – กาน
๓. กำา-มา-ทิ-กาน ๔. กำา – ทิ – กาน
12. ขึ้นรถเมล์ไม่เสียเกียรติ แม้เบียดนิดก็ทน
หน่อย
เพราะนำ้ามันนั้นมีน้อย ควรใช้สอยเมื่อจำาเป็น
๑.เพื่อให้ความรู้ ๒.เพื่อโน้มน้าวใจ
๓.เพื่อจรรโลงใจ ๔.เพื่อเตือนใจ
13. “ต้องอยู่กันไปอีกนาน ในบ้านหลังนี้ เติบโตมาจนป่านนี้ ก็
เพราะมีที่ให้อาศัย บ้านเรามีท้องฟ้า มีสายนำ้า มีภูเขา มีต้นไม้ แล้ว
เราจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีอะไรเหลือเลย”
ข้อความข้างต้นมุ่งให้เกิดสิ่งใด
๑. รักและสามัคคี ๒. ความสุขและเสียสละ
๓. ภาคภูมิใจและหวงแหน ๔. ท้อแท้และสิ้นหวัง
14. “จากใจรวงใจแรงเป็นล้านล้าน ถึงใจด้านใจดำา
นำ้าใจหิน
ว่าเลือดเล็ดเม็ดข้าวที่เจ้ากิน จงถวิลทุกข์เทวษ
ทุเรศร้าว”
บทประพันธ์นี้ผู้แต่งมีวัตถุประสงค์อะไร
๑. เตือนสติ ๒. ปลุกจิตสำานึก
๓. โน้มน้าว ๔. สร้างค่านิยมใหม่
15. บทความชนิดใดใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ดีที่สุด
๑. บทความเชิงวิจารณ์ ๒. บทความเชิง
วิเคราะห์
๓. บทความเชิงบรรยาย ๔. บทความเชิง
พรรณนา
16. สำานวนใดที่ไม่เกี่ยวกับการฟัง
๑. ฟังหูไว้หู ๒. ฟังความข้างเดียว
๓. สีซอให้ควายฟัง ๔. ฟังไม่ได้ศัพท์จับไป
กระเดียด
17. ปีนี้ปีเสือช่างเหลือร้าย ผู้คนล้มตายกันหลายที่
แผ่นดินไหวที่เฮติและชิลี อดโซ อดอยาก ทั่วหล้าทั้ง
แผ่นดิน
แต่ที่นี่มีภัย (ไม่) ธรรมชาติ คนทั้งชาติเบาะแว้งทะเลาะกัน
ความโกรธ ความชัง ความคลั่ง โลโภ โทสะ โทโส ในประเทศ
สมเพชไทย
๑. เตือนสติ ๒. ข้อเท็จจริง
๓. ข้อคิดเห็น ๔. ข้อสังเกต
18. “ถ้าเราอ่อนแอแม้เนินเล็ก ๆ ก็เป็นภูเขาที่สูงใหญ่ แต่ถ้าเรา
เข้มแข็ง แม้ลมพายุพัดแรงก็เป็นเพียงสายลมแผ่วเบา”ผู้เขียนต้องการ
สื่ออะไร
๑. ชีวิตอย่าสิ้นหวัง ๒. ชีวิตนี้ต้องสู้

5. ๓. ชีวิตย่อมมีอุปสรรค ๔. ชีวิตนี้อย่าท้อแท้
19. “เพื่อหนีจนคนเราเอาทุกอย่าง หาหนทางใช้ชีวีนี้
เป็นสุข
ปล้น ขโมย โกยกิน ปลิ้นปล้อนซุก คดีอุกฉกรรจ์
หลากเกิดจากใด
จุดประสงค์ของผู้เขียนกล่าวถึงอะไร
๑. เตือนสติคนจนให้ดำาเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ๒. ขอเห็นใจคนจน
๓. เรียกร้องให้สังคมช่วยเหลือคนจน ๔. ชี้ให้เห็นปัญหาที่
เกิดจากความยากจน
20. คำาที่ขีดเส้นใต้คำาใดแสดงจำานวนน้อยที่สุด
๑. ผ่าแตงโมให้แม่หน่อยซิคะ
๒. ดอกจันกะพ้อร่วงพรู
๓. นักเรียนวิ่งกรูกันออกมาอย่างรวดเร็ว
๔. พราหมณ์โปรยดอกไม้ในพิธี
21. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ถูกต้อง
๑. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงตรัสกับประชาชน
๒. ประชาชนมาถวายการต้อนรับพระบรมราชินีนาถ
๓. สมเด็จพระเทพฯเสด็จพระราชดำาเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน
๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ทรงเสด็จไปบรรยาย
แก่นักศึกษา มหิดล
22. คำาขวัญข้อใดให้ข้อคิด
๑. ตำารวจอยู่ไหน ประชาอุ่นใจทั่วกัน
๒. ขับรถให้เตือนตน ข้ามถนนให้เตือนตา
๓. ยาเสพติดอันตราย ผู้เสพถึงตาย ผู้ขายติดคุก
๔. เอดส์ป้องกันได้ ถ้าใช้ถุงยางอนามัย
23. ข้อใดใช้คำาฟุ่มเฟือย
๑. สมุนไพรไทยคลายเครียดมีทั้งที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ยำา
ตะไคร้ นำ้าขิง ฯลฯ
๒. ผู้คนในหลายประเทศกำาลังให้ความสนใจในการใช้สมุนไพรลด
ความเครียด
๓. ปัญหาสุขภาพจิตเป็นผลมาจากความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
๔. ความเครียดนับว่าเป็นสาเหตุทำาให้เกิดปัญหาสังคมจนถึงขั้นวิกฤติ
24. คำาในข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทั้งห้าเสียง
๑. ขิงก็ราข่าก็แรง ๒. นำ้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
๓. คดในข้องอในกระดูก ๔. ทรัพย์ในดิน
สินในนำ้า
25. ชาวบ้าน.....................เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมไปยังองค์กรส่วน
ท้อง ถิ่น ก็กลับถูก......................ไม่ได้รับการเหลียวแล ควรเติมคำาใดใน
ช่องว่าง
๑. ร้องเรียน, วางเฉย ๒. ร้องเรียน, เพิกเฉย
๓. ร้องขอ, วางเฉย ๔. ร้องขอ, เพิกเฉย

6. 26. ข้อใดมีคำาที่มีความหมายกว้าง
1.เขาอยากมีร้านจำาหน่ายเครื่องเสียงมานานแล้ว
2.ฉันชอบเปิดเครื่องทำานำ้าอุ่นให้อุณหภูมิสูงหน่อย
3.ช่างกำาลังติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องทำางานของผม
4.เด็กๆ พากันสนใจเครื่องฉายสไลด์ที่ตั้งอยู่กลางห้องเรียน
27. ข้อใดใช้คำาไม่ถูกต้อง
1.ฉันหาเงินมาชำาระหนี้ไม่ทันตามกำาหนด จึงขอผัดผ่อนไปก่อน
2.เจ้าของบ้านผ่อนผันให้เขาจ่ายค่าเช่าบ้านได้ภายในสัปดาห์หน้า
3.หลังจากพี่ชายของฉันมีงานทำา เหตุการณ์ร้ายๆ ในครอบครัวก็ผ่อนปรนไป
4.เมื่อรู้ว่าลูกปลอดภัยแล้ว ความวิตกกังวลของเขาก็ผ่อนคลายลง
28. ข้อใดใช้คำาถูกต้องตรงความหมาย
1.เดินขึ้นเขามาเหนื่อยเต็มทน ต้องปลดระวางตัวเองเสียที
2.สอบเข้ามหาวิทยาลัยมา 3 ปี ไม่เคยได้ ปีนี้เขาเลยปลงตก ไม่ไปสอบอีก
แล้ว
3.เห็นผู้ใหญ่นั่งอยู่หลายคน เธอต้องค่อยๆ ปลีกตัวเดินให้ดีๆ ไม่ให้กระทบ
ท่าน
4.เวลาอ่านหนังสือจนสมองเมื่อยล้า ฉันใช้วิธีดื่มกาแฟกระตุ้นให้
กระปรี้กระเปร่า
29. ข้อใดแสดงนำ้าเสียงชื่นชมได้ชัดเจนที่สุด
1.เขาทำาได้ดี ทุกคนที่มาก็พอใจ
2.ทุกคนประทับใจที่เขาได้สู้จนสุดความสามารถ
3.เราได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีไปให้เขาแล้ว
4.รางวัลที่เขาได้รับเป็นกำาลังใจให้เขาพยายามต่อไป
30. ข้อใดไม่ใช่ข้อบกพร่องในการฟัง
1.สีซอให้ควายฟัง 2. เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา
3.ไปไหนมา สามวาสองศอก 4. ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไป
กระเดียด
31. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง
1.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จลง ณ ท้องพระโรง ศาลาเริง วังไกลกังวล ทรงบำาเพ็ญพระราช
กุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
2.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำาเนินใน
การพระราชพิธีราช บำาเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา
3.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเสด็จ
พระราชดำาเนินแทนพระองค์ไปประทาน รางวัล วรรณกรรมสร้างสรรค์
ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน
4.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง
“เมื่อข้าพเจ้าเป็น นักเรียนนอก” นับเป็นพระราชนิพนธ์ลำาดับที่ 44
32. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง

7. 1.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำารัสพระราชทานพรแก่พสกนิกร
ชาวไทยเนื่องในโอกาส วันขึ้นปีใหม่
2.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงจุดธูปเทียนเครื่อง
ราชสักการะพระบรมรา ชานุสาวรีย์สองรัชกาล
3.พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงบำาเพ็ญพระกุศลทรงบาตร
ในโอกาสวันคล้ายวัน ประสูติ
4.หม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานเปิดงานมหกรรมสัตว์
เลี้ยงแห่งประเทศไทย
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำาถามข้อ 33 – 34
“ถ้าคิดในด้านดี การที่หนังต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำาใน
ประเทศไทย ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์เหมือนกันที่เห็นได้ชัดก็คือเงิน
เป็นแสนถึงล้านบาท สำาหรับหนังสารคดี เป็นสิบล้านถึงร้อยล้านบาท
สำาหรับหนังโรง เงินจำานวนดังกล่าวนี้คือค่าใช้จ่ายที่คณะถ่ายทำา
ภาพยนตร์แต่ละคณะใช้จ่ายใน ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบริษัท
ประสานงาน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าพาหนะ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ประมาณกันว่าในปีหนึ่งๆ ประเทศไทยได้เงินจากคณะถ่ายทำา
ภาพยนตร์ต่างประเทศเหล่านี้มาหมุนเวียนในระบบ เศรษฐกิจไม่น้อย
กว่า 200 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่น่าสนใจทีเดียว น่าสนใจจนทำาให้
รัฐบาลลืมด้านที่จะเสียประโยชน์ไปได้ในทันที”
33. ข้อความข้างต้นนี้ผู้เขียนไม่ได้ใช้วิธีการนำาเสนอตามข้อใด
1.การให้ขัดแย้งจริง 2. การโต้แย้ง
3.การโน้มน้าวใจ 4. การให้รายละเอียด
34. ผู้เขียนเห็นว่าการกระทำาของรัฐบาลใกล้เคียงกับสำานวนได้มาก
ที่สุด
1.นำ้าขึ้นให้รับตัก 2. เห็นเงินตาโต
3.สิบเบี้ยใกล้มือ 4. ดีดลูกคิดรางแก้ว
35. คำาประพันธ์ต่อไปนี้กล่าวถึงเรื่องใด
“แสยงขนยลเหยียบไม้ รำาแพน
หกหัวหอกตั้งแปลน เสียดข้าง
ช้างไล่ม้ารำาแพน ผัดล่อ
จีนกลแล่นอวดอ้าง ชักไส้กลางสนาม”
1.พฤติกรรมของสัตว์ 2. การแสดงกายกรรม
3.การซ้อมรบของทหาร 4. การละเล่นในงานพิธี
36. คำาประพันธ์ต่อไปนี้มีวัตถุประสงค์ตามข้อใดมากที่สุด
“หากใจเจ้าบริสุทธิ์งามผุดผ่อง ปากเขาที่ป่าวร้องไม่เสียหาย
ดีหรือชั่วตนรู้ตนไปจนตาย ใช่จะคลายเสื่อมค่าราคาคน”
1.สอนให้ทำาจิตใจให้บริสุทธิ์ 2. แนะนำาให้ทำาความดีต่อไป
3.เตือนไม่ให้ตอบโต้การนินทา 4. ให้กำาลังใจให้มั่นคงใน
การทำาความดี
37. คำาประพันธ์ต่อไปนี้มีวัตถุประสงค์ตามข้อใด
“เรามีมือเท้าเท่า เทียมเขา สิ้นพ่อ

8. กิจซึ่งไม่เกินภูมิ มนุษย์แล้ว
แม้บากบั่นหมั่นเอา ใจใส่ ฝึกแฮ
คงสิทธิ์สักครั้งแคล้ว คลาดไฉน”
1.ให้รู้จักพึ่งตนเอง 2. ให้พัฒนาตนเอง
3.ให้พยายามรักษาสิทธิของตน 4. ให้เชื่อมั่นในความ
สามารถของตน
38. “พระสงฆ์สดับปกรณ์” คำาว่าสดับปกรณ์ หมายถึง
1. บังสุกุล 2.ให้พร
3. ฟังพระอภิธรรม 4. ฟังอย่างตั้งใจ
39. หนังสือราชการ (จดหมาย)ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย ใช้คำาขึ้นต้นและ คำาลงท้ายว่าอย่างไร
1. เรียน , ขอแสดงความนับถือ 2. เรียน , ขอแสดงความ
นับถืออย่างยิ่ง
3. กราบเรียน , ขอแสดงความนับถือ 3. กราบเรียน , ขอแสดง
ความนับถืออย่างยิ่ง
40. ข้อใดเขียนถูกต้องทุกคำา
1. สถานการณ์ , เหตุการณ์ , อนุญาติ 2. อุดมการณ์ ,
อิสรภาพ , สัณนิษฐาน
3. ลายเซ็น , ยาเสพติด , มรณกรรม 4. เกร็ดความรู้ ,
เกษียณ , ลาดตระเวณ
41. “ตีเข่าปับรับโปกสองมือปิด ประจบติดเตะผางหมัดขว้างหวือ”
เป็นการละเล่นใด
1. มวยไทย 2. มวยปลำ้า
3. มวยสากล 4. มวยทะเล
42. เขา ........ ออกจากบ้านเพราะได้ข่าวว่าคนงานถูกไฟ .......... ควร
เติมคำาใดในช่องว่าง
1. ลุกลี้ลุกลน , คลอก 2. ลุกรี้ลุกรน , ครอก
3. ลุกลี้ลุกลน , ครอก 4. ลุกรี้ลุกรน , คลอก
43. ข้อใดใช้คำาเปรียบเทียบได้ถูกต้อง
1. พูดมากเหลือเกินเหมือนตักนำ้ารดหัวสากไม่ยอมหยุด
2. ตัวเองเป็นคนตำ่าต้อยถึงเพียงนี้ ยังไม่รู้จักตักนำ้าใส่กะโหลกชะโงกดูเงา
ตัวเองอีก
3. คนพวกนี้เวลารวมตัวกันแล้วชอบนินทาคนโน้นคนนี้ เหมือนที่เขาบอก
ว่าปากหวานก้นเปรี้ยว
4. ฟังเรื่องราวแค่นิดเดียว แต่เขาสามารถพูดได้อย่างยืดยาว ช่างพูด ปาก
ไม่มีหูรูด
44. “ ขณะนี้กำาลังมีการฟอกขาว กรณีโครงการชุมชนพอเพียงเป็น
ที่วิจารณ์อย่างมากคณะกรรมการที่คัดเลือกมา เพื่อหวังการันตีความ
สะอาด แต่มีการเบี่ยงประเด็นทำานอง ว่า “ข้าเลว เอ็งก็ชั่ว” เป็นที่น่า
จับตามองว่าจะจบลงแบบมือเปล่าหรือไม่” ผู้เขียนมีเจตนาอย่างไร
1. ห่วงใย 2. เสียดสี

9. 3. เยาะเย้ย 4. เหยียดหยาม
45. ข้อใดใช้คำาฟุ่มเฟือย
1. วันนี้จราจรติดขัดมาก เพราะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก
2. ตำารวจเข้าทำาการจับกุมคนร้ายได้ หลังจากที่มีการติดตามมานาน
3. อดีตข้าราชการตำารวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมมือกับบริษัทเอกชนรายใหญ่
กว้านซื้อที่ดินของชาวนา
4. ชาวนาสวมหมวกใบตาลเดินอยู่ในทุ่งนา
46. “ เป็นคนสุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะ
ความ” หมายถึงข้อใด
1. พูดดีได้ดี 2. พูดดีเป็นศรีแก่ปาก
3.พูดอย่างมีวิจารณญาณ 4. คนจะนิยมก็อยู่ที่คำา
พูด
47. ข้อใดจำาเป็นต้องใช้คำาทับศัพท์
1. เขาเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขันกีฬาครั้งนี้
2. เธอมาซื้อของที่นี่ เธอขึ้นลิฟต์แก้วหรือบันไดเลื่อน
3. เธอได้เปอร์เซ็นต์จากการขายเครื่องสำาอาง
4. เขาให้ทิปพนักงานทุกคนที่บริการ
48. จงเรียงลำาดับข้อความ
ก. การเรียนธรรมล้านนา คือการเขียนภาษาล้านนา
ข. ชาวล้านนาที่มีลูกชาย เมื่อมีอายุ 8-9 ปี ก็จะส่งลูกเข้าวัดเพื่อเป็นขะ
ยม
ค. เมื่อมีเวลาว่าง ตุ๊หลวงหรือเจ้าอาวาสวัด ก็จะสอนหนังสือให้
ง. หน้าที่ของขะยม คือ การรับใช้พระและเดินตามพระบิณฑบาต
1. ข ง ค ก 2. ก ข ง ค
3. ก ค ข ง 4. ก ค ง ข
49. “ภาพพจน์ไม่ใช่เพ่งเล็งไปที่รูปหรือภาพ / แต่หมายถึงความ
รู้สึกนึกคิด ที่เกิดขึ้นในใจ / ในการพูด เขียน หรือแสดงออกถึง
ภาพพจน์ / โดยอาศัยคำาที่มีความหมายโดยนัย” ข้อใดหมายถึงคำาว่า
ภาพพจน์
1. เพ่งเล็ง 2. ความรู้สึกนึกคิด
3. แสดง 4. คำา
50. คำาในข้อใดไม่มีความหมายเชิงอุปมา
1. เขาไม่ชอบกินแรงเพื่อน
2. เขาข่มขืนใจไม่ให้ฉันทำางาน
3. เขาเป็นมือดีของหน่วยงานนี้
4. เขาเปิดไฟเขียวให้ฉันไปหาเฉพาะวันหยุด
51. “อันว่าแก้วกระจกรวมอยู่กับสุวรรณ ย่อมได้แสงจับเป็นเลื่อม
พรายคล้ายมรกต ผู้ที่โง่ เขลา แม้ได้อยู่ใกล้นักปราชญ์ ก็อาจ
เป็นคนเฉลียวฉลาดได้ฉันเดียวกัน” เป็นโวหารชนิดใด
1.บรรยายโวหาร 2. สาธกโวหาร
3. อุปมาโวหาร 4. พรรณนาโวหาร

10. 52. "โรคชิคุนกุนยาหรือชื่อเรียกภาษาไทย ว่าโรคไข้ปวดข้อยุง
ลาย มียุงลายเป็นพาหะนำาโรค แต่ทางภาคใต้ของไทยจะเรียกกันว่า
โรคไข้ญี่ปุ่นเพราะชื่อโรคชิคุนกุนยาจะ คล้ายกับภาษาญี่ปุ่น แต่ความ
จริงแล้ว โรคชิคุนกุนยามาจากภาษามากอนดี ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองทาง
ตอนใต้ของประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา อธิบายถึงลักษณะบูด
เบี้ยวหรือ บิดงอตัว จากอาการปวดข้ออย่างรุนแรง"บทความนี้สรุปได้
ว่าอย่างไร
1. ที่มาของโรคชิคุนกุนยา 2.ประวัติของโรคชิคุ
นกุนยา
3. มารู้จักกับโรคชิคุนกุนยากันเถอะ 4. มหันตภัยจากโรคชิคุ
นกุนยา
53. ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. คำานวณ 2. ผัดเวลา
3. ถนนราดยาง 4. เงินทดลองจ่าย
54. “ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”
จากข้อความข้างต้น เป็นการกล่าวในลักษณะ
ใด
1. ให้ข้อคิดคนไทยเรื่องการขาดความ
สามัคคี
2. เตือนสติคนไทยเรื่องการขาดความสามัคคี
3. เสนอแนะวิธีการป้องกันการขาดความ
สามัคคี
4. ประชดประชันคนไทยเรื่องการขาดความสามัคคี
แนวของ อ.ปิง น่าสนใจครับ ลองฝึกทำาดู
การตีความร้อยกรอง
1.คนเห็นคนเป็นคนนั่นแหละคนคนเห็นคนใช่คนใช่คนไม่
เกิดเป็นคนต้องเป็นคนทุกคนไปจนหรือมีผู้ดีไพร่ไม่พ้นคน”
บทประพันธ์ข้างต้นไม่ปรากฏลักษณะการแต่งแบบใด
1. การเล่นคำาซำ้า
2. การเล่นคำาพ้อง
3. การใช้สัมผัสสระอักษร
4. การใช้ปฏิพากย์
จงใช้คำาประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำาถามข้อ 2-4
“มาทำาลายรั้วระวังให้พังราบมาร่ายเสกมนต์สาปให้หมดเศร้า

11. มาให้ห่วงคิดถึงทุกคำ่าเช้ามาปล้นเอาหัวใจไปหมดแล้ว”
2.นำ้าเสียงของผู้แต่งเป็นอย่างไร
1. อาลัย
2. จริงจัง
3. เพ้อฝัน
4. มีความสุข
3.ลักษณะการแต่งที่เด่นที่สุดในบทประพันธ์คือข้อใด
1. สัมผัสสระ
2. สัมผัสอักษร
3. การใช้ภาพพจน์
4. การใช้กลบท
4.บุคคลใดน่าจะเป็นประธานของบทประพันธ์นี้มากที่สุด
1. ทหารที่ออกไปรบ
2. ขโมย
3. นางอันเป็นที่รัก
4. พ่อมด
จงใช้คำาประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำาถามข้อ 5-7
ขอบคุณ...
ขอบคุณสำาหรับโรงบุหรี่
ขอบคุณอีกทีกับโรงหวย
ขอบคุณสนามม้าชาติหน้ารวย
ขอบคุณโรงเหล้าด้วยช่วยชาติไทย
5.ข้อใดเแสดงความรู้สึกของผู้ประพันธ์เด่นชัดที่สุด
1. เกลียดชัง
2. ประชด
3. ชื่นชม
4. ยกย่อง
6.ผู้แต่งมีจุดมุ่งหมายตามข้อใด
1. เตือนให้คิด
2. แนะให้ทำา
3. ติเตียน
4. สั่งสอน
7.คำาประพันธ์ในข้อใดใช้นำ้าเสียงเหมือนกับคำาประพันธ์ข้างต้น
1. ไทยคงเอกราชด้วยฝีมือไทยเอย
2. ขอบคุณไมตรีที่มีให้ความห่วงใยอาทรแต่ก่อนเก่า
แม้วันนี้ไม่มีทางระหว่างเราก็ไม่เศร้าเหงาหรอกใจบอกมา
3. หนึ่งจะต้องอกหักกับรักแรกสองจะต้องไม่แปลกกับรักใหม่

12. สามจะต้องผิดหวังทุกครั้งไปสี่จะต้องจำาไว้รักคือทุกข์
4. จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิดจะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำารงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
จงใช้คำาประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำาถามข้อ 8-10
“มิ่งมิตร...เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่นำ้ารื่น
ที่จะบุกดงดำากลางคำ่าคืนที่จะชื่นใจหลายกับสายลม
ที่จะรำ่าเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าวที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม
ที่จะเหม่อมองหญ้านำ้าตาพรมที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน”
8.แนวคิดใดไม่ปรากฏในบทประพันธ์นี้
1. สิทธิของมนุษย์
2. ธรรมชาติของชีวิตที่มีทุกข์มีสุขสลับกัน
3. การต่อสู้กับอุปสรรค
4. ความยุติธรรมและความถูกต้อง
9.ในบทร้อยกรองนี้ กวีวางตนไว้ในฐานะอะไร
1. อาจารย์
2. เพื่อน
3. พระ
4. บุคคลอันเป็นที่รัก
10.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของคำาประพันธ์ข้างต้น
1. ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของถ้อยคำา
2. ความง่ายและความงามของบทกลอน
3. การใช้อุปลักษณ์และบุคคลวัต
4. แสดงแนวคิดทางพุทธศาสนา
จงใช้คำาประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำาถามข้อ 11-14
โหยหวนหวูดหวูดรถไฟจุดหมายอยู่ไหนในโลกกว้าง
ผ่านหุบเหวทะเลทรายไปตามรางเลื้อยลอดอุโมงค์กว้างอันมืดนาน
เด็กน้อยยองยองแม่ใช้ไปซื้อของซื้อข้าวสาร
เอาไม้เขี่ยรถไฟบนใบลานรถไฟคลานเป็น อ.อ่าง ละลานลือ
พลางควานกระเป๋าพบรอยขาดตรงที่คาดว่าจะมีเหรียญวางทื่อ
ฉันทำาความอิ่มหายไปหลายมื้อเด็กน้อยตีมือกระทืบรถไฟจนแหลกเหลว
11.“รถไฟ” ในที่นี้เป็นการใช้ภาพพจน์ประเภทใด
1. อุปลักษณ์
2. สัญลักษณ์
3. บุคคลวัต
4. อติพจน์
12.“เด็กน้อย” เป็นคนอย่างไร
1. ช่างจินตนาการ

13. 2. โหดเหี้ยมอำำมหิต
3. รำ่ำรวย
4. ไม่ระมัดระวัง
13.แนวคิดสำำคัญของบทประพันธ์คือ
1. ควำมฝันกับจินตนำกำร
2. ควำมยำกจนกับควำมฝัน
3. ควำมยำกจนกับจินตนำกำร
4. ควำมยำกจนกับควำมไม่ระมัดระวัง
14.บทประพันธ์ข้ำงต้นไม่ปรำกฏโวหำรภำพพจน์แบบใด
1. สัทพจน์
2. อุปลักษณ์
3. สัญลักษณ์
4. บุคคลวัต
จงใช้คำำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำำถำมข้อ 15-16
เขียนคนด้วยคนใหม่เขียนหัวใจด้วยไมตรี
เขียนปำกด้วยพจีสุจริตจำำนรรจำ
เขียนสมองและสองมือด้วยซื่อสัตย์และศรัทธำ
มุ่งมั่นและปัญญำมำเถิดมำมำช่วยกัน
15.บทประพันธ์ข้ำงต้นเป็นสำรประเภทใด
1. ชวนเชื่อ
2. โน้มน้ำว
3. ให้เหตุผล
4. ให้ควำมรู้
16.แนวคิดใดไม่ปรำกฏในบทประพันธ์
1. โลกสวยด้วยมือเรำ
2. กำรพัฒนำตนเอง
3. สำมัคคีคือพลัง
4. ปัญญำประดุจดังอำวุธ
จงใช้คำำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำำถำมข้อ 17-18
หยุดประเดี๋ยวได้ไหมพำยุร้ำยหยุดส่งสำยสุนีบำตมำข่มขู่
กัมปนำทกรำดเกรี้ยวกันเกรียวกรูเพื่อสักครู่เจ้ำจะหลั่งซึ่งฝนริน
เติมควำมรักสักหน่อยนะหัวใจเติมควำมหวังไกลอยู่ให้สิ้น
ให้หยัดอยู่คู่ท้ำเถื่อนธรนินทร์เพื่อแผ่นดินจะงดงำมด้วยควำมรัก
17.คำำประพันธ์ข้ำงต้นไม่ปรำกฏลักษณะกำรแต่งในข้อใด
1. เล่นสัมผัสสระและสัมผัสอักษร
2. เล่นคำำพ้องควำมหมำย
3. ใช้สัญลักษณ์

14. 4. ซำ้ำคำำยำ้ำควำมหมำย
18.ผู้แต่งมีจุดมุ่งหมำยในข้อใด
1. ให้มีควำมอดทน
2. ให้มองโลกในแง่ดี
3. ให้มีอุดมกำรณ์
4. ให้กำำลังใจ
จงใช้คำำประพันธ์ต่อไปนี้ ตอบคำำถำมข้อ 19-20
เป็นสร้อยโสภิศพ้นอุปรมำ
โสรมสรวงศิรธิรำงค์เวี่ยไว้
จงคงคู่กัลปำยืนโยค
หำยแผ่นดินฟ้ำไหม้อย่ำหำย ฯ
19.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะเด่นของคำำประพันธ์ข้ำงต้น
1. กำรใช้อติพจน์
2. กำรใช้อุปลักษณ์
3. กำรใช้คำำอลังกำร
4. กำรใช้อุปมำ
20.บทประพันธ์นี้ต้องกำรสื่ออะไร
1. แสดงควำมสำำคัญของบทกวี
2. แสดงควำมยิ่งใหญ่ของบทกวี
3. แสดงควำมสำมำรถของกวี
4. แสดงควำมรู้สึกของกวี
ธรรมชำติของภำษำ
21. ข้อใดเป็นลักษณะร่วมของกำรใช้เสียงพูดและกำรใช้ตัวเขียนในกำรสื่อสำร
1. อวัยวะที่ใช้ในกำรสื่อสำร
2. อวัยวะที่ใช้ในกำรรับสำร
3. ตัวสำร
4. ควำมคงทนของสำร
22. เหตุใดจึงไม่จัดภำษำเขียนไว้ในภำษำในควำมหมำยอย่ำงแคบ
1. ภำษำเขียนมีควำมแน่นอนน้อยกว่ำภำษำพูด
2. บำงภำษำยังไม่มีภำษำเขียน
3. ภำษำเขียนไม่สำมำรถถ่ำยทอดอำรมณ์ควำมรู้สึกได้
4. ภำษำพูดมีมำก่อนภำษำเขียน
23. กลุ่มคำำในข้อใดแสดงให้เห็นว่ำเสียงและควำมหมำยในแต่ละภำษำไม่สัมพันธ์
กัน
1. ผู้หญิงนำรีสตรีกัลยำ

15. 2. เคียดแค้นขุ่นขึ้ง
3. ตุ๊กแกฉู่ฉี่โครมทุ่ม
4. เกเขเย้เป๋
24. หน่วยที่เล็กที่สุดของภำษำคือข้อใด
1. เสียงสระ
2. เสียงพยัญชนะ
3. พยำงค์
4. ถูกทั้ง 1. และ 2.
25. ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. ถึงแม้ว่ำจะมีเสียงจำำกัด เรำไม่สำมำรถสร้ำงประโยคที่ยำวที่สุดได้
2. ในแต่ละภำษำ หน่วยที่ใหญ่กว่ำสำมำรถจำำแนกเป็นหน่วยที่เล็กกว่ำได้เสมอ
3. ภำษำเป็นพฤติกรรมกำรสื่อสำรแบบที่ต้องเรียนรู้ซึ่งผู้ใช้กำำหนดขึ้นเองทั้งระบบ
4. เนื่องจำกภำษำใช้เสียงสื่อสำรทำำให้ผู้ใช้ภำษำต่ำง ๆ สำมำรถสื่อสำรกันเข้ำใจ
ได้ทั้งหมด
26. กำรที่คนบำงกลุ่มออกเสียงคำำว่ำ “เต้ำเจี้ยว” เป็นคำำว่ำ “เจ้ำเจี้ยว” แสดงว่ำ
ภำษำมีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงไร
1. เกิดกำรกร่อนเสียง
2. เกิดกำรผลักเสียง
3. เกิดกำรกลมกลืนเสียง
4. เกิดกำรสลับที่ของเสียง
27. คำำในข้อใดมีกำรเปลี่ยนแปลงต่ำงจำกคำำอื่น
1. มะพร้ำว
2. กระดุม
3. วะวับ
4. ตะเข้
28. ข้อใดไม่ทำำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงของภำษำ
1. กำรแปรของภำษำตำมระดับภำษำและสถำนกำรณ์
2. กำรพูดในชีวิตประจำำวัน
3. กำรเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
4. อิทธิพลของภำษำต่ำงประเทศ
ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำำถำมข้อ 29-32
ร้ำงศำสตร์ฉกหยุดเพชรวุ่นเพศสั่งชำติพำกย์ภำพอยำกเมฆคำ่ำผัดซัดเวรซึ้งพรรค
ด้วงโรคหนอนเพลยำกหญิงเลขลิ้นฉัตร
29. คำำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกันตั้งแต่ 3 คำำขึ้นไปมีทั้งหมดกี่ชุดคำำ
1. 5 ชุด
2. 4 ชุด

16. 3. 3 ชุด
4. 2 ชุด
30. คำำที่มีเสียงสระ “เอ” มีทั้งหมดกี่คำำ
1. 7 คำำ
2. 6 คำำ
3. 5 คำำ
4. 4 คำำ
31. คำำที่สะกดในมำตรำแม่กก มีมำกกว่ำคำำที่สะกดในมำตรำแม่กดกี่คำำ
1. มีจำำนวนเท่ำกัน
2. 1 คำำ
3. 2 คำำ
4. 3 คำำ
32. จำกรำยกำรคำำข้ำงต้น มีคำำที่มีเสียงวรรณยุกต์ใดน้อยที่สุด
1. เอก
2. โท
3. ตรี
4. จัตวำ
คำำสั่งจงเติมคำำหรือข้อควำมสั้น ๆ เพื่อตอบคำำถำมให้วิเครำะห์องค์
ประกอบของกำรสื่อสำรต่อไปนี้
"นิดโบกมือลำแดงก่อนไปขึ้นเครื่องบิน"
33. ผู้ส่งสำร : ………………………………
34. ผู้รับสำร : ………………………………
35. สื่อ : ………………………………
36. สำร : ………………………………
"ป้ำยห้ำมส่งเสียงดังในห้องสมุด"
37. ผู้ส่งสำร : ………………………………
38. ผู้รับสำร : ………………………………
39. สื่อ : ………………………………
40. สำร : ………………………………
เสียงในภำษำ

17. 41. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ภำษำต่ำงประเทศ
1. เดิน
2.ทบ
3. ปรำบ
4. ระฆัง
42. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของภำษำไทย
1. วำงคำำขยำยหลังคำำหลัก
2. ไม่เปลี่ยนรูปคำำเพื่อบอกเพศ พจน์ กำล
3. มีเสียงควบกลำ้ำในพยัญชนะท้ำย
4. มีลักษณะเหมือนเสียงดนตรี
43. คำำควบกลำ้ำในข้อใดมีเสียงควบกลำ้ำเป็นเสียงที่มีมำตั้งแต่ภำษำไทยดั้งเดิม
1. เฟรนฟรำยด์
2. บรั่นดี
3. คริสตัล
4. จันทรำ
44. จำกลักษณะต่อไปนี้ ข้อใดไม่สำมำรถจำำแนกคำำไทยได้
1. มักจะเป็นคำำพยำงค์เดียว
2. มักจะสะกดตรงมำตรำ
3. มีควำมหมำยในตัวเอง
4. เป็นคำำที่อ่ำนเนื่องเสียง
45. ข้อใดต่ำงจำกพวก
1. แสร้ง
2. เศร้ำ
3. ทรำบ
4. ผลิ
46. เป็นศรีแก่ปำกผู้ ผจงฉันท์
คือคู่มำลำสรร เรียบร้อย
เป็นถนิมประดับกรรณ ทุกเมื่อ
กลกระแจะต้องน้อย หนึ่งได้แรงใจ
ข้อควำมนี้มีเสียงควบกลำ้ำและอักษรนำำอย่ำงละกี่คำำ
1. ควบกลำ้ำ 2 คำำ อักษรนำำ 2 คำำ
2. ควบกลำ้ำ 2 คำำ อักษรนำำ 3 คำำ
3. ควบกลำ้ำ 3 คำำ อักษรนำำ 2 คำำ
4. ควบกลำ้ำ 4 คำำ อักษรนำำ 4 คำำ

18. จงใช้ข้อควำมต่อไปนี้ ตอบคำำถำมข้อ 47-48
“อันนำ้ำใจกวนอูนั้น ถ้ำผู้ใดมีคุณแล้วเห็นจะเป็นเหมือนอิเยียวอันเล่ำปี่กับกวนอูนั้น
มิได้เป็น พี่น้องกัน ซึ่งมีควำมรักกันนั้นเพรำะได้สำบำนต่อกัน เล่ำปี่เป็นแต่ผู้น้อย
เลี้ยงกวนอูไม่ถึงขนำดกวนอูยังมีนำ้ำใจกตัญญูต่อเล่ำปี่ จึงคิดจะติดตำมมิได้ทิ้ง
เสีย...”
47. จำกข้อควำมข้ำงต้น มีคำำที่มีเสียงสระประสมกี่คำำ
1. 6 คำำ
2. 7 คำำ
3. 8 คำำ
4. 9 คำำ
48. จำกข้อควำมข้ำงต้น มีคำำที่ประสมสระเกินกี่คำำ
1. 10 คำำ
2. 11 คำำ
3. 12 คำำ
4. 13 คำำ
49. ข้อใดมีคำำที่มีเสียงพยัญชนะท้ำยมำกที่สุด
1. ลำงลิงลิงลอดไม้ลำงลิง
2. แลลูกลิงลงชิงลูกไม้
3. ลิงลมไล่ลมติงลิงโลด หนีนำ
4. แลลูกลิงลำงไหล้ลอดเลี้ยว ลำงลิง
50. ข้อใดมีวรรณยุกต์ไม่ครบห้ำเสียง
1. ปำงนั้นส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรำเทพกัญญำ
2. จำำเดิมแต่พระนำงเธอลีลำล่วงลับพระอำวำส
3. พระทัยนำงให้หวั่นหวำดพะวงหลัง
4. ตั้งพระทัยเป็นทุกข์ถึงพระเจ้ำลูกมิขำดสำย
51. คำำในข้อใดเป็นพยำงค์ปิดทั้ง 2 คำำ
1. ประทิ่นประมำท
2. นำ้ำมันกะปิ
2. เกะกะห่วงใย
3. ลูกเสือแม่นำ้ำ
52. รูปพยัญชนะที่ทำำหน้ำที่เป็นทั้งตัวสะกดและพยัญชนะต้นในข้อใดที่เป็นเสียง
เดียวกัน
1. คัคนำงค์
2.เอกรำช
3. ชลนำ
4. เทวทัต

19. 53. ข้อใดมีเสียงสระสั้นทุกพยางค์
1. นำ้าจิ้มนำ้าตาลนำ้าหวานนำ้ามัน
2. แม่นำ้าแม่ทัพแม่ยายแม่สื่อ
3. นมข้นนมผงนมกล่องนมสด
4. กระต่ายกระเต็นกระตั้วกระปุก
54. ข้อใดมีคำาที่ออกเสียงวรรณยุกต์ไม่ตรงกับรูปมากที่สุด
1. กาจับกาฝากต้นตุมกา
2. กาลอดกาลามาร่อนร้อง
3. เพกาหมู่กามาจับอยู่
4. กาม่ายมัดกาจ้องกิ่งก้านกาหลง
จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำาถามข้อ 55-60
ก.สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสนข.ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอมค.กลิ่นประเทียบ
เปรียบดวงพวงพยอมง.อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม
55. ข้อใดมีคำาที่มีเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวมากที่สุด (ไม่นับเสียงซำ้า)
1. ก.
2. ข.
3. ค.
4. ง.
56. ข้อใดไม่มีเสียงสระประสม
1. ก.
2. ข.
3. ค.
4. ง.
57. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะสะกดน้อยที่สุด (ไม่นับเสียงซำ้า)
1. ก.
2. ข.
3. ค.
4. ง.
58. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบห้าเสียง
1. ก.
2. ข.
3. ค.
4. ง.
59. ข้อใดมีพยางค์เปิดน้อยที่สุด
1. ก.

20. 2. ข.
3. ค.
4. ง.
60. ข้อใดประสมสระเสียงสั้นมากที่สุด
1. ก.
2. ข.
3. ค.
4. ง.
61. ข้อใดมีคำาลหุมากที่สุด
1. ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน
2. ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล
3. จะขอเป็นนกพิราบขาว
4. ช่วยชี้นำาชาวประชาสู่เสรี
ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบคำาถามข้อ 62-63
เสียทีก็มีชื่อ ได้เลื่องลือสรรเสริญ
สงสารว่ากรรมเกิน กำาลังดอกจึงจมสูญ
62. ข้อความข้างต้นมีคำาลหุกี่คำา
1. 1 คำา
2. 2 คำา
3. 3 คำา
4. 4 คำา
63. ข้อความข้างต้นมีคำาตายกี่คำา
1. 1 คำา
2. 2 คำา
3. 3 คำา
4. 4 คำา
64. คำาครุ-ลหุ จะปรากฏในฉันทลักษณ์ประเภทใด
1. ลิลิต
2. ร่ายยาว
3. คำาฉันท์
4. กลอนนิราศ
65. คำาในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันทั้งสองคำา
1. กลบเกลื่อน
2. ทรุดโทรม
3. ว่องไว
4. โครมคราม

21. 66. ข้อใดมีโครงสร้างพยางค์ต่างกับข้ออื่น
1. นำ้าตาล
2. นำ้าใจ
3. นำ้าลาย
4. นำ้าแดง
67. คำาในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันคำาว่า “ปากกา”
1. ดักแด้
2. แหกตา
3. ทำานา
4. ท้องฟ้า
68. คำาในข้อใดมีโครงสร้างพยางค์เหมือนกันทั้งหมด
1. กินสินหินริน
2. ปัด จัด หั่น ตุ่ม
3. อย่าอยู่อย่างอยาก
4. ดินนำ้าทอง สวย
69. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. คำาลหุทุกคำาเป็นคำาตาย
2. พยางค์เปิดทุกพยางค์เป็นคำาลหุ
3. คำาตายทุกคำาเป็นพยางค์เปิด
4. พยางค์เปิดทุกพยางค์เป็นคำาตาย
70. ข้อใดมีจำานวนพยางค์น้อยที่สุด
1. กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
2. ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
4. คณบดีคณะอักษรศาสตร์