More Related Content
Similar to ชำนาญการพนักงานมหาวิทยาลัย ข้าราชการ
Similar to ชำนาญการพนักงานมหาวิทยาลัย ข้าราชการ (9)
ชำนาญการพนักงานมหาวิทยาลัย ข้าราชการ
- 6. การเสนอผลงานเพื่อขอแต่งตั้ง มี 2 วิธี
วิธีปกติ
ผู้เสนอขอแต่งตั้งมีคุณสมบัติตรงตามที่
มหาวิทยาลัยกาหนด
โดยมหาวิทยาลัยจะแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิฯ
จานวน 3 คน เพื่อพิจารณา เกณฑ์การตัดสินจะ
ใช้มติเสียงข้างมากของคณะกรรมการ
วิธีพิเศษ
ผู้เสนอขอแต่งตั้งมีคุณสมบัติต่างไปจากที่
มหาวิทยาลัยกาหนด ได้แก่
ระยะเวลาในการดารงตาแหน่งไม่ครบ
การขอแต่งตั้งไม่เป็นไปตามลาดับตาแหน่ง
วิธีพิเศษนี้ผู้เสนอขอแต่งตั้งต้องมีความรู้ ความสามารถ
และคุณภาพของผลงานสูงกว่าปกติ
โดยมหาวิทยาลัยจะแต่งตั้งทรงคุณวุฒิฯ จานวน 5 คน
ซึ่งเกณฑ์การตัดสินจะต้องได้รับคะแนนเสียง 4 ใน 5 ของ
ผู้ทรงคุณวุฒิ
- 7. ผลงานที่สามารถใช้เสนอขอตาแหน่ง
ประเภทของผลงาน การเผยแพร่
1.คู่มือการปฏิบัติงาน เผยแพร่ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเผยแพร่ภายหลังจากกรรมการประเมินคุณภาพแล้ว
โดยแนบหนังสือตอบรับหรือหนังสือตอบขอบคุณจากหน่วยงานที่นาไปเผยแพร่
(งานวิเคราะห์สังเคราะห์อาจเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่เป็นที่ยอมรับได้)2.งานวิเคราะห์/งานสังเคราะห์
2.งานวิจัย 1.เผยแพร่ในรูปแบบของการลงตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการที่มีกองบรรณาธิการตรวจสอบคุณภาพ
2.เผยแพร่ในงานประชุมวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติ3.บทความทางวิชาการ
4.เอกสารประกอบการบรรยาย
( 3 เรื่อง = 1 ชิ้น)
แสดงหลักฐานประกอบ เช่น หนังสือเชิญ หรือมอบหมายให้ไปบรรยายโดยมีวัน เวลาและสถานที่ชัดเจน
ต้องจัดทาเป็นรูปเล่ม หรือ เป็นสื่ออื่นๆ เช่น ซีดีรอม
5.ตารา ต้องใช้ในการเรียนการสอนมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา และเผยแพร่เป็นรูปเล่มด้วยการตีพิมพ์
โดยโรงพิมพ์หรือ สานักพิมพ์
6.หนังสือ ต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองการเผยแพร่จากคณะอนุกรรมการของส่วนงานและ/หรือ สถาบัน
ทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชานั้น และต้องเผยแพร่สู่สาธารณชนมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 เดือน และ
เผยแพร่เป็นรูปเล่มด้วยการตีพิมพ์โดยโรงพิมพ์หรือ สานักพิมพ์
7.งานแปล ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ เผยแพร่เป็นรูปเล่มด้วยวิธีการพิมพ์โดยโรงพิมพ์หรือสานักพิมพ์
หรือ เผยแพร่ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์
8.ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่นๆ ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์ , โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เผยแพร่ในลักษณะรูปเล่ม /ซีดีรอม /โดยการจัดแสดง
ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณชนมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 เดือน
- 10. ผู้มีวุฒิต่ากว่าปริญญาตรี
ชานาญงาน ชานาญงานพิเศษ เชี่ยวชาญ
คุณสมบัติ
1.ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยมหิดลมาแล้วไม่น้อย
กว่า 10 ปี และปฏิบัติงานในตาแหน่งที่เสนอขอ
มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2.ต้องผ่านการประเมินปริมาณงาน คุณภาพงาน และ
สมรรถนะ
คุณสมบัติ
1.ต้องดารงตาแหน่งผู้ชานาญงานมาแล้วไม่น้อย
กว่า 5 ปี
2.ต้องผ่านการประเมินปริมาณงาน คุณภาพงาน และ
สมรรถนะ
คุณสมบัติ
1.ต้องดารงตาแหน่งผู้ชานาญงานพิเศษมาแล้วไม่
น้อยกว่า 3 ปี
2.ต้องผ่านการประเมินปริมาณงาน คุณภาพงาน และ
สมรรถนะ
3.ต้องผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการประจา
คณะและคณะกรรมการประเมินของมหาวิทยาลัย
ผลงานที่ใช้เสนอขอตาแหน่ง
-เสนอผลงานอย่างน้อย 2 เรื่อง
-เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น
Corresponding Author
-ไม่กาหนดร้อยละการมีส่วนร่วมในผลงาน
-ผลงานต้องมีคุณภาพในระดับดี
ต้องเสนอ
คู่มือการปฏิบัติงาน งานวิจัย ตารา หนังสือ งานแปล
เอกสารประกอบการบรรยาย (3หัวข้อ= 1 เรื่อง) หรือ
ผลงานลักษณะอื่นๆ
ผลงานที่ใช้เสนอขอตาแหน่ง
-เสนอผลงานอย่างน้อย 3 เรื่อง
-เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น
Corresponding Author อย่างน้อย 2 เรื่อง
-ไม่กาหนดร้อยละการมีส่วนร่วมในผลงาน
-ผลงานต้องมีคุณภาพในระดับดี
ต้องเสนอ
1.งานวิเคราะห์หรืองานสังเคราะห์ อย่างน้อย 1 เรื่อง
และ
2.คู่มือปฏิบัติงาน หรือ งานวิจัย หรือ บทความทาง
วิชาการ หรือ ตารา หรือหนังสือ หรืองานแปล หรือ
เอกสารประกอบการบรรยาย (3หัวข้อ= 1 เรื่อง) หรือ
ผลงานทางวิชาการลักษณะอื่นๆ
ผลงานที่ใช้เสนอขอตาแหน่ง
-เสนอผลงานอย่างน้อย 4 เรื่อง
-เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น
Corresponding Author อย่างน้อย 3 เรื่อง
-ไม่กาหนดจานวนร้อยละการมีส่วนร่วมในผลงาน
-ผลงานต้องมีคุณภาพในระดับดีมาก
- การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน
ต้องเสนอ
1.งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร
ระดับชาติ หรือ นานาชาติ และ
2.งานวิเคราะห์ หรือ งานสังเคราะห์ หรือ งานวิจัย
หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือหนังสือ
หรืองานแปล หรือเอกสารประกอบการบรรยาย
(3หัวข้อ= 1 เรื่อง) หรือผลงานทางวิชาการลักษณะ
อื่นๆ
เงินประจาตาแหน่ง -ไม่มี- เงินประจาตาแหน่ง 5,000 บาท เงินประจาตาแหน่ง 19,800 บาท
- 11. ผู้มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป
ผู้ชานาญการพิเศษ
คุณสมบัติ
วุฒิปริญญาตรี ดารงตาแหน่งนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
วุฒิปริญญาโท ดารงตาแหน่งนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
วุฒิปริญญาเอก ดารงตาแหน่งนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
เสนอผลงานอย่างน้อย 3 เรื่อง โดย อย่างน้อย 2 เรื่อง เป็น ผู้ดาเนินการหลัก หรือ ชื่อแรก หรือเป็น Corresponding Author
ผลงานต้องมีคุณภาพในระดับดี
กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ หรือ กลุ่มสนับสนุนวิชาการต้องเสนอ
1.คู่มือปฏิบัติงาน หรือ งานวิเคราะห์สังเคราะห์ อย่างน้อย 1 เรื่อง และ
2. งานวิจัย หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือ เอกสารประกอบการบรรยาย (3หัวข้อ = 1 เรื่อง) หรือ
ผลงานในลักษณะอื่น
กลุ่มสนับสนุนทั่วไป
1.งานวิเคราะห์งานสังเคราะห์ อย่างน้อย 1 เรื่อง และ
2.คู่มือปฏิบัติงาน หรือ งานวิจัย หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือ เอกสารประกอบการบรรยาย
(3หัวข้อ= 1 เรื่อง) หรือ ผลงานทางวิชาการลักษณะอื่นๆ
เงินประจาตาแหน่ง
กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ = 11,200 บาท / กลุ่มสนับสนุนวิชาการ = 7,000 บาท / กลุ่มสนับสนุนทั่วไป 5,000 บาท
กรณีเป็นข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
ให้นับรวมระยะเวลาในการดารงตาแหน่งในประเภทข้าราชการเดิมได้
- 13. ผู้มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
คุณสมบัติ
ดารงตาแหน่งผู้เชี่ยวชาญมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ต้องผ่านการประเมินปริมาณงานในหน้าที่ คุณภาพงานในหน้าที่และสมรรถนะประจาตาแหน่ง
เสนอผลงานอย่างน้อย 5 เรื่อง
โดยมีผลงานอย่างน้อย 2 เรื่องมีคุณภาพในระดับดีเด่นและอย่างน้อย 3 เรื่อง ต้องมีคุณภาพในระดับดีมาก
อย่างน้อย 3 ชิ้น/เรื่อง เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือชื่อแรก และมีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า 50% หรือเป็น Corresponding Author
การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน
ความเป็นที่ยอมรับนับถือในวงวิชาการและวิชาชีพในระดับชาติ หรือ นานาชาติ
ต้องเสนอ
1.งานวิจัย อย่างน้อย 2 เรื่อง (ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ) และมีคุณภาพดีเด่น และ
2.งานวิเคราะห์ หรือ งานสังเคราะห์ หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือ เอกสารประกอบการบรรยาย
(3หัวข้อ= 1 เรื่อง) หรือ ผลงานทางวิชาการลักษณะอื่นๆ ที่มีคุณภาพในระดับ ดีมาก
เงินประจาตาแหน่ง = 26,000 บาท
- 14. พนักงานมหาวิทยาลัยสายงานวิจัย
ชานาญการพิเศษ
คุณสมบัติ
วุฒิปริญญาตรี ต้องดารงตาแหน่งนั้นๆ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
วุฒิปริญญาโท ต้องดารงตาแหน่งนั้นๆ มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
วุฒิปริญญาเอก ต้องดารงตาแหน่งนั้นๆ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ต้องผ่านการประเมินปริมาณงานในหน้าที่ คุณภาพงานในหน้าที่ และสมรรถนะ
ตาแหน่งนักปฏิบัติการวิจัย
A. งานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ อย่างน้อย 3 เรื่อง ที่เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น Corresponding Author ต้องมีคุณภาพในระดับดี
หรือ
B. งานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ จานวน 2 เรื่อง ที่เป็นผู้ดาเนินการหลัก หรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น Corresponding Author และ งานวิจัยที่ทาร่วมกับผู้อื่นที่มี
ส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า 50% คุณภาพในระดับ “ ดี” ทุกเรื่อง
ตาแหน่งผู้ช่วยวิจัย และ เจ้าหน้าที่วิจัย
A.เสนอผลงานอย่างน้อย 3 เรื่อง โดยอย่างน้อย 2 เรื่องเป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น Corresponding Author ทั้งนี้อาจเสนองานวิจัยจานวน
3 เรื่อง ซึ่งต้องได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ
หรือ
B. เสนอผลงานจานวน 3 เรื่อง ที่ประกอบด้วย
1.งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ และ
2.งานวิเคราะห์หรืองานสังเคราะห์ หรือ คู่มือปฏิบัติงาน หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือเอกสารประกอบการบรรยาย
(3 หัวข้อ = 1 เรื่อง) หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
เงินประจาตาแหน่ง = นักปฏิบัติการวิจัย 11,200 บาท / ผู้ช่วยวิจัย และ เจ้าหน้าที่วิจัย 7,000 บาท
- 15. พนักงานมหาวิทยาลัยสายงานวิจัย
เชี่ยวชาญ
คุณสมบัติ
ต้องดารงตาแหน่งชานาญการพิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ต้องผ่านการประเมินปริมาณงานในหน้าที่ คุณภาพงานในหน้าที่ และสมรรถนะ
การใช้ความรู้ความสามารถเพื่อบริการสังคม
ตาแหน่งนักปฏิบัติการวิจัย
A.งานวิจัยหรือสิงประดิษฐ์อย่างน้อย4เรื่องคุณภาพในระดับดีมาก ที่เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรกหรือเป็นCorrespondingAuthor
หรือ
B.งานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์จานวน 3 เรื่อง ที่เป็นผู้ดาเนินการหลัก หรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น CorrespondingAuthorมีคุณภาพ ดีมาก และ งานวิจัยที่ทาร่วมกับผู้อื่น
ที่มีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า 50% คุณภาพในระดับ ดีมาก ทุกเรื่อง
ตาแหน่งผู้ช่วยวิจัย และ เจ้าหน้าที่วิจัย
A.เสนอผลงานอย่างน้อย 4 เรื่อง โดยอย่างน้อย 3 เรื่อง เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก หรือเป็น CorrespondingAuthorอาจเสนองานวิจัยจานวน 4 เรื่อง
ซึ่งต้องได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ
หรือ
B.เสนอผลงานจานวน 4 เรื่อง ที่ประกอบด้วย
1.งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ และ
2.งานวิเคราะห์ หรืองานสังเคราะห์ หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือเอกสารประกอบการบรรยาย (3 หัวข้อ = 1 เรื่อง)
หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
เงินประจาตาแหน่ง = 19,800 บาท
- 16. พนักงานมหาวิทยาลัยสายงานวิจัย
เชี่ยวชาญพิเศษ
คุณสมบัติ
ต้องดารงตาแหน่งเชี่ยวชาญมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ต้องผ่านการประเมินปริมาณงานในหน้าที่ คุณภาพงานในหน้าที่ และสมรรถนะ
การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุน และ ความเป็นที่ยอมรับนับถือในวงวิชาการหรือวิชาชีพ
ตาแหน่งนักปฏิบัติการวิจัย
A.งานวิจัยหรือสิงประดิษฐ์อย่างน้อย 5 เรื่อง ที่เป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อแรก และมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า 50% หรือเป็นCorrespondingAuthor ซึ่งได้รับการ
ตีพิมพ์ลงในวารสารระดับนานาชาติ โดยมีผลงานอย่างน้อย 2 เรื่องมีคุณภาพในระดับดีเด่น และอย่างน้อย 3 เรื่องมีคุณภาพในระดับดีมาก
หรือ
B.งานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์ จานวน 4 เรื่อง และมีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า 50% หรือเป็นCorrespondingAuthor ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารระดับนานาชาติ
โดยมีผลงานอย่างน้อย 2 เรื่องมีคุณภาพในระดับดีเด่น และอย่างน้อย
3 เรื่องมีคุณภาพในระดับดีมาก และ ต้องมีงานวิจัยที่ทาร่วมกับผู้อื่นที่มีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า 50% คุณภาพในระดับดีมากทุกเรื่อง
ตาแหน่งผู้ช่วยวิจัย และ เจ้าหน้าที่วิจัย
A.เสนอผลงานอย่างน้อย 5 เรื่อง ที่เป็นผู้ดาเนินการหลัก หรือเป็นชื่อแรก โดยมีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่า50% หรือเป็นCorrespondingAuthor อาจเสนองานวิจัย
จานวน 5 เรื่อง ซึ่งต้องได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ โดยผลงานอย่างน้อย 2 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดีเด่น และอย่างน้อย 3 เรื่อง ในระดับดีมาก
หรือ
B.เสนอผลงานจานวน 5 เรื่อง ที่ประกอบด้วย
1.งานวิจัย อย่างน้อย 2 เรื่อง ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารระดับนานาชาติ และ
2.งานวิเคราะห์ หรืองานสังเคราะห์ หรือ บทความทางวิชาการ หรือ ตารา หรือ หนังสือ หรือ งานแปล หรือเอกสารประกอบการบรรยาย (3 หัวข้อ = 1 เรื่อง) หรือ
ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
เงินประจาตาแหน่ง = 26,000 บาท
- 24. การประเมินค่างาน
องค์ประกอบการประเมินค่างาน เกณฑ์การตัดสิน
ระดับชานาญการ , ระดับชานาญการพิเศษ
1.หน้าที่และความรับผิดชอบ (30 คะแนน)
2.ความยุ่งยากของงาน (30 คะแนน)
3.การกากับตรวจสอบ (20 คะแนน)
4.การตัดสินใจ (20 คะแนน)
ระดับชานาญการ ได้คะแนน 64 คะแนนขึ้นไป
ระดับชานาญการพิเศษ ได้คะแนน 84 คะแนนขึ้นไป
ระดับเชี่ยวชาญ และ เชี่ยวชาญพิเศษ
1.ความรู้และความชานาญงาน (40 คะแนน)
2.การบริหารจัดการ (20 คะแนน)
3.การติดต่อสื่อสารและปฏิสัมพันธ์(20 คะแนน)
4.อิสระในความคิด (20 คะแนน)
5.ความท้าทายในการคิดแก้ปัญหา(20 คะแนน)
6.การวิเคราะห์ข้อมูล (40 คะแนน)
7.อิสระในการปฏิบัติงาน (20 คะแนน)
8.ผลกระทบจากการปฏิบัติงาน (40 คะแนน)
ระดับเชี่ยวชาญ ได้คะแนน 170 คะแนนขึ้นไป
ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ ได้คะแนน 235 คะแนนขึ้นไป
- 25. ชานาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ
ระดับ 6
เสนอผลงาน จานวนอย่างน้อย 2 เรื่อง/
ชิ้น และอย่างน้อย1 เรื่อง/ชิ้น มีคุณภาพ
ในระดับดี ซึ่งต้องเป็นผู้ดาเนินการเอง
เอง หากมีส่วนร่วมต้องเป็นผู้ดาเนินการ
หลักและมีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อย
กว่าร้อยละ 50
ระดับ 7-8
เสนอผลงานอย่างน้อย4 เรื่อง/ชิ้น และ
อย่างน้อย 3 เรื่อง/ชิ้น มีคุณภาพในระดับ
ดี และเป็นผู้ดาเนินการหลักหรือเป็นชื่อ
แรกหากมีส่วนร่วมต้องเป็นผู้ดาเนินการ
หลักและมีส่วนร่วมในผลงานไม่น้อย
กว่าร้อยละ 50
เสนอผลงานอย่างน้อย5 เรื่อง/ชิ้น
-ต้องมีงานวิจัยอย่างน้อย1 เรื่อง และต้อง
มีคุณภาพในระดับดี
-อย่างน้อย 3 เรื่อง/ชิ้น เป็นเจ้าของ หากมี
ส่วนร่วมต้องเป็นผู้ดาเนินการหลักและมี
ส่วนร่วมในผลงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
เสนอผลงานอย่างน้อย 6 เรื่อง/ชิ้น
-ต้องมีผลงานวิจัยอย่างน้อย1 เรื่อง และ
ต้องมีคุณภาพในระดับดีมาก
-อย่างน้อย 2 เรื่อง/ชิ้น เป็นเจ้าของและ
เป็นผู้ดาเนินการเองหรือหากมีส่วนร่วม
ต้องไม่น้อยกว่า 50% โดยต้องเป็น
ผลงานวิจัยอย่างน้อย 1 เรื่อง
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่งระดับ
ชานาญการ เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ พ.ศ.2550
- 26. ชานาญการพิเศษ ระดับ 6 ชานาญการพิเศษ ระดับ 7-8
A. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน 2 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า
50% และอย่างน้อย1 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดี
หรือ
B . ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน 4 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า
50% และอย่างน้อย2 เรื่อง มีคุณภาพในระดับ ดี
A. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน 4 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมในงานวิจัย ไม่
น้อยกว่า 50% และอย่างน้อย2 เรื่อง มีคุณภาพในระดับ ดี
หรือ
B. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน 2 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า 50 %
และอย่างน้อย1 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดี และ
ผลงานวิจัยที่ผู้ขอแต่งตั้งทาร่วมกับผู้อื่น จานวน 6 เรื่อง และ
อย่างน้อย 3 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดี
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่งระดับ
ชานาญการ เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ พ.ศ.2550 สาขาวิจัย
- 27. ระดับเชี่ยวชาญ ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
A. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน 5 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า
50 % และ อย่างน้อย 3 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดี
หรือ
B. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ จานวน 3 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า
50% และ อย่างน้อย 2 เรื่อง มีคุณภาพในระดับ ดี
และ
ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ที่ผู้ขอแต่งตั้งทาร่วมกับ
ผู้อื่น จานวน 6 เรื่อง และ อย่างน้อย 3 เรื่อง มีคุณภาพ
ในระดับ ดี
A. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ จานวน 6 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมในงานวิจัย
ไม่น้อยกว่า 50% และ อย่างน้อย 3 เรื่อง มีคุณภาพใน
ระดับดีมาก
หรือ
B. ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์จานวน4 เรื่อง ที่ผู้ขอ
แต่งตั้งเป็นผู้ดาเนินการหลักซึ่งมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่า
50% และอย่างน้อย2 เรื่อง มีคุณภาพในระดับดีมาก
และ
ผลงานวิจัย หรือ สิ่งประดิษฐ์ ที่ผู้ขอแต่งตั้งทาร่วมกับ
ผู้อื่น จานวน 6 เรื่อง และอย่างน้อย3 เรื่อง มีคุณภาพ
ในระดับ ดีมาก
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่งระดับ
ชานาญการ เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ พ.ศ.2550 สาขาวิจัย
- 28. ผู้ชานาญงาน ผู้ชานาญงานพิเศษ
คุณสมบัติ
-วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้ว
ไม่น้อยกว่า 6 ปี
-วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้ว
ไม่น้อยกว่า 5 ปี
-วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้ว
ไม่น้อยกว่า 4 ปี
-เงินเดือนถึงขั้นต่าของระดับชานาญงาน = (10,190 บาท)
คุณสมบัติ
-ต้องดารงตาแหน่งระดับชานาญงาน มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี
-เงินเดือนถึงขั้นต่าของระดับชานาญงาน = (15,410 บาท)
-เสนอผลงานอย่างน้อย 1 เรื่อง
-ซึ่งผู้เสนอขอเป็นผู้ดาเนินการหลัก หรือ เป็นชื่อแรก โดยไม่กาหนด
จานวนร้อยละการมีส่วนร่วมในผลงานนั้นๆและ
-มีคุณภาพในระดับดี
*** โดยต้องมีคู่มือปฏิบัติงานหลักอย่างน้อย 1 เล่ม
-เสนอผลงานอย่างน้อย 2 เรื่อง
-ซึ่งผู้เสนอขอเป็นผู้ดาเนินการหลัก หรือ เป็นชื่อแรก ประกอบด้วย
1.คู่มือปฏิบัติงานหลัก อย่างน้อย 1 เล่ม และ
2.ผลงานเชิงวิเคราะห์ อย่างน้อย 1 เรื่อง
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการ ให้ดารงตาแหน่งฯ พ.ศ.2554
สาหรับผู้มีวุฒิฯต่ากว่าปริญญาตรี
- 29. ผู้ชานาญการ ผู้ชานาญการพิเศษ
คุณสมบัติ
-วุฒิปริญญาตรี ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี
-วุฒิปริญญาโท ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้วไม่น้อยกว่า4 ปี
-วุฒิปริญญาเอก ต้องดารงตาแหน่งที่ขอมาแล้วไม่น้อยกว่า2 ปี
-เงินเดือนถึงขั้นต่าของระดับชานาญการ= 13,160 บาท
คุณสมบัติ
-ต้องดารงตาแหน่งระดับชานาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี
-เงินเดือนถึงขั้นต่าของตาแหน่งชานาญการพิเศษ= 19,860
บาท
เสนอผลงานอย่างน้อย2 เรื่อง ซึ่งผู้เสนอเป็นผู้ดาเนินการหลัก
หรือเป็นชื่อแรก ประกอบด้วย
1.คู่มือปฏิบัติงานหลักอย่างน้อย1 เล่ม และ
2.ผลงานเชิงวิเคราะห์หรือสังเคราะห์ หรืองานวิจัย 1 เรื่อง
เสนอผลงานอย่างน้อย2 เรื่อง ซึ่งผู้ขอเป็นผู้ดาเนินการหลัก
หรือเป็นชื่อแรก ประกอบด้วย
1.งานวิเคราะห์สังเคราะห์ อย่างน้อย 1 เรื่อง และ
2.งานวิจัย หรือ ผลงานทางวิชาการลักษณะอื่นๆ อย่างน้อย1
เรื่อง
เงินประจาตาแหน่ง
เงิน - ไม่มี -
เงินประจาตาแหน่ง
- กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ -เงินประจาตาแหน่ง5,600บาทเงินค่าตอบแทน5,600 บาท
- กลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะ..เงินค่าตอบแทน 3,500 บาท
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่งฯพ.ศ.2554
สาหรับผู้มีวุฒิฯปริญญาตรีขึ้นไป
- 30. ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
คุณสมบัติ
-ต้องดารงตาแหน่งระดับชานาญการพิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
--เงินเดือนถึงขั้นต่าของระดับเชี่ยวชาญ = 24,400 บาท
คุณสมบัติ
-ต้องดารงตาแหน่งระดับเชี่ยวชาญมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
-เงินเดือนถึงขั้นต่าของระดับเชี่ยวชาญพิเศษ = 29,980 บาท
เสนอผลงานอย่างน้อย 2 เรื่อง ซึ่งผู้เสนอเป็นผู้ดาเนินการหลักหรือ
เป็นชื่อแรกและมีคุณภาพในระดับดีมาก ประกอบด้วย
1.ผลงานเชิงวิเคราะห์สังเคราะห์หรือ ผลงานลักษณะอื่นๆ อย่างน้อย
1 เรื่อง และ
2.งานวิจัยซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับชาติหรือนานาชาติ
อย่างน้อย 1 เรื่อง
เสนอผลงานอย่างน้อย 2 เรื่อง ซึ่งผู้เสนอเป็นผู้ดาเนินการหลักหรือ
เป็นชื่อแรกและมีคุณภาพในระดับดีเด่น และหากมีส่วนร่วมในผลงาน
ต้องไม่น้อยกว่า 50% ประกอบด้วย
1.ผลงานเชิงวิเคราะห์สังเคราะห์ หรือผลงานลักษณะอื่น อย่างน้อย 1
เรื่อง และ
2.งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับชาติหรือนานาชาติ อย่าง
น้อย 1 เรื่อง
เงินประจาตาแหน่ง = 9,900 บาท
เงินค่าตอบแทน = 9,900 บาท
เงินประจาตาแหน่ง = 13,000 บาท
เงินค่าตอบแทน = 13,000 บาท
สาหรับผู้มีวุฒิฯปริญญาตรีขึ้นไป
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งข้าราชการให้ดารงตาแหน่งฯพ.ศ.2554
- 31. เอกสารที่ต้องใช้เสนอขอตาแหน่งสาหรับข้าราชการ
(กาหนดให้ใช้แบบฟอร์มตามระเบียบฯ ปี 2554 เท่านั้น)
ชำนำญงำน /
ชำนำญงำนพิเศษ
ชำนำญกำรพิเศษ เชี่ยวชำญ เชี่ยวชำญพิเศษ หัวหน้ำหน่วยงำน
(ชำนำญกำรพิเศษ/
เชี่ยวชำญ/
เชี่ยวชำญพิเศษ)
ก.บ.ค.01
(แบบประเมินค่างาน)
จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.02
(แบบประเมินค่างาน)
จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.03
(แบบประเมินค่างาน) จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.04
(แบบประเมินค่างาน)
จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.05 (แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ของงาน)
จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.07 (แบบประวัติส่วนตัวและผลงาน)
จานวน 4 ชุด
ก.บ.ค.08 (แบบแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วม)
ใช้ตามจานวนผลงานที่มีการแบ่งการมีส่วนร่วมในงานงาน(แบ่ง%)
หนังสือรับรองผลงานวิจัย
จานวน 1 ฉบับ (เขียนรับรองผลงานวิจัยตามจานวนที่มีการเสนอผลงานวิจัย)
แฟ้ มผลงาน จานวน 4 แฟ้ ม
หมายเหตุ ** เอกสารที่ระบุให้ใช้จานวน 4 ชุด อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามจานวนคณะกรรมการประเมินที่เพิ่มขึ้น
- 38. พม.03 แบบเสนอขอแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง(ต่อ)
ข้อพึงระวัง
ข้อ 3 ตาแหน่งอื่นๆ
ควรมีเอกสารที่แสดงว่าได้
ปฏิบัติจริง เช่น คาสั่งแต่งตั้ง
กรรมการฯ ต่างๆ หรือ
รางวัลที่เป็นที่น่าภูมิใจอัน
เนื่องมาจากการปฏิบัติภาระ
งานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
ที่ไม่ควรนำมำใส่ เช่น
ศิษย์เก่าดีเด่น / แม่ดีเด่น
กรรมการนอกเหนือจากภาระ
งานจริงในองค์กร
รางวัลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
ภาระงานในองค์กร
- 39. พม.03 แบบเสนอขอแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง(ต่อ)
ข้อพึงระวัง
ข้อ 4 ภำระงำนย้อนหลัง 3 ปี
ปีงบประมาณปัจจุบัน
อธิบายให้เห็นถึงความยาก
ลึกซึ้ง งานที่ได้รับมอบหมาย
และความรับผิดชอบที่ปฏิบัติอยู่
อธิบายโดยละเอียดผสานหลัก
ทฤษฎีหรือองค์ความรู้ในการ
ปฏิบัติงานที่สาคัญด้วย
ผนวกตารางภาระงานต่อท้าย
เพื่อสรุปจานวนชั่วโมง
ปฏิบัติงาน
- 47. พม.06 แบบแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมในผลงาน
ข้อพึงระวัง
ระบุ % การมีส่วนร่วมให้ครบถ้วน
ระบุภาระงานที่ปฏิบัติโดยย่อให้
ครบถ้วน
ผู้มีส่วนร่วมต้องลงนามให้ครบ
ทุกคน หากกรณีไม่สามารถหา
ผู้ร่วมงานได้จริงกรุณาระบุ
หมายเหตุไว้ด้านล่าง เช่น
เนื่องจากอยู่ต่างประเทศ หรือ
ไม่สามารถติดต่อได้หรือ
ถึงแก่กรรม
กรณีมีผู้ร่วมงาน 2 คน และแบ่ง
50% เท่ากัน กรุณาระบุด้วยว่าเป็น
Corresponding Author
(ผู้ประสานงานหลัก)
- 56. ควรตรวจสอบอะไรบ้างในแบบประวัติและแฟ้ มผลงาน
1. ตัวอักษรที่ใช้ควรเป็นตัวอักษรเดียวกันทั้งหมด นิยมใช้Angsana New หรือ TH
Sarabun
2. ตัวเลขถ้าเป็นอารบิกก็ควรเป็นประเภทเดียวกันทั้งหมด
3. ขนาดตัวอักษรควรจะเหมาะสม นิยมใช้ขนาด “16”
4. จัดกั้นหน้า กั้นหลังให้เหมาะสม เหลือขอบด้านหน้าสาหรับการเข้าเล่ม
5. ไม่ควรใช้ - ในการแบ่งหัวข้อ แต่ควรใช้ตัวเลข แทน
6. แฟ้มผลงานต้องมีแถบแสดงลาดับเอกสารให้ตรงกับแบบประวัติ
7. เรียงลาดับผลงานโดยเรียงตามผลงานชื่อแรก ปีที่ตีพิมพ์ล่าสุดขึ้นก่อน
8. ชื่อผลงานที่เสนอในแบบประวัติให้เขียนแบบแวนคูเวอร์
9. กรณีที่เป็นผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคนหรือสัตว์ทดลอง ขอให้แสดงหลักฐานการ
พิจารณารับรองการทาวิจัยจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน หรือ
สัตว์ทดลอง มาประกอบด้วย
- 61. เสนอแบบประวัติ 4 ชุด พร้อมผลงาน จานวน 4 ชุด
ส่งมายังฝ่ ายทรัพยากรบุคคลภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน
เพื่อเข้าประเมินวันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนนั้น
- 63. กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ 20 ตาแหน่ง กลุ่มสนับสนุนวิชาการ 27 ตาแหน่ง กลุ่มสนับสนุนทั่วไป ระดับปฏิบัติการ กลุ่มสนับสนุนทั่วไป ระดับช่วยปฏิบัติการ
1.นักกายภาพบาบัด
2.ทันตแพทย์
3.พยาบาล
4.แพทย์
5.สัตวแพทย์
6.นักเทคนิคการแพทย์
7.เภสัชกร
8.วิศวกรเครื่องกล
9.วิศวกรไฟฟ้า
10.วิศวกรโยธา
11.สถาปนิก
12.นักรังสีการแพทย์
13.นักวิชาการคอมพิวเตอร์
14.นักจิตวิทยาคลินิก
15.นักแก้ไขความผิดปกติของการสื่อ
ความหมาย
16.นักกิจกรรมบาบัด
17.นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก
18.นักกายอุปกรณ์
19.นักวิเคราะห์ระบบงานคอมพิวเตอร์
20.นักปฏิบัติการวิจัย
1.นักวิชาการศึกษา
2.นักแนะแนวการศึกษาและอาชีพ
3.นักวิทยาศาสตร์
4.บรรณารักษ์
5.นักวิชาการเวชสถิติ
6.นักวิชาการโภชนาการ
7.นักจิตวิทยา
8.นักวิชาการโสตทัศนศึกษา
9.เจ้าหน้าที่วิจัย
10.นักเอกสารสนเทศ
11.นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์
12.นักวิชาการช่างทันตกรรม
13.นักวิชาการอาชีวบาบัด
14.นักกาหนดอาหาร
15.เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์
16.นักวิชาการอักษรเบรลล์
17.นักวิชาการภาษามือ
18.ล่ามภาษามือ
19.นักให้คาปรึกษาเพื่อการฟื้นฟู
สมรรถภาพคนพิการ
20.นักเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก
สาหรับคนพิการ
21.ผู้ช่วยวิจัย
22.นักพัฒนาการเด็ก
23.นักวิทยาศาสตร์การกีฬา
24.นักวิชาการดนตรีไทย
25.นักวิชาการสารสนเทศภูมิศาสตร์
26.นักวิชาการข้อมูลสมุนไพร
27.นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
28.เจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์
1.เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
2.นักวิชาการเงินและบัญชี
3.นักวิชาการช่างศิลป์
4.นักตรวจสอบภายใน
5.นักสุขศึกษา
6.วิศวกร
7.นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
8.นักวิชาการเกษตร
9.นักวิชาการสัตวบาล
10.นิติกร
11.นักทรัพยากรบุคคล
12.นักประชาสัมพันธ์
13.นักวิชาการพัสดุ
14.นักวิชาการสถิติ
15.นักวิเทศสัมพันธ์
16.นักสังคมสงเคราะห์
17.นักวิชาการสารสนเทศ
18.นักวิชาการพัฒนาคุณภาพ
19.เจ้าหน้าที่ฝึกอบรม
20.เจ้าหน้าที่พยาบาลทางสัตว์แพทย์
21.ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารสินทรัพย์
22.นักนิเทศศิลป์
23.เจ้าหน้าที่พัฒนาและบริการ
อสังหาริมทรัพย์
24.เจ้าหน้าที่วิเคราะห์และพัฒนาการลงทุน
1.ช่างทันตกรรม
2.ช่างเครื่องคอมพิวเตอร์
3.ช่างพิมพ์
4.ช่างศิลป์
5.ช่างเขียนแบบ
6.ช่างเครื่องยนต์
7.ช่างไฟฟ้า
8.ช่างอิเล็กทรอนิกส์
9.ช่างเทคนิค
10.ผู้ปฏิบัติงานบริหาร
11.ผู้ปฏิบัติงานการเกษตร
12.ผู้ปฏิบัติงานสัตวบาล
13.ผู้ปฏิบัติงานโสตทัศนศึกษา
14.ผู้ปฏิบัติงานห้องสมุด
15.ผู้ปฏิบัติงานอาชีวบาบัด
16.ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์
17.ผู้ปฏิบัติงานทันตกรรม
18.ผู้ปฏิบัติงานเภสัชกรรม
19.ผู้ปฏิบัติงานพยาบาล
20.ผู้ปฏิบัติงานพยาบาล
21.ผู้ปฏิบัติงานโภชนาการ
22.ผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์การแพทย์
23.ผู้ปฏิบัติงานรังสีเทคนิค
24.ผู้ปฏิบัติงานกายภาพบาบัด
25.เจ้าหน้าที่อักษรเบรลล์
26.พนักงานบริการ