More Related Content
More from krooprakarn (10)
Lesson04
- 2. การเลือกที่ดิน
สับปะรดเป็นพืชดอน ที่ชอบที่ลาดเทมากว่า 1% เช่น ที่ลาดเชิงเขา หรือเนินเขา ขึ้นได้ใน
ดินแทบทุกชนิด แต่ชอบดินร่วน ดินร่วนปนทราย ดินปน ลูกรัง (กรวด) ไม่ชอบดินเนื้ อละเอียด เช่น
ดินเหนียว หรือค่อนข้างเหนียว ต้องเป็นดินที่ระบายน้าได้ดีไม่มีน้าขัง หรือฉ่าน้าตลอดเวลา ปลูกได้
เช่นกันแต่ต้องยกร่องเพื่อป้ องกันน้าท่วมหรือน้าขัง
ดินควรเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกรดมาก ความเป็นกรด-ด่าง ควรอยู่ระหว่าง 4.5 – 6 ถ้า
PH สูงกว่า 6 จะมีผลให้เป็นโรคง่ายขึ้น และผลผลิตจะลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ไม่จาเป็นต้อง
สมบูรณ์มากนักและอินทรีย์วัตถุในดินไม่ควรสูงเกินควรจะอยู่ระหว่างร้อยละ 1 – 3 (1-3%) เพราะ
ถ้าดินสมบูรณ์ที่มีอินทรีย์วัตถุค่อนข้างสูง (เกินร้อยละ 3) จะมีผลทาให้การกาจัดวัชพืชยากและมี
ปัญหาเกี่ยวกับโรคมากขึ้น
ดินในตาบลนางแล ด้านทิศตะวันตก ซึ่งปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลมาก และได้ผลผลิต
คุณภาพดี สภาพพื้นที่ ลาดเชิงเขา หรือเนินเขาเตี้ยมีการระบายน้าดีเป็นดินร่วนปนทราบ อยู่ในชุดดิน
หนองมด (Nong Mot) PH 5-6.5
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 3. การเตรียมดิน
เนื่องจากสับปะรดเป็นพืชที่มีอายุค่อนข้างยาว คือ ประมาณ 3-6 ปี มีระบบรากไม่
สามารถสู้กับรากของวัชพืชได้ โดยเฉพาะรากของหญ้าค้างปีต่าง ๆ เช่น หญ้าคา หญ้าแห้วหนู
เป็นต้น ดังนั้นการเตรียมดินจึงต้องพิถีพิถัน ถ้าเตรียมดินไม่ดีโดยเฉพาะการกาจัดวัชพืชค้างปีจะ
เป็นการเพิ่มต้นทุนในการผลิต
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 4. ขั้นตอนในการเตรียมดิน
1. การเคลียร์พื้นที่ จัดการขุดตอและต้นไม้ออกให้หมด ถ้ามีจอมปลวกให้ขุดฐานปลวก
ลึกลงไปไม่น้อยกว่า 50 ซม. แล้วกระจายดินจอมปลวกให้เป็นบริเวณกว้าง แล้วจึง
ดันดินส่วนอื่นมากลบจนเสมอ
2. การปรับพื้นที่ จัดการปรับพื้นที่ ให้ผิวเรียบทั้งแปลง ตามสภาพที่ดินเดิม
3. การไถ
ไถดะ ใช้รถแทรกเตอร์ติดผาน 3 หรือ 4 ไถให้ลึก 25 – 30 ซม.เพื่อพลิก
หน้าดินตากดินไว้ไม่ต่ากว่า 15 วัน เพื่อให้ราก-ลาต้นใต้ดินของวัชพืชตาย
ไถพรวน ใช้รถแทรกเตอร์ติดผาน 7 ไถพรวน 1 ครั้ง เพื่อย่อยดินและปรับ
หน้าดินให้สม่าเสมอ
4. เก็บวัชพืช หลังจากไถพรวนปรับหน้าดินให้สม่าเสมอ ใช้แรงคนเก็บเศษวัชพืชต่าง ๆ
ออกให้หมด และปรับบริเวณที่ไม่เรียบให้เรียบสม่าเสมอกัน
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 6. หน่อพันธุ์สับปะรด แยกออกได้ดังนี้
1. จุกพันธุ์ (Crow) คือ ส่วนที่ติดอยู่บนผลของสับปะรด จุกจะเริ่มเติบโตขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อสับปะรดเริ่มออกดอก สับปะรดนางแลเกษตรกรจะหักจุกทิ้งตั้งแต่เริ่ม
ออกดอกได้ ประมาณ 2 ใน 3 ของดอก เกษตรกรจะไม่นาไปใช้ปลูก
เพราะต้องเสียเวลา ในการชาและเลี้ยงไว้ให้ต้นโตก่อน
2. หน่อพันธุ์ (Sacker) เกษตรกรนิยมใช้ปลูกมากกว่าจุก เพราะหน่อมีคุณสมบัติดี
- ทนโรคไส้เน่า
- ให้ผลเร็ว
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 7. 3. หน่อข้าง หรือตะเกียง คือ หน่อที่เกิดจากตาข้างต้น สับปะรดนางแลจะมีหน่อข้างอยู่ ระหว่าง
1–6 หน่อ ขึ้ นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของต้นเฉลี่ย จะมีหน่อข้าง
ประมาณ 2 หน่อ/ต้น
4. หน่อแทงดิน คือ หน่อดิน หรือหน่องา หน่อที่แทงขึ้นมาจากใต้ดินติดกับต้นแม่
5. หน่อชา คือ หน่อที่เกิดจากต้นสับปะรดที่รื้อทิ้ ง เมื่อนาไปกองทิ้ งไว้ จะเกิดหน่อ
ขึ้นมาตามตาที่ติดกับต้น ขนาดหน่อเล็กไม่สมบูรณ์ ไม่แนะนา ให้เอามา
ปลูกเพราะหน่อขนาดเล็กไม่สมบูรณ์ และเป็นแหล่งสะสมเชื่อโรค
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 8. การเลือกหน่อปลูก
ควรเลือกหน่อข้างหรือหน่อตะเกียง ที่มีขนาดน้าหนักสม่าเสมอกัน มีความของหน่อ
ประมาณ 30 – 40 ซม.) โคนต้นพันธุ์เป็นหลัก คัดแยกขนาดออกเป็น 3 ขนาด ใหญ่ – กลาง –
เล็ก หรือคัดแยก 2 ขนาด ใหญ่ – เล็ก แล้วแต่ขนาดของหน่อที่มีอยู่
การจุ่มสารเคมีก่อนนาไปปลูก
การจุ่มสารเคมีก่อนนาพันธุ์ไปปลูก เพื่อช่วยฆ่าเพลี้ยแป้ งที่ติดมากับพันธุ์และป้ องกัน
กาจัดโรคไส้เน่า (Heart rot) โดยการผสมพร้อมกับยาฆ่าแมลง + สารเคมีกันโรครา + สารจับใบ
ตามอัตราที่กาหนดใช้พันธุ์ที่เตรียมไว้นาไปจุ่มให้มิดทั้งต้น แล้วยกทิ้งให้สะเด็ดน้า
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 9. ฤดูปลูก
สับปะรดนางแล ปลูกได้ทุกฤดู โดยปรกติสับปะรดตั้งแต่ปลูกถึงเก็บเกี่ยวได้ อายุ
ประมาณ 18- 24 เดือน เกษตรกรต้องพิจารณาว่าเมื่อปลูกแล้วจะให้สับปะรดออกในช่วงไหน
แต่ถ้าปลูกแล้วสามารถบังคับให้ออกผลเก็บเกี่ยวได้ในเดือนเมษายน ก่อนที่สับปะรดนางแลจะ
ออกตามฤดูกาลและหลังจากสับปะรดนางแลที่ออกตามฤดูกาลหมด คือ เดือนตุลาคม –
มกราคม ก็จะทาให้เกษตรกรจาหน่ายได้ราคาดี
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 12. ระยะปลูก
ระยะปลูกของสับปะรดนางแล ค่อนข้างจะห่างกว่าสับปะรดพันธุ์อื่น ซึ่งโดยปรกติแล้ว
สับปะรดนางแลจะมีขนาดผลเล็ก เกษตรกรจึงต้องปลูกห่าง เพื่อจะได้ทรงพุ่มใหญ่และมีขนาดผลโต
ตามด้วย
1. แถวเดียว ระหว่างต้น 40 ซม ระหว่างแถว 100 ซม. จานวนต้นต่อไร่ 4,000 – 4,500 ต้น
ข้อดี สะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา ใส่ปุ๋ ย กาจัดวัชพืช และการเก็บเกี่ยว
ข้อเสีย ต้นสับปะรดจะล้มในปีที่ 2 และ 3 เปลืองพื้นที่ จานวนต้นต่อไร่น้อย
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 13. 2. แถวคู่ ปลูกสลับฟันปลา ระหว่างต้น 40 ซม. ระหว่างแถว 50 ซม. ระหว่างแถวคู่ 100 ซม.
ข้อดี จานวนต้นต่อไร่มากและสับปะรดไม่ล้มในปี 2-3
ข้อเสีย การกาจัดวัชพืชไม่สะดวกและการดูแลรักษาในแปลงปลูกบารุงรักษายาก
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 14. น้าหมักบารุงต้นสับปะรด มีวัตถุดิบและวิธีการดังนี้ คือ
1. กากน้าตาล 1 กิโลกรัม
2. เปลือกสับปะรด 3 กิโลกรัม
3. พด. 2 จานวน 1 ซอง
วิธีทา นาส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ประมาณ 3 เดือนสามารถนามาใช้ได้
วิธีการนาไปใช้ ใช้ในอัตราส่วน น้าหมัก 1 ลิตร ต่อน้า 200 ลิตร ใช้ฉีดพ่นพืชผักผลไม้
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 15. การใส่ปุ๋ ย
การปลูกสับปะรดนางแล ตาบลนางแล อาเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะ
เป็นลาดเทเชิงเขา หรือเนินเขาเตี้ย โดยอาศัยน้าฝน การใส่ปุ๋ ย ดังนี้
ครั้งแรก ใส่หลังจากปลูกไม่เกิน 3 เดือน ใช้ปุ๋ ยที่เร่งการเจริญเติบโตทางต้น คือ 21-0-0
(Ammonium Sulphate) 46 – 0 –0 (ยูเรีย) อัตราส่วน 1 ช้อนแกงประมาณ 10 กรัม/ต้น
ครั้งที่ 2 ใส่เมื่อเริ่มยางเข้าฤดูฝนเดือนพฤษภาคม ใส่ปุ๋ ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21
อัตราส่วน 1 ช้อนแกง ประมาณ 10 กรัม/ต้น ใส่ที่กาบใบที่ 2 ที่ 3 ที่พ้นจากใบล่างขึ้นมา
ครั้งที่ 3 ใส่หลังจากใส่ปุ๋ ยครั้งที่ 2 ประมาณ 3 เดือน ก่อนจะหมดฤดูฝน คือ เดือนสิงหาคม ใช้
ปุ๋ ยสูตร 13-13-21 อัตราส่วน 1 ช้อนแกง ประมาณ 10 กรัม/ต้น ใส่ที่กาบใบที่ 2 ที่ 3 นับ
จากใบล่างขึ้นมา เพื่อให้ต้นสับปะรดสมบูรณ์เต็มที่ และเพิ่มโปรแตสเซียม ซึ่งจะทาให้สับปะรดมี
คุณภาพดี
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 17. การใส่ปุ๋ ยต้นตอ 1 และ 2
หลังจากที่เก็บเกี่ยวสับปะรดแล้ว ต้นตอที่สมบูรณ์จะแทงหน่อข้างออกมา คงไว้ที่หน่อข้างที่
อยู่ใกล้ดิน หรือหน่อดินอย่างใด อย่างหนึ่งไว้เพียงหน่อเดียว เมื่อคัดหน่อได้แล้วให้รีบใส่ปุ๋ ยโดยเร็วที่สุด
ใช้ปุ๋ ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนแกง/ต้น ประมาณ 10 กรัม และใส่ปุ๋ ยอีกครั้งก่อนจะหมดฤดูฝน
ใส่ปุ๋ ยสูตร 13-13-21 อัตรา 1 ช้อนแกง/ต้น ใส่ที่กาบใบ
ข้อควรระวังในการใส่ปุ๋ ย
อย่าให้ปุ๋ ยถูกหรือตกลงไปในยอดสับปะรด จะทาให้ยอดเน่า
การใส่ปุ๋ ยที่กาบใบ ใส่กระจาย 2 ถึง 3 กาบ เพื่อให้ปุ๋ ยเต็มกาบใบ และเพื่อป้ องกันการสูญเสีย
ปุ๋ ย
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 18. การบังคับผลสับปะรดนางแล
การปลูกสับปะรดนางแล การบังคับ นับว่ามีความสาคัญมาก สับปะรดนางแลจะออกผลเองตาม
ธรรมชาติตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป และจะหมดในเดือนสิงหาคม ซึ่งถ้าออกมาพร้อมกันมาก ๆ ก็
จะทาให้ราคาตกต่า เพื่อที่จะให้ได้ราคาดีเกษตรกรจึงต้องมีการบังคับการออกผลให้กระจายออกก่อนฤดูกาล
ในการบังคับให้สับปะรดออกดอกก่อนกาหนดนั้น จะต้องคานึงถึงขนาดของต้นสับปะรดเป็นประการ
สาคัญ ถ้าต้นสับปะรดมีขนาดเล็กเกิดไปจะไม่ออกดอกหรือออกดอกได้แต่ขนาดผลเล็ก ต้นสับปะรดที่จะบังคับ
ได้ โคนต้นจะต้องอวบใหญ่ไม่เรียวหรือประมาณน้าหนักของต้นให้ได้ 2.5 กก. ขึ้นไปหรือประมาณใบ 45 ใบขึ้น
ไป
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 19. การคานวณขนาดผลตามขนาดน้าหนักของต้น เรียกว่าอัตราส่วนของน้าหนักต้นต่อน้าหนักผล
ขนาดน้าหนักต้น 1 กก. จะได้ขนาดผลหนัก 450 – 700 กรัม คือ เฉลี่ยได้น้าหนักผล ½ กก.
สับปะรดนางแลต้นที่ควรบังคับให้ออกผล ซึ่งจะได้ขนาดผลเป็นที่ต้องการของตลาด ควรจะมีน้าหนักต้นตั้งแต่
2.5 กก. ขึ้นไป หรือนับไปประมาณ 45 ใบ ขึ้นไป
การที่สับปะรดจะออกผลนั้น เนื่องจากต้นสับปะรดจะหยุดการเจริญทางต้น ทางใบ ต้นสับปะรดจึง
เริ่มสร้างดอกผลทันที ในธรรมชาติอุณหภูมิ ความชื้น และธาตุอาหาร (ปุ๋ ย) เป็นตัวที่ทาให้เกิดการชงักการ
เจริญเติบโตทางใบและต้น ทาให้สับปะรดเปลี่ยนไปสร้างดอกผลเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป ทางธรรมชาติในการ
บังคับให้ออกผลของต้นสับปะรด คือ ต้องทาให้ต้นสับปะรดหยุดการเจริญเติบโตทางต้นและใบ
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 20. สารเคมีที่ใช้กันทั่วไปมี 3 ชนิด
ฮอร์โมนสาเร็จรูปชนิดเม็ด (Pine top) ใช้หยอดที่ยอดสับปะรด 1-2 เม็ด
ถ่านแก๊ส (Calcium carbide) มีลักษณะการใช้อย่าง 2 อย่าง คือ
ป่นถ่านแก๊สให้เป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้ วก้อย หยอดที่ยอดแล้วหยอดน้าตามประมาณ 50 ซีซี
ใช้ถ่านแก๊สละลายน้า โดยใช้ถ่ายแก๊ส 1.5 –2 กก. ต่อน้า 20 ลิตร หยอดที่ยอดต้นละ 50 ซีซี
การใช้สารเคมีอีเทรล (Ethrel) สูตรเคมีของสารเร่งอีเทรล คือ 2- Chloroethyl phosphonicacid
ซึ่งจะปล่อยสารเอททีลีน (Ethelene) เข้าไปในเหยื่อของสับปะรดแล้วก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทางสรีระของพืชคล้าย ๆ กับฮอร์โมน สารเคมีที่จาหน่ายในท้องตลาดมี 2 ชนิด คือ
ชนิดเข้มข้นมีสารออกฤทธิ์ (Active ingredient) 39% บรรจุในขวดพลาสติกขนาด 1 ลิตร มีชื่อทางการค้า เช่น
อีเทรล โปรเทรล (Prothrel)
ชนิดที่ผสมให้เจือจางแล้ว (Ethrel P.G.R.30) บรรจุในขวดพลาสติก
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 21. อัตราการใช้สารเร่งอีเทรล
ชนิดเข้มข้นมีสารออกฤทธิ 39% จะใช้อีเทรลหรือโปรเทรล อย่างใดอย่างหนึ่งในอัตรา 10
– 15 ซีซี. ปุ๋ ยยูเรีย 300-400 กรัม/น้า 20 ลิตร ผสมและคนให้ปุ๋ ยละลายใช้หยอดที่ยอดต้นละ 60
ซีซี. ครั้งเดียวหยอดในตอนเช้าหรือหลังจากหยอดยาประมาณ 45 วัน จะสังเกตเห็นดอก แต่เพื่อความ
แน่นอนควรสุ่มตัวอย่างหลังหยอดยา 10 –15 วัน ทาการผ่าดูถ้าได้ผลที่ปลายสุดของยอดจะมีปุ่มเห็น
ได้ ชัดเจน
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 22. ข้อควรระวังในการหยอดยา
การใช้สารเร่งปุ๋ ยและน้าสะอาดควรให้ได้ตามอัตราส่วน
เมื่อผสมน้าแล้วต้องนาออกไปใช้ทันที ไม่ควรเกิน 2 ชม. มิฉะนั้นประสิทธิภาพของสารเร่งจะเสื่อม
การหยอดสารเร่งให้หยอดที่กลางยอด อย่าให้สารเร่งหยอดหกหรือกระฉอก
การหยอดสารเร่งจะได้รับผลดีมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ อัตราการใช้ ควรหยอดในขณะอากาศ
เย็น เช่น ตอนเช้าหรือตอนเย็นแดดไม่ร้อนจัด
ขณะที่หยอดสารเร่งฝนตกให้หยุดหยอดทันที หรือหลังจากหยอดสารเร่งแล้วภายใน 2 ชม. ถ้าฝนตกให้
หยอดสารเร่งซ้าอีกครั้ง
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเร่งทั้งทางผิวหนัง เสื้อผ้า และตา
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 23. การหักจุก
จุก (Crown) คือ ส่วนที่ติดอยู่บนผลสับปะรด โดยปรกติสับปะรด 1 ผล จะมีจุก 1 จุก
นอกจากกรณีผิดปรกติจะมี 2 จุกติดกัน การหักจุกสับปะรด ซึ่งเกษตรกรที่นี่จะหักจุกสับปะรดออก
เพราะคนปลูกครั้งแรกต้องการขยายพันธุ์ให้ได้มากเลยหักจุกมาปลูก และถ้ามีจุกอยู่ไม่สะดวกในการ
มัดใบ
การหักจุกสับปะรดนางแล จะหักเมื่อดอกสับปะรดเริ่มบานแล้ว เริ่มฝ่อประมาณ 2 ใน 3
ของดอก หรือหลังจากบังคับให้ออกดอกประมาณ 90 วัน ถ้าปล่อยไว้ให้จุกใหญ่จะทาให้หักจุกยาก
สับปะรดนางแลมีความจาเป็นมากที่จะต้องมัดใบสับปะรด เพราะสับปะรดนางแล เปลือกผิวบางถ้าไม่
มัดจะทาให้แดดเผาผิว ทาให้ผิวซีดเหลือง(ชาวบ้านเรียกว่า ม้านแดด) วิธีการมัดสับปะรด โดยการ
รวบใบขึ้นมาห่อหุ้มผลสับปะรด แล้วใช้ตอกมัดที่ปลายใบที่รวบมาห่อหุ้มผลสับปะรด รวบใบมาห่อหุ้ม
ผลสับปะรดแล้ว ใช้ตอกมัดที่ปลายใบ ข้อดี รวดเร็ว ข้อเสีย หลุดง่ายเมื่อถูกลมพัด
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล
- 24. การเก็บผล
การเก็บผลสับปะรดนางแล โดยปรกติถ้าสภาพภูมิอากาศไม่ผิดปรกติมากสับปะรด
นางแลจะเริ่มสุก พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวประมาณ 180 วัน หลังจากบังคับให้ออกดอก
การสังเกตการสุกของสับปะรดนางแล
สีของผิว เมื่อเริ่มแก่ผิวของสับปะรดจะเปลี่ยนจากสีเขียวอมม่วงแดงมาเป็นสีเขียว และสี
ของขนตาจะเริ่มเปลี่ยนจากสีชมพูม่วงเป็นสีน้าตาลอ่อน (สีขนตาจะซีดลงและเริ่มเหี่ยว) สี
ผิวตาเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองหรือเหลือง ประมาณ 3-5 ตา ถ้าในฤดูหนาว อาจต้อง
รอสีตาล่างของผลเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือหรือเหลืองประมาณ 1 ใน 3 ของผล
ตา คือ ตาสดใส เต่งตึงโปนออกมา
ก้านผล คือ ก้านของสับปะรดจะเหี่ยวเป็นร่องเล็กๆ มองดูไม่ค่อยเห็นใช้มือลูบหรือถูจะ
เห็นเป็นร่อง
ใบรองผลจะเหี่ยว
การปลูกสับปะรดพันธุ์นางแลสับปะรดพันธุ์ภููแล